공유

บทที่ 4-1-ผิดซอย (1)

last update 최신 업데이트: 2025-05-31 19:30:06

เช้าวันรุ่งขึ้น นิรมลมาทำงานตามปกติ ในวันนี้พนักงานส่วนใหญ่ใส่เสื้อผ้าสีดำกัน เนื่องจากในคืนนี้ทางบริษัทรับเป็นเจ้าภาพงานศพของแก้วตา นิรมลก็สวมใส่เสื้อสีดำเพื่อไปงานเช่นกัน

ก่อนเริ่มทำงาน นิรมลนึกถึงคำร้องขอของแก้วตาขึ้นมาได้ เธอจึงเดินไปยังห้องพักของแม่บ้านที่ชั้นหนึ่ง ไม่มีใครอยู่ในห้อง หญิงสาวเดินไปที่ตู้ล็อกเกอร์ที่ใช้เก็บของ มองหาตู้เก็บของที่มีชื่อแก้วตา แต่ไม่สามารถเปิดได้เพราะมีกุญแจล็อกอยู่

นิรมลมองซ้ายมองขวา หาอุปกรณ์ที่จะนำมางัดตู้ล็อกเกอร์ ระหว่างที่กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่นั้น มีแม่บ้านคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องพักแห่งนี้ มองหญิงสาวอย่างสงสัย

“คุณทำอะไรคะ ต้องการอะไรหรือเปล่า”

นิรมลชะงัก เริ่มอึกอัก มองซ้ายมองขวาเหมือนหาบางสิ่งบางอย่างอยู่ แม่บ้านยืนมองด้วยสีหน้าแปลกใจ หญิงสาวยืนนิ่ง ได้แต่บอกเสียงอ่อย

“คะ...คือ...นิวอยากจะเปิดตู้ล็อกเกอร์ของแก้วตาค่ะ”

“คุณจะเปิดตู้ล็อกเกอร์ของแก้วตาทำไมล่ะคะ มีอะไรหรือเปล่า”

นิรมลนึกหาคำตอบ แล้วอยู่ๆ เธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“เมื่อวันก่อนที่แก้วตาจะเสีย มาขอยืมของนิวไปค่ะ ตอนนี้อยากจะได้ของคืน ก็เลยคิดเอาเองว่าเธอน่าจะเก็บของไว้ที่นี่ค่ะ”

แม่บ้านคิ้วขมวด สีหน้าแสดงความสงสัยแต่ไม่ได้พูดว่าไม่เชื่อ หันมาบอกกับหญิงสาวที่มีสีหน้าวิตกกังวล

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันไปเอากุญแจล็อกเกอร์สำรองมาเปิดให้ค่ะ คุณรออยู่ตรงนี้แหละ”

แม่บ้านหายไปครู่หนึ่งก็กลับเข้ามา พร้อมด้วยกุญแจสำรองที่ถือเข้ามา แม่บ้านมาไขให้แล้วหันมาบอกกับนิรมล

“หาของได้เลยค่ะคุณนิว”

นิรมลค้นหาของ ซึ่งข้างในตู้เล็กๆ นั้นมีกระดาษเอสี่ และของใช้ส่วนตัวของแก้วตา ในขณะที่แม่บ้านยืนมองอยู่ด้านหลัง เธอทำเป็นค้นหาของกุกกักราวกับหาของไม่เจอ ทั้งๆ ที่ตู้ก็เล็กเพียงแค่นั้น ในขณะที่กำลังทำเป็นหาของอยู่ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นเสียงโทรศัพท์ของแม่บ้าน

“ฮัลโหล เออ...ฉันอยู่ที่ห้องพักของเราเนี่ยแหละ เดี๋ยวขึ้นไป แค่นี้แหละ”

นิรมลได้ยินแบบนั้นเธอก็รีบหันมาทันที

“พี่ไปทำงานต่อเถอะค่ะ นิวเจอของแล้ว”

นิรมลพูด หยิบสายชาร์จแบตเตอรี่ขึ้นมาแล้วเดินออกไป ทำทีว่าไม่สนใจอะไรอีก แม่บ้านคนนั้นรีบวิ่งออกไปทันทีโดยไม่ได้สนใจจะปิดประตูตู้ล็อกเกอร์ของแก้วตา

นิรมลเดินถอยกลับมา เธอเดินมาดูของในล็อกเกอร์แก้วตาอีกครั้ง เจอสร้อยพระและเงินตามที่แก้วตาบอก หญิงสาวรีบเก็บใส่กระเป๋าไว้

หลังจากที่ได้ของตามต้องการ นิรมลตั้งใจว่าเย็นนี้เธอจะนำไปให้สามีและลูกของแก้วตาที่วัด แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้ตั้งแต่แรก เมื่อหัวหน้างานของเธอสั่งให้ไปพบลูกค้าวีไอพีภายในวันนี้ ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะขอต่อรองก็ตาม

“นิวขอไปพบลูกค้าวันพรุ่งนี้แทนได้ไหมคะ”

“ไม่ได้หรอก ลูกค้าบอกว่าอยากให้เราไปเสนอสินค้าภายในวันนี้ เขามีเวลาให้เราถึงบ่ายสามโมงนะคุณนิว ผมถามหน่อยเถอะว่าทำไมคุณถึงจะไม่ไปล่ะ ตอนนี้คุณไม่มีงานด่วนนี่”

นิรมลอึกอัก หากตอบตามความจริงออกไปน่าจะโดนดุแน่นอน แต่ว่า...ถ้าไม่ลองพูดดูก็จะไม่รู้ แล้วก็เป็นจริงอย่างที่เธอคิดไว้

“คะ...คือ นิวตั้งใจว่าวันนี้จะไปวัด ไปงานของแก้วตาค่ะ วันนี้บริษัทเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมไม่ใช่เหรอคะ”

“งานมีตั้งทุ่มสองทุ่มโน่น คุณไปพบลูกค้ากลับมาก็ยังทันอยู่ดี อีกอย่างงานนี้ก็สำคัญกับบริษัทมากทีเดียว”

นิรมลไม่มีทางเลือก เธอจำใจเตรียมเอกสารและสิ่งของเพื่อไปพบลูกค้าวีไอพีที่อยู่ค่อนข้างไกลจากบริษัทตามที่หัวหน้าสั่ง

หญิงสาวไปนำเสนองาน โชคดีที่ลูกค้าซื้อสินค้าชุดใหญ่ และซื้อเป็นจำนวนมาก ทำให้เธอต้องสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเพราะวันนี้เธอนำสินค้ามาไม่พอกับที่ลูกค้าต้องการ

“นิวขอเบอร์โทรศัพท์และที่อยู่สำหรับจัดส่งสินค้าไว้ก่อนก็แล้วกันค่ะ วันนี้สินค้ามีไม่พอ นิวขอเวลาสักห้าวันนะคะ”

“ได้สิครับ ยังไงคุณนิวติดต่อผ่านเลขาฯ ของผมได้เลยนะครับ”

กว่านิรมลจะออกมาจากบริษัทของลูกค้าได้ก็เป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้ว หญิงสาวดูนาฬิกาข้อมือ บ่นพึมพำกับตัวเอง

“นี่ฉันจะไปวัดทันไหมเนี่ย”

แต่ดูเหมือนว่าเย็นนั้นการจราจรบนท้องถนนจะไม่เป็นใจเอาเสียเลย รถยนต์ติดหนักแทบไม่ขยับเขยื้อน กว่าหญิงสาวจะถึงคอนโดฯ ตัวเองก็ล่วงไปจนเวลาสามทุ่ม เธอได้แต่ดูรูปงานศพของแก้วตาที่เพื่อนร่วมงานถ่ายรูปเอาไว้ นึกเสียดายที่ไม่ได้ไปร่วมงานด้วยอย่างที่ตั้งใจ

“วันพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”

............................................

เช้าวันรุ่งขึ้น นิรมลทำงานจนถึงเวลาพักเที่ยง หญิงสาวชวนเอกภพออกไปรับประทานอาหารกลางวันข้างนอกแถวบริษัท เพื่อที่จะได้รีบไปรีบกลับ ในระหว่างที่นั่งรออาหาร เธอก็เอ่ยถามเอกภพเรื่องไปงานศพของแก้วตา เขาก็ไม่ได้ไปงานนี้เช่นกัน

“จิ๋วมีอะไรหรือเปล่า?”

“เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้ว จิ๋วจะชวนไปฝ่ายบุคคลด้วยกันหน่อยนะ”

นิรมลชวนเขา เอกภพคิ้วขมวดด้วยความสงสัย

“ไปทำไมล่ะ จิ๋วมีเรื่องอะไรที่ต้องติดต่อฝ่ายบุคคล”

นิรมลไม่ตอบ ได้แต่ถอนหายใจ เธอเงยหน้ามองเอกภพแล้วตัดสินใจพูดเลี่ยงๆ ไม่บอกเขาตรงๆ ว่าเธอเจออะไรมาบ้าง

“คือ...จิ๋วอยากจะไปบ้านของแก้วตาน่ะ เมื่อวานตั้งใจจะไปงานศพ แต่กลับมาไม่ทัน คือ...เธอฝากของไว้ให้เอาไปให้สามีและลูก”

เอกภพมองหน้านิรมล ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูด แต่สีหน้าของเขาแสดงความแปลกใจมากกว่าว่าหญิงสาวจะเอาของอะไรไปให้ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ได้แต่พยักหน้าให้

“กินเสร็จพอดี ไปกันเถอะจิ๋ว เดี๋ยวจะเข้างานสาย”

เอกภพพูด แล้วลุกขึ้นไปจ่ายเงินค่าอาหาร ก่อนเดินนำหน้าเธอเพื่อกลับเข้าบริษัท นิรมลรีบลุกขึ้นตามไป เอกภพเดินพาเธอมาจนถึงห้องที่อยู่ชั้นหนึ่ง ด้านหน้ามีป้ายเขียนไว้ว่า ‘ฝ่ายบุคคล’

“มีอะไรหรือเปล่าน้องนิว วันนี้ลงมาถึงห้องนี้ได้”

นิรมลยิ้มให้กับทุกคนในห้อง ตามปกติเธอไม่ได้ลงมาห้องนี้บ่อยนัก หากวันไหนเธอเดินลงมา นั่นแสดงว่าวันนี้ต้องมีอะไรบางอย่าง

“นิวแค่อยากจะมาขอที่อยู่ของแก้วตาค่ะ บังเอิญว่าก่อนที่แก้วตาจะเสียชีวิต เธอฝากของไว้กับนิว ก็เลยจะเอาของไปคืนให้สามีกับลูกของเธอค่ะ”

............................................

ในระหว่างที่นิรมลอยู่ในห้องนั้น เอกภพที่ยืนรออยู่หน้าห้องก็มองว่าเธอจะทำอย่างไร เขาเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างในห้องนั้นเพราะประตูห้องเป็นกระจกใส มองเห็นได้ว่าใครทำอะไร

“อ้าว...หนึ่ง มายืนทำอะไรตรงนี้ล่ะ ไม่ไปทำงานหรือไง”

เอกภพหันไปมอง ชมพูนุทนั่นเองที่ทักทายเขา

“มายืนรอเป็นเพื่อนนิวน่ะ เข้าไปติดต่อฝ่ายบุคคลอยู่ตรงนั้น”

เขาพูดพร้อมชี้ให้ชมพูนุทดู เธอเห็นนิรมลยืนจดอะไรบางอย่างอยู่ที่แฟ้ม กำลังจะถามเอกภพต่อ แต่เธอกลับรู้สึกว่ามีใครบางคนสะกิดไหล่

“ชมพู หัวหน้าเรียกเข้าห้องทำงานแล้ว เดี๋ยวตอนบ่ายมีประชุมนะ”

ชมพูนุทหันหน้าไปมอง เพื่อนคนที่นั่งโต๊ะข้างๆ นั่นเอง เธอพยักหน้าให้ พูดเบาๆ เพียงแค่ว่า

“เดี๋ยวฉันตามไป”

“ชมพูไปทำงานเถอะ เดี๋ยวนิวออกมาแล้วหนึ่งก็จะไปทำงานเหมือนกัน”

“ถ้าอย่างนั้นชมพูไปทำงานก่อนก็แล้วกัน”

ชมพูนุทเดินจากไป พอดีกับที่นิรมลเดินยิ้มออกมาจากห้องฝ่ายบุคคล เธอมองหน้าเอกภพ และมองตามหลังชมพูนุทที่เดินหายเข้าห้องประชาสัมพันธ์ที่อยู่ติดกัน

“อ้าว! ชมพูรีบไปไหนล่ะหนึ่ง นี่ยังไม่ถึงเวลาเข้าทำงานเลยนี่นา”

“ได้ยินว่าตอนบ่ายมีประชุมน่ะ ก็เลยต้องรีบเข้าห้องไปก่อน แล้วได้มาไหม ที่อยู่ของแก้วตาน่ะ”

นิรมลยิ้มให้ และชูกระดาษขึ้นให้เอกภพเห็นชัดเจน

“นี่ไง โชคดีนะที่เขาเปิดแฟ้มของแก้วตาอยู่พอดี นิวเห็นก็เลยขอจดที่อยู่ไว้ก่อน เสียดายที่ไม่มีเบอร์โทรศัพท์”

เอกภพพยักหน้า ยิ้มให้นิรมลด้วยความดีใจตามไปด้วย

“ดีแล้วละนิว ถ้าอย่างนั้นเราขึ้นไปทำงานกันเถอะ จวนจะบ่ายโมงแล้ว”

เอกภพพูดแล้วเดินไปที่ลิฟต์ เขากดเพื่อขึ้นไปชั้นสามซึ่งเป็นห้องทำงานของนิรมล เมื่อทั้งสองคนก้าวเข้าไปในลิฟต์ และอยู่กันตามลำพัง เขาก็ถามหญิงสาวอีกครั้ง

“จิ๋วจะเอาของอะไรไปให้เหรอ ถ้าจิ๋วไปจริงๆ บีจะไปเป็นเพื่อนนะ บีเป็นห่วงไม่อยากให้ไปคนเดียว”

นิรมลยิ้มให้ แต่ยังไม่ทันจะตอบอะไรออกมา ประตูลิฟต์ก็เปิดออก

ติ๊ง!

“งั้นนิวไปก่อนนะ ขอบใจที่มาส่งนะหนึ่ง”

“อ้าว! นิว”

เอกภพตะโกนเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากร่างเล็กบางนั้น เธอกลับเดินเข้าไปในห้องกระจกเพื่อทำงานต่อ เขาได้แต่ยืนมอง ถอนหายใจยาว พูดพึมพำอยู่คนเดียว

“ช่างเถอะ เดี๋ยววันเสาร์ค่อยคุยกัน”

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทส่งท้าย

    ชมพูนุทปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาว่าเธอไม่ได้ทำ แต่หลักฐานทุกอย่างมัดตัวแน่นหนา ถึงแม้ว่าเธอจะปฏิเสธและหาทนายความเพื่อสู้คดีและยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอประกันตัว แต่เนื่องจากเป็นคดีร้ายแรงจึงไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวออกมาแม่และยายของชมพูนุทมาเยี่ยมเธอเพียงครั้งเดียว ยายได้แต่ร้องไห้เสียใจในการกระทำของเธออยากจะมาเยี่ยมหลานบ่อยๆ แต่ไม่สะดวกในการเดินทาง ส่วนแม่ของเธอ สามีของแม่ไม่ต้องการให้เข้ามายุ่งเกี่ยวอีก“คุณไม่ต้องยุ่งกับลูกของคุณแล้วละ ในเมื่อเขาทำผิดก็ต้องชดใช้”ทางด้านแม่ของเอกภพออกจากโรงพยาบาลในอีกสามวันต่อมา คราวนี้ทั้งเอกภพและนิรมลเป็นคนไปรับ หญิงสาวไปด้วยเพราะต้องไปรับรถยนต์ที่อู่ซ่อมรถ แม่ของเอกภพที่พอรู้เรื่องราวของหญิงสาวอยู่บ้างจึงพูดปลอบโยนเธอ“หนูนิวปลอดภัยดีนะ ตอนนี้คนร้ายก็ถูกจับตัวไปแล้ว ต่อไปคงมีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตนะ”นิรมลยกมือไหว้ขอบคุณแม่ของเอกภพเช่นกัน เธอยิ้มให้“นิวก็หวังไว้อย่างนั้นค่ะ ต่อไปคงมีแต่สิ่งดีๆ เข้ามา”ในคืนนั้น นิรมลฝันอีกครั้ง เธอยืนอยู่ในบรรยากาศที่มืดมิดอีกครั้ง แต่ในค

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 30-2-จับคนร้าย (2)

    เมื่อไปถึงสถานีตำรวจ นิรมลเดินนำเอกภพเข้าไปด้วยความมั่นใจ เนื่องจากเมื่อวานเธออยู่ตรงนี้ เกือบทั้งวันแล้ว เอกภพเห็นนิรมลเดินนำหน้าเข้าไปในห้องสืบสวน และได้พบกับตำรวจคนหนึ่ง ผิวดำแดง ตัวสูงแต่รูปร่างผอมบางกว่าเขามากทีเดียว“สวัสดีค่ะหมวด ฉันเอาหลักฐานชิ้นใหม่มาให้ดูค่ะ เพื่อแจ้งความเรื่องคุณพิษณุถูกฆาตกรรมค่ะ”ตำรวจคนนั้นเปิดฮาร์ดดิสก์ออกดู นำมาดูในคอมพิวเตอร์ เมื่อเห็นในคลิปชัดเจนว่าใครทำอะไร เขาก็รีบจดข้อมูลทันที แต่ก็หันไปสอบถามกับนิรมลเพิ่มอีก“คุณรู้ใช่ไหมว่าคนในคลิปเป็นใคร? ผู้ชายที่อยู่ในคลิปนี้เสียชีวิตแล้วใช่ไหมครับ”นิรมลพยักหน้ารับ เธอหยิบสมุดบันทึกออกมาพร้อมกับอธิบายให้ข้อมูลเพิ่มเติม“ผู้ชายที่อยู่ในคลิปชื่อพิษณุค่ะ เขาเสียชีวิตเมื่อสามปีที่แล้ว แต่...ฉันไม่แน่ใจว่าคดีของเขา ตำรวจคนไหนเป็นเจ้าของคดี ผู้หญิงคนนี้คิดวางยาแต่ไม่สำเร็จค่ะ เธอก็เลยจ้างคนมาตัดสายเบรกรถยนต์ หลักฐานทุกอย่างอยู่ในคลิปวิดีโอและสมุดบันทึกเล่มนี้ค่ะ”เอกภพและนรีนันท์อยู่ให้ปากคำถึงสองชั่วโมง ทั้งสองคนชี้เบาะแสเรื่องของการวางยาเบื่อและขอให้เชิญพ

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 30-1-จับคนร้าย (1)

    เอกภพรีบพาแม่มาที่โรงพยาบาลใกล้บ้านโดยเร็ว หมอเห็นอาการของแม่รีบพาตัวเข้าห้องฉุกเฉินล้างท้องทันที เขายืนกอดน้องสาวคนเล็กที่กำลังร้องไห้ฟูมฟายด้วยความกลัว“พี่หนึ่ง...แม่ จะตายไหม”“แม่ต้องไม่เป็นอะไร แม่ถึงมือหมอแล้ว หมอต้องช่วยแม่ได้ ไม่ต้องร้องไห้แล้วนะ”............................................เช้าวันนี้อาการของนิรมลดีขึ้น สองคนพี่น้องจึงคุยกันว่าจะไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า ของใช้หมดหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม กระดาษทิชชู รวมถึงของแห้งอย่างพวกข้าวสารหรืออื่นๆ ที่จำเป็นแต่เมื่อเอกภพโทรศัพท์มาแจ้งข่าวว่าแม่ของเขาเข้าโรงพยาบาลกะทันหัน แผนการในวันนี้จึงต้องเปลี่ยนไป ทั้งสองคนพี่น้องพากันไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมแม่ของเอกภพโชคดีเมื่อนิรมลและนรีนันท์ไปถึง แม่ของเอกภพก็อาการปลอดภัยพ้นขีดอันตราย ทางโรงพยาบาลกำลังหาห้องพักพิเศษตามที่เอกภพแจ้งความประสงค์ไว้ นิรมลเดินไปหาเขาที่กำลังมีสีหน้าเคร่งเครียด“ทำไมอยู่ๆ แม่เป็นแบบนี้ล่ะ กินอะไรไปเหรอ”“แม่กินต้มแซ่บที่หนึ่งเอามาจากคอนโดฯ นิวเมื่อวานน่ะสิ!”นิรมลมีสีหน้าไม่สบายใจเมื่อเดินลงมายังที่จอดรถยนต์กับนรีนันท์ เธอนึกถึง

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 29-2-ฆาตกรรมอำพราง (อีกครั้ง) (2)

    เช้าวันรุ่งขึ้น นิรมลลุกขึ้นมาจากเตียงนอน เธอลุกขึ้นมาตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าเพื่อที่จะไปทำงานตามปกติ หญิงสาวเดินออกมาจากห้องนอนก็พบนรีนันท์ที่กำลังอุ่นอาหารอยู่“พี่นิวจะไปไหน กลับเข้าไปนอนต่อเลย”“พี่หายแล้ว ไปทำงานได้แล้ว”นรีนันท์เดินมาแตะหน้าผากพี่สาว“หายป่วยอะไรกันคะ ตัวยังร้อนอยู่เลย พี่นิวอย่าดื้อเลยค่ะ นอนพักให้หายดีก่อนเถอะ พี่หนึ่งบอกว่าจะลางานให้พี่นิวพักผ่อนถึงวันจันทร์เลยค่ะ”นิรมลนิ่ง นึกทบทวนว่าวันนี้วันอะไร...เพิ่งวันพฤหัสบดีเองนี่นา“งานด่วนพี่ก็มีนะ อยู่ๆ จะให้พี่ไม่ไปทำงานแบบนี้ได้ยังไง”แต่นรีนันท์กลับส่ายหน้าไม่ให้ไปไหน เธอจัดการอุ่นอาหารให้พี่สาวเสร็จก็เตรียมถือสิ่งของสัมภาระออกไปทำงาน และไม่ลืมที่จะหยิบกุญแจรถยนต์ของพี่สาวมาด้วย เพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องรบกวนเอกภพให้มาส่ง และหันมาบอกพี่สาว“นัทขอยืมรถยนต์พี่นิวไปทำงานก่อนก็แล้วกันค่ะ ส่วนอาหาร นัทอุ่นไว้ให้แล้วนะคะ”............................................นรีนันท์เข้าไปที่บริษัททำงานตามปกติ เธอเจอกับเอกภพที่เพิ่งอ

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 29-1-ฆาตกรรมอำพราง (อีกครั้ง) (1)

    สิ่งที่เอกภพคาดการณ์ไว้ก็เป็นจริง เมื่ออีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาขวดน้ำเกลือหมดขวด หมอเดินมาดูอาการนิรมลอีกครั้งก่อนที่จะอนุญาตให้หญิงสาวกลับบ้านได้เอกภพพานิรมลมาส่งที่คอนโดฯ แล้วตั้งใจจะกลับไปทำงานที่บริษัทต่อ ก่อนจะไปเขาบอกให้หญิงสาวพักผ่อน“จิ๋วนอนพักนะ ไม่ใช่ว่าลุกขึ้นมาทำงานล่ะ”“รู้แล้วน่า จิ๋วยังไม่หายดีหรอก จะพยายามนอนพักให้หายก่อนค่อยกลับมาลุยงานใหม่”“ดีแล้ว ยังไงตอนเย็นบีจะแวะมาหาอีกรอบก็แล้วกันนะ จะพานัทกลับมาส่งด้วย โอเคไหม”นิรมลยิ้มให้กับเอกภพ“ขอบคุณนะที่ช่วยดูแลจิ๋วกับนัทด้วย ไม่ต้องซื้ออะไรมาเยอะหรอกนะ หรือว่าถ้ามีธุระด่วน ฝากนัทมาให้ก็ได้”เอกภพพยักหน้ารับก่อนที่จะกลับมาทำงานต่อ เขานั่งทำงานอยู่จนกระทั่งถึงเวลาเลิกงาน จึงส่งข้อความไปหานรีนันท์‘เย็นนี้กลับกี่โมง เลิกงานหรือยัง เดี๋ยวพี่ไปส่งนัทกลับคอนโดฯ แล้วก็จะได้ซื้ออาหารไปให้พี่นิวด้วย’‘งานนัทยังไม่เสร็จเลยค่ะพี่หนึ่ง นัทตั้งใจว่าจะกลับสักหกโมงเย็น พี่หนึ่งรีบกลับบ้านหรือเปล่าคะ ถ้าพี่มีธุระกลับก่อนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวนัทนั่งแท็กซี่กลับเอง’เอกภพหยิบ

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 28-2-รู้ตัวฆาตกร (2)

    ชมพูนุทพิมพ์เท่านี้ก็วางโทรศัพท์ลง นั่งครุ่นคิดเรื่องของตัวเองต่อโดยไม่ได้สนใจเสียงโทรศัพท์ที่ดังอยู่ตรงหน้า หญิงสาวได้แต่บ่นพึมพำ“ใครจะไปรับ คงโทรฯ มาด่าอีกแหง เห็นทีต้องหางานเสริมอย่างที่แม่ว่าจริงๆ นั่นแหละ”ชมพูนุทนั่งคิดถึงเรื่องหางานเสริม งานนั้นต้องได้เงินเยอะมากพอที่จะทำให้ความเป็นอยู่ดีกว่านี้ เธอจึงตัดสินใจเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ พิมพ์ข้อความค้นหาแล้วก็เจอกลุ่มลับกลุ่มหนึ่ง ในนั้นมีข้อความเชิญชวนให้ทำงานบางอย่าง...‘มองหาสาวสวยที่ต้องการรายได้เสริม ไม่ต้องมีประสบการณ์ สนใจติดต่อได้ที่...’ข้อความนั้นทำให้ชมพูนุทตัดสินใจเข้ากลุ่มโดยไม่ลังเลอีก เธอเข้ากลุ่มเพื่อทำงานเป็นผู้หญิงไซด์ไลน์ และใช้ชื่อในวงการว่า ‘พิงค์กี้’ แน่นอนว่าเธอตั้งใจทำงานเพื่อซื้อของใช้และของแบรนด์เนมที่เธออยากได้ หญิงสาวคิดเพียงแค่ว่าเงินนี้เธอได้มาโดยสุจริต อย่างน้อยทำงานมาโดยใช้ตัวเข้าแลกเงินชมพูนุททำงานนี้มาตลอดโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าหญิงสาวมีอาชีพเสริมอะไร จนกระทั่งวันหนึ่ง ชมพูนุทก็ได้เจอกับพิษณุที่บริษัท เขาเห็นหน้าเธอเพียงแวบแรกก็นึกพอใจ และจะติ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status