Share

ครรภ์มงคล 3

Author: lianlian
last update Last Updated: 2025-05-17 10:18:42

...

ฮ่องเต้ก้าวเท้าเร็วๆ อย่างลืมสำรวมกิริยาเข้ามาถึงในห้องบรรทมของจินฉาน จินเฟยเห็นดังนั้นจึงรีบลุกขึ้นถวายบังคม โอรสสวรรค์เพียงพยักหน้ารับ แล้วจึงนั่งลงบนเก้าอี้ที่จินเฟยเคยนั่ง คว้ามือของจินฉานไปกุมไว้ ท่าทีตื่นเต้นระคนยินดี “หมอหลวงที่ตรวจเจ้ามารายงานกับเรา เจ้าตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้ว”

จินเฟยได้ยินเช่นนั้นพลันลอบเบิกตามอง ที่หลานสาวของนางบอกว่าตำหนักผิงอันของนางมีเกลือเป็นหนอนคือเช่นนี้

ทว่า...คือใครกันเล่า? แน่นอนว่าเว้นชุนเยี่ยนที่เป็นข้ารับใช้ดั้งเดิมจากป๋ายอี้ ที่เหลือนั้นก็มีเพียงข้ารับใช้จากต้าเจวียนคือ เฉิงฮวาน ปี้อัน เสี่ยวกุ้ยจื่อและเสี่ยวอันจื่อ ในสี่คนนี้คือผู้ใดกัน

จินฉาน เพียงหลุบตาลงต่ำ ใบหน้าแดงระเรื่อ ท่าทีขวยเขินอย่างที่สุด “ในที่สุดฝ่าบาทก็ทรงทราบแล้ว”

“เด็กโง่ ชุนเยี่ยนบอกว่าหลายวันมานี้เจ้าไม่ค่อยสบาย ซ้ำยังอาเจียนช่วงเช้าบ่อยครั้ง ไฉนจึงไม่ตามหมอหลวงมาตรวจอาการ ปล่อยให้ร่างกายอ่อนแอจนหมดสติเช่นนี้ เกิดลูกของเราเป็นอันใดไปจะให้ทำเช่นไรเล่า” สุรเสียงที่ฮ่องเต้เอื้อนเอ่ยนั้น ดูอบอุ่นอ่อนโยนเปี่ยมด้วยความห่วงใยยิ่งนัก

“ตอนนั้นหม่อมฉันเองยังไม่แน่ใจ ถ้าเร่งร้อนตาม
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   กลืนแหวน 3

    จินฉานหลุบตาลง มองเด็กสาวที่นางเคยเมตตาเอ็นดูและ ‘ให้โอกาส’ หลายต่อหลายครั้ง แม้กระทั่งที่เด็กคนนี้แอบส่งข่าวให้คนของฮองเฮาที่หลังภูเขาจำลอง ด้วยสีหน้ากึ่งเยาะกึ่งสังเวช “เจ้ารักครอบครัวจึงทำเพื่อครอบครัว ข้าเข้าใจ เจ้ารักตนเองจึงทำเพื่อตนเอง ข้าเข้าใจ แต่ที่ตัวข้าไม่เข้าใจคือเจ้ารักถึงขนาดที่จะผลักไสคนผู้หนึ่งให้ตายไปได้เชียวหรือ”“หม่อมฉัน...หม่อมฉัน” ปี้อันสะอึกอึ้งพูดไม่ออกอีกต่อไป มีเพียงน้ำตาที่ไหลพร่างพรูลงอาบสองแก้ม ขับให้ใบหน้าน่ารักนั้นดูน่าสงสารขึ้นอักโข แต่สำหรับผู้ที่เคยขอร้องอ้อนวอนคนผู้หนึ่งด้วยน้ำตานองหน้าแต่ก็ไม่เคยได้รับความเมตตาหรือเห็นอกเห็นใจแม้เพียงเศษเสี้ยวอย่างจินฉาน น้ำตาที่ปี้อันหลั่งออกมาไม่ต่างอันใดกับน้ำตาจระเข้ เห็นแล้วมีแต่จะทำให้รู้สึกรำคาญระคนสะอิดสะเอียนทบเท่าทวี“ร้องไห้เสียมากมายเช่นนี้คงเข้าใจในสิ่งที่ตัวข้าเคยบอกไปแล้วใช่หรือไม่ ว่าน้ำตานั้นมีค่า ให้เจ้าเก็บมันเอาไว้ในช่วงเวลาเป็นตายของชีวิต” จินฉานยิ้มขณะที่ปล่อยมือจากร่างที่หมอบราบอยู่กับพื้นและไม่อาจขยับเขยื้อนได้ดังใจของปี้อันลงพื้น จากนั้นจึงถอดแหวนทองที่ใส่ติดนิ้วเสมอมาออก “ถ้าเจ้าต้องการให้

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   กลืนแหวน 2

    ยามบ่ายคล้อยผ่านไปอย่างราบรื่น ชั่ววิบตาเดียวจันทร์ดวงกลมพลันคล้อยห้อยอยู่กลางกิ่งนภา...สตรีผู้หนึ่งอาศัยแสงสว่างนวลผ่องนั้นค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ห้องพระอย่างระมัดระวัง ที่นั่นจินฉานยังสวดมนต์ด้วยสีหน้าสงบตามปกติที่เคยทำ เสียงสวดมนต์นั้นเริ่มจากแผ่วเบาเนิบช้า สลับกับรัวเร็ว อีกทั้งภาษาที่แปลก และท่วงทำนองที่ประหลาด ทำให้บรรยากาศตรงบริเวณที่เสียงสวดนั้นส่งไปถึงดูวิเวกวังเวงจนขนทั่วร่างลุกชันนางสังเกตมานานจนมั่นใจว่าเสียงปริศนานั้นจะเกิดขึ้นเฉพาะช่วงคืนเดือนเพ็ญสิบห้าค่ำ จึงตัดสินใจเข้าไปในห้องพระของจินฉาน สำรวจตรวจสอบว่ามีสิ่งใดที่พอจะเรียกได้ว่าเป็นสิ่งอัปมงคลซึ่งเปี่ยมด้วยเล่ห์กลมนตร์ดำได้บ้างหรือไม่ ทว่าเมื่อหาจนทั่วแล้วก็ไม่มีอะไรผิดแปลกนอกเหนือจากกระถางกำยานที่อยู่ตรงฐานองค์พระซึ่งเป็นสินเดิมจากบ้านเกิด นางจนปัญญากอปรกับคนของฮองเฮาเร่งรัดให้หาหลักฐานเอาผิดจินฉานโดยไว จึงได้ตัดสินใจหยิบกระถางกำยานกระถางนั้นออกมาแล้วนำไปมอบให้กับคนของตำหนักเฟิ่งหวงทันที หลังจากนั้นนางจึงรอให้ถึงเวลากลางคืน เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่นางนำไปมอบให้กับประมุขฝ่ายในนั้นเป็นสิ่งที่สามารถเล่นงานจินฉานให้ถึงตายได

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   กลืนแหวน 1

    หลังจากล่ำลาบิดาแล้วเดินกลับจากฝ่ายหน้า จินฉานไม่เร่งร้อนกลับตำหนักผิงอันโดยทันที แต่กลับเดินเล่นอยู่บริเวณสระบัวจนชุนเยี่ยนที่ตามประคองเจ้านายจนมาหยุดตรงใต้ร่มไม้ใหญ่ริมสระก่อนเอ่ยถาม “นายหญิง ตอนนี้บ่ายคล้อย อากาศเริ่มร้อนมากแล้ว อีกทั้งท่านยังไม่ได้รับประทานอาหารกลางวัน หม่อมฉันว่าเรารีบกลับตำหนักเถิดเพคะ หม่อมฉันจะได้ให้คนเตรียมอะไรให้ท่าน”จินฉานมองชุนเยี่ยนที่มีเหงื่อบางๆ ผุดซึมที่ขมับและตีนผม แล้วอมยิ้มจาง “ทำเป็นอ้างตัวข้า แท้จริงแล้วเจ้าต่างหากที่ทนอากาศร้อนไม่ไหว”ชุนเยี่ยนพองแก้ม แล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าลอบซับเหงื่อแผ่วเบา “หม่อมฉันมาอยู่ที่ต้าเจวียนนับปีแล้ว ก็มิเคยคุ้นชินกับอากาศของที่นี่จริงๆ ทั้งที่เป็นฤดูใบไม้ร่วงแท้ๆ แต่จู่ๆ อากาศก็เกิดร้อนขึ้นมา” พูดจบก็ทำจมูกฟุดฟิด “แต่ถ้านายหญิงยังมิอยากกลับตำหนัก เช่นนั้นเราก็ย้ายไปนั่งที่ศาลาใกล้ๆ นี่กันเถิดเพคะ ที่ตรงนี้อยู่นาน นอกจากร้อนชื้นไม่สบายตัวแล้ว ยังมีกลิ่นเหม็นเน่าเหมือนปุ๋ยน้ำเสียอีก เดี๋ยวกลิ่นพวกนี้จะติดเสื้อผ้าของท่านเอาได้”จินฉานมองไปรอบๆ “ฝ่ายดูแลราชอุทยานคงเพิ่งรดปุ๋ยน้ำแถวนี้กระมัง” แล้วหันกลับไปมองชุนเยี่ยน “ไม่ทั

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   พบบิดา 3

    จินเฟยคล้ายจับความนัยของคำพูดหลานสาวได้ เพียงแต่ไม่อยากจะเชื่อได้ทันทีจนกลายเป็นการใส่ไคล้จินฉานโดยใช่เหตุ จึงได้แต่เอ่ยถามเสียงเรียบ “ฉานเอ๋อร์ เจ้ากล่าวล้อเล่นอันใด”“น้องสาวคนดี ที่หลานสาวเจ้าพูดนั้นมิผิด” จินเช่อยิ้มเอ่ย ก่อนที่ประโยคถัดมาจะเอ่ยเป็นภาษาถิ่นเกิด //ผู้ใดจะทำให้ป๋ายอี้หลุดพ้นจากความอัปยศที่กำลังเผชิญอยู่ได้ เท่ากับฮ่องเต้องค์ใหม่ที่มีสายเลือดป๋ายอี้ไหลเวียนอยู่ในกาย////พี่ใหญ่ ท่านอย่าได้กล่าวล้อเล่น ท่านย่อมรู้ดีว่าต้าเจวียนนั้นไม่เคยมีฮ่องเต้ที่มีสายเลือดต่างเผ่ามาก่อน ถึงแม้ว่าจะทำได้จริง แต่เหล่าขุนนางต้องไม่เห็นด้วยกับการแต่งตั้งให้องค์ชายห้าเป็นรัชทายาทแน่//จินฉานมองออกไปด้านนอก //อาหญิงบอกกับข้าเอง ว่าองค์ชายใหญ่กับองค์ชายสี่สิ้นบุญไปตั้งแต่ยังหนุ่ม องค์ชายรองสุภาพอ่อนโยนไม่เหมาะเป็นนายคน องค์ชายสามต้องโทษจนชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย องค์ชายที่เกิดจากเซวียนชูเฟยเองก็ออกมาเป็นคนก็มิใช่ปิศาจก็มิเชิงตกตายไปพร้อมกับมารดาผู้ให้กำเนิดไป กระนั้นแล้ว จะมีโอรสของฝ่าบาทองค์ไหนที่จะเหมาะสมกับตำแหน่งรัชทายาทไปมากกว่าองค์ชายห้าอีกเล่า//สีหน้าของจินเฟยแปรเปลี่ยนเป็นขรึมเครี

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   พบบิดา 2

    จินเฟยพยักหน้า ก่อนมองไปรอบๆ ตัว “งามมาก ทว่าตอนนี้มีแต่ดอกไป่เหอทั่วตำหนัก กลิ่นมันออกจะ...แรงไปสักหน่อยกระมัง” ว่าจบก็หยิบผ้าเช็ดหน้ามาอังที่จมูกเล็กน้อย แม้ดอกไป่เหอจะมีกลิ่นหอมหวานเย้ายวนชวนให้ผู้คนหลงใหลเพียงใด แต่ถ้ามีมากไปก็ทำนางฉุนจนแทบสำลักได้เช่นกัน“หลานเองก็ไม่ได้ต้องการให้อาหญิงระคายจมูก เพียงแต่ว่าถ้าไม่ทำเช่นนี้ จะเป็นตัวอาหญิงที่ทนไม่ไหวเสียเอง” จินฉานอมยิ้มน้อยๆ แล้วเปลี่ยนเป็นนำแจกันใบนั้นมาไว้ใกล้ๆ กับหน้าต่าง ยามสายลมเอื่อยพัดผ่านเข้ามาจึงช่วยม้วนกลิ่นหอมของไป่เหอให้โอบล้อมตัวจินฉานอย่างอ่อนโยนจินเฟยย่นคิ้วงุนงง ทว่าเมื่อเห็นหลานสาวไม่ยอมเฉลยก็คร้านที่จะคาดคั้นเอาคำตอบ จึงตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่องสัพเพเหระอย่างอื่นแทน ซึ่งจินฉานนั้นก็ทำเพียงรับฟังและโต้ตอบเท่าที่จะตอบได้ ทว่าขณะที่กำลังสนทนาอย่างออกรส ขันทีจากตำหนักใหญ่ผู้หนึ่งได้มายังตำหนักผิงอันก่อนเอ่ย “กระหม่อมนำสารของอ๋องป๋ายอี้มาถวายแด่พระสนมจินเฟยพ่ะย่ะค่ะ”หญิงสาวพยักหน้า ก่อนรับสารนั้นออกมาแกะออกอ่าน นางรอให้ขันทีผู้นั้นกลับไปแล้วจึงเอ่ยกับหลานสาว “เดือนหน้านี้พี่ใหญ่ของข้า...บิดาของเจ้าจะมายังต้าเ

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   พบบิดา 1

    ถึงแม้ว่าการที่เซวียนเฟยจะสิ้นชีพพร้อมกับชายอื่นในตำหนักที่ถูกปิดตายจนกลายเป็นตำหนักเย็นนั้นเป็นที่ฉาวโฉ่ในราชสำนักเพียงใด แต่ฮ่องเต้ก็ยังประกาศสาเหตุการตายว่าเป็นเพราะให้กำเนิดโอรสอย่างยากลำบากจนเกิดเหตุตกโลหิตจนสิ้นชีวิตพร้อมทารกในครรภ์ จากนั้นจึงให้ฮองเฮากับจินเฟยรับหน้าที่จัดงานศพให้เซวียนเฟยอย่างสมเกียรติตำแหน่งพระมเหสีชั้นเฟย และเป็นผู้เพิ่มเติมอักษร ชู (淑) อันแปลว่า งามบริสุทธิ์ หลังสมัญญานามของเซวียนเฟยด้วยตนเอง เพราะเมื่อยามมีชีวิตอยู่ นางเป็นที่ประจักษ์ต่อเหล่าขุนนางและปวงชนว่าเป็นสตรีที่มีคุณธรรมจรรยา รักษากิริยามารยาทอย่างงามพร้อมมาโดยตลอด ดังนั้นเมื่อสกุลเวินที่ได้รับทราบถึงพระกรุณาของฮ่องเต้ในครานี้ถึงกับโขกศีรษะขอบพระทัยไม่หยุด แต่ที่สกุลเวินแปลกใจนั้นมีอีกอย่างคือ มีพระราชโองการลงมาว่า นับจากนี้สกุลเวิน ไม่ว่าสายหลักหรือรอง ไม่อนุญาตให้ส่งหญิงสาวเข้าวังโดยเด็ดขาด เมื่อเวินเยว่ฉางผู้เป็นบิดาของเซวียนเฟยนั้นแสดงท่าทีคลางแคลงใจผ่านทางสีหน้าอย่างมิอาจเก็บอาการได้อยู่ ฮ่องเต้เห็นเช่นนั้นพลันหลั่งอสุชลออกมาหนึ่งสายแล้วเอ่ย “เป็นความปรารถนาสุดท้ายของเซวียนเฟยก่อนที่นางจะสิ้นช

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   ผลส้มอี๋หลิง 4

    …เมื่อยามรัตติกาลมาถึง จินฉานเพียงทำสมาธิอยู่ในห้องพระเพียงลำพังโดยไม่ยอมให้ชุนเยี่ยนอยู่ปรนนิบัติ ทั้งยังสั่งให้ดับโคมและเทียนที่มีอยู่ในห้องให้หมด เหลือเพียงแสงจากเดือนเพ็ญส่องสว่างนวลสาดลอดผ่านช่องหน้าต่างที่ฉลุลายอย่างวิจิตรตระการ อาบไล้ใบหน้านวลผ่องของสตรีผู้ที่กำลังจะกลายเป็นแม่คนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าให้ดูเปล่งปลั่งงดงามระคนน่าพรั่นพรึงอีกเท่าตัว นางนั่งนิ่งต่อหน้าองค์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ข้างๆ ที่กระถางกำยานที่ยังมีควันลอยเอื่อยส่งกลิ่นหอมละมุน นางยกมือแตะที่ฝากระถางกำยานเบาๆ ปล่อยให้แหวนทองคลายตัวออกจากนิ้วช้าๆ แล้วปล่อยให้เลื้อยหายลับเข้าไปในช่องปล่อยควันกำยาน สิ่งมีชีวิตคล้ายหนอนทอประกายหม่นขดตัวนอนนิ่งอยู่ในนั้นไม่ขยับตัว กระทั่งจินฉานหยิบบางอย่างออกมาจากตะกร้าสานพลางเอ่ย “ที่จริง ทุกคืนสิบห้าค่ำ หนอนไหมทองอย่างเจ้าจำเป็นต้องดื่มกินเลือดเนื้อจากศพเพื่อเสริมอำนาจ แต่ที่ต้าเจวียนแห่งนี้สงบสุขเกินไป ไม่เหมือนอดีตแดนมิคสัญญีอย่างป๋ายอี้ที่มีศพกองเป็นภูเขาให้เจ้าได้สูบกินเลือดเนื้ออย่างสุขสำราญ ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาจึงได้ให้แต่กินซากสัตว์เท่าที่จะหาได้ แต่วันนี้เป็นโอกาส

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   ผลส้มอี๋หลิง 3

    ...เมื่อจินฉานกลับมาจากอารามหลวง ก็พบว่าจินเฟยรอนางอยู่ในตำหนักผิงอันก่อนแล้ว เมื่อพบหน้า ยังไม่ทันที่จินฉานจะแสดงความเคารพ จินเฟยก็เปิดประเด็นทันที “เป็นอย่างที่ข้าคาดไว้ มีผู้เป็นจิ้งจอกแอบอ้างบารมีเสือ ใช้พระนามฮองเฮานำสุรากำมะถันแดงมาให้เจ้าดื่มในเทศกาลตวนอู่”จินฉานร้อง อ้อ ออกมาคำหนึ่งจากนั้นจึงเอ่ยถาม “เป็นผู้ใดกัน”“เป็นนางกำนัลของหลิวกุ้ยเฟยชื่อ เสี่ยวถง” นางเอ่ยเรียบๆ“แล้วตอนนี้นางกำนัลนางนั้นอยู่ที่ใดแล้ว”“อยู่ที่สำนักราชทัณฑ์ หลังจากทรมานอยู่นานจึงยอมรับสารภาพ”จินฉานปรายตามองผู้เป็นอา ยกยิ้มบางเบา “นางยังมิตายใช่หรือไม่”“ยังไม่ตาย แต่ก็สภาพร่อแร่เต็มที”เด็กสาวมองแหวนทองที่มีลักษณะเป็นข้อคล้ายข้อปล้องของสัตว์เลื้อยคลานที่สวมใส่ติดนิ้วอยู่เสมอ ก่อนส่งยิ้มให้กับมันราวกับเป็นสหายรู้ใจ “เช่นนั้นก็ดี หลานฝากอาหญิงช่วยทำอีกเรื่องหนึ่ง”“ว่ามาสิ”“ท่านช่วยส่งหมอไปดูแลนางกำนัลคนนั้นให้ข้าที”จินเฟยได้ยินพลันขมวดคิ้วฉับทันที “ทุกทีลงมือโดยสีหน้าไม่เปลี่ยน ปราศจากความเห็นใจมาโดยตลอด ไฉนวันนี้จึงเกิดจิตคิดเมตตาอยากรักษาศัตรูขึ้นมา”จินฉานกลับไม่ตอบคำถามทันที ก่อนเอ่ยเรียบๆ “อาหญ

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   ผลส้มอี๋หลิง 2

    “ช่างเถิด” เซวียนเฟยมองอีกฝ่ายที่ถูกตบด้วยสีหน้าเฉยเมย “มาช่วยข้าแต่งตัวเร็วเข้า ข้าไม่ต้องการไปยังอารามหลวงสาย”“เพคะ” หยวนจิ่นรับคำจากนั้นจึงช่วยเซวียนเฟยเกล้าผมอย่างงดงามประณีตที่สุด ใจหนึ่งก็ลอบถอนใจอย่างโล่งอก มีเพียงแค่ช่วงเวลานี้เท่านั้นที่เจ้านายของตนจะกลับมาอารมณ์ดีอีกครั้ง ทุกวันขึ้นสิบห้าค่ำ นางมักใช้เหตุไปกราบไหว้พระขอพรให้บุตรในครรภ์แข็งแรง คลอดอย่างราบรื่นที่อารามหลวงเพื่อหาโอกาสพบต้าซืออู่คง ทว่าไปกี่ครั้งต้าซือล้วนติดธุระมิออกมาต้อนรับ ทว่าก่อนที่เซวียนเฟยจะกลับ ต้าซือจะให้ลูกศิษย์มอบส้มน้ำตาลกรวดที่ใช้เป็นของสำหรับไหว้พระในอารามให้นางนำกลับไปรับประทานเพื่อเป็นสิริมงคล อีกทั้งยังช่วยให้สตรีที่ยังคงแพ้ท้องอย่างเซวียนเฟยหายคลื่นไส้และเจริญอาหาร นางจำได้ถึงสีหน้าปีติยินดีของเซวียนเฟย จดจำมือขาวเนียนดั่งหยกที่บรรจงปอกส้มอย่างละเมียดละไม ละเลียดชิมรสชาติหวานปานน้ำตาลกรวดสมชื่อของมันทีละกลีบอยู่นานกว่าจะหมด ทั้งยังรอยยิ้มเคลิบเคลิ้มหลงใหล ดวงตาสองข้างที่มีน้ำตารื้นคลอหน่วย ในขณะที่กล่าวกับนางว่า ‘หยวนจิ่น เจ้าดูเถิด แม้เขาจะไม่สะดวกมาพบข้า แต่เขาก็ไม่เคยลืมตัวข้ากับลูกเลย’ซ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status