Share

บทที่ 7 : คำที่อยากบอก 31

Penulis: persiA99
last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-02 00:57:38

ถึงจะเห็นหน้ากันบ่อยๆ แต่เราไม่มีโอกาสได้คุยกับเธอเลย

...นี่เป็นครั้งแรกที่เราเผชิญกันซึ่งหน้า

“อืม ...แกรด กับบลู? ...มาทำอะไรกันตรงนี้หรอ?”

“พวกเรามาดูดาวกันน่ะ ลูอาล่ะ”

“เดินเล่นน่ะ ฉันนอนไม่หลับ”

...เสียงดังจนปลุกเธอตื่นหรอ? เสียงเมื่อกี๊ ไม่สิๆ มันไม่ได้ดังขนาดนั้น

...

“...หรอ?”

“งั้นฉันขอตัวนะ”

“อืม มันมืดระวังด้วยนะ”

แกรดโบกมือลาลูอาก่อนเด็กสาวจะเดินผ่านพวกเราไป

...

“แกรด ...”

ลูอาหยุดเดินก่อนจะหันมาทางเราด้วยสีหน้าเป็นกังวล

“ว่า...?”

“...ชาเซ ...”

“...?”

“...ไม่มีอะไร ขอตัวนะ”

เด็กสาวไม่พูดอะไรต่อก่อนจะเดินหายไปอีกทาง

...จะพูดถึงผู้กล้า มีอะไรที่เธอไม่สบายใจรึเปล่า

“เราเคยคุยกับลูอาแล้วก็อัสลินอยู่บ้างทั้งจากโรงเรียนเก่าแล้วก็บางครั้งที่ออกไปซื้อของแล้วเจอกัน”

“ซื้อของ ...ที่เมืองหรอ?”

“อืม บางทีเราก็ออกไปกับพวกเธอสามคน”

“ทำไมฉันไม่เห็นรู้เลย” บลูเอ่ยถามด้วยเสียงแตกตื่น

“ก็ไม่เคยเล่าจริงๆ นั่นแหละ แต่ไม่มีอะไรหรอก แค่จะบอกว่าทั้งสองคนเป็นคนดีนะ”

“...หรอ?”

...ฉันเชื่อใจแกรด ถ้าเธอบอกว่าทั้งสองเป็นคนดีก็ตามนั้น แต่ฉันก็อยากลองคุยกับพวกเธอเหมือนกัน ถ้าพวกนั้นไม่รังเกียจฉันเสียก่อ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • Acacia Academ : ความลับของเราสองและทำนองต้องสาป   บทที่ 9 : คำถามบนกระดาษข้อสอบ 39

    เราสี่คนเตรียมใจมาพร้อมสำหรับคำว่า “หมู่บ้านร้าง” มันคงเป็นสถานที่ซึ่งไม่เหลือความเป็นชิ้นเป็นอันให้ชมชื่นแน่แท้“อะ อ่าว...”ความพร้อมทั้งกายและใจดูท่าจะเสียเปล่าเมื่อบ้านเรือนเบื้องหน้าซึ่งถูกพูดถึงไม่ได้ย่ำแย่ขนาดนั้น แม้จะไม่มีใครอยู่จริงแต่สภาพหมู่บ้านก็ไม่ได้เละเทะขนาดนั้นจริงอยู่ว่าสภาพหมู่บ้านเละเทะตามที่ถูกพูดถึง แต่เพราะยังมีบ้านเรือนอีกหลายหลังที่ยังคงสภาพเดิมได้ไม่ถูกทำลายหรือมีความเสียหายอะไรเลยตุ๊บ ตุ๊บสัมภาระส่วนตัวของเราถูกวางกองไว้หน้าทางเข้าหมู่บ้านรวมกับอาหารการกินชุดแรกที่ถูกเตรียมมาด้วยกัน“เดี๋ยวสิๆ”อายทึกทักภาพที่เห็นตรงหน้า“?”“นี่มัน ปิดเทอมในฝันเลยนี่”...จริงตามที่อายพูด“...ดีจริงๆ ที่มา”แกรดฉีกยิ้มอย่างพอใจก่อนจะชวนกันเดินผ่านทางเข้าๆ ไปข้างในรั้วไม้เตี้ยๆ ซึ่งกั้นอาณาเขตหมู่บ้านเอาไว้ ภายในมีอาคารบ้านเรือนเล็กๆ ปลูกเรียงรายโดยรอบนอกรั้วขนาบไปด้วยทุ่งนาที่ว่างเปล่าไร้การดูแลรักษามาสักพักหนึ่งแอ๊ดดดดห่างจากประตูทางเข้าหมู่บ้านไม่ไกล ฉันเหลือบไปเห็นร้านอาหารร้างร้านหนึ่งซึ่งอยู่ในสภาพสมบูรณ์ชวนให้เราอยากลองเข้าไปสำรวจภายในโต๊ะทานอาหารสำหรับลูกค้าวา

  • Acacia Academ : ความลับของเราสองและทำนองต้องสาป   บทที่ 9 : คำถามบนกระดาษข้อสอบ 38

    “โฮ้ว! ชอบๆๆๆ”ลิลิธเบิกตาตื่นกับอาหารตรงหน้า ทั้งขนมหนาวหน้าตาน่าทานและข้าวหน้าเนื้อที่ถูกปรุงแต่งอย่างสละสลวยเข้ากับบรรยากาศริมน้ำยามบ่ายรูปแบบการนั่งติดพื้นทำให้ทั้งอายและลิลิธแปลกใจพอสมควรในทีแรก“แกรดคิดว่าจะได้ให้คุกกี้กับใครหรอ?”อายหันไปถามเด็กสาวขณะที่ทุกคนกำลังทานอาหารตรงหน้ากันอย่างเอร็ดอร่อย“...คิดว่าชาเซน่าจะชนะนะ”แกร๊งเสียงช้อนที่ฉันเผลอทำหลุดมือหลังได้ฟังคำตอบที่คาดไม่ถึงบลูตาค้างพลางมองแกรดด้วยความทึ่ง“...?”...แกรดไม่ได้เชียร์เราหรอ?ตุ๊บ...ฉันทิ้งตัวลงนอนบนพื้นเหมือนหมดอาลัยตายอยาก น้ำตาของผู้แพ้ค่อยๆ ไหลออกมาจากดวงตาที่ไร้ชีวิต“ทำโอเวอร์ไปได้ เราพูดเล่นๆ”“อะ ร หรอ? ...ตกใจหมดเลย”เด็กสาวผมเทาฟื้นตัวกลับมามีชีวิตชีวาภายในเวลาอันรวดเร็ว“ฮ่า ฮ่า ฮ่า บลูนี่ชอบแกรดมากเลยเนอะ”“เอ๊ะ!! ...ช ชอบสิ”ฉันเผลอตอบไปตามสถานการณ์อันสับสนซึ่งแน่นอน ทั้งสองคงคิดว่าความหมายข้างต้นคงแบบเพื่อนสนิททั่วๆ ไป“อืม รู้อยู่แล้วล่ะ”“!?”“เพื่อนรักเลยนี่เนอะ”เฮือก!ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่หลังใจตกไปอยู่ตาตุ่มครู่หนึ่ง“ฮะ ฮ่า ฮ่า กินข้าวต่อเถอะๆ”ว่าแล้วเด็กสาวเจ้าของคำถามก็เปลี่ย

  • Acacia Academ : ความลับของเราสองและทำนองต้องสาป   บทที่ 9 : คำถามบนกระดาษข้อสอบ 37

    บทที่ 9 : คำถามบนกระดาษข้อสอบกริ๊ง กริ๊ง กริ๊งสายลมยามบ่ายพัดกระทบกระดิ่งลมลายฉลุสีเขียวที่คล้องแขวนอยู่หน้าประตูบ้านเปล่งเสียงกรุ๊งกริ๊งไพเราะไปทั่วทั้งตึก...ค่ะ ทั่วตึก ตอนที่ฉันเดินลงไปด้านล่างอาคารก็ยังได้ยินเสียงแว่วเบาๆ ของมันเลย หวังว่าทุกคนจะไม่ร้องเรียนเรื่องเสียงนี้นะ...ยามบ่ายของวันธรรมดาหลังเลิกเรียน เราทั้งสองกำลังขะมักเขม้นอยู่บนโซฟาพลางหยิบสมุดขึ้นมาอ่านคนละเล่มอย่างตั้งใจ“บลู ปีนี้พระราชาอายุเท่าไร?”“ปีนี้ ...ห้าสิบ”“ถูกต้องงงง”“คนในประเทศนี้สามารถแต่งงานกันได้ตอนอายุเท่าไหร่”“สิบหกปีทั้งชายและหญิง”“ใช่ งั้น ...ธาตุไฟกับธาตุดิน ถ้าเอามารวมกันสามารถทำอะไรได้บ้าง?”“....อืม เครื่องปั้นดินเผา”“...อ อืม ถูกต้อง”...แม้จะมั่นใจว่าตอบได้เกือบทุกข้อแน่แต่เราก็ต้องไม่ชะล่าใจเพราะอีกหนึ่งเดือนจะถึงช่วงสอบปลายภาคแล้วเราสองคนใช้เวลาช่วงพักผ่อนไปกับการอ่านหนังสือเตรียมความพร้อมก่อนสอบ...ถึงจะเรียกว่าอ่านหนังสือก็เถอะ แต่แบบนี้ใครจะไปมีสมาธิกันบนตักของฉันมีเด็กสาวผมเปียคนหนึ่งกำลังใช้หัวของเธอหนุนเอาไว้พลางเปิดหนังสืออ่านไม่สนใจ มือของเธอยื่นขึ้นมาลูบปอยผมสีเทาของฉ

  • Acacia Academ : ความลับของเราสองและทำนองต้องสาป   บทที่ 8 : คำร้องจากท้องสมุทร 36

    “จะถึงท่าแล้วนะ”เช้าวันใหม่ ลิลิธซึ่งตื่นเช้าเป็นคนที่สองต่อจากอาจารย์มูฟรีร่าที่ทำหน้าที่บังคับเรือ เด็กสาวตะโกนปลุกเราให้ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นพลางชมเมืองท่าที่กำลังจะไปถึง...ง่วง!ฉันถูกลากขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือพร้อมกับคนอื่นๆ เราทั้งหมดยืนมองแสงสีส้มที่กำลังไต่ระดับขึ้นสู่น่านฟ้า....อาจารย์มากาเลต? น่าจะเมา ตื่นไม่ไหว“...”เมื่อเข้าใจว่าคนอีกคนที่หายไปคือใครฉันก็พร้อมจะไม่สนใจแล้วเพ่งมองแสงแรกของวันอย่างจดจ่อต่อไปปิ๊ง...มันเหมือนกับสัญญาณเริ่มวันใหม่ที่สดใส ใต้วิวทิวทัศน์ที่แสงสีส้มโผล่ขึ้นมาคือพื้นสีคราม มันสะท้อนกันเสมือนกับมีดวงอาทิตย์สองดวงสะท้อนกัน...ตามตำราที่ฉันเคยอ่าน มีสองทฤษฎีที่พูดถึงดวงอาทิตย์กับโลกของเรา พวกเขาถกกันไม่จบสิ้นว่าจริงๆ โลกเราหมุนรอบดวงอาทิตย์หรือดวงอาทิตย์หมุนรอบเรากันแน่ หากถามฉัน แน่นอนว่าฉันไม่รู้นอกเสียจากการคาดเดาว่าดวงอาทิตย์มันใหญ่กว่าโลก...แต่ใครจะไปหมกมุ่นกับดวงอาทิตย์ก็ช่างเขา ฉันสนแค่มันยังส่องแสงสว่างให้เราได้ทุกเช้าก็พอ“ฟุ ฟุ ตอนเช้าต้องยิ้มนะ”บลูเผลอเหม่อมองดวงอาทิตย์จากเงาสะท้อนบนผิวน้ำจนใบหน้าเคร่งขรึมไม่รู้ตัว แกรดที่เห็นท่าไม่ดีจึ

  • Acacia Academ : ความลับของเราสองและทำนองต้องสาป   บทที่ 8 : คำร้องจากท้องสมุทร 35

    ...ข้าวเย็น ไม่เห็นมีคนทำเลย...ไม่ผิดใช่มั้ยที่ฉันเห็นฝูงปลาพวกนี้แล้วจู่ๆ ความคิดเรื่องข้าวเย็นก็ผุดขึ้นมาฉันกวาดตามองคนในเรือโดยไม่พูดอะไร ท้องของฉันเริ่มหิวแต่ไม่ยักกะมีใครเตรียมอาหารค่ำ“ก แกรด”ฉันเดินไปกระซิบถามเด็กสาวที่สนิทสนมที่สุดในเรือ“หืม?”“เรา ...ไม่กินข้าวเย็นกันหรอ?”“อ๋อ ลืมบอกบลูไปเลย เราจะตกปลากินกันน่ะ”“ตกปลา?”“อืมๆ ว่าแล้วก็ช่วยเราเตรียมของขึ้นมาหน่อยสิ”เด็กสาวกวักมือชวนฉันให้ลงไปห้องโถงใต้ท้องเรือกับเธอ ภายในมุมผนังห้องโถงซึ่งมีคันเบ็ดยาวถูกจัดเตรียมไว้ให้หลายสิบคัน แกรดบรรจงเลือกไม้ที่ดีที่สุดแล้วหันมาถามความเห็นจากฉัน“ม ไม่รู้สิ ฉันไม่ค่อยตกปลาน่ะ”“อืม ...งั้นเราว่าบลูน่าจะชอบอันนี้นะ”แกรดหยิบหนึ่งในเบ็ดที่วางเรียงอยู่บนผนังแล้วยื่นมาให้ฉันด้วยความมั่นใจโดยที่ฉันแทบแยกความต่างของไม้นี้กับไม้อื่นไม่ออกเลย“ขอบคุณนะ แต่ฉัน ...ไม่ค่อยเก่งเรื่องตกปลา”“เดี๋ยวเราสอนๆ”เด็กสาวตอบกลับอย่างเริงร่าก่อนจะเดินแบกคันเบ็ดคันอื่นขึ้นไปด้านบนเรือของเราหยุดลงกลางทะเล ช่วงเวลาสำหรับการพักผ่อนมาถึงเมื่อท้องฟ้าเข้าสู่ช่วงค่ำคืนปุ๊ฟ...ลูกไฟดวงใหญ่ถูกจุดขึ้นเหนือเรือ มั

  • Acacia Academ : ความลับของเราสองและทำนองต้องสาป   บทที่ 8 : คำร้องจากท้องสมุทร 34

    เวลามุ่งสู่วันออกเดินทางอย่างรวดเร็วเราทั้งสี่ถูกรถม้ารับไปส่งยังท่าเรือแต่เช้าตรู่ ใช้เวลาเดินทางจนเห็นท้องทะเลยามเที่ยงวันพอดิบพอดี“...ทะเล”“...”สายลมเย็นเริ่มพัดแรงขึ้น พวกมันพัดเอาความรู้สึกเหนอะหนะอ่อนๆ ติดมาด้วยพร้อมๆ กับกลิ่นทะเลที่แปลกแตกต่างจากกลิ่นธรรมชาติทั่วไปเสียงคลื่นเริ่มดังขึ้นขณะที่รถม้าเดินทางเข้าใกล้ท่าเรือใหญ่ท่าเรือเซอร์เมีย ท่าเรือขนส่งขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ ทันทีที่เราทั้งหกผ่านเข้าอาณาเขตของท่าเรือ ความวุ่นวายก็เริ่มปรากฏ ฉันมองเห็นผู้คนที่กำลังเดินไปมาเพื่อขนส่งของต่างๆ โดยส่วนมากมักจะเป็นสัตว์ทะเลที่ถูกจับมาเพื่อใช้ส่งไปค้าขายยังที่อื่นอีกที“เราเป็นตัวแทนมาจากอคาเดมค่ะ”มูฟรีร่าตรงไปทักทายผู้ดูแลเรือคนหนึ่งในป้อมบริการก่อนจะขอใช้เรือส่วนตัวของโรงเรียนเพื่อออกเดินทาง หญิงสาวยื่นเอกสารยืนยันตัวตนให้ผู้ดูแลคนนั้นพร้อมกับแนะนำตัวแบบคร่าวๆ“ครับๆ ....อืม เรืออยู่ทางนู้นนะครับ”ชายวัยกลางคนผายมือไปที่เรือลำหนึ่งซึ่งจอดเทียบท่าอยู่ไม่ห่างจากที่พวกเรายืนอยู่มากนัก“ค่ะ ...ขอบคุณค่ะ”“อ...อาจารย์ครับ!”ชายคนนั้นทึกทักเหมือนอยากจะไถ่ถามบางอย่างกับอาจารย์มูฟรีร่า

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status