Semua Bab แพทย์เทวดาสะท้านภพ: Bab 1 - Bab 10

40 Bab

บทที่ 1

เยี่ยชิวผลักประตูเข้าไป ก่อนจะได้ยินเสียงพูดคุยของชายหญิงคู่หนึ่งดังมาจากทางห้องน้ำ“ฉันอดอยากปากแห้งมาหลายวันแล้ว”“อย่ารีบร้อนนักสิคะ ฉันยังอาบน้ำไม่เสร็จเลยนะ......”เปรี้ยง!เยี่ยชิวรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ ใบหน้าของเขาซีดเซียวลงฉับพลันเพราะประโยคหลังนั้น เป็นเสียงของจางลี่ลี่จางลี่ลี่ก็คือแฟนสาวของเยี่ยชิวพวกเขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นที่เรียนห้องเดียวกันในคณะแพทย์ศาสตร์ พวกเขาคบกันมาสองปีแล้ว หลังจากเรียนจบก็ยื่นสมัครเป็นแพทย์ที่โรงพยาบาลเจียงโจวพร้อมกัน ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงทดลองงาน ยังไม่ได้เป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลอย่างแท้จริงเยี่ยชิวไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า จางลี่ลี่จะทรยศความไว้เนื้อเชื่อใจของเขาตอนได้ยินเสียงหอบหายใจดังครวญครางออกมาจากห้องอาบน้ำเป็นระยะๆ เยี่ยชิวโกรธจัดจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เขากำหมัดแน่นขณะก้าวฉับๆ ตรงไปทางห้องน้ำเขาอยากจะดูให้ชัดๆ ว่าผู้ชายที่อยู่ข้างในนั้นเป็นใครกันแน่!แต่ทว่า ตอนที่เขาเดินมาถึงหน้าประตูห้อง ก็หยุดฝีเท้าลงอย่างกะทันหันเห็นหน้าผู้ชายคนนั้นแล้วมันยังไงละ?มันเปลี่ยนแปลงความจริงได้ที่ไหนกัน?ระยะห่างเพียงบานประตูกั้นกลาง ก
Baca selengkapnya

บทที่ 2

ขณะที่เยี่ยชิวกำลังหมดสตินั้น สมองของเขากลับมีเสียงแก่ชราของใครบางคนดังก้องขึ้น“ข้าคือบรรพชนของตระกูลเยี่ย ชั่วชีวิตไม่เกรงฟ้าไม่กลัวดิน แกร่งกล้าไร้เทียมทาน ระหว่างดับขันธ์ได้ทิ้งเศษเสี้ยววิญญาณไว้ในแหวนหยกขาว ซึ่งต่อมากลายเป็นสมบัติตกทอดของตระกูลเยี่ย”“คิดไม่ถึงเลยว่าพันปีผ่านไป ทายาทตระกูลเยี่ยของข้าจะตกต่ำถึงเพียงนี้ ช่างน่าเศร้าใจยิ่งนัก!”“ในเมื่อวันนี้มีวาสนาได้พบพานกัน เช่นนั้นข้าก็จะถ่ายทอดวิชาความรู้ทั้งหมดให้เจ้าเอง”“จำไว้นะ หลังรับการสืบทอดจากข้าไปแล้ว จะต้องดำรงตัวอยู่ในความถูกต้อง ห้ามก้าวเดินบนเส้นทางแห่งความชั่วร้ายเด็ดขาด มิฉะนั้น เจ้าจะต้องตายแบบไร้ที่กลบฝัง!”จากนั้นเยี่ยชิวก็เห็นว่ากำไลหยกขาวที่เขามอบให้จางลี่ลี่ กลายเป็นมังกรทองห้ากรงเล็บอย่างกะทันหัน ก่อนจะพุ่งทะยานเข้ามาในอกของเขา“เหวอ...”เยี่ยชิวตกใจจนสะดุ้งตื่นตอนที่ลืมตาขึ้นมา เขายังคงอยู่ในห้องเช่าของจางลี่ลี่ ทว่าจางลี่ลี่กับกัวเส้าชงไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว“ไอ้พวกสารเลว”เยี่ยชิวสบถด่าออกมา ก่อนจะพยายามลุกจากพื้นในตอนนั้นเอง เขาก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่า ร่างกายของตนเองไม่มีความเจ็บปวดอยู่แม้แ
Baca selengkapnya

บทที่ 3

เยี่ยชิวเดินออกมาจากห้องทำงานของไป๋ปิงด้วยอารมณ์น้อยใจจนอยากจะร้องไห้ กัวเส้าชงไม่เพียงแย่งจางลี่ลี่ไปจากเขา แล้วยังรวมหัวกันใส่ร้ายเขาอีก ที่สำคัญที่สุดคือ ไป๋ปิงไม่ยอมเชื่อสิ่งที่เขาพูดเลยสักนิด แล้วยังบอกให้เขาไปทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลอีกผู้ช่วยพยาบาลคืออะไร?ถ้าพูดกันแบบตรงๆ ก็คืองานแม่บ้านนั่นแหละหน้าที่ประจำวันคือการล้างเท้า ป้อนข้าว เช็ดตัว ซักเสื้อผ้าและจัดการเรื่องการขับถ่ายของคนไข้...เขาเป็นนักศึกษาแพทย์ระดับหัวกะทิเชียวนะ ถ้าต้องไปทำงานพวกนั้น ตลอดห้าปีที่เรียนแพทย์มาก็สูญเปล่าน่ะสิ?เยี่ยชิวเข้าใจดี อย่างไรเสียเขาก็เป็นคนไม่มีฐานะไม่มีอำนาจ ถึงได้ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้“ถ้าฉันเป็นทายาทเศรษฐี จางลี่ลี่ก็คงจะไม่ทรยศหักหลังกัน กัวเส้าชงก็คงไม่กล้าทุบตีทำร้ายฉัน แล้วหัวหน้าแผนกไป๋ก็คงไม่ให้ฉันไปทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาล”“ท้ายที่สุดแล้ว มันก็เพราะว่าฉันไม่มีเงินไม่มีอำนาจ ถึงต้องเจอกับเรื่องอะไรแบบนี้”“ชาตินี้ ฉันจะต้องประสบความสำเร็จให้ได้ ต้องกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่เหนือคนอื่น ต้องเหยียบพวกคนที่เคยดูถูกฉันให้จมดินทั้งหมด”เยี่ยชิวลอบกำหมัดแน่น ก่อนจะสาบานเงียบๆ ในใจ“ต
Baca selengkapnya

บทที่ 4

มีเสียงดัง “ปัง” เกิดขึ้น จากนั้นศีรษะของกัวเส้าชงก็มีเลือดไหลออกมาแท้จริงแล้ว โคมไฟที่แขวนอยู่บนเพดานห้องโถงดันร่วงลงมาอย่างไม่คาดคิด อีกทั้งมันยังไม่เอนเอียงไปไหน ร่วงตกลงกลางศีรษะของกัวเส้าชงอย่างแม่นยำโชคดีที่โคมไฟมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก มิฉะนั้นกัวเส้าชงคงไม่ลงเอยแค่หัวแตกเลือดอาบแบบนี้แล้ว ไม่แน่อาจถูกโคมไฟทับตายไปเลยก็ได้กัวเส้าชงกุมศีรษะของตัวเอง ก่อนจะทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นด้วยความเจ็บ “โอ๊ย...”“เส้าชง นายเป็นอะไรมากไหม?” จางลี่ลี่รีบเข้าไปถามไถ่อาการ“เธอตาบอดหรือไงวะ ก็เห็นอยู่ว่าฉันหัวแตกเนี่ย?” กัวเส้าชงตวาดใส่การถูกกัวเส้าชงตวาดใส่ท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมายขนาดนี้ ทำให้จางลี่ลี่รู้สึกน้อยอกน้อยใจอย่างมาก ดวงตาของเธอมีน้ำใสๆ เอ่อคลอพอเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว เยี่ยชิวก็แสยะยิ้มเย็นชา “สมน้ำหน้า!”“แกพูดว่าไงนะ!” จางลี่ลี่หันไปถลึงตาใส่ ชี้หน้าเยี่ยชิวแล้วตะคอกถามว่า “ฝีมือนายใช่ไหม?”“เธอเอาตาข้างไหนมองถึงคิดว่าฉันเป็นคนทำ?”“ถ้าไม่ใช่ฝีมือนาย โคมไฟที่แขวนอยู่บนเพดานดีๆ จะร่วงลงมาได้ยังไง?”“โบราณกล่าวว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว กัวเส้าชงพูดจากลับผิดเป็นถูก ก็เลยโ
Baca selengkapnya

บทที่ 5

ตอนที่เยี่ยชิวกลับมาถึงบ้าน แม่ของเยี่ยชิวก็ทำอาหารเตรียมไว้พร้อมแล้วเมื่อเห็นเยี่ยชิวกลับมาในสภาพเปียกโชกทั้งตัว เธอก็ถามด้วยรอยยิ้มว่า “ชิวเอ๋อร์ ทำไมลูกถึงเปียกทั้งตัวแบบนั้นล่ะ คงไม่ได้ตกลงไปในทะเลสาบกระจกหรอกนะ?”“แม่ครับ แม่เก่งสุดยอดไปเลย ขนาดเรื่องนี้ยังเดาถูกเลย”“ลูกตกลงไปในทะเลสายกระจกจริงเหรอ?“ แม่ของเยี่ยชิวทำหน้าจริงจังเคร่งขรึม “รีบบอกแม่มาเดี๋ยวนี้นะว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”เยี่ยชิวจึงเล่าเรื่องที่ตัวเองลงไปช่วยเด็กจากทะเลสาบกระจกทั้งหมดให้ฟังหลังจากฟังจบแล้ว แม่ของเยี่ยชิวก็ชูนิ้วโป้งให้ “ลูกทำถูกแล้ว ช่วยชีวิตคนได้บุญมากกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้นอีก แต่ว่าชิวเอ๋อร์ หลังจากนี้ถ้าเจอเรื่องแบบนี้อีกลูกต้องระมัดระวังตัวดีๆ นะ ต้องปลอดภัยไว้ก่อนรู้ไหม”“รู้แล้วครับแม่”“รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมากินข้าวเถอะ”“ครับ”มารดาของเยี่ยชิวชื่อว่าเฉียนจิ้งหลัน เป็นคนจากซูหาง แต่เยี่ยชิวไม่รู้ว่าชาติกำเนิดของแม่เป็นมาอย่างไร เพียงรู้จากเฉียนจิ้งหลันอย่างคลุมเครือว่าแม่ของเขามาจากตระกูลใหญ่แห่งหนึ่งส่วนตระกูลใหญ่ที่ว่านั้นจะยิ่งใหญ่สักแค่ไหน เยี่ยชิวก็ไม่รู้หรอก แล้วเขาก็ไม่ได้
Baca selengkapnya

บทที่ 6

ผู้หญิงคนนั้นโน้มตัวมาด้านหน้ากะทันหัน พริบตานั้นร่องอกที่น่าหลงใหลก็ปรากฏสู่สายตาของเยี่ยชิว...ราวกับจะกระแทกหน้าเขา!เดิมทีกระดุมอกเสื้อของผู้หญิงคนนั้นก็ต่ำอยู่แล้ว ตอนนี้จงใจโน้มตัวลงมาก็ยิ่งเห็นได้ชัดเจน นี่เป็นการจงใจยั่วยวนเยี่ยชิวชัดๆ เลยสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้น คือผู้หญิงคนนั้นใช้ฟันขบกัดริมฝีปากล่าง จ้องเยี่ยชิวด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้ม ราวกับกำลังชักชวนว่า ‘หนุ่มน้อย รีบมาเล่นสนุกด้วยกันสิ’พริบตานั้น เยี่ยชิวก็ใบหน้าแดงก่ำเขายังเป็นชายหนุ่มที่อ่อนต่อโลกอยู่ ไหนเลยจะเคยพบเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกอับอายมากที่สุดคือ ร่างกายของเขาดันมีปฏิกิริยาตอบสนองนี่สิ เยี่ยชิวกำลังคิดว่าควรจะปกปิดความกระอักกระอ่วนนี้อย่างไรดี ผู้หญิงคนนั้นก็เอ่ยถามขึ้นมาว่า“หนุ่มน้อย ตอนนี้รู้หรือยังว่าตรงไหนของพี่สาวสวยมากที่สุด?”เสียงของเธอหวานละมุน ยามที่ได้ยินแบบนั้นแล้วชวนให้คนรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อตแบบแปลกๆ จนขนลุกไปทั้งตัวปีศาจจิ้งจอกตนนี้ ช่างรับมือยากมากเหลือเกินเยี่ยชิวหันหลังวิ่งออกจากห้องผู้ป่วย“อย่าเพิ่งไปสิหนุ่มน้อย ฉันมีเรื่องอยากคุยกับนายอีกเยอะเลยน
Baca selengkapnya

บทที่ 7

“เมื่อกี๊นายบอกว่ามีวิธีลบรอยแผลเป็นของฉันได้ เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?” ผู้หญิงคนนั้นถามเยี่ยชิวยังไม่ทันจะได้ตอบคำถาม หมอหวังก็ชิงพูดขึ้นก่อนว่า “คุณหลินครับ อย่าไปฟังที่เขาพูดจาไร้สาระเลยครับ คัมภีร์คาถาเหมาซานอะไรนั่นมันเป็นแค่เรื่องงมงาย ไม่มีทางช่วยลบรอยแผลเป็นของคุณได้หรอก”ผู้หญิงคนนั้นมองหมอหวังแล้วถามเสียงเรียบว่า “คุณชื่อเยี่ยชิวเหรอ?”หมอหวังตอบด้วยรอยยิ้ม “คุณหลินอย่าล้อผมเล่นสิครับ ผมจะชื่อเยี่ยชิวได้ยังไงกันล่ะ?”“ในเมื่อคุณไม่ได้ชื่อเยี่ยชิว คุณมีสิทธิ์อะไรมาตอบคำถามของฉันกันคะ?” ผู้หญิงคนนั้นวางตัวสูงส่ง บรรยากาศที่แผ่ออกมาจากตัวเธอดูทรงพลังขึ้นอย่างฉับพลัน สายตาก็คมกริบยิ่งกว่าเดิมด้วยชิ้ง!หน้าผากของหมอหวังหลั่งเหงื่อเย็นเฉียบออกมาเยี่ยชิวหันมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยความตกตะลึงเขาพบว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้ายามนี้มีบรรยากาศคล้ายคลึงกับไป๋ปิงอย่างมาก เพียงแต่เธอมีความดุร้ายมากกว่านิดหน่อยเขาอดสงสัยไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนี้แท้จริงแล้วเป็นใครกันแน่?หมอหวังเช็ดเหงื่อบนหน้าผากพร้อมกล่าวขอโทษ “คุณหลิน ขอโทษครับ ผม...”“คัมภีร์คาถาเหมาซานที่นายพูดถึงเมื่อกี๊นี้มันคืออ
Baca selengkapnya

บทที่ 8

รอยแผลเป็นของผู้หญิงคนนั้นกำลังจางหายไปด้วยความไวที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ไม่ถึงสามสิบวินาที รอยแผลเป็นก็ไม่หลงเหลืออยู่เลยแม้แต่ไหมเย็บแผลที่อยู่บนปากแผลแต่เดิมก็หายไปด้วยเหมือนกันก่อนจะเห็นว่าเรียวขาของผู้หญิงคนนั้นฟื้นฟูจนหายดีเป็นปกติ ผิวเรียบเนียนดุจหยก ขาวเจิดจ้าเหมือนเครื่องกระเบื้องสีขาว“นี่มัน...เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย?”แพทย์ฝึกหัดที่หัวเราะเยาะเยี่ยชิวก่อนหน้านี้ถึงกับอึ้งสนิทหมอหวังเองก็เบิกตาโตอ้าปากค้าง เขาทำงานในวงการแพทย์มานานหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเห็นเหตุการณ์เช่นนี้“นายทำได้ยังไงกัน?” หมอหวังอดใจไม่ไหวต้องเอ่ยปากถาม“คุณก็เห็นกับตาไม่ใช่เหรอ?” เยี่ยชิวตอบ“อย่าบอกนะว่าเป็นคัมภีร์คาถาเหมาซานจริงๆ?” หมอหวังจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่อยากเชื่อเยี่ยชิวพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ฉันบอกแล้วไงว่าคัมภีร์คาถาเหมาซานไม่ใช่เรื่องเพ้อเจ้องมงาย แต่เป็นเคล็ดวิชาที่น่าอัศจรรย์แขนงหนึ่ง”“แต่ว่า...”“คุณจะพอได้หรือยัง?” ผู้หญิงคนนั้นตัดบทหมอหวังด้วยความรำคาญ “ตรงนี้หมดธุระของคุณแล้ว คุณออกไปเถอะ”“ถ้างั้นคุณหลิน ผมขอตัวก่อนนะครับ หากคุณมีเรื่องอะไรเรียกหาผมได้น
Baca selengkapnya

บทที่ 9

เสียงตบหน้าดังกระจ่างชัด กังวานไปทั่วห้องผู้ป่วย ใบหน้าซีกซ้ายของกัวเส้าชงบวมแดงขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว“แก...แกกล้าตบฉันเหรอ?” กัวเส้าชงถลึงตามองเยี่ยชิวด้วยความไม่อยากจะเชื่อตลอดเวลาที่ผ่านมา ในสายตาของเขาเยี่ยชิวก็เป็นแค่พวกขี้ขลาดตาขาว แต่ตอนนี้กลับ......“ที่ฉันอดทนต่อนาย ไม่ใช่เพราะฉันกลัวนาย” เยี่ยชิวเอ่ยเสียงเย็นเยียบ“ฉันจะฆ่าแก” กัวเส้าชงเงื้อหมัดขึ้นมาเตรียมจะลงไม้ลงมือ“นายกล้าแตะเขาก็ลองดูสิ” เสียงเย็นชาของหลินจิงจื้อดังแทรกขึ้นมา “ถ้ากล้าแตะเยี่ยชิว ฉันจะเอาชีวิตนายแน่”กัวเส้าชงหันหน้ากลับไปมอง เห็นเพียงสีหน้าแววตาที่เย็นชาไร้ความรู้สึกของหลินจิงจื้อ ไม่มีวี่แววของการล้อเล่นแม้แต่น้อย“คุณเป็นใครกันแน่?” กัวเส้าชงถามเสียงทุ้มต่ำ“ฉันเป็นคนที่นายไม่มีวันล่วงเกินได้ยังไงล่ะ” ดวงตารูปเมล็ดอัลมอนด์ของหลินจิงจื้อดุร้าย “ไสหัวไป!”เผด็จการเต็มสิบไม่หัก!กัวเส้าชงทำท่าลังเลอยู่สักพัก ก่อนจะคลายหมัดออกอย่างไม่เต็มใจ ก่อนจะสืบจนรู้ตัวตนที่แท้จริงของหลินจิงจื้อ เขาไม่กล้าลงมือทำอะไรง่ายๆ เพราะหากเธอเป็นคนที่ล่วงเกินไม่ได้ขึ้นมาจริงๆ มันจะแย่เอา“เยี่ยชิว เรื่องวันนี้ฉันจ
Baca selengkapnya

บทที่ 10

ฟิ้ว——เยี่ยชิวพุ่งทะยานเข้าไปบีบคอของกัวเส้าชง ราวกับอาชาป่าที่หลุดจากบังเหียน“กล้ารังแกแม่กูเหรอ อยากตายรึไงวะ”เยี่ยชิวตะคอกด้วยความโกรธเฉียนจิ้งหลันเป็นครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวบนโลกนี้ของเขา เขาจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมารังแกเฉียนจิ้งหลันทั้งนั้น“ตุ้บ!”กัวเส้าชงออกแรงถีบท้องของเยี่ยชิวหนึ่งที แต่กลับไม่สามารถผลักไสเยี่ยชิวออกไปได้ ตรงกันข้าม แขนของเยี่ยชิวกลับมีพละกำลังมหาศาลอย่างน่าประหลาดใจ มากเสียจนกัวเส้าชงไม่อาจดิ้นรนขัดขืนได้“เยี่ยชิว แน่จริงแกก็ฆ่าฉันเลยสิ” กัวเส้าชงท้าทาย“แกคิดว่าฉันไม่กล้างั้นเหรอ?” เยี่ยชิวออกแรงบีบมือมากขึ้น ไม่นานนักใบหน้าของกัวเส้าชงก็แดงก่ำ ทุรนทุรายจากอาการขาดอากาศหายใจจางลี่ลี่ตะโกนด้วยความร้อนใจ “เยี่ยชิว ปล่อยเส้าชงเดี๋ยวนี้นะ!”“ไสหัวไป!”เยี่ยชิวตวาดกลับไปอย่างไร้เยื่อใย ในสายตาของเขายามนี้ มองว่าจางลี่ลี่เป็นพวกเดียวกับกัวเส้าชงไปแล้ว“นาย...นาย...” จางลี่ลี่ทั้งโกรธทั้งร้อนใจ รีบเข้าไปบอกเฉียนจิ้งหลัน “ป้าคะ รีบไปห้ามเยี่ยชิวสิ ถ้าเกิดเส้าชงเป็นอะไรขึ้นมา เยี่ยชิวจะต้องหมดอนาคตแน่”เฉียนจิ้งหลันเพิ่งจะตั้งสติได้ก็ตอนนี้ เธอลุกข
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1234
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status