สามวันต่อมา
@มหาวิทยาลัยคอสตัน
- หน้าเวทีการแสดง -
"เอาต้นไม้หลบ ๆ กว่านี้หน่อยดีไหม ฉันว่ามันบังมุมฝั่งนี้เกินไป" เสียงวีนัสเอ่ยบอกมาลีกับนิดหน่อยที่กำลังยืนช่วยกันจัดฉากการแสดง ในตอนนี้ทุกคนกำลังตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดีเนื่องจากในภาคค่ำจะมีการแสดงของทางคณะนิเทศที่กลุ่มของพวกเธอได้ถูกอาจารย์สาวที่ปรึกษายกให้เป็นคนดูแลจัดการการแสดงนี้ โดยมีรุ่นพี่คนดังอย่างมาร์มาช่วยรับบทนำ
"โอเค แบบนั้นแหละ ไม่บังแล้ว" วีนัสบอกก่อนจะหันไปพูดคุยกับมาร์ที่ยืนอยู่
"พี่มาร์โอเคไหมคะ มีตรงไหนอยากปรับตำแหน่งไหมคะ บอกวีได้เลยนะ"
"อื้ม..." ดวงตากลมเฉี่ยวจ้องมองไปยังด้านบนเวทีขนาดใหญ่พร้อมกับค่อย ๆ ยิ้มออกมาด้วยสีหน้าใจดี
"...ไม่มีอะไรต้องปรับแล้วนะ ทุกอย่างโอเคมากเลย น้องวีนี่เก่งมาก ๆ จัดทุกอย่างได้เหมือนมืออาชีพที่พี่เคยร่วมงานด้วยเลย" สิ้นเสียงมาร์ตอบกลับ ไลลาก็ยกยิ้มขึ้นมาด้วยความนึกชื่นชมในความน่ารักเป็นกันเองแถมยังดูใจดีของรุ่นพี่สาว
"พี่มาร์นี่ ใจดีเนอะ" เสียงปลายฟ้าเดินเข้ามายิ้มพูดคุยกับไลลาที่ยืนอยู่
"อืม ดูเป็นคนสวยที่ใจดีอบอุ่นมาก ๆ เลย"
"ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอยู่ ๆ ถึงได้ดังขึ้นมาทั้งที่เพิ่งเล่นละครได้ไม่กี่เรื่องเอง"
"เราเคยดูเรื่องหนึ่งนะ สนุกมาก พี่เขาส่งอารมณ์ได้ดีมาก" เจ้าของใบหน้าใสตอบปลายฟ้ากลับ เนื่องจากเธอเคยดูละครที่มาร์เล่น ต้องยอมรับว่ามาร์เป็นคนที่มีฝีมือมากจริง ๆ ตอนนั้นตัวไลลาเองยังติดจนแทบไม่ได้ทำอะไรเลย เอาแต่ดูละครที่รุ่นพี่สาวเล่นทั้งวัน
"ก็นะ เพิ่งเล่นสองปีได้มาไม่รู้กี่รางวัลแล้ว สุดยอดจริง ๆ " สิ้นเสียงปลายฟ้าเอ่ย คนตัวเล็กเจ้าของดวงตากลมโตราวกับตุ๊กตาบาร์บี้ก็หันไปส่งยิ้มหวานตาหยีตอบกลับด้วยความเห็นด้วยทั้งหมด
"เนอะ~"
"ว่าแต่วันนี้...แฟนพี่เขาไม่มาด้วยเหรอ" ใบหน้าใสที่ยิ้มหวานอยู่ในตอนแรกแปรเปลี่ยนไปทันทีที่คนด้านข้างพูดจบ เพราะทันทีที่ปลายฟ้าเอ่ยออกมา มันก็อดทำให้ไลลานึกไปถึงรุ่นพี่เย็นชาคนนั้นไม่ได้
พี่คามิล คนที่คนตัวเล็กเคยสารภาพรักไปด้วยวิธีที่แสนโง่เง่าที่สุด
เธออยากเลิกนึกถึงเหตุการณ์น่าอับอายพวกนั้น...
"เลิก ๆ ๆ ๆ !" ร่างเล็กเผลอตะโกนพึมพำบอกออกมาพร้อมกับยกมือตีเข้าไปที่หน้าผากมนของตัวเองเบาๆพยายามเรียกสติ ทว่าก็ต้องชะงักไปเมื่อค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปเห็นสายตาของปลายฟ้าที่มองท่าทีของหญิงสาวอยู่
"ไลลา..."
"...เธอต้องไปหาหมอแล้วนะ อาการหนักแล้ว ทำร้ายตัวเองเนี่ย" ปลายฟ้าเอ่ยก่อนจะหัวเราะออกมาหลังจากที่พูดจาหยอกล้อร่างบางที่ยืนทำหน้ายู่อยู่ ปลายฟ้ากับวีนัสมักจะล้อเลียนไลลาอยู่ประจำกับท่าทีแบบนี้ที่คนตัวเล็กมักจะเผลอทำออกมาโดยที่ไม่ทันได้รู้ตัว
"ฮ่า ๆ ๆ " เสียงปลายฟ้ายังคงหัวเราะใส่เพื่อนตัวเล็กไม่หยุด
"หยุดหัวเราะเราเลยนะปลายฟ้า"
"ฮ่า ๆ ก็เธออะ...ฮ่า ๆ " ปลายฟ้ายังคงหัวเราะออกมาอยู่อย่างนั้นโดยมีร่างบางที่ทำหน้ายู่เป็นยักษ์จ้องเขม็งไปยังเพื่อนตัวเอง ทว่าก็ไม่เคยมีใครกลัวอะไรกับท่าทีพวกนี้ของไลลาเลย มีแต่คนบอกว่ามันน่ารักน่าเอ็นดู
"ปลายฟ้า! เราโกรธจริงนะ โมโหแล้ว!" เรียวปากเล็กพูดพร้อมกับทำหน้าทำตาใส่เพื่อนตัวเองด้วยสีหน้าโกรธมาก ๆ แต่ปลายฟ้าก็ยังคงขำไม่หยุด
"นะ นี่..."
"อะไรกันสองคนนี้ ทะเลาะอะไรกัน" เสียงวีนัสเดินเข้ามาเอ่ยถามขึ้นทำให้ไลลารีบหันไปฟ้องคนที่เดินเข้ามาใหม่ทันที
"วี! วีดูสิ ปลายฟ้าอะแกล้งเรา เราโกรธแล้วเนี่ย!"
"โกรธ? นี่เธอโกรธแล้วเหรอ" วีหันมองหน้าถามคนตัวเล็ก
"ใช่!" ไลลาตอบกลับไปโดยที่ยังคงทำหน้ายู่มองปลายฟ้า
"เฮ้อ คนเรามันโกรธได้ตลกแล้วน่าเอ็นดูได้ขนาดนี้ได้ยังไง" วีนัสเอ่ยพึมพำพร้อมกับส่ายหัวมองเพื่อนตัวเล็ก
"พี่มาร์ดูสิ เหมือนคนโกรธตรงไหน" วีนัสหัวเราะหันถามมาร์ที่ยืนอยู่ด้านข้าง
"ฮ่า ๆ " มาร์ก็หัวเราะพยักหน้ายิ้มตอบกลับวีนัสอย่างเห็นด้วย
"พี่มาร์คะ!" ไลลาเอ่ยเรียกชื่อรุ่นพี่ตรงหน้าก่อนจะยิ่งเบะปากงอแงที่โดนทุกคนล้อเลียนรุมแกล้ง ทว่าในตอนนั้นเอง
ตึกตึก
เสียงเท้าหนักของใครบางคนเดินตรงเข้ามายังทั้งสี่คนที่ยืนอยู่ทำให้ดวงตากลมโตหันไปมองด้วยความอยากรู้ เนื่องจากกลิ่นน้ำหอมราคาแพงนั้นส่งกลิ่นเข้ามาจากบริเวณด้านหลัง แล้วร่างเล็กก็ต้องชะงักนิ่งไป
"คามิล..."
"...ออกเวรแล้วเหรอ" มาร์เอ่ยถามคนที่เข้ามาใหม่ขึ้น ซึ่งไลลาเองก็ขยับหลบให้อีกคนเดินเข้าไปหายังรุ่นพี่สาวที่ยืนอยู่พร้อมกับก้มหน้างุดไม่พูดอะไรออกมา
"อืม" เสียงทุ้มนิ่งของอีกคนตอบกลับ
"วันนี้ได้วนวอร์ดไหนล่ะ"
"นิติเวช" สิ้นเสียงทุ้มตอบ มาร์ก็ยิ้มเอ่ยแซว
"ได้วนวอร์ดที่ไม่เคยเจอบ่อยเลยนะ ตั้งแต่ขึ้นปีห้าเนี่ย"
"..." คนตัวสูงก็นิ่งไม่ตอบ ก่อนที่จะมีเสียงของใครบางคนเดินเข้ามาเอ่ยเรียกไลลาขึ้นเสียงดัง
"บาร์บี้!" ใบหน้าเล็กค่อย ๆ หันไปตามเสียงเรียกก่อนจะพบว่าเป็นเสียงของต้นน้ำเพื่อนร่วมสาขาที่มักจะเรียกฉายาแทนชื่อกับร่างบางแบบนี้อยู่เป็นประจำ
"บาร์บี้?" เสียงมาร์ถามขึ้นสีหน้าสงสัย
"อ่อ ฉายาไลลาน่ะค่ะพี่มาร์..."
"...คนในมหา’ลัยชอบบอกว่าไลลาเหมือนตุ๊กตามีชีวิตเพราะหน้าตาน่ารัก เลยตั้งฉายาให้ว่าบาร์บี้แห่งคอสตันค่ะ" ปลายฟ้ายิ้มหันไปอธิบายบอกรุ่นพี่นักแสดงสาวคนดัง
"อ่อ แบบนี้นี่เอง..."
"...แต่ก็จริงนะ เราหน้าตาน่ารักเหมือนบาร์บี้มีชีวิตจริงๆเลย" มาร์ยิ้มเอ่ยบอกรุ่นน้องตัวเล็กด้วยน้ำเสียงเอ็นดู ไลลาเองที่ถูกรุ่นพี่คนดังแบบมาร์เอ่ยชมก็ได้แต่ก้มหน้างุดไปด้วยความเขินอายบอกไม่ถูก
"ว่าไหมคามิล" เสียงมาร์หันไปเอ่ยถามร่างสูงอีกคนที่ยืนอยู่ด้านข้าง
"..." แต่คามิลก็เงียบไม่พูดอะไรกลับมา เอาแต่ใช้สายตาคมจ้องมองยังใบหน้าเรียวใสนิ่ง ก่อนจะผละสายตาหันไปมองทางอื่นด้วยแววตาเรียบนิ่งไร้ความรู้สึก ไลลาที่เริ่มอึดอัดเป็นอย่างมากกับสถานการณ์ตรงหน้าก็ตัดสินใจหันไปเอ่ยถามยังต้นน้ำที่ยืนอยู่
"เมื่อกี้ต้นน้ำเรียกเราทำไม มีอะไรหรือเปล่า"
"เธอรับหน้าที่ดูชุดใช่ไหม"
"ใช่ ๆ "
"ช่วยไปตรวจดูอีกทีได้ไหม กันพลาดไว้ก่อน อีกสองชั่วโมง การแสดงจะเริ่มแล้ว"
"อ อื้ม ได้สิ" คนตัวเล็กพยักหน้าตอบกลับต้นน้ำ เดินตามเพื่อนตัวสูงออกไปยังบริเวณด้านหลังเวทีขนาดใหญ่เพื่อทำการตรวจเช็กชุดก่อนทำการแสดงตามที่ได้รับมอบหมายหน้าที่มา
"มีทั้งหมดสิบเอ็ดชุด ครบไหม" ต้นน้ำหันถามร่างบาง
"อืม ครบๆ" ไลลาพยักหน้าตอบก่อนจะหยิบชุดมาเช็กดูอย่างละเอียดเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดอะไรในการแสดง ทว่าขณะที่ดวงตากลมกำลังยืนตรวจเช็กเสื้อผ้าก่อนทำการแสดงอยู่
"ไลลา" เสียงหนึ่งในเพื่อนที่กำลังจัดเตรียมอุปกรณ์การแสดงต่างๆก็ต่างเดินเข้ามาล้อมรอบเอ่ยเรียกหญิงสาว
"ฮะ" เสียงหวานขานรับตอบกลับสีหน้างุนงง
"ทำไมถึงได้เอาพี่มาร์มาได้ล่ะ" เพื่อนคนหนึ่งถาม
"อ่อ เพราะอาจารย์แบมเขาสนิทกับพี่มาร์น่ะ พี่มาร์เองก็อยากช่วย ก็ได้เลยได้คิวมา" ไลลายิ้มตอบ
"อ่อ แล้ว..."
"...พี่คามิลอะ" ทันทีที่คนตรงหน้าเอ่ยชื่อรุ่นพี่เย็นชาคนนั้นออกมา ร่างบางก็ชะงักไปในทันที
"ฮ ฮะ"
"พี่คามิลไง ผู้ชายที่เพิ่งมานั่นอะ พวกพี่เขาเป็นแฟนกันเหรอ"
"อ อ่อ...เราก็ไม่รู้เหมือนกันอะ" เรียวปากเล็กตอบกลับด้วยสีหน้าพยายามยิ้มตามปกติ
"ก็ต้องเป็นแฟนไหม มาเฝ้า มาหาขนาดนี้แล้วอะฝน" เสียงเหมียวหนึ่งในเพื่อนที่ยืนอยู่เอ่ย ทำให้ฝนที่เพิ่งถามคนตัวเล็กเมื่อกี้หันไปมองหน้าพูดคุยกับเพื่อนตัวเอง
"ก็จริง แต่แอบเสียดายพี่คามิลอะ หล่อมาก"
"แต่เย็นชามากมึง เพื่อนกูเคยไปตรวจกับพี่เขา แบบเวรพี่เขาพอดี..."
"เพื่อนมึงตอแหลค่ะอีเหมียว ตั้งใจไปหาช่วงพี่เขาเข้าเวรก็บอก"
"ก็เออน่ะสิ มันยังเข็ดจนมาถึงทุกวันนี้"
"ทำไม"
"พี่เขาไม่ตรวจให้ แล้วไล่กลับ แบบเย็นชาแล้วน่ากลัวมาก มันเลยไม่กล้าชอบพี่เขาอีกเลย โคตรโหด" เหมียวตอบกลับทำให้ร่างบางที่นั่งฟังอยู่เงียบ ๆ นึกถึงเหตุการณ์ของตัวเองขึ้นมา
'ไลลาจะไม่หลบค่ะ จนกว่าพี่จะ...'
จุ๊บ~
ให้ตายเถอะ เธอทำไมถึงกล้าบ้าบิ่นได้ขนาดนั้น...
"เออ สมควร" ฝนหัวเราะเอ่ยบอก
"แต่ว่าก็ว่านะมึง มึงเคยสงสัยเรื่องแผลที่คอพี่เขาปะ"
"หื้อ? แผลอะไรของมึงวะเหมียว" ฝนมองหน้าถามเพื่อน ซึ่งไลลาเองก็นั่งเงียบ ๆ ลอบฟังอยู่เช่นกันด้วยความอยากรู้
"ที่ต้นคอพี่เขาไง ทุกครั้งที่เพื่อนกูแอบไปส่องพี่เขาสมัยก่อน มันก็จะเห็นแต่ปลาสเตอร์สีเนื้อที่ปิดต้นคอไว้..."
"...นี่ไง ๆ มึงลองมองออกไปดิ ตอนนี้เขาก็ติดพลาสเตอร์อยู่" ทันทีที่เหมียวพูดจบ คนตัวเล็กก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังรุ่นพี่หนุ่ม ซึ่งก็ต้องเห็นปลาสเตอร์แปะแผลอย่างที่เหมียวพูดจริง ๆ
"เออว่ะ จริงด้วย" ฝนบอก แต่ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะได้พูดคุยอะไรต่อ
"เหลือเวลาอีกชั่วโมงกว่า เร่งมือกันหน่อย" เสียงต้นน้ำที่ยืนอยู่ไม่ไกลพูดขึ้นทำให้ทุกคนได้สติรีบกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองรวมถึงตัวคนตัวเล็กด้วย แม้ว่าภายในหัวของหญิงสาวอดที่จะสงสัยในสิ่งที่เหมียวบอกไม่ได้ ภายใต้ปลาสเตอร์แปะแผลนั้น มันมีอะไรอยู่นะ...?
"...เริ่มเลย" ทันทีที่เรียวปากหนาพูดจบ มือบางก็จัดการผลักร่างแกร่งของสามีให้ล้มลงนอนบนเตียงขนาดใหญ่ก่อนที่เธอจะรีบกระโดดเข้าไปขึ้นคร่อมร่างหนา ไม่รอช้าที่จะก้มลงไปซุกไซ้เข้าที่ซอกคอสามีพร้อมทั้งใช้มือที่ว่างอยู่จัดการถอดเสื้อผ้าของคนใต้ร่างออก คามิลที่นอนมองการกระทำของหญิงสาวก็อดที่จะรู้สึกวูบวาบพอใจไม่ได้ เพราะไลลาไม่เคยแสดงความร้อนแรงแบบนี้ใส่เขามาก่อน พอได้เห็นภรรยาตัวเล็กที่หน้าตาไม่ต่างจากบาร์บี้มีชีวิตทำ ความพลุ่งพล่านก็ปะทุอยู่ในร่างกายของหมอมาเฟียอย่างไม่น่าเชื่อลิ้นเล็กสอดแทรกเข้ามายังปากหนาของสามีตัวสูงพร้อมกับซุกซนจนคนที่นอนอยู่ทนไม่ไหวต้องจูบตอบกลับด้วยความเร่าร้อนหนักหน่วง"อื้อออ~" ทั้งสองต่างแลกลิ้นกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนที่ไลลาจะรู้สึกได้ความแข็งตึงจากอะไรบางอย่างที่เธอกำลังนั่งทับอยู่ตรงนั้นของเขายังคงไวต่อความรู้สึกเหมือนเคย..."ถอดกางเกงให้พี่หน่อย" เจ้าของใบหน้าหล่อเอ่ยบอกภรรยาน้ำเสียงกระเส่า ซึ่งมือเล็กก็ทำตามอย่างที่พ่อของลูกบอกทันที โดยขณะที่หญิงสาวกำลังใช้มือถอดกางเกงที่อีกคนสวมใส่อยู่ มือหนาของอีกคนที่นอนอยู่ก็เคลื่อนเข้ามาลูบยังหน้าท้องแบนราบของร่างเล็ก
@อิตาลีครืดดด ~เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่ไม่ไกลดังขึ้นทำให้เจ้าของใบหน้าหล่อที่เพิ่งกลับมาจากการประชุมงานเดินเข้าไปหยิบขึ้นมากดรับสายติ้ด(ไงคะพี่คามิล เลี้ยงลูกได้ไหม) เสียงหวานจากปลายสายเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง หลังจากตกลงกันว่าคามิลจะพาไลลากับลูกน้อยมาคุยงานด้วยที่อิตาลีเพื่อเป็นการพักผ่อนไปด้วยในตัว วันนี้คนตัวสูงจึงปล่อยให้แม่ของลูกได้ออกไปเที่ยวเล่นช็อปปิงตามประสา โดยมีเขาเป็นคนอาสาที่จะเลี้ยงลูกน้อยแทนเอง"เลี้ยงได้" เจ้าของใบหน้าหล่อเอ่ยพร้อมกับอุ้มลูกน้อยวัยทารกที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่กี่เดือนขึ้นมาอุ้มไว้แนบอกแกร่ง(จริงนะ ให้ไลลารีบกลับไปช่วยดูไหม)"ไม่เป็นไร หาความสุขใส่ตัวไปเถอะ เรื่องลูกไม่ต้องห่วง พี่เลี้ยงได้" เรียวปากหนากรอกเสียงบอกปลายสาย(โอเค แต่ถ้ามีอะไรหรือเลี้ยงไม่ไหว โทรหาไลลาได้ตลอดเลยนะคะ)"อืม"(งั้นไลลาขอไปช็อปปิงต่อก่อนน้าาา~)"..." ร่างสูงเผลอยิ้มออกมากับเสียงใสที่ยังคงสดใสอยู่ตลอดเวลาของภรรยา นิ้วแกร่งกดตัดสายไปก่อนจะก้มลงเล่นกับลูกชายตัวเองที่นอนกินนมอยู่บนอ้อมแขนหนาของเขาเด็กน้อยนอนมองหน้าคนเป็นพ่อตาใสไม่รู้เรื่องพร้อมกับปากที่ยังคงดูดกินขวดนมอย่าง
หนึ่งปีผ่านไป...ตึกตึกเสียงสองเท้าหนักของหมอหนุ่มในชุดสูทสุขุมเดินตรงออกไปจากบริเวณคลินิกของตัวเองด้วยสีหน้าเรียบนิ่งท่ามกลางเหล่าพยาบาล พนักงานในคลินิกที่ต่างผงกหัวทักทายเจ้านายสุดหล่อเจ้าของใบหน้าเย็นชา ทว่าในตอนนั้นเองครืดดด ~ โทรศัพท์ราคาแพงของร่างสูงดังขึ้นขณะที่เขากำลังเดินอยู่ทำให้ดวงตาคมก้มลงไปมองธนาติ้ด"อืม"(คุณคามิลครับ จะแวะเข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อยเลยไหมครับ)"อืม เดี๋ยวเข้าไป"(ครับ) หลังจากที่คุยกับลูกน้องคนสนิทเสร็จ หมอหนุ่มก็ไม่รอช้าที่จะเดินตรงไปยังรถสปอร์ตราคาแพงของตัวเองขับเคลื่อนออกไปด้วยความรวดเร็วเอี๊ยด!ไม่นานสปอร์ตสีเทาดำคันใหม่ที่เพิ่งถอยออกมาได้ไม่นานก็ถูกขับเข้ามาจอดยังบริเวณใต้ตึกอาคารขนาดใหญ่พร้อมกับมีเหล่าการ์ดมากมายที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าประตูรีบก้มหัวทักทายแก่เจ้านายตัวสูงที่เพิ่งมาถึง"สวัสดีครับคุณคามิล" เสียงธนาเดินเข้ามาทักทายเจ้านายอีกครั้ง"..." คามิลก็พยักหน้ารับรู้ใช้มือหนาเลื่อนลงไปติดกระดุมเสื้อสูทของตัวเองด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเดินตรงเข้าไปยังด้านในตึกอาคารขนาดใหญ่ที่เป็นอีกหนึ่งธุรกิจของเขา ทว่าธุรกิจนี้มันไม่ได้ใสสะอาดอย่างที่หลายคนรู
สองเดือนผ่านไป..."มึนหัวจัง..." เสียงหวานของร่างเล็กพึมพำออกมาขณะที่กำลังยืนทำอาหารอยู่ภายในห้องครัวขนาดใหญ่ ไลลามีสีหน้าที่รู้สึกไม่ดีบอกไม่ถูกกับอาการบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ภายในร่างกายของตัวเอง ช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ หญิงสาวมักจะมีอาการมึนหัว รวมถึง..."ทำไมวันนี้กลิ่นอาหารไม่ค่อยดีเลย" เรียวปากบางอมชมพูเอ่ยก่อนจะรู้สึกทนไม่ไหวรีบสาวเท้าเดินไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลเพื่อที่จะอาเจียนออกมาด้วยสีหน้าซีดเซียวหมดแรง"ปะ...เป็นอะไรไปเนี่ย" เจ้าของใบหน้าเรียวใสเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกไม่ดี ทว่าในตอนนั้นเอง"ลลิดา" เสียงทุ้มคุ้นเคยของใครบางคนดังขึ้นทำให้คนตัวเล็กพยายามทำตัวเป็นปกติพยุงร่างไร้เรี่ยวแรงของตัวเองลุกขึ้นปรับสีหน้าให้ดูยิ้มแย้มอย่างเคยเดินออกจากห้องน้ำคอนโดหรู"กลับมาแล้วเหรอคะ" ร่างบางเดินยิ้มหวานเข้าไปเอ่ยถามยังสามีป้ายแดงของเธอหลังจากที่แต่งงานกันมาได้เข้าเดือนที่สอง"อืม พี่เข้ามาเห็นแก๊สเปิดอยู่แต่ไม่เจอเธอเลยเรียกหาดู""ไลลาอยากเข้าห้องน้ำกะทันหันน่ะค่ะ""..." คามิลพยักหน้ารับรู้พร้อมกับมองหน้าภรรยาตัวเล็กนิ่ง"พะ พี่คามิลมีอะไรหรือเปล่า""ทำไมวันนี้หน้าซีด ๆ " เจ
หนึ่งเดือนต่อมา...หมับ!เสียงมือเล็กแอบย่องเข้าไปสวมกอดเข้าที่เอวหนาของแฟนหนุ่มรุ่นพี่ที่กำลังยืนทำอาหารเช้าอยู่ด้วยรอยยิ้มหวานสดใส"เอ๊ะโอ~ วันนี้คุณพ่อบ้านทำอะไรให้หมูน้อยทานคะ" เรียวปากบางอมชมพูเอ่ยถาม"ข้าวผัดปูกับไข่เจียวหมูสับ""ว้าว รู้ใจจังเลย รู้ได้ไงคะว่าไลลาอยากกิน""เธอละเมองอแงใส่พี่มั้ง" เจ้าของใบหน้าหล่อตอบกลับอย่างประชดใส่คนตัวเล็ก เพราะเมื่อคืนก่อนนอน ร่างบางเอาแต่พูดกรอกหูเขาว่าอยากจะกินข้าวผัดปูกับไข่เจียวหมูสับ"ชิ!" คนตัวเล็กทำหน้ายู่ออกมาพร้อมกับผละมือเล็กออกจากเอวแกร่ง เดินตรงเข้าไปยังบริเวณที่มีแซนด์วิชหน้าตาน่ากินวางอยู่ มือบางไม่รอช้าที่จะหยิบแซนด์วิชนั้นขึ้นมากัดกินด้วยสีหน้ามีความสุข คามิลที่กำลังยืนทำอาหารอยู่ก็ได้แต่ลอบยิ้มออกมากับความน่ารักของแฟนตัวเล็กที่ทุกครั้งไม่ว่าจะกินอะไรก็จะยิ้มหวานตาหยีมีความสุขอยู่ตลอด รวมถึงแซนด์วิชที่เขาตั้งใจทำไว้เพื่อให้คนตัวเล็กได้หยิบกินระหว่างรออาหารหลักจากเขาอยู่ใช้เวลาไม่นาน นักศึกษาแพทย์หนุ่มก็ทำอาหารทุกอย่างเสร็จนำลงไปใส่จานเดินเข้าไปวางไว้ให้ร่างเล็กอย่างที่มักจะทำให้อยู่เป็นประจำ ทว่า..."ทำไมวันนี้เสื้อถึงได้รัด
@โรงแรมเมื่อกินอาหารเสร็จ ทุกคนก็ต่างพากันแยกย้ายกลับมายังห้องพักของตัวเอง โดยไลลาเองก็รีบเดินเข้าไปจัดการอาบน้ำชำระล้างความเหนียวตัวอยู่พอสมควรจากอากาศร้อนที่อบอ้าวอยู่ไม่น้อย ซึ่งใช้เวลาไม่นาน สองเท้าเล็กก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสีหน้าท่าทีสบายตัวในชุดนอนสีหวานตัวเก่ง ทว่าเดินออกมาได้ไม่นาน ดวงตากลมโตก็ต้องชะงักไปหลังจากที่เหลือบไปเห็นแฟนหนุ่มร่างสูงกำลังนั่งไขว่ห้างจ้องมองหน้าเธอนิ่ง สวมใส่เพียงแค่กางเกงสแล็กส์สีดำเผยให้เห็นหน้าท้องกำยำไร้สิ่งปกปิด"พี่คามิล ถอดเสื้อทำไมคะ แอร์เย็นนะ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก" เรียวปากเล็กเอ่ยถามขึ้นอย่างคนไม่รู้เรื่องในเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ร่างเล็กสาวเท้าเดินตรงเข้าไปยังบริเวณโต๊ะเครื่องแป้งหมายจะทาครีมราคาแพงลงบนใบหน้าใส แต่แล้วก็ต้องถูกมือหนาของคนที่นั่งอยู่เอื้อมเข้าไปคว้าร่างเล็กเข้าหาตัว"อ๊ะ...อะไรคะเนี่ย" ดวงตากลมโตมองหน้าถามแฟนตัวสูงขึ้นสีหน้างุนงงสงสัย"ลืมจริง หรือแกล้งเนียน""คะ?" ไลลาถามด้วยสีหน้าไม่เข้าใจกว่าเดิม เพราะวันนี้เธอมัวแต่มีความสุขไปกับการกิน การทำนั่นทำนี่ จนลืมบางอย่างไปเสียสนิท"ลืมจริงสินะ" คามิลเอ่ยพึมพำขึ้น