“ก็นั่นน่ะสิ อ้อมยังบอกพี่ด้วยว่าทั้งพี่นันพี่พร และน้าแววต่างก็เป็นหนี้นอกระบบทั้งนั้น” ชายหนุ่มพูดจบก็ถอนหายใจพรูพลางส่ายหน้าช้า ๆ
“อะไรกัน ทำไมถึงเป็นอย่างนี้กันไปได้ น้าแววเขาก็มีร้านบัวลอยอยู่ไม่ใช่หรือ แก้มเห็นก็ขายดีอยู่นี่นาทำไมเงินไม่พอใช้ แล้วอ้อมไปกู้กับเขาด้วยรึเปล่าเนี่ย” หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจ
“พี่เค้นถามแล้ว อ้อมบอกไม่เคยกู้” กันตพลตอบมา แต่คำบางคำกลับสะดุดหูของผู้เป็นน้องสาวเข้าให้
“เอ๋? เค้นถามงั้นหรือ” ภัทรมัยเลิกคิ้วขึ้นทำหน้าเหลอหลา ชายหนุ่มทำทีเป็นกระแอมก่อนเฉไฉพูดเรื่องอื่น
“เด็กในร้านก็ไม่มีใครกู้ มีแต่พี่พรพี่นันแล้วก็น้าแววแค่นั้นแหละ”
เธอได้แต่ยิ้ม รู้ว่าพี่ชายคงจะเขินหากพูดถึงอรณรี แต่ในเมื่อเจ้าตัวยังไม่พร้อมเปิดเผย เธอก็จะไม่เซ้าซี้อีก กระนั้นก็อดนึกถึงเรื่องที่หลานสาวตัวน้อยมาแอบกระซิบตอนเธอกลับถึงบ้านไม่ได้
“อาแก้มขา กัสจังแอบเห็นคุณพ่อจุ๊บพี่อ้อมด้วยล่ะ”
เธอฟังจบก็ได้แต่กรี๊ดอยู่ในใจ ในที่สุดพี่ชายของเธอก็ยอมเปิด
“หึงอะไรเล่า กูแค่ไม่ชอบ ก็มึงดูดิ ไอ้ห่านั่นน้ำลายแม่งจะหกอยู่แล้ว เป็นมึงจะชอบไหมล่ะ” ชยาวุธขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ขณะเดียวกัน คนที่ถูกจับจ้องอย่างภัทรมัยนั้นได้แต่ลอบถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่ายกับชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างตัว ทั้งที่เธออุตส่าห์มาตรงเวลาแล้วแท้ ๆ แต่กลับกลายเป็นว่าตนมาช้ากว่าคนอื่น และที่นั่งที่ว่างอยู่สำหรับฝั่งผู้หญิงก็คือข้างผู้ชายคนนี้เห็นตี๋ ๆ หน้าใส ๆ นึกว่าจะเรียบร้อยน่ารัก ที่ไหนได้ หน้าหม้อยืนหนึ่งเลยทีเดียว!“น้องแก้มจะไม่ให้ไอดีไลน์พี่จริง ๆ หรือเนี่ย ทำไมใจร้ายแบบนี้ล่ะครับ”อธิปอ้อนวอนเสียงอ่อน ภัทรมัยได้แต่ยิ้มเนือย ๆ ให้อีกฝ่าย ผู้ชายคนนี้เริ่มเมาแล้ว ทั้งที่ทุกคนเพิ่งมาถึงกันได้ไม่นาน ยังดื่มไปได้คนละนิดละหน่อยเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าเขาน่าจะเมามาจากที่อื่นก่อนแล้ว“ต้องขอโทษด้วยนะคะ แฟนแก้มไม่ชอบน่ะ เขาขี้หึงมาก เขาไม่ชอบให้แก้มคุยกับคนอื่น”เธอจำเป็นต้องยืมชยาวุธมาเป็นไม้กันหมา ปกติแล้วหากมีคนขอไอดีไลน์เธอมักจะให้ไปเพราะคิดว่าอย่างไรเสียการมีคนชอบดีกว่ามีคนเกลียด และเท
“ไม่มี กูกับแฟนไม่ค่อยมีปัญหาอะไรกันหรอก เพียงแต่ตอนนี้แฟนกูเขาลาออกไปแล้วไง ไม่ได้ทำงานที่เดียวกันแล้ว” ชยาวุธยกแก้วขึ้นดื่มพลางมองไปทางเวทีที่กำลังมีดนตรีสดเล่นอยู่“อ๋อ พอไม่ได้ทำงานที่เดียวกันก็เลยคิดถึงว่างั้น ถุย! ไอ้คุณเวฟ มึงนี่จะน่าหมั่นไส้เกินไปแล้ว” สกนธ์พูดโล้งเล้งเสียงดังอย่างทีเล่นทีจริง“มันก็เรื่องปกติรึเปล่าวะไอ้กอล์ฟ คนเขามีคู่ให้คิดถึงโว้ย ไม่ได้โสดเหมือนมึง” ชยาวุธได้ทีเกทับเพื่อนกลับไป“แล้วทำไมถึงเบื่องานวะ ทำมาหลายปีแล้วไม่ใช่หรือ” อารยะถามพลางมองนักร้องที่อยู่บนเวทีบ้าง“ความจริงไม่ได้เบื่องานหรอกว่ะ งานกูโอเคทุกอย่างนั่นแหละ แต่ที่ไม่โอคือเออีคนใหม่ที่เข้ามาแทนแฟนกูน่ะ”“ทำไมวะ” สกนธ์ถาม“น้องมันดันมาชอบกู แล้วเสือกอยู่คอนโดฯ เดียวกับกูอีกนะ ซวยฉิบหาย” ชยาวุธเล่าไปตามตรงอย่างไม่ปิดบัง เพราะกับเพื่อนสนิทกลุ่มนี้เขามักเปิดอกคุยกันเกือบทุกเรื่องอยู่แล้ว“อะไรของมึงวะไอ้เวฟ มีสาวมาชอบมันคือเรื่องดีนะโว้ย มึงจะมานั่งเครียดทำห่
ชยาวุธทำทีเป็นมองไม่เห็นสายตาตัดพ้อของเชอร์รีที่ส่งมาให้จากโต๊ะทำงานของเจ้าตัว เป็นเพราะเมื่อเช้าหลังจากกินโจ๊กกับทิวากรเสร็จแล้วขึ้นออฟฟิศ เขาก็ไปหาดนุพร อาร์ตไดเรกเตอร์เพื่อคุยเรื่องนั้นทันที และเป็นไปตามคาด ครีเอทีฟไม่จำเป็นต้องเข้าไปพบลูกค้าอีกแล้ว เพราะเนื้องานเริ่มเข้าสู่กระบวนการผลิตเหมียวได้ทีจึงสั่งสอนเออีน้องใหม่ด้วยการแนะว่าสิ่งใดควรทำ และสิ่งใดไม่ควรทำ ซึ่งพอเชอร์รีรู้ว่าเขาเป็นคนนำเรื่องนี้ไปปรึกษาอาร์ตไดเรกเตอร์ เจ้าตัวก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ และมากระเง้ากระงอดใส่เขาถึงโต๊ะ“เฮ้อ...” โคตรเซ็งชยาวุธได้แต่นั่งถอนหายใจจนทิวากรต้องยื่นหน้าข้ามฉากกั้นมาคุยด้วย“กูจะสงสารหรืออิจฉามึงดีวะเนี่ย ฮ่า ๆ”“ต้องอิจฉาสิพี่ พี่เวฟเสน่ห์แรงออกขนาดนี้” เก๋า ครีเอทีฟรุ่นน้องอีกคนยื่นหน้าข้ามฉากกั้นมาคุยด้วยเช่นกัน“ถ้ากูโอนต่อให้พวกมึงได้ กูจะโอนให้เลยเนี่ย ไอ้เสน่ห์พวกนี้น่ะ” ชยาวุธหน้าง้ำพลางนึกถึงหัวข้อสนทนาที่ตนคุยกับทิวากรในร้านโจ๊กเมื่อเช้าในอนาคตเขากับภัทรมัยจะมีปั
ภัทรมัยมองแฟนหนุ่มของตนแล้วได้แต่ลอบถอนหายใจด้วยความปลงตก ถึงแม้เขาจะไม่ใช่คนโง่ที่ตกหลุมพรางตื้น ๆ ของผู้หญิงบางคนได้ง่าย แต่เขาก็ยังเป็นคนที่มักมองผู้อื่นในแง่ดีไว้ก่อนเสมอจริง ๆ เธอเสียอีกที่กลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายไปเลยเมื่ออยู่กับเขา เพราะฉะนั้น เธอไม่เชื่อหรอกว่าแม่เออีคนใหม่นั่นจะยอมรามือ!ภัทรมัยเดินออกจากลิฟต์พร้อมชยาวุธ หางตาของเธอเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนแอบอยู่ข้างกระถางต้นไม้ใกล้กับประตูทางออกที่จะไปอาคารจอดรถจึงหันไปมองให้เต็มตาว่าจะใช่คนที่ตนคิดเอาไว้รึเปล่าแล้วก็ใช่จริง ๆหญิงสาวสลับมาเดินอีกข้างของแฟนหนุ่มทันที จากนั้นก็ประสานมือกับเขาแล้วเดินไปด้วยกัน เมื่อถึงจุดที่เชอร์รีแอบอยู่จึงหยุดเดินแล้วมองหน้าอีกฝ่าย ส่วนชยาวุธก็เพิ่งสังเกตเห็นตอนนั้นเองว่าเออีน้องใหม่กำลังยืนอยู่“โอ้โห ด้านไม่แผ่วเลยจริง ๆ เห็นไหมพี่เวฟ แก้มพูดผิดเสียที่ไหนล่ะ นางยืนรอพี่จริงด้วย” เธอหันไปพูดกับเขายิ้ม ๆ ชยาวุธกลอกตาพร้อมกับถอนหายใจแผ่ว ซึ่งเป็นกิริยาที่เขามักทำเวลาเบื่อหน่ายอะไรสักอย่าง“ไปเถอะ” เขากระตุกมือเธอให้ออกเ
“จะกลัวอะไร แก้มแค่อยากคุยกับพี่เท่านั้นเอง เรามาคุยกันหน่อยดีกว่า” ไม่พูดเปล่า แต่เธอใช้มือหยอกเย้าเขาด้วย ชายหนุ่มได้แต่ลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกเพราะคิดว่าจะโดนสำเร็จโทษด้วยการทรมานเสียแล้ว“คุยแบบไหน แบบไมค์จ่อปากรึเปล่า” เขายิ้มพราย จงใจพูดสองแง่สองง่าม แต่แล้วแววตาของเขาก็วาววามขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดจากปากเธอ“แล้วพี่คิดว่าไงล่ะ สนใจอยากยื่นไมค์ให้แก้มไหมคะ”“ยินดีและเต็มใจเป็นอย่างยิ่งเลยครับ” พูดจบเขาก็ถอดเสื้อยืดของตนเหวี่ยงทิ้งลงพื้นทันที จากนั้นจึงปลดเปลื้องอาภรณ์ให้เธอบ้าง“เสียดายที่ของเล่นพวกนั้นอยู่ห้องแก้มหมดเลย” เขาเอ่ยเสียงพร่ายามยื่นหน้าไปซุกซบกับทรวงสล้างอันน่าหลงใหล“ทำตัวเป็นพวกเชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ไปได้” เธอหัวเราะคิกคักด้วยความจั๊กจี้ยามเขาขบเม้มไปตามผิวเนื้อ“เห็นแก้มชอบพี่ก็พอใจ เอาไว้จะหาอย่างอื่นมาเล่นบ้าง”“แน้...แก้มยังไม่เคยพูดสักคำว่าชอบ คิดเองเออเองตลอด”“ครางเสียงหลงขนาดนั้นยังจะกล้าปฏิเสธอ
เชอร์รีหันไปมองชยาวุธอย่างขอความช่วยเหลือ แต่ชายหนุ่มกลับเอาแต่ก้มหน้ายิ้ม ทั้งยังยกแขนขึ้นโอบบ่าหญิงสาวตรงหน้าอีกด้วยภัทรมัยแสร้งทำหน้าตกใจหันไปถามแฟนหนุ่มว่า“น้องเขาเป็นใบ้หรือคะพี่เวฟ อุ๊ยตายแล้วแก้มไม่รู้ แก้มนึกว่าเขาได้ยินที่แก้มพูดนะเนี่ย ทำยังไงดี แก้มใช้ภาษามือไม่เป็น”เชอร์รีมองภัทรมัยด้วยความไม่พอใจ จึงขึ้นเสียงใส่ว่า “ฉันไม่ได้เป็นใบ้!”ภัทรมัยตวาดกลับทันทีเช่นกัน “แล้วตอนฉันถามทำไมไม่ตอบ ปากอมอะไรอยู่...ตกลงมันเป็นใครเนี่ยพี่เวฟ”ประโยคหลังหญิงสาวถามแฟนหนุ่มโดยไม่หันไปมองเขา เพราะสายตาเอาแต่จับจ้องผู้หญิงชุดชมพูหวานแหววตรงหน้าแทบไม่กะพริบ“เออีคนใหม่ที่พี่เคยเล่าให้ฟังไง” ชยาวุธตอบเสียงอ่อน ไม่มองน้องใหม่ที่ส่งสายตาเว้าวอนมาให้เลยแม้แต่น้อย“แล้วมายืนทำอะไรหน้าห้องแฟนชาวบ้านเขาค่ำมืดดึกดื่น”ภัทรมัยเดินขึ้นหน้าไปอีกก้าวจนเชอร์รีต้องถอยหลังไป เจ้าตัวมองหญิงสาวท่าทางเอาเรื่องสายตาหวาดหวั่น ภัทรมัยยิ้มมุมปากก่อนโพล่งถามว่า“ได้ข่าวว่าเธอชอบแฟนฉ