แพทย์เทวดาสะท้านภพ

แพทย์เทวดาสะท้านภพ

โดย:  จิ้งจอกเหลวไหลอัปเดตเมื่อครู่นี้
ภาษา: Thai
goodnovel4goodnovel
คะแนนไม่เพียงพอ
40บท
25views
อ่าน
เพิ่มลงในห้องสมุด

แชร์:  

รายงาน
ภาพรวม
แค็ตตาล็อก
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป

ไม่ว่าคุณจะอำนาจล้นฟ้า หรือร่ำรวยมหาศาลขนาดไหน ก็อย่าได้ทำตัวโอหังต่อหน้าผม ผมคือเยี่ยชิว ผมช่วยชีวิตของคุณได้ แต่ก็ทำให้คุณตายได้เหมือนกัน!

ดูเพิ่มเติม

บทที่ 1

บทที่ 1

เยี่ยชิวผลักประตูเข้าไป ก่อนจะได้ยินเสียงพูดคุยของชายหญิงคู่หนึ่งดังมาจากทางห้องน้ำ

“ฉันอดอยากปากแห้งมาหลายวันแล้ว”

“อย่ารีบร้อนนักสิคะ ฉันยังอาบน้ำไม่เสร็จเลยนะ......”

เปรี้ยง!

เยี่ยชิวรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ ใบหน้าของเขาซีดเซียวลงฉับพลัน

เพราะประโยคหลังนั้น เป็นเสียงของจางลี่ลี่

จางลี่ลี่ก็คือแฟนสาวของเยี่ยชิว

พวกเขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นที่เรียนห้องเดียวกันในคณะแพทย์ศาสตร์ พวกเขาคบกันมาสองปีแล้ว หลังจากเรียนจบก็ยื่นสมัครเป็นแพทย์ที่โรงพยาบาลเจียงโจวพร้อมกัน ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงทดลองงาน ยังไม่ได้เป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลอย่างแท้จริง

เยี่ยชิวไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า จางลี่ลี่จะทรยศความไว้เนื้อเชื่อใจของเขา

ตอนได้ยินเสียงหอบหายใจดังครวญครางออกมาจากห้องอาบน้ำเป็นระยะๆ เยี่ยชิวโกรธจัดจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เขากำหมัดแน่นขณะก้าวฉับๆ ตรงไปทางห้องน้ำ

เขาอยากจะดูให้ชัดๆ ว่าผู้ชายที่อยู่ข้างในนั้นเป็นใครกันแน่!

แต่ทว่า ตอนที่เขาเดินมาถึงหน้าประตูห้อง ก็หยุดฝีเท้าลงอย่างกะทันหัน

เห็นหน้าผู้ชายคนนั้นแล้วมันยังไงละ?

มันเปลี่ยนแปลงความจริงได้ที่ไหนกัน?

ระยะห่างเพียงบานประตูกั้นกลาง กลับทำให้เยี่ยชิวรู้สึกว่าในช่วงเวลานี้ เขากับจางลี่ลี่ห่างไกลกันราวกับมีพันขุนเขาหมื่นสายน้ำขวางกั้น

ช่างเถอะ ยังไงก็เคยรักกันมาก่อน ถือซะว่าไว้หน้าอีกฝ่ายเป็นครั้งสุดท้ายก็แล้วกัน!

เยี่ยชิวสูดหายใจเข้าลึกๆ หมุนตัวกลับเตรียมจะเดินออกไป ประจวบเหมาะกับในจังหวะนั้น มีเสียงพูดคุยดังขึ้นในห้องน้ำพอดี

“นายเร่งมือหน่อย เยี่ยชิวใกล้จะเลิกงานแล้ว ถ้าเขากลับมาเห็นเข้าพวกเราได้จบเห่กันแน่”

“เห็นก็เห็นสิ ฉันกลัวเขาเสียที่ไหนกัน”

เยี่ยชิวขมวดคิ้ว เสียงของผู้ชายที่อยู่ด้านในฟังดูคุ้นหูอยู่เล็กน้อย

ก่อนจะได้ยินจางลี่ลี่บอกว่า “นายนี่แสบจริงๆ......จริงสิ นายไปคุยกับพ่อเรื่องรับฉันเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลหรือยัง?”

“ไม่ต้องห่วง พ่อผมเป็นถึงรองผู้อำนวยการ แค่สั่งการลงไปประโยคเดียวก็เลื่อนตำแหน่งให้เธอได้แล้ว”

เป็นเขานี่เอง!

วินาทีนั้น เยี่ยชิวมั่นใจทันทีว่าผู้ชายที่อยู่ในห้องน้ำเป็นใคร เขาคือกัวเส้าชง!

กัวเส้าชงคือศัลยแพทย์ของโรงพยาบาลเจียงโจว ปกติเขามักจะทำตัวกร่างวางอำนาจไปทั่ว เพราะถือว่าพ่อของตัวเองเป็นรองผู้อำนวยการของโรงพยาบาลเจียงโจว

นับตั้งแต่วันแรกที่เข้าไปทำงานในแผนกศัลยกรรม เยี่ยชิวก็ได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับกัวเส้าชงมาอย่างหนาหู อย่างเช่นเรื่องที่เขาบังคับแฟนสาวที่กำลังท้องให้ยุติการตั้งครรภ์ เรื่องที่เขาไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงที่แต่งงานมีสามีแล้วหรือเรื่องที่เขาบีบบังคับพยาบาลหน้าตาสะสวยให้......

สรุปได้ว่า กัวเส้าชงเป็นกากเดนคนหนึ่ง!

“เพียงเพราะต้องการผ่านโปร ลี่ลี่ถึงกับยอมหลับนอนกับไอ้สวะสังคมอย่างกัวเส้าชง ทำแบบนี้มันคุ้มค่างั้นเหรอ?” เยี่ยชิวปวดใจเหมือนโดนมีดกรีด

ในห้องน้ำ

จางลี่ลี่เอ่ยถามว่า “เยี่ยชิวจะได้บรรจุเป็นแพทย์ไหม?“

“ไม่มีทางซะหรอก” กัวเส้าชงตอบ “ฉันถามพ่อมาแล้ว ในบรรดาแพทย์ฝึกหัดทั้งหมดที่อยู่กลุ่มเดียวกับพวกเธอ มีโควตาบรรจุได้แค่คนเดียวเท่านั้น คนอื่นๆ ที่เหลือจะต้องรอปีหน้า”

จางลี่ลี่เอ่ยต่อว่า “ตอนยื่นสมัครงานเยี่ยชิวได้คะแนนเต็ม ระหว่างช่วงฝึกปฏิบัติงานก็ทำผลงานได้ดีมาก ที่สำคัญที่สุดคือ หัวหน้าแผนกไป๋วาดหวังกับเขาไว้สูงมากเลย”

“หัวหน้าแผนกไป๋ให้ความสำคัญกับเขาแล้วยังไงล่ะ สุดท้ายอำนาจตัดสินใจก็อยู่ในมือของพ่อฉันอยู่ดี” กัวเส้าชงกล่าวต่อ “แต่ได้ยินพ่อฉันบอกว่าหัวหน้าแผนกไป๋เคยเรียกเขาเข้าไปพบ เพราะอยากจะให้โควตาบรรจุกับเยี่ยชิว ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมหัวหน้าแผนกไป๋ถึงดีกับเยี่ยชิวขนาดนั้น อย่าบอกนะว่าพวกเขามีลับลมคมในกัน?”

“พูดบ้าอะไรของนายน่ะ หัวหน้าแผนกไป๋เธอสวยตั้งขนาดนั้น จะไปชายตามองคนอย่างเยี่ยชิวได้ยังไง”

“ก็จริงนะ หัวหน้าแผนกไป๋ทำหน้าบอกบุญไม่รับทุกวันเลย ท่าทางไม่เป็นมิตรเข้าถึงยากแบบนั้น มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นพวกนิสัยเย็นชา”

“ถ้างั้นนายลองถามพ่อนายดูหรือยัง ว่าโควตาบรรจุครั้งนี้เป็นของใคร?”

“เรื่องนี้ยังต้องถามอีกเหรอ ก็ต้องเป็นของเธออยู่แล้วสิ! แต่ว่าไอ้เด็กเยี่ยชิวนั่นก็น่าสงสารเหมือนกันนะ นอกจากจะไม่มีทางได้บรรจุแล้ว ยังโดนแฟนสวมเขาอีก น่าสังเวชชะมัด”

“ทำไมล่ะ นายเห็นใจเขาเหรอ?” จางลี่ลี่ถาม

“เห็นใจก็บ้าแล้ว!” กัวเส้าชงเอ่ยอย่างขบขัน “จะว่าไปไอ้หมอนั่นก็โง่ชะมัด คบกับเธอมาตั้งสองปีแต่กลับไม่เคยมีอะไรด้วยกัน ถ้าไม่รู้คงคิดว่าเขากำลังฝึกวิชาวัดเส้าหลินแน่ๆ”

“พอได้แล้วน่า นายน่ะเงียบไปเลย!”

“ฉันพูดแค่นี้เธอก็เป็นห่วงเป็นใยเขาแล้วเหรอ? ใช่สิ อย่างไรพวกเธอก็คบกันมาตั้งสองปี...”

“พูดบ้าอะไรของนายเนี่ย ก็แค่ไอ้ลูกไม่มีพ่อ ฉันจะไปห่วงใยเขาทำบ้าอะไรล่ะ!” จางลี่ลี่พูดด้วยท่าทางหยามหมิ่น

เยี่ยชิวที่อยู่อีกด้านของประตูได้ยินประโยคนี้เข้าไปก็ลมหายใจติดขัด ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ ในดวงตาประหนึ่งมีไฟปะทุออกมา

ลูกไม่มีพ่อ.....

ถึงแม้คำพูดนี้จะฟังดูหยาบคายอย่างยิ่ง แต่มันก็เป็นจริงอย่างที่อีกฝ่ายพูดนั่นแหละ เขาเป็นลูกไม่มีพ่อจริงๆ

เพราะเขาเป็นลูกไม่มีพ่อ แม่ของเขาถึงได้ถูกขับไล่ไสส่งออกมาจากครอบครัว

เรื่องนี้ เป็นความลับที่เยี่ยชิวไม่อยากจะเอ่ยถึงมากที่สุด

เขาบอกเรื่องนี้กับจางลี่ลี่แค่คนเดียวเท่านั้น

“เยี่ยชิวเป็นลูกไม่มีพ่อเหรอ? เรื่องมันเป็นมายังไงเนี่ย? เธอรีบเล่าให้ฉันฟังเดี๋ยวนี้นะ” กัวเส้าชงรบเร้าถาม

จางลี่ลี่จึงเล่าว่า “จนถึงทุกวันนี้ เยี่ยชิวก็ยังไม่รู้ว่าพ่อที่แท้จริงของตัวเองเป็นใคร”

“บ้าน่า ขนาดพ่อของตัวเองเป็นใครยังไม่รู้เลยเนี่ยนะ? เขาโกหกเธอหรือเปล่า?”

“เขาไม่รู้จริงๆ นะ”

“งั้นแม่ของเขาไปท้องกับใครล่ะ?” กัวเส้าชงเอ่ยต่อ “ต่อให้นอนกับหมาตัวหนึ่ง อย่างน้อยก็น่าจะรู้จักชื่อหมาตัวนั้นไม่ใช่เหรอ......”

เส้นเลือดบนหน้าผากของเยี่ยชิวปูดโปนขึ้นมา แม่เป็นเกล็ดย้อนของเขา ใครหน้าไหนก็มาหลบหลู่ดูหมิ่นแม่ของเขาไม่ได้ทั้งนั้น เขาจึงยกเท้าถีบประตูด้วยความเดือดดาล

“ปัง!”

ประตูห้องน้ำถูกถีบอย่างกะทันหัน คนที่อยู่ข้างในจึงแตกตื่นกันจ้าละหวั่น

“กรี๊ด.....” จางลี่ลี่กรีดร้องออกมาสุดเสียง รีบคว้าผ้าขนหนูมาพันรอบตัวอย่างว่องไว

กัวเส้าชงก็ตกใจจนสะดุ้งเฮือกไปเหมือนกัน เขารีบกระโจนขึ้นมาจากอ่างอาบน้ำ ตอนที่เขาเห็นว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือเยี่ยชิว สีหน้าเคร่งเครียดที่มีอยู่แต่เดิมก็เลือนหายไปทันที ก่อนจะฉีกยิ้มเอ่ยว่า “ลี่ลี่ เธอดูสิว่าใครมา?”

ลี่ลี่หันไปมองทางประตูห้องน้ำก่อนจะชะงักไป “เยี่ยชิว นายกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

“ฉันกลับมาสักพักแล้ว ขอโทษด้วยละกันที่มาขัดจังหวะความสุขของพวกเธอ” เยี่ยชิวใบหน้าถมึงทึง พยายามข่มกลั้นโทสะอย่างสุดกำลัง

จางลี่ลี่พยายามอธิบาย “เยี่ยชิว เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิดนะ ฉัน......”

“ฉันเห็นกับตาตัวเองเลยนะ เธออยากจะบอกกับฉันว่าทั้งหมดที่เห็นมันเป็นเรื่องไม่จริงเหรอ? จางลี่ลี่ ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้!”

การคาดคั้นของเยี่ยชิวทำให้จางลี่ลี่อับอายจนกลายเป็นความโกรธ

จางลี่ลี่คร้านจะหาข้อแก้ตัว เธอเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ตอนแรกฉันน่าจะตาบอดจริงๆ นั่นแหละ ไม่งั้นคงไม่ไปหลงคบผู้ชายกระจอกอย่างนายหรอก”

“ตลอดสองปีที่คบกับนายมา นายให้กำไลเก่าๆ นี่เป็นของขวัญฉันแค่ชิ้นเดียว แถมยังมีหน้ามาบอกว่าเป็นสมบัติตกทอดของตระกูลอีก ถุย!”

จางลี่ลี่ถอดกำไลหยกสีขาวออกมาจากข้อมือแล้วโยนคืนให้เยี่ยชิว “นับจากนี้เป็นต้นไป ฉันจะมีชีวิตที่สดใสรุ่งโรจน์ ส่วนนายก็ใช้ชีวิตยากลำบากต่อไปเถอะ พวกเราไม่เกี่ยวข้องกันอีก!”

เยี่ยชิวมองจางลี่ลี่ด้วยความตกตะลึง หัวใจเย็นเฉียบไปทั้งดวง

ผู้หญิงที่เขาหลงรักปักใจ ทำไมถึงกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้นะ?

กัวเส้าชงตวัดแขนกอดเอวของจางลี่ลี่ มองเยี่ยชิวด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “ไอ้หน้าอ่อน อยากดูถ่ายทอดสดไหมล่ะ? ฉันกับจางลี่ลี่แสดงให้นายดูตอนนี้ได้นะ”

“ดูแม่มึงสิ” เยี่ยชิวกำหมัดยกขึ้นต่อยหน้ากัวเส้าชงเต็มแรง

ตุ้บ!

กัวเส้าชงโดนต่อยจนจมูกหักเลือดไหล

“เชี่ย กล้าต่อยกูเหรอวะ กูเอามึงตายแน่” กัวเส้าชงรัวกำปั้นต่อยใส่เยี่ยชิวแบบไม่ยั้ง

กัวเส้าชงตัวสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร สูงกว่าเยี่ยชิวถึงหนึ่งช่วงศีรษะ ปกติชอบออกกำลังอยู่แล้วจึงมีร่างกายแข็งแรงกำยำมาก เยี่ยชิวไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาสักนิด

ไม่นานนัก เยี่ยชิวก็โดนต่อยจนลงไปนอนกองกับพื้น

“ก็แค่ลูกไม่มีพ่อ กล้าดียังไงมาต่อยกู อยากตายมากหรือไงวะ!”

หลังจากกัวเส้าชงทำร้ายอีกฝ่ายได้สักพักก็เริ่มรู้สึกเหนื่อย เขาจึงเหยียบนิ้วมือสองข้างของเยี่ยชิวจนหักเป็นการทิ้งท้าย

“อ๊าก.....” เยี่ยชิวร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะหมดสติไป

“กระจอกขนาดนี้ยังกล้าลงไม้ลงมือกับกูอีก แกนี่มันขยะชัดๆ เลย”

กัวเส้าชงถ่มน้ำลายใส่ร่างเยี่ยชิว เขาไม่ทันสังเกตเห็นว่าในตอนนั้น เลือดแดงสดที่ไหลจากนิ้วของเยี่ยชิวกำลังค่อยๆ ซึมซาบเข้าไปในแหวนหยกสีขาว......
แสดง
บทถัดไป
ดาวน์โหลด

บทล่าสุด

บทอื่นๆ

ความคิดเห็น

ไม่มีความคิดเห็น
40
บทที่ 1
เยี่ยชิวผลักประตูเข้าไป ก่อนจะได้ยินเสียงพูดคุยของชายหญิงคู่หนึ่งดังมาจากทางห้องน้ำ“ฉันอดอยากปากแห้งมาหลายวันแล้ว”“อย่ารีบร้อนนักสิคะ ฉันยังอาบน้ำไม่เสร็จเลยนะ......”เปรี้ยง!เยี่ยชิวรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ ใบหน้าของเขาซีดเซียวลงฉับพลันเพราะประโยคหลังนั้น เป็นเสียงของจางลี่ลี่จางลี่ลี่ก็คือแฟนสาวของเยี่ยชิวพวกเขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นที่เรียนห้องเดียวกันในคณะแพทย์ศาสตร์ พวกเขาคบกันมาสองปีแล้ว หลังจากเรียนจบก็ยื่นสมัครเป็นแพทย์ที่โรงพยาบาลเจียงโจวพร้อมกัน ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงทดลองงาน ยังไม่ได้เป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลอย่างแท้จริงเยี่ยชิวไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า จางลี่ลี่จะทรยศความไว้เนื้อเชื่อใจของเขาตอนได้ยินเสียงหอบหายใจดังครวญครางออกมาจากห้องอาบน้ำเป็นระยะๆ เยี่ยชิวโกรธจัดจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เขากำหมัดแน่นขณะก้าวฉับๆ ตรงไปทางห้องน้ำเขาอยากจะดูให้ชัดๆ ว่าผู้ชายที่อยู่ข้างในนั้นเป็นใครกันแน่!แต่ทว่า ตอนที่เขาเดินมาถึงหน้าประตูห้อง ก็หยุดฝีเท้าลงอย่างกะทันหันเห็นหน้าผู้ชายคนนั้นแล้วมันยังไงละ?มันเปลี่ยนแปลงความจริงได้ที่ไหนกัน?ระยะห่างเพียงบานประตูกั้นกลาง ก
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 2
ขณะที่เยี่ยชิวกำลังหมดสตินั้น สมองของเขากลับมีเสียงแก่ชราของใครบางคนดังก้องขึ้น“ข้าคือบรรพชนของตระกูลเยี่ย ชั่วชีวิตไม่เกรงฟ้าไม่กลัวดิน แกร่งกล้าไร้เทียมทาน ระหว่างดับขันธ์ได้ทิ้งเศษเสี้ยววิญญาณไว้ในแหวนหยกขาว ซึ่งต่อมากลายเป็นสมบัติตกทอดของตระกูลเยี่ย”“คิดไม่ถึงเลยว่าพันปีผ่านไป ทายาทตระกูลเยี่ยของข้าจะตกต่ำถึงเพียงนี้ ช่างน่าเศร้าใจยิ่งนัก!”“ในเมื่อวันนี้มีวาสนาได้พบพานกัน เช่นนั้นข้าก็จะถ่ายทอดวิชาความรู้ทั้งหมดให้เจ้าเอง”“จำไว้นะ หลังรับการสืบทอดจากข้าไปแล้ว จะต้องดำรงตัวอยู่ในความถูกต้อง ห้ามก้าวเดินบนเส้นทางแห่งความชั่วร้ายเด็ดขาด มิฉะนั้น เจ้าจะต้องตายแบบไร้ที่กลบฝัง!”จากนั้นเยี่ยชิวก็เห็นว่ากำไลหยกขาวที่เขามอบให้จางลี่ลี่ กลายเป็นมังกรทองห้ากรงเล็บอย่างกะทันหัน ก่อนจะพุ่งทะยานเข้ามาในอกของเขา“เหวอ...”เยี่ยชิวตกใจจนสะดุ้งตื่นตอนที่ลืมตาขึ้นมา เขายังคงอยู่ในห้องเช่าของจางลี่ลี่ ทว่าจางลี่ลี่กับกัวเส้าชงไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว“ไอ้พวกสารเลว”เยี่ยชิวสบถด่าออกมา ก่อนจะพยายามลุกจากพื้นในตอนนั้นเอง เขาก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่า ร่างกายของตนเองไม่มีความเจ็บปวดอยู่แม้แ
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 3
เยี่ยชิวเดินออกมาจากห้องทำงานของไป๋ปิงด้วยอารมณ์น้อยใจจนอยากจะร้องไห้ กัวเส้าชงไม่เพียงแย่งจางลี่ลี่ไปจากเขา แล้วยังรวมหัวกันใส่ร้ายเขาอีก ที่สำคัญที่สุดคือ ไป๋ปิงไม่ยอมเชื่อสิ่งที่เขาพูดเลยสักนิด แล้วยังบอกให้เขาไปทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลอีกผู้ช่วยพยาบาลคืออะไร?ถ้าพูดกันแบบตรงๆ ก็คืองานแม่บ้านนั่นแหละหน้าที่ประจำวันคือการล้างเท้า ป้อนข้าว เช็ดตัว ซักเสื้อผ้าและจัดการเรื่องการขับถ่ายของคนไข้...เขาเป็นนักศึกษาแพทย์ระดับหัวกะทิเชียวนะ ถ้าต้องไปทำงานพวกนั้น ตลอดห้าปีที่เรียนแพทย์มาก็สูญเปล่าน่ะสิ?เยี่ยชิวเข้าใจดี อย่างไรเสียเขาก็เป็นคนไม่มีฐานะไม่มีอำนาจ ถึงได้ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้“ถ้าฉันเป็นทายาทเศรษฐี จางลี่ลี่ก็คงจะไม่ทรยศหักหลังกัน กัวเส้าชงก็คงไม่กล้าทุบตีทำร้ายฉัน แล้วหัวหน้าแผนกไป๋ก็คงไม่ให้ฉันไปทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาล”“ท้ายที่สุดแล้ว มันก็เพราะว่าฉันไม่มีเงินไม่มีอำนาจ ถึงต้องเจอกับเรื่องอะไรแบบนี้”“ชาตินี้ ฉันจะต้องประสบความสำเร็จให้ได้ ต้องกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่เหนือคนอื่น ต้องเหยียบพวกคนที่เคยดูถูกฉันให้จมดินทั้งหมด”เยี่ยชิวลอบกำหมัดแน่น ก่อนจะสาบานเงียบๆ ในใจ“ต
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 4
มีเสียงดัง “ปัง” เกิดขึ้น จากนั้นศีรษะของกัวเส้าชงก็มีเลือดไหลออกมาแท้จริงแล้ว โคมไฟที่แขวนอยู่บนเพดานห้องโถงดันร่วงลงมาอย่างไม่คาดคิด อีกทั้งมันยังไม่เอนเอียงไปไหน ร่วงตกลงกลางศีรษะของกัวเส้าชงอย่างแม่นยำโชคดีที่โคมไฟมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก มิฉะนั้นกัวเส้าชงคงไม่ลงเอยแค่หัวแตกเลือดอาบแบบนี้แล้ว ไม่แน่อาจถูกโคมไฟทับตายไปเลยก็ได้กัวเส้าชงกุมศีรษะของตัวเอง ก่อนจะทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นด้วยความเจ็บ “โอ๊ย...”“เส้าชง นายเป็นอะไรมากไหม?” จางลี่ลี่รีบเข้าไปถามไถ่อาการ“เธอตาบอดหรือไงวะ ก็เห็นอยู่ว่าฉันหัวแตกเนี่ย?” กัวเส้าชงตวาดใส่การถูกกัวเส้าชงตวาดใส่ท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมายขนาดนี้ ทำให้จางลี่ลี่รู้สึกน้อยอกน้อยใจอย่างมาก ดวงตาของเธอมีน้ำใสๆ เอ่อคลอพอเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว เยี่ยชิวก็แสยะยิ้มเย็นชา “สมน้ำหน้า!”“แกพูดว่าไงนะ!” จางลี่ลี่หันไปถลึงตาใส่ ชี้หน้าเยี่ยชิวแล้วตะคอกถามว่า “ฝีมือนายใช่ไหม?”“เธอเอาตาข้างไหนมองถึงคิดว่าฉันเป็นคนทำ?”“ถ้าไม่ใช่ฝีมือนาย โคมไฟที่แขวนอยู่บนเพดานดีๆ จะร่วงลงมาได้ยังไง?”“โบราณกล่าวว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว กัวเส้าชงพูดจากลับผิดเป็นถูก ก็เลยโ
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 5
ตอนที่เยี่ยชิวกลับมาถึงบ้าน แม่ของเยี่ยชิวก็ทำอาหารเตรียมไว้พร้อมแล้วเมื่อเห็นเยี่ยชิวกลับมาในสภาพเปียกโชกทั้งตัว เธอก็ถามด้วยรอยยิ้มว่า “ชิวเอ๋อร์ ทำไมลูกถึงเปียกทั้งตัวแบบนั้นล่ะ คงไม่ได้ตกลงไปในทะเลสาบกระจกหรอกนะ?”“แม่ครับ แม่เก่งสุดยอดไปเลย ขนาดเรื่องนี้ยังเดาถูกเลย”“ลูกตกลงไปในทะเลสายกระจกจริงเหรอ?“ แม่ของเยี่ยชิวทำหน้าจริงจังเคร่งขรึม “รีบบอกแม่มาเดี๋ยวนี้นะว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”เยี่ยชิวจึงเล่าเรื่องที่ตัวเองลงไปช่วยเด็กจากทะเลสาบกระจกทั้งหมดให้ฟังหลังจากฟังจบแล้ว แม่ของเยี่ยชิวก็ชูนิ้วโป้งให้ “ลูกทำถูกแล้ว ช่วยชีวิตคนได้บุญมากกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้นอีก แต่ว่าชิวเอ๋อร์ หลังจากนี้ถ้าเจอเรื่องแบบนี้อีกลูกต้องระมัดระวังตัวดีๆ นะ ต้องปลอดภัยไว้ก่อนรู้ไหม”“รู้แล้วครับแม่”“รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมากินข้าวเถอะ”“ครับ”มารดาของเยี่ยชิวชื่อว่าเฉียนจิ้งหลัน เป็นคนจากซูหาง แต่เยี่ยชิวไม่รู้ว่าชาติกำเนิดของแม่เป็นมาอย่างไร เพียงรู้จากเฉียนจิ้งหลันอย่างคลุมเครือว่าแม่ของเขามาจากตระกูลใหญ่แห่งหนึ่งส่วนตระกูลใหญ่ที่ว่านั้นจะยิ่งใหญ่สักแค่ไหน เยี่ยชิวก็ไม่รู้หรอก แล้วเขาก็ไม่ได้
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 6
ผู้หญิงคนนั้นโน้มตัวมาด้านหน้ากะทันหัน พริบตานั้นร่องอกที่น่าหลงใหลก็ปรากฏสู่สายตาของเยี่ยชิว...ราวกับจะกระแทกหน้าเขา!เดิมทีกระดุมอกเสื้อของผู้หญิงคนนั้นก็ต่ำอยู่แล้ว ตอนนี้จงใจโน้มตัวลงมาก็ยิ่งเห็นได้ชัดเจน นี่เป็นการจงใจยั่วยวนเยี่ยชิวชัดๆ เลยสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้น คือผู้หญิงคนนั้นใช้ฟันขบกัดริมฝีปากล่าง จ้องเยี่ยชิวด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้ม ราวกับกำลังชักชวนว่า ‘หนุ่มน้อย รีบมาเล่นสนุกด้วยกันสิ’พริบตานั้น เยี่ยชิวก็ใบหน้าแดงก่ำเขายังเป็นชายหนุ่มที่อ่อนต่อโลกอยู่ ไหนเลยจะเคยพบเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกอับอายมากที่สุดคือ ร่างกายของเขาดันมีปฏิกิริยาตอบสนองนี่สิ เยี่ยชิวกำลังคิดว่าควรจะปกปิดความกระอักกระอ่วนนี้อย่างไรดี ผู้หญิงคนนั้นก็เอ่ยถามขึ้นมาว่า“หนุ่มน้อย ตอนนี้รู้หรือยังว่าตรงไหนของพี่สาวสวยมากที่สุด?”เสียงของเธอหวานละมุน ยามที่ได้ยินแบบนั้นแล้วชวนให้คนรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อตแบบแปลกๆ จนขนลุกไปทั้งตัวปีศาจจิ้งจอกตนนี้ ช่างรับมือยากมากเหลือเกินเยี่ยชิวหันหลังวิ่งออกจากห้องผู้ป่วย“อย่าเพิ่งไปสิหนุ่มน้อย ฉันมีเรื่องอยากคุยกับนายอีกเยอะเลยน
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 7
“เมื่อกี๊นายบอกว่ามีวิธีลบรอยแผลเป็นของฉันได้ เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?” ผู้หญิงคนนั้นถามเยี่ยชิวยังไม่ทันจะได้ตอบคำถาม หมอหวังก็ชิงพูดขึ้นก่อนว่า “คุณหลินครับ อย่าไปฟังที่เขาพูดจาไร้สาระเลยครับ คัมภีร์คาถาเหมาซานอะไรนั่นมันเป็นแค่เรื่องงมงาย ไม่มีทางช่วยลบรอยแผลเป็นของคุณได้หรอก”ผู้หญิงคนนั้นมองหมอหวังแล้วถามเสียงเรียบว่า “คุณชื่อเยี่ยชิวเหรอ?”หมอหวังตอบด้วยรอยยิ้ม “คุณหลินอย่าล้อผมเล่นสิครับ ผมจะชื่อเยี่ยชิวได้ยังไงกันล่ะ?”“ในเมื่อคุณไม่ได้ชื่อเยี่ยชิว คุณมีสิทธิ์อะไรมาตอบคำถามของฉันกันคะ?” ผู้หญิงคนนั้นวางตัวสูงส่ง บรรยากาศที่แผ่ออกมาจากตัวเธอดูทรงพลังขึ้นอย่างฉับพลัน สายตาก็คมกริบยิ่งกว่าเดิมด้วยชิ้ง!หน้าผากของหมอหวังหลั่งเหงื่อเย็นเฉียบออกมาเยี่ยชิวหันมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยความตกตะลึงเขาพบว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้ายามนี้มีบรรยากาศคล้ายคลึงกับไป๋ปิงอย่างมาก เพียงแต่เธอมีความดุร้ายมากกว่านิดหน่อยเขาอดสงสัยไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนี้แท้จริงแล้วเป็นใครกันแน่?หมอหวังเช็ดเหงื่อบนหน้าผากพร้อมกล่าวขอโทษ “คุณหลิน ขอโทษครับ ผม...”“คัมภีร์คาถาเหมาซานที่นายพูดถึงเมื่อกี๊นี้มันคืออ
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 8
รอยแผลเป็นของผู้หญิงคนนั้นกำลังจางหายไปด้วยความไวที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ไม่ถึงสามสิบวินาที รอยแผลเป็นก็ไม่หลงเหลืออยู่เลยแม้แต่ไหมเย็บแผลที่อยู่บนปากแผลแต่เดิมก็หายไปด้วยเหมือนกันก่อนจะเห็นว่าเรียวขาของผู้หญิงคนนั้นฟื้นฟูจนหายดีเป็นปกติ ผิวเรียบเนียนดุจหยก ขาวเจิดจ้าเหมือนเครื่องกระเบื้องสีขาว“นี่มัน...เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย?”แพทย์ฝึกหัดที่หัวเราะเยาะเยี่ยชิวก่อนหน้านี้ถึงกับอึ้งสนิทหมอหวังเองก็เบิกตาโตอ้าปากค้าง เขาทำงานในวงการแพทย์มานานหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเห็นเหตุการณ์เช่นนี้“นายทำได้ยังไงกัน?” หมอหวังอดใจไม่ไหวต้องเอ่ยปากถาม“คุณก็เห็นกับตาไม่ใช่เหรอ?” เยี่ยชิวตอบ“อย่าบอกนะว่าเป็นคัมภีร์คาถาเหมาซานจริงๆ?” หมอหวังจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่อยากเชื่อเยี่ยชิวพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ฉันบอกแล้วไงว่าคัมภีร์คาถาเหมาซานไม่ใช่เรื่องเพ้อเจ้องมงาย แต่เป็นเคล็ดวิชาที่น่าอัศจรรย์แขนงหนึ่ง”“แต่ว่า...”“คุณจะพอได้หรือยัง?” ผู้หญิงคนนั้นตัดบทหมอหวังด้วยความรำคาญ “ตรงนี้หมดธุระของคุณแล้ว คุณออกไปเถอะ”“ถ้างั้นคุณหลิน ผมขอตัวก่อนนะครับ หากคุณมีเรื่องอะไรเรียกหาผมได้น
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 9
เสียงตบหน้าดังกระจ่างชัด กังวานไปทั่วห้องผู้ป่วย ใบหน้าซีกซ้ายของกัวเส้าชงบวมแดงขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว“แก...แกกล้าตบฉันเหรอ?” กัวเส้าชงถลึงตามองเยี่ยชิวด้วยความไม่อยากจะเชื่อตลอดเวลาที่ผ่านมา ในสายตาของเขาเยี่ยชิวก็เป็นแค่พวกขี้ขลาดตาขาว แต่ตอนนี้กลับ......“ที่ฉันอดทนต่อนาย ไม่ใช่เพราะฉันกลัวนาย” เยี่ยชิวเอ่ยเสียงเย็นเยียบ“ฉันจะฆ่าแก” กัวเส้าชงเงื้อหมัดขึ้นมาเตรียมจะลงไม้ลงมือ“นายกล้าแตะเขาก็ลองดูสิ” เสียงเย็นชาของหลินจิงจื้อดังแทรกขึ้นมา “ถ้ากล้าแตะเยี่ยชิว ฉันจะเอาชีวิตนายแน่”กัวเส้าชงหันหน้ากลับไปมอง เห็นเพียงสีหน้าแววตาที่เย็นชาไร้ความรู้สึกของหลินจิงจื้อ ไม่มีวี่แววของการล้อเล่นแม้แต่น้อย“คุณเป็นใครกันแน่?” กัวเส้าชงถามเสียงทุ้มต่ำ“ฉันเป็นคนที่นายไม่มีวันล่วงเกินได้ยังไงล่ะ” ดวงตารูปเมล็ดอัลมอนด์ของหลินจิงจื้อดุร้าย “ไสหัวไป!”เผด็จการเต็มสิบไม่หัก!กัวเส้าชงทำท่าลังเลอยู่สักพัก ก่อนจะคลายหมัดออกอย่างไม่เต็มใจ ก่อนจะสืบจนรู้ตัวตนที่แท้จริงของหลินจิงจื้อ เขาไม่กล้าลงมือทำอะไรง่ายๆ เพราะหากเธอเป็นคนที่ล่วงเกินไม่ได้ขึ้นมาจริงๆ มันจะแย่เอา“เยี่ยชิว เรื่องวันนี้ฉันจ
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 10
ฟิ้ว——เยี่ยชิวพุ่งทะยานเข้าไปบีบคอของกัวเส้าชง ราวกับอาชาป่าที่หลุดจากบังเหียน“กล้ารังแกแม่กูเหรอ อยากตายรึไงวะ”เยี่ยชิวตะคอกด้วยความโกรธเฉียนจิ้งหลันเป็นครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวบนโลกนี้ของเขา เขาจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมารังแกเฉียนจิ้งหลันทั้งนั้น“ตุ้บ!”กัวเส้าชงออกแรงถีบท้องของเยี่ยชิวหนึ่งที แต่กลับไม่สามารถผลักไสเยี่ยชิวออกไปได้ ตรงกันข้าม แขนของเยี่ยชิวกลับมีพละกำลังมหาศาลอย่างน่าประหลาดใจ มากเสียจนกัวเส้าชงไม่อาจดิ้นรนขัดขืนได้“เยี่ยชิว แน่จริงแกก็ฆ่าฉันเลยสิ” กัวเส้าชงท้าทาย“แกคิดว่าฉันไม่กล้างั้นเหรอ?” เยี่ยชิวออกแรงบีบมือมากขึ้น ไม่นานนักใบหน้าของกัวเส้าชงก็แดงก่ำ ทุรนทุรายจากอาการขาดอากาศหายใจจางลี่ลี่ตะโกนด้วยความร้อนใจ “เยี่ยชิว ปล่อยเส้าชงเดี๋ยวนี้นะ!”“ไสหัวไป!”เยี่ยชิวตวาดกลับไปอย่างไร้เยื่อใย ในสายตาของเขายามนี้ มองว่าจางลี่ลี่เป็นพวกเดียวกับกัวเส้าชงไปแล้ว“นาย...นาย...” จางลี่ลี่ทั้งโกรธทั้งร้อนใจ รีบเข้าไปบอกเฉียนจิ้งหลัน “ป้าคะ รีบไปห้ามเยี่ยชิวสิ ถ้าเกิดเส้าชงเป็นอะไรขึ้นมา เยี่ยชิวจะต้องหมดอนาคตแน่”เฉียนจิ้งหลันเพิ่งจะตั้งสติได้ก็ตอนนี้ เธอลุกข
อ่านเพิ่มเติม
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status