แชร์

บทที่7.ผมจะอยู่ข้างๆคุณ

ผู้เขียน: Luna of The Sea
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-18 05:40:35

เปรี้ยง เปรี้ยง! “อีฟ ตื่นเร็ว สายแล้ว” แนนซี่เปล่งเสียงเรียกพลางกำมือกระแทกประตูอยู่หน้าห้อง

เปรี้ยง เปรี้ยง ! " อีฟ ! " เสียงดังลั่นทั่วอะพาร์ตเมนต์จนข้างห้องต้องเปิดประตูออกมาดู " เบาๆหน่อยน้อง คนกำลังหลับนอน จะทุบประตูแหกปากลั่นทำไมเกรงใจชาวบ้านบ้าง " หญิงวัยกลางคนในชุดนอนผ้ามันผมม้วนเป็นลอนใบหน้าดูราวยังไม่ได้นอนเพราะเครื่องสำอางบนใบหน้าของนางยังแน่น พูดด้วยน้ำเสียงฟัดเหวี่ยง จนแนนซี่ทำหน้าแหยๆ กล่าวคำขอโทษ ให้หล่อนได้พอใจ

“ตื่นแล้ว แนนซี่” แล้วอีฟก็ขานรับเสียงเรียกดังของแนนซี่พลางหันมองมือถือบนหัวเตียงที่ไม่ดังเตือนเช่นทุกวันพลันนึกได้ ว่า ลืมตั้งนาฬิกาปลุกรู้เลยทันทีว่าสายแล้วเธอรีบเด้งตัวออกจากเตียง

“รอฉันด้วย แนนซี่” รีบเร่งจัดการแต่งตัว

......

สองสาวต่างไซซ์หน้าตาตื่นก้าวยาวเข้าห้องเรียนแทรกตัวลงนั่งตรงที่ว่าง ขณะที่อาจารย์กำลังถือไมค์บรรยายอยู่หน้ากระดาน

“อีฟ” เสียงของอาจารย์หญิงวัยกลางคนสวมแว่นหนาเตอะ ขานชื่อของเธอที่ยังนั่งหลุกหลิกจัดท่าเพราะพึ่งมาถึง

“อธิบายถึงหัวข้อที่อาจารย์พึ่งบรรยายไปให้กระจ่างหน่อย”

อีฟเงยหน้าขึ้นตามเสียงที่กังวานดวงตาจ้องบนกระดานด้วยใบหน้างุนงงอ้ำอึ้งกับคำถามไม่รู้จะเริ่มอย่างไง ทุกคนในห้องต่างหันหน้ามาทางอีฟเพื่อรอฟังพลางหัวเราะ คิกคักนึกขำในสภาพของเธอที่ราวคนพึ่งตื่น...

“มีใคร พอจะช่วยอธิบายแทนอีฟหน่อย ให้อีฟได้เข้าใจ” ลิซซี่ได้ยืดตัวขึ้นทันที แล้วอธิบายหัวข้อสำคัญนั้นได้อย่างคล่องแคล่วจนจบ หล่อนชายตามาที่อีฟด้วยความผยอง พร้อมเสียงปรบมือที่ดัง อีฟได้แต่นั่งนิ่งเอียงหน้าลงเพราะรู้สึกขายหน้าตัวเองต่อเพื่อนทุกคนในห้องยิ่งนักเพราะในมหาลัยลือกันหนาหูเรื่องที่ทั้งสองไม่กินเส้นกันแล้วไอวาอดีตแฟนเก่าก็เลือกจะคบกับหล่อนอีกต่อให้จะอายและแค้นอยู่บ้างแต่ตบมือข้างเดียวมันใช่จะดัง เธอได้แต่ยอมรับความจริงว่า เธอแพ้หล่อนแล้วทุกทาง

ถึงเวลาเที่ยงในรั้วมหาลัยเป็นช่วงเวลาพัก เธอหยิบโน้ตบุ๊กขึ้นมาเปิดเข้าเว็บไซต์หางาน ดวงตาจดจ่ออ่านประกาศบนหน้าจอ “อีฟ” เสียงเรียกที่เคยคุ้นหูได้ยินในระยะใกล้ เธอก็พอเดาออกเสียงว่าเสียงนี้คือไอวาแฟนเก่าของเธอ ยืนตัวตรงมองมาที่เธอด้วยสายตาที่เว้าวอนให้เธอรับฟังในสิ่งที่เขากำลังจะพูด “เราขอโทษนะ ถ้าลิซซี่ด้วยพูดอะไรที่ไม่ดีมากไป” อีฟอึ้งกับคำพูดของไอวาภายในใจของเธอคิดว่า เขาต้องการจะสื่อถึงอะไร เพราะระหว่างเธอและเขาจบไม่สวยและไม่สามารถเป็นเพื่อนกันได้อีกเลยอีฟเลื่อนสายตาเฉยชาลงและไร้คำตอบจากปากของเธอ ไอวารอฟังคำบางคำที่จะหลุดออกจากปากของอีฟอดีตคนเคยคบ

“ไอวา” เสียงของลิซซี่ยืนเท้าเอวตะโกนเรียกแฟนของหล่อนให้เขาต้องหันหลังกลับไป แนนซี่มองเห็นไอวาจากระยะไกลรีบเดินจ้ำอ้าวกลับมาพร้อมถุงขนมขบเคี้ยว

“มันมา ทำไมอีกไอ้นี่”

“ไม่มีอะไรหรอก แนนซี่ นั่งลงก่อน” ผ่านไปชั่วครู่พอได้ดื่มน้ำอัดลมเย็นๆ กับขนมขบเคี้ยวแสนอร่อย แนนซี่ก็ขยับปากเอ่ยถามเพื่อนรัก

“หลังจบแล้วเธอจะไปที่ไหนทำอะไร อีฟ” อีฟที่กำลังจ้องหน้าจอสี่เหลี่ยมหันมองแนนซี่เมื่อได้ยินคำถาม

“หางานทำ และก็กำลังหา แค่นั้นเพื่อน”

“แล้วเธอละ แนนซี่”

“ฉันจะกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดอะอีฟที่บ้านอยากให้ไปช่วยดูแลงานที่บ้าน” แนนซี่ตอบพลางหยิบขนมขบเคี้ยวเข้าปาก

“ไปเที่ยวบ้านฉันสิ เที่ยวสวนยางดูภูเขาทะเล”

“คิดดูก่อน” เธอก็อยากตอบตกลงเหมือนกันแต่ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต

......

ช่วงบ่ายที่คอนโดของแซม ซึ่งเขากำลังยุ่งกับการเตรียมงานบนโต๊ะที่มีเอกสารวางเรียงแต่เขาก็ยังไม่ลืมเรื่องที่ตกลงกับอีฟเมื่อคืนไว้เลื่อนเสิร์ซหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เพื่อจะเดินทางไปพร้อมกับเธอ แล้วจุดหมายปลายทางแรกที่เขาอยากจะไปคือ กาญจนบุรี

เย็นนี้อีฟกับแนนซี่ถึงห้องก็ค่ำมืดและอีฟได้ส่งข้อความหาเจ๊แตงก่อนหน้าไว้แล้วว่าไม่ต้องรอ ทั้งสองเดินเข้าห้องของอีฟแต่แนนซี่ยังคงเป็นสาวช่างฝัน พูดถึงแต่พระเอกในซีรีส์ที่ติดงอมแงมไม่หยุดแต่ด้วยความเทอะทะ เท้าสะดุดซองสีน้ำตาลที่สอดเข้ามาจากประตู

“อีฟ นี่ซองอะไรอะ”

“เปิดดูให้หน่อย” อีฟยืนหันหลังกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเอ่ยกับแนนซี่

“อีฟ”

“อะไร แนนซี่”

“ผู้ชายเขียน เซอร์ไพรส์อะไรให้กับเธอ”

อีฟเดินมาคว้ากระดาษจากมือแนนซี่ มองดูใบเสร็จรับเงินค่าเช่าล่วงหน้า เวลาชำระ 7.40amของวันนี้ แนบกระดาษอีกใบเขียนข้อความว่า

"I really like you and would like to help. Even though it's a little, I did it with my heart. because what you are That face is Fight to graduate, I will be beside you" (ผมชอบคุณมาก อยากจะช่วยบ้าง แม้ว่ามันจะเล็กน้อย แต่ก็ทำให้ด้วยหัวใจ เพราะสิ่งที่คุณกำลัง เผชิญนั้นคือความ ต่อสู้ให้เรียนจบ ผมจะอยู่ข้างๆ คุณ)

ซองสี่เหลี่ยมนี้ลุงชัยเป็นคนจัดการให้คุณป้าแม่บ้านนำมาสอดไว้นั้นเองเพราะแซมได้เขียนฝากไว้ให้ใส่ลงในซองพร้อมกับใบเสร็จเพื่อให้เธอได้เข้าใจในสิ่งที่เขากำลังทำ

นัยน์ตาดำของอีฟมีน้ำใสคลอด้วยความซาบซึ้ง แนนซี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานตาเยิ้มราวกับกำลังอินกับพระเอกซีรีส์ที่กำลังติดงอมแงม

“ทำไมโรแมนติกอะไร ขนาดนี่นะแซม” แต่เธอมองเพื่อนด้วยความยินดีอย่างน้อยอีฟก็รอดไปช่วงหนึ่ง

“ปะๆ สั่งพิซซ่า กินกัน ฉันจ่ายเอง” แนนซี่พูดขึั้นเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศไม่ให้อีฟคิดมากเพราะแลดูใบหน้าอีฟแล้วคล้ายกำลังจะร้องไห้พลางหยิบมือถือกดสั่งร้านพิซซ่าตามโบรชัวร์ที่จัดโปร

ต่อให้อีฟจะซึ้งใจมากกับสิ่งที่เขาทำ แต่เธอก็ยังแอบคิดเล็กคิดน้อยในใจ อยู่เอง ว่า “คืออะไร ค่าตัวฉันเหรอเมื่อคืนที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขา เธอทำมันด้วยหัวใจที่ต้องการจริง” เธอพยายามข่มความรู้สึกนึกคิดอกุศลแบบนี้เอาไว้ เพราะเธอก็ไม่ใช่คนดีอะไรมากมายที่ขาวสะอาดไม่เคยแปดเปื้อนสิ่งใด ถอนหายใจออกเบาๆ ตัดใจลบเรื่องไม่ดีออกจากหัวสมอง หยิบมือถือ พิมพ์ข้อความ ถึงแซม

“Sam, thank you so much for the Surprise gift in the envelope. I sincerely accept it. It's not about the money.” (แซม ขอบคุณมากสำหรับ ของขวัญเซอร์ไพรส์ในซองจดหมาย ฉันขอรับมันไว้ด้วยความจริงใจไม่เกี่ยวกับเงิน)

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)   บทที่18.บทสุดท้าย

    สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องของแซมอาจเพราะด้วยความกดดันของทั้งสองที่ต้องการเพียงระยะห่างเท่านั้นและอีฟก็แค่ตั้งใจจะไปปรึกษาเรื่องงานของเธอกับแซม ยังไม่ทันได้ปริปากพูดถึงมันเลยกลับต้องจบลงแบบนี้จะด้วยเหตุผลอะไรก็ช่างแต่บทสุดท้ายคือตอนนี้เธอเศร้าใจนัก และคำปลอบใจที่พูดกับตัวเองก็มีเพียงอย่างเดียวคือ ต้องมูฟออน เมื่อถึงห้องเธอก็ไม่รอช้าคว้าโน้ตบุ๊กขึ้นมาเปิดแล้วตอบกลับอีเมลงานที่รอคำตอบจากเธอมาหลายวันแล้วด้วยใจที่แน่วแน่มั่นใจและพร้อมเดินทางในวันถัดไปโดยไม่จำเป็นต้องรีรอ วันต่อมา… บางครั้งโชคชะตาก็พลิกผันรวดเร็วเกินตั้งตัวให้เราเดินตามทางที่ถูกกำหนดมาตามเวลาที่เหมาะสม ตอนนี้เธอได้เก็บข้าวของเครื่องใช้ต่างๆแพ็กลงกล่องเพื่อจัดการส่งให้กับบริษัทขนส่งที่กำลังจะมารับ หนังสือที่ตั้งวางอยู่ด้านหน้ามือหยิบลงใส่กล่องกระดาษสี่เหลี่ยมที่เตรียมไว้เป็นพิเศษสำหรับหนังสือเล่มโปรดของเธอแต่แล้วดวงตาต้องสะดุดกับสมุดบันทึกรักที่เคยจดบันทึกไว้เธอหยิบขึ้นมาแล้วเพ่งมองชวนให้นึกถึงและคิดว่าจะเปิดดูและอ่านอีกรอบแต่แล้วทันใดนั้นเสียงประตูหน้าห้องก็ดังแทรก ก๊อก ก๊อก ก๊อก “ใครคะ?” “แม่บ้านจ้า” เธอตั

  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)    บทที่17.ถึงเวลาต้องเลือกทางเดิน

    ที่ร้านอาหารตามสั่งของเจ๊แตงอีฟและแนนซี่ได้ทยอยขนของลงมาไว้บ้างแล้วเพื่อรอครอบครัวของแนนซี่จะมารับในไม่ช้า บนโต๊ะอาหารทุกคนนั่งรับประทานอาหารพร้อมสนทนากันไปพลางๆพลันสายตาหลายคู่ต้องหันมองไปทางเดียวกันเพราะรถเบนซ์คันหรูที่ดูคุ้นตาและนานๆจะมีเข้ามาที่อะพาร์ตเมนต์ราคาประหยัดเช่นนี้ซึ่งดูคลับคล้ายคลับคลาว่าเมื่อหลายเดือนก่อนนั้นน่าจะเป็นคันเดียวกันที่เคลื่อนเข้าเมื่ออีฟและแนนซี่จ้องมองไปยังแผ่นป้ายทะเบียนนั้นแล้วก็ตรงเป๊ะและคิดว่า “ต้องใช่!หล่อนแน่ๆ”แต่วันนี้กลับมีสาวสวยสวมแว่นดำเดินออกมาจากรถมันเงาเพียงลำพังไร้เงาชายหนุ่มข้างกาย ลิซซี่ยืนบนรองรองเท้าส้นแหลม คอหันซ้ายหันขวาแล้วสายตาสะดุดเห็นอีฟและแนนซี่นั่งอยู่ที่ร้านอาหารข้างๆหอหล่อนจึงรีบเดินดุ่มๆมาแล้วเอ่ยถาม “อีฟเจอไอวาไหมฉันตามหาเขาอยู่เขาพยายามหลบหน้าหลบตาฉัน”เธอพูดด้วยเสียงที่กระซิกๆคล้ายกับจะร้องไห้ใต้แว่นดำแต่ไร้ซึ่งหยดน้ำตาต่อให้ลิซซี่จะสวยเพอร์เฟกต์แค่ไหนแต่หล่อนก็เป็นคนเอาแต่ใจให้ได้มาซึ่งทุกอย่างตามประสาลูกคนรวยที่ถูกสปอยล์แต่ตอนนี้เสียงของหล่อนที่พูดกับอีฟได้อ่อนปวกเปียกต่างจากเมื่อก่อนเพียงเพื่อต้องการให้ได้สิ่งที่หล่อนต

  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)   บทที่16.ความสัมพันธ์เหินห่าง

    ในห้องสี่เหลี่ยมที่บรรยากาศอึมครึมเพราะชายหนุ่มผู้มุ่งมั่นและจริงจังตอนนี้เขาได้เก็บตัวปิดประตูสังคมนั่งหน้าดำคร่ำเครียดปล่อยหนวดเครายาวสมองหมกมุ่นหนักกับงานที่ไม่ลงตัว แม้แต่อีฟคนที่กำลังคบหาเขาก็ไม่ได้สนใจตอบข้อความของเธออย่างเช่นเคยเพราะตอนนี้เขาแทบจะถวายชีวิตให้กับงานเลยก็ว่าได้ สามารถยอมแลกได้ทุกอย่างให้ได้มาซึ่งความสำเร็จแต่เขาอยากระบายออกมาบ้างในบางครั้งแล้วเสียงของชายหนุ่มได้ตะโกนลั่นปลดปล่อยอารมณ์ความเครียดจากสมองพลางมือขยำกระดาษเป็นก้อนแล้วปามันติดกำแพงผนัง..ที่อะพาร์ตเมนต์ในที่พักอาศัยของอีฟและแนนซี่ ตอนนี้ทั้งสองกำลังยุ่งกับการเก็บข้าวของ แนนซี่มองดูรูปถ่ายที่ถืออยู่ในมือเป็นภาพของเธอกับอีฟในชุดนักศึกษาสมัยปีหนึ่งที่ถ่ายคู่กันด้วยความสนิทสนมด้วยความปลาบปลื้มที่มีเพื่อนดีๆเช่น อีฟ แล้วเก็บใส่กล่องสี่เหลี่ยมส่วนตัวของเธอ ข้าวของเครื่องใช้ที่แพ็กไว้เรียบร้อยพร้อมขนย้ายเพื่อเตรียมกลับบ้านที่ต่างจังหวัดอย่างถาวร ในขณะที่อีฟมือแพ็กกล่องสลับหยิบมือถือขึ้นมาดูเป็นระยะๆเพื่อเช็กข้อความแซมที่จะตอบกลับเธอ“มีอะไรหรือเปล่าอีฟ เช็กมือถือตลอดเลย”แนนซี่เอ่ยถามเมื่อสังเกตว่าอีฟพะวงดูมื

  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)   บทที่15.เฉลิมฉลอง

    หนึ่งเดือนผ่านไปเช้าของวันที่อากาศสดใสปลอดโปร่งในรั้วมหาวิทยาลัยที่ สองสาวใช้เวลาหลายปีในการร่ำเรียนและมีความผูกพันกับสถานที่เรียนแห่งนี้ก็มาถึงช่วงท้ายสุดของชีวิตนักศึกษา นักศึกษามากมายหลายคนต่างยื่นหน้าจ้องบนกระดาษที่แปะไว้ที่บอร์ดของคณะพลางนิ้วไล่เช็กรหัสของตัวเอง “อีฟฉันผ่านแล้ว”แนนซี่กระโดดกอดอีฟด้วยความดีใจเมื่อเห็นรหัสประจำตัวและชื่อของตัวเองติดอยู่ว่าสอบได้และอีฟยิ้มอย่างภูมิใจที่ทำสำเร็จเมื่อเห็นชื่อของเธอว่าสอบผ่านด้วยเช่นกันและตัวเธอเองจะไม่โอเคแน่ๆถ้าต้องเสียเวลาสอบใหม่อีกรอบเพราะฐานะการเงินที่ฝืดเคืองไม่สามารถประคองชีวิตต่อไปได้อีกหลายเดือนหากยังไม่มีงานประจำทำแล้ววันนี้เธอก็ทำสำเร็จซึ่งเธอก็ภูมิใจกับตัวเองอยู่ไม่น้อย สองสาวที่แพลนเอาไว้เป็นเดือนแล้วว่าจะรวบรวมเงินกันจัดงานฉลองเล็กๆกันที่ร้านข้างหอถ้าสอบผ่านและสำเร็จทั้งสองคน “แนนซี่ เดี๋ยวเจอกันที่ร้านเจ๊แตงนะเราต้องเฉลิมฉลองกันตามที่เราได้สัญญากันไว้แต่ตอนนี้ฉันต้องรีบไปก่อนนะเพื่อนมีนัดกับแซมไว้เจอกันเย็นนี้นะ ” อีฟพูดพลางก้าวถอยหลังเดินออกไปด้วยใบหน้าที่แจ่มใสและเธอก็ยิ้มไม่หุบระหว่างการเดินทางไปหาชายหนุ่มที่คบแล

  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)   บทที่14.บททดสอบ

    เวลา10โมงเช้าบรรยากาศในห้องสอบที่เงียบทุกคนต่างเพ่งตาทำข้อสอบอีฟใบหน้าผ่อนคลายอย่างมีสมาธิเธอรู้สึกดีใจที่ถึงวันนี้เสียทีเพราะเท่ากับว่าเธอได้นับเวลาถอยหลังถึงเส้นชัยแม้ช่วงเวลาที่ผ่านมาอันรวดเร็วเธอจะผ่านประสบการณ์ทำงานที่แปลกใหม่ในชีวิตจนได้พบกับใครบางคนที่ชะตาฟ้าลิขิตให้มาเจอ พอถึงช่วงเวลาบ่ายหลังจากสอบเสร็จอีฟกับแนนซี่กำลังนั่งเม้าท์กันตามประสาเพื่อนสนิทใต้ต้นไม้ใหญ่ในรั้วมหาวิทยาลัยแต่ทั้งสองต้องเหลียวมองตามเสียงผู้หญิงที่กำลังพูดไฟแลบด้วยท่าทางฟึดฟัดอย่างไม่พอใจและนั่นคือ ไอวาและลิซซี่กำลังทะเลาะกัน “สองคนนั้นเขาทะเลาะอะไรกัน” “ฉันว่าสงสัยเจอฤทธิ์หนุ่มแบดบอยเข้าให้ไอวาก็คงทำนิสัยเดิมๆ เจ้าชู้ไปทั่วแหงๆ แต่ว่าสองคนนั้นคบกันแป๊บเดียวเองนะไม่ทันไรก็เผยสันดานออกมาละ สมน้ำหน้า จะอยู่ด้วยกันได้อย่างไรยัยลิซซี่ที่ขี้เหวี่ยงขึ้วีนขนาดนั้น กับคาสโนว่าตัวพ่อ”แนนซี่พูดรัวชุดใหญ่ แต่อีฟเมื่อได้ฟังก็รู้สึกเฉยๆเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาแล้วอีฟก็มองดูเวลาเพราะเธอได้เวลาต้องไปเปลี่ยนกะที่ร้านขนมหวานกลางเมือง“แนนซี่ ฉันจะต้องไปทำงานต่อที่ร้านขนมเดี๋ยวเจอกันตอนเย็นที่ห้องนะ ” “ได้สิ แล้วเจอกัน” แน

  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)   บทที่13.คอนโดสูงกลางเมือง

    หลังจากเจ๊แตงได้จัดการติดต่อหางานพาร์ตไทม์ช่วยอีฟให้ได้ทำงานแล้ว วันนี้ก็เป็นวันแรกของการทำงานพาร์ตไทม์ในร้านขนมหวานซึ่งใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน ผมยาวถักเปียเรียงซ้อนงามเป็นระเบียบ สาวหุ่นเพรียวในเสื้อยืดสีดำชายเสื้อเข้าในกระโปรงยีนสั้นบนรองเท้าผ้าใบสีขาวคลุมด้วยผ้ากันเปื้อนเดินจัดเสิร์ฟขนมหวานและเครื่องดื่มน้ำผลไม้ให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการซึ่งทั้งร้านมีพนักงานสองสามคนสลับกันเข้าออกเป็นกะ เพื่อนร่วมงานที่เป็นมิตรอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอและอีฟเองก็พึงพอใจกับงานที่ทำและในวันแรกเธอไม่ได้กดดันหรืออึดอัดอะไรเลยดูแล้วงานนี้ก็เหมาะกับเธอด้วยซ้ำแม้รายได้เพียงเป็นค่าอาหารและค่าเดินทางในแต่ละวันซึ่งก็เพียงพอสำหรับเธอในช่วงนี้และใช้เวลาเพียงสามชั่วโมงก็เสร็จงานของเธอในวันนี้เย็นนี้เธอได้นัดกับแซมไว้ให้มาเจอกันที่หน้าร้านขนมหวานหลังจากเธอเสร็จงาน อีฟยืนก้มหน้าพิมพ์ข้อความบนมือถือถึงชายหนุ่มที่นัดแล้วเขาก็มาตรงเวลาเป๊ะ“Hi,sam” ทั้งสองสวมกอดทักทายด้วยความคิดถึง “Shall we go? ” (เราไปกันเลยไหม) แซมตั้งใจไว้ว่าจะแวะดูคอมพิวเตอร์เพื่อไว้ใช้สำหรับธุรกิจของเขาที่กำลังจะเปิดเร็วๆนี้แต่นั่น

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status