[ เคยไหม...? รู้สึกไม่ถูกชะตากับคนคนหนึ่งตั้งแต่แรกเจอ ]
@โรงพยาบาล
หลังใบชาได้รับสายจากพยาบาลเวรโทรมาแจ้งว่าแม่ฟื้นแล้ว พี่ชายคนเดียวของเธอก็บึ่ง...ไม่สิ ใช้คำว่าเหาะน่าจะเหมาะกว่า จากสนาม แข่งรถมาถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัยโดยใช้เวลาไปเพียงสิบนาทีเศษเท่านั้นเอง ซึ่งมันเร็วกว่าปกติเกือบเท่าหนึ่งเลย
ดวงหน้าสวยบ่งบอกชัดเจนว่ารู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอกที่ได้มีโอกาสก้าวขาลงจากมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คู่ใจของคนเป็นพี่ซึ่งได้มาเพราะชนะศึกดวลความเร็วครั้งก่อน
ฟู่ว์...
ลมหายใจถูกผ่อนออกยาวขณะเร่งฝีเท้าเล็กไปยังตึกผู้ป่วยในทางปีกซ้าย วิญญาณและจิตใจเธอล่องลอยไปหาผู้ให้กำเนิดเรียบร้อย เหลือแค่กายหยาบที่ยังวิ่งอยู่ ส่วนเจ้าของรถก็คงจะเอามันไปจอดตามระเบียบ
ไม่นานใบชาก็มาหยุดเปลี่ยนรองเท้าด้วยความรีบเร่งหน้าห้องผู้ป่วยหญิง แล้วผลักดันประตูกระจกเข้าไปอย่างไม่ลังเล สายตาโฟกัสเป้าหมายที่อยู่เตียงริมสุดของแถวสามก่อนเท้าจะเดินไปถึงเสียอีก
“แม่...” ลูกสาวฉีกยิ้มกว้างพลางโน้มลงไปซบอ้อมอกอบอุ่นด้วยความระแวดระวัง เพราะกังวลว่าความเซ่อซ่าทำให้คนป่วยที่เพิ่งฟื้นตัวได้รับบาดเจ็บเพิ่ม
“ไง เด็กดื้อ” น้ำเสียงแหบแห้งเนื่องจากหลับไปนานก็ฟังไม่ค่อยถนัดอยู่แล้ว แถมตอนนี้ยังติดอู้อี้เพราะริมฝีปากอุ่นร้อนกดแนบชิดบริเวณหน้าผากมนของแก้วตาดวงใจไม่ห่าง ฝ่ามือไร้เรี่ยวแรงค่อยๆ ยกขึ้นมาวางบนหัวและลูบไปมาด้วยความเอ็นดู สัมผัสอ่อนโยนบวกไออุ่นที่แสนคุ้นเคย ทำเบ้าตาเจ้าเด็กดื้อแสบร้อนขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
พานให้คิดไปถึงสิ่งร้ายแรงที่ยังไม่เกิดขึ้น ว่าถ้าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อนมันร้ายแรงกว่านี้จะเป็นยังไง...
ไม่นานเปลือกตาบอบบางก็ปิดลงแน่นพลางสะบัดหน้าไร้สิ่งเลวร้ายเหล่านั้นออกจากหัว
บ้าเอ๊ย! ห้ามคิดแบบนี้สิ!
“ยังเจ็บอยู่ไหม” คำถามห้วนๆ หลุดออกมา หลังจากร่างเล็กดันออกจากอ้อมกอดแล้วใช้สายตาไล่สำรวจเรือนร่างคนเป็นแม่เกือบจะทั่วทุกซอกทุกมุม
“นิดหน่อย” คนเจ็บแสร้งตอบไปแบบนั้น ทั้งๆ ที่ยังนิ่วหน้าเวลาขยับตัว แต่คงเพราะไม่อยากให้ลูกๆ เป็นห่วงเกินกว่าเหตุ
และที่หญิงสูงวัยต้องมีสภาพแบบนี้ สืบเนื่องมาจากกลุ่มเด็กวัยรุ่นแถวบ้านมันขับมอเตอร์ไซค์ไม่ดูตาม้าตาเรือเพราะมัวแต่ดวลความเร็วเล่นกัน และเฉี่ยวชนแม่ของเธอจนล้มหัวฟาดฟุตบาท นอนซมไปตั้งสองวัน กว่าจะฟื้นเต็มตัว แต่ก็ใช่ว่าจะวางใจได้ ต้องรอตรวจอย่างละเอียดอีกที รวมไปถึงเข้าทีซีสแกนสมองด้วย
ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลให้ลูกชายคนโตต้องไปลงแข่งแมตช์สำคัญในคืนนี้ เพื่อเตรียมเงินไว้สำรองยามฉุกเฉิน ทว่าทุกอย่างพังไม่เป็นท่าเพราะมีการสับเปลี่ยนตัว หากเป็นไปตามแพลนเดิมที่วางไว้ นักแข่งมือฉมังอย่างบีมไม่มีทางแพ้แน่!
พอนึกถึงเรื่องนี้ ใบชาก็ออกอาการฟึดฟัดในห้วงความคิด อดโมโหไอ้คนปากเสียไม่ได้!
ทว่าก็มีแวบหนึ่งเหมือนกันนะ ที่เธอรู้สึกคุ้นกับท่าทางของชายผู้นั้น แต่ก็เลือกที่จะตัดทิ้ง เพราะไม่อยากยุ่งเกี่ยว ออกให้ห่างไว้คงจะดีกว่า
มือเรียวเอื้อมไปลากเก้าอี้มานั่งลงข้างเตียงได้เพียงไม่เท่าไหร่ สองแม่ลูกก็เคลื่อนสายตาไปยังผู้มาเยือนใหม่ที่เดินมาหยุดยืนปลายเตียงแทบจะพร้อมกัน
“พี่ชาย เขาดูแลลูกดีรึเปล่า” ผู้เป็นแม่ตั้งคำถามเสียงนิ่งเรียบทันควัน เขม่นมองลูกชายไม่วางตา เหมือนมีอะไรบางอย่างซ้อนอยู่ในนั้น ทำให้บีมย่นคิ้วเข้าหากัน เขานึกสงสัยอยู่ลึกๆ ว่าเหตุใดแม่ถึงมีท่าทีแปลกไป
“ดีสิคะ” ใบชาหันกลับมายิ้มให้เจ้าของคำถาม วินาทีเดียวกันนั้นคนเพิ่งมาถึงหมาดๆ ก็ออกปากขอตัว คล้ายกับเขาอยากหนีสายตากดดันยังไงยังงั้น
“เดี๋ยว...ขอไปคุยเรื่องค่ารักษาก่อนนะ” ไม่รอฟังคำตอบจากใคร ร่างสูงหมุนตัวกลับออกไปทางเดิม
ใบชาอ้าปากจะทักท้วงก็ไม่ทัน ได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างตาปริบๆ ด้วยความฉงน แต่พอหันกลับมามันยิ่งเพิ่มพูนความเคลือบแคลงใจหนักเข้าไปอีก
“ทำไมแม่ มองพี่เขาแบบนั้นอะ”
“ทำไมแม่ มองพี่เขาแบบนั้นอะ”แววตาของผู้ให้กำเนิดที่มองพี่ชายช่างแตกต่างจากมองเธอโดยสิ้นเชิง“ไม่รู้สิ กลับมารอบนี้เหมือนพี่ของลูกเขาเปลี่ยนไปมาก” พูดดั่งความคิดในหัวโดยไม่ละสายตาจากลูกชายถึงแม้เขาจะออกประตูไปแล้วก็ตามความจริงเมื่อแปดปีก่อนพวกเขาถูกจับแยก พ่อพาบีมไปอยู่ภูเก็ตบ้านเกิดของท่านหลังตัดสินใจแยกทางไปใช้ชีวิตใหม่ การเจอกันของพี่น้องก็ค่อยๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา จนกระทั่งพ่อล้มป่วยและจากโลกนี้ไปเมื่อตอนต้นปี บีมก็เลยกลับมามาอยู่กันเป็นครอบครัวเหมือนเดิม...“ยังไงคะ” คิ้วสีอ่อนเลิกมอง เธอไม่เข้าใจเลยสักนิด ว่าสิ่งที่แม่พูดต้องการจะสื่ออะไร คนถูกคาดคั้นด้วยสายตานิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะหลุบหลบแล้วเลือกที่จะตอบปัด ไม่ลงดีเทล“อาจเป็นเพราะเขาโตขึ้นด้วยแหละมั่ง”ตอนแรกสาวน้อยก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ท่าทางของแม่ทำให้เธอต้องรื้อบันทึกความทรงจำอีกครั้งเปลี่ยนไปงั้นเหรอ...“แล้วนี่ไปไหนกันมา”“อ้อ...” ใบชาถูกดึงกลับมาสู่โลกปัจจุบันและจำใจต้องโป้ปด “ไปทำพาร์ตไทม์ค่ะ”แต่ก็มีความจริงอยู่นิดหน่อย เพราะขืนปล่อยให้แม่รู้ว่าพี่ชายไปแข่งรถเพื่อเงินเดิมพัน ต้องโดนคนป่วยบ่นหูชาแน่“แล้วเงินที่คุณเขาให้
[ เคยไหม...? รู้สึกไม่ถูกชะตากับคนคนหนึ่งตั้งแต่แรกเจอ ]@โรงพยาบาลหลังใบชาได้รับสายจากพยาบาลเวรโทรมาแจ้งว่าแม่ฟื้นแล้ว พี่ชายคนเดียวของเธอก็บึ่ง...ไม่สิ ใช้คำว่าเหาะน่าจะเหมาะกว่า จากสนาม แข่งรถมาถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัยโดยใช้เวลาไปเพียงสิบนาทีเศษเท่านั้นเอง ซึ่งมันเร็วกว่าปกติเกือบเท่าหนึ่งเลยดวงหน้าสวยบ่งบอกชัดเจนว่ารู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอกที่ได้มีโอกาสก้าวขาลงจากมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คู่ใจของคนเป็นพี่ซึ่งได้มาเพราะชนะศึกดวลความเร็วครั้งก่อนฟู่ว์...ลมหายใจถูกผ่อนออกยาวขณะเร่งฝีเท้าเล็กไปยังตึกผู้ป่วยในทางปีกซ้าย วิญญาณและจิตใจเธอล่องลอยไปหาผู้ให้กำเนิดเรียบร้อย เหลือแค่กายหยาบที่ยังวิ่งอยู่ ส่วนเจ้าของรถก็คงจะเอามันไปจอดตามระเบียบไม่นานใบชาก็มาหยุดเปลี่ยนรองเท้าด้วยความรีบเร่งหน้าห้องผู้ป่วยหญิง แล้วผลักดันประตูกระจกเข้าไปอย่างไม่ลังเล สายตาโฟกัสเป้าหมายที่อยู่เตียงริมสุดของแถวสามก่อนเท้าจะเดินไปถึงเสียอีก“แม่...” ลูกสาวฉีกยิ้มกว้างพลางโน้มลงไปซบอ้อมอกอบอุ่นด้วยความระแวดระวัง เพราะกังวลว่าความเซ่อซ่าทำให้คนป่วยที่เพิ่งฟื้นตัวได้รับบาดเจ็บเพิ่ม“ไง เด็กดื้อ” น้ำเสียงแหบแ
[ เคยไหม...? รู้สึกอยากเอาชนะใครบางคนจนแทบเป็นบ้า ][-พาร์ทอดีต-]สองปีก่อน...ฮึ้มมมม…! ฮึ้ม!!!เฟอร์รารี่สีดำทมิฬเครื่องวีหกเทอร์โบส่งเสียงทรงพลัง ราวเสือร้ายคำรามร้องขู่เมื่อเจอคู่ต่อสู้สมน้ำสมเนื้อ อยู่กลางสนามแข่งอันเลื่องชื่อใจกลางเมืองเชียงใหม่ซึ่งสร้างมาแล้วหลากหลายตำนานจากรุ่นสู่รุ่น และออดี้เทาเข้มแต่งเต็มลูกสูบที่เพิ่งเคลื่อนเข้ามาจอดขนาบข้างก็โต้ตอบกลับไปแบบไม่มีใครยอมใคร“ไอ้กระจอก!” ตะวัน หนุ่มวิศวะปากร้ายพ่นคำดูแคลนผ่านกระจกที่เปิดไว้ไปยังคนในรถอีกคัน ตามด้วยส่งนิ้วกลางทักทาย พร้อมใช้ลิ้นดุนดันกระพุ้งแก้มแล้วกระตุกคิ้วเข้มด้วยท่าทางยียวนกวนบาทาเบื้องล่างขั้นสุดทว่าฝ่ายตรงข้ามไม่มีท่าทีบันดาลโทสะหรืออยากยั่วยุอารมณ์เขาเฉกเช่นแต่ก่อน เหมือนเด็กอาชีวะต่างสถาบันผู้นั้นจะจมอยู่กับอาการมึนงงหนัก อาจเพราะแรกเริ่มเดิมทีคู่ดวลในแมตช์นี้ไม่ใช่ตะวันก็เป็นได้ ดังนั้นความมั่นใจเกินร้อยที่จะคว้าเงินเดิมพันในตอนแรกลดฮวบเกือบถึงขีดต่ำสุดก่อนจะพากันเบนไปสนใจเรซคิงกิตติมศักดิ์ในค่ำคืนนี้หู้วววว…หู้วว์“เอาละ…เอาละ” เจ้าของน้ำเสียงทุ้มต่ำยกสองมือขึ้นเหนือศีรษะเพื่อหยุดกองเชียร์ เขาคื
“อยากให้ช่วยไหม”แคว่ก…!ชายเสื้อเชิ้ตสีเข้มตัวยาวบนเรือนร่างอรชรที่ยืนหันหน้าเข้ากำแพงห้องน้ำโดยใช้สองแขนค้ำยันเอาไว้ในอาการหอบถี่ถูกฉีกแบบลวกๆ จนได้เศษผ้ายาวตามความต้องการของชายลึกลับผู้ซึ่งสวมแมสดำสนิทและปิดคลุมอำพรางด้วยฮู้ดตัวหนาสีเดียวกัน“คะ…คุณ” เสียงผะแผ่วติดสั่นไหวทักท้วงในตอนที่สิ่งนั้นกลาย เป็นอุปกรณ์บดบังทัศนียภาพทั้งหมดของเธอ เดิมทีฤทธิ์ยาก็ทำลายการมองเห็นลดลงไปหลายระดับแล้ว มาบัดนี้มืดมิดราวกับคนตาบอด!“อย่าดึงออก!”ฝ่ามือเรียวเล็กถึงกับชะงักกึก! หลังได้รับคำสั่งเด็ดขาดที่ดักขึ้นอย่างรู้ทัน ก่อนจะลดลงไปนาบผนังเย็นเฉียบไว้ตามเดิม แล้วแอบตัดพ้ออยู่ในใจลึกๆในเวลาปกติมีแค่สิทธิ์ได้เห็นแค่ดวงตาฉายแววดุดันเท่านั้น แต่นี่จะไม่ให้เห็นแม้แต่เงา…ใจร้ายเกินไปหน่อยไหม“แต่ใบอยากเห็นคุณ…” เจ้าของบ้านเอื้อนเอ่ยอย่างคนละเมอขณะเหลียวกลับมาหาร่างกำยำที่เข้าช้อนแผ่นหลังในระยะประชิด ท่อนแขนแกร่งข้างหนึ่งโอบรอบเอวบางไว้หลวมๆ“เธอไม่อยากเห็นหน้าฉันหรอก เชื่อสิ!” เขาโน้มใบหน้าลงกระซิบข้างใบหูด้วยเสียงแหบพร่าชวนให้ขนลุกซู่ เมื่อดวงตาคู่สวยถูกปิด แมสก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป มันร่อนกลางอากาศแล้วตกล
Top 5 of Zenesaintเป็นเรื่องราวในรั่วมหาลัย' ของเหล่าทวยเทพทั้ง 5 คณะที่มารวมตัวอยู่แก๊งเดียวกัน จนใครๆ ต่างขนานนามพวกเขาว่า"แก๊ง Disaster (ภัยพิบัติ) รวมตัวกันที่ไหน...ฉิบหายที่นั่น!!!"มาพบกับความสัมพันธ์ 5 รูปแบบจากหนุ่มฮอตทั้ง 5 คณะเริ่มด้วย1. BAD ENG' วิศวะลวงใจ [ตะวัน x ใบชา] มาพร้อมกับความสัมพันธ์แบบ It’s complicated relationship------------------✄┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈ตะวัน ภูตะวัน เดชาพิพักษ์วิศวกรรมซอฟต์แวร์ ปี 4วันเกิด : 11 พฤศจิกายน ราศีตุลย์น้ำหนัก : 75 กม. / ส่วนสูง : 182 ซม. /กรุปเลือด : Oคติ : เน้นหาเงิน แต่ยืมน้องใช้ตลอด (เงินตัวเองเก็บไว้เปย์เด็กนิติฯคนสวย)[ ลูกชายพ่อดินกับแม่หนูดา ในเรื่อง My Sister พี่สาวคนนี้ของผม เรื่องแรกของเราเลย ^^ ]✄┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈ใบชา ฌาริดา กิจวัฒนานิติศาสตร์ ปี 3วันเกิด : 05 กุมภาพันธ์ ราศีกุมภ์น้ำหนัก : 47 กม. / ส่วนสูง : 160 ซม. / กรุปเลือด : ABคติ : ไม่ชอบรับของใครฟรีๆ[ แต่มีหนุ่มวิศวะแอบเปย์อยู่ตลอด ]***เฮียตะวัน แฝดคนพี่ของพ่อดินกับแม่หนูดา ใครยังไม่ได้อ่านรุ่นพ่อแม่ไปตามได้ที่ My Sister พี่สาวคนนี้ของผมแก๊ง Disaster (ภัยพิบัติ)