แรงรักทวงแค้น
[1]
เพราะรัก
_____________
ร่างสูงใหญ่เกินมาตรฐานชายไทยของ วาคิม กิติบวร ยืนนิ่งตรง สองมือไขว้หลัง สายตาคู่คมทอดลงสู่ผืนแม่น้ำเจ้าพระยาเบื้องล่าง จากชั้นสูงสุดของตึก GB ที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำสายนี้ คิ้วเข้มขมวดมุ่นเมื่อสมองทบทวนเรื่องที่มารดาฝากฝังเอาไว้ ท่านอยากให้เขากับนางแบบสาวอย่างแพรวรุ้งลงเอยกันเสียที ความจริงการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ มันก็มีแต่ผลกำไรจะเพิ่มพูน เพียงแต่ว่าตอนนี้เขายังไม่คิดหาห่วงมาผูกคอ และแม้ว่า GB ที่เขาเพียรสร้างมาจะไม่รวมนามสกุลกับตระกูลไหนๆ ผลกำไรที่ได้ในแต่ละปี มันก็มากจนมารดาไม่กล้าทักท้วงคำปฏิเสธของเขาเมื่อเย็นวานนี้
“อาหารเช้าเสร็จแล้วค่ะ”
เสียงหวานใสดังมาก่อนตัว หญิงสาวร่างบอบบางเดินยิ้มสดใสออกมาจากห้องครัว พร้อมกับอาหารเช้าในจานสวยเหมือนอย่างที่เคยทำทุกวัน หล่อนอาจเป็นอีกหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เขาไม่อยากแต่งงาน ไม่ใช่เพราะรัก แต่เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้ทำให้เขามั่นใจว่า ‘เงิน’ สามารถบันดาลได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งคำว่ารัก โดยไม่สำคัญว่าจะมีการแต่งงานเกิดขึ้นหรือไม่ แล้วเขาจะดิ้นรนหาความรักและการแต่งงานไปทำไม ในเมื่อเงินทองที่เขามีชาตินี้ก็ใช้ไม่หมด
หล่อนคือผู้หญิงโง่ๆ อีกคน ที่หลงบูชาความรัก ยอมแม้กระทั่งมอบพรหมจรรย์ที่สุดหวงแหนให้แก่เขา ผู้ชายที่ไม่เคยเหลือบแลพรหมจรรย์อันมีค่าของใคร มากไปกว่าความสุขทางกาย ตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา หล่อนไม่เคยโอ้อวดกับใครๆ ว่ามีตำแหน่งมากกว่าเลขาหน้าห้อง หล่อนจะสงบเสงี่ยมเจียมตัว ยืนอยู่ในที่ทางที่เหมาะที่ควรเสมอ นี่กระมังคือเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้หล่อนสามารถดำรงตำแหน่ง ‘เมียเก็บ’ ได้นานกว่าผู้หญิงคนอื่นๆ ของเขา
“ฉันให้กวินโอนเงินเข้าบัญชีให้เธอแล้ว อย่าลืมเช็กดู”
เขาเตือนด้วยประโยคที่คุ้นเคย ช่วยย้ำเตือนหล่อนทางอ้อมว่าเพราะเหตุใด หล่อนจึงสมควรได้รับเงินจำนวนดังกล่าว
เกล็ดมุก ตัดพ้อวาคิมทางสายตา เขาจ้องมองกลับมาเพื่อรับรู้ แต่ไม่ใส่ใจ วาคิมที่รัก ได้โปรดเถิดสักนิด ช่วยเหลียวแลหัวใจรักอันบริสุทธิ์ของเธอบ้าง สักนิดก็ยังดี
ความน้อยเนื้อต่ำใจสะท้อนอยู่ในอก ดวงตาสีน้ำตาลเข้มหลุบต่ำเพื่อซ่อนเร้นหยดน้ำตามิให้ชายหนุ่มแลเห็น ปลายจมูกโด่งรั้นเริ่มแดงระเรื่อ เธอรับรู้ถึงของเหลวที่ไหลรวมมาขังคลอที่โพรงจมูก ต้องรีบหยิบกระดาษเนื้อนุ่มมากดซับน้ำมูกน้ำตา เมื่อเขาหันหลังให้อีกครั้ง
“อ่า... ค่ะ ความจริงคุณไม่ต้องให้มุกก็ได้ มุกไม่ได้ใช้อะไร” ตอบเสียงอู้อี้ มือสองข้างยังง่วนอยู่กับอาหารเช้า แม้ว่าเขาจะไม่เคยแตะต้องสักคำ
“ไม่เป็นไร มันคือสิ่งที่เธอสมควรได้ ฉันไม่ชอบเอาเปรียบใคร เธอก็รู้” เขาหันกลับมาอีกครั้ง นัยน์ตาสีนิลวาววับด้วยรำคาญใจ ทำไมหล่อนต้องยุ่งยากอยู่เรื่อย อย่างไรเสียเงินจำนวนนั้นมันก็เข้าไปอยู่ในบัญชีของหล่อนเรียบร้อยแล้ว
เกล็ดมุกลอบถอนหายใจ วาคิมยังยืนยันที่จะให้ในสิ่งที่เธอไม่เคยต้องการ เขาคืออัศวินในดวงใจ คนที่เธอยอมมอบกายถวายหัว คนที่เป็นเหมือนเจ้าชีวิตเมื่อเขาช่วยฉุดเธอขึ้นมาจากทะเลสาบเฉียบเย็นเป็นน้ำแข็ง ให้เธอรอดพ้นจากอุ้งมือมัจจุราชที่อ้าแขนรอคอยอยู่ก้นบึ้งของทะเลสาบ
เรื่องมันผ่านมานานมากแล้ว เขาคงจำไม่ได้ หรือบางทีอาจไม่เคยจดจำ
“อาหารเช้าสำคัญ คุณวาทานสักหน่อยนะคะ” เธอคะยั้นคะยออีกหน ทว่าวาคิมยังยืนนิ่งเงียบอยู่เช่นเดิม สายตาคมกล้าของเขาทอดลงสู่แม่น้ำผืนใหญ่เบื้องล่าง
“อย่าเซ้าซี้ฉัน เธอไม่ใช่แม่บ้านหรือภรรยาที่ต้องตื่นมาทำเรื่องพวกนี้ หน้าที่อย่างเดียวคือ ‘บนเตียง’ ฉันเคยบอกแล้ว” เขาหันกลับมาต่อว่า ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนของเขา จะยอมหน้ามันแผล็บอยู่หน้าเตาเหมือนเจ้าหล่อนสักคน ไม่รู้จะทำให้เหนื่อยทำไม น่าจะเอาเวลาไปหาซื้อเสื้อผ้าเครื่องประดับมาสวมใส่ให้สมกับการเป็นผู้หญิงของท่านประธานแห่ง GB น่าจะเหมาะกว่า
เขาเดินกลับมาที่โต๊ะอาหาร ไม่ได้จะกินมื้อเช้า แต่เพื่อเปิดสมาร์ตโฟนอ่านข่าว และไม่ยินดียินร้ายต่อใบหน้าหวานที่บัดนี้จืดเจื่อน
เกล็ดมุกยืนนิ่งหน้าชาเมื่อถูกวาจาเชือดเฉือนของเขาตบหน้ารับอรุณ จะรู้สึกแย่ๆ ไปทำไมเกล็ดมุก เขาก็เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่วันแรกที่เธอเสนอตัวให้เขาแล้วนี่นา ท่องคำนี่เอาไว้สิ อดทนๆ สักวันหนึ่งเขาต้องเห็นความดีกันบ้างละน่า
ปลอบใจตนเองด้วยประโยคเดิมๆ เธอใช้งานมันบ่อยจนจำได้ขึ้นใจแล้ว
“ก็ตามใจคุณนะคะ มุกลงไปทำงานเลยก็แล้วกัน”
เธอรีบเปลี่ยนเรื่อง และหลีกหนีดวงตาคมกล้าของเขาด้วยการขอตัวลงไปทำงานที่ออฟฟิศด้านล่าง ไม่อยากขัดใจเขาให้มากความ เกรงว่าจะโดนเขี่ยทิ้งเหมือนผู้หญิงอีกหลายๆ คนก่อนหน้าเธอ
“เดี๋ยวก่อน วันเสาร์นี้วันเกิดเธอใช่ไหม”
มือเรียวที่เตรียมเปิดประตูออกไป หยุดชะงัก เขาจำวันเกิดเธอได้อย่างนั้นหรือ เธอรีบพยักหน้าแทนคำตอบ
“อยากได้อะไรก็บอกกวินแล้วกัน” เขาออกคำสั่ง ดวงตาคู่คมยังเพ่งพินิจอยู่กับตัวหนังสือบนจอสมาร์ตโฟน
“ได้ทุกอย่างหรือเปล่าคะ”
เธอยอกย้อน นึกหมั่นไส้สามีทางพฤตินัยเหลือเกิน ขนาดของขวัญวันเกิดยังจะให้คนของเขาหามาให้ ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องก็ได้ค่ะ คุณวาคิม
“ได้ทุกอย่างเกล็ดมุก ยกเว้นทะเบียนสมรส” เขาตอบเสียงเรียบชัดเจนทุกคำ วงหน้าคมคายเงยขึ้นมาจับจ้องคนที่กล้ายอกย้อน นานๆ ทีหรอกถึงจะได้เห็นสักครั้ง ปกติเกล็ดมุกมักจะเก็บคำถ้อยคำจาและอารมณ์ได้เก่งจนน่าเหลือเชื่อ
“มุกทราบดีค่ะ และก็ไม่เคยคิดอยากได้ทะเบียนสมรสเลี่ยมทอง ของคุณเลยแม้แต่น้อย สิ่งเดียวที่มุกอยากได้คือหัวใจของคุณ ให้ได้หรือเปล่าคะ ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ขอตัวไปทำงานเลยก็แล้วกันค่ะ บอส”
เธอเน้นอีกตำแหน่งให้เขาฟังชัดเจน แล้วรีบเปิดประตูเดินออกมา เกรงว่าถ้าช้ากว่านั้นสักนาที ระเบิดคงได้ลงกลางกระหม่อมเธอ
เมื่อเดินเข้ามาในลิฟต์เรียบร้อยก็ใช้มือเรียวลูบตรงตำแหน่งหัวใจ มันยังเต้นตุบๆ ถี่ระรัว เพราะเธอตื่นเต้นจนเลือดลมสูบฉีดมากเกินไป เฮ้อ...อุตส่าห์เล่นบทเมียเก็บแสนซื่อผู้น่าสงสารมาได้เกือบครึ่งค่อนปี ท่าจะพลาดเอาก็วันนี้ละ
คิดอย่างปลงๆ พลางก้าวออกไปจากลิฟต์ผู้บริหาร ก่อนจะถึงชั้นที่เธอทำงานอยู่ เพื่อที่จะเดินอ้อมไปลงทางบันไดหนีไฟไม่ให้เป็นที่สังเกต แต่ถึงกระนั้นเธอก็มั่นใจว่ามีหลายคนที่ล่วงรู้ถึงความสัมพันธ์อันไม่ปกตินี้ เพียงแต่ไม่มีใครกล้าพูดออกมาเพราะเกรงซองขาวจาก กวิน มือขวาของท่านประธาน
ส่งท้ายบ่ายโมงวันอาทิตย์ฝนกำลังตกกระหน่ำอยู่นอกตัวตึกบริษัทเพิร์ล กวินถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย เฝ้ามองหยาดพิรุณที่ตกกระทบผนังกระจกอย่างเหนื่อยหน่าย เขาอยู่ในห้องทำงานของวาคิม กำลังรอการมาถึงของใครบางคนด้วยใจจดจ่อ เอกสารแฟ้มไม่หนาไม่บางกำลังรอลายเซ็นของคนสำคัญ เขาจะไม่เหนื่อยหน่ายหากว่าไม่ได้นั่งรอเจ้าหล่อนมาตั้งแต่เช้าถ้าเจ้านายที่เคารพไม่สั่งไว้ก่อนพาเจ้าสาวหมาดๆ ไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันอีกรอบที่ต่างประเทศละก็ จ้างให้เขาก็ไม่มารอเจ้าหล่อนหรอก นี่มันวันอาทิตย์นะ เขาควรจะได้พาลูกกลับบ้านที่ ‘เกาะปันรัก’ ไม่ใช่มาอยู่โยงรอคนที่ไม่รักษาเวลา“ปะป๊า! มีนอยากกินชูชิ” หนูน้อยวัยสี่ขวบหน้าตาน่ารักน่าชังบอกบิดาด้วยสำเนียงที่คิดว่าชัดเจนที่สุด“ขออีกห้านาทีลูก ถ้าเธอยังไม่มาปะป๊าจะพาไป”กวินบอกบุตรชาย ‘มีนา’ ติดอยู่ที่นี่กับเขาตั้งแต่เช้า เขาน่าจะฝากลูกไว้กับคุณหญิงวารี ไม่น่าพามาด้วยเลย“ป๊าลอใค?” หนูน้อยถามอีก“รอคุณแพรวรุ้ง” กวินตอบวาคิมเห็นว่าฝ่ายแพรวรุ้งเสียหน้าที่เขาแต่งงานกับเกล็ดมุก ทั้งที่ข่าวก่อนหน้านั้นออกไปว่าเขาและแพรวรุ้งกำลังจะหมั้นกัน วาคิมเลยขอไถ่โทษด้วยการเสนอให้สาวเจ้ามาเป็
[24]ด้วยรักและเข้าใจ____________“นายเหมือง! อย่ามาผิดคำพูดนะ ไหนบอกว่าจะพาไปเที่ยวไง!”วารินทร์ค้อนฟ้าค้อนลมไปหลายยก เมื่อสามีผู้เอาแต่ใจผูกขาดการอยู่บนเตียงมาตั้งครึ่งค่อนวัน แทนที่วันหยุดจะได้เที่ยวบ้างอะไรบ้าง“อือ...ขอพักเหนื่อยหน่อยจ้ะเมียจ๋า เมื่อคืนนายเหมืองใช้แรงงานมากเกินไปเลยหมดแรง” ตอบกลับหน้าทะเล้น แต่ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ“จะไปไหนฮึ ท้องฟ้ามันเป็นใจให้น่านอนขนาดนี้” เขาว่าแล้วรวบร่างน้อยไปล้มตัวลงนอนอีกครั้ง“แดดเปรี้ยงอย่างนี้เหรอที่ว่าเป็นใจ อย่ามาล้างสมองนะ น้องวาอยากว่ายน้ำจะตาย มันร้อน น่านะ พาไปหน่อย”“ฮั่นแน่ เมียเราอยากไปรำลึกความหลังหรือจ๊ะ”เมฆาแกล้งเย้า“บ้า! ใครเขาจะอยากนึกถึงความหลังบ้าบอ”ใบหน้าสวยจืดเจื่อน เมื่อความหลังที่ว่ามันไม่ได้มีเพียงเรื่องชวนวาบหวิวเพียงเรื่องเดียว แต่มันมีทั้งคราบน้ำตาและวาจาที่เชือดเฉือนจิตใจให้เจ็บช้ำครั้งแล้วครั้งเล่า“โอ...ไม่นะวารินทร์ ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้นนะที่รัก ฉันไม่อยากให้เธอคิดถึงมันอีก ฉันขอโทษ ฉันสำนึกผิดแล้ว อย่าจมอยู่กับอดีตเลย ฉันขอร้อง ได้โปรดอยู่กับฉัน อยู่กับปัจจุบัน อย่าคิดถึงมันอีกเลย อย่าลงโทษฉั
[23]เพราะเรารักกัน______________วาคิมเร่งฝีเท้าเข้ามาด้านในเพียงเพื่อจะพบต้นตอที่ทำให้เขาขุ่นเคืองใจอีกครั้ง ร่างสูงใหญ่กำยำของบอดี้การ์ดหัวทองกำลังโอบประคองภรรยาของเขาอย่างถือสิทธิ์“วางเธอลงเดี๋ยวนี้โทนี่ คราวหน้าฉันจะตัดมือแกทิ้ง ถ้ากล้าแตะคุณหนูของแกอีก”เสียงกร้าวร้องสั่ง โทนี่ตีหน้าขรึมใส่ เขาอยากจะปล่อยร่างนายสาวลงเสียเดี๋ยวนั้น แต่ก็เกรงว่าสาวใช้ร่างบอบบางจะทานน้ำหนักไม่ไหวเลยต้องประคองเอาไว้“เกรงว่าตอนนี้คุณหนูคงอยากให้ผมแตะมากกว่าคุณ” โทนี่ประชดวาคิมตีหน้ายักษ์ใส่เพราะจนใจในการโต้เถียง เขาช้อนร่างอ่อนปวกเปียกให้พ้นจากวงแขนของบอดี้การ์ดมาดเข้ม ใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือดของเกล็ดมุกช่างบีบคั้นหัวใจอย่างที่สุด หล่อนคงเสียใจที่เขาก้าวออกไปพร้อมๆ กับฟ้ารุ่ง แต่เหนือสิ่งอื่นใดเขาอยากให้หล่อนรับรู้เหตุผลที่เขาต้องทำอย่างนั้นว่าที่คุณพ่ออุ้มว่าที่คุณแม่ขึ้นห้องนอน เขาวางหล่อนลงบนเตียงอย่างเบามือ สั่งสาวใช้ให้หาผ้าชุบน้ำเย็นมาให้ ก่อนจะไล่ทุกคนออกไป ด้วยต้องการอยู่กับหล่อนตามลำพัง“ได้โปรดเถอะมุก ช่วยตื่นขึ้นมาฟังผมที ผมขอร้อง”วาคิมพึมพำขณะไล้ผ้าหมาดๆ เช็ดแก้มนวลอย่างทะนุถนอมครื
ฟ้ารุ่งเดินอ้อมโต๊ะไปหาเกล็ดมุก วาคิมมัวแต่นั่งอึ้งเมื่อเห็นอดีตแฟนเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ เมื่อก่อนหล่อนออกจะเรียบร้อยอ่อนหวาน แต่ตอนนี้ทำไม...“โทนี่!” เกล็ดมุกร้องเรียกบอดี้การ์ดของบิดาที่ยืนคุมเชิงอยู่ห่างๆบอดี้การ์ดมาดเข้มวิ่งมาอย่างไว พริบตาเดียวก็ควักปืน .357 ออกมาวางใส่มือให้เจ้านาย เป็นจังหวะเดียวกับที่ฟ้ารุ่งกำลังจะฟาดฝ่ามือใส่แก้มของเกล็ดมุก ซึ่งผลของมันนั้นทุกคนย่อมรู้ดี แขนเรียวของเจ้าหล่อนค้างเติ่งกลางอากาศ เกล็ดมุกจ่อปืนเข้าที่กลางหน้าผากของอีกฝ่ายอย่างคล่องมือวาคิมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เขารู้ดีกว่าใครว่าเกล็ดมุกใช้ปืนเป็น!เกล็ดมุกยิ้มเยาะ รู้ว่าตัวเองเหนือกว่าเห็นๆ“มาหยามกันถึงถิ่นขนาดนี้ จะให้กลับไปแบบตอนขามามันก็ยังไงๆ อยู่ วันนี้ให้แกงจืดเป็นของฝาก ถ้ากล้ามาอีกละก็ ฉันจะให้ลูกตะกั่ว สนไหมล่ะ คุณฟ้ารั่ว!”“กรี๊ด! อีบ้า! อีโรคจิต! วา! ช่วยฟ้าด้วยเมียคุณจะฆ่าฟ้า ฮือออ...”ฟ้ารุ่งตะเบ็งเสียงแปดหลอดร่ำร้องขอความช่วยเหลือจากวาคิม ชายหนุ่มลุกมาหาสองสาว ใจคอไม่ดี ไม่อยากให้เกล็ดมุกถือปืน หล่อนท้องอยู่นะ ปืนผาหน้าไม้ไว้ใจได้ที่ไหนปัง!กระเบื้องปูพื้นลายสวยเป็นรูโบ๋ตรงกลา
คฤหาสน์หลังงามดูเงียบเหงาเมื่อเธอโดนคำสั่งข้ามประเทศจากเจ้าสัวว่าให้งดการเข้าบริษัท หากยังไม่หายแพ้ท้องดี นั่นทำให้เธอต้องมานั่งจับเจ่าอยู่บนเตียงกว้าง ทั้งนอนเกลือกกลิ้งมากว่าสองชั่วโมงแล้วก๊อกๆๆ“คุณหนูเล็กคะ อาหารเที่ยงเสร็จแล้วค่า”เสียงสาวใช้บอกมาที่หน้าประตู เกล็ดมุกลุกจากเตียงไปอาบน้ำแต่งตัวเสียใหม่ เนื่องจากว่าเธอยังอยู่ในชุดนอนตั้งแต่เมื่อคืน วันนี้สามีเจ้าปัญหาบอกว่าจะมาทานข้าวเที่ยงด้วย แต่ตอนนี้ปาเข้าไปจะบ่ายโมงแล้ว เธอคงจะหิ้วท้องรอหรอกเกล็ดมุกเดินลงมาชั้นล่างด้วยความกระปรี้กระเปร่า การได้อาบน้ำเย็นๆ ช่วยให้เธอสดชื่นขึ้นทันตา เธอเดินมาถึงโต๊ะอาหาร วินาทีเดียวกันนั้น เสียงรถแล่นมาจอดที่หน้าบ้านก็ทำให้เธอต้องชะเง้อคอมองผ่านหน้าต่างกระจกด้วยความใคร่รู้“เสียงรถใครน่ะ ไปดูทีซิ ใช่รถคุณวาหรือเปล่า”สาวใช้ยังไม่ทันได้ออกไปพ้นประตูดี เจ้าของรถยนต์เสียงแปลกหูก็เดินนวยนาดเข้ามาอย่างถือวิสาสะ“สวัสดีค่ะคุณมุก แหมๆๆ กลับมาไม่บอกกันบ้างเลยนะคะ”เสียงหวานหยดเอ่ยถามแกมหยอกเย้า ราวกับว่าสนิทกันมาแรมปี เกล็ดมุกหน้าตึง นี่ถ้าเธอไม่รู้ว่าหล่อนคนนี้เป็นใคร ป่านนี้คงยังโดนหลอกไม่เลิก ก็สาว
[22]ปรับความเข้าใจ__________วาคิมใช้เวลาเกือบสามชั่วโมงในการขับรถกลับจากหัวหิน และตอนนี้เขาก็เลี้ยวรถเข้ามาจอดที่หน้าคฤหาสน์ของตระกูลเฉินเป็นที่เรียบร้อย เขาพ่นลมหายใจทิ้งครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างกังวล ไม่รู้จะแก้ตัวเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไรดี หรือว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือการพูดความจริงเสียงรถที่แล่นเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์ สะกิดใจเกล็ดมุก เธออยู่ในห้องอาหาร มีสาวใช้คอยปรนนิบัติพัดวีราวเจ้าหญิง เธอเพิ่งกลับมาถึงที่นี่ไม่ถึงชั่วโมงและยังไม่มีแก่ใจจะรับแขก“ไปดูทีว่าใครมา ถ้าแขกของป๊าบอกให้เขามาวันหลังนะ”เกล็ดมุกสั่งสาวใช้ ปากน้อยๆ กำลังแทะเล็มเม็ดมะม่วงที่ตอนนี้เหลือแต่แกนเปล่าๆ“ค่ะ คุณหนูเล็ก” สาวใช้ร่างผอมขานรับ รีบเดินแกมวิ่งไปที่หน้าคฤหาสน์ แต่ยังไปไม่ถึงด้านหน้าดีด้วยซ้ำ ผู้มาเยือนก็เข้ามาถึงด้านในเสียก่อน“มีอะไรก็ไปทำเถอะ”คุณหนูเล็กสั่งอีกครั้ง สาวใช้รีบหลบฉากเข้าครัว“กลับมาทำไมไม่บอกผมบ้าง รู้หรือเปล่าว่าทำให้ผมเป็นห่วงแค่ไหน”เกล็ดมุกไม่อนาทรร้อนใจต่อคำกล่าวหานั้น ยังคงนั่งกินมะม่วงน้ำปลาหวานต่อไปไม่รู้ร้อนรู้หนาว“ผมถามทำไมไม่ตอบ!” วาคิมขึ้นเสียง อารมณ์เดือดปุดๆ เขาอุตส่าห์เป็นห