บทที่ 3 เอาตัวรอด NC
ร่างเล็กกัดปากอย่างยั่วเย้าอีกฝ่าย สกิลการอ่อยเป็นศูนย์อย่างเธอ ไม่รู้จะทำให้อีริคพึงพอใจได้แค่ไหน
ครั้นที่ผิวเนื้อสัมผัสกับเนื้อผ้าบนร่างกายชายหนุ่ม ทำเอาขนกายลุกซู่ไปทั้งตัว เธอช้อนตามองใบหน้าคมเข้มพร้อมกับลูบฝ่ามือลงมาหยุดที่อกแกร่ง ก่อนที่จะปลดกระดุมเสื้อออกให้ชายหนุ่ม หัวใจดวงน้อยวูบไหวเมื่อเห็นไรขนอ่อนบนแผงอกแกร่งของอีริค
"เล่นพอยัง" อีริคถามเสียงเรียบ เขาปล่อยให้คนโปรดเล่นเพลินจนพอใจแล้ว
"อ๊ะ!" ร่างเล็กถูกผลักจนแผ่นหลังขาวเนียนสัมผัสกับผนังห้องน้ำเย็นเฉียบ อีริคมองด้วยสายตาเหยียดหยาม ก่อนที่จะยกฝ่ามือขึ้นมาเคล้าคลึงหน้าอกข้างซ้ายคนโปรดด้วยความดิบห่าม ความเจ็บตรงเล่นงานจนใบหน้าสวยเหยเก แต่จะร้องออกไปว่าเจ็บคงทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจเป็นแน่ คนโปรดกัดปากครางเสียงแหบพร่าข้างใบหูชายหนุ่ม
ยอดถันสีน้ำตาลอ่อนถูกลิ้นสากโลมเลียอย่างฮึกเหิมจนปวดหนึบตรงเม็ดบัว อีริคสลับเปลี่ยนไปใช้ปากเคล้าคลึงเม็ดบัวอีกข้างจนมันบวมเต่งอย่างเร้าอารมณ์
พรึบ!
คนโปรดสะดุ้งเฮือกเบิกตาโพลงเมื่อถูกอุ้มขึ้นมานั่งบนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ลมหายใจเจือกลิ่นบุหรี่จาง ๆ เคล้ากับลมหายใจเธอที่หอบถี่รัวด้วยความตกใจเมื่อครู่
"คุณอีริค..." ริมฝีปากสั่นระริกเอ่ยเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงหวาน
"ยั่วเก่งขนาดนี้...ระวังคลานออกจากห้องน้ำนะ" รอยยิ้มร้ายบนใบหน้าคมเข้มนั้นส่งตรงให้คนโปรดอย่างตั้งใจ ก่อนที่เขาจะปลดปล่อยสิ่งที่พองโตอยู่กลางกาย หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบกับความใหญ่โตของมันจนเผลอหุบขาเข้าหากันอัตโนมัติ
เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง แค่คิดว่ามันจะเข้ามาอยู่ในกายก็ทำเอาขวัญกระเจิงแล้ว
"เธอคงไม่คิดหรอกใช่ไหม ว่าฉันจะเอาเธอโดยไม่ป้องกัน"
"..."!
"ใส่มันให้ฉัน" ซองถุงยางอนามัยสีน้ำเงินวางลงบนหน้าขาคนโปรด อีริคถอยออกมาจากเคาน์เตอร์หนึ่งก้าว เพื่อให้เธอก้าวลงมาสวมใส่ถุงยางอนามัยให้
เธอหยิบซองถุงยางมาฉีกออก หยิบของด้านในออกมาสวมใส่แก่นกายให้อีริคอย่างระมัดระวัง ร่างกายวูบวาบจนขาอ่อนหมดเรี่ยวแรง ความมันวาวของสารให้ความหล่อลื่นเลอะฝ่ามือเธอ
"หันหลังไป"
"..."! เธอหันหน้าเข้าหากระจกเงาบานใหญ่ ภาพสะท้อนที่ปรากฏตรงหน้านั้นน่าอับอายยิ่งนัก ทว่าอีริคกลับยกเรียวขาเธอข้างหนึ่งขึ้นไปพาดกับเคาน์เตอร์ ขณะเดียวกันมือข้างซ้ายเขาก็กำลังรูดรั้งท่อนลำอยู่เหมือนกัน
ปึก!
เสียงคำรามในลำคอของคนด้านหลังมาพร้อมกับความเจ็บและจุกแน่นที่เธอได้รับแบบไม่ทันตั้งตัว คนโปรดหลับตา กลั้นเสียงร้องด้วยการกัดริมฝีปากตัวเอง
"อ๊า~" อีริคคำรามเสียงกร้าวดังก้องห้องน้ำ ช่องทางรักคับแน่นกำลังบีบรัดตัวตนเขา แต่ยิ่งตอดรัดยิ่งเสียวซ่าน เขารวบผมคนโปรดและดึงจนใบหน้าเธอเชิดขึ้น การจู่โจมแบบไม่ให้เธอตั้งตัวนั้นสร้างความจุกแน่นให้ไม่น้อย "มองมันซะ!" อีริคสั่งคนที่กำลังหลับตาปี๋มองภาพตัวเองกำลังร่วมรักกับเขาในกระจก
"อึก...อื้อ~" เยื้อพรหมจรรย์ขาดสิ้น อีริคเป็นผู้ชายคนแรกของเธออย่างไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้
ปึก ปึก ปึก
ชายหนุ่มเริ่มเคลื่อนไหวร่างกายด้วยการกระแทกกระทั้นแก่นกายอย่างหนักหน่วง เสียงร้องครวญครางของคนโปรดช่วยเพิ่มความกระสันให้อีริคไม่น้อย
"อึก...อื้อ~" สายตาเธอพร่าเบลอเพราะแรงกระแทกที่ไม่หยุดหย่อนของคนด้านหลัง ทุกจังหวะที่เขาถาโถมเข้าใส่ เหมือนเธอถูกหมัดหนัก ๆ กระแทกใส่ที่ท้องน้อย ทั้งจุก เจ็บ ในคราวเดียวกัน
เคยได้ยินว่าการมีเซ็กซ์ ทั้งสองฝ่ายเสพสมความสุขด้วยกันและจับมือถึงฝั่งปรารถนาพร้อมกัน ทว่าตอนนี้ไม่ใช่สักนิด
"อื้อ..." อีริคครางต่ำในลำคอและผ่อนแรงลง ก่อนจะจับตัวเธอพลิกมา เรียวขาเล็กถูกเกี่ยวขึ้นมาทาบที่เอวสอบ เขาสอดใส่แก่นกายเข้าไปในช่องทางรัก ส่วนปลายสัมผัสกับเกสรสีแดงฉ่ำวาวคัดเต่งจากการเสียดสีอีกครั้ง แล้วเริ่มเคลื่อนไหวเอวสอบอย่างหนักหน่วง
คนโปรดตัวอ่อนปวกเปียก สมองเริ่มขาวโพลนกับจังหวะรักแสนดิบห่ามของเขา เธอครางประท้วงด้วยความเจ็บแสบ รู้สึกหน่วงในท้องน้อย ทว่ามีความรู้สึกแปลกใหม่เกิดขึ้น คนโปรดก้มหน้าหลบสายตาอีกฝ่าย
"ทำไม เสียวงั้นเหรอ"
"ปะ เปล่านะคะ"
"โกหก"
"อึก อื้อ~" ความรู้สึกสยิวนี้เกิดขึ้นได้ยังไง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ร่างกายเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ความเสียวซ่านที่อีริคว่านั้นกำลังแทรกซ้อนเข้าไปทั่วทุกอณูผิว ร่างแน่งน้อยเริ่มมีอารมณ์ร่วมกับเขาก็ตอนที่อีริคใกล้เสร็จสม เขาไม่สนใจเสียงครางคนโปรด เร่งกระเด้าเอวสอบเข้าออกอย่างหนักหน่วงและในที่สุดก็ถึงฝั่งฝัน ชายหนุ่มถอดถอนแก่นกายออกจากช่องทางรักแดงซ่าน และถอดเครื่องป้องกันออก ปล่อยให้ลาวาน้ำรักสีขุ่นพุ่งรดเนินสวาทโล่งเตียนของคนโปรด
"มีดีแค่คราง"
พูดจบก็เดินออกไปจากห้องน้ำ ปล่อยให้ร่างเล็กอ่อนระทวยฟุบลงกับพื้นห้องน้ำเย็นเฉียบ
คนโปรดรวบรวมแรงทั้งหมด พาร่างกายตัวเองเดินไปใต้ฝักบัว เธอเปิดน้ำรดตัวเองจนเปียกปอน แล้วเริ่มขัดถูความอัปยศออกจากร่างกาย พอเสร็จก็เดินออกมาข้างนอก มีชุดใหม่ให้เธอเปลี่ยนวางอยู่บนฟูก ถัดไปเป็นข้าวหนึ่งจานที่ข้างบนเป็นไข่เจียว
เธอหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่ แล้วกินข้าวจนหมดด้วยความหิวโหย ตอนนี้เธอคิดแค่ว่าต้องมีชีวิตรอดเท่านั้น
เสียงเปิดประตูดังขึ้น เธอรีบหันไปมองคนที่เดินเข้ามา
"คะ คุณอีริคไปไหนคะ" คนโปรดถามพาเวลเสียงพร่า เพราะรู้สึกเจ็บเสียดท้องน้อยไม่หาย
"เธอไม่จำเป็นต้องรู้" ลูกน้องหนุ่มยกจานข้าวที่หญิงสาวกินหมดเตรียมเดินออกไปจากห้อง
"ฉันต้องอยู่ที่นี่เหรอคะ"
"อืม" ดีที่เขาหยุดและตอบคำถามเธอ
"..."!
พอตอบคำถามนั้นแล้วพาเวลก็เดินออกไป
ห้องกว้างนี้คงเป็นสนามที่อีริคมีไว้ระเริงรักกับสาว ๆ สินะ และเธอก็คือหนึ่งในหญิงสาวพวกนั้น แต่... "ฉันต้องไม่เหมือนผู้หญิงพวกนั้นที่อีริคเคยได้" แววตามุ่งมั่น
คนโปรดนั่งลงบนฟูกนุ่ม ๆ แล้วเอนตัวนอนลงด้วยความเหนื่อยล้า โดยไม่รู้ตัวเลยว่าในห้องนั้นถูกจับตาดูความเคลื่อนไหวตลอดเวลา
อีริคแสยะยิ้มมุมปากด้วยความพอใจ
"เลี้ยงไว้เอาเล่น ๆ ก็น่าสนใจดี" มุมปากหยักยกยิ้มอย่างนึกสนุก
"แล้วนายจะเอายังไงกับไอ้ธวัตรครับ"
"ล่าตัวมันมาให้ฉัน จับเป็นเท่านั้น"
"ครับนาย" ลูกน้องหนุ่มรับคำสั่ง "อีกหนึ่งอาทิตย์คุณซินซินก็กลับจากต่างประเทศแล้ว นายให้ผมเตรียมของขวัญไปรับเธอไหมครับ"
"ไม่ต้อง เดี๋ยวไปรับเอง"
"ครับนาย"
ตอนพิเศษ 3 จบตอนจากเด็กน้อยแบเบาะในวันนั้น ตอนนี้น้องกันต์มีอายุครบสาวขวบพอดี เด็กชายในชุดเอื้อมยีนเดินไปหาพ่อตัวเองด้วยรอยยิ้มสดใส ในมือถือของเล่นที่เตรียมมาเล่นกับพ่อด้วย“ป๊า น้องกันต์อยากได้ของเล่นอีกครับ” น้ำเสียงและแววตาสดใสจดจ้องใบหน้าของพ่อที่กำลังนั่งทำงานอยู่กับพาเวล อีริคละสายตาจากหน้าลูกน้องมามองลูกชาย เขาอุ้มน้องกันต์ขึ้นมานั่งบนตักแล้วหอมศีรษะไปหนึ่งฟอด“หนูซื้ิอของเล่นเยอะแล้วเล่นหมดไหมครับ”“...” เด็กชายสั่นหน้า“ของเล่นเยอะแยะเลยลูก อันไหนที่หนูไม่เล่นแล้วป๊าขอเอาไปให้น้องได้ไหม น้องไม่มีของเล่น”“น้อง น้องไหนครับ”“ก็น้องที่เขาไม่มีตังค์ซื้อของเล่นครับ น้องอยู่ไกล ๆ เลย”“ได้ครับ”“งั้นน้องกันต์ไปเก็บของเล่นที่น้องกันต์ไม่เล่นแล้วกับลุงพาเวลนะ เดี๋ยวป๊าทำงานเสร็จป๊าไปหา”“ครับ”อีริคพยักหน้าให้พาเวลพาลูกชายเข้าไปในบ้าน ส่วนเราเร่งทำงานให้เสร็จ“อ้าว” คนโปรดถือจานผลไม้สดที่เธอตั้งใจจะเอาออกไปให้สองพ่อลูกที่หน้าบ้านเอ่ยทักเมื่อเห็นลูกกับพาเวลเดินกลับเข้ามาในบ้าน“นายให้มาเก็บของเล่นที่คุณหนูไม่เล่นเอาไปบริจาคให้เด็กบนดอยครับ” พาเวลตอบ“อ๋อ ดีมากเลยค่ะ ของเล่นน้องกันต์
ตอนพิเศษ 2สองเดือนต่อมาเสียงอ้อแอ้ของลูกน้อยช่วยปลุกอีริคให้ตื่นจากการนอนพักสายตาในช่วงกลางวัน เขารีบลุกขึ้นมาดูลูก“พี่ริค” คนโปรดมองใบหน้าคมคายที่แสดงออกถึงความง่วงงุนด้วยความเอ็นดู “นอนต่อเถอะค่ะ โปรดดููลูกได้”“ไม่เอา ฉันหายง่วงแล้ว”“น้องกันต์หนูอย่ากวนป๊าสิลูก ป๊าไม่ได้นอนตั้งหลายคืนแล้วนะครับ”“ป๊ายินดีครับลูก” อีริคเขยิบเข้ามาใกล้แล้วก้มลงไปหอมลูกชายที่กำลังนอนเล่นอยู่บนเบาะ “ตัวหอมจังเลย”“โปรดกับคุณแม่เพิ่งอาบน้ำให้เมื่อกี้เองค่ะ”“ถึงว่าละ ตัวก็หอมหน้าก็ขาว”“หึหึ”“แล้วมีคนมาหาฉันไหม”“ไม่เลยค่ะ พี่ริคนัดใครไว้เหรอคะ”“เปล่าหรอก ช่วงนี้ไม่ได้ออกไปไหนเลย เผื่อมีคนอยากเจอหน้า”“ค่ะ”“น้องกันต์หลานป้า~” เสียงแหลม ๆ ของซินซินดังมาแต่ไกล แต่น้องกันต์กลับไม่ตกใจแถมยังดีดดิ้นและยิ้มร่าเหมือนว่ากำลังรอเธออยู่อย่างไรอย่างนั้น “อ้าว” ซินซินเลิกคิ้วทักทายน้องชายแล้วรีบนั่งลง “วันนี้ป้าซินมีชุดหล่อมาฝากด้วยนะคะ”“ชุดแดง”“ใช่ ใกล้ตรุษจีนแล้วผมอยากเป็นอาตี๋น้อยครับ”“หึหึ แล้วอีกชุดล่ะ”“อีกชุดเหรอ” เธอหยิบออกมาจากถุงกระดาษ ทุกคนขำขันเมื่อได้เห็นชุดเต็ม “ชุดหมูน้อยค่า”“ลูกกูไม่ใช่หม
ตอนพิเศษ 1ห้าวันต่อมาหลังจากออกจากโรงพยาบาลมาอีริคก็ได้พาคนโปรดมาพักฟื้นอยู่ที่บ้านตัวเองโดยมีฮาน่ากับซินซินช่วยดูแลคนโปรดกับน้องกันต์“หลานป้าหล่อจังเลย เห็นหน้ากันกี่ครั้งก็หลง” ซินซินนั่งเฝ้าหลานชายคนแรกอยู่ข้างเบาะนอนสำหรับเด็กทารกที่เธอซื้อมาให้หลานไม่ห่างไปไหนไกล ส่วนฮาน่ากำลังสอนคนโปรดปั้มนมอยู่อีกที่หนึ่ง“คุณท่านคะ เอ่อ...คุณผู้ชายท่านจะโกรธไหมคะ ที่โปรดกับลูกมาอยู่ที่นี่” สิ่งที่เธอเป็นกังวลมาโดยตลอดก็เรื่องพ่อของอีริค ตั้งแต่ท้องจนคลอดเธอก็ไม่เห็นท่านมาที่นี่สักครั้ง และเหมือนว่าอีริคกับพ่อก็ไม่ค่อยถูกกันด้วย“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก เราเพิ่งคลอดลูกอย่าไปเครียดเลย เดี๋ยวน้ำนมจะไม่ไหลเอานะลูก” ฮาน่าปลอบใจคนโปรด อันที่จริงเธอก็เปรย ๆ เรื่องอีริคมีแฟนและแฟนลูกกำลังท้องให้สามีฟังบ้างแล้ว และเมื่อวันก่อนก็เพิ่งส่งรูปน้องกันต์ให้เขาดู แต่ยังไม่มีปฏิกิริยาหรือการตอบกลับจากสามี แต่เธอก็ดูออกว่าสามีนั้นพึงพอใจอยู่บ้างที่หลานคนแรกเป็นผู้ชาย“โปรดกลัวพี่ริคทะเลาะกับคุณท่านอีก”“ไม่หรอก เชื่อแม่”“ค่ะ” คนโปรดมองไปหาน้องกันต์ที่เพิ่งกินนมหลับไป “น้องกันต์กินเก่งมากเลยค่ะ ตอนกลางคืนแ
บทที่ 70 บทส่งท้ายหลังจากกินข้าวเสร็จ ทุกคนก็มารวมกันอยู่ข้างบ้านซึ่งมีระแนงไม้ที่พ่อเลี้ยงปูเอาไว้ และสั่งเก้าอี้มาไว้สำหรับนั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า จิบกาแฟไปด้วย“เอาอีกไหม”อีริคส่ายหน้าปฏิเสธเมื่อพ่อเลี้ยงยื่นขวดไวน์มาทางเขาหมายจะรินให้เขาอีก“กินเยอะก็ปวดหัว”"ปกติไม่ปฏิเสธนี่"“ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอวะ มึงก็อย่าไปคะยั้นคะยอให้มันกิน” ชรัณเอ่ยอย่างยิ้ม ๆ เมื่อก่อนจำได้ว่าเคยดื่มด้วยกันจนเข้าเรียนไม่ทัน มัวแต่อ้วกกับเมาค้างจนอาจารย์ให้ทำงานเก็บคะแนนย้อนหลังกันทั้งสามคน“ถ้าเมียมึงง่วงแล้วก็พาไปนอนได้นะเว้ย”“ง่วงยัง” อีริคเอ่ยถามคนข้างกาย แต่พอมองตาเธอแล้วยังตาแป๋วอยู่เลย “ไม่ตอบก็พอจะรู้”“โปรดขอนั่งอยู่อีกนิดนะคะ ยังสนุกอยู่เลย ชอบฟังพี่ ๆ เล่าความหลังสมัยเรียน สนุกดีค่ะ”“เดี๋ยวพี่จะเล่าให้ฟังว่าไอ้ริคมันแสบมากแค่ไหน” ชรัณเลิกคิ้วท้าทายอีริค“ปรานีกูด้วยครับ”“หึหึ” พ่อเลี้ยงหัวเราะขบขัน “สมัยก่อนก็ต่างคนต่างห้าวแหละ ไม่มีใครยอมใคร”“ยังไงเหรอคะ”“อ้าว ไหนบอกจะไม่เผาเพื่อนไง” ชรัณเลิกคิ้วถามองศาที่จู่ ๆ ก็เปิดประเด็นขึ้นมาซะอย่างนั้น“นิดหนึ่ง”“อา เล่าเลยงั้น”“เมื่อก่อนเคยไ
บทที่ 69 ความสุข“ที่ของมึงกูให้คนไปดูแล้วนะ เห็นช่างกำลังขนของมาลงกันเยอะเลย อีกไม่นานคงได้ลงเสาเข็ม” พ่อเลี้ยงเอ่ยขึ้นระหว่างขับรถเข้ามาในทางที่ตรงไปยังไร่ปาริฉัตร“ขอบใจ” อีริคกล่าวสั้น ๆ“ไม่เป็นไร ถือว่าช่วยกัน แล้วนี่เธอจะมาอยู่นานไหม” คราวนี้เขามองหน้าคนโปรด “เพราะถ้ามาอยู่นานฉันจะให้แม่บ้านและคนของฉันพาเที่ยว หลังไร่มีน้ำตกด้วย เผื่อสนใจอยากเล่นน้ำคลายร้อน”“ดีจังเลยค่ะ”“ถ้าอยากไปก็บอก จะได้ให้คนพาไป เพราะทางมันค่อนข้างรกและไปยากนิดหน่อย”“เราไปกันนะ” คนโปรดหันมามองหน้าคนรัก อีริคพยักหน้าตอบเบา ๆ แล้วมองไปโดยรอบ“อยากได้ที่สวย ๆ แบบนี้อีก มีอีกไหม” อีริคเอ่ยถามเพื่อนทั้งสองคน ชรัณทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยตอบ“ก็พอมีนะ มึงอยากได้ติดเขาไหมล่ะ หรืออยากได้ติดลำธารดี”“อยากได้ทั้งสองที่เลย”“เอาว่ะ เออ ๆ เดี๋ยวจะหาดูให้ ชาวบ้านแถวนี้เอาที่ดินมาเสนอขายกูเยอะอยู่ ร้อนเงินกันทั้งนั้น ส่งลูกเรียนน่ะ”“อืม”“เสียสละมากเลยนะคะ ขายที่เพื่อเอาเงินส่งลูกเรียน”“อืม แต่ลูกเหี้ยก็ไม่ไหวนะ” ชรัณยกยิ้ม“ถ้าเป็นแบบนั้นคงน่าเสียใจแทนพ่อแม่ค่ะ โปรดเองก็อยากทำให้พวกท่านภูมิใจบ้างสักครั้ง
บทที่ 68 พักผ่อนวันต่อมาหญิงสาวตื่นขึ้นมาในเช้าที่สดใส บรรยากาศที่สนามม้าด้านนอกมีไอหมอกสีขาวปกคลุมไปทั่ว แถมอากาศยังเย็นฉ่ำสบายจนอีริคไม่ยอมตื่น“ตื่นได้แล้วค่ะ” เธอโน้มใบหน้าลงไปหอมแก้มสากสองฟอดเพื่อเป็นการปลุกอีริคให้ตื่น ทว่าชายหนุ่มกลับเบือนหน้าหนีสัมผัสแล้วเอามือมาปิดหน้าไว้ “ขี้เซาจัง”“ให้ฉันนอนเต็มอิ่มบ้าง ไม่ได้นอนหลับสบายแบบนี้มานานมากแล้ว” อีริคพึมพำอยู่ใต้ผ้าห่ม เมื่อได้ฟังแบบนั้นคนโปรดจึงไม่เซ้าซี้เขา เธอก้าวลงจากเตียงแล้วเดินไปเอาผ้าคลุมไหล่มาคลุม จากนั้นก็เดินออกไปข้างนอก“ตื่นแล้วเหรอ” พาเวลกำลังก่อกองไฟอยู่พอดี เขาส่งยิ้มทักทายคนโปรด “ดื่มนมอุ่นหน่อยไหม”“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้สนามพร้อมกับรับแก้วนมอุ่นมาดื่ม “นมอุ่นนี่อร่อยมากเลยค่ะ”“อืม...แล้วนายยังไม่ตื่นเหรอ”“ยังค่ะ เห็นว่าอยากนอนอีกสักพัก”“อืม สงสัยคงเหนื่อยมาก ทำงานหนักมาหลายวัน”“ครับ”“พี่พาเวลล่ะคะ ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง” เมื่อมีโอกาสได้อยู่กับพาเวลสองต่อสอง เธอจึงถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเขาบ้าง“ก็ดี ช่วงนี้ทำงานหนักหน่อยแต่ก็มีความสุข”“เห็นพี่มีความสุขกับการทำงานโปรดก็ดีใจค่ะ”“แล้วจะไปเชีย