Home / แฟนตาซี / 90 วันก่อนฉันเป็นศพ / บทที่ 3-2-วิญญาณดวงที่หนึ่ง (2)

Share

บทที่ 3-2-วิญญาณดวงที่หนึ่ง (2)

last update Last Updated: 2025-05-29 19:30:41

ทั้งสองคนแทบจะไม่ได้พบกันอีกเลยหลังจากเรียนจบ จนวันหนึ่งนิรมลได้พบชมพูนุทตอนกลางวันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งแถวบริษัท

“ชมพูจริงๆ ด้วย เธอมาทำอะไรแถวนี้ล่ะ”

นิรมลทักทายเพื่อนด้วยความดีใจ ชมพูนุทเองก็ยินดีที่ได้พบเจอเพื่อนอีกครั้ง แต่สีหน้าอีกฝ่ายดูเศร้าสร้อย หญิงสาวรีบถามเพื่อน

“เป็นอะไรหรือเปล่าชมพู มีอะไรเล่าให้นิวฟังได้นะ”

“ฉันหางานทำอยู่น่ะ นี่ฉันเป็นคนว่างงานมาสามเดือนแล้ว ไปสมัครงานไว้ก็ยังไม่มีที่ไหนเรียกไปทำเสียที ถ้าเดือนนี้ยังไม่มีงานทำอีก ฉันคงต้องกลับบ้านนอกแล้วละ”

น้ำเสียงของชมพูนุทฟังดูน่าสงสารและน่าเห็นใจ นิรมลนิ่งคิด จะช่วยเหลือเพื่อนอย่างไรดีนะ แล้วหญิงสาวก็นึกอะไรขึ้นมาได้

“ชมพูไปสมัครงานที่บริษัทของนิวสิ ตอนนี้กำลังเปิดรับสมัครประชาสัมพันธ์อยู่ ถ้าโชคดีเธออาจจะได้มาทำงานด้วยกันนะ”

ชมพูนุทพยักหน้ารับคำ เธอไปสมัครงานที่บริษัทตามคำแนะนำของนิรมล และชมพูนุทก็ได้เข้ามาทำงานที่บริษัทด้วยกัน

............................................

เช้าวันรุ่งขึ้น นิรมลมาทำงานตามปกติ เธอลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวาน หญิงสาวเดินไปยังห้องอาหารของบริษัท

นิรมลหยิบนมไปไว้ในตู้เย็น ขณะที่กำลังจะออกจากห้องอาหาร เธอก็ได้เจอวิญญาณแก้วตาอีกครั้ง คราวนี้มายืนอยู่ที่ประตูห้อง เบิกตาโพลงจนเห็นว่าทั้งดวงตาเป็นสีดำ ซ้ำยังมีเลือดไหลทะลักออกมาจากเบ้าตา จมูกและปาก หญิงสาวหน้าซีด ตกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า ใจเต้นระรัวราวกับตีกลอง อยากจะกรีดร้องแต่กลับร้องไม่ออก

“นิว!”

เสียงเรียกหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง นิรมลสะดุ้งตกใจจนเอกภพรีบเดินเข้ามาดู

“นิว...เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าซีดจัง”

“ช่วยด้วย...”

นิรมลหน้าซีดลงไปอีก ตัวเริ่มสั่นด้วยความกลัว หันมาจับแขนเอกภพไว้แน่น

“หนึ่งพานิวไปห้องทำงานทีสิ...นะ...นิวกลัว”

เอกภพค่อยๆ พยุงพานิรมลไปที่ห้องทำงาน หญิงสาวยังคงตัวสั่น เขามองเธอด้วยสีหน้าเป็นห่วง ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นอะไรกันแน่

“นิวเป็นอะไรน่ะ ไม่สบายหรือเปล่า จะกลับคอนโดฯ ไหม เดี๋ยวหนึ่งไปส่งเอง”

นิรมลส่ายหน้าปฏิเสธ เธอค้นหายาดมในกระเป๋า หยิบขึ้นมาสูดดมจนรู้สึกว่าอาการดีขึ้น ระหว่างนั้นได้แต่คิดว่าทำไมตัวเธอถึงได้เห็นวิญญาณแบบนี้ แต่ทันใดนั้นเอง หูของเธอก็ได้ยินเสียงดังแว่ว...เสียงที่ไม่อยากได้ยินอีกครั้ง

“ช่วย...ด้วย...ฉันอยากให้เธอช่วย”

นิรมลหลับตา ไม่กล้าลืมตาขึ้นมามองเพราะไม่แน่ใจว่าถ้าลืมตาอาจจะได้เห็นภาพน่ากลัวของวิญญาณแก้วตา แต่คราวนี้เหมือนเธอเริ่มตั้งสติได้ หญิงสาวคิดอธิษฐานอยู่ในใจ

แก้วตา หากเธออยากให้ฉันช่วย ขอให้มาหาฉันในสภาพที่ดีกว่านี้เถอะ แล้วอยากให้ช่วยอะไรเธอก็บอกฉันมา

นิรมลลืมตาขึ้นมา เธอเห็นเอกภพนั่งอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกอุ่นใจมากขึ้น เขาจับมือไว้แน่นราวกับว่าต้องการให้กำลังใจ นั่นทำให้หญิงสาวมีอาการดีขึ้น ความสั่นกลัวค่อยๆ หายไป เธอลุกขึ้นยืน

“จิ๋วไม่เป็นอะไรแล้วละ ไปทำงานเถอะ”

เอกภพมองหน้านิรมลอีกครั้ง คราวนี้สีหน้าของเธอไม่ได้ซีดขาวอีก แต่ก็ยังดูไม่น่าไว้ใจ เขาเงยหน้ามองนาฬิกาที่ติดอยู่ที่ฝาผนัง เห็นว่าใกล้เวลาทำงานแล้ว จึงกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง

“ถ้าอย่างนั้นก็ตั้งใจทำงานละ ถ้าไม่ไหวก็บอกบีแล้วกันนะ”

นิรมลพยักหน้า เริ่มต้นทำงานและพยายามไม่คิดถึงเรื่องที่เพิ่งพบเจอมา เธอทำงานไปเรื่อยๆ และวันนี้ก็มีโทรศัพท์ของลูกค้าเข้ามาสอบถามไม่ขาดสาย ทำให้หญิงสาววุ่นวายกับงานตรงหน้าจนลืมเรื่องราวที่เจอมา

จนกระทั่งเวลาห้าโมงเย็น เสียงข้อความโทรศัพท์มือถือของนิรมลก็ดังขึ้น หญิงสาวยังคงนั่งทำงานอยู่ที่เดิม

‘จิ๋วกลับบ้านหรือยัง บีออกมาพบลูกค้า ไม่ได้กลับเข้าบริษัท’

‘ยังทำงานไม่เสร็จเลยบี คงอยู่อีกสักพักน่ะ’

นิรมลยิ้มเมื่อเอกภพกดสติกเกอร์โกรธกลับมา ข้อความที่พิมพ์ต่อมาก็แฝงไว้ด้วยความห่วงใย

‘บีว่าจิ๋วกลับบ้านเถอะนะ งานไว้ทำต่อพรุ่งนี้ก็ได้นี่นา อีกอย่าง...ตอนนี้อาการจิ๋วเป็นยังไงบ้าง หนึ่งห่วงว่าจะป่วยอย่างเมื่อเช้าอีก’

‘จิ๋วไม่เป็นอะไรแล้ว ว่าแต่บีขับรถกลับบ้านดีๆ ละ แค่นี้นะ’

นิรมลรีบทำงานต่อจนหกโมงเย็น ขณะนั้นเพื่อนร่วมงานคนอื่นในแผนกกลับบ้านกันไปหมดแล้ว หญิงสาวรู้สึกเมื่อยล้าจึงลุกขึ้นยืน หยิบถ้วยกาแฟบนโต๊ะขึ้นมาเพื่อนำไปล้างก่อนกลับบ้านโดยลืมเรื่องราวที่พบเจอเมื่อเช้า

หญิงสาวเดินไปห้องอาหารด้วยความเคยชิน เธอยืนหันหลังให้ประตูเพื่อล้างแก้วกาแฟ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าด้านหลังตรงประตูห้องอาหารมีใครคนหนึ่งยืนรอเธออยู่อย่างเงียบๆ

นิรมลล้างแก้วกาแฟเสร็จ เธอหันกลับมาเพื่อจะเดินกลับไปที่แผนก หญิงสาวเห็นร่างโปร่งแสงของแก้วตา แต่คราวนี้มาในสภาพปกติ ไม่มีเลือดไหลหรือหน้าตาที่น่ากลัว ร่างนั้นพูดร้องขอความช่วยเหลือ

“ช่วยฉันด้วย...”

นิรมลสะดุ้งด้วยความตกใจ อยากจะเดินหนีออกไปก็ไม่ได้ หญิงสาวทำได้เพียงทรุดตัวลงไปนั่งที่เก้าอี้ ก้มตัวลงหลับตาราวกับไม่ต้องการจะมองเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอีก

“ฉันอยากให้เธอช่วยเอาสร้อยพระกับเงินที่ฉันซ่อนไว้ที่นี่ เอาไปให้สามีและลูกของฉันหน่อยสิ พวกเขากำลังลำบาก ต้องการเงินทองมาใช้จ่าย แล้วก็อยากให้ลูกชายของฉันได้บวชเณรให้ด้วย”

นิรมลได้ยินเต็มสองหู แต่ตัวเธอไม่ได้พูดหรือตอบคำถามอะไรกับวิญญาณแก้วตาเพราะยังรู้สึกกลัวอยู่ ทำได้แค่ก้มหน้า คิดอธิษฐานอยู่ในใจ

นะ...นิวรับรู้แล้ว ว่าแต่...บะ...บ้านคุณแก้วตาอยู่ที่ไหน...มะ...มีรูปหรือเปล่า

ด้วยความกลัวของนิรมล ทำให้แม้แต่การคิดอธิษฐานอยู่ในใจของเธอกลับตะกุกตะกัก หญิงสาวได้แต่นั่งก้มหน้าหลับตา จึงไม่เห็นว่าร่างโปร่งแสงของแก้วตาหายไปนานแล้ว

นิรมลนั่งก้มหน้าอยู่แบบนั้น นานเท่าไรไม่รู้ได้ เธอมัวแต่ก้มจนเริ่มรู้สึกปวดหลัง จึงเงยหน้าขึ้นแต่ยังคงหลับตาปี๋ ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา จึงเห็นว่าร่างโปร่งแสงตรงหน้าหายไปแล้ว หญิงสาวรีบวิ่งออกไปจากห้องอาหาร แต่ก็ยังได้ยินเสียงดังแว่วดังไล่หลังตามมา...

“ไป...วัด...แล้วเธอจะได้คำตอบ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 4-2-ผิดซอย (2)

    จนกระทั่งเช้าวันเสาร์ นิรมลตื่นแต่เช้าเพื่อมาทำบุญใส่บาตร อุทิศส่วนกุศลให้กับแก้วตาและดวงวิญญาณอื่นๆ วันนี้เธอนัดเอกภพไว้ตอนแปดโมง เพื่อเดินทางไปยังบ้านของแก้วตาในระหว่างที่หญิงสาวกำลังล้างจานและเก็บของอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นมา เธอรีบเดินมารับสายโดยที่ไม่ได้มองว่าใครเป็นคนโทร. มาแต่...เสียงที่ดังมาตามสายกลับไม่ใช่เอกภพ แต่กลับกลายเป็นนรีนันท์ นิรมลรีบรับคำแล้วโทรศัพท์อีกครั้ง“น้องสาวของนิวมา ให้เขาขึ้นมาได้เลยนะคะ ห้องหนึ่งศูนย์หนึ่งสี่นะคะ ขอบคุณค่ะ”หลังจากวางสายได้ประมาณสิบนาที เสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้น นิรมลรีบเดินไปเปิดประตู“พี่นิว สวัสดีค่ะ”นรีนันท์ทักทาย เธอมาด้วยชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์แบบวัยรุ่น รวบผมมัดไว้ด้านหลังเป็นหางม้า นิรมลทักทายน้องสาวแล้วชวนให้ออกไปทำธุระข้างนอก“นัทมาได้เวลาพอดีเลย เดี๋ยวพี่จะออกไปข้างนอก ไปหาบ้านคนคนหนึ่งที่ปทุมธานี นัทไปกับพี่หน่อยนะ”“อ้าว พี่นิว งั้นนัทขอเข้าห้องน้ำก่อนได้ไหม ขอเวลาห้านาที”นรีนันท์พูดแค่น

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 4-1-ผิดซอย (1)

    เช้าวันรุ่งขึ้น นิรมลมาทำงานตามปกติ ในวันนี้พนักงานส่วนใหญ่ใส่เสื้อผ้าสีดำกัน เนื่องจากในคืนนี้ทางบริษัทรับเป็นเจ้าภาพงานศพของแก้วตา นิรมลก็สวมใส่เสื้อสีดำเพื่อไปงานเช่นกันก่อนเริ่มทำงาน นิรมลนึกถึงคำร้องขอของแก้วตาขึ้นมาได้ เธอจึงเดินไปยังห้องพักของแม่บ้านที่ชั้นหนึ่ง ไม่มีใครอยู่ในห้อง หญิงสาวเดินไปที่ตู้ล็อกเกอร์ที่ใช้เก็บของ มองหาตู้เก็บของที่มีชื่อแก้วตา แต่ไม่สามารถเปิดได้เพราะมีกุญแจล็อกอยู่นิรมลมองซ้ายมองขวา หาอุปกรณ์ที่จะนำมางัดตู้ล็อกเกอร์ ระหว่างที่กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่นั้น มีแม่บ้านคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องพักแห่งนี้ มองหญิงสาวอย่างสงสัย“คุณทำอะไรคะ ต้องการอะไรหรือเปล่า”นิรมลชะงัก เริ่มอึกอัก มองซ้ายมองขวาเหมือนหาบางสิ่งบางอย่างอยู่ แม่บ้านยืนมองด้วยสีหน้าแปลกใจ หญิงสาวยืนนิ่ง ได้แต่บอกเสียงอ่อย“คะ...คือ...นิวอยากจะเปิดตู้ล็อกเกอร์ของแก้วตาค่ะ”“คุณจะเปิดตู้ล็อกเกอร์ของแก้วตาทำไมล่ะคะ มีอะไรหรือเปล่า”นิรมลนึกหาคำตอบ แล้วอยู่ๆ เธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้“เมื่อวันก่อนที่แ

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 3-2-วิญญาณดวงที่หนึ่ง (2)

    ทั้งสองคนแทบจะไม่ได้พบกันอีกเลยหลังจากเรียนจบ จนวันหนึ่งนิรมลได้พบชมพูนุทตอนกลางวันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งแถวบริษัท“ชมพูจริงๆ ด้วย เธอมาทำอะไรแถวนี้ล่ะ”นิรมลทักทายเพื่อนด้วยความดีใจ ชมพูนุทเองก็ยินดีที่ได้พบเจอเพื่อนอีกครั้ง แต่สีหน้าอีกฝ่ายดูเศร้าสร้อย หญิงสาวรีบถามเพื่อน“เป็นอะไรหรือเปล่าชมพู มีอะไรเล่าให้นิวฟังได้นะ”“ฉันหางานทำอยู่น่ะ นี่ฉันเป็นคนว่างงานมาสามเดือนแล้ว ไปสมัครงานไว้ก็ยังไม่มีที่ไหนเรียกไปทำเสียที ถ้าเดือนนี้ยังไม่มีงานทำอีก ฉันคงต้องกลับบ้านนอกแล้วละ”น้ำเสียงของชมพูนุทฟังดูน่าสงสารและน่าเห็นใจ นิรมลนิ่งคิด จะช่วยเหลือเพื่อนอย่างไรดีนะ แล้วหญิงสาวก็นึกอะไรขึ้นมาได้“ชมพูไปสมัครงานที่บริษัทของนิวสิ ตอนนี้กำลังเปิดรับสมัครประชาสัมพันธ์อยู่ ถ้าโชคดีเธออาจจะได้มาทำงานด้วยกันนะ”ชมพูนุทพยักหน้ารับคำ เธอไปสมัครงานที่บริษัทตามคำแนะนำของนิรมล และชมพูนุทก็ได้เข้ามาทำงานที่บริษัทด้วยกัน............................................เช้าวันรุ่งขึ้น นิรมลมาทำงานตามปกติ เธอลืมเรื่องราวท

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 3-1-วิญญาณดวงที่หนึ่ง (1)

    นิรมลคงจะปิดตากรีดร้องอยู่ในรถอีกนาน หากเธอไม่ได้ยินเสียงแตรรถด้านหลังที่เร่งให้รีบขับออกไป ไม่ใช่จอดรถแช่อยู่แบบนี้หญิงสาวสะดุ้ง รีบเงยหน้าขึ้นมองถนน...ไม่สิ ต้องบอกว่าเธอหันไปมองเกาะกลางถนนอีกครั้ง รู้สึกโล่งใจที่ไม่เห็นวิญญาณแก้วตาอีก นิรมลรีบขับรถยนต์ออกไปจากตรงนั้นเพื่อกลับคอนโดฯนิรมลรีบขึ้นไปที่ห้อง เมื่อถึงห้องเธอก็ควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋า ตั้งใจจะเล่าให้เอกภพฟังถึงเรื่องราวที่น่ากลัวสำหรับเธอในวันนี้ แต่เมื่อหยิบมือถือขึ้นมาดู ที่หน้าจอกลับมีสายเรียกเข้ามาแทน‘แกเป็นไงบ้างเนี่ยนิว เมื่อกี้เพื่อนฉันโทร. มาหา เล่าให้ฟังว่าเจอแกที่ห้องอาหาร ท่าทางเหมือนจะไม่สบาย พวกนั้นขอให้ฉันโทร. หาแกเนี่ยว่าเป็นยังไงบ้าง’นิรมลยิ้มอย่างโล่งใจที่ได้คุยกับใครสักคน กำลังจะเล่าให้ชมพูนุทฟังว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง แต่อยู่ๆ หญิงสาวก็ได้ยินเสียงแหบๆ พูดกระซิบที่ข้างหูของเธอ“อย่าเล่า!”นิรมลหยุดชะงัก หันมองซ้ายขวาด้วยความตกใจว่าเสียงใครกันแน่ มือยังคงถือโทรศัพท์ค้างอยู่อย่างนั้น‘นิว! ยังอยู่หรือเ

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 2-3-ไม่ทันตั้งตัว (3)

    ในระหว่างที่นั่งทำงานไป นึกหวนถึงอดีตไป นิรมลก็รู้สึกหิว นึกขึ้นมาได้ว่าเธอซื้อนมกล่องใส่ตู้เย็นไว้ จึงเดินไปยังห้องอาหารของบริษัทที่อยู่ชั้นสอง เมื่อเดินออกจากห้องทำงานก็พบว่าตึกทั้งตึกเงียบมาก พนักงานส่วนใหญ่กลับบ้านกันเกือบหมดแล้ว เหลืออยู่ทำงานล่วงเวลาเพียงไม่กี่คน หญิงสาวเดินเข้าไปในห้องอาหาร เธอเห็นแม่บ้านคนหนึ่งยืนหันหลังให้ตรงหน้าต่าง นึกแปลกใจที่เวลานี้ยังมีแม่บ้านทำงานอยู่“ยังไม่กลับบ้านเหรอคะ”นิรมลพูดทักทายตามปกติ เดินตรงไปที่ตู้เย็นเพื่อค้นหานมกล่องจนเจอ หญิงสาวกำลังเดินมานั่งที่โต๊ะอาหาร นึกเอะใจที่แม่บ้านคนนี้ยืนนิ่งผิดปกติ เธอกำลังจะถามอีกครั้งก็ได้ยินเสียงดังมาจากด้านนอก เสียงรองเท้ากระทบกับพื้นกระเบื้องและเสียงคุยกันดังก้อง“เมื่อวานแกเห็นหรือเปล่าละ ฉันเห็นแกออกไปกินข้าวนี่นา”“จะบ้าเหรอ...ใครที่ไหนจะเดินไปดูศพแล้วกินข้าวกันล่ะ ขนาดไม่เห็นกับตา ฉันยังนึกสภาพออกเลยว่าเป็นไง”ผู้ที่เดินเข้ามาใหม่สองคนอยู่แผนกประชาสัมพันธ์ ทั้งสองคนเดินไปที่ตู้เย็นแล้วหยิบของออกมา นิรมลมองตาม ทั้งคู่สะพายกระเป๋าเ

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 2-2-ไม่ทันตั้งตัว (2)

    ทั้งนิรมลและเอกภพหายไปหนึ่งเดือน เพราะไปติดต่อกับมหาวิทยาลัยเพื่อยื่นจบการศึกษา และทั้งคู่ก็ได้กลับมาพบกันอีกครั้งในวันที่เข้ามาทำงานวันแรกติ๊ง...เสียงลิฟต์ดังขึ้นที่ชั้นหนึ่ง พนักงานบริษัทที่ยืนรออยู่ต่างก็เดินเข้าไปในลิฟต์ ในตอนนั้นทุกคนยืนเบียดเสียดกันเข้าไปในสถานที่แคบๆ ไม่มีใครมองหน้าใคร“รอด้วยค่ะ...”เสียงหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับวิ่งเข้ามาในลิฟต์นั้น แต่เมื่อเธอก้าวเข้าไป ก็มีเสียงดังเกิดขึ้นตืด...“น้ำหนักเกินแล้ว น้องรอไปรอบหน้าก็แล้วกันนะ”พี่คนหนึ่งพูดขึ้น นิรมลก้มหัวให้แล้วออกมายืนรอด้วยความเซ็ง“โธ่เอ๊ย อุตส่าห์รีบวิ่งมาแล้วเชียว แล้วนี่จะขึ้นไปสแกนนิ้วทันไหมเนี่ย”นิรมลก้มมองนาฬิกาและหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นฆ่าเวลา โดยไม่ได้สนใจมองรอบข้างว่าจะมีใครมายืนอยู่ด้วยหรือไม่ เธอคงจะยืนเล่นอยู่อีกนานกว่านี้ หากไม่มีเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง“ไม่คิดจะรีบเข้างานหรือไง หรือว่าอยากจะมีประวัติมาทำงานสายตั้งแต่วันแ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status