"นี่เป็นห้องที่เธอจะได้อยู่..." เสียงดวงจิตเอ่ยขณะที่พาอลินญาเดินเข้ามาภายในห้องพักของครูพี่เลี้ยงที่มีสองเตียงวางอยู่ แบ่งเป็นคนละโซน
"...จริง ๆ ทุกห้องจะเป็นเตียงคู่ เพราะเป็นการแชร์ห้องร่วมกับครูคนอื่น แต่เพราะตอนนี้ยังไม่ได้เปิดรับครูพี่เลี้ยงคนใหม่เข้ามา ทำให้ห้องเพิ่งเปิดและว่างอยู่ ซึ่งเธออาจจะต้องนอนคนเดียวไปก่อน อยู่ได้ใช่ไหม" คนดูแลถาม
"อยู่ได้ค่ะ" เสียงหวานตอบ
"อืมดี ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอก แล้วพวกข้าวของ..."
"ไม่มีอะไรเลยค่ะ" ใบหน้าจิ้มลิ้มบอกด้วยน้ำเสียงหงอยซึมลง ดวงจิตที่ได้ยินก็รู้สึกเอ็นดู ทว่าก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมามาก
"เดี๋ยวคุณเพทายก็คงให้อนุชิตจัดการให้" หญิงวัยกลางคนบอก ทำเอาร่างเล็กที่ได้ยินยิ้มร่าออกมาราวกับถูกกดเปลี่ยนสวิตช์
"ขอบคุณนะคะ"
"มาขอบคุณฉันทำไม เธอต้องไปขอบคุณคุณเพทาย"
"แหะ ๆ ...คุณเพทายนี่ใจดีจังเลยนะคะ" เจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มยิ้มตาหยีบอกตามความรู้สึกของตัวเอง ดวงจิตที่ได้ยินแบบนั้นก็ชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองยังหญิงสาวที่ยืนอยู่
"ถ้ารู้ในสิ่งที่เขาให้รู้...เธอก็จะคิดแบบนั้นแหละ"
"คะ?"
"ช่างเถอะ ไปเจอเด็ก ๆ ต่อกันเลยไหม" ดวงจิตถาม อลินญาจึงยิ้มหวานพยักหน้าตอบกลับ
"ได้เลยค่ะ" สิ้นเสียงใสบอก ทั้งสองก็พากันเดินตรงไปภายในห้องห้องหนึ่งที่อยู่ในอาคาร เสียงเด็กน้อยเจื้อยแจ้วดังขึ้นไม่หยุดทั้งที่ยังไม่ทันที่จะได้เดินเข้าไปเลยด้วยซ้ำ ซึ่งแม้ว่าจะยังไม่ได้เห็นภาพ หญิงสาววัยสิบเก้าก็อดที่จะลอบยิ้มออกมาไม่ได้ เธอชอบเด็ก เธอชอบอะไรแบบนี้ที่อยู่ด้วยแล้วไม่เงียบงันหรือชวนเศร้าหมองเหมือนชีวิตที่ผ่านมาของตัวเอง ตลอดเวลาเธอใช้เวลาอยู่กับความเงียบมาโดยตลอด จะพูดคุยอะไรกับใครก็ไม่ได้ ตั้งแต่ที่เสียแม่ไป อลินญาก็เหมือนไม่เคยได้ยิ้มหรือพูดเล่นกับใครอีกเลย
แอดดด ~
เสียงประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมกับเสียงดวงจิตกับอลินญาที่เดินเข้าไปด้านใน โดยมีพี่เลี้ยงคนหนึ่งที่ดูมีสีหน้าเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัดนั่งอยู่ รวมถึงเด็ก ๆ นับสิบคนที่ต่างทำนั่นทำนี่ตามประสา บางคนก็เล่นเงียบ ๆ บางคนก็ดูซนขี้เล่น
"ไหวหรือเปล่าแอ๋ม" ดวงจิตหันถามครูพี่เลี้ยงที่นั่งหอบเหนื่อยอยู่ ซึ่งในตอนนี้หญิงสาวคนนั้นกำลังตั้งท้องอ่อน ๆ อยู่
"พอได้อยู่ค่ะพี่ดวง" แอ๋มตอบพลางมองไปที่อลินญา
"นี่ครูพี่เลี้ยงคนใหม่ ก็ไม่เชิงครูพี่เลี้ยงหรอก ก็ว่าจะเอามาช่วยแอ๋มดูนั่นแหละ อายุสิบเก้า...บ้านมีปัญหา คุณเพทายเลยรับมา" คนดูแลเอ่ย ทำให้หญิงสาวที่นั่งอยู่พยักหน้ารับรู้ หันไปทักทายร่างเล็ก
"สวัสดีจ้า พี่ชื่อแอ๋มนะ"
"สวัสดีค่ะ หนูชื่ออลินค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ" เรียวปากบางเอ่ยบอกรุ่นพี่สาวด้วยท่าทางนอบน้อมชวนเอ็นดู
"อืม หน้าตาน่ารักนะเนี่ย สีผิวเป็นสีชมพูเลย"
"><" คนตัวเล็กที่ถูกชมเชยก็ยิ่งยิ้มตาหยีออกมาด้วยความเขินอาย
"เอาละ ยังไง ฝากด้วยนะ แอ๋มเขาท้องอ่อน ๆ อยู่ อาจจะดูแลได้ไม่ทั่วถึง" ดวงจิตบอก อลินญาจึงพยักหน้ายิ้มหวานรับคำ หญิงวัยกลางคนที่เห็นแบบนั้นก็รู้สึกวางใจบอกไม่ถูก ค่อย ๆ เดินออกจากห้องไปเพื่อปล่อยให้หญิงสาวตัวเล็กได้ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งทันทีที่ดวงจิตเดินออกไป อลินญาก็ยิ้มร่า วิ่งเข้าไปแนะนำตัวและเล่นกับเด็ก ๆ ตาใสทันที
"ฮี่ ๆ " เสียงหวานหัวเราะอย่างอารมณ์ดีกับการได้เล่นอยู่กับเด็ก ๆ อลินญาทั้งใจดีและขี้เล่น ทำให้กลายเป็นที่ชื่นชอบของเด็กน้อยทั้งหลายอย่างง่ายดาย
"เข้ากับเด็กได้ดีนี่" แอ๋มที่นั่งอยู่ยิ้มเอ่ยพูดคุยกับรุ่นน้องตัวเล็ก ตั้งแต่ที่อลินญาเข้ามา เด็ก ๆ ก็แทบไม่ได้สนใจเธออีกเลย เอาแต่ไปเล่นกับครูพี่ (ช่วย) เลี้ยงคนใหม่กันไม่หยุด
"แหะ ๆ น้อง ๆ น่ารักค่ะ" เจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มตอบกลับ ซึ่งแอ๋มก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะดูจากท่าทางแล้ว อลินญาก็คงชอบเด็กอยู่ไม่น้อย
"หิวน้ำค่ะ" อยู่ ๆ เสียงเด็กน้อยคนหนึ่งพูดขึ้น ทำให้อลินญาที่เล่นอยู่ชะงักหันไปมอง
"หิวน้ำเหรอคะ"
"ค่ะ" ไม่เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น แต่คนอื่น ๆ ก็ต่างเริ่มเรียกร้องจะกินน้ำตาม
"จริงสิ พี่ลืมเอาน้ำมาให้เด็ก ๆ เลย งั้นเดี๋ยวพี่..."
"อยู่ตรงไหนคะ เดี๋ยวอลินไปหยิบให้" เสียงหวานบอก ทว่าแอ๋มก็แสดงท่าทีอึกอักจะไปเอาเอง เพราะตั้งแต่เข้ามา อลินญาก็ทำทุกอย่างคนเดียวเกือบทั้งหมด
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่..."
"ให้อลินไปหยิบแทนเถอะค่ะ พี่แอ๋มท้องน้องอยู่ อย่าลุก ๆ เดิน ๆ บ่อยเลยค่ะ"
"เอางั้นเหรอ"
"อลินหยิบให้ได้จริง ๆ ค่ะ น้ำอยู่ตรงไหนคะ" เจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มยิ้มตาหยีถาม
"ห้องครัวจ้ะ เดินออกไปแล้วเลี้ยวขวา"
"โอเคค่ะ งั้นเดี๋ยวอลินรีบมานะคะ" สิ้นเสียงใสเอ่ย คนตัวเล็กก็ไม่รอช้าที่จะรีบลุกเดินออกไปเพื่อหยิบน้ำมาให้เด็ก ๆ ทันที โดยมีสายตาของแอ๋มที่มองตามแผ่นหลังบางไป
"โอ๊ย...น่ารักจริง ๆ เด็กคนนี้"
ด้านอลินญาก็ยิ้มสดใสตั้งใจหยิบน้ำใส่ถาดตามจำนวนเด็กน้อยที่นับมาอยู่ภายในห้องครัวขนาดพอดีของมูลนิธิ
"โอเค ครบแล้ว~" เรียวปากเล็กพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นจากตู้เย็นใช้สองมือในการถือถาดที่อยู่ตรงหน้าด้วยความระมัดระวัง ทว่าขณะที่เดินกำลังจะถึงห้องเลี้ยงเด็ก ดวงตากลมก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวหุ่นดีคนหนึ่งกำลังเดินสวนทางมา ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็คือนางแบบที่เดินตามเพทายไป แน่นอนว่านางแบบสาวที่เดินอยู่ไม่ได้สนใจร่างเล็กที่เดินสวนกันเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าสวยดูดีนั้นแสดงออกมาถึงความหงุดหงิดกับอะไรบางอย่างพร้อมกับยกโทรศัพท์ขึ้นมาพูดคุย
"ฮัลโหลพี่..."
"...เป็นยังไงอะไรกันล่ะ ไม่เห็นบอกเลยว่าจะต้องโดนไซซ์ขนาดนี้..."
"...มันก็ใช่ เงินดีก็จริง แต่มันจะไม่คุ้มต้องไปรีแพร์ใหม่น่ะสิพี่..." ว่าแล้ว นางแบบสาวก็สาวเท้าเดินออกไปด้วยความรวดเร็ว ซึ่งถ้าได้สังเกตดี ๆ จะพบว่าคนที่เพิ่งเดินออกไปดูมีลักษณะการเดินที่แตกต่างจากตอนแรก แต่สุดท้ายอลินญาก็ไม่ได้สนใจอะไร หลังจากที่นึกขึ้นได้ว่าเด็ก ๆ กำลังรอน้ำจากเธออยู่
"เด็ก ๆ น้ำมาแล้วค่า~"
"สวัสดีค่ะ" เสียงหมอสาวเอ่ยทักทายคู่รักที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งก็คือรองประธานหนุ่มบริษัทใหญ่ระดับประเทศกับภรรยาตัวน้อยที่นั่งส่งยิ้มหวานตาหยีตอบกลับคำทักทายไปด้วยท่าทีน่าเอ็นดู โดยหลังจากที่ทั้งสองกลับมาจากต่างประเทศ เพทายก็ไม่รอช้าที่จะพาอลินญาเข้ามาตรวจและทำการฝากครรภ์กับโรงพยาบาลที่ดีที่สุดของประเทศทันที"ยังไม่เคยตรวจอะไรเลยใช่ไหมคะ""ยังค่ะ" เรียวปากเล็กตอบกลับเสียงหวาน"อ๋อ...ถ้างั้นเดี๋ยวขอหมอฟังเสียงหัวใจแล้วก็ตรวจค่าต่าง ๆ หน่อยนะคะ""ได้ค่ะ ^^" อลินญายังคงยิ้มหวานตาหยีเอ่ยบอก ก่อนจะยอมทำทุกอย่างที่หมอสาวสั่งอย่างว่าง่าย ซึ่งในขณะที่ตรวจฟังเสียงหัวใจอยู่ หมอสาวก็ชะงักแสดงสีหน้าบางอย่างออกมา"มีอะไรหรือเปล่า" เพทายไม่รอช้าที่จะเอ่ยถาม"เอ่อ...คนไข้ยังไม่รู้จำนวนสัปดาห์การตั้งครรภ์หรืออะไรเลยใช่ไหมคะ""ครับ แต่คิดว่าน่าจะประมาณสองเดือนได้แล้ว เพราะประจำเดือนขาดมาน่าจะสองเดือนได้" เพทายตอบ ทำให้หมอสาวนั่งคำนวณ"สองเดือนอายุครรภ์ก็น่าจะอยู่ที่ 9-13 สัปดาห์...""...มีอาการแพ้ท้องอะไรบ้างหรือเปล่าคะช่วงนี้""เริ่มมีอาการอยากอาเจียนค่ะ แต่ก่อนหน้ามีแค่หิวบ่อยแล้วก็อ่อนเพลีย" ว่าที่คุณแม่
@ลอนดอน"สวยอย่างกับภาพวาด..." เสียงเรียวปากเล็กขยับเอ่ย ขณะที่ดวงตากลมทั้งสองจ้องมองไปยังภาพที่อยู่ตรงหน้า เป็นภาพวิวกลางคืนของกลางเมืองลอนดอนที่เต็มไปด้วยความสวยงามราวกับภาพวาดภาพถ่ายที่คนตัวเล็กเคยเห็น อลินญารู้สึกตัวสั่นปากสั่นไปหมดกับภาพที่ไม่เคยคิดเลยว่าในชีวิตของเธอจะได้เห็นมัน"...ฮึก สวยจังเลย" เจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มร้องไห้เอ่ยออกมาด้วยความตื้นตันเป็นอย่างมาก เพทายที่กำลังเก็บของอยู่ก็ชะงักรีบเดินตรงเข้าไปสอบถามคนรักด้วยความห่วงใย"เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม" ปากหนาถาม ทำให้มือน้อยค่อย ๆ ยกขึ้นชี้ไปยังภาพวิวตรงหน้า"สะ...สวยค่ะ ฮึก สวยมากเลย" สิ้นเสียงหวานบอก รองประธานหนุ่มก็ลอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก นึกว่าอีกคนเป็นอะไร"ฉันตกใจหมด...""...จะร้องไห้ทำไม" เพทายถามพลางยกมือขึ้นซับน้ำตาให้กับภรรยาตัวเล็กด้วยความเบามือ ทุกการกระทำเต็มไปด้วยความอบอุ่นอ่อนโยน"อลินดีใจค่ะ ฮึก ไม่คิดว่าจะได้มาเห็นอะไรแบบนี้" ว่าแล้ว คนตัวเล็กก็เบะปากร้องไห้ออกมาอีกครั้ง จนเพทายต้องเอื้อมมือดึงร่างน้อยเข้ามาสวมกอดไว้เพื่อเป็นการปลอบประโลมปนอดไม่ได้ที่จะเอ็นดู มือใหญ่ลูบหัวคนตรงหน้าไปมาโดยที่ยังคงยิ้มรู
หลังจากการร่วมรักครั้งที่สองจบลง อลินญาก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มที่อยู่ตรงหน้าทันทีด้วยความหมดเรี่ยวแรงเป็นที่สุด กลีบดอกไม้สวยรับรู้ได้ถึงน้ำเชื้อสีขุ่นที่ไหลทะลักมาไม่หยุด ทว่าหญิงสาวในตอนนี้ก็ไม่คิดสนใจ ลมหายใจร้อนหอบหนักออกมาอย่างต่อเนื่องพร้อมกับดวงตากลมที่จะหลับลงจากความเหนื่อยล้ามากมายในวันนี้ แต่แล้วคนตัวเล็กก็ต้องสะดุ้งเฮือกไปกับมือหนาของคนรักที่เอื้อมเข้ามาคว้าร่างเธอไว้"คุณเพทาย...""อีกรอบสิ""มะ...ไม่ไหวแล้วค่ะ""อะไรกัน""วันนี้อลินเหนื่อยมากเลย...""...ไว้วันพรุ่งนี้ค่อยว่ากันได้ไหมคะ" เจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มเอ่ยพลางหรี่ตาส่งความออดอ้อนไปยังสามีตัวสูง เพทายที่เห็นแบบนั้นก็จำต้องยอมว่าตาม แต่ก็ไม่วายที่จะเอ่ยย้ำ"พูดแล้วนะ""ค่ะ" อลินญาพยักหน้าตอบด้วยความสะลึมสะลือ รองประธานหนุ่มที่เห็นแบบนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะเคลื่อนมือเข้าไปลูบไล้ยังแก้มใสด้วยความเบามือ"อืม นอนเถอะ" สิ้นเสียงทุ้มบอก คนตัวเล็กก็ค่อย ๆ หลับตาลงด้วยความง่วงนอนขั้นสุด ขณะที่เพทายก็ลุกขึ้นไปหยิบทิชชูเข้ามาทำความสะอาดที่กลีบกุหลาบของภรรยาตัวน้อย รวมถึงเดินไปหยิบชุดนอนตัวโปรดของหญิงสาวเข้ามาเปลี่ยนให้เพราะกลัวว
พรึบเสียงเจ้าบ่าวหนุ่มค่อย ๆ วางร่างคนรักลงบนเตียงนุ่มด้วยความเบามือ ก่อนจะก้มลงไปกดจูบเรียวปากเล็กอย่างเร่าร้อนไม่รอช้า ด้านอลินญาเองก็มีความตกใจเล็กน้อยกับการจู่โจมราวกับสัตว์ป่ากระหายเหยื่อของคนตรงหน้า ทว่าสุดท้ายหญิงสาวก็เปิดปากจูบตอบรับเจ้าบ่าวตัวสูงของตัวเองเป็นอย่างดี"อื้ออ~" ขณะที่จูบกัน มือใหญ่ก็ไม่รอให้เสียเวลาจัดการถอดเสื้อผ้าชุดเจ้าสาวที่คนตัวเล็กสวมใส่อยู่ ซึ่งความยาวของชุดทำเอาชายวัยสามสิบรู้สึกหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย"ทำไมต้องใส่ยาวขนาดนี้" ปากหนาผละเอ่ยถามสีหน้าไม่สบอารมณ์รู้สึกเหมือนถูกขัดจังหวะ"ใจเย็น ๆ สิคะ" อลินญาก็ได้แต่ส่ายหน้าเล็กน้อยตอบกลับอีกคนไปพร้อมกับช่วยคนรักในการถอดเสื้อผ้าอย่างรู้หน้าที่ โดยใช้เวลาไม่นานทั้งสองก็เปลือยกายเปล่าต่อกันอยู่บนเตียง ความใหญ่โตของเพทายค่อย ๆ ขยายขึ้นเต็มไซซ์ 58 ที่มี"พร้อมหรือยัง" เพทายถามพลางเลื่อนมือลงไปจัดการแตะแหวกกลีบสวยตรงหน้า อลินญาก็เริ่มมีปฏิกิริยาตอบโต้ในทันที หญิงสาวเริ่มที่จะไวต่อความรู้สึกขึ้นเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่ต้องร่วมรักกับรองประธานหนุ่ม โดยเพทายเองก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากกับทุกการตอบสนองจากคนใต้ร่างที่มีพัฒน
หนึ่งเดือนต่อมา...การแต่งงานของอลินญากับเพทายถูกจัดขึ้นภายในบริเวณพื้นที่สวนหย่อมของมูลนิธิ สองบ่าวสาวต่างยืนรับแขกคนสนิทด้วยใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม โดยการจัดงานในวันนี้จะเชิญแต่เพียงแขกคนสำคัญคนสนิทมาเท่านั้นตามคำขอของคนเป็นเจ้าสาวที่ไม่อยากจัดงานใหญ่โต แน่นอนว่าเพทายก็ไม่เคยที่จะคัดค้านหรืออะไรกับความต้องการของว่าที่ภรรยาตัวน้อย"เหนื่อยไหมคะ" เจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มหันถามคนรักพลางยกมือขึ้นซับไปที่ใบหน้าหล่อเหลาด้วยความเบามือ"ฉันไม่เหนื่อยหรอก เธอล่ะ เมื่อยหรือเปล่า" รองประธานหนุ่มถามพร้อมกับยกมือขึ้นลูบไปที่แก้มใสด้วยความเอ็นดูอบอุ่น อลินญาที่เห็นแบบนั้นก็ยิ้มตาหยีส่ายหน้าตอบกลับ"ไม่เลยค่ะ" สิ้นเสียงหวานบอก ทั้งสองก็ต่างยืนส่งยิ้มให้แก่กัน กระทั่งเสียงใครบางคนดังขึ้น"อลิน!" ร่างน้อยในชุดเจ้าสาวค่อย ๆ หันไปมองตามเสียง ก่อนที่รอยยิ้มสดใสจะฉายขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว"แอปเปิ้ล" เรียวปากเล็กขยับเอ่ยเรียกเพื่อนตัวเอง"เดี๋ยวอลินขอไปหาเพื่อน ๆ แป๊บหนึ่งได้ไหมคะ" ดวงตากลมสวยมองหน้าขออนุญาตคนรักตาใส"อืม" เพทายก็พยักหน้ารับรู้ไม่ได้ว่าอะไร โดยรองประธานหนุ่มเป็นคนบอกให้อลินญาชวนเพื่อน
เสียงหวานถูกกลืนลงไปในลำคออย่างง่ายดายพร้อมกับรสจูบที่แสนหนักหน่วงจากชายวัยสามสิบที่ยังคงชำนาญในการแทรกลิ้นร้อนเข้าไปตักตวงความหวานจากโพรงปากเล็ก ด้านอลินญาเองที่ตอนแรกตื่นตกใจเมื่อถูกกดจูบย้ำ ๆ มือน้อยก็อดไม่ได้ที่จะยกขึ้นไปคล้องเข้าที่คอหนาเพื่อเปิดปากให้อีกคนได้ตักตวงความหวานจากตัวเองได้ถนัดมากขึ้น ทั้งสองต่างฝ่ายต่างแลกจูบกันด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อน อลินญาไม่ได้มีความเขินอายต่อเรื่องอย่างว่าเหมือนเคย ทว่าก็ยังคงไม่ได้จัดจ้านร้อนแรงอะไร คนตัวเล็กยังคงมีความไม่ประสีประสาอยู่ แต่ก็มีการพัฒนาเรียนรู้จากเดิมอยู่ไม่น้อย"ถอดชุดให้ฉันหน่อย" เพทายก้มลงเอ่ยบอกคนรักหลังจากผละริมฝีปากหนาออก อลินญาที่ได้ยินก็เอื้อมมือไปจัดการถอดเสื้อผ้าให้กับอีกคนตามที่เขาต้องการ โดยที่เพทายเองก็ถอดเสื้อผ้าให้กับร่างบางเช่นกัน ทั้งสองต่างฝ่ายต่างทำให้กัน ใช้เวลาไม่นานก็ต่างเปลือยกายเปล่าด้วยกันทั้งคู่"ยังสวยเหมือนเดิม..." รองประธานหนุ่มพึมพำเอ่ยหลังจากที่สายตาคมจ้องมองไปยังร่างกายเปลือยเปล่าของคนใต้ร่างด้วยความหลงใหล ขณะที่อลินญาเองก็เลื่อนสายตาลงไปจ้องมองยังแท่งร้อนขนาดใหญ่ที่กำลังเริ่มผงาดขยาย