Share

การต่อสู้

last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-28 18:27:43

"เร็น! ทางขวา! หัวมันอยู่ตรงอก!" บาระตะโกน เสียงของเธอเกือบจะถูกกลืนหายไปกับเสียงของเงาปีศาจที่กำลังส่งเสียงคำรามต่ำในลำคอ เสียงที่ฟังดูเหมือนลมหายใจที่เย็นยะเยือกของสัตว์ร้าย เร็นพุ่งตัวหลบเงาปีศาจตัวหนึ่งที่กวาดแขนมาหมายจะฟาดเขาให้แหลกคามือ แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างเผยให้เห็นถึงเงาปีศาจที่สองที่พุ่งเข้ามาจากด้านหลัง เร็นใช้มีดอาคมปัดป้องอย่างรวดเร็ว เสียงมีดกระทบกับความว่างเปล่าของเงาปีศาจดัง ฉะ! ราวกับฟันลงไปในอากาศ

"มันเร็วมาก! สองตัวพร้อมกันแบบนี้...!" เร็นตอบกลับไป มือของเขาที่กำมีดอาคมแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนบ่งบอกถึงความเครียดที่เขากำลังเผชิญอยู่ เหงื่อเริ่มผุดขึ้นที่หน้าผากของเขา

บาระพยายามเพ่งมองนาฬิกาอาคมอีกครั้ง แสงสีแดงยังคงสว่างจ้า แต่จุดที่แสดงตำแหน่งของ "หัว" ของเงาปีศาจกลับกระพริบไม่หยุด เหมือนมันกำลังเคลื่อนที่หรือเปลี่ยนตำแหน่งอยู่ตลอดเวลา "มันเปลี่ยนตำแหน่งจุดอ่อน! เร็น ระวัง! มันพยายามหลอกเรา!"

เงาปีศาจตัวที่สองฉวยโอกาสที่เร็นเสียจังหวะ พุ่งเข้าใส่หมายจะตะปบเขา แต่เร็นพลิกตัวหลบได้อย่างหวุดหวิด เขากลิ้งตัวไปตามพื้นหินที่เต็มไปด้วยเศษซากปรักหักพัง ก่อนจะยันตัวเองขึ้นมาพร้อมกับมีดอาคมในมือ

"ไอ้บ้าเอ๊ย! มันฉลาดกว่าที่เราคิด!" เร็นสบถ "แบบนี้ก็เดายากสิ!"

บาระพยายามตั้งสติ เธอหอบหายใจถี่จากความตื่นเต้นและหวาดกลัว เธอต้องใช้สมาธิอย่างมากในการตีความสัญญาณจากนาฬิกาที่กำลังรวน "ลอง... ลองแทงที่จุดที่นาฬิกาบอกเร็วที่สุด!" บาระเสนอแนะ "มันอาจจะเป็นจุดอ่อนจริง ๆ ที่ปรากฏขึ้นเพียงชั่วเสี้ยววินาที!"

เร็นพยักหน้าเล็กน้อย เขากัดฟันแน่น "ได้! ถ้าอย่างนั้นก็ต้องใช้ความเร็วให้มากกว่านี้!" เขาตัดสินใจพุ่งเข้าใส่เงาปีศาจตัวที่สองทันทีที่มันกำลังจะง้างแขนโจมตีบาระ มีดอาคมในมือของเขากลายเป็นแสงสีเงินพุ่งตรงไปที่ตำแหน่งที่นาฬิกาของบาระระบุเป็นเวลาสั้นที่สุด

ฉัวะ!

เสียงกรีดร้องที่ไม่มีเสียงดังออกมาจากเงาปีศาจตัวนั้น มันบิดเบี้ยวและแตกสลายออกเป็นเศษเสี้ยวสีดำก่อนจะหายไปในอากาศ เหลือเพียงดวงวิญญาณสีเทาหม่นอีกดวงที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ

"อีกหนึ่งแล้ว! บาระ!" เร็นตะโกนบอก บาระไม่รอช้า เธอเปิดฝา ขวดกักเก็บวิญญาณ อีกครั้ง และเริ่มร่ายคาถาด้วยเสียงที่เร็วขึ้นกว่าเดิม

"โอ้ ดวงวิญญาณอันเร่ร่อน บัดนี้จงกลับคืนสู่ที่พำนัก... ด้วยอำนาจแห่งอาคม จงถูกกักเก็บ! บัดนี้!"

แสงสีม่วงอ่อน ๆ พุ่งออกจากปากขวดอีกครั้ง ดูดกลืนดวงวิญญาณที่เหลือเข้าสู่ภายใน และฝาขวดก็ปิดลงอย่างแน่นหนา

ทั้งสองยืนหอบหายใจ ร่างกายของพวกเขาเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ เร็นมองไปรอบ ๆ อย่างระแวดระวัง แต่ก็ไม่พบวี่แววของเงาปีศาจตัวสุดท้าย หรือตัวอื่น ๆ ที่อาจจะซ่อนอยู่

"มัน... มันไปไหนแล้ว?" บาระถามอย่างหอบเหนื่อย

ทันใดนั้นเอง นาฬิกาอาคมของบาระ ก็พลันส่งเสียงเตือนอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่เสียงกระพริบ แต่เป็นเสียงเตือนยาวที่ฟังดูเหมือนสัญญาณอันตรายขั้นสูงสุด แสงสีแดงที่เคยสว่างจ้ากลับกลายเป็นสีม่วงเข้มอย่างน่าขนลุก และเข็มนาฬิกาก็ชี้ตรงไปยังจุดหนึ่งที่กลางโถงทางเดิน… จุดที่หีบปริศนาที่พวกเขาเจอที่โรงเรียนควรจะอยู่

"มันบอกว่า... มันอยู่ตรงนั้น!" บาระชี้ไปที่กลางโถง "แต่ไม่มีอะไรเลยนี่?"

เร็นเดินนำไปอย่างช้า ๆ มือยังคงกำมีดอาคมแน่น ดวงตาของเขาจ้องมองไปยังจุดที่บาระชี้ "ฉันรู้สึกถึงพลังงานที่รุนแรงมากตรงนี้ บาระ... มันเป็นพลังงานที่แตกต่างจากเงาปีศาจที่เราเจอมา มันแข็งแกร่งกว่ามาก"

ขณะที่เขาก้าวเข้าไปใกล้ แรงกดดันในอากาศก็ยิ่งเพิ่มขึ้นจนรู้สึกเหมือนถูกบีบอัด รอบ ๆ ตัวพวกเขามืดมิดลงกว่าเดิม แม้แต่แสงจันทร์ที่เคยส่องลอดเข้ามาก็ดูเหมือนจะถูกดูดกลืนหายไปในความมืดนั้น

"มันกำลังก่อตัวขึ้น!" บาระร้องเสียงหลง เมื่อแสงสีม่วงเข้มจากนาฬิกาของเธอเริ่มสว่างวาบราวกับกำลังจะระเบิดออก

พื้นหินเก่าแก่ที่เท้าของพวกเขาสั่นสะเทือนเบา ๆ เสียงครืนครั่นดังมาจากใต้พื้นดิน ราวกับบางสิ่งกำลังตื่นขึ้นจากหลับใหล รอยร้าวปรากฏขึ้นบนพื้นหิน และจากรอยร้าวนั้น เงาขนาดมหึมา ก็ค่อย ๆ ผุดขึ้นมา เงาที่สูงเสียดฟ้าจนศีรษะชนเพดานที่พังทลายของปราสาท รูปร่างของมันบิดเบี้ยวและไม่แน่นอน แต่ก็สัมผัสได้ถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่แผ่ซ่านออกมาจากมัน

ดวงตาของเงาปีศาจตนนั้นเป็นสีแดงก่ำราวกับถ่านเพลิงที่ลุกโชน มันไม่ได้มีดวงตาเดียว แต่มีดวงตานับสิบดวงที่กระพริบระยับอยู่บนร่างกายของมันที่เต็มไปด้วยหนามแหลมคม เสียงคำรามของมันไม่ได้เป็นเสียงลม แต่เป็นเสียงที่สั่นสะเทือนจิตใจราวกับเสียงกรีดร้องของดวงวิญญาณนับพันที่ถูกทรมาน

"นี่มัน... อะไรกันเนี่ย?!" เร็นอุทานด้วยความตกใจอย่างแท้จริง มือของเขาเริ่มสั่นคลอน มีดอาคมในมือดูเล็กจ้อยไปถนัดตาเมื่อเทียบกับขนาดของปีศาจตรงหน้า

"มันคือ... ปีศาจผู้เฝ้าประตู" บาระพูดเสียงแผ่ว ใบหน้าของเธอซีดเผือด "ฉันเคยอ่านเจอในตำนาน... ว่าปราสาทโบราณที่เชื่อมกับมิติอื่น มักจะมีผู้เฝ้าประตูที่แข็งแกร่งคอยปกป้อง..."

"ผู้เฝ้าประตู? หมายความว่ามันไม่ใช่เงาปีศาจธรรมดาใช่ไหม?" เร็นถาม

"ใช่... มันคือแกนกลางของพลังงานเงาปีศาจทั้งหมดในปราสาทนี้ ถ้าเรากำจัดมันได้... เงาปีศาจตัวอื่น ๆ ก็อาจจะอ่อนแอลงหรือหายไปเลยก็ได้" บาระตอบ แต่เสียงของเธอเต็มไปด้วยความไม่มั่นใจ "แต่มัน... มันแข็งแกร่งเกินไป"

เงาปีศาจผู้เฝ้าประตูยกแขนข้างหนึ่งขึ้น มันไม่ได้มีรูปร่างที่ชัดเจน แต่เป็นแขนที่ประกอบขึ้นจากเงาที่รวมตัวกันหนาแน่น แขนนั้นกวาดลงมาหมายจะฟาดบาระและเร็นให้แหลก เร็นไม่รอช้า เขากระโดดเข้าใส่บาระและผลักเธอให้หลบพ้นการโจมตีได้อย่างหวุดหวิด แรงกระแทกจากการโจมตีของปีศาจทำให้พื้นปราสาทสั่นสะเทือน และเศษหินก็ถล่มลงมาจากเพดาน

"บาระ! หาหัวมันให้เจอ! เร็วเข้า!" เร็นตะโกนขณะที่เขายืนขึ้นพร้อมมีดอาคม แม้จะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแทงเข้าที่หัวของปีศาจขนาดมหึมาเช่นนี้

บาระพยายามอีกครั้ง เธอจ้องมองนาฬิกาอาคมของเธออย่างตั้งใจ แสงสีม่วงเข้มจากนาฬิกายังคงชี้ไปที่จุดเดิมบนร่างกายของปีศาจ แต่คราวนี้มันไม่ได้กระพริบ มันสว่างคงที่ราวกับกำลังบอกว่าจุดอ่อนนั้นอยู่ตรงนั้นจริง ๆ

"เร็น! มัน... มันอยู่ตรงกลางอกของมัน! ใกล้ ๆ กับหัวใจ! แต่มันถูกป้องกันด้วยหนามแหลมคม!" บาระตะโกนบอก

"บ้าเอ๊ย! หนามคมขนาดนั้นฉันเข้าไปใกล้ไม่ได้!" เร็นมองไปที่หนามแหลมคมที่ปกคลุมทั่วร่างของปีศาจ โดยเฉพาะบริเวณอกที่หนามเหล่านั้นหนาแน่นและยาวกว่าส่วนอื่น ๆ "ต้องทำยังไงถึงจะเข้าไปได้?!"

เงาปีศาจผู้เฝ้าประตูคำรามอีกครั้ง เสียงคำรามนั้นทรงพลังจนทำให้กระจกหน้าต่างที่ยังไม่แตกสั่นสะเทือนและระเบิดออก เศษกระจกกระเด็นไปทั่วพื้น

"เราต้องเบี่ยงเบนความสนใจของมันก่อน!" บาระเสนอ "แล้วนายก็ฉวยโอกาสเข้าไปแทง!"

"จะเบี่ยงเบนยังไงล่ะ! มันดูไม่สะทกสะท้านอะไรเลย!" เร็นตอบกลับมา เขากำลังพยายามคิดหาวิธี แต่ปีศาจตนนี้เหนือกว่าที่พวกเขาเคยเจอมาทั้งหมด

จู่ ๆ บาระก็เหลือบไปเห็นเสาหินที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากพวกเขา เสาหินนั้นใหญ่โตและดูมั่นคง แต่ก็มีรอยร้าวอยู่บนพื้นผิว

"เร็น! เสานั่น!" บาระชี้ไปที่เสา "ถ้าเราโค่นเสานั้นลงไป มันอาจจะเบี่ยงเบนความสนใจของมันได้!"

เร็นมองตามสายตาของบาระ "แต่เสานั่นใหญ่มากนะ! ฉันคนเดียวทำไม่ได้หรอก!"

"ลองใช้มีดอาคมของนายสิ! ถ้ามันแทงเงาปีศาจได้ มันก็น่าจะแทงเสาหินได้!" บาระพูดด้วยความหวัง

เร็นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น เขาพยักหน้าและพุ่งตัวไปที่เสาหินทันที โดยมีบาระวิ่งตามหลังเพื่อคอยดูสถานการณ์

"เอาล่ะ... มาดูกันว่ามีดบ้า ๆ นี่จะทำอะไรได้บ้าง!" เร็นพูดพลางยกมีดอาคมขึ้นหมายจะฟันลงไปที่โคนเสาอย่างแรง

แต่ก่อนที่เขาจะได้ลงมือ เงาปีศาจผู้เฝ้าประตูก็พลันขยับตัว มันไม่ได้โจมตีพวกเขาโดยตรง แต่กลับส่งคลื่นพลังงานสีดำออกมาจากร่างกาย คลื่นพลังงานนั้นพุ่งตรงไปที่บาระและเร็นอย่างรวดเร็ว

"หลบ!" เร็นตะโกน เขาดึงบาระให้หลบหลังเสาหินได้ทันเวลา คลื่นพลังงานพุ่งผ่านพวกเขาไปกระทบกับผนังปราสาทที่อยู่ด้านหลัง และผนังนั้นก็พังทลายลงมาเป็นผุยผง สร้างเสียงครืนครั่นกึกก้องไปทั่วทั้งปราสาท

"มันโจมตีไม่ได้แค่ระยะประชิด!" บาระพูดด้วยความตกใจ ใบหน้าของเธอขาวซีด "เราจะทำยังไงดีเร็น? มันแข็งแกร่งเกินไป!"

เร็นหอบหายใจหนัก เขามองไปที่บาระ ดวงตาของเขาสะท้อนความรู้สึกท้อแท้ที่แทบจะมองไม่เห็น "ฉัน... ฉันไม่รู้ บาระ เราอาจจะ..." คำพูดของเขาขาดหายไปกลางคัน ความคิดที่จะยอมแพ้เริ่มผุดขึ้นมาในใจ

แต่แล้วเสียงสัญญาณจากนาฬิกาอาคมของบาระก็พลันเปลี่ยนไปอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่แสงสีม่วงเข้ม แต่เป็นแสงสีเขียวอ่อนที่กระพริบอย่างรวดเร็ว และมีเสียงเหมือน "ปี๊บ ๆ" คล้ายสัญญาณเตือนเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด

"แบตเตอรี่ใกล้หมด!" บาระอุทาน "ถ้าแบตหมด เราก็จะรู้ไม่ได้ว่าจุดอ่อนมันอยู่ตรงไหน และเราก็ไม่รู้ว่าจะดูดวิญญาณมันยังไง!"

สถานการณ์ยิ่งแย่ลงไปอีก พวกเขาไม่มีเวลามากนักในการตัดสินใจ ไม่เช่นนั้นพวกเขาอาจจะติดอยู่ในปราสาทร้างแห่งนี้ตลอดกาล หรือที่เลวร้ายกว่านั้น... กลายเป็นเหยื่อของเงาปีศาจผู้เฝ้าประตูตนนี้

"ต้องลองแล้วบาระ!" เร็นตัดสินใจ เขากลับมามีความมุ่งมั่นอีกครั้ง ดวงตาของเขากลับมาฉายแววแน่วแน่ "ถึงจะยากแค่ไหน เราก็ต้องลอง! เราจะไม่มีวันยอมแพ้!"

บาระมองหน้าเร็น เธอเห็นความตั้งใจในแววตาของเขา และนั่นก็เป็นแรงผลักดันให้เธอรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาอีกครั้ง เธอพยักหน้าอย่างหนักแน่น

"โอเค เร็น! ฟังฉันนะ!" บาระเริ่มวางแผน "ฉันจะพยายามใช้พลังงานที่เหลือของนาฬิกาเพื่อหาจุดอ่อนที่แท้จริงให้ได้นานที่สุด นายต้องพยายามหาจังหวะที่มันโจมตี ให้มันเผยจุดอ่อนออกมา แล้วแทงเข้าไป!"

เร็นพยักหน้า "ได้เลย! แต่เธอต้องระวังตัวด้วยนะ บาระ! อย่าให้มันเข้าใกล้เธอได้เด็ดขาด!"

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • 5/B ปราสาทต้องคำสาป   เส้นทางที่บิดเบือน

    หลังจากที่เร็นช่วยบาระออกมาจากกับดักที่ปีกทิศใต้ได้สำเร็จ ทั้งคู่รีบออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ หอสังเกตการณ์ทิศใต้ ซึ่งเป็นที่ซ่อนของผ้ายันต์ผืนสุดท้าย พวกเขาใช้ แผนที่สู่จุดเริ่มต้น ที่ได้จากบาลาซาร์เป็นเครื่องนำทาง"แผนที่บอกว่าเราต้องผ่านซากปรักหักพังเก่า ๆ ทางทิศใต้ไปอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง" บาระกล่าวขณะที่ใช้แท่นแก้วใส (กุญแจอาคม) ชี้ทิศทางเร็นพยักหน้า "ต้องระวังให้มาก บาระ พวกเงาปีศาจรู้แล้วว่าเรากำลังจะถึงจุดสุดท้ายของการรวบรวมผ้ายันต์ พวกมันจะส่งทุกอย่างที่มีมาขวางทางเราแน่"เมื่อพวกเขาเดินเข้าสู่บริเวณที่เป็นซากปรักหักพังที่มีกำแพงหินสูงใหญ่เรียงรายอยู่มากมาย ทันใดนั้น แสงรอบตัวก็พลันบิดเบือน พวกเขารู้สึกเหมือนโลกกำลังหมุน ภาพเบื้องหน้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว"เร็น! นี่มันไม่ใช่แค่ซากปรักหักพัง!" บาระอุทานด้วยความตื่นตระหนก "กำแพงมันเปลี่ยนทิศทาง! เราถูกดึงเข้ามาในอาณาเขตอาคม!"พวกเขาพบว่าตัวเองยืนอยู่กลาง เขาวงกตที่ไร้จุดสิ้นสุด ที่ทำจากกำแพงหินสีดำขัดเงาสูงเสียดฟ้า กำแพงเหล่านี้ไม่ได้อยู่นิ่ง แต่ เลื่อนและเปลี่ยนตำแหน่ง ได้เองตามความตั้งใจของพลังงานมืดมิด"เขาวงกต! นี่คือ เขาวงกตแห

  • 5/B ปราสาทต้องคำสาป   การได้มาซึ่งผ้ายันต์แห่งการฟื้นฟูชีวิต

    เร็นและบาระใช้ กุญแจอาคม ที่ได้มาจากบาลาซาร์ในการเปิดประตูมิติที่นำไปสู่ สวนต้องห้าม (The Forbidden Gardens) สวนแห่งนี้ไม่ได้มืดมิดเหมือนปราสาท แต่กลับสวยงามอย่างน่าขนลุก ทุกอย่างเป็นสีเขียวมรกตและมีหมอกบาง ๆ ปกคลุมพวกเขาต้องฝ่าฟันกับ กับดักแห่งชีวิต ที่ซับซ้อน: พืชกินคน ที่มีพลังอาคม, ภูติพฤกษา ที่โจมตีด้วยภาพลวงตาแห่งความอุดมสมบูรณ์, และ ทางเดินที่บิดเบือน กาลเวลาในที่สุด พวกเขาก็มาถึงแท่นบูชาที่อยู่ใจกลางสวน ที่นั่น ผ้ายันต์ผืนที่ 4 (ผ้ายันต์แห่งการฟื้นฟูชีวิต) เรืองแสงสีทองอร่ามอยู่"เราทำได้แล้วเร็น!" บาระเอื้อมมือไปเก็บผ้ายันต์ไว้ในทันที พลังงานฟื้นฟู ที่อ่อนโยนแต่ทรงพลังแผ่ออกมาจากผ้ายันต์ผืนนั้น ทำให้ความอ่อนล้าของพวกเขาบรรเทาลงทันที"ผืนที่สี่แล้วบาระ" เร็นยิ้มอย่างโล่งอก "เหลืออีกแค่ผืนเดียวเท่านั้น... ผ้ายันต์แห่งการหยุดยั้ง!"บทที่ 2: กับดักมรณะและการถูกจับกุมพวกเขาใช้เวลาพักฟื้นเล็กน้อยในสวนต้องห้าม และใช้ แผนที่สู่จุดเริ่มต้น ที่ได้จากบาลาซาร์นำทาง พวกเขาต้องเดินทางผ่าน ปีกทางทิศใต้ของปราสาท เพื่อไปยังผ้ายันต์ผืนสุดท้ายที่เชื่อว่าถูกซ่อนอยู่ในหอสังเกตการณ์ทิศใต้เมื่อ

  • 5/B ปราสาทต้องคำสาป   ของ10อย่าง

    เร็นและบาระปีนขึ้นไปถึงชั้นบนสุดของหอคอยหลักของปราสาทอย่างทุลักทุเล หลังจากเอาชนะผู้บัญชาการเงา 10 ตนมาได้ พวกเขาทั้งเหนื่อยล้าแต่ก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ที่นั่นเป็นห้องขนาดใหญ่ มี คริสตัลเงาสีดำ ขนาดมหึมาลอยอยู่กลางอากาศ มันคือแหล่งพลังงานหลักที่แผ่ความมืดมิดไปทั่วปราสาทเมื่อพวกเขาเตรียมตัวที่จะใช้ ดาบแห่งพันธะสมบูรณ์ ทำลายคริสตัล ทันใดนั้น แสงสีทองอร่าม ก็พลันสาดส่องลงมาจากเพดานผู้พิทักษ์ ตนหนึ่งพลันปรากฏตัวขึ้น! เขาไม่ได้ดูเหมือนปีศาจเงาหรือภูตน้ำแข็ง แต่มีรูปลักษณ์ที่สง่างามราวกับ นักปราชญ์โบราณ ที่ล้อมรอบด้วยอักษรรูนสีทอง"จงหยุด ณ ที่แห่งนี้ ผู้ถูกเลือก" ผู้พิทักษ์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ทรงอำนาจแต่แฝงไว้ด้วยความเมตตา "ข้าคือ 'บาลาซาร์' ผู้พิทักษ์แห่งความสมดุลและหอคอย! ข้ารู้ถึงเจตนาของพวกเจ้า... แต่การทำลายนั้นง่ายเกินไป""เราไม่ได้มาเพื่อต่อสู้กับท่าน บาลาซาร์" บาระกล่าวอย่างระมัดระวัง "เรามาเพื่อหา ผ้ายันต์ผืนที่ 4 และทำลายแหล่งพลังงานที่ชั่วร้ายนี้!"บาลาซาร์ยิ้มอย่างขมขื่น "ผ้ายันต์ผืนที่ 4 ไม่ได้อยู่ที่นี่... แต่มันถูกซ่อนอยู่ใน สวนต้องห้าม และมี กุญแจอาคม ที่จำเป็นในการเปิ

  • 5/B ปราสาทต้องคำสาป   การเบี่ยงเบนเส้นทางและจุดมุ่งหมายใหม่

    เร็นและบาระไม่ได้มุ่งหน้าสู่ สวนต้องห้าม ทันทีตามที่มาวินสั่ง หลังจากเดินทางผ่านอุโมงค์ลับและออกมาสู่ทางเดินหลักของปราสาท บาระหยุดชะงัก"เร็น... ฉันคิดว่าเราไม่ควรไปสวนต้องห้ามตอนนี้" บาระกล่าวขณะที่มองไปยังยอด หอคอยหลัก ที่สูงเสียดฟ้าของปราสาทที่ปกคลุมด้วยเงามืด"ทำไมล่ะบาระ? มาวินสั่งให้เราไป..." เร็นถามด้วยความแปลกใจ"พลังงานมืดมิดที่แผ่ออกมาจากหอคอยนั้น รุนแรงกว่าเดิมมาก" บาระอธิบาย "ฉันสัมผัสได้ว่าพวกมันกำลังใช้หอคอยนี้เป็น ศูนย์กลางพลัง ในการควบคุมปีศาจทั้งหมด! ถ้าเราไปหาผ้ายันต์ผืนที่ 4 ทันที โดยที่ปล่อยให้แหล่งพลังงานนี้ทำงานต่อไป... การต่อสู้ของเราก็จะไม่มีวันสิ้นสุด! เราต้องทำลายมันก่อน!"เร็นมองไปยังดาบแห่งพันธะสมบูรณ์ในมือของเขา ดาบนั้นเรืองแสงสีม่วงอ่อน ๆ ราวกับตอบรับกับความมุ่งมั่นของบาระ"ถูกต้อง! เรามีอาวุธใหม่และทักษะใหม่ที่เพิ่งฝึกมา! เราจะทำลายแหล่งกำเนิดพลังงานนี้ก่อน แล้วค่อยไปหาผ้ายันต์ผืนที่ 4! ไปกันเถอะ... สู่หอคอย!"พวกเขาปีนขึ้นไปยังบันไดวนที่ทอดสู่ด้านบนของหอคอย แต่เมื่อพวกเขาเดินมาถึง ชั้นที่สาม ของหอคอย ทางเดินแคบ ๆ ก็พลันถูกสกัดกั้นด้วย ปีศาจเงา ถึง 10 ตน

  • 5/B ปราสาทต้องคำสาป   คำสั่งจากมาวินและผู้บัญชาการที่รอดชีวิต

    เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากการลงอาคมดาบแห่งพันธะสมบูรณ์เสร็จสิ้น มาวินได้เรียก จอมทัพเกรย์ อดีตผู้บัญชาการกองกำลังรักษาพระองค์ที่เหลือรอดเพียงไม่กี่คน และ อดีตองครักษ์ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านอาวุธมาเข้าพบ"จอมทัพเกรย์!" มาวินออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ดาบแห่งพันธะสมบูรณ์ถูกสร้างขึ้นแล้ว! แต่ดาบที่ทรงพลังนี้จะเป็นเพียงเหล็กไร้ค่า หากผู้ใช้ไม่เชี่ยวชาญ! เจ้าจงใช้เวลา 5 วันเต็ม ในการฝึกฝนเร็นและบาระให้สามารถใช้ดาบนี้ได้อย่างคล่องแคล่วและรู้ถึงขีดจำกัดสูงสุดของมัน!"จอมทัพเกรย์เป็นชายร่างกำยำ มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นจากการสู้รบ แต่ดวงตาของเขายังคงส่องประกายด้วยความภักดีและความมุ่งมั่น เขาคุกเข่าลงต่อหน้ามาวิน"พะยะค่ะ ฝ่าบาท! ข้าน้อยจะทำการฝึกฝนพวกเขาอย่างเข้มงวดที่สุด! พวกเขาจะพร้อมออกรบภายใน 5 วัน!"การฝึกฝนถูกจัดขึ้นในบริเวณที่กว้างที่สุดของห้องโถงแห่งพันธะ ที่นี่กลายเป็น สนามฝึกซ้อมชั่วคราว ที่เต็มไปด้วยเหงื่อไคลและความมุ่งมั่นบทที่ 2: การฝึกฝน 5 วันกับดาบแห่งพันธะสมบูรณ์เป้าหมายหลักของการฝึกฝน 5 วันนี้คือการทำให้เร็นสามารถใช้ดาบได้อย่างเป็นธรรมชาติราวกับมันเป็นส่วนหนึ่งของร่า

  • 5/B ปราสาทต้องคำสาป   คำมั่นสัญญาของช่างตีเหล็ก

    มาวิน, เร็น, และบาระกลับมาถึงห้องโถงแห่งพันธะด้วยความเหนื่อยล้า แต่ก็เต็มไปด้วยความสำเร็จ พวกเขามอบ แร่เหล็กแห่งเงาสะท้อน ที่มีประกายคล้ายกระจกให้แก่ไอรอนฮาร์ท ช่างตีเหล็กผู้ยิ่งใหญ่ไอรอนฮาร์ทรับแร่เหล็กนั้นไว้ด้วยความเคารพ เขาใช้มือที่หยาบกร้านสัมผัสผิวของแร่เหล็กราวกับมันเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุด"แร่นี้... เป็นเพียงชิ้นส่วนสุดท้ายที่ขาดหายไป" ไอรอนฮาร์ทกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ "ข้าขอรับรองต่อหน้าเจ้าชายมาวินและผู้ถูกเลือกทั้งสอง... ข้าจะใช้เวลา 3 วันเต็มในการตีเหล็กให้ได้รูปทรง และอีก 1 วันเต็มในการลงอาคมแห่งพันธะสมบูรณ์!"มาวินพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม "ข้าฝากความหวังของอาณาจักรไว้ที่ท่านไอรอนฮาร์ท!""แล้วเราจะทำยังไงในช่วงสี่วันนี้คะ? เราควรไปหาผ้ายันต์ผืนต่อไปเลยไหม?" บาระถามด้วยความกระตือรือร้นมาวินส่ายศีรษะ "ไม่ได้บาระ... การบุกเข้าไปใน สวนต้องห้าม โดยไม่มีอาวุธที่สามารถผนึกพลังมืดมิดได้สมบูรณ์เป็นเรื่องที่อันตรายเกินไป"เอเลน่า ผู้อาวุโสแห่งอาคมก้าวเข้ามาหาพวกเขาด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น "พวกเจ้ายังไม่ได้ใช้เวลาที่นี่อย่างคุ้มค่าเลย... พวกเจ้าอาจได้อาวุธ แต่ คาถาอาค

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status