Share

บทที่ 1159

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
หลังจากส่งฮ่องเต้ไปไกลเป็นพันลี้ กองทัพเดินทางออกไปแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนยังคงยืนอยู่ที่เดิม ยืนอยู่นานก็ไม่ยอมจากไป

อู๋ไป๋เอ่ยเตือนเบา ๆ

“ประมุขแคว้น ควรเสด็จกลับวังได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”

เฟิ่งจิ่วเหยียนถึงได้ดึงสายตากลับมา

ในพระราชวัง

เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ง่ายที่จะมีเวลาว่าง นายหญิงเฟิ่งจึงมาขอเข้าพบ

ช่วงหลายวันมานี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนเพิ่งจะทำหน้าที่ประมุขแคว้น จึงยุ่งจนไม่มีเวลาจะแยกร่างไปทำสิ่งใด แม้แต่เวลาที่จะนั่งคุยกับมารดาก็ยังไม่มี

นายหญิงเฟิ่งเข้าใจเป็นอย่างดี และไม่มารบกวนนาง

จนกระทั่งวันนี้ ที่กองทัพออกเดินทาง นายหญิงเฟิ่งถึงได้มาพบนาง

คนอื่นอาจไม่รู้ ทว่านายหญิงเฟิ่งกลับจำได้ว่า คนโปรดคนใหม่ของประมุขแคว้นที่สวมหน้ากากผู้นั้น ก็คือฮ่องเต้หนานฉี

นายหญิงเฟิ่งไม่คาดคิดว่า ฮ่องเต้จะทรงเสด็จตามจิ่วเหยียนมาแคว้นซีหนี่ว์ อีกทั้งยังออกรบเพื่อแคว้นซีหนี่ว์ นี่เป็นเรื่องที่หนึ่ง

อีกเรื่องหนึ่งที่นางไม่คาดคิดก็คือ จิ่วเหยียนของนาง ในที่สุดก็ตั้งครรภ์แล้ว

นายหญิงเฟิ่งมองพินิจจิ่วเหยียนด้วยดวงตาที่มีน้ำตาเอ่อคลอ โดยเฉพาะส่วนท้องที่นูนขึ้นมา พลางสะอื้นอยู่หลายครั้ง

“ในเมื่อตั้งครรภ์แล้ว
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1160

    ราชทูตเป่ยเยี่ยนเตรียมการมาก่อนล่วงหน้าก่อนหน้านั้นแต่ละแคว้นล้อมโจมตีแคว้นหนานฉี มิคาดคิดว่าแคว้นซีหนี่ว์ทรยศพันธมิตร ละทิ้งสัตยาบัน แปรพักตร์กลางสมรภูมิ หันมาร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับแคว้นหนานฉียามนี้แคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งมุ่งหมายโจมตีแคว้นซีหนี่ว์ เป่ยเยี่ยนย่อมสนับสนุนสุดกำลังมิอาจสั่นคลอนแคว้นหนานฉี ทว่าแคว้นซีหนี่ว์เพียงแคว้นเดียว ย่อมมิใช่เรื่องยากเมื่อแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งล่วงรู้เจตนารมณ์ของราชทูตเป่ยเยี่ยน ก็บังเกิดความปลื้มปีติเป็นล้นพ้นพวกเขาถามอย่างตื่นเต้น“ฮ่องเต้เยี่ยนยินดีให้ยืม ‘ปืนมังกรไฟ’ จริง ๆ หรือ?”ยามนี้พวกเขาโจมตีเมืองอย่างยากลำบาก หากได้ปืนมังกรไฟมาหนุนเสริม ศึกครั้งนี้ย่อมดุจดั่งพยัคฆ์ติดปีก!เพียงแต่ได้ยินมาว่า ปืนมังกรไฟนั้นเป็นอาวุธลับแห่งเป่ยเยี่ยน เป่ยเยี่ยนจะยอมให้ยืมจริง ๆ หรือ?พวกเขาอดสงสัยไม่ได้ราชทูตเป่ยเยี่ยนยิ้มแย้ม พลางหยิบสัญญาฉบับหนึ่งออกมาเห็นดังนี้ เหล่าขุนพลแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งต่างจ้องมองหน้ากันด้วยความฉงนใจจากนั้นราชทูตก็พูดอธิบาย“เป่ยเยี่ยนกับสองแคว้นเป็นพันธมิตรต่อกัน บัดนี้สงครามปะทุ เป่ยเยี่ยนย่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1161

    แม่ทัพแคว้นเจิ้งหาได้โง่เขลา เขารู้แจ้งแก่ใจว่าจุดประสงค์ของเป่ยเยี่ยนคืออะไร จึงกลับคำข่มขู่ราชทูตเป่ยเยี่ยน “หากไม่มีปืนมังกรไฟ พวกเราอย่างมากก็เพียงพ่ายศึกและยอมจำนน หรือไม่ก็รู้ว่ามิอาจต่อสู้การร่วมมือระหว่างกองทัพแคว้นซีหนี่ว์กับแคว้นหนานฉี ก็เพียงถอนทัพกลับเสียก็พอ “ทว่า สถานการณ์ของเป่ยเยี่ยน หาใช่ง่ายดายเช่นนี้ไม่ “แคว้นหนานฉีชนะศึกกับทั่วแว่นแคว้น กำลังอิทธิพลเพิ่มพูน ตอนนี้แคว้นซีหนี่ว์กับแคว้นหนานฉีเชื่อมสัมพันธ์กัน พันธไมตรีแน่นแฟ้นมิอาจทำลาย “หากแคว้นหนานฉีกลืนกินแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งได้แล้วไซร้ ทั่วทั้งแดนตะวันตกย่อมตกอยู่ในอำนาจแห่งแคว้นหนานฉี ครานั้นเป่ยเยี่ยนจักสูญเสียพันธมิตรทางใต้และทางตะวันตก กลายเป็นโดดเดี่ยวไร้ที่พึ่ง!” สายตาราชทูตเป่ยเยี่ยนฉายแววบูดบึ้ง แม่ทัพคนนี้ที่เชี่ยวชาญเพียงการศึก กลับมีสติปัญญาอยู่บ้าง แม่ทัพแคว้นเจิ้งเห็นราชทูตจนถ้อยคำ จึงพูดต่อถึงข้อดีข้อเสีย “ราชทูตนำความทูลฮ่องเต้เป่ยเยี่ยน รีบยืมปืนมังกรไฟมาโดยไว เช่นนี้ยังมีโอกาสสังหารฮ่องเต้ฉีได้ หากแคว้นหนานฉีวุ่นวาย เป่ยเยี่ยนจึงจักมีโอกาสโต้กลับแคว้นหนานฉี ช่วง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1162

    กองทัพแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้ง อาศัยว่ามีปืนมังกรไฟ แผดเสียงเกรี้ยวกราด “เร่งเปิดประตูเมือง หาไม่แล้ว อย่าหมายว่าผู้ใดจะรอดชีวิต!” เฉินจี๋ล่วงรู้ฤทธานุภาพของปืนมังกรไฟ เขอเสนอ “ฝ่าบาท ถอยทัพก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” คาดว่าฮองเฮาก็มิปรารถนาให้ฝ่าบาทตกอยู่ในอันตราย สายตาเซียวอวี้ล้ำลึก ดวงตาฉายแววเยืยกเย็น “สั่งให้ทหารทั้งหมดล่าถอยออกไปยี่สิบลี้ก่อน” ฤทธานุภาพแห่งปืนมังกรไฟ มิใช่อันที่มนุษย์จะสามารถต้านรับได้ ดังนั้น จึงไม่อาจเผชิญหน้าตรง ๆ …… ณ ชายแดนด้านตะวันตกแคว้นหนานฉี ฝนพรำไม่ขาดสายหลายวันติดกัน จนแผ่นดินชุ่มโชกเป็นโคลนเหลว ปืนมังกรไฟมีน้ำหนักมาก ล้อรถจมลึกลงพื้นดิน หนึ่งแรงคนมิอาจเข็นขยับได้โดยง่าย ครั้นข่าวล่วงรู้ถึงหูหนานซานอ๋อง เขาถึงโกรธทั้งร้อนใจ “ในยามสำคัญ เหตุใดถึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้!” ฮ่องเต้ยังอยู่ในแคว้นซีหนี่ว์ หากแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งบุกโจมตี ใครจะรับรองความปลอดภัยของฝ่าบาท! “ท่านอ๋อง ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะสายฝน...” “อย่าพูดไร้สาระ เร่งหาไม้กระดาน หาก้อนหิน เร่งขนส่งปืนมังกรไฟไปยังแคว้นซีหนี่ว์ให้ได้โดยเร็ว!” หนานซานอ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1163

    แคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งหมายมาดกำจัดแคว้นซีหนี่ว์ให้สิ้นซาก ศึกครั้งนี้ พวกเขานำกองกำลังทั้งหมดเข้าสู่สมรภูมิหากมุ่งหมายทำลายสองแคว้นให้ย่อยยับ เพียงแค่ทำลายกำลังพลกลุ่มนี้เสีย พวกเขาก็จะไร้หนทางกลับฟื้นขึ้นมาได้อีกด้วยเหตุนี้ เซียวอวี้กำลังรอโอกาสอันเหมาะสม อาศัยสายฝนกระหน่ำครั้งนี้ ฝังกลบกองกำลังของทั้งสองแคว้นไว้ ณ ที่นี้เขาได้แจ้งแผนการแก่เฟิ่งจิ่วเหยียนแล้วณ พระราชวังเฟิ่งจิ่วเหยียนยืนอยู่ใต้ชายคาพระตำหนัก แลเหลียวมองสายฝนอันพรั่งพรูภายนอก ในใจรู้สึกอึดอัดมิใช่น้อยแต่ก่อนเป็นเพียงฝนโปรย แต่ยามนี้ กลับกลายเป็นพายุฝนตกหนักมิรู้สิ้นสภาพอากาศนี้ ช่างประหลาดนักนางกำนัลที่อยู่เบื้องหลังพูดขึ้นมา“ท่านประมุข ดินแดนแห่งนี้โดยปกติเมื่อถึงเดือนเจ็ด ฝนจะตกไม่ขาดสาย บ่อยครั้งก่อให้เกิดอุทกภัยน้ำท่วมเพคะ”เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อยอุทกภัยน้ำท่วมหรือ เช่นนี้ ปืนมังกรไฟก็มิอาจนำมาใช้ได้ในขณะเดียวกันในค่ายทหารแคว้นเจิ้งเหล่าทหารทั้งหลายต่างขุ่นเคืองใจต่อฝนที่ตกหนักไม่หยุด“ท่านแม่ทัพ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เสบียงอาหารของเราคงร่อยหรอจนหมดสิ้นแนะ!”แม่ทัพแคว้นเจิ้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1164

    แคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งปราศจากเหล่าทหารรักษาการณ์ ก็มิผิดอันใดกับเนื้อบนเขียง มิอาจขัดขืนต่อคมดาบของผู้ใด เพียงสองวัน เป่ยเยี่ยนก็บุกเข้าสู่เขตแดนทั้งสองแคว้น อีกทั้งยังยึดครองกว่าครึ่งของแผ่นดินไว้ในอุ้งมือ ครั้นกองทัพทางเหนือของแคว้นฉีเคลื่อนพลมาถึง ก็หาได้ทันการณ์ไม่ ในกระโจมหลัก ชายแดนตะวันตกแคว้นหนานฉี หลังจากอ๋องหนานซานได้รับข่าวสาร ก็โกรธโมโหอย่างยิ่ง “เป่ยเยี่ยนช่างไร้ยางอายยิ่งนัก!”ขุนพลใต้บังคับบัญชา ต่างพากันโกรธเกรี้ยว “ท่านอ๋อง! เป็นเราที่สกัดกองทัพทั้งสองแคว้นไว้ เป่ยเยี่ยนจึงสบโอกาสฉวยประโยชน์ในยามเพลิงลุกโชน เช่นนี้ช่างไม่ยุติธรรมเลย” อ๋องหนานซานพูดด้วยเสียงเยือกเย็น “การศึกในบรรดาแว่นแคว้น ย่อมมิมีสิ่งใดเรียกว่าความเป็นธรรม นำเรื่องนี้กราบทูลต่อฝ่าบาทโดยพลัน!” ณ พระราชวังแคว้นซีหนี่ว์ เซียวอวี้ได้รับการสถาปนาเป็นพระสวามี เป็นที่ริษยาของเหล่านางใน “พระสวามีองค์ใหม่ ทั้งเชี่ยวชาญอักษรศาสตร์และพิชัยยุทธ์ เอาใจองค์ประมุขได้ ยังออกรบได้อีก ถึงว่าได้เป็นคนโปรดปรานคนใหม่ของประมุข” “รอประมุขให้กำเนิดพระโอรส พระสวามีเซียวจะไม่ยิ่งเป็นที่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1165

    ตอนนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนตั้งท้องได้หกเดือนแล้ว ทุกวันยังต้องจัดการราชกิจอีกเซียวอวี้คอยอยู่ข้างกายนางและลูก อาหารที่นางกิน เขาล้วนทำให้นางด้วยตนเอง นางกินอาหารฝีมือเขาจนเคยชินนายหญิงเฟิ่งเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ในสายตา จึงพูดกับเฟิ่งจิ่วเหยียนเป็นการส่วนตัว“สงครามจบลงแล้ว เหตุใดยังไม่กลับแคว้นหนานฉีไปกับฝ่าบาทอีก?”เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดอย่างรวบรัด“เรื่องยังไม่จบ”ต่อให้จะจากไป นางก็ยังต้องเลือกผู้มีความสามารถให้แคว้นซีหนี่ว์ แล้วยกตำแหน่งประมุขแคว้นให้คนนั้นทว่าเป็นเวลาที่จะส่งท่านแม่กลับแคว้นหนานฉีแล้วนายหญิงเฟิ่งอยากกลับแคว้นหนานฉีมาตั้งนานแล้ว ถึงแม้ว่าแคว้นซีหนี่ว์จะดี ทว่านางก็ไม่คุ้นเคยอยู่ดีทว่ายามนี้จิ่วเหยียนกำลังตั้งครรภ์ นางกังวลว่าข้าหลวงในวังจะไม่คล่องแคล่ว ดูแลจิ่วเหยียนได้ไม่ดีเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงบอกนาง “ชายแดนมีความขัดแย้งกันมากมาย ถือโอกาสที่ตอนนี้สถานการณ์สงบชั่วคราว จากไปตอนนี้ เหมาะสมที่สุดแล้ว”ด้วยเหตุนี้ นายหญิงเฟิ่งจึงได้แต่รับปากทว่าก่อนที่จะไป นายหญิงเฟิ่งยังมีบางอย่างอยากบอกนาง“ไม่ว่าเรื่องอะไร ก็ไม่อาจเทียบกับเด็กในท้องของเจ้าได้“แล้วก็ฝ่าบ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1166

    เซียวอวี้นึกไม่ถึงมาก่อนเลย ที่ว่าโอวหยางเหลียนมาหาเขาเพราะมีเรื่องด่วน ก็เพื่อให้จิ่วเหยียนเติมเต็มวังหลังนางถึงกับต้องการให้เขาไปพูดโน้มน้าวจิ่วเหยียนโอวหยางเหลียนใช้ผลประโยชน์เป็นเหยื่อล่อ หวังให้เซียวอวี้เห็นด้วยหารู้ไม่ว่า พระสวามีที่สวมหน้ากากอยู่ด้านหน้านี้ ที่จริงแล้วคือฮ่องเต้แคว้นหนานฉี เขาไม่สนใจเงินทอง ลาภยศพวกนั้นเลยแม้แต่น้อยโอวหยางเหลียนพูดอยู่นาน แลกมาเพียงเสียงหัวเราะเยาะเย้ยจากเซียวอวี้“ใต้เท้าโอวหยาง ท่านดูถูกข้าเกินไปแล้ว”หลังทิ้งประโยคนี้ออกไป เซียวอวี้ก็เดินจากไปความโกรธพลันปรากฎขึ้นบนใบหน้าที่แก่ชราของโอวหยางเหลียนจนกระทั่งเซียวอวี้จากไปไกลแล้ว หูย่วนเอ๋อร์ก็เดินออกมาจากภูเขาจำลองด้านหลังนางคำสนทนาเมื่อครู่ของคนทั้งสอง หูย่วนเอ๋อร์ได้ยินทั้งหมด“ใต้เท้าโอวหยาง พระสวามีเซียวท่านนี้ไม่ต้องการอะไรนอกจากความโปรดปรานของท่านประมุข บางทีคนผู้นี้อาจจะใช้งานได้”โอวหยางเหลียนขมวดคิ้ว “เจ้าคิดจะใช้อย่างไร?”หูย่วนเอ๋อร์ค่อย ๆ ตอบ“ท่านประมุขทรงโปรดปรานคนผู้นี้ พวกเราก็ใช้คนผู้นี้ทำให้ท่านประมุขอยู่ที่นี่ต่อ”น้ำเสียงของโอวหยางเหลียนเคร่งขรึม“ท่านแม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1167

    ต้วนเจิ้งมาที่แคว้นซีหนี่ว์ คิดอยากจะพบเฟิ่งจิ่วเหยียนซักครั้งเขาอยากจะถามนางว่าทำไมถึงทอดทิ้งเขา ไม่รักษาคำสัญญาที่ให้ไว้กับพี่ชายของเขาเมื่อข้าหลวงนำทางเข้ามาในห้องทรงพระอักษร ในที่สุดต้วนเจิ้งก็ได้พบกับเฟิ่งจิ่วเหยียนทว่าคำถามที่คิดเอาไว้ดิบดี กลับถูกดึงกลับเข้าไปจนหมดจมูกของเขาแสบร้อน ดวงตาบวม“พวกเขาล้วนหลอกลวงข้า...เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่รู้ว่าเขามาที่แคว้นซีหนี่ว์ทำไม นางแววตาเรียบเฉย“ขาของเจ้าหายรึยัง”ต้วนเจิ้งพยักหน้าติด ๆ กัน ยังดูเป็นเด็กน้อยเหมือนแต่ก่อน“ข้าตัวคนเดียว โดเดี่ยวมาก หากเป็นท่านพี่ เขาไม่มีทางทิ้งให้ข้าอยู่คนเดียว...”เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดแบบขวานผ่าซาก“ต่อให้เป็นพี่เจ้า ก็ไม่มีทางอยู่เป็นเพื่อนเจ้าไปตลอดชีวิตได้ อาเจิ้ง เจ้าควรจะโตได้แล้ว เซียวเหยาจวีที่ยกให้เจ้า ยังไม่พอหรือ? หรือเจ้ายังต้องการให้ข้าดูแลเจ้าไม่ห่าง?”ใบหน้าหล่อเหลาของต้วนเจิ้งปกคลุมไปด้วยความอึดอัดแขนที่ห้อยอยู่ข้างกายทั้งสองข้างของเขาเกร็งแน่น เขากำหมัดเบา ๆ“ข้าก็แค่อยากมาเยี่ยมท่าน อยากรู้ว่าท่านอยู่ที่ไหน ปลอดภัยดีหรือไม่“ข้าไม่ได้อยากจะตัวติดกับท่าน“หลังจากท่านพี่ตาย ข

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1242

    พระราชวัง ในตำหนักเซี่ยวเสียน หนิงเฟยกำลังเลี้ยงดูโอรสทั้งสองพระองค์ ในมือถือกลองป๋องแป๋งแววตาเปี่ยมด้วยความรักใคร่ ที่มิใช่ผู้ให้กำเนิด หากแต่ไม่ด้อยไปกว่ามารดาที่แท้จริงสาวใช้วิ่งเข้ามา อย่างมิได้ระวัง “พระนางเพคะ! พระนาง! “ฝ่าบาทกับฮองเฮาเสด็จกลับวังแล้วเพคะ!”เสียง “ตัก!” ดังขึ้น กลองป๋องแป๋งในมือหนิงเฟยตกลงกระทบพื้น พร้อมกันนั้น รอยยิ้มก็แข็งทื่ออยู่ตรงนั้นนางหันไปมองลูกทั้งสองคน พวกเขายังยิ้มให้กับนาง หาได้เข้าใจถึงคำว่าพรากจากไม่ ในใจหนิงเฟยนั้น มีแต่ความอาลัยอาวรณ์ เพียงสามเดือนสั้น ๆ ที่อยู่ด้วยกัน นางรักใคร่พวกเขาจากใจจริง บางครั้งยังมีความคิดอย่างเห็นแก่ตัว อยากถือครองพวกเขาไว้เป็นของตนทว่านางยังคงมีสติอยู่ฝ่าบาทกับฮองเฮากลับมาได้อย่างปลอดภัย แคว้นหนานฉีถึงจะร่มเย็นเป็นสุข ช่วงเวลาอันสั้นที่นางได้ดูแลโอรสทั้งสอง ก็พอใจแล้วหนิงเฟยรีบปรับอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง ฝืนยิ้มพลางมีรับสั่ง “เปลี่ยนอาภรณ์ ข้าจักพาพระราชโอรสทั้งสองไปเฝ้ารับเสด็จฝ่าบาทกับฮองเฮา”“เพคะ!”ตำหนักฉือหนิงไทเฮาทราบข่าวการกลับมาของฝ่าบาทกับฮองเฮาท่านก็ปลื้มปีติ ทว่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1241

    จักรพรรดิองค์ใหม่เป่ยเยี่ยนถูกลวงให้ตกหลุมพราง จึงรีบเรียกเหล่าขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นฝ่ายบู๊เข้าประชุมเร่งด่วน หาทางต้านศึกอย่างไรดีบรรยากาศในท้องพระโรงตอนนี้ เต็มไปด้วยเสียงบ่นครวญเผชิญกับคำถามของจักรพรรดิ ไม่มีผู้ใดสามารถเสนอแผนการอันเป็นประโยชน์ได้ด้วยเหตุนี้ จักรพรรดิองค์ใหม่โกรธเป็นล้นพ้น“รับราชบำเหน็จจากแผ่นดิน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของเรา! พวกเจ้าเหล่านี้ เราจะเลี้ยงพวกเจ้าเพื่อประโยชน์อันใด! ออกไปให้พ้นหน้า!”หลังออกมาจากวัง เหล่าขุนนางต่างคนต่างบ่นพึมพำ“ฝ่าบาทให้เราคิดหาหนทาง เขาไม่ลองคิดดู สถานการณ์ยามนี้ ยังจะเหลือหนทางออกใดอีก?”“ใช่แล้ว! แคว้นหนานฉีโอบล้อมทางตะวันออกกับทางใต้ของเรา แคว้นซีหนี่ว์ก็ข่มขู่เราทางด้านตะวันตก ภูมิประเทศทางด้านเหนือก็ไม่เอื้อให้ฝ่าวงล้อมได้ สถานการณ์ยามนี้ เหมือนสัตว์ติดกับดัก!”“ไม่ดูเลยว่าใครเป็นผู้ก่อให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ ฝ่าบาททรงหลงเชื่อคำคนชั่ว ฆ่าขุนนางจงรักภักดี ฆ่าพี่น้อง เสียดายองค์ชายเจ็ดทรงมีปรีชาญาณ กลับถูกฝ่าบาทปองร้ายจนตาย! เฮ้อ!”นึกถึงองค์ชายเจ็ด เหล่าขุนนางล้วนพากันเสียดายทว่าพวกเขาก็เพียงกล้าคิดในใจ ไม่กล้าพูดออกมา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1240

    องค์ชายสี่ขึ้นครองราช แผ่นดินเป่ยเยี่ยนก็ประหนึ่งชีพจรจะขาดสะบั้น มิมีวันฟื้นคืนกลับมารุ่งเรืองอีกดั่งเดิม หากแต่สำหรับเซียวอวี้นั้น เพียงเท่านี้หาเพียงพอไม่เขาเขียนจดหมายฉบับหนึ่ง ส่งสารไปยังดินแดนต่าง ๆ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็เขียนจดหมาย ส่งไปยังแคว้นซีหนี่ว์“หากจะล้างผลาญเป่ยเยี่ยนให้สิ้นซาก ย่อมมิอาจขาดการสนับสนุนจากแคว้นซีหนี่ว์ได้”เซียวอวี้พยักศีรษะ“เจ้าพูดถูก”……ภายในเขตแดนเป่ยเยี่ยน องค์ชายสี่หาได้ใส่ใจสิ่งใดไม่ มัวแต่คิดหมายกำจัดเหล่าพี่น้องที่ขวางหูขวางตา โดยเฉพาะองค์ชายเจ็ดทว่าเขาก็มิใช่คนโง่เขลา ยังพอฟังคำของที่ปรึกษา มิได้กระทำอุกอาจ หากกลับเชื้อเชิญพี่น้องทั้งปวงให้กลับมาร่วมกันไว้ทุกข์บรรดาขุนนางผู้ภักดีต่อองค์ชายเจ็ดพากันกังวล จึงรีบร้อนเขียนจดหมายแจ้งองค์ชายเจ็ด อย่าได้กลับมาเด็ดขาด ทว่าน่าเสียดาย จดหมายของพวกเขาถูกดักจับเสีย ด้วยสายลับของฮ่องเต้องค์ใหม่ที่เตรียมไว้ตั้งแต่แรก แล้วปลอมแปลงเนื้อหา วางกับดัก รอคอยองค์ชายเจ็ดมาตกหลุมพรางดังที่คาดไว้ องค์ชายเจ็ดกลับมาร่วมงานพระศพยังเมืองหลวง ได้เลือกเส้นทางลับตามที่กล่าวว่าไว้ในจดหมายลับ ได้ยินว่าทางน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1239

    เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับขึ้นไปบนรถม้า เห็นคอเสื้อของเซียวอวี้เปิดกว้าง ไม่กระชับ ดูเหมือนสวมอาภรณ์ไม่เรียบร้อย คล้ายกับคณิกาชายในสภาพตกอับโดยเฉพาะสายตาของเขาที่มองมา ท่าทีราวกับขอความเมตตาจากนาง ทำให้คนรู้สึกขนลุกชันนางนั่งลงทำเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น “มีสิ่งใดอีกหรือเพคะ?”“รุ่ยอ๋องไม่ยอมทายาให้เรา” เซียวอวี้เอ่ยอย่างจนใจเฟิ่งจิ่วเหยียนยิ้มอย่างเรียบเฉย“เช่นนั้นก็ไม่ต้องใช้ยาแล้ว“เพราะอย่างไรบาดแผลก็หายสนิทแล้ว”“จะกลายเป็นแผลเป็นได้” เซียวอวี้ย้ายมาใกล้ ๆ นางในดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนแฝงรอยยิ้มที่มีความหมายมากขึ้น “อ๋อ? จริงหรือ? เช่นนั้นก็ไม่มีหนทางแล้ว ที่จริงแผลเป็นก็ไม่เป็นไร มีบุรุษคนใดบ้างที่บนตัวไม่มีรอยแผล”นางกลับไม่รู้ว่า เขาใส่ใจผิวพรรณเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดเซียวอวี้เป็นฝ่ายแสดงท่าทีผูกมิตร “ชื่อของลูก เราจะลองคิดดูอีกที หากใช้ไม่ได้จริง ๆ ก็ให้คนที่มีความสามารถมาจัดการ ว่าอย่างไร?”เฟิ่งจิ่วเหยียนหลุดหัวเราะออกมานางกลั้นไม่ไหวจริง ๆ“ได้เพคะ”ที่จริงนางก็มิได้คิดมากกับเรื่องนี้ เป็นเขาที่คิดซับซ้อนเกินไป ยืนกรานจะทายาด้วยตัวเอง ทั้งยอมให้รุ่ยอ๋องช่วยเหลือ แ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1238

    เมื่อทราบว่าฮ่องเต้ทรงได้รับการช่วยเหลือ ในขณะเดียวกันกับที่รุ่ยอ๋องรู้สึกยินดี ก็ยังรู้สึกยกย่องฮองเฮามากขึ้นด้วยเขารีบตรงไปที่ข้างรถม้า และแสดงความเคารพต่อฮ่องเต้“ฝ่าบาท...”ภายในห้องโดยสาร ทันทีที่เซียวอวี้ได้ยินเสียงรุ่ยอ๋อง ก็ขมวดคิ้ว “เข้ามาก่อนเถอะ”รุ่ยอ๋องไม่มีความสงสัยแล้ว จึงรีบเข้ามาภายในห้องโดยสารจากนั้นกลับมองเห็น ฮ่องเต้มิได้สวมใส่อาภรณ์ท่อนบน กำลังทายาอย่างยากลำบากสาเหตุที่ยากลำบาก เป็นเพราะเขาทาไม่ถึงบาดแผลที่อยู่ด้านหลัง“ช่วยเราทายาหน่อย” เซียวอวี้ส่งขวดยาให้กับรุ่ยอ๋องทันที จากนั้นก็รอรับการช่วยเหลือรุ่ยอ๋องก้มมองยาที่อยู่ในมือ และเหลือบมองฮ่องเต้หากเขาไม่มา ฮ่องเต้จะทรงทำอย่างไร?รุ่ยอ๋องถามเหมือนไม่ตั้งใจ: “ฝ่าบาท เหตุใดจึงมิให้ฮองเฮา...”เซียวอวี้รู้ว่าเขาคิดจะถามสิ่งใด จึงกระแอมเบา ๆ“ฮองเฮายังมีเรื่องอื่นต้องทำ อีกอย่าง แค่ทายา เราทำเองได้ ไม่ต้องรบกวนนาง”รุ่ยอ๋อง: ดังนั้นท่านจึงต้องมารบกวนกระหม่อมหรือ?เขาหารู้ไม่ว่า ที่จริงแล้ว เพราะเรื่องตั้งชื่อให้ลูก เซียวอวี้รู้ว่าตนเองผิดพลาด จึงไม่สะดวกใจที่จะรบกวนเฟิ่งจิ่วเหยียนอีกอย่าง บาดแผลบน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1237

    สำหรับเรื่องชื่อของบุตร เซียวอวี้รู้สึกกระวนกระวายใจอยู่หลายวันเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า จิ่วเหยียนที่ปกติเป็นคนง่าย ๆ แต่สำหรับชื่อแล้วจะเรื่องมากถึงเพียงนี้ชื่อที่เขาเลือกมา กลับถูกมองด้วยสายตาเย็นชาจากนางทางนี้พวกเขาก็แค่ขัดแย้งกันเล็กน้อย แต่ทางนั้น เมืองหลวงของเป่ยเยี่ยนกลับทะเลาะกันรุนแรงใหญ่โตเหล่าขุนนางบุ๋นบู๊ต่างตระหนกตกใจอย่างมากเหตุใดผ่านไปคืนเดียว จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงเพียงนี้เล่า?ฮ่องเต้เสด็จสวรรคต และมอบบัลลังก์ให้กับองค์ชายสี่แล้วองค์ชายเจ็ดเล่า?ในราชสำนักมีคนที่สนับสนุนองค์ชายเจ็ดไม่น้อย ในที่ประชุมราชสำนักจึงตั้งข้อสงสัยทันทีก่อนพิธีราชาภิเษกฮ่องเต้องค์ใหม่ จะต้องจัดงานพระศพของอดีตฮ่องเต้เสียก่อนดังนั้น ตำแหน่งขององค์ชายสี่ ยังต้องรอการหารือเหล่าขุนนางโต้เถียงกันไม่หยุด ส่วนองค์ชายสี่กลับแสดงตัวว่าเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ จัดการปราบปรามกลุ่มที่ถูกกล่าวหาว่าต่อต้านอย่างรวดเร็วเฉียบขาด“เราคือผู้สืบทอดบัลลังก์ที่เสด็จพ่อทรงเลือกแล้ว พวกเจ้ายังคิดจะขัดพระราชโองการให้ได้ใช่หรือไม่? ทหาร ลากทุกคนออกไป!”องค์ชายสี่ต้องการจะปิดปากคนเหล่านั้น ด้วยวิธีที่เรียบง่าย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1236

    เซียวอวี้นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่า จิ่วเหยียนจะกำเนิดบุตรชายให้เขาสองคน!สิ่งแรกที่เขานึกถึง คือความลำบากของนางเขาโอบกอดนางไว้ เอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า“คงลำบากอย่างมากเป็นแน่“เราได้ยินว่า ลำพังคลอดบุตรคนเดียว ก็เจ็บปวดจนขาข้างหนึ่งเหยียบเข้าไปในประตูผีแล้ว“จิ่วเหยียน เราควรจะอยู่เคียงข้างเจ้า”เขายังไม่รู้ว่า นางได้รับผลกระทบจากการหายตัวไปของเขา จนคลอดกะทันหัน และเกือบจะคลอดยากเฟิ่งจิ่วเหยียนก็ไม่คิดจะบอกเขาถึงอย่างไร เรื่องนี้ก็ผ่านไปแล้ว หากจะให้เขามาเสียใจและเป็นกังวลตามไปด้วย มีแต่จะเพิ่มความทุกข์ใจเท่านั้นมิสู้ถนอมความสุขที่อยู่ตรงหน้าจะดีกว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนส่ายศีรษะอย่างผ่อนคลาย“สตรีคนอื่นอาจจะลำบาก แต่หม่อมฉันเป็นคนฝึกวรยุทธ์ ความลำบากระดับนี้ ทนรับได้อยู่แล้ว“อีกอย่าง เด็กทั้งสองคนนี้ก็ว่าง่าย ไม่พลิกตัวไปมาวุ่นวาย”เซียวอวี้ยังคงกอดนางไว้“ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ต้องขอบใจเจ้า“ในที่สุดเราก็มีทายาทแล้ว ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องอยู่บนบัลลังก์ฮ่องเต้จนแก่ชรา”เฟิ่งจิ่วเหยียนได้ยินคำพูดนี้ รู้สึกชอบกลอยู่บ้างนางจ้องมองเขาพร้อมถามทันที“เหตุใดหม่อมฉันถึงรู้สึกว่า ตอนนี้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1235

    หร่วนฝูอวี้เคยเจอคนที่ตามตอแยมามาก ไม่คาดคิดว่ารุ่ยอ๋องก็เป็นคนเช่นนั้นด้วยนึกไม่ถึงว่าเขาจะยื่นหน้าเข้ามา เพื่อให้นางตบนางถูกบีบจนต้องถอยหลังไปเรื่อย ๆ“เจ้า เจ้าคงไม่เสียสติหรอกกระมัง?”ในดวงตาของรุ่ยอ๋องมีแต่นางรู้ดีว่านางแค่อยากจะให้เขายอมแพ้ ก็ทำตัวหน้าหนาหน้าทนเสียเลย“ฝ่ามือของพระชายาเมื่อครู่ ช่างหอมเหลือเกิน”ปัง!สมองของหร่วนฝูอวี้ระเบิดแล้วนางกำลังจะบ้าตาย!รุ่ยอ๋องเห็นนางทำตัวไม่เป็นปกติ จึงนั่งกลับลงไปตามเดิมทันทีเขากำมือแตะข้างริมฝีปาก กระแอมเบา ๆ “ข้ารู้ว่าเจ้ามีจุดประสงค์ใด ไม่ว่าเจ้าจะพูดอย่างไร ข้าก็แน่ใจว่า ข้าอยากจะอยู่กับเจ้า“ทว่า เรื่องของเรา ค่อยหารือกันภายหลังได้“ตอนนี้การไปเป่ยเยี่ยนช่วยฝ่าบาทเป็นเรื่องเร่งด่วนกว่า”หร่วนฝูอวี้ฝืนหัวเราะ“ไม่นึกว่าเจ้ายังรู้จักแยกแยะได้ว่าสิ่งใดสำคัญและเร่งด่วน”รุ่ยอ๋องมองออกไปนอกรถม้า ในใจราวกับปกคลุมด้วยเมฆหมอกกับหร่วนฝูอวี้ก็แค่หยอกล้อ เขายังคงรู้สึกหนักใจกลัวว่าฝ่าบาทจะทรงเกิดเรื่องไม่คาดคิดเพียงหวังว่าจะรีบไปให้ถึงเป่ยเยี่ยนโดยเร็ว......อีกด้านหนึ่ง เฟิ่งจิ่วเหยียนกับเซียวอวี้ออกจากเมืองห

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1234

    กล่าวถึงทางด้านรุ่ยอ๋อง เมื่อได้รับข่าวของเฟิ่งจิ่วเหยียน ก็รีบร้อนจะมุ่งหน้าไปที่เป่ยเยี่ยนโดยเร็วหร่วนฝูอวี้มาพบกับเขากลางทาง ก็เอ่ยตัดพ้อกับเขา“ตอนที่ข้ากลับไปถึงหนานเจียง อาการป่วยของอาจารย์ก็ไม่มีปัญหาแล้ว อาจารย์ท่านก็คิดแต่จะให้ข้าสืบทอดวิชา ต้องการให้ข้าอยู่ที่นั่น“โชคดีที่คนของเจ้ามา มิเช่นนั้นข้าคงไปไหนไม่ได้จริง ๆ“ใช่แล้ว ฮ่องเต้ฉีทรงถูกจับไปที่เป่ยเยี่นจริงหรือ?”สีหน้าของรุ่ยอ๋องดูคร่ำเคร่ง“ตามที่ได้ยินมาเป็นเช่นนั้น”หร่วนฝูอวี้แค่นเสียงเย้ยหยัน“เขามิใช่อวดอ้างว่าตนมีวิทยายุทธ์สูงส่งหรอกหรือ ข้างกายก็มีองครักษ์คุ้มกันตั้งมากมาย เหตุใดถึงตกไปอยู่ในมือของชาวเป่ยเยี่ยนได้เล่า?”หากอ่อนแอเพียงนี้ แล้วจะปกป้องซูฮ่วนได้อย่างไร?กลับกลายเป็นซูฮ่วนต้องปกป้องเขาแล้วทว่านางก็รู้ว่ารุ่ยอ๋องมีความสัมพันธ์และมิตรภาพที่ลึกซึ้งต่อฮ่องเต้ จึงเอ่ยปลอบเขา: “วางใจเถอะ ในเมื่อซูฮ่วนไปถึงเป่ยเยี่ยนแล้ว ก็คงไม่มีปัญหาใหญ่เกิดขึ้นเป็นแน่”รุ่ยอ๋องพยักหน้า ทว่าความกังวลที่ปรากฏบนหว่างคิ้ว แทบจะกลืนกินความสงบนิ่งอันน้อยนิดของเขาไปหมดขณะที่หร่วนฝูอวี้กำลังลำบากใจไม่รู้ควรเอ่ยสิ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status