Share

บทที่ 5

Author: จิ้งจอกเหลวไหล
ตอนที่เยี่ยชิวกลับมาถึงบ้าน แม่ของเยี่ยชิวก็ทำอาหารเตรียมไว้พร้อมแล้ว

เมื่อเห็นเยี่ยชิวกลับมาในสภาพเปียกโชกทั้งตัว เธอก็ถามด้วยรอยยิ้มว่า “ชิวเอ๋อร์ ทำไมลูกถึงเปียกทั้งตัวแบบนั้นล่ะ คงไม่ได้ตกลงไปในทะเลสาบกระจกหรอกนะ?”

“แม่ครับ แม่เก่งสุดยอดไปเลย ขนาดเรื่องนี้ยังเดาถูกเลย”

“ลูกตกลงไปในทะเลสายกระจกจริงเหรอ?“ แม่ของเยี่ยชิวทำหน้าจริงจังเคร่งขรึม “รีบบอกแม่มาเดี๋ยวนี้นะว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”

เยี่ยชิวจึงเล่าเรื่องที่ตัวเองลงไปช่วยเด็กจากทะเลสาบกระจกทั้งหมดให้ฟัง

หลังจากฟังจบแล้ว แม่ของเยี่ยชิวก็ชูนิ้วโป้งให้ “ลูกทำถูกแล้ว ช่วยชีวิตคนได้บุญมากกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้นอีก แต่ว่าชิวเอ๋อร์ หลังจากนี้ถ้าเจอเรื่องแบบนี้อีกลูกต้องระมัดระวังตัวดีๆ นะ ต้องปลอดภัยไว้ก่อนรู้ไหม”

“รู้แล้วครับแม่”

“รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมากินข้าวเถอะ”

“ครับ”

มารดาของเยี่ยชิวชื่อว่าเฉียนจิ้งหลัน เป็นคนจากซูหาง แต่เยี่ยชิวไม่รู้ว่าชาติกำเนิดของแม่เป็นมาอย่างไร เพียงรู้จากเฉียนจิ้งหลันอย่างคลุมเครือว่าแม่ของเขามาจากตระกูลใหญ่แห่งหนึ่ง

ส่วนตระกูลใหญ่ที่ว่านั้นจะยิ่งใหญ่สักแค่ไหน เยี่ยชิวก็ไม่รู้หรอก แล้วเขาก็ไม่ได้อยากรู้ด้วย เขาถึงขั้นจงเกลียดจงชังตระกูลนั้นด้วยซ้ำไป

เพราะถ้าตระกูลใหญ่ที่ว่านั่นไม่ใจร้ายใจดำ ขับไล่เฉียนจิ้งหลันออกจากตระกูล พวกเขาสองคนแม่ลูกก็คงไม่ต้องมีชีวิตยากลำบากแบบนี้

แน่นอนว่า เยี่ยชิวเกลียดพ่อของตัวเองมากกว่าตระกูลของแม่เยอะ

ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว พ่อของเขากลับไม่คิดมาเยี่ยมเยียนพวกเขาเลยสักครั้ง อีกฝ่ายไม่สนใจเลยว่าพวกเขาสองแม่ลูกจะเป็นตายร้ายดียังไง

เยี่ยชิวคิดว่าผู้ชายที่ไร้ความรับผิดชอบสิ้นดีแบบนั้น ไม่สมควรมีชีวิตอยู่บนโลกนี้หรอก!

เฉียนจิ้งหลันเลี้ยงดูเยี่ยชิวจนเติบใหญ่ขึ้นมาด้วยตัวเองเพียงลำพัง หลายปีมานี้ต้องลำบากตรากตรำ เพราะแบบนี้ถึงจะเพิ่งอายุสี่สิบกว่าๆ ก็มีผมหงอกให้เห็นตามจอนผมแล้ว

ตอนที่กินข้าวอยู่นั้น เยี่ยชิวอยากจะเอ่ยถามอยู่หลายครั้งหลายครา แต่สุดท้ายก็ต้องกลืนคำพูดนั้นลงไป

เขาอยากจะถามมากกว่าพ่อบังเกิดเกล้าของตัวเองเป็นใครกันแน่?

แต่พอเห็นผมหงอกที่แซมอยู่บนศีรษะกับรอยเหี่ยวย่นบริเวณหางตาที่เห็นชัดของมารดา เขาก็ยอมอดทนเอาไว้

“ชิวเอ๋อร์ ช่วงนี้ทำไมไม่เห็นจางลี่ลี่เลยล่ะ พวกลูกทะเลาะกันอย่างนั้นเหรอ?” เฉียนจิ้งหลันเอ่ยถาม

“ไม่ได้ทะเลาะครับ ช่วงนี้เธอยุ่งกับงานมาก” เยี่ยชิวโกหกคำโต เขาไม่กล้าบอกเรื่องที่จางลี่ลี่หักหลังเขาไปหาผู้ชายคนอื่นให้แม่รู้

ในสายตาของเฉียนจิ้งหลัน มองจางลี่ลี่เป็นลูกสะใภ้คนโปรดไปตั้งนานแล้ว หากแม่รู้ว่าจางลี่ลี่หักหลังเยี่ยชิวจะต้องโกรธจนเป็นลมเป็นแล้งไปแน่ๆ

“ชิวเอ๋อร์ รอบหน้าพาจางลี่ลี่มากินข้าวที่บ้านด้วยนะ แม่มีเรื่องอยากคุยกับเธอ” เฉียนจิ้งหลันบอก

เยี่ยชิวมองเฉียนจิ้งหลันด้วยความสงสัย ถามว่า “แม่ครับ แม่จะคุยเรื่องอะไรกับเธอเหรอ?”

“จะยังมีเรื่องอะไรอีกล่ะ ก็ต้องเรื่องงานแต่งของพวกลูกสองคนน่ะสิ!” เฉียนจิ้งหลันยิ้มแย้ม “พวกลูกสองคนคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ตอนนี้ก็สองปีแล้วสินะ แถมยังรักกันดีอีกต่างหาก แม่ก็เลยอยากหาโอกาสไปพบหน้าพ่อแม่ของจางลี่ลี่สักหน่อย จะได้คุยเรื่องงานแต่งของพวกลูกให้เรียบร้อย ลูกคิดว่าไงล่ะ?”

“ผมไม่คิดอะไรทั้งนั้นแหละ” เยี่ยชิวลอบพึมพำในใจก่อนจะเอ่ยตอบว่า “แม่ครับ ผมกับลี่ลี่เพิ่งเรียนจบไม่นาน ตอนนี้หน้าที่การงานยังไม่มั่นคงเลย เรื่องแต่งงานเอาไว้ก่อนเถอะครับ”

“จะรอช้าได้ยังไง ลูกชายป้าหวังที่อยู่บ้านข้างๆ เขาอายุพอๆ กับลูก ตอนนี้ครอบครัวนั้นเขามีหลานให้อุ้มแล้วนะ” เฉียนจิ้งหลันเอ่ยต่อ “เรื่องนี้ทำตามที่แม่บอก ครั้งหน้าลูกพาลี่ลี่กลับมากินข้าวที่บ้านด้วย แม่จะคุยกับเธอเอง”

เยี่ยชิวรู้สึกปวดหัวอย่างมาก

หลังกินข้าวเสร็จ เขาก็เข้านอนแต่หัวค่ำ

เยี่ยชิวนอนแผ่หลาอยู่บนเตียง ทำอย่างไรก็ข่มตาหลับไม่ลง เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้กำลังฉายอยู่ในสมองของเขาซ้ำไปซ้ำมาเหมือนหนังฉากหนึ่ง พอคิดถึงเรื่องที่จางลี่ลี่เล่นชู้กับกัวเส้าชง เยี่ยชิวก็โกรธจนแทบทนไม่ไหว

“สักวันหนึ่ง ฉันจะทำให้เธอรู้เองว่า การหักหลังฉันเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอ”

ในเมื่อนอนไม่หลับ งั้นก็นอนย่อยข้อมูลของสิ่งที่อยู่ในสมองก็แล้วกัน!

การสืบทอดของบรรพชนตระกูลเยี่ย นอกจาก ‘คัมภีร์คาถาเหมาซานฉบับสมบูรณ์’ แล้ว ยังมีวรยุทธ์กับวิชาแพทย์ วิธีการฝึกบำเพ็ญ ศาสตร์เร้นลับและอะไรๆ อีกมากมายหลายอย่าง

เยี่ยชิวหลับตาลง เริ่มศึกษาวิชาต่างๆ ที่ถูกจารึกไว้ในสมอง

......

หนึ่งคืนผ่านไป

ยามที่ลืมตาตื่นขึ้นมาในยามเช้า นอกจากเยี่ยชิวจะไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยแล้ว ยังรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าอีกต่างหาก คล้ายกับร่างกายเขามีพละกำลังให้ใช้งานไม่สิ้นสุด

หลังกินข้าวเช้าอิ่มแล้ว เยี่ยชิวก็ไปรายงานตัวที่แผนกผู้ช่วยพยาบาล

โรงพยาบาลเจียงโจวเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ผู้ช่วยพยาบาลมีอยู่สามสิบกว่าคน โดยทั่วไปแล้วจะเป็นคุณลุงคุณป้าอายุสี่สิบห้าสิบปี ผู้ช่วยพยาบาลที่เป็นคนหนุ่มอย่างเยี่ยชิวนั้นมีแค่คนเดียว

เพิ่งจะมาถึงจุดประจำการของผู้ช่วยพยาบาล เยี่ยชิวก็เห็นคุณป้าสองคนกำลังยืนเช็ดน้ำตาอยู่

“เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?” เยี่ยชิวเดินเข้าไปหาคุณลุงที่อยู่ข้างๆ แล้วเอ่ยถาม

“ถูกคนไข้ด่ามาน่ะ” คุณลุงเล่าให้ฟัง “ห้องผู้ป่วยพิเศษหมายเลข 301 เมื่อวานมีผู้ป่วยใหม่เข้ามาพัก เป็นคนอารมณ์ร้ายเชียวแหละ นี่ก็เปลี่ยนผู้ดูแลไปสี่คนแล้ว แต่ละคนถูกเธอด่าจนไม่เหลือชิ้นดี รับมือยากสุดๆ ไปเลย”

ขณะกำลังคุยกัน หัวหน้าพยาบาลที่รับผิดชอบแผนกผู้ช่วยพยาบาลก็เห็นเยี่ยชิว จึงเอ่ยว่า “ผู้ช่วยพยาบาลเยี่ย นายไปห้องผู้ป่วย 301”

เยี่ยชิวใจกระตุกวูบ ก่อนจะแหงนหน้ามองหัวหน้าพยาบาลคนนั้นแวบหนึ่ง

“มองอะไรล่ะ! รีบไปสิ ถ้าคนไข้ฟ้องร้องนายขึ้นมา นายก็เตรียมเก็บข้าวของออกจากที่นี่ได้เลย!” หัวหน้าพยาบาลตวาดใส่เขาอย่างดุร้าย

“ครับ” เยี่ยชิวรับคำสั้นๆ แล้วเดินจากไป

ตอนนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงหัวหน้าพยาบาลหัวเราะเยาะอยู่ด้านหลัง “คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้าไปล่วงเกินคุณหมอกัว ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงบ้างเลย”

เยี่ยชิวไม่เก็บมาใส่ใจ เขาเดินตรงไปทางประตูห้องผู้ป่วยเบอร์ 301 ก่อนจะเห็นว่าผู้ป่วยที่นั่งอยู่บนเตียงเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง

ความตกตะลึงฉายผ่านดวงตาของเขาวาบหนึ่ง

เพราะว่าผู้หญิงคนที่อยู่ตรงหน้านั้น...

เซ็กซี่สุดๆ ไปเลย!

เธอสวมเสื้อเชิ้ตแขนสามส่วนสีม่วงอ่อน กระดุมคอเสื้ออยู่ต่ำมากจึงมองเห็นเนินอกสีขาวเนียนอย่างชัดเจน ราวกับลิ้นจี่ที่ปลอกเปลือกออก เป็นความขาวอมชมพูเล็กน้อย กำลังสั่นสะท้านขึ้นลงเบาๆ

อีกทั้งเธอยังมีเอวที่เรียวเล็กมาก ขนาดนั่งอยู่บนเตียงยังมองเห็นสัดส่วนโค้งเว้าที่งดงามจากด้านข้างได้

สิ่งที่กระชากวิญญาณมากที่สุด คือเรียวขาข้างซ้ายที่โผล่พ้นออกมาจากผ้าห่ม มันทั้งยาวและเรียวสวย ผิวขาวกระจ่างใสและเท้าที่เรียวเล็กของเธอ ทำให้คนอดจินตนาการไปไกลไม่ได้ว่าแค่เรือนร่างกับผิวยังสวยขนาดนี้ ต้องมีใบหน้าที่สะสวยขนาดไหนกันนะถึงจะคู่ควรกับรูปร่างผิวพรรณเช่นนี้?

เยี่ยชิวหันมองใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นโดยไม่รู้ตัว

ประจวบเหมาะกับตอนนั้น ผู้หยิงคนดังกล่าวก็สังเกตเห็นเขาพอดี

สายตาของทั้งคู่จึงประสานกัน

เยี่ยชิวถึงกับลืมหายไปใจไปชั่วขณะ

ภายในสมองของเขามีความคิดหนึ่งอย่างผุดขึ้นมา บนโลกใบนี้มีผู้หญิงที่สวยมากขนาดนี้เลยเหรอ?

ผู้หญิงคนนี้อายุประมาณสามสิบต้นๆ เรือนผมดำสนิทดุจม่านน้ำตก ใบหน้าเรียวเล็กเหมือนเมล็ดแตง ดวงตากลมโต มีเสน่ห์ดึงดูดใจอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้คนนึกถึงคำพูดบางอย่างโดยไม่รู้ตัว——

ปีศาจจิ้งจอก!

“นายเป็นใคร? เข้ามาทำไม?” ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยปากก่อน แม้เสียงจะไพเราะหวานหู แต่กลับเย็นชาห่างเหินมาก

เยี่ยชิวได้สติคืนมาจึงพูดด้วยความเก้อกระดากเล็กน้อยว่า “สวัสดีครับ ผมเป็นผู้ช่วยพยาบาลคนใหม่”

“ผู้ช่วยพยาบาล?” ผู้หญิงคนนั้นมองพิจารณาเยี่ยชิวอย่างละเอียด ก่อนถามว่า “หลักฐานล่ะ?”

เยี่ยชิวรีบหยิบหลักฐานออกมาทันที

ผู้หญิงคนนั้นมองบัตรผู้ช่วยพยาบาลแวบหนึ่งแล้วถามเยี่ยชิวว่า “เมื่อกี๊นายมองอะไร?”

เยี่ยชิวหน้าแดง ภายในใจคิดกับตัวเองว่า จะให้ตอบว่ากำลังมองเธอได้ยังไงล่ะ?

คิดไม่ถึงว่า ผู้หญิงคนนั้นจะเป็นฝ่ายถามออกมาเองว่า “นายกำลังมองฉันเหรอ?”

เยี่ยชิวทำใจกล้าพยักหน้ายอมรับ

“แล้วฉันสวยไหมล่ะ?” ผู้หญิงคนนั้นหรี่ตาลง เอ่ยถามอย่างขี้เล่น

“สวยมากครับ!”

“งั้นนายคิดว่าตรงไหนของฉันสวยมากที่สุดล่ะ? ใบหน้า หรือว่า......” ผู้หญิงคนนั้นพูดแล้วเว้นช่วงเล็กน้อย ก่อนจะทำเรื่องที่ชวนให้หัวใจของเยี่ยชิวแทบกระเด้งออกจากอก
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 40

    เจียงโจวมีภูเขาที่มีชื่อเสียงสองลูก หนึ่งในนั้นคือภูเขาเมฆหมอกที่เต็มไปด้วยคนมีอำนาจและร่ำรวย อีกลูกหนึ่งคือภูเขาหนานซานที่รกร้างไร้ผู้คนขณะนี้บนยอดเขาหนานซาน ลูกน้องของจ้าวอวิ๋นกำลังใช้พลั่วขุดหลุมอย่างแข็งขันขณะที่เหลยหู่ ถูกมัดอย่างแน่นหนา คุกเข่าอยู่ต่อหน้าเยี่ยชิวเพื่ออ้อนวอนขอความเมตตา"คุณเยี่ย ได้โปรดอย่าฆ่าผมเลยครับ เรื่องทั้งหมดนี้เป็นคำสั่งของกัวเส้าชง กัวเส้าชงบอกว่าถ้าผมฆ่าคุณกับแม่ของคุณได้ เขาจะให้ผมห้าล้านบาท"แม้ว่าเหลยหู่จะตัวใหญ่ล่ำสัน มีรอยแผลเป็นบนใบหน้า ดูเหมือนคนดุร้ายใจเหี้ยม แต่ตอนนี้เขากลัวจนตัวสั่นระริก"เขาบอกให้แกฆ่าคน แกก็ฆ่า ถ้าเขาบอกให้แกกินขี้ แกก็จะกินใช่ไหม?" เยี่ยชิวพูดด้วยสีหน้าเย็นชา"คุณเยี่ย ถ้าคุณปล่อยผมไป ตั้งแต่นี้ต่อไป ผมจะรับใช้คุณเหมือนวัวเหมือนม้า ไม่สิ ผมจะเป็นหมาของคุณก็ได้ โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง..." เหลยหู่ถึงกับเลียนเสียงหมาเห่า"อยากเป็นหมาของฉัน แกยังไม่มีคุณสมบัติพอ" เยี่ยชิวตัดสินใจขุดรากถอนโคนเพื่อไม่ให้มีปัญหาตามมาภายหลัง"คุณเยี่ย คุณใช้ชีวิตอยู่กับแม่เพียงลำพัง แม่ของคุณก็รักคุณมาก คุณเคยคิดถึงใจเธอบ้างไหม? ถ้าคุณฆ่าผม คุณก

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 39

    ตอนนั้นเยี่ยชิวไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ไม่คิดว่ากัวเส้าชงจะลงมือรวดเร็วขนาดนี้ เพื่อจะฆ่าตนเอง นอกจากจะเรียกพวกนักเลงมาแล้ว ยังลักพาตัวแม่เขามาอีกเยี่ยชิวหันไปมองเฉียนจิ้งหลันแวบหนึ่ง เฉียนจิ้งหลันเอ่ยทั้งน้ำตา “ชิวเอ๋อร์ สัญญากับแม่ อย่าฆ่าคนนะลูก อย่าทำเรื่องผิดกฎหมายได้ไหมลูก?”“ได้” เยี่ยชิวยอมปล่อยมือเหลยหู่เหมือนปลากระดี่ได้น้ำ เขาล้มไปนอนกองกับพื้นเยี่ยชิวช่วยแกะเชือกที่มัดมือมัดเท้าของเฉียนจิ้งหลันออก ก่อนจะช่วยจัดทรงผมให้เฉียนจิ้งหลันเล็กน้อย บอกด้วยความรู้สึกผิดว่า “แม่ครับ เป็นความผิดของผมเอง แม่ต้องพลอยติดร่างแหมาด้วย”“แม่ไม่เป็นไร” เฉียนจิ้งหลันลุกขึ้นยืนโดยมีเยี่ยชิวช่วยประคองตอนนั้นเอง เสียงฝีเท้าอันเร่งรีบจำนวนหนึ่งก็ดังมาจากด้านนอกสองวินาทีต่อมา จ้าวอวิ๋นก็ปรากฏตัวจ้าวอวิ๋นสวมชุดดำทั้งตัว ใบหน้าเคร่งขรึมดุดัน ด้านหลังของเขามีผู้ชายร่างกายบึกบึนติดตามมาสี่คนเมื่อเห็นว่าเยี่ยชิวกับเฉียนจิ้งหลันปลอดภัยดี จ้าวอวิ๋นก็พรูลมหายใจอย่างโล่งอกจากนั้น เขาก็กวาดตามองสถานการณ์โดยรอบเมื่อเห็นว่ามีคนนอนสลบเกลื่อนพื้นอยู่สิบกว่าคน จ้าวอวิ๋นก็มีสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด เขา

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 38

    เยี่ยชิวมองเหลยหู่ด้วยสายตาเย็นเยียบ ถามอย่างไร้ความปรานี“บอกมา แกอยากตายยังไง?”นับตั้งแต่วินาทีที่เหล่ยหู่ตบหน้าเฉียนจิ้งหลัน เยี่ยชิวก็คิดจะฆ่าเขาทิ้งนานแล้วเหล่ยหู่รู้สึกหวาดกลัวเยี่ยชิวจับใจ แต่ยังทำเป็นปากแข็ง เขากล่าวอย่างชั่วร้ายว่า “ไอ้เด็กเวร แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”“ไม่รู้ แล้วก็ไม่อยากรู้ด้วย” เยี่ยชิวตอบ “กล้าแตะต้องแม่ฉัน จุดจบมีเพียงอย่างเดียว คือตาย”“แกจะฆ่าฉันเหรอ?” เหลยหู่หัวเราะขึ้นมาเสียอย่างนั้น “อย่าบอกนะว่านายไม่รู้ การฆ่าคนเป็นเรื่องผิดกฎหมายนะ?”เพี๊ยะ!เยี่ยชิวปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเหลยหู่ราวกับภูตผี ก่อนจะตบหน้าเหลยหู่อย่างแรงเหลยหู่ถึงกับตัวแข็งทื่อ เขายังไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะถูกตบหน้า อีกทั้งคนที่ตบเขายังเป็นแค่ผู้ช่วยพยาบาลตัวเล็กๆ ที่ไม่มีพื้นเพอะไรเลยด้วย!นี่มันเป็นเรื่องที่...น่าอับอายขายหน้าที่สุด!โกรธ! เขาเดือดดาลมาก!เหลยหู่รู้สึกว่าในอกของเขามีเพลิงโทสะกำลังลุกไหม้ เขาแทบอยากจะสับเยี่ยชิวเป็นพันๆ หมื่นๆ ชิ้น“แกไม่รู้หรือไงวะว่าฉันเป็นใคร?” เหลยหู่ตะเบ็งเสียงถาม“ฉันไม่สนใจหรอกว่าแกจะเป็นใครมาจากไหน ฉันจะถามอีกครั้ง แกอยากตายแบบไ

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 37

    อย่างไรก็ตาม ไม้เบสบอลหยุดชะงักกลางอากาศ เมื่ออยู่ห่างจากศีรษะของเยี่ยชิวประมาณยี่สิบเซนติเมตรชายหนุ่มพยายามเพ่งมอง จึงพบว่าปลายอีกด้านของไม้เบสบอลถูกเยี่ยชิวใช้มือจับไว้"โอ้ ตอบสนองเร็วดีนี่" ชายหนุ่มยิ้มแล้วออกแรงดึงแต่ไม้เบสบอลในมือของเยี่ยชิวเหมือนมีแม่เหล็กดูดเอาไว้ ไม่ว่าชายหนุ่มจะออกแรงแค่ไหน ก็ไม่สามารถขยับมันได้แม้แต่น้อย“มีเรี่ยวแรงอยู่แค่นี้กลับกล้าโผล่หัวมาคนแรก ชอบเป็นตัวประกอบหรือไง?”เยี่ยชิวออกแรงที่ข้อมือเล็กน้อย ไม้เบสบอลก็ถูกเขาแย่งมาอยู่ในมือแทน จากนั้นเขาก็หวดไม้กลับไปที่หน้าอกของชายหนุ่มปัง!ร่างของชายหนุ่มลอยกระเด็นออกไป ชนกระแทกพื้นที่ห่างออกไปสิบกว่าเมตร เลือดพุ่งออกจากปากและหมดสติไปทันทีนี่...ความตกตะลึงปรากฏในแววตาของทุกคนโดยเฉพาะกัวเส้าชงที่มองเยี่ยชิวเหมือนเห็นผี โพล่งด้วยความตกใจว่า "เขาแข็งแรงขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?"สีหน้าของเหลยหู่มืดครึ้มลงอย่างเห็นได้ชัดแต่ใครจะรู้ว่า ตัวเยี่ยชิวเองก็ตกใจเช่นกันการตีครั้งนี้ เขาใช้แรงเพียงห้าส่วน ก็ทำให้ชายหนุ่มกระเด็นออกไปและหมดสติได้ งั้นถ้าใช้แรงเต็มสิบส่วน จะเกิดอะไรขึ้นล่ะ?เกรงว่าจะฟ

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 36

    เยี่ยชิวรีบมาที่นี่มาก เขาจึงยังใส่ชุดผู้ช่วยพยาบาลอยู่ ประกอบกับรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาและสะอาดเกลี้ยงเกลา ทำให้มองเผินๆ แล้วเหมือนนักเรียนคนหนึ่ง ทว่าตัวเขาในยามนี้ มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยเพลิงโทสะ แววตาสองข้างทอประกายเย็นชา"พี่เหลย เขามาแล้ว" กัวเส้าชงพูดพร้อมรอยยิ้มเหลยหู่หันไปมอง เห็นเยี่ยชิวเดินเข้ามาในตึกร้าง จึงปล่อยผมของเฉียนจิ้งหลัน แค่นเสียงเย็นชาแล้วบอกว่า "เดี๋ยวจัดการลูกชายเธอเสร็จแล้ว ฉันจะมาจัดการเธอต่อ"เฉียนจิ้งหลันเห็นเยี่ยชิวก็ตะโกนเสียงดังว่า "ชิวเอ๋อร์ รีบหนีไป พวกเขาคิดจะฆ่าลูก”"จัดการ!"เหลยหู่กลัวว่าเยี่ยชิวจะหนี จึงออกคำสั่งทันควัน พวกลูกน้องที่ถือไม้กระบองก็รีบวิ่งเข้าไปล้อมเยี่ยชิวไว้เยี่ยชิวไม่สนใจคนพวกนี้ สายตาของเขาจดจ้องที่ใบหน้าของเฉียนจิ้งหลัน ถามด้วยความเป็นห่วงว่า "แม่ครับ แม่เป็นอย่างไรบ้าง?""แม่ไม่เป็นไร ชิวเอ๋อร์ รีบหนีไปซะ พวกเขาจะฆ่าลูก..."เพี๊ยะ!เหลยหู่ตบหน้าเฉียนจิ้งหลันฉาดหนึ่งแล้วด่าว่า “ถ้ายังไม่เลิกโวยวาย ฉันจะฆ่าเธอด้วย”ทันใดนั้น สายตาของเยี่ยชิวก็เบนไปทางร่างของเหลยหู่แทน เขาเอ่ยเสียงเย็นเยียบว่า “กล้าตบแม่ฉันเหรอ แกตายแ

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 35

    "กรี๊ด!" เฉียนจิ้งหลันตกใจรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเหลยหู่ ถามอย่างเสียขวัญว่า "คุณเป็นใคร? คุณคิดจะทำอะไร?"เหลยหู่หัวเราะในลำคอก่อนพูดว่า "ไม่ต้องกลัว ที่นี่ปลอดภัยมาก แค่คุณยอมเชื่อฟังผม ทุกอย่างก็จะเรียบร้อยเอง""คุณเป็นใครกันแน่?" เฉียนจิ้งหลันถามเสียงแข็งเมื่อสังเกตเห็นว่ามีชายอีกสิบกว่าคนกำลังยืนถือไม้กระบองอยู่ เธอก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา"อีแก่ แกจำฉันไม่ได้แล้วเหรอ?" กัวเส้าชงหันหน้ากลับมา มองเฉียนจิ้งหลันอย่างเย็นชา"หมอ...หมอกัว? ทำไมเป็นคุณล่ะคะ? ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้?" เฉียนจิ้งหลันประหลาดใจมาก"ทำไมฉันถึงอยู่ที่นี่? ฮ่าๆๆ ถามได้ดีมาก ฉันจะบอกความจริงให้ฟังก็ได้ ฉันกำลังรอลูกชายสุดที่รักของเธออยู่""รอเยี่ยชิว? หมอกัว คุณรอเยี่ยชิวทำไมคะ?" เฉียนจิ้งหลันยังไม่เข้าใจสถานการณ์"เดี๋ยวเธอก็รู้เองแหละ" ใบหน้าของกัวเส้าชงปรากฏแววอำมหิตเฉียนจิ้งหลันรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เธอพยายามดิ้นรนและตะโกนว่า "ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจ""แจ้งตำรวจ?" กัวเส้าชงแสยะยิ้มด้วยความสมเพช "แกอยู่ในสภาพแบบนี้ จะมีปัญญาแจ้งตำรวจงั้นเหรอ?"ทั้งมือและเท้าของเฉียนจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status