6
มาร์
@คอนโดคามิล
ติ้ง!
เสียงลิฟต์คอนโดราคาแพงกลางใจเมืองถูกเปิดออกเข้าที่ชั้นบนสุดของคอนโดที่ทั้งชั้นนั้นเป็นของร่างสูงที่กำลังเดินออกจากลิฟต์แต่เพียงผู้เดียว ไม่สิ...ทั้งคอนโดนี้เลยต่างหาก ที่เป็นของเขา เพียงแต่คามิลไม่ได้ประกาศบอกใครจึงไม่ค่อยมีใครที่จะรู้เรื่องนี้สักเท่าไร นอกจากเขา มาร์ แล้วก็ธนา ลูกน้องคนสนิทของเขา
ตึกตึก
สองเท้าหนักเดินตรงเข้าไปยังโซฟากลางห้องด้วยสีหน้าเรียบนิ่งมือขวาจัดการดึงเนกไทที่สวมใส่อยู่ออกจากคอหนาพร้อมกับกระชากเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ใส่อยู่ออกอย่างแรงจนเผยให้เห็นรอยสักมากมายตามลำตัวของคนตัวสูง ร่างหนาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาราคาแพงด้วยสีหน้าเรียบนิ่งใบหน้ายังคงแสดงออกมาถึงความเย็นชาไร้ความรู้สึก ผิดกับนัยน์ตาสีเทาที่เต็มไปด้วยความดุดัน
"คามิล โอเคหรือเปล่า" มาร์ที่นั่งอยู่เอ่ยถามร่างสูงที่นั่งเงียบอยู่ขึ้น
"..." เจ้าของใบหน้าเย็นชาก็นิ่งไม่ตอบ
"คามิล..."
"ฉันอยาก"
"ห หื้อ..."
"อยากตอนนี้" สิ้นเสียงทุ้มเอ่ย มือหนาก็จัดการเลื่อนเข้าไปกระชากร่างสวยหุ่นดีเข้าหาตัวอย่างแรงพร้อมกับก้มลงไปซุกไซ้เข้าที่ซอกคอขาว
"คะ คามิล..." มาร์พยายามร้องเรียกห้ามอีกคน เนื่องจากเธอยังไม่พร้อมสักเท่าไร ทว่าคามิลก็ไม่คิดสนใจ ปากหนาก้มลงไปซุกไซ้เข้าที่ซอกคอสวยไม่หยุด
"คามิล อย่าทำรอยนะ ห้ามทำรอย เดี๋ยวพรุ่งนี้มาร์มีถ่ายแบบ"
"อืม" ปากหนาขานตอบรับอย่างเข้าใจก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มบรรเลงบทรักกันไปเหมือนอย่างเคย อย่างที่มันเป็นมาตลอด...
ตกดึก
"อ อ๊ะ..." เสียงเล็กของมาร์เอ่ยร้องออกมาหลังจากที่หญิงสาวเพิ่งผ่านการร่วมรักที่แสนดุเดือดจากร่างสูงอีกคนที่นอนหลับอยู่ เนื้อตัวท่อนบนของเขานั้นเต็มไปด้วยรอยสักที่ไม่เคยมีใครได้เห็น ทุกคนจะได้เห็นคามิลแค่ในลุคนักศึกษาแพทย์มหา’ลัยเอกชนชื่อดังเท่านั้น โดยไม่มีใครรู้เลยว่า ภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชานั้น ซ่อนอะไรไว้มากมายที่ใครไม่อาจรู้ มีเพียงแค่มาร์เท่านั้นที่รู้จักคามิลเป็นอย่างดี
"..." ดวงตากลมสวยจ้องมองไปยังใบหน้าหล่อของคนที่หลับอยู่ด้วยความรู้สึกมากมายที่อัดอั้นอยู่ภายในใจ ซึ่งหนึ่งในความรู้สึกนั้นก็คือ ความรู้สึกสงสารและเข้าใจว่าทำไมคามิลต้องดูเป็นคนไร้หัวใจได้ขนาดนี้ เพราะสิ่งที่คนตัวสูงต้องพบเจอมาตั้งแต่เด็ก มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คน ๆ หนึ่งจะสามารถรับไว้ได้...
คามิลไม่ใช่ลูกของสาธิต เขาไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของสาธิต เขาเป็นเพียงลูกติดของเปมิกา พ่อแท้ ๆ ของเขาเป็นนักธุรกิจชาวเยอรมัน แต่ทว่าหลังจากที่คามิลอายุได้ไม่กี่ขวบ พ่อของเขาก็เสียชีวิตลง ทำให้สาธิตที่เป็นเพื่อนของพ่อเขาเอาเขากับแม่ของเขาไปดูแลแทน โดยที่ตอนแรกคามิลไม่รู้เรื่องอะไรเลยตามประสาเด็กแต่หลังจากที่ไปอยู่กับสาธิตได้ไม่นาน แม่ของเขาก็ท้อง และคลอดลูกออกมา นั่นก็คือ เจได ทำให้สาธิตกับเจไดมักจะทำท่าทีเกลียดชังใส่คามิลอยู่ตลอด ชีวิตวัยเด็กของคามิลนั้นไม่เคยมีความสุขเลยสักวัน เพราะต้องถูกสองพ่อลูกพูดจาไม่ดีใส่บนโต๊ะอาหารอยู่ตลอด จนกระทั่งเมื่อเริ่มโตขึ้นจนเรียนจบม.ปลาย ในตอนนั้นคามิลเริ่มที่จะแข็งข้อขึ้นทำให้สาธิตจัดการส่งเขาไปอยู่ที่โรงเรียนประจำที่ต่างประเทศ สาธิตให้ข้อมูลไปว่าคามิลเป็นเด็กมีปัญหาใช้อารมณ์รุนแรงทำให้เขาต้องติดอยู่ที่โรงเรียนประจำเป็นเวลาเกือบปีจนทำให้ได้รู้จักกับมาร์ หนึ่งในเด็กที่ถูกพ่อแม่นำมาทิ้งไว้ที่โรงเรียนประจำเช่นกันเพราะไม่สามารถที่จะเลี้ยงดูลูกได้อีกต่อไป เนื่องจากบ้านของมาร์นั้นกำลังจะล้มละลาย หลังจากวันนั้นพ่อแม่ของมาร์ก็หนีหายตัวไป ทั้งสองได้รู้จักกันจากการทักทายของมาร์ ในตอนแรกนั้นคามิลไม่เอาใครเลย เขาเอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่ลำพังคนเดียว แต่แล้วในที่สุดมาร์ก็ใช้นิสัยใจเย็นใจดีของตัวเองสามารถเข้าไปสนิทสนมกับคามิลจนได้ แม้ว่าเธอจะต้องใช้เวลานานพอสมควรเลยก็ตาม คามิลไม่ใช่คนที่จะสามารถเข้าไปอยู่ในโลกของเขาได้ โลกของเขาที่เหมือนเต็มไปด้วยความมืดมิด...
หลังจากที่ถูกส่งตัวไปอยู่โรงเรียนประจำได้เกือบหนึ่งปี คามิลก็ต้องถูกถวิลพ่อของสาธิตเรียกตัวกลับไปอยู่ที่ประเทศไทย เนื่องจากถวิลนั้นรู้สึกเอ็นดูคามิลราวกับหลานแท้ ๆ ผิดกับลูกชายของเขา ชายสูงวัยต้องการให้คามิลเข้ามาช่วยดูแลธุรกิจของทางบ้าน ธุรกิจการทำประกันชีวิต โดยธุรกิจของบริษัทถวิลนั้นเป็นประกันชีวิตบริษัทใหญ่ที่มีมูลค่าสูงในตลาดหลักทรัพย์ แน่นอนว่าสาธิตไม่เห็นด้วยเป็นอย่างมากกับเรื่องนี้ เขาพยายามกันทุกอย่างรวมถึงบังคับให้คามิลเรียนหมอ เพื่อที่จะไม่ได้มามีแนวทางมายุ่งเกี่ยวกับธุรกิจที่บ้านของเขาได้อีก คามิลที่ตอนนั้นยังเด็กเกินไปก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธหรืออะไรได้ เขาได้พามาร์กลับมาด้วยในฐานะเพื่อนของเขา และเริ่มที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจการใช้อำนาจด้านมืดตั้งแต่อายุสิบเก้า เขาสะสมประสบการณ์ต่าง ๆ รวมถึงได้รู้จักกับธนาคนที่พ่อเป็นอดีตมือขวาของสาธิต แต่ถูกสาธิตไล่ออกพร้อมยัดข้อกล่าวหาให้เป็นแพะรับบาปแทนในการนำสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศ ทั้งสองได้รู้จักกันและค่อย ๆ ลงมือบางอย่างกันอยู่เงียบ ๆ ซึ่งในตอนนี้คามิลเองก็เริ่มที่จะกว้างขวางขึ้นในระดับหนึ่ง แต่มันก็ยังไม่มากพอที่จะสามารถชำระทุกอย่างกับสาธิตได้ เขาจึงทำได้แค่เล่นงานอีกคนอยู่เงียบ ๆ และทำตัวเหมือนคนไม่มีพิษสงอะไรต้องยอมอีกคนต่อไปอยู่ก่อนแบบนี้...
"มาร์เชื่อว่าสักวันจะเป็นวันของคามิลนะ...มาร์เชื่อ" เจ้าของใบหน้าเรียวสวยยิ้มเอ่ยบอกชายที่นอนอยู่ด้วยรอยยิ้มใจดีอบอุ่น ทว่าแววตากลับมีความรู้สึกบางอย่างที่ฉายออกมาผ่านสายตาคู่นั้น...
สถานะของทั้งสอง ไม่ใช่แฟน แต่ก็...ไม่ใช่เพื่อน
"...เริ่มเลย" ทันทีที่เรียวปากหนาพูดจบ มือบางก็จัดการผลักร่างแกร่งของสามีให้ล้มลงนอนบนเตียงขนาดใหญ่ก่อนที่เธอจะรีบกระโดดเข้าไปขึ้นคร่อมร่างหนา ไม่รอช้าที่จะก้มลงไปซุกไซ้เข้าที่ซอกคอสามีพร้อมทั้งใช้มือที่ว่างอยู่จัดการถอดเสื้อผ้าของคนใต้ร่างออก คามิลที่นอนมองการกระทำของหญิงสาวก็อดที่จะรู้สึกวูบวาบพอใจไม่ได้ เพราะไลลาไม่เคยแสดงความร้อนแรงแบบนี้ใส่เขามาก่อน พอได้เห็นภรรยาตัวเล็กที่หน้าตาไม่ต่างจากบาร์บี้มีชีวิตทำ ความพลุ่งพล่านก็ปะทุอยู่ในร่างกายของหมอมาเฟียอย่างไม่น่าเชื่อลิ้นเล็กสอดแทรกเข้ามายังปากหนาของสามีตัวสูงพร้อมกับซุกซนจนคนที่นอนอยู่ทนไม่ไหวต้องจูบตอบกลับด้วยความเร่าร้อนหนักหน่วง"อื้อออ~" ทั้งสองต่างแลกลิ้นกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนที่ไลลาจะรู้สึกได้ความแข็งตึงจากอะไรบางอย่างที่เธอกำลังนั่งทับอยู่ตรงนั้นของเขายังคงไวต่อความรู้สึกเหมือนเคย..."ถอดกางเกงให้พี่หน่อย" เจ้าของใบหน้าหล่อเอ่ยบอกภรรยาน้ำเสียงกระเส่า ซึ่งมือเล็กก็ทำตามอย่างที่พ่อของลูกบอกทันที โดยขณะที่หญิงสาวกำลังใช้มือถอดกางเกงที่อีกคนสวมใส่อยู่ มือหนาของอีกคนที่นอนอยู่ก็เคลื่อนเข้ามาลูบยังหน้าท้องแบนราบของร่างเล็ก
@อิตาลีครืดดด ~เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่ไม่ไกลดังขึ้นทำให้เจ้าของใบหน้าหล่อที่เพิ่งกลับมาจากการประชุมงานเดินเข้าไปหยิบขึ้นมากดรับสายติ้ด(ไงคะพี่คามิล เลี้ยงลูกได้ไหม) เสียงหวานจากปลายสายเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง หลังจากตกลงกันว่าคามิลจะพาไลลากับลูกน้อยมาคุยงานด้วยที่อิตาลีเพื่อเป็นการพักผ่อนไปด้วยในตัว วันนี้คนตัวสูงจึงปล่อยให้แม่ของลูกได้ออกไปเที่ยวเล่นช็อปปิงตามประสา โดยมีเขาเป็นคนอาสาที่จะเลี้ยงลูกน้อยแทนเอง"เลี้ยงได้" เจ้าของใบหน้าหล่อเอ่ยพร้อมกับอุ้มลูกน้อยวัยทารกที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่กี่เดือนขึ้นมาอุ้มไว้แนบอกแกร่ง(จริงนะ ให้ไลลารีบกลับไปช่วยดูไหม)"ไม่เป็นไร หาความสุขใส่ตัวไปเถอะ เรื่องลูกไม่ต้องห่วง พี่เลี้ยงได้" เรียวปากหนากรอกเสียงบอกปลายสาย(โอเค แต่ถ้ามีอะไรหรือเลี้ยงไม่ไหว โทรหาไลลาได้ตลอดเลยนะคะ)"อืม"(งั้นไลลาขอไปช็อปปิงต่อก่อนน้าาา~)"..." ร่างสูงเผลอยิ้มออกมากับเสียงใสที่ยังคงสดใสอยู่ตลอดเวลาของภรรยา นิ้วแกร่งกดตัดสายไปก่อนจะก้มลงเล่นกับลูกชายตัวเองที่นอนกินนมอยู่บนอ้อมแขนหนาของเขาเด็กน้อยนอนมองหน้าคนเป็นพ่อตาใสไม่รู้เรื่องพร้อมกับปากที่ยังคงดูดกินขวดนมอย่าง
หนึ่งปีผ่านไป...ตึกตึกเสียงสองเท้าหนักของหมอหนุ่มในชุดสูทสุขุมเดินตรงออกไปจากบริเวณคลินิกของตัวเองด้วยสีหน้าเรียบนิ่งท่ามกลางเหล่าพยาบาล พนักงานในคลินิกที่ต่างผงกหัวทักทายเจ้านายสุดหล่อเจ้าของใบหน้าเย็นชา ทว่าในตอนนั้นเองครืดดด ~ โทรศัพท์ราคาแพงของร่างสูงดังขึ้นขณะที่เขากำลังเดินอยู่ทำให้ดวงตาคมก้มลงไปมองธนาติ้ด"อืม"(คุณคามิลครับ จะแวะเข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อยเลยไหมครับ)"อืม เดี๋ยวเข้าไป"(ครับ) หลังจากที่คุยกับลูกน้องคนสนิทเสร็จ หมอหนุ่มก็ไม่รอช้าที่จะเดินตรงไปยังรถสปอร์ตราคาแพงของตัวเองขับเคลื่อนออกไปด้วยความรวดเร็วเอี๊ยด!ไม่นานสปอร์ตสีเทาดำคันใหม่ที่เพิ่งถอยออกมาได้ไม่นานก็ถูกขับเข้ามาจอดยังบริเวณใต้ตึกอาคารขนาดใหญ่พร้อมกับมีเหล่าการ์ดมากมายที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าประตูรีบก้มหัวทักทายแก่เจ้านายตัวสูงที่เพิ่งมาถึง"สวัสดีครับคุณคามิล" เสียงธนาเดินเข้ามาทักทายเจ้านายอีกครั้ง"..." คามิลก็พยักหน้ารับรู้ใช้มือหนาเลื่อนลงไปติดกระดุมเสื้อสูทของตัวเองด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเดินตรงเข้าไปยังด้านในตึกอาคารขนาดใหญ่ที่เป็นอีกหนึ่งธุรกิจของเขา ทว่าธุรกิจนี้มันไม่ได้ใสสะอาดอย่างที่หลายคนรู
สองเดือนผ่านไป..."มึนหัวจัง..." เสียงหวานของร่างเล็กพึมพำออกมาขณะที่กำลังยืนทำอาหารอยู่ภายในห้องครัวขนาดใหญ่ ไลลามีสีหน้าที่รู้สึกไม่ดีบอกไม่ถูกกับอาการบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ภายในร่างกายของตัวเอง ช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ หญิงสาวมักจะมีอาการมึนหัว รวมถึง..."ทำไมวันนี้กลิ่นอาหารไม่ค่อยดีเลย" เรียวปากบางอมชมพูเอ่ยก่อนจะรู้สึกทนไม่ไหวรีบสาวเท้าเดินไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลเพื่อที่จะอาเจียนออกมาด้วยสีหน้าซีดเซียวหมดแรง"ปะ...เป็นอะไรไปเนี่ย" เจ้าของใบหน้าเรียวใสเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกไม่ดี ทว่าในตอนนั้นเอง"ลลิดา" เสียงทุ้มคุ้นเคยของใครบางคนดังขึ้นทำให้คนตัวเล็กพยายามทำตัวเป็นปกติพยุงร่างไร้เรี่ยวแรงของตัวเองลุกขึ้นปรับสีหน้าให้ดูยิ้มแย้มอย่างเคยเดินออกจากห้องน้ำคอนโดหรู"กลับมาแล้วเหรอคะ" ร่างบางเดินยิ้มหวานเข้าไปเอ่ยถามยังสามีป้ายแดงของเธอหลังจากที่แต่งงานกันมาได้เข้าเดือนที่สอง"อืม พี่เข้ามาเห็นแก๊สเปิดอยู่แต่ไม่เจอเธอเลยเรียกหาดู""ไลลาอยากเข้าห้องน้ำกะทันหันน่ะค่ะ""..." คามิลพยักหน้ารับรู้พร้อมกับมองหน้าภรรยาตัวเล็กนิ่ง"พะ พี่คามิลมีอะไรหรือเปล่า""ทำไมวันนี้หน้าซีด ๆ " เจ
หนึ่งเดือนต่อมา...หมับ!เสียงมือเล็กแอบย่องเข้าไปสวมกอดเข้าที่เอวหนาของแฟนหนุ่มรุ่นพี่ที่กำลังยืนทำอาหารเช้าอยู่ด้วยรอยยิ้มหวานสดใส"เอ๊ะโอ~ วันนี้คุณพ่อบ้านทำอะไรให้หมูน้อยทานคะ" เรียวปากบางอมชมพูเอ่ยถาม"ข้าวผัดปูกับไข่เจียวหมูสับ""ว้าว รู้ใจจังเลย รู้ได้ไงคะว่าไลลาอยากกิน""เธอละเมองอแงใส่พี่มั้ง" เจ้าของใบหน้าหล่อตอบกลับอย่างประชดใส่คนตัวเล็ก เพราะเมื่อคืนก่อนนอน ร่างบางเอาแต่พูดกรอกหูเขาว่าอยากจะกินข้าวผัดปูกับไข่เจียวหมูสับ"ชิ!" คนตัวเล็กทำหน้ายู่ออกมาพร้อมกับผละมือเล็กออกจากเอวแกร่ง เดินตรงเข้าไปยังบริเวณที่มีแซนด์วิชหน้าตาน่ากินวางอยู่ มือบางไม่รอช้าที่จะหยิบแซนด์วิชนั้นขึ้นมากัดกินด้วยสีหน้ามีความสุข คามิลที่กำลังยืนทำอาหารอยู่ก็ได้แต่ลอบยิ้มออกมากับความน่ารักของแฟนตัวเล็กที่ทุกครั้งไม่ว่าจะกินอะไรก็จะยิ้มหวานตาหยีมีความสุขอยู่ตลอด รวมถึงแซนด์วิชที่เขาตั้งใจทำไว้เพื่อให้คนตัวเล็กได้หยิบกินระหว่างรออาหารหลักจากเขาอยู่ใช้เวลาไม่นาน นักศึกษาแพทย์หนุ่มก็ทำอาหารทุกอย่างเสร็จนำลงไปใส่จานเดินเข้าไปวางไว้ให้ร่างเล็กอย่างที่มักจะทำให้อยู่เป็นประจำ ทว่า..."ทำไมวันนี้เสื้อถึงได้รัด
@โรงแรมเมื่อกินอาหารเสร็จ ทุกคนก็ต่างพากันแยกย้ายกลับมายังห้องพักของตัวเอง โดยไลลาเองก็รีบเดินเข้าไปจัดการอาบน้ำชำระล้างความเหนียวตัวอยู่พอสมควรจากอากาศร้อนที่อบอ้าวอยู่ไม่น้อย ซึ่งใช้เวลาไม่นาน สองเท้าเล็กก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสีหน้าท่าทีสบายตัวในชุดนอนสีหวานตัวเก่ง ทว่าเดินออกมาได้ไม่นาน ดวงตากลมโตก็ต้องชะงักไปหลังจากที่เหลือบไปเห็นแฟนหนุ่มร่างสูงกำลังนั่งไขว่ห้างจ้องมองหน้าเธอนิ่ง สวมใส่เพียงแค่กางเกงสแล็กส์สีดำเผยให้เห็นหน้าท้องกำยำไร้สิ่งปกปิด"พี่คามิล ถอดเสื้อทำไมคะ แอร์เย็นนะ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก" เรียวปากเล็กเอ่ยถามขึ้นอย่างคนไม่รู้เรื่องในเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ร่างเล็กสาวเท้าเดินตรงเข้าไปยังบริเวณโต๊ะเครื่องแป้งหมายจะทาครีมราคาแพงลงบนใบหน้าใส แต่แล้วก็ต้องถูกมือหนาของคนที่นั่งอยู่เอื้อมเข้าไปคว้าร่างเล็กเข้าหาตัว"อ๊ะ...อะไรคะเนี่ย" ดวงตากลมโตมองหน้าถามแฟนตัวสูงขึ้นสีหน้างุนงงสงสัย"ลืมจริง หรือแกล้งเนียน""คะ?" ไลลาถามด้วยสีหน้าไม่เข้าใจกว่าเดิม เพราะวันนี้เธอมัวแต่มีความสุขไปกับการกิน การทำนั่นทำนี่ จนลืมบางอย่างไปเสียสนิท"ลืมจริงสินะ" คามิลเอ่ยพึมพำขึ้น