Share

บทที่ 486

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
แม้ว่าหรงเฟยจะถูกรุ่ยอ๋องบีบคอ แต่นางยังคงมีท่าทีอ่อนโยน และมองเขาด้วยน้ำตาเอ่อคลอ

“ถึงแม้เจ้า...จะทำกับข้าเช่นนี้ ข้าก็ยังให้อภัยเจ้า...เจ้าวางใจเถอะ ข้าจะไม่ทูล...ฝ่าบาท ว่าเจ้าเป็นคนพาข้าออกจากวัง เป็นเจ้า...ที่ขังข้าไว้นานหลายปีถึงเพียงนี้

“พวกเราเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่วัยเยาว์ ข้าเชื่อว่า...เจ้าจะไม่ทำร้ายข้าจริง ๆ”

ในที่สุดรุ่ยอ๋องก็ปล่อยมือ หันหลังให้นาง พร้อมเอ่ยด้วยเสียงขรึม

“มู่หรงหลัน เจ้าจะต้องเสียใจ”

หรงเฟยยืนพิงกำแพงหิน มองดูอิดโรยอย่างมาก

“คำพูดนี้ข้าก็มอบให้เจ้าเช่นกัน

“พวกเราต่างก็ทำเพื่อปกป้องฝ่าบาทมิใช่หรือ?

“ส่วนจะใช้วิธีการแบบใด นั่นก็เป็นการตัดสินใจของพวกเราแต่ละคน”

หลังจากพูดจบ นางเดินอ้อมไปทางด้านหน้าของรุ่ยอ๋อง ยกมือขึ้นมาและดึงจี้หยกที่ห้อยเอวของเขาเบา ๆ ใบหน้าเผยรอยยิ้มอันอ่อนโยน: “จงจำไว้ว่า พวกเราสามคนจะต้องปกป้องกันและกัน และจะไม่มีวันแยกจากกันชั่วชีวิต”

รุ่ยอ๋องรู้สึกหนาวเหน็บอยู่ช่วงหนึ่ง และปัดมือของนางออก

“มู่หรงหลัน เจ้าเกินจะเยียวยาแล้ว”

หลังจากพูดจบ เขาก็เดินออกไปจากภูเขาจำลองอย่างแน่วแน่

หรงเฟยยังคงอยู่ในถ้ำภูเขาจำลองที่มืดมิด พร้อมกั
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1358

    “ฝ่าบาท ข้างกายฉู่อ๋องมีท่านหยวนผู้หนึ่ง ตอนนี้ก็ยังสืบไม่พบประวัติและภูมิหลังของคนผู้นี้พ่ะย่ะค่ะ”เมื่อฟังเฉินจี๋เอ่ยจบ เซียวอวี้หาได้ตำหนิสายลับเหล่านั้นไม่เพราะอย่างไรนี่ก็เพิ่งจะหนึ่งวันเท่านั้นหากฝ่ายตรงข้ามมีเจตนาปกปิด ก็มิใช่เรื่องง่ายที่จะสืบพบได้“ให้จับตาดูจวนฉู่อ๋องต่อไป”“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!”อย่างไรเซียวม่อก็เป็นคนในราชวงศ์ เมื่อจัดการเรื่องต่าง ๆ ก็ดูมีระเบียบแบบแผนด้วยการจัดการของเขา ราษฎรที่ส่งคืนบ้านเรือนก็มีเพิ่มขึ้นตามคำโบราณที่ว่า มังกรยิ่งใหญ่ไม่อาจข่มงูเจ้าถิ่นได้แม้ว่าเซียวอวี้จะเป็นถึงจักรพรรดิ แต่เมื่อมาถึงเมืองฝานหลูเป็นครั้งแรก ก็ย่อมไม่อาจแสดงอำนาจได้เต็มที่ต่างจากเซียวม่อ ความสลับซับซ้อนต่าง ๆ ในเมือง เขาเข้าใจเป็นอย่างดีภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก ราษฎรจำนวนมากจึงเป็นฝ่ายยอมมอบตัวกับทางการการที่พวกเขายึดครองบ้านเรือนของผู้อื่น ตามกฎหมายแล้วก็ควรได้รับโทษเหล่าเจ้าหน้าที่ทางการยังไม่ทราบท่าทีของผู้ที่อยู่เบื้องบนอย่างแน่ชัด จึงไม่กล้าตัดสินใจโดยพลการพวกเขาต้องการไปที่โรงพักแรมเพื่อขอเข้าเฝ้าฮ่องเต้ จะได้ไม่ทำผิดพลาดยังมีเจ้าหน้าที่ทางการ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1357

    เพียงวันเดียวสั้น ๆ เท่านั้น ทางการได้ติดประกาศแจ้งเตือน ผู้คนหลายกลุ่มมารวมตัวกันอยู่หน้าป้ายประกาศ สีหน้าแตกต่างกันไป “นี่เขียนว่าอะไร?” “สรุปอย่างง่าย ๆ คือ ทางการได้ตรวจพบทุกสิ่งแล้ว ผู้ที่ยึดครองบ้านและที่ดินของผู้อื่นอยู่ จะต้องตามหาเจ้าของเดิมและส่งคืนภายในสามวัน มิเช่นนั้นจะต้องโทษจำคุก!” “ร้ายแรงขนาดนั้นเชียว?” เอ่ยจบ พลันมีคนรู้สึกแค้นเคือง “อาศัยอยู่ในบ้านของคนอื่นโดยไม่ลงทุน ตอนนี้ถูกสั่งให้คืนพวกเขาไป นั่นเรียกว่าร้ายแรงหรือ?” มิใช่บ้านเรือนทั้งหมดในเมือง ที่ถูกยึดครอง ยังมีคนที่มีสติ และนึกรังเกียจผู้ลี้ภัยเหล่านี้มานานแล้ว สิ่งของที่ขโมยมา จะหวงแหนไว้เองได้หรือ? ท่ามกลางฝูงชน มีหลายคนที่ใบหน้าซีดเซียว พวกเขาเดินจับกลุ่มกันไป ดูสามัคคีไม่น้อย “ทำอย่างไรดี? ต้องส่งคืนภายในสามวัน มิเท่ากับพวกเราจะถูกไล่ออกจากเมืองฝานหลูหรอกหรือ?”“ต้องคิดหาวิธีแก้ไข ภรรยาของข้าใกล้จะคลอดลูกแล้ว จะให้นอนกลางดินกินกลางทรายไม่ได้…” “ก็นั่นน่ะสิ ลูกชายของข้าจะแต่งงานเดือนหน้า หากบ้านถูกยึดไป ครอบครัวฝ่ายหญิงจะต้องปฏิเสธการแต่งงานแ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1356

    ในห้อง เซียวอวี้กอดเฟิ่งจิ่วเหยียนจากด้านหลัง “เราให้สัญญา ครั้งหน้าจะปรึกษาเจ้าก่อนลงมือ ดีหรือไม่?” เขารู้ดีว่าเหตุใดนางจึงโกรธ เขาได้เปิดเผยตัวตน ต่อหน้าชาวบ้านเหล่านั้นอย่างกะทันหัน เฟิ่งจิ่วเหยียนแกะมือของเขาออก แล้วหันกลับไปเผชิญหน้ากับเขา เซียวอวี้คิดว่านางจะเอ่ยคำที่แสดงการให้อภัย ถึงอย่างไรนางมักจะทำเพื่อส่วนร่วมเสมอ กลับกลายเป็น นางยื่นมือออกมา เพื่อดึงกระชากเคราปลอมที่ใช้ในการปลอมตัวออกไป การกระทำนี้รุนแรงนัก จนเขาโอดครวญด้วยความเจ็บปวด เฟิ่งจิ่วเหยียนยังรู้สึกไม่พอให้บรรเทาความโกรธ จึงฉีกหน้ากากหนังมนุษย์ของเขาออกด้วย โชคดีที่ตอนถอดไม่สร้างความเจ็บปวด เซียวอวี้คาดไม่ถึงว่า คราวนี้นางจะโกรธมากเช่นนี้ จนถึงขั้น “ลงมือ” กับเขาจริง ๆ เฟิ่งจิ่วเหยียนโยนหน้ากากหนังมนุษย์และเคราปลอมทิ้ง แววตาเย็นชา “หากรู้จะเป็นเช่นนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองสิ่งเหล่านี้ “ไยจะต้องปลอมตัวด้วยเล่า? เพียงวิ่งไปบนถนนแล้วตะโกนว่า ‘ข้าเป็นฮ่องเต้ทรราช’…” เซียวอวี้กอดนางไว้อีกครั้งอย่างไม่กลัวตาย “ผิดไปแล้ว ผิดไปแล้ว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1355

    เหล่าชาวบ้านตกตะลึงพรึงเพริด พวกเขาเพิ่งได้ยินว่าอย่างไรนะ? ฮ่องเต้ฉี? ชายชราที่อยู่ตรงหน้านี้ คือฮ่องเต้ฉี? จะเป็นไปได้อย่างไร! เพิ่งเริ่มเข้าสู่ปีใหม่ ฮ่องเต้ควรจะเสวยสุขอยู่ในพระราชวัง เหตุใดถึงมาที่เมืองฝานหลู?! หรือว่า มาเพื่อพวกเขา? ทว่าคิดดูอีกที เช่นนี้ยิ่งจะเป็นไปไม่ได้ พวกเขาล้วนเป็นชาวเป่ยเยี่ยน ฮ่องเต้ฉีปรารถนาที่จะสังหารพวกเขาทั้งหมดด้วยซ้ำ “พวกเจ้าเป็นใครกันแน่!” พวกชาวบ้านไม่กล้าที่จะทำอะไรอย่างบุ่มบ่าม พวกเขาไม่เชื่อว่าฮ่องเต้จะเสด็จมา เหตุการณ์ต่าง ๆ ในเมืองนั้น พวกเขายังรับรู้น้อยมาก เซียวอวี้ไม่ได้อธิบายมากมาย เรียกองครักษ์เข้ามาโดยตรง “รีบส่งกำลังพลไปปิดล้อมเนินเขาแห่งนั้นทันที! จงสอบสวนทีละคน!” “พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!” ครั้นได้เห็นองครักษ์ในเครื่องแบบเน้นความคล่องตัว เหล่าชาวบ้านพลันตระหนักได้ว่า พวกเขาอาจจะได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้ที่เสด็จเป็นการส่วนพระองค์จริง ๆ ก็ได้! “ไม่ถูกสิ มิใช่บอกว่าฮ่องเต้อยู่ในวัยฉกรรจ์หรือ?” มีบางคนที่แอบกระซิบกระซาบกัน คิดเช่นนี้แล้ว ก็รู้สึกลังเลอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1354

    หากเฟิ่งจิ่วเหยียนและเซียวอวี้มิได้ปลอมตัวเป็นคนชรา และได้รับความไว้วางใจจากอีกฝ่ายโดยบังเอิญ ย่อมไม่มีทางที่จะถามคำถามเหล่านี้ออกมาได้ ในยามปกติ หากผู้ลี้ภัยก่อเหตุจลาจล และขับไล่ชนพื้นเมืองออกไป ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญของเมือง เรื่องนี้ กลับไม่มีเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นคนใดรายงานให้เบื้องบนทราบ เห็นได้ชัดว่า เหล่าเจ้าหน้าที่ปกปิดความจริงมานานแล้ว เซียวอวี้ก็ตระหนักถึงปัญหานี้เช่นกัน เจ้าหน้าที่ที่ยอมปกปิดความจริงจะรอดชีวิต ส่วนผู้ที่ต้องการเปิดเผย ล้วนตายหมดสิ้น หากเขามิได้ปลอมเป็นสามัญชนออกตรวจตรา จะรู้ได้อย่างไร? เซียวอวี้ระงับความโกรธ ยังถามชายหนุ่มต่อ “โฉนดที่ดินของพวกเจ้า อยู่ที่นี่กันหมดหรือไม่” โฉนดที่ดินสามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้ใดเป็นเจ้าของบ้าน นี่เป็นหลักฐานสำคัญ ในอนาคตจะได้บ้านคืนมา ต้องมีโฉนดเท่านั้น ชายหนุ่มดูเศร้าหมอง “ของข้ายังอยู่ แต่โฉนดของคนอื่น ส่วนใหญ่หายไปหมดแล้ว” ต่อจากนั้นเขาเอ่ยเตือน “หากโฉนดของพวกท่านยังอยู่ ให้เก็บรักษาไว้ดี ๆ อย่าปล่อยให้ทางการเอาไปเด็ดขาด” เฟิ่งจิ่วเหยียนแสร้งทำเป็นประหลาดใจ “เหตุใ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1353

    ในชนบท ล้วนเป็นผู้ลี้ภัยเกือบทั้งหมด พวกเขาสร้างที่พักพิงชั่วคราวของตนเองจากไม้และหญ้าแห้ง อยู่เบียดเสียดกันหลายคนในหนึ่งหลัง สถานที่แบบนี้เพียงพอสำหรับใช้นอนตอนกลางคืนเท่านั้น ต้องก้มตัวลงก่อนถึงจะเข้าได้ บนพื้นที่กว้างใหญ่ เต็มไปด้วยที่พักพิงประเภทนี้ ซึ่งนับไม่ได้แม้แต่สถานที่อยู่อาศัยด้วยซ้ำ มันเรียบง่ายจนลมพัดก็ปลิวได้ ยังไม่ต้องพูดถึงฝนที่ตกหนัก “บ้าน” เช่นนี้จะต้านทานได้อย่างไร เฟิ่งจิ่วเหยียนเพิ่งจะได้เห็นภาพเช่นนี้เป็นครั้งแรก ชาวบ้านที่นี่ เหมือนถูกทุกคนทอดทิ้ง หาได้มีผู้ใดสนใจว่าพวกเขาจะอยู่หรือตายไม่ กินดื่มขับถ่ายและนอนหลับรวมอยู่ที่นี่ จนในอากาศเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นฉุน เฟิ่งจิ่วเหยียนคิดว่า นางและเซียวอวี้ได้ปลอมตัวเพื่อให้ดูมีอายุ และอนาถามากพอแล้ว ทว่าเมื่อเทียบกับชาวบ้านเหล่านี้ พวกเขาดูสะอาด จนดูไม่เข้าพวกเลย ดังนั้น ทันทีที่พวกเขาเดินเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ พลันมีสายตาจำนวนมากมายจ้องมาที่พวกเขา แววตาทั้งแสดงความสงสัย และอิจฉา ชาวบ้านแต่ละคนร่างกายผ่ายผอม ดวงตาขุ่นมัวไม่มีชีวิตชีวา หัวใจของเซียวอวี้จมลงอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status