๑
ตัดใจ
เมื่อตัดสินใจเลิกกับตฤณเด็ดขาด หญิงสาวจึงส่งข่าวให้ทุกคนรับรู้ว่างานแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้นภายในเดือนหน้านี้มีอันต้องยกเลิก เพื่อนร่วมงานที่ได้รู้ความจริงว่าเกิดจากเหตุใดต่างเข้ามาให้กำลังใจหญิงสาวกันอย่างเนืองแน่น ส่วนตฤณนั้นยังไม่หยุดเดินหน้างอนง้อคนรัก เขาพยายามดักเจอที่หน้าบริษัทและที่พัก แต่หญิงสาวก็ยังหลบหน้าทุกครั้ง กระทั่งหัวหน้างานที่รู้เรื่องและสนิทกับหญิงสาวมากพอเอ่ยออกมาอย่างเห็นใจ
“ใกล้ปีใหม่แล้ว พี่ว่าบิวทำเรื่องขอลาพักร้อนก็ดีนะ”
บุญญาพรสบตาหัวหน้าสาวใหญ่ พลางยิ้มให้อีกฝ่าย พี่เนตรเองก็มีสถานะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเช่นเดียวกัน
“พี่รู้นะ ว่าบิวรู้สึกยังไง แต่ได้รู้เช่นเห็นชาติกันตอนนี้ยังดีกว่ามารู้ตอนอยู่กินกันไปแล้ว ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนั้นพี่บอกเลยว่าเจ็บกว่าเยอะ ไหนจะลูก ไหนจะเรื่องอื่นๆ อีก กว่าจะเลิกกันได้ไม่ใช่ง่าย มันติดขัดไปหมด ดูอย่างพี่เป็นตัวอย่าง ตอนมีโอกาสเลิกก็ไม่เลิก ให้อภัยไม่รู้กี่ครั้งกี่หน สุดท้ายก็ต้องมาเลิกอยู่ดี แต่ตอนนี้สบายแล้ว” พี่เนตรเปรยยิ้มๆ อย่างคนโล่งสบายจริงๆ
บุญญาพรเองก็คิดตรงกัน หญิงสาวกำลังจัดการเรื่องร้านให้เรียบร้อย ตั้งใจลางานเพื่อไปพักผ่อนที่ไหนสักแห่งยาวๆ เช่นที่พี่เนตรแนะนำ
ตฤณย้ายออกจากห้องของหล่อนไปตั้งแต่วันรุ่งขึ้น หล่อนไม่สนว่าเขาจะไปอยู่ที่ไหน แต่ชายหนุ่มเองก็ยังพยายามติดต่อและมาดักเจออยู่เสมอ วันนี้ก็เช่นกัน
“บิว”
ร่างบางที่ตรงไปยังรถยนต์ส่วนตัวชะงักกึก ก่อนจะถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
“เดี๋ยวก่อนบิว” ร่างสูงคว้าประตูรถยนต์ของคนรักเอาไว้ก่อนที่หญิงสาวจะหายเข้าไปในนั้น
“มีอะไรอีกคะ” บุญญาพรหันมามองเขาด้วยสายตาเย็นชา ยิ่งได้พบเจอกันอีกครั้งชายหนุ่มก็ยิ่งรู้สึกผิดและเสียดาย เขาไม่น่ามักง่าย ทำอะไรโง่ๆ แบบนั้นลงไปเลย
“พี่อยากคุยกับบิว”
หญิงสาวส่ายหน้า รอยยิ้มแต้มริมฝีปากงามน้อยๆ ก่อนสบตาคม
“แต่บิวไม่มีอะไรจะคุยกับพี่อีก ถอยค่ะ บิวจะกลับ”
“บิว พี่รักบิวนะ ยังรักเสมอ”
คนที่ถูกบอกรักครั้งที่เท่าไรก็จำไม่ได้เบือนหน้ากลับมาพร้อมถอนหายใจพรืด แสดงออกชัดเจนว่ากำลังเบื่อหน่ายขีดสุด
“พอเถอะค่ะ เลิกพูดคำนี้สักที คิดเหรอว่าบิวเชื่อ คนรักกันจริงเขาไม่ทำแบบที่พี่ตฤณทำหรอก เชิญกลับไปอยู่กับคนที่ชอบได้แล้ว อย่ามายุ่งกับบิวอีกเลย ถือเสียว่าบิวขอร้อง”
แล้วจากนั้นบุญญาพรก็กระชากประตูรถปิด ทำให้ตฤณต้องถอยห่างจากรถยนต์ของคนรัก เขามองตามไปจนลับตา สีหน้าละห้อยโหย ไหล่ห่อคอตก ดูน่าสมเพชในสายตาของเพื่อนร่วมงานที่รู้เรื่องราวของคนทั้งคู่
“สมน้ำหน้า”
ใครคนหนึ่งพูดออกมาเบาๆ ก่อนจะพากันเดินผ่านเขาไป
“หล่อแต่เลว แบบนี้ฉันก็ไม่ขอรับประทาน โชคดีของบิวที่เลิกกันก่อนจะแต่งงาน”
“แต่ก็น่าอายนะ จะได้แต่งกันอยู่แล้ว”
“เป็นฉันก็ยอมอายดีกว่าแต่งกันแล้วต้องมาเลิกทีหลังนะ ร้อยทั้งร้อยผู้ชายแบบนี้ไม่มีทางเลิกนิสัยเจ้าชู้หรอก”
“จริงของแก” ใครคนหนึ่งเปรย ขณะที่ร่างสูงของตฤณเดินกลับออกไปด้วยอาการผิดหวัง
บุญญาพรน้ำตาซึมออกมาอีก ภาพจำเก่าๆ ย้อนกลับมาราวกับม้วนภาพยนตร์ ความรัก ความสุขและความเหนื่อยยากที่เคยพบเจอร่วมกันไหลวนเข้ามาในความนึกคิด หลายครั้งหญิงสาวร้อนรุ่มในอก ร่ำๆ จะยกโทษให้เขา แต่เพราะข้างกายยังมีพรรษาที่คอยดึงสติ จึงทำให้บุญญาพรหยุดความคิดจะกลับไปหาตฤณลงได้
“กลับมาแล้วเหรอ” พรรษาหันไปยิ้มกว้างให้เพื่อน ฝ่ายที่เดินเข้ามาส่งยิ้มเนือย
“เป็นอะไร” เจ้าของห้องเอ่ยถาม เมื่อเพื่อนเดินช้าๆ ตรงไปนั่งบนโซฟาอย่างหมดแรง ทำให้คนที่กำลังดื่มน้ำอยู่หน้าตู้เย็นต้องเดินมานั่งลงข้างๆ
“วันนี้พี่ตฤณไปหาเราที่บริษัทอีกแล้ว”
เสียงถอนหายใจดังมาจากพรรษา และมองบุญญาพรอย่างค้นคว้านิ่งนาน
“อยากกลับไปคืนดีกับเขาใช่ไหม”
คำถามของอีกฝ่ายช่างตรงใจจนบุญญาพรต้องก้มหน้านิ่ง พรรษาส่ายหน้าเพราะความอ่อนใจ
“ชีวิตเป็นของแกนะบิว จะเลือกแบบไหนฉันก็คงจะห้ามไม่ได้ แต่จะบอกเอาไว้ให้นะ จากที่เคยพบเจอมานักต่อนัก คนที่กล้านอกใจคนรักที่ลำบากด้วยกันมาได้เนี่ย ไม่มีคนไหนที่จะเลิกนิสัยแบบนี้ได้เลยสักคน ส่วนใหญ่ก็ไม่ทิ้งนิสัยเดิม สุดท้ายก็กลับไปทำซ้ำอีก แกอยากเป็นแบบนั้นเหรอ อยากเจ็บซ้ำๆ อีกเหรอ”
“เปิดสิคะ” บุญญาพรบอกเขาพลางยิ้มกว้าง ดวงตาของหล่อนเป็นประกายวิบวับ ชายหนุ่มยิ้มตอบพลางเอ่ยออกมาเบาๆ“อะไรน้า” ว่าแล้วเขาก็ค่อยๆ บรรจงเปิดกล่องเล็กๆ ในมือของตนเอง พอเปิดออกเขาก็ต้องชะงักงัน หัวใจเต้นแรงรัวด้วยความรู้สึกอื้ออึง สมองพร่าเบลอไปชั่วขณะ อาการนิ่งอึ้งของเขาทำให้คนในร้านต่างเงียบพากันลุ้นว่าข้างในนั้นคืออะไรเมื่อชายหนุ่มหยิบแผ่นตรวจการตั้งครรภ์ออกมา แล้วสบตาหญิงสาวด้วยสายตาเป็นคำถาม บุญญาพรจึงพยักหน้ายิ้ม เพียงแค่นั้น หัวใจของชายหนุ่มก็กระเด้งกระดอน ก่อนจะเอ่ยออกมา“ท้องจริงเหรอ”“จริงสิ ดีใจไหม” คนที่ถามแก้มแดงปลั่ง ทำให้คนที่นัยน์ตาเป็นประกายพราวยิ้มกว้าง แล้วชูแผ่นตรวจการตั้งครรภ์ในมือของตนเองขึ้นสุดแขนพร้อมตะโกนออกมาด้วยความดีใจสุดขีด “เมียผมท้องแล้ว ผมกำลังจะมีลูก เย่!”สิ้นเสียงของชายหนุ่ม คนในร้านต่างตะโกนแสดงความยินดีต่อเจ้าของร้านหมูกระทะหนุ่มอย่างอื้ออึง พร้อมดนตรีที่ดังขึ้นอย่างสนุกสนานเพื่อแสดงความยินดีกับสองหนุ่มสาวเจ้าของร้านภาพสวมกอดภรรยาสาวของภคภัทรบาดตาบาดใจแม่หม้ายสาวไม่พอ เขายังจูบริมฝีปากนุ่มตอกย้ำความรักที่มีต่อภรรยาสาวเพียงผู้เดียวจนหญิงสาวตกใจหน้าแดง
หน้าหนาวมาเยือนอีกครั้ง แต่ก็เป็นหนาวที่ไม่ถึงกับหนาวจนตัวสั่นงันงก คู่รักสองคู่กำลังนั่งกินหมูกระทะอยู่บนดอยซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ผู้คนยังบางเบาเพราะแทบจะไม่ได้ทำการโพรโมต ก็เป็นเรื่องดีสำหรับคู่รักทั้งสองที่จะเที่ยวได้อย่างอิสระ ไม่ต้องเบียดเสียด แย่งกันกินแย่งกันเที่ยวเหมือนที่อื่น “มึงได้ข่าวไอ้ตฤณมั่งไหมวะ” จู่ๆ บริวัฒน์ก็เอ่ยถามขึ้น ภคภัทรสบตาเพื่อนแล้วนิ่งไปอึดใจ“ได้ข่าวว่ามันไปนอกนานแล้ว จากนั้นก็ไม่ได้ข่าวมันอีก เพื่อนๆ คนอื่นก็ไม่มีใครรู้ว่ามันไปทำอะไร”ต่างคนต่างเงียบกันไปพักใหญ่ เพราะจมอยู่ในความคิดของตัวเอง เส้นทางเดินของตฤณนั้นไม่มีใครรู้ ทว่าพวกเขายังเอาใจช่วยให้ฝ่ายนั้นพบเจอสิ่งที่ดีเสมอ“หวังว่ามันจะโชคดี” บริวัฒน์เอ่ยออกมาอีกประโยค ขณะที่ภคภัทรหลุบตาลง ก่อนจะตัดบทเสีย “ตกลงมึงว่าไงเรื่องพรีม” ถามเพื่อนพลางมองไปยังภรรยาและน้องสาวที่กำลังยืนคุยกันอยู่ไม่ไกลนัก ดึงความคิดของบริวัฒน์กลับมาอยู่กับปัจจุบัน“กูคุยกับป๊าม้าเรียบร้อยแล้ว กลับไปถึงจะส่งข่าวอีกทีว่าวันไหน”ภคภัทรพยักหน้ายิ้มอย่างพอใจ เพื่อนกำลังเตรียมแต่งขันหมากสู่ขอน้องสาวของเขา“แล้วมึ
บทพิเศษภาพในวันแต่งงานตั้งเด่นอยู่บนโต๊ะอ่านหนังสือในห้องนอน ทุกครั้งที่บุญญาพรมองไปหญิงสาวมักจะหยุดดูด้วยสายตาอ่อนโยน เจ้าบ่าวของหล่อนเป็นคนมีเสน่ห์ทั้งตัวจริงและในรูปภาพ ใครจะว่าหล่อนหลงสามีก็ยอม ในเมื่อสามีของหล่อนทั้งหล่อและดีขนาดนี้ใครจะไม่รักไม่หลงกันล่ะ แต่งงานได้สามเดือนหญิงสาวก็ลาออกจากงานที่ทำมานานหลายปี เพราะต้องการออกไปทำหน้าที่แม่บ้านให้กับชายหนุ่ม และมีอาชีพใหม่เป็นแม่ค้าขายผักออนไลน์ไปด้วย นอกจากขายผักแล้วหญิงสาวยังขายของแฟชั่นจุกจิก ขายดิบขายดีจนส่งแทบไม่ทันที่ตั้งใจไว้ว่าจะมีลูกกันหลังแต่งงานมีอันต้องพับโครงการไปชั่วคราว เพราะเมื่อเงินทองไหลมาเทมาก็ต้องคว้าเอาไว้ก่อน แต่ทั้งหมดนี้ก็เพื่ออนาคตของเจ้าตัวน้อยในภายภาคหน้านั่นเอง“บิว”“มาแล้วจ้า” ร่างบางเดินตรงไปหาสามีที่กำลังตัดผัก“ช่วยดูให้หน่อยว่าตัวอะไรมันกัดพี่” เขาชี้นิ้วไปด้านหลังให้ภรรยาช่วยดู หญิงสาวจึงวางถาดของว่างลงบนโต๊ะตรงหน้าแล้วเปิดคอเสื้อด้านหลังของสามี ก่อนจะหยิบหมับเข้ากับมดคันไฟตัวร้าย“มดไฟน่ะ นี่แน่ะ แกกล้าดียังไงมากัดผัวฉัน ตายซะเถอะ!”ชายหนุ่มหันไปมองคนที่กำลังบี้มดคันไฟด้วยท่าทางจริงจังก่อนจะหั
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว อีกหนึ่งอาทิตย์ก็จะครบรอบหนึ่งปีที่ภคภัทรกับบุญญาพรคบหากันฉันคนรัก คราวนี้เขาตามคนรักไปกราบพ่อกับแม่ของหญิงสาว และได้เจอพี่น้องของหล่อน พร้อมกับพูดคุยเรื่องสำคัญที่เขาคิดมาสักพักหนึ่งแล้ว“แน่ใจแล้วใช่ไหม ถึงมาพูดเรื่องนี้กับพ่อแม่” คนเป็นมารดายังไม่ลืมว่าช่วงนี้ของปีที่แล้วลูกสาวเพิ่งยกเลิกงานแต่งกับอดีตคนรักที่คบกันมาหกปี แต่มาปีนี้กลับมีผู้ชายร่างสูงใหญ่หน้าตาดีมาขอลูกสาวกับนางและสามีแทน“แน่ใจครับ” เขาตอบว่าที่พ่อตาแม่ยาย พลางหันไปมองคนรักที่นั่งยิ้มอยู่ข้างกัน“หนูแน่ใจ” หญิงสาวบอกกับบิดามารดา พลางมองไปยังพี่ๆ น้องๆ ที่เป็นสักขีพยานอยู่ข้างๆสองสามีภรรยาหันมาสบตากัน ก่อนจะหันมาบอกว่าที่ลูกเขย“ถ้าแน่ใจ ก็พาผู้ใหญ่มาคุยกันอย่างเป็นทางการ พร้อมวันไหนก็นัดมา จากนั้นก็หาฤกษ์ หมั้นเช้าแต่งเย็นไปเลย ไม่ต้องรอนาน ตกลงไหม”เป็นการแต่งงานที่รวดเร็วทันใจวัยพร้อมมีครอบครัวอย่างภคภัทรและบุญญาพรมาก ทำให้คนทั้งสองต่างยิ้มออกมาอย่างเห็นด้วย“ตกลงครับ ผมจะกลับไปบอกกับพ่อ แล้วนัดวันที่แน่นอนอีกทีครับ”บิดาของหญิงสาวพยักหน้า พลางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้วพูดออกมาประโยคห
“บิวไม่สนใจแล้ว ที่ผ่านมาจะนานแค่ไหน ต้องเจออะไรบ้าง สนแค่ตอนนี้เราได้อยู่ด้วยกัน แค่นี้บิวก็พอใจ”คนฟังยิ้มกว้าง เป็นคำพูดที่เขาเองก็พอใจเช่นเดียวกัน จากนั้นหญิงสาวจึงถูกร่างสูงใหญ่อุ้มตรงเข้าไปยังห้องนอน“พี่ขอไปอาบน้ำก่อน อย่าเพิ่งหลับนะ”หญิงสาวลุกขึ้นนั่ง มองร่างสูงกำยำถอดเสื้อผ้าออกเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว แก้มสาวร้อนผ่าวแต่ก็ไม่ยอมละสายตาไปทางอื่น ชื่นชมร่างกายของเขาด้วยความหลงใหลรักใคร่สุดใจชายหนุ่มหันมามองคนหน้ามึนที่มองเขาตาเยิ้ม ก่อนจะรูดกางเกงในออกจากสะโพก แล้วหันหน้าไปสบสายตาคู่งามอย่างท้าทาย คนมองเพิ่งรู้ว่าความรู้สึกลำคอแห้งเป็นผุยผงนั้นเป็นอย่างไรก็ตอนนี้ แต่เพียงไม่นานสิ่งยั่วเย้าตรงหน้าก็หายไปในเสื้อคลุมตัวโต“อาบน้ำด้วยกันไหม” เขาชวน ทำให้หญิงสาวหัวเราะเบาๆ พลางส่ายหน้า“บิวรออยู่นี่ดีกว่า” พูดจบก็ดึงผ้าขึ้นมาห่ม ชายหนุ่มยิ้มกริ่มก่อนจะเดินออกไปยังห้องน้ำที่อยู่ด้านนอก ประมาณสิบห้านาทีชายหนุ่มก็กลับเข้ามาในห้อง เขากดล็อกประตูเรียบร้อยแล้วตรงไปยังเตียงกว้างที่มีบุญญาพรนอนเล่นโทรศัพท์อยู่“เร็วจัง” หญิงสาวลดโทรศัพท์ในมือลง พลางมองคนที่ลงมานั่งข้างๆ เตียง พร้อมกับด
บทส่งท้ายภคภัทรกลับมาถึงคอนโดฯ ในเวลาห้าทุ่มเศษ ทั้งสองสาวยังไม่มีใครหลับ คนที่เปิดประตูให้ก็คือบุญญาพร หญิงสาวยิ้มกว้างพลางยื่นมือไปหมายจะคว้ากระเป๋าของชายหนุ่มไปถือ “ไม่เป็นไร พี่ถือเอง” เขาบอกยิ้มๆ พลางมองเลยไปยังน้องสาวที่กำลังมองมาเช่นกัน“กลับเร็วอะ งานไม่สนุกเหรอ”คนที่ถอดรองเท้าเสร็จก้าวตรงไปยังโซฟาที่น้องสาวนั่งอยู่ มีแมคบุ๊กวางบนตักตัวเอง“สนุกสิ แต่ตอนนี้มันเป็นเวลาส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวน่ะนะ ขืนอยู่ต่อคงได้ถูกด่า” เขาขยี้ผมน้องสาวแล้วนั่งลงข้างๆ โดยมีร่างบางของบุญญาพรนั่งลงบนอาร์มแชร์ไขว่ห้างมองเขาด้วยสายตาเจือยิ้ม“แล้วนี่ยังไม่นอนกันอีก”สองสาวมองหน้ากันก่อนจะยิ้มให้พี่ชาย“เราสองคนรอพี่ภัคน่ะ อันที่จริงพรีมจะเข้านอนแล้ว แต่บิวน่ะสิยืนยันว่าจะอยู่รอพี่ภัค ก็เลยรอเป็นเพื่อน”“งั้นก็ไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องทำงานแต่เช้านี่”“ก็ได้ งั้นไปนอนแล้วนะ” พรรษาบอกพี่ชายก่อนจะหันไปขยิบตากับเพื่อนรักแล้วเดินกลับห้อง“มีอะไรกัน” ภคภัทรเลิกคิ้วพร้อมกับกระดิกนิ้วเรียกคนรัก บุญญาพรยิ้มตอบก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างๆ“ไม่มี พรีมแค่แซวเรา”คำตอบของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มยิ้มขัน“บิวรู้ไหม ว่าพรี