Home / แฟนตาซี / 5/B ปราสาทต้องคำสาป / เงาร้ายในปราสาทร้าง

Share

5/B ปราสาทต้องคำสาป
5/B ปราสาทต้องคำสาป
Author: ยัยแม่มดแสนน่ารัก

เงาร้ายในปราสาทร้าง

last update Last Updated: 2025-05-28 18:24:53

ท่ามกลางสายลมยามค่ำคืนที่พัดโชยราวกับเสียงกระซิบของวิญญาณ บาระและเร็นยืนอยู่เบื้องหน้าประตูมิติที่เรืองรองด้วยแสงสีคราม ประตูที่นำไปสู่ภารกิจอันตรายเกินกว่าจินตนาการของเด็กนักเรียนธรรมดา ทั้งคู่หันมาสบตากัน ดวงตาฉายแววความแน่วแน่และกังวลในคราวเดียวกัน บาระยื่นมือออกไปจับมือของเร็น ความเย็นจากมือของเร็นที่สัมผัสผิวกายไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกหวาดหวั่นเท่าความรู้สึกตื่นเต้นที่ปะปนกับความกลัวในใจ พวกเขาพยักหน้าให้กันเบา ๆ ราวกับส่งสัญญาณสุดท้าย ก่อนจะก้าวผ่านความมืดมิดของประตูเข้าไปพร้อมกัน

ทันทีที่เท้าของพวกเขาสัมผัสพื้นอีกครั้ง ภาพตรงหน้าก็ไม่ใช่โลกที่คุ้นเคยอีกต่อไป แสงสีครามของประตูมิติพลันจางหายไปแทนที่ด้วยความมืดมิดและหนาวเย็นอันน่าขนลุก พวกเขาหลุดเข้ามายังปราสาทร้างเก่าแก่ที่ถูกทิ้งร้างมาเนิ่นนาน แสงจันทร์สีนวลส่องลอดผ่านช่องหน้าต่างที่แตกหักและรอยร้าวบนกำแพง ลงมายังโถงทางเดินที่เต็มไปด้วยฝุ่นและซากปรักหักพัง ลมกรรโชกพัดแรงจนเกิดเสียงหอนโหยหวนราวกับวิญญาณที่ถูกกักขังอยู่ในปราสาทแห่งนี้

"ลมแรงจัง..." บาระเอ่ยขึ้น เสียงของเธอแผ่วเบาจนแทบถูกกลืนหายไปกับเสียงลมที่พัดผ่านร่าง เธอกอดตัวเองแน่นเพื่อคลายความหนาวเย็นที่กัดกินเข้ามาในกระดูก

เร็นไม่พูดอะไร เขาชู มีดอาคม ที่เรืองแสงจาง ๆ ไปด้านหน้า ดวงตาคมกวาดมองไปรอบทิศทางอย่างระแวดระวัง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น "พวกแกอยู่ไหน! ออกมาเดี๋ยวนี้!" เสียงของเขาดังก้องไปทั่วโถงทางเดิน แต่ก็มีเพียงเสียงสะท้อนกลับมา และเสียงลมที่พัดแรงขึ้นราวกับจะเยาะเย้ยความพยายามของเขา

ไม่มีสิ่งใดปรากฏขึ้น ไม่มีเงาปีศาจตนใดโผล่ออกมาจากมุมมืด มีเพียงเสียงลมที่พัดผ่านซากปรักหักพังและกระดูกเก่าแก่ที่เกลื่อนพื้น

"หรือพวกมันจะไม่ได้อยู่ที่นี่...?" บาระพูดอย่างลังเล เธอเงยแขนขึ้นมามอง นาฬิกาอาคม ที่ข้อมือ หน้าปัดของนาฬิกาเป็นสีดำสนิท ไม่มีสัญญาณบ่งบอกถึงเงาปีศาจที่อยู่ใกล้เคียงเลยแม้แต่น้อย ความผิดหวังฉายชัดในแววตาของเธอเล็กน้อย

เร็นลดมีดลงแต่ยังคงอยู่ในท่าพร้อมรับมือ "งั้นเราลองไปดูรอบ ๆ กันเถอะ" เขาพูดพลางหยิบไฟฉายขนาดเล็กออกมาจากกระเป๋าสะพายหลัง แสงไฟสีเหลืองส่องสว่างนำทางไปข้างหน้า เผยให้เห็นภาพที่น่าขนลุกของโถงทางเดินที่ยาวเหยียดออกไป ความมืดมิดที่ปลายทางดูเหมือนจะกลืนกินทุกสิ่งอย่าง ไม่มีทางออกที่ชัดเจน มีเพียงกำแพงหินที่ผุพังและเพดานที่พังถล่มลงมาเป็นบางส่วน

เสียงฝีเท้าของพวกเขาดังก้องไปทั่วความเงียบงันของปราสาท เสียงลมที่พัดผ่านซอกมุมต่าง ๆ สร้างเสียงหอนโหยหวนคล้ายเสียงครวญครางของบางสิ่ง ลมไม่ได้พัดมาเป็นระลอก แต่มันพัดอย่างต่อเนื่องและแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนเสื้อผ้าของพวกเขาปลิวไสว ผนังปราสาทปกคลุมไปด้วยเถาวัลย์สีดำสนิทที่เลื้อยพันกันเป็นร่างแห ราวกับเส้นเลือดดำที่หล่อเลี้ยงความตายของสถานที่แห่งนี้ กลิ่นอับชื้นของซากปรักหักพังและกลิ่นดินชื้น ๆ คละคลุ้งไปทั่วบรรยากาศ ทุกย่างก้าวของพวกเขาเต็มไปด้วยความระมัดระวัง เพราะไม่รู้ว่าข้างหน้าจะมีอะไรซ่อนอยู่

"ปราสาทนี้มัน... ให้ความรู้สึกแปลก ๆ นะ" บาระกระซิบ เสียงของเธอสั่นเล็กน้อย "มันไม่ใช่แค่ปราสาทร้างธรรมดาใช่ไหมเร็น?"

เร็นหยุดเดิน เขาใช้ไฟฉายส่องไปที่รูปปั้นอัศวินไร้ศีรษะที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางโถง รูปปั้นถูกปกคลุมไปด้วยมอสสีเขียวเข้มและฝุ่นหนาเตอะ "แน่นอน ไม่ใช่แค่ปราสาทร้างธรรมดา" เขาตอบเสียงเรียบ "สัญญาณนาฬิกาอาคมของเธอเงียบแปลว่าพวกมันไม่ได้อยู่ใกล้เราในระยะที่นาฬิกาจับได้ แต่ฉันรู้สึกถึงพลังงานบางอย่าง... มันแผ่ซ่านไปทั่วที่นี่" เขาหันไปมองบาระ ใบหน้าของเขาฉายแววกังวล "บางทีพวกมันอาจจะซ่อนตัวอยู่ลึกกว่าที่เราคิด หรือ... พวกมันอาจจะซ่อนตัวในรูปแบบที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า"

บาระขมวดคิ้ว "เป็นไปได้เหรอ? เงาปีศาจสามารถซ่อนตัวได้ขนาดนั้นเลยเหรอ?" เธอพยายามทำความเข้าใจสิ่งที่เร็นพูด

"ไม่แน่ แต่มันเป็นไปได้ ถ้าพวกมันพัฒนาตัวเองได้จริง ๆ" เร็นตอบ "เราต้องระวังให้มากขึ้นกว่าเดิม"

พวกเขาเดินสำรวจต่อไป ยังคงไร้วี่แววของเงาปีศาจ มีเพียงความมืดมิดและเสียงลมที่โหยหวนราวกับจะขับไล่พวกเขาออกไป บาระรู้สึกได้ถึงสายตาที่มองมาจากเงามืดรอบตัว แม้จะไม่มีใครอยู่ตรงนั้น แต่ความรู้สึกนั้นก็ยังคงอยู่ เธอจับมือของเร็นแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว

จู่ ๆ เสียงฟ้าร้องก็ดังครืนครานขึ้นมาจากภายนอก พร้อมกับสายฝนที่สาดกระหน่ำลงมาอย่างบ้าคลั่ง เสียงหยดน้ำฝนกระทบหลังคาและกำแพงที่พังทลาย สร้างเสียงคล้ายกับการเดินเท้าของกองทัพเงาที่กำลังเข้ามาใกล้

"พายุเข้า!" บาระอุทาน

"แย่แล้ว... ถ้าฝนตกหนักแบบนี้ การมองเห็นก็จะยิ่งลดลง" เร็นพูด ใบหน้าของเขาเคร่งเครียด

ทันใดนั้นเอง แสงไฟฉายของเร็นก็เริ่มกระพริบ และค่อย ๆ หรี่ลงจนดับไปในที่สุด ความมืดมิดเข้าปกคลุมทุกสิ่งอย่างรวดเร็วจนบาระร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ

"เร็น! ไฟฉาย!" บาระพยายามมองผ่านความมืด แต่ก็เห็นเพียงความมืดมิดที่กลืนกินทุกสิ่ง

"แบตหมดเหรอเนี่ย!" เร็นสบถด้วยความหงุดหงิด "ให้ตายเถอะ!" เขาพยายามเขย่าไฟฉาย แต่ก็ไร้ประโยชน์

ในขณะที่ทั้งสองกำลังตกอยู่ในความมืดมิดและไร้ที่พึ่ง สัญญาณบน นาฬิกาอาคมของบาระ ก็พลันเริ่มกระพริบเป็นสีแดงจ้า เสียงเตือนดังรัวอย่างบ้าคลั่ง และเข็มนาฬิกาก็หมุนวนอย่างรวดเร็วราวกับกำลังชี้ไปยังสิ่งที่ไม่ควรอยู่ตรงนั้น

"เร็น! สัญญาณมาแล้ว! มันอยู่ใกล้ ๆ เรานี่เอง!" บาระตะโกน เสียงของเธอเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัว

แทบจะในวินาทีเดียวกันนั้นเอง ลมก็หยุดพัดโดยฉับพลัน ความเงียบเข้าปกคลุมทุกสิ่ง เสียงฝนข้างนอกก็เงียบไปเช่นกัน ราวกับโลกทั้งใบหยุดนิ่งลง มีเพียงเสียงหัวใจของบาระและเร็นที่เต้นระรัวแข่งกับเสียงสัญญาณเตือนของนาฬิกาอาคม

ความเงียบที่น่าขนลุกนี้กินเวลานานราวกับชั่วนิรันดร์ ก่อนที่เงาขนาดใหญ่จะเริ่มก่อตัวขึ้นจากมุมมืดที่ลึกที่สุดของโถงทางเดิน เงาเหล่านั้นรวมตัวกันเป็นรูปร่างคล้ายมนุษย์ สูงใหญ่กว่าพวกเขาถึงสองเท่า ดวงตาสีแดงฉานสองคู่ฉายแววลึกลับออกมาจากความมืด มันไม่ได้มีแค่ตัวเดียว แต่มีถึงสามตัวที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างช้า ๆ ไม่มีเสียงฝีเท้า ไม่มีเสียงลมหายใจ มีเพียงความเย็นเยียบที่แผ่ซ่านออกมาจากพวกมัน และแรงกดดันที่ทำให้บาระและเร็นรู้สึกเหมือนถูกบดขยี้

"นั่นไง... พวกมัน" เร็นกระซิบ มือของเขากำมีดอาคมแน่นจนข้อนิ้วขาวโพลน "เตรียมตัวนะบาระ!"

บาระพยักหน้าอย่างรวดเร็ว เธอหยิบ ขวดกักเก็บวิญญาณ ออกมาจากกระเป๋า เตรียมพร้อมที่จะร่ายคาถา ดวงตาของเธอจดจ้องไปที่เงาปีศาจทั้งสามที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ

"ไม่คิดเลยว่าจะเจอเร็วขนาดนี้..." บาระพึมพำ น้ำเสียงจริงจังขึ้นมาทันที เมื่อความกลัวถูกแทนที่ด้วยความตั้งใจที่จะทำภารกิจให้สำเร็จ

เงาปีศาจตัวแรกพุ่งเข้าโจมตีด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าฟาด เร็นหลบได้หวุดหวิด มีดอาคมในมือของเขาสะบัดไปในอากาศ สร้างเสียงหวีดหวิว

"พวกมันเร็วกว่าที่เราคิด!" เร็นตะโกนบอกบาระขณะที่เขาต้องหลบการโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า "บาระ หาหัวมันให้เจอ!"

บาระพยายามใช้แสงจากนาฬิกาอาคมที่กระพริบระบุตำแหน่งเพื่อมองหา "หัว" ของเงาปีศาจ นาฬิกาไม่ได้แค่เตือนว่าอยู่ใกล้ แต่ยังระบุตำแหน่งของจุดอ่อนได้ด้วย เธอกระจายพลังอาคมเล็กน้อยไปที่นาฬิกาเพื่อให้มันทำงานได้ดีขึ้น แสงสีแดงที่เคยกระพริบอย่างบ้าคลั่งกลับเปล่งประกายคงที่พร้อมกับเส้นแสงบาง ๆ ที่ชี้ไปยังจุดหนึ่งบนร่างกายของเงาปีศาจแต่ละตน

"เร็น! ทางซ้าย! ตรงไหล่มัน!" บาระตะโกนบอกทิศทาง

เร็นไม่รอช้า เขาพุ่งตัวเข้าไปใกล้เงาปีศาจตามที่บาระบอก มีดอาคมในมือของเขาส่องประกายสีเงินวูบวาบในความมืด เขาแทงสวนเข้าไปที่จุดที่บาระบอกอย่างรวดเร็วและแม่นยำ

ฉัวะ!

เสียงคล้ายผ้าถูกกรีดดังขึ้น ร่างของเงาปีศาจพลันสั่นสะท้าน แสงสีดำทะลักออกมาจากรอยแผลที่ถูกแทง ก่อนที่ร่างกายของมันจะเริ่มแตกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และหายไปในอากาศ เหลือไว้เพียงดวงวิญญาณสีเทาหม่นที่ล่องลอยอยู่กลางอากาศ

"จัดการแล้ว! บาระ! เร็วเข้า!" เร็นตะโกนบอกขณะที่เขากำลังรับมือกับเงาปีศาจอีกสองตัวที่เข้ามาโจมตีพร้อมกัน

บาระไม่รอช้า เธอเปิดฝา ขวดกักเก็บวิญญาณ ออก แสงสีม่วงอ่อน ๆ เปล่งออกมาจากปากขวด เธอชูขวดขึ้นไปในอากาศ พลางเริ่มร่ายคาถาด้วยเสียงที่มั่นคงและชัดเจน:

"โอ้ ดวงวิญญาณอันเร่ร่อน บัดนี้จงกลับคืนสู่ที่พำนัก... ด้วยอำนาจแห่งอาคม จงถูกกักเก็บ! บัดนี้!"

ทันทีที่คาถาสิ้นสุดลง แสงสีม่วงจากขวดก็พุ่งออกไปโอบล้อมดวงวิญญาณสีเทาหม่นนั้น ดวงวิญญาณดูเหมือนจะพยายามดิ้นรน แต่ก็ไม่สามารถต้านทานพลังดูดจากขวดได้ มันถูกดูดเข้าไปในขวดอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ฝาขวดจะปิดลงเองอย่างแน่นหนา

บาระถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก เธอเพิ่งเคยทำเป็นครั้งแรก และมันก็สำเร็จ

"เหลืออีกสองตัว!" เร็นตะโกนเตือน ขณะที่เขาต้องใช้มีดป้องกันการโจมตีจากเงาปีศาจทั้งสองตัวที่กำลังรุมเร้า

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • 5/B ปราสาทต้องคำสาป   เส้นทางที่บิดเบือน

    หลังจากที่เร็นช่วยบาระออกมาจากกับดักที่ปีกทิศใต้ได้สำเร็จ ทั้งคู่รีบออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ หอสังเกตการณ์ทิศใต้ ซึ่งเป็นที่ซ่อนของผ้ายันต์ผืนสุดท้าย พวกเขาใช้ แผนที่สู่จุดเริ่มต้น ที่ได้จากบาลาซาร์เป็นเครื่องนำทาง"แผนที่บอกว่าเราต้องผ่านซากปรักหักพังเก่า ๆ ทางทิศใต้ไปอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง" บาระกล่าวขณะที่ใช้แท่นแก้วใส (กุญแจอาคม) ชี้ทิศทางเร็นพยักหน้า "ต้องระวังให้มาก บาระ พวกเงาปีศาจรู้แล้วว่าเรากำลังจะถึงจุดสุดท้ายของการรวบรวมผ้ายันต์ พวกมันจะส่งทุกอย่างที่มีมาขวางทางเราแน่"เมื่อพวกเขาเดินเข้าสู่บริเวณที่เป็นซากปรักหักพังที่มีกำแพงหินสูงใหญ่เรียงรายอยู่มากมาย ทันใดนั้น แสงรอบตัวก็พลันบิดเบือน พวกเขารู้สึกเหมือนโลกกำลังหมุน ภาพเบื้องหน้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว"เร็น! นี่มันไม่ใช่แค่ซากปรักหักพัง!" บาระอุทานด้วยความตื่นตระหนก "กำแพงมันเปลี่ยนทิศทาง! เราถูกดึงเข้ามาในอาณาเขตอาคม!"พวกเขาพบว่าตัวเองยืนอยู่กลาง เขาวงกตที่ไร้จุดสิ้นสุด ที่ทำจากกำแพงหินสีดำขัดเงาสูงเสียดฟ้า กำแพงเหล่านี้ไม่ได้อยู่นิ่ง แต่ เลื่อนและเปลี่ยนตำแหน่ง ได้เองตามความตั้งใจของพลังงานมืดมิด"เขาวงกต! นี่คือ เขาวงกตแห

  • 5/B ปราสาทต้องคำสาป   การได้มาซึ่งผ้ายันต์แห่งการฟื้นฟูชีวิต

    เร็นและบาระใช้ กุญแจอาคม ที่ได้มาจากบาลาซาร์ในการเปิดประตูมิติที่นำไปสู่ สวนต้องห้าม (The Forbidden Gardens) สวนแห่งนี้ไม่ได้มืดมิดเหมือนปราสาท แต่กลับสวยงามอย่างน่าขนลุก ทุกอย่างเป็นสีเขียวมรกตและมีหมอกบาง ๆ ปกคลุมพวกเขาต้องฝ่าฟันกับ กับดักแห่งชีวิต ที่ซับซ้อน: พืชกินคน ที่มีพลังอาคม, ภูติพฤกษา ที่โจมตีด้วยภาพลวงตาแห่งความอุดมสมบูรณ์, และ ทางเดินที่บิดเบือน กาลเวลาในที่สุด พวกเขาก็มาถึงแท่นบูชาที่อยู่ใจกลางสวน ที่นั่น ผ้ายันต์ผืนที่ 4 (ผ้ายันต์แห่งการฟื้นฟูชีวิต) เรืองแสงสีทองอร่ามอยู่"เราทำได้แล้วเร็น!" บาระเอื้อมมือไปเก็บผ้ายันต์ไว้ในทันที พลังงานฟื้นฟู ที่อ่อนโยนแต่ทรงพลังแผ่ออกมาจากผ้ายันต์ผืนนั้น ทำให้ความอ่อนล้าของพวกเขาบรรเทาลงทันที"ผืนที่สี่แล้วบาระ" เร็นยิ้มอย่างโล่งอก "เหลืออีกแค่ผืนเดียวเท่านั้น... ผ้ายันต์แห่งการหยุดยั้ง!"บทที่ 2: กับดักมรณะและการถูกจับกุมพวกเขาใช้เวลาพักฟื้นเล็กน้อยในสวนต้องห้าม และใช้ แผนที่สู่จุดเริ่มต้น ที่ได้จากบาลาซาร์นำทาง พวกเขาต้องเดินทางผ่าน ปีกทางทิศใต้ของปราสาท เพื่อไปยังผ้ายันต์ผืนสุดท้ายที่เชื่อว่าถูกซ่อนอยู่ในหอสังเกตการณ์ทิศใต้เมื่อ

  • 5/B ปราสาทต้องคำสาป   ของ10อย่าง

    เร็นและบาระปีนขึ้นไปถึงชั้นบนสุดของหอคอยหลักของปราสาทอย่างทุลักทุเล หลังจากเอาชนะผู้บัญชาการเงา 10 ตนมาได้ พวกเขาทั้งเหนื่อยล้าแต่ก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ที่นั่นเป็นห้องขนาดใหญ่ มี คริสตัลเงาสีดำ ขนาดมหึมาลอยอยู่กลางอากาศ มันคือแหล่งพลังงานหลักที่แผ่ความมืดมิดไปทั่วปราสาทเมื่อพวกเขาเตรียมตัวที่จะใช้ ดาบแห่งพันธะสมบูรณ์ ทำลายคริสตัล ทันใดนั้น แสงสีทองอร่าม ก็พลันสาดส่องลงมาจากเพดานผู้พิทักษ์ ตนหนึ่งพลันปรากฏตัวขึ้น! เขาไม่ได้ดูเหมือนปีศาจเงาหรือภูตน้ำแข็ง แต่มีรูปลักษณ์ที่สง่างามราวกับ นักปราชญ์โบราณ ที่ล้อมรอบด้วยอักษรรูนสีทอง"จงหยุด ณ ที่แห่งนี้ ผู้ถูกเลือก" ผู้พิทักษ์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ทรงอำนาจแต่แฝงไว้ด้วยความเมตตา "ข้าคือ 'บาลาซาร์' ผู้พิทักษ์แห่งความสมดุลและหอคอย! ข้ารู้ถึงเจตนาของพวกเจ้า... แต่การทำลายนั้นง่ายเกินไป""เราไม่ได้มาเพื่อต่อสู้กับท่าน บาลาซาร์" บาระกล่าวอย่างระมัดระวัง "เรามาเพื่อหา ผ้ายันต์ผืนที่ 4 และทำลายแหล่งพลังงานที่ชั่วร้ายนี้!"บาลาซาร์ยิ้มอย่างขมขื่น "ผ้ายันต์ผืนที่ 4 ไม่ได้อยู่ที่นี่... แต่มันถูกซ่อนอยู่ใน สวนต้องห้าม และมี กุญแจอาคม ที่จำเป็นในการเปิ

  • 5/B ปราสาทต้องคำสาป   การเบี่ยงเบนเส้นทางและจุดมุ่งหมายใหม่

    เร็นและบาระไม่ได้มุ่งหน้าสู่ สวนต้องห้าม ทันทีตามที่มาวินสั่ง หลังจากเดินทางผ่านอุโมงค์ลับและออกมาสู่ทางเดินหลักของปราสาท บาระหยุดชะงัก"เร็น... ฉันคิดว่าเราไม่ควรไปสวนต้องห้ามตอนนี้" บาระกล่าวขณะที่มองไปยังยอด หอคอยหลัก ที่สูงเสียดฟ้าของปราสาทที่ปกคลุมด้วยเงามืด"ทำไมล่ะบาระ? มาวินสั่งให้เราไป..." เร็นถามด้วยความแปลกใจ"พลังงานมืดมิดที่แผ่ออกมาจากหอคอยนั้น รุนแรงกว่าเดิมมาก" บาระอธิบาย "ฉันสัมผัสได้ว่าพวกมันกำลังใช้หอคอยนี้เป็น ศูนย์กลางพลัง ในการควบคุมปีศาจทั้งหมด! ถ้าเราไปหาผ้ายันต์ผืนที่ 4 ทันที โดยที่ปล่อยให้แหล่งพลังงานนี้ทำงานต่อไป... การต่อสู้ของเราก็จะไม่มีวันสิ้นสุด! เราต้องทำลายมันก่อน!"เร็นมองไปยังดาบแห่งพันธะสมบูรณ์ในมือของเขา ดาบนั้นเรืองแสงสีม่วงอ่อน ๆ ราวกับตอบรับกับความมุ่งมั่นของบาระ"ถูกต้อง! เรามีอาวุธใหม่และทักษะใหม่ที่เพิ่งฝึกมา! เราจะทำลายแหล่งกำเนิดพลังงานนี้ก่อน แล้วค่อยไปหาผ้ายันต์ผืนที่ 4! ไปกันเถอะ... สู่หอคอย!"พวกเขาปีนขึ้นไปยังบันไดวนที่ทอดสู่ด้านบนของหอคอย แต่เมื่อพวกเขาเดินมาถึง ชั้นที่สาม ของหอคอย ทางเดินแคบ ๆ ก็พลันถูกสกัดกั้นด้วย ปีศาจเงา ถึง 10 ตน

  • 5/B ปราสาทต้องคำสาป   คำสั่งจากมาวินและผู้บัญชาการที่รอดชีวิต

    เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากการลงอาคมดาบแห่งพันธะสมบูรณ์เสร็จสิ้น มาวินได้เรียก จอมทัพเกรย์ อดีตผู้บัญชาการกองกำลังรักษาพระองค์ที่เหลือรอดเพียงไม่กี่คน และ อดีตองครักษ์ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านอาวุธมาเข้าพบ"จอมทัพเกรย์!" มาวินออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ดาบแห่งพันธะสมบูรณ์ถูกสร้างขึ้นแล้ว! แต่ดาบที่ทรงพลังนี้จะเป็นเพียงเหล็กไร้ค่า หากผู้ใช้ไม่เชี่ยวชาญ! เจ้าจงใช้เวลา 5 วันเต็ม ในการฝึกฝนเร็นและบาระให้สามารถใช้ดาบนี้ได้อย่างคล่องแคล่วและรู้ถึงขีดจำกัดสูงสุดของมัน!"จอมทัพเกรย์เป็นชายร่างกำยำ มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นจากการสู้รบ แต่ดวงตาของเขายังคงส่องประกายด้วยความภักดีและความมุ่งมั่น เขาคุกเข่าลงต่อหน้ามาวิน"พะยะค่ะ ฝ่าบาท! ข้าน้อยจะทำการฝึกฝนพวกเขาอย่างเข้มงวดที่สุด! พวกเขาจะพร้อมออกรบภายใน 5 วัน!"การฝึกฝนถูกจัดขึ้นในบริเวณที่กว้างที่สุดของห้องโถงแห่งพันธะ ที่นี่กลายเป็น สนามฝึกซ้อมชั่วคราว ที่เต็มไปด้วยเหงื่อไคลและความมุ่งมั่นบทที่ 2: การฝึกฝน 5 วันกับดาบแห่งพันธะสมบูรณ์เป้าหมายหลักของการฝึกฝน 5 วันนี้คือการทำให้เร็นสามารถใช้ดาบได้อย่างเป็นธรรมชาติราวกับมันเป็นส่วนหนึ่งของร่า

  • 5/B ปราสาทต้องคำสาป   คำมั่นสัญญาของช่างตีเหล็ก

    มาวิน, เร็น, และบาระกลับมาถึงห้องโถงแห่งพันธะด้วยความเหนื่อยล้า แต่ก็เต็มไปด้วยความสำเร็จ พวกเขามอบ แร่เหล็กแห่งเงาสะท้อน ที่มีประกายคล้ายกระจกให้แก่ไอรอนฮาร์ท ช่างตีเหล็กผู้ยิ่งใหญ่ไอรอนฮาร์ทรับแร่เหล็กนั้นไว้ด้วยความเคารพ เขาใช้มือที่หยาบกร้านสัมผัสผิวของแร่เหล็กราวกับมันเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุด"แร่นี้... เป็นเพียงชิ้นส่วนสุดท้ายที่ขาดหายไป" ไอรอนฮาร์ทกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ "ข้าขอรับรองต่อหน้าเจ้าชายมาวินและผู้ถูกเลือกทั้งสอง... ข้าจะใช้เวลา 3 วันเต็มในการตีเหล็กให้ได้รูปทรง และอีก 1 วันเต็มในการลงอาคมแห่งพันธะสมบูรณ์!"มาวินพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม "ข้าฝากความหวังของอาณาจักรไว้ที่ท่านไอรอนฮาร์ท!""แล้วเราจะทำยังไงในช่วงสี่วันนี้คะ? เราควรไปหาผ้ายันต์ผืนต่อไปเลยไหม?" บาระถามด้วยความกระตือรือร้นมาวินส่ายศีรษะ "ไม่ได้บาระ... การบุกเข้าไปใน สวนต้องห้าม โดยไม่มีอาวุธที่สามารถผนึกพลังมืดมิดได้สมบูรณ์เป็นเรื่องที่อันตรายเกินไป"เอเลน่า ผู้อาวุโสแห่งอาคมก้าวเข้ามาหาพวกเขาด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น "พวกเจ้ายังไม่ได้ใช้เวลาที่นี่อย่างคุ้มค่าเลย... พวกเจ้าอาจได้อาวุธ แต่ คาถาอาค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status