Share

บทที่ 4-1-ผิดซอย (1)

last update Last Updated: 2025-05-31 19:30:06

เช้าวันรุ่งขึ้น นิรมลมาทำงานตามปกติ ในวันนี้พนักงานส่วนใหญ่ใส่เสื้อผ้าสีดำกัน เนื่องจากในคืนนี้ทางบริษัทรับเป็นเจ้าภาพงานศพของแก้วตา นิรมลก็สวมใส่เสื้อสีดำเพื่อไปงานเช่นกัน

ก่อนเริ่มทำงาน นิรมลนึกถึงคำร้องขอของแก้วตาขึ้นมาได้ เธอจึงเดินไปยังห้องพักของแม่บ้านที่ชั้นหนึ่ง ไม่มีใครอยู่ในห้อง หญิงสาวเดินไปที่ตู้ล็อกเกอร์ที่ใช้เก็บของ มองหาตู้เก็บของที่มีชื่อแก้วตา แต่ไม่สามารถเปิดได้เพราะมีกุญแจล็อกอยู่

นิรมลมองซ้ายมองขวา หาอุปกรณ์ที่จะนำมางัดตู้ล็อกเกอร์ ระหว่างที่กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่นั้น มีแม่บ้านคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องพักแห่งนี้ มองหญิงสาวอย่างสงสัย

“คุณทำอะไรคะ ต้องการอะไรหรือเปล่า”

นิรมลชะงัก เริ่มอึกอัก มองซ้ายมองขวาเหมือนหาบางสิ่งบางอย่างอยู่ แม่บ้านยืนมองด้วยสีหน้าแปลกใจ หญิงสาวยืนนิ่ง ได้แต่บอกเสียงอ่อย

“คะ...คือ...นิวอยากจะเปิดตู้ล็อกเกอร์ของแก้วตาค่ะ”

“คุณจะเปิดตู้ล็อกเกอร์ของแก้วตาทำไมล่ะคะ มีอะไรหรือเปล่า”

นิรมลนึกหาคำตอบ แล้วอยู่ๆ เธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“เมื่อวันก่อนที่แก้วตาจะเสีย มาขอยืมของนิวไปค่ะ ตอนนี้อยากจะได้ของคืน ก็เลยคิดเอาเองว่าเธอน่าจะเก็บของไว้ที่นี่ค่ะ”

แม่บ้านคิ้วขมวด สีหน้าแสดงความสงสัยแต่ไม่ได้พูดว่าไม่เชื่อ หันมาบอกกับหญิงสาวที่มีสีหน้าวิตกกังวล

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันไปเอากุญแจล็อกเกอร์สำรองมาเปิดให้ค่ะ คุณรออยู่ตรงนี้แหละ”

แม่บ้านหายไปครู่หนึ่งก็กลับเข้ามา พร้อมด้วยกุญแจสำรองที่ถือเข้ามา แม่บ้านมาไขให้แล้วหันมาบอกกับนิรมล

“หาของได้เลยค่ะคุณนิว”

นิรมลค้นหาของ ซึ่งข้างในตู้เล็กๆ นั้นมีกระดาษเอสี่ และของใช้ส่วนตัวของแก้วตา ในขณะที่แม่บ้านยืนมองอยู่ด้านหลัง เธอทำเป็นค้นหาของกุกกักราวกับหาของไม่เจอ ทั้งๆ ที่ตู้ก็เล็กเพียงแค่นั้น ในขณะที่กำลังทำเป็นหาของอยู่ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นเสียงโทรศัพท์ของแม่บ้าน

“ฮัลโหล เออ...ฉันอยู่ที่ห้องพักของเราเนี่ยแหละ เดี๋ยวขึ้นไป แค่นี้แหละ”

นิรมลได้ยินแบบนั้นเธอก็รีบหันมาทันที

“พี่ไปทำงานต่อเถอะค่ะ นิวเจอของแล้ว”

นิรมลพูด หยิบสายชาร์จแบตเตอรี่ขึ้นมาแล้วเดินออกไป ทำทีว่าไม่สนใจอะไรอีก แม่บ้านคนนั้นรีบวิ่งออกไปทันทีโดยไม่ได้สนใจจะปิดประตูตู้ล็อกเกอร์ของแก้วตา

นิรมลเดินถอยกลับมา เธอเดินมาดูของในล็อกเกอร์แก้วตาอีกครั้ง เจอสร้อยพระและเงินตามที่แก้วตาบอก หญิงสาวรีบเก็บใส่กระเป๋าไว้

หลังจากที่ได้ของตามต้องการ นิรมลตั้งใจว่าเย็นนี้เธอจะนำไปให้สามีและลูกของแก้วตาที่วัด แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้ตั้งแต่แรก เมื่อหัวหน้างานของเธอสั่งให้ไปพบลูกค้าวีไอพีภายในวันนี้ ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะขอต่อรองก็ตาม

“นิวขอไปพบลูกค้าวันพรุ่งนี้แทนได้ไหมคะ”

“ไม่ได้หรอก ลูกค้าบอกว่าอยากให้เราไปเสนอสินค้าภายในวันนี้ เขามีเวลาให้เราถึงบ่ายสามโมงนะคุณนิว ผมถามหน่อยเถอะว่าทำไมคุณถึงจะไม่ไปล่ะ ตอนนี้คุณไม่มีงานด่วนนี่”

นิรมลอึกอัก หากตอบตามความจริงออกไปน่าจะโดนดุแน่นอน แต่ว่า...ถ้าไม่ลองพูดดูก็จะไม่รู้ แล้วก็เป็นจริงอย่างที่เธอคิดไว้

“คะ...คือ นิวตั้งใจว่าวันนี้จะไปวัด ไปงานของแก้วตาค่ะ วันนี้บริษัทเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมไม่ใช่เหรอคะ”

“งานมีตั้งทุ่มสองทุ่มโน่น คุณไปพบลูกค้ากลับมาก็ยังทันอยู่ดี อีกอย่างงานนี้ก็สำคัญกับบริษัทมากทีเดียว”

นิรมลไม่มีทางเลือก เธอจำใจเตรียมเอกสารและสิ่งของเพื่อไปพบลูกค้าวีไอพีที่อยู่ค่อนข้างไกลจากบริษัทตามที่หัวหน้าสั่ง

หญิงสาวไปนำเสนองาน โชคดีที่ลูกค้าซื้อสินค้าชุดใหญ่ และซื้อเป็นจำนวนมาก ทำให้เธอต้องสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเพราะวันนี้เธอนำสินค้ามาไม่พอกับที่ลูกค้าต้องการ

“นิวขอเบอร์โทรศัพท์และที่อยู่สำหรับจัดส่งสินค้าไว้ก่อนก็แล้วกันค่ะ วันนี้สินค้ามีไม่พอ นิวขอเวลาสักห้าวันนะคะ”

“ได้สิครับ ยังไงคุณนิวติดต่อผ่านเลขาฯ ของผมได้เลยนะครับ”

กว่านิรมลจะออกมาจากบริษัทของลูกค้าได้ก็เป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้ว หญิงสาวดูนาฬิกาข้อมือ บ่นพึมพำกับตัวเอง

“นี่ฉันจะไปวัดทันไหมเนี่ย”

แต่ดูเหมือนว่าเย็นนั้นการจราจรบนท้องถนนจะไม่เป็นใจเอาเสียเลย รถยนต์ติดหนักแทบไม่ขยับเขยื้อน กว่าหญิงสาวจะถึงคอนโดฯ ตัวเองก็ล่วงไปจนเวลาสามทุ่ม เธอได้แต่ดูรูปงานศพของแก้วตาที่เพื่อนร่วมงานถ่ายรูปเอาไว้ นึกเสียดายที่ไม่ได้ไปร่วมงานด้วยอย่างที่ตั้งใจ

“วันพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”

............................................

เช้าวันรุ่งขึ้น นิรมลทำงานจนถึงเวลาพักเที่ยง หญิงสาวชวนเอกภพออกไปรับประทานอาหารกลางวันข้างนอกแถวบริษัท เพื่อที่จะได้รีบไปรีบกลับ ในระหว่างที่นั่งรออาหาร เธอก็เอ่ยถามเอกภพเรื่องไปงานศพของแก้วตา เขาก็ไม่ได้ไปงานนี้เช่นกัน

“จิ๋วมีอะไรหรือเปล่า?”

“เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้ว จิ๋วจะชวนไปฝ่ายบุคคลด้วยกันหน่อยนะ”

นิรมลชวนเขา เอกภพคิ้วขมวดด้วยความสงสัย

“ไปทำไมล่ะ จิ๋วมีเรื่องอะไรที่ต้องติดต่อฝ่ายบุคคล”

นิรมลไม่ตอบ ได้แต่ถอนหายใจ เธอเงยหน้ามองเอกภพแล้วตัดสินใจพูดเลี่ยงๆ ไม่บอกเขาตรงๆ ว่าเธอเจออะไรมาบ้าง

“คือ...จิ๋วอยากจะไปบ้านของแก้วตาน่ะ เมื่อวานตั้งใจจะไปงานศพ แต่กลับมาไม่ทัน คือ...เธอฝากของไว้ให้เอาไปให้สามีและลูก”

เอกภพมองหน้านิรมล ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูด แต่สีหน้าของเขาแสดงความแปลกใจมากกว่าว่าหญิงสาวจะเอาของอะไรไปให้ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ได้แต่พยักหน้าให้

“กินเสร็จพอดี ไปกันเถอะจิ๋ว เดี๋ยวจะเข้างานสาย”

เอกภพพูด แล้วลุกขึ้นไปจ่ายเงินค่าอาหาร ก่อนเดินนำหน้าเธอเพื่อกลับเข้าบริษัท นิรมลรีบลุกขึ้นตามไป เอกภพเดินพาเธอมาจนถึงห้องที่อยู่ชั้นหนึ่ง ด้านหน้ามีป้ายเขียนไว้ว่า ‘ฝ่ายบุคคล’

“มีอะไรหรือเปล่าน้องนิว วันนี้ลงมาถึงห้องนี้ได้”

นิรมลยิ้มให้กับทุกคนในห้อง ตามปกติเธอไม่ได้ลงมาห้องนี้บ่อยนัก หากวันไหนเธอเดินลงมา นั่นแสดงว่าวันนี้ต้องมีอะไรบางอย่าง

“นิวแค่อยากจะมาขอที่อยู่ของแก้วตาค่ะ บังเอิญว่าก่อนที่แก้วตาจะเสียชีวิต เธอฝากของไว้กับนิว ก็เลยจะเอาของไปคืนให้สามีกับลูกของเธอค่ะ”

............................................

ในระหว่างที่นิรมลอยู่ในห้องนั้น เอกภพที่ยืนรออยู่หน้าห้องก็มองว่าเธอจะทำอย่างไร เขาเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างในห้องนั้นเพราะประตูห้องเป็นกระจกใส มองเห็นได้ว่าใครทำอะไร

“อ้าว...หนึ่ง มายืนทำอะไรตรงนี้ล่ะ ไม่ไปทำงานหรือไง”

เอกภพหันไปมอง ชมพูนุทนั่นเองที่ทักทายเขา

“มายืนรอเป็นเพื่อนนิวน่ะ เข้าไปติดต่อฝ่ายบุคคลอยู่ตรงนั้น”

เขาพูดพร้อมชี้ให้ชมพูนุทดู เธอเห็นนิรมลยืนจดอะไรบางอย่างอยู่ที่แฟ้ม กำลังจะถามเอกภพต่อ แต่เธอกลับรู้สึกว่ามีใครบางคนสะกิดไหล่

“ชมพู หัวหน้าเรียกเข้าห้องทำงานแล้ว เดี๋ยวตอนบ่ายมีประชุมนะ”

ชมพูนุทหันหน้าไปมอง เพื่อนคนที่นั่งโต๊ะข้างๆ นั่นเอง เธอพยักหน้าให้ พูดเบาๆ เพียงแค่ว่า

“เดี๋ยวฉันตามไป”

“ชมพูไปทำงานเถอะ เดี๋ยวนิวออกมาแล้วหนึ่งก็จะไปทำงานเหมือนกัน”

“ถ้าอย่างนั้นชมพูไปทำงานก่อนก็แล้วกัน”

ชมพูนุทเดินจากไป พอดีกับที่นิรมลเดินยิ้มออกมาจากห้องฝ่ายบุคคล เธอมองหน้าเอกภพ และมองตามหลังชมพูนุทที่เดินหายเข้าห้องประชาสัมพันธ์ที่อยู่ติดกัน

“อ้าว! ชมพูรีบไปไหนล่ะหนึ่ง นี่ยังไม่ถึงเวลาเข้าทำงานเลยนี่นา”

“ได้ยินว่าตอนบ่ายมีประชุมน่ะ ก็เลยต้องรีบเข้าห้องไปก่อน แล้วได้มาไหม ที่อยู่ของแก้วตาน่ะ”

นิรมลยิ้มให้ และชูกระดาษขึ้นให้เอกภพเห็นชัดเจน

“นี่ไง โชคดีนะที่เขาเปิดแฟ้มของแก้วตาอยู่พอดี นิวเห็นก็เลยขอจดที่อยู่ไว้ก่อน เสียดายที่ไม่มีเบอร์โทรศัพท์”

เอกภพพยักหน้า ยิ้มให้นิรมลด้วยความดีใจตามไปด้วย

“ดีแล้วละนิว ถ้าอย่างนั้นเราขึ้นไปทำงานกันเถอะ จวนจะบ่ายโมงแล้ว”

เอกภพพูดแล้วเดินไปที่ลิฟต์ เขากดเพื่อขึ้นไปชั้นสามซึ่งเป็นห้องทำงานของนิรมล เมื่อทั้งสองคนก้าวเข้าไปในลิฟต์ และอยู่กันตามลำพัง เขาก็ถามหญิงสาวอีกครั้ง

“จิ๋วจะเอาของอะไรไปให้เหรอ ถ้าจิ๋วไปจริงๆ บีจะไปเป็นเพื่อนนะ บีเป็นห่วงไม่อยากให้ไปคนเดียว”

นิรมลยิ้มให้ แต่ยังไม่ทันจะตอบอะไรออกมา ประตูลิฟต์ก็เปิดออก

ติ๊ง!

“งั้นนิวไปก่อนนะ ขอบใจที่มาส่งนะหนึ่ง”

“อ้าว! นิว”

เอกภพตะโกนเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากร่างเล็กบางนั้น เธอกลับเดินเข้าไปในห้องกระจกเพื่อทำงานต่อ เขาได้แต่ยืนมอง ถอนหายใจยาว พูดพึมพำอยู่คนเดียว

“ช่างเถอะ เดี๋ยววันเสาร์ค่อยคุยกัน”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 4-2-ผิดซอย (2)

    จนกระทั่งเช้าวันเสาร์ นิรมลตื่นแต่เช้าเพื่อมาทำบุญใส่บาตร อุทิศส่วนกุศลให้กับแก้วตาและดวงวิญญาณอื่นๆ วันนี้เธอนัดเอกภพไว้ตอนแปดโมง เพื่อเดินทางไปยังบ้านของแก้วตาในระหว่างที่หญิงสาวกำลังล้างจานและเก็บของอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นมา เธอรีบเดินมารับสายโดยที่ไม่ได้มองว่าใครเป็นคนโทร. มาแต่...เสียงที่ดังมาตามสายกลับไม่ใช่เอกภพ แต่กลับกลายเป็นนรีนันท์ นิรมลรีบรับคำแล้วโทรศัพท์อีกครั้ง“น้องสาวของนิวมา ให้เขาขึ้นมาได้เลยนะคะ ห้องหนึ่งศูนย์หนึ่งสี่นะคะ ขอบคุณค่ะ”หลังจากวางสายได้ประมาณสิบนาที เสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้น นิรมลรีบเดินไปเปิดประตู“พี่นิว สวัสดีค่ะ”นรีนันท์ทักทาย เธอมาด้วยชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์แบบวัยรุ่น รวบผมมัดไว้ด้านหลังเป็นหางม้า นิรมลทักทายน้องสาวแล้วชวนให้ออกไปทำธุระข้างนอก“นัทมาได้เวลาพอดีเลย เดี๋ยวพี่จะออกไปข้างนอก ไปหาบ้านคนคนหนึ่งที่ปทุมธานี นัทไปกับพี่หน่อยนะ”“อ้าว พี่นิว งั้นนัทขอเข้าห้องน้ำก่อนได้ไหม ขอเวลาห้านาที”นรีนันท์พูดแค่น

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 4-1-ผิดซอย (1)

    เช้าวันรุ่งขึ้น นิรมลมาทำงานตามปกติ ในวันนี้พนักงานส่วนใหญ่ใส่เสื้อผ้าสีดำกัน เนื่องจากในคืนนี้ทางบริษัทรับเป็นเจ้าภาพงานศพของแก้วตา นิรมลก็สวมใส่เสื้อสีดำเพื่อไปงานเช่นกันก่อนเริ่มทำงาน นิรมลนึกถึงคำร้องขอของแก้วตาขึ้นมาได้ เธอจึงเดินไปยังห้องพักของแม่บ้านที่ชั้นหนึ่ง ไม่มีใครอยู่ในห้อง หญิงสาวเดินไปที่ตู้ล็อกเกอร์ที่ใช้เก็บของ มองหาตู้เก็บของที่มีชื่อแก้วตา แต่ไม่สามารถเปิดได้เพราะมีกุญแจล็อกอยู่นิรมลมองซ้ายมองขวา หาอุปกรณ์ที่จะนำมางัดตู้ล็อกเกอร์ ระหว่างที่กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่นั้น มีแม่บ้านคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องพักแห่งนี้ มองหญิงสาวอย่างสงสัย“คุณทำอะไรคะ ต้องการอะไรหรือเปล่า”นิรมลชะงัก เริ่มอึกอัก มองซ้ายมองขวาเหมือนหาบางสิ่งบางอย่างอยู่ แม่บ้านยืนมองด้วยสีหน้าแปลกใจ หญิงสาวยืนนิ่ง ได้แต่บอกเสียงอ่อย“คะ...คือ...นิวอยากจะเปิดตู้ล็อกเกอร์ของแก้วตาค่ะ”“คุณจะเปิดตู้ล็อกเกอร์ของแก้วตาทำไมล่ะคะ มีอะไรหรือเปล่า”นิรมลนึกหาคำตอบ แล้วอยู่ๆ เธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้“เมื่อวันก่อนที่แ

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 3-2-วิญญาณดวงที่หนึ่ง (2)

    ทั้งสองคนแทบจะไม่ได้พบกันอีกเลยหลังจากเรียนจบ จนวันหนึ่งนิรมลได้พบชมพูนุทตอนกลางวันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งแถวบริษัท“ชมพูจริงๆ ด้วย เธอมาทำอะไรแถวนี้ล่ะ”นิรมลทักทายเพื่อนด้วยความดีใจ ชมพูนุทเองก็ยินดีที่ได้พบเจอเพื่อนอีกครั้ง แต่สีหน้าอีกฝ่ายดูเศร้าสร้อย หญิงสาวรีบถามเพื่อน“เป็นอะไรหรือเปล่าชมพู มีอะไรเล่าให้นิวฟังได้นะ”“ฉันหางานทำอยู่น่ะ นี่ฉันเป็นคนว่างงานมาสามเดือนแล้ว ไปสมัครงานไว้ก็ยังไม่มีที่ไหนเรียกไปทำเสียที ถ้าเดือนนี้ยังไม่มีงานทำอีก ฉันคงต้องกลับบ้านนอกแล้วละ”น้ำเสียงของชมพูนุทฟังดูน่าสงสารและน่าเห็นใจ นิรมลนิ่งคิด จะช่วยเหลือเพื่อนอย่างไรดีนะ แล้วหญิงสาวก็นึกอะไรขึ้นมาได้“ชมพูไปสมัครงานที่บริษัทของนิวสิ ตอนนี้กำลังเปิดรับสมัครประชาสัมพันธ์อยู่ ถ้าโชคดีเธออาจจะได้มาทำงานด้วยกันนะ”ชมพูนุทพยักหน้ารับคำ เธอไปสมัครงานที่บริษัทตามคำแนะนำของนิรมล และชมพูนุทก็ได้เข้ามาทำงานที่บริษัทด้วยกัน............................................เช้าวันรุ่งขึ้น นิรมลมาทำงานตามปกติ เธอลืมเรื่องราวท

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 3-1-วิญญาณดวงที่หนึ่ง (1)

    นิรมลคงจะปิดตากรีดร้องอยู่ในรถอีกนาน หากเธอไม่ได้ยินเสียงแตรรถด้านหลังที่เร่งให้รีบขับออกไป ไม่ใช่จอดรถแช่อยู่แบบนี้หญิงสาวสะดุ้ง รีบเงยหน้าขึ้นมองถนน...ไม่สิ ต้องบอกว่าเธอหันไปมองเกาะกลางถนนอีกครั้ง รู้สึกโล่งใจที่ไม่เห็นวิญญาณแก้วตาอีก นิรมลรีบขับรถยนต์ออกไปจากตรงนั้นเพื่อกลับคอนโดฯนิรมลรีบขึ้นไปที่ห้อง เมื่อถึงห้องเธอก็ควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋า ตั้งใจจะเล่าให้เอกภพฟังถึงเรื่องราวที่น่ากลัวสำหรับเธอในวันนี้ แต่เมื่อหยิบมือถือขึ้นมาดู ที่หน้าจอกลับมีสายเรียกเข้ามาแทน‘แกเป็นไงบ้างเนี่ยนิว เมื่อกี้เพื่อนฉันโทร. มาหา เล่าให้ฟังว่าเจอแกที่ห้องอาหาร ท่าทางเหมือนจะไม่สบาย พวกนั้นขอให้ฉันโทร. หาแกเนี่ยว่าเป็นยังไงบ้าง’นิรมลยิ้มอย่างโล่งใจที่ได้คุยกับใครสักคน กำลังจะเล่าให้ชมพูนุทฟังว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง แต่อยู่ๆ หญิงสาวก็ได้ยินเสียงแหบๆ พูดกระซิบที่ข้างหูของเธอ“อย่าเล่า!”นิรมลหยุดชะงัก หันมองซ้ายขวาด้วยความตกใจว่าเสียงใครกันแน่ มือยังคงถือโทรศัพท์ค้างอยู่อย่างนั้น‘นิว! ยังอยู่หรือเ

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 2-3-ไม่ทันตั้งตัว (3)

    ในระหว่างที่นั่งทำงานไป นึกหวนถึงอดีตไป นิรมลก็รู้สึกหิว นึกขึ้นมาได้ว่าเธอซื้อนมกล่องใส่ตู้เย็นไว้ จึงเดินไปยังห้องอาหารของบริษัทที่อยู่ชั้นสอง เมื่อเดินออกจากห้องทำงานก็พบว่าตึกทั้งตึกเงียบมาก พนักงานส่วนใหญ่กลับบ้านกันเกือบหมดแล้ว เหลืออยู่ทำงานล่วงเวลาเพียงไม่กี่คน หญิงสาวเดินเข้าไปในห้องอาหาร เธอเห็นแม่บ้านคนหนึ่งยืนหันหลังให้ตรงหน้าต่าง นึกแปลกใจที่เวลานี้ยังมีแม่บ้านทำงานอยู่“ยังไม่กลับบ้านเหรอคะ”นิรมลพูดทักทายตามปกติ เดินตรงไปที่ตู้เย็นเพื่อค้นหานมกล่องจนเจอ หญิงสาวกำลังเดินมานั่งที่โต๊ะอาหาร นึกเอะใจที่แม่บ้านคนนี้ยืนนิ่งผิดปกติ เธอกำลังจะถามอีกครั้งก็ได้ยินเสียงดังมาจากด้านนอก เสียงรองเท้ากระทบกับพื้นกระเบื้องและเสียงคุยกันดังก้อง“เมื่อวานแกเห็นหรือเปล่าละ ฉันเห็นแกออกไปกินข้าวนี่นา”“จะบ้าเหรอ...ใครที่ไหนจะเดินไปดูศพแล้วกินข้าวกันล่ะ ขนาดไม่เห็นกับตา ฉันยังนึกสภาพออกเลยว่าเป็นไง”ผู้ที่เดินเข้ามาใหม่สองคนอยู่แผนกประชาสัมพันธ์ ทั้งสองคนเดินไปที่ตู้เย็นแล้วหยิบของออกมา นิรมลมองตาม ทั้งคู่สะพายกระเป๋าเ

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 2-2-ไม่ทันตั้งตัว (2)

    ทั้งนิรมลและเอกภพหายไปหนึ่งเดือน เพราะไปติดต่อกับมหาวิทยาลัยเพื่อยื่นจบการศึกษา และทั้งคู่ก็ได้กลับมาพบกันอีกครั้งในวันที่เข้ามาทำงานวันแรกติ๊ง...เสียงลิฟต์ดังขึ้นที่ชั้นหนึ่ง พนักงานบริษัทที่ยืนรออยู่ต่างก็เดินเข้าไปในลิฟต์ ในตอนนั้นทุกคนยืนเบียดเสียดกันเข้าไปในสถานที่แคบๆ ไม่มีใครมองหน้าใคร“รอด้วยค่ะ...”เสียงหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับวิ่งเข้ามาในลิฟต์นั้น แต่เมื่อเธอก้าวเข้าไป ก็มีเสียงดังเกิดขึ้นตืด...“น้ำหนักเกินแล้ว น้องรอไปรอบหน้าก็แล้วกันนะ”พี่คนหนึ่งพูดขึ้น นิรมลก้มหัวให้แล้วออกมายืนรอด้วยความเซ็ง“โธ่เอ๊ย อุตส่าห์รีบวิ่งมาแล้วเชียว แล้วนี่จะขึ้นไปสแกนนิ้วทันไหมเนี่ย”นิรมลก้มมองนาฬิกาและหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นฆ่าเวลา โดยไม่ได้สนใจมองรอบข้างว่าจะมีใครมายืนอยู่ด้วยหรือไม่ เธอคงจะยืนเล่นอยู่อีกนานกว่านี้ หากไม่มีเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง“ไม่คิดจะรีบเข้างานหรือไง หรือว่าอยากจะมีประวัติมาทำงานสายตั้งแต่วันแ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status