“ก็ยังจำชื่อว่าที่ผัวคนนี้ได้”
เจียร์อึดอัดเมื่อได้ยินคำพูดไม่คาดคิดจากร่างสูงที่เดินเข้ามาทักทายด้วยท่าทางที่สนิทสนม เธอพยายามไม่แสดงอารมณ์ออกมาถึงแม้จะรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดนั้น ตั้งใจจะหลีกเลี่ยงแต่การที่เขารู้กระทั่งที่ทำงานทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัย
“มาที่นี่ทำไมคะ” ถามด้วยความสงสัยปนความกังวลแทรกอยู่ในคำพูด ขณะเดียวกันเจียร์ถอยหลังอัตโนมัติ แต่ร่างสูงกลับก้าวตามมาติด ๆ แขนแกร่งคว้าโอบเอวบางเข้ามาแนบชิดร่างกายเพราะรำคาญที่ร่างเล็กเอาแต่ถอยหนีราวกับเขาเป็นตัวอะไรที่ไม่ควรเข้าใกล้
“เห็นเธอเงียบฉันนึกว่าหนีไปแล้วก็เลยตามมาดู” สายตาคมฉายแววความเย็นชาจ้องมองใบหน้าสวยครู่หนึ่งแล้วโน้มลงใกล้ๆ ก่อนจะพูดประโยคถัดไป
“จะมัวมาทำงานที่ได้แค่เศษเงินจ่ายห้องเช่าเท่ารูหนูนั่นทำไม”
คำพูดของเขาไม่ได้ดังแต่ทุกคำชัดเจนและกรีดลึกลงไปในใจ ทำให้ร่างเล็กค่อยๆ เม้มริมฝีปากเพราะไม่คิดว่าผู้ชายที่หน้าตาดูดีเวลาพูดจะไม่น่าฟังมากขนาดนี้
“เจียร์ไม่ได้หนี…” เสียงใสตอบพลางกัดริมฝีปาก พยายามข่มความรู้สึกที่แล่นพล่านอยู่ในอก “แค่ต้องการเวลาคิด”
ภายในใจราวกับถูกคลื่นความรู้สึกถาโถมเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง ดวงตาคู่สวยเบี่ยงออกไปเพื่อเลี่ยงการปะทะกับสายตาคู่นั้น ความอึดอัดที่เกิดขึ้นทำให้ต้องกลั้นหายใจ
“ฉันให้เวลาเธอเตรียมตัว” ล่าโน้มหน้าเข้ามาใกล้จนลมหายใจอุ่นๆ กระทบแก้มของร่างเล็กที่สั่นเทาในอ้อมแขน พลางพูดเสียงกระซิบ “ไม่ได้ให้เวลาคิด”
มือหนายกขึ้นสัมผัสกรอบหน้าสวยรูปไข่ ก่อนจะลดสายตาต่ำลงมองกลีบปากบางใช้นิ้วกดลูบเบาๆ
“เริ่มทำหน้าที่ของเธอได้แล้วคนสวย”
“น้องเจียครับ ไปกัน”
เสียงทุ้มจากเจ้าของร้านดังขึ้นทำลายบรรยากาศอึดอัดที่ปกคลุม เจียร์สะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะรีบยกมือผลักตัวเองออกจากอกแกร่งทันที เรียวขาก้าวถอยหลังหนึ่งก้าวพยายามเว้นระยะห่างระหว่างตัวเองกับชายหนุ่มให้มากที่สุด แต่กลับรู้สึกว่าสายตาคมยังคงจับจ้องมองอย่างไม่ลดละ
สถานการณ์ที่วุ่นวายอยู่แล้วกลับแย่ลงไปอีกเมื่อ ตะวัน เดินเข้ามาประจันหน้ากับ ล่า
“ถ้าจะมาดื่มเชิญที่โต๊ะนะครับ”
“ร้านเล็กๆ แบบนี้ผมไม่เสียเวลามานั่งดื่มหรอกครับ”
“ครับ?”
“พอดีเหล้าราคาถูก…มันไม่ค่อยถูกปาก”
เจียร์มองคนตัวสูงที่พ่นคำหาเรื่องออกมาด้วยความตกใจอย่างไม่คาดคิดว่าเขาจะกล้าถึงขนาดนี้ มือเล็กคว้าไปจับรั้งแขนแกร่งเพื่อพาเดินออกไปด้านนอกร้าน ท่ามกลางสายตาของผู้คนสนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จริงอยู่ที่บาร์หนึ่งเก้าเป็นร้านเล็กๆ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาละแวกนี้ ถึงอย่างไรเธอก็มองว่าเขาไม่ควรพ่นคำดูถูกต่อหน้าคนอื่นแบบนั้น
“ทำไมต้องพูดจาแบบนั้นด้วยคะ” เสียงใสเอ่ยถามคนตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง เป็นที่รู้กันว่าคนตัวเล็กไม่ใช่คนที่โกรธง่าย แต่เมื่ออยู่กับผู้ชายคนนี้อารมณ์ของเธอมักจะถูกท้าทาย บางครั้งเจียร์ก็สงสัยว่าทำไมเขาถึงมีความสามารถในการทำให้เธอรู้สึกแย่แบบนี้
“มีปัญหาอะไร?”
สายตาคมดุดันทำให้ร่างเล็กที่กำลังจะอ้าปากเถียงถึงกับต้องเงียบไม่กล้าพูดอะไรต่อ ลมหายใจเริ่มติดขัดเมื่อคนตัวสูงโน้มลงมาใกล้แบบไม่ให้ได้ตั้งตัว
“จะยืนคุยตรงนี้หรือจะขึ้นไปคุยบนรถ”
“คุย…ในรถค่ะ”
เจียร์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ พร้อมก้าวขาเดินตรงไปหารถสีดำคันหรูที่จอดเบื้องหน้า ด้วยหัวใจดวงน้อยที่เต้นรัวราวกับจะหลุดออกมาจากอก ใบหน้าสวยก้มเดินโดยไม่มองใครถึงแม้ในตอนนี้ทุกคนจะต่างให้ความสนใจเมื่อเห็นว่าเธอกำลังก้าวขาขึ้นรถราคาแพงหลายสิบล้าน
ภายในรถบรรยากาศชวนอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก ไฟในรถหรี่ลงพอให้เห็นหน้ากันลางๆ กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ จากคนตรงเบาะข้างๆ ลอยมากระทบจมูกของร่างเล็ก มันเป็นกลิ่นที่หรูหราแต่กลับทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ
“ไอ้เจ้าของร้านมันดูห่วงเธอมากเลยนะ” โน้มตัวเข้าไปใกล้พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม ร่างบางสะดุ้งกับเสียงทักเผลอหันหน้ามาทันที ก่อนจะพบว่าใบหน้าของเขาอยู่ใกล้เกินไปจนปลายจมูกแทบแตะกัน ความตื่นตระหนกทำให้เจียร์รีบเอนตัวหนีอย่างลนลาน ไม่ทันระวังจนศีรษะกระแทกเข้ากับประตูรถดัง ปึก พร้อมร้องออกมาด้วยความเจ็บ
“โอ๊ย!” มือเล็กยกขึ้นจับคลำบนศีรษะของตัวเองแล้วก้มหลบสายตาคมเพราะความอาย
รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏบนใบหน้าไร้อารมณ์ ก่อนที่ล่าจะเอื้อมมือไปทางเบาะหลัง เพื่อหยิบเอาบางอย่างมาวางบนตักของเธอ
“อ่านแล้วเซ็นซะ”
ดวงตากลมก้มมองแผ่นสีขาวที่ถูกนำมาวางบนตัก เจียร์นิ่งไปครู่หนึ่งแล้วหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาด้วยความรู้สึกปะปนความหวาดระแวง พลางอ่านเนื้อหาทีละบรรทัด หัวใจดวงน้อยเหมือนถูกบีบคั้นทุกครั้งที่ดวงตาไล่ไปตามตัวอักษร ราวกับมันเป็นโซ่ตรวนที่พันธนาการเธอไว้
เสียงแอร์ในรถเป็นเพียงสิ่งเดียวที่พอจะได้ยินภายใต้ความเงียบ ก่อนจะมีเสียงหัวเราะเบาๆ ในลำคอของล่าดังขึ้นราวกับตอกย้ำว่าเธอไร้หนทางหนี
เธอกำลังตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ที่ไม่ได้เลือกเอง
กระดาษในมือเขียนไว้ชัดเจนว่าตอนนี้เธออยู่ในสถานะของเดิมพันโดยกำหนดระยะเวลาหนึ่งปี ระหว่างนั้นเขามีสิทธิ์ในตัวเธอทุกอย่างและไม่มีสิทธิ์ขอจบสัญญาจนกว่าจะครบกำหนด
ล่านั่งเอนหลังด้วยท่าทางสบายๆ แต่สายตาคมจับจ้องร่างเล็กอย่างไม่ลดละ รอยยิ้มมุมปากชวนให้รู้สึกเหมือนเขาเป็นนักล่าที่กำลังรอคอยเหยื่อ
ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองเจ้าของสายตาเย็นชา ก่อนกลั้นใจถามเสียงแผ่วเบา “ได้เงินไหมคะ”
“หืม?”
“ระยะเวลาหนึ่งปีที่เจียร์อยู่ในสถานะของเดิมพัน จะได้ค่าตอบแทนหรือเปล่า” เพราะรู้ว่าไม่สามารถเลี่ยงได้ในเมื่อต้องตกมาอยู่ในสถานะที่ตกต่ำอย่างนี้แล้วเจียร์คิดว่าคงไม่เสียหายอะไรถ้าจะเรียกร้องเงินเป็นค่าตอบแทน
“เป็นแค่ของเดิมพันแต่กลับเรียกร้อง?” หัวคิ้วหนาทำเชิงเลิกขึ้นราวกับไม่เข้าใจ ในสายตาของล่าเจียร์ไม่ต่างอะไรกับเหยื่อตัวเล็กที่กำลังดิ้นรนในกับดัก เขาไม่ได้รู้สึกเสียใจกับการกระทำของตัวเอง ตรงกันข้าม เขากำลังสนุกกับการควบคุมเกมในตอนนี้
“อ่า! แต่สำหรับเธอฉันจะให้เป็นกรณีพิเศษ ขึ้นอยู่กับความสามารถว่าจะทำให้พอใจขนาดไหน”
บรรยากาศในรถเต็มไปด้วยแรงกดดัน ราวกับทุกสิ่งรอบตัวเงียบสงัดเพื่อเน้นย้ำความตึงเครียดระหว่างคนสองคน ไฟถนนที่ส่องลอดกระจกเข้ามาทำให้เงาของล่าชัดเจนและน่ากลัวมากขึ้น
ร่างบางหยุดคิดมากมายในหัว ทำใจยอมรับกับชะตาที่ต้องเจอไม่สามารถเลี่ยงได้ เธอเผลอกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ปลายนิ้วที่เอื้อมไปจับด้ามปากกานั้นสั่นระริก
ทว่าในจังหวะที่ต้องเขียนชื่อก็หยุดชะงัก เหมือนมีบางอย่างรั้งไว้ แต่เพียงไม่นานก็จิ้มน้ำหมึกบนปลายปากกาเขียนชื่อของตัวเองลงไปในกระดาษแผ่นสีขาว
“เซ็นแล้วค่ะ” ใบหน้าสวยเงยขึ้นพร้อมยื่นกระดาษที่เพิ่งเซ็นเสร็จหมาดๆ ให้คนตรงหน้า มือหนาคว้าเอาแผ่นสัญญานั้น ก่อนที่ล่าจะเอาปลายนิ้วแตะคางมนดันให้เธอเงยหน้าขึ้นมา
“ขึ้นชื่อว่าของเดิมพันแปลว่าเธอคือสมบัตรของฉัน”
“…รู้แล้วค่ะ”
“เลิกทำงานซะ ต่อไปนี้หน้าที่ของเธอมีแค่ไปเรียนแล้วกลับมารอฉันที่ห้อง”
กำปั้นเล็กกำแน่นก่อนจะตอบออกไปอย่างจำใจ
“ค่ะ…มีอะไรอีกไหมคะ”
“จะเริ่มเมื่อไร”
“พี่ล่าบอกว่าให้เวลา….” พูดไม่ทันจบประโยคเจียร์ก็ต้องก้มหลบ เมื่อถูกสายตาคมจ้องเขม็งอย่างไม่พอใจ เธองุนงงไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายต้องทำราวกับโกรธทั้งที่เป็นคนพูดออกมาเอง
“เธอเอาแต่หนีอย่างนี้ฉันไม่ต้องรอนานเป็นปีเลยรึไง” เสียงทุ้มใส่อารมณ์หงุดหงิดลงไปในน้ำเสียงตวาดกระแทกใส่ ทำให้คนตัวเล็กสะดุ้งสั่นกลัว “เงยหน้าขึ้นมา”
เจียร์ค่อยๆ ขยับหน้าขึ้นมองเจ้าของคำสั่ง “เธอได้ทำตามที่ฉันบอกหรือเปล่า”
“ทะ…ทำอะไรคะ” คำตอบนั้นทำให้ล่าที่ได้ยินยิ่งไม่สบอารมณ์ไปกันใหญ่ เขาพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ เพื่อข่มความโกรธแล้วถามต่อด้วยเสียงเย็นชา
“เวลาอยู่บนเตียงกับผู้ชายต้องทำยังไง”
“….ค่ะ” มือเล็กกำแน่นพลางเม้มปากหลบสายตา ความจริงเจียร์ไม่ได้เรียนรู้เรื่องน่าอายพวกนั้นเลยแม้แต่น้อย เธอโกหกเพื่อให้ตัวเองรอดจากการคาดคั้น
“หวังว่าเธอจะไม่โกหก” สายตาคมมองใบหน้าหวานของร่างเล็กครู่หนึ่ง “ลงไปจากรถ”
เจียร์พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะรีบหันไปเปิดประตูรถ แต่กลับถูกดึงรั้งแขนอย่างแรง จนเซมากระแทกอกแกร่ง เธอสะดุ้งดวงตากลมโตเบิกกว้าง พยายามดึงแขนตัวเองออก
“อย่าลืม… เธอไม่มีสิทธิ์หนีไปไหนอีกแล้ว”
หลังคำพูดนั้น จู่ๆ ก็โน้มลงประกบริมฝีปากหยักกดจูบโดยไม่ให้ตั้งตัว ร่างเล็กพยายามดิ้นหนี ร้องประท้วงในลำคอ แต่แรงอีกฝ่ายมากเกินจะสู้ไหวทำให้เธอหยุดนิ่งในที่สุด ปล่อยให้น้ำตาคลอด้วยความคับแค้น
ล่าผละออกช้าๆ ใช้ปลายนิ้วลูบบนกลีบปากอวบอิ่มเบาๆ พลางยิ้มเจ้าเล่ห์
“เก็บแรงไว้นะเด็กดี…ฉันคงต้องใช้เวลาสอนเธออีกเยอะ”
ได้ยินคำพูดนั้นทำให้เจียร์ค่อยๆ เม้มริมฝีปากแน่นอีกครั้ง ภายในใจราวกับถูกพายุลูกใหญ่สาดซัดถาโถม เธอกำลังรู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าสู่เกมที่ไม่เคยคิดจะเล่นตั้งแต่แรก
“อย่าให้รอนานนัก เธอคงไม่อยากเห็นตอนที่ฉันหมดความอดทนหรอกใช่ไหม”
เจ้าของร่างเล็กไม่ตอบรีบเบือนหน้าหนีและเปิดประตูลงจากรถทันที ขณะที่ล่านั่งมองพลางยิ้มมุมปากด้วยแววตาเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด