“เบย์” เสียงวาวาเอ่ยเรียกฉันโทนเสียงดังกว่าปกติทำเอาฉันชะงักหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทของตัวเอง ขณะที่เราสองคนกำลังเดินออกจากห้องเรียน
“อ้อ ว่าไง”
“เป็นอะไรหรือเปล่า เมื่อกี้เรียกตั้งนาน” วาวามองหน้าถามฉันตาใส ซึ่งฉันที่ได้ยินแบบนั้นก็นิ่ง
“ไม่มีอะไรนี่” ฉันตอบกลับและยังคงพยายามทำตัวเป็นปกติ ทว่าในตอนนั้นเอง กลับได้ยินเสียงทุ้มของกลุ่มชายคนหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล
“เดี๋ยวพวกกูไปร้านเดิมต่อ มึงจะไปไหม ไอ้ลีโอ” ฉันนิ่งไปในทันทีอย่างรู้ทุกอย่างอยู่คนเดียวในใจ และคิดว่ารุ่นพี่คนนั้นคงจะจำอะไรไม่ได้…ซึ่งก็ดีแล้วแหละ
อย่าให้เขา…จำอะไรได้เลย
ฉันได้แต่ภาวนาอยู่ในใจซ้ำ ๆ อยู่แบบนั้น ก่อนจะตัดสินใจหันมองยังเพื่อนตัวเล็กที่ยืนอยู่ด้านข้าง โดยวาวาก็ยืนจ้องมองพี่คนนั้นที่ยืนอยู่ด้วยแววตาดูมีความชื่นชมบอกไม่ถูก
“รู้จักเหรอ” ฉันอดไม่ได้ที่จะถาม เพราะรู้สึกแปลก ๆ มาตั้งแต่ในห้องเรียนแล้ว
“พี่ลีโอน่ะเหรอ”
“อืม เห็นเธอดูเหมือนรู้จักกับเขามาก่อน”
“เปล่าหรอก เราไม่ได้รู้จักกันมาก่อนหรอก แต่พี่เขาเคยช่วยฉันไว้น่ะ”
“ช่วยเหรอ”
“อื้ม พอดีวันนั้นฉันเกือบโดนรถมอเตอร์ไซค์ขับเฉี่ยวน่ะ…”
“ว่าไงนะ!” ฉันเผลอหลุดโฟกัสไปในทันทีที่วาวาพูดจบ
เอาอีกแล้ว ซุ่มซ่ามไม่ทันระวังอีกแล้ว
“อย่าทำหน้าแบบนั้นใส่สิ”
“ก็เธอชอบเป็นแบบนี้”
“ขอโทษ” คนตัวเล็กทำตาแป๋วมองหน้าฉันด้วยท่าทีมีความรู้สึกผิด ฉันที่เห็นจึงได้แต่ถอนหายใจออกมา
“เฮ้อ คราวหลังต้องคอยระวังตัวให้ดีนะ รู้ไหม”
“โอเค ฉันจะระวังตัวให้ดีเลย~” วาวาเอ่ยบอกฉันเสียงใส ก่อนจะพูดต่อ
“แต่ก็เท่านั้นแหละ เพราะพี่เขาช่วยไว้ ก็เลยรู้สึกดีใจที่ได้เจอพี่เขาอีกครั้ง” เจ้าของใบหน้าเรียวใสเอ่ยบอกฉันด้วยรอยยิ้มหวานตาหยีอย่างที่มักจะชอบทำเป็นประจำ ซึ่งฉันก็พยักหน้ารับรู้ด้วยความโล่งใจอยู่พอสมควรที่สองคนไม่ได้รู้จักกันมาก่อน คงอาจจะเพราะในตอนนี้ ฉันก็เหมือนมีชนักอะไรบางอย่างติดหลังอยู่ ในตอนนั้นเอง เสียงโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้นมา
แม่
“แป๊บนะ” ฉันเอ่ยบอกวาวาที่ยืนอยู่พร้อมกับไม่รอช้าที่จะกดรับสายจากคุณนายแม่
“ม้าว่าไง…”
(อยู่ไหน รีบกลับบ้านหน่อย)
“ทำไมอีก”
(มาช่วยเฝ้าร้านหน่อย)
“โห่ อะไรอีกอะม้า…”
(อย่าพูดมาก รีบกลับมา) สิ้นเสียงแม่ฉันเอ่ยบอก ปลายสายก็กดตัดสายไปในทันทีโดยที่ไม่คิดฟังเสียงครวญครางของฉันแม้แต่น้อย
ให้ตายเถอะ!
ตั้งแต่พี่สาวฉันไปทำงาน ก็แทบไม่มีใครมาคอยช่วยฉันเฝ้าร้านค้าที่บ้านตัวเองเลย
“เซ็ง!!” ฉันเอ่ยออกมาตามประสาอย่างที่มักจะคอยทำอยู่เป็นประจำ ซึ่งวาวาที่เห็นก็พอนึกรู้ได้จากท่าทีของฉัน
“งั้นฉันกลับก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้” พูดจบ ฉันก็เดินออกไปในทันทีเพราะฉันก็ทำเป็นบ่นไปแบบนั้น สุดท้ายฉันก็พร้อมกลับไปช่วยที่บ้านอยู่ดี
วันต่อมา…
@มหาวิทยาลัยเอช
ขณะที่เลิกเรียน
เสียงโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้น ฉันที่นั่งอยู่จึงเอื้อมมือลงไปหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมามองดู ก่อนจะเห็นเป็นชื่อของพี่แตมป์ที่โทรเข้ามา
“ว่าไงพี่แตมป์” ฉันไม่รอช้าที่จะกดรับสายทักทายรุ่นพี่คนสนิท โดยที่วาวาที่นั่งอยู่ด้านข้างก็จ้องมองตาแป๋ว
(เลิกเรียนยัง ว่างอยู่หรือเปล่า มาหาฉันสักแป๊บสิ)
"ตอนนี้เหรอพี่ ได้ ๆ”
(อยู่คณะบริหารนะ)
"โอเค ตึกเรียนพี่ใช่ไหม"
(อืม)
"ได้เลยพี่ เลิกเรียนพอดี แต่คุยไม่นานใช่ไหมอะ วาวามีทำงานต่อ"
(ไม่นาน ๆ ก็เรื่องกลุ่มจิตอาสานั่นแหละ)
"โอเค" สิ้นเสียงเบย์ตอบกลับ นิ้วเรียวก็กดวางสายหันไปพูดคุยกับเพื่อนตัวเล็กที่นั่งอยู่ในทันที
"พี่แตมป์โทรมาเรื่องจิตอาสากลุ่มย่อย" หลังจากกลับไปอาจารย์ดาวก็ได้ส่งข้อความเข้ามาถึงคะแนนเก็บกลุ่มย่อยที่ทุกคนจะต้องออกไปทำมาส่งในกลุ่มไลน์ใหญ่ โดยแน่นอนว่า ในกลุ่มก็มีฉัน วาวา พี่แตมป์ พี่นิว พี่นาย แล้วก็…พี่คนนั้น ในตอนนี้ ซึ่งหลังจากที่พี่แตมป์สรุปจำนวนสมาชิกหลักมาแบบนั้น ฉันก็ได้แต่ถอนหายใจซ้ำ ๆ ออกมากับความซวยของตัวเองที่ไม่ว่าจะไม่อยากพบเจอแค่ไหน แต่สุดท้าย…ก็ยังต้องเจอกับเขาอยู่ดี
"อ๋อ ที่เราอยู่กลุ่มเดียวกับพี่เขาใช่ไหม" วาวาถาม ทำให้ฉันได้สติหันไปมองหน้าถามเพื่อนตัวเล็กของตัวเอง
"ใช่ ๆ พี่เขาเรียกไปคุยเรื่องนี้อะ ไม่นานหรอก เธอสะดวกไหม ถ้าไม่ เดี๋ยวฉัน..."
"ไปสิ อีกตั้งเกือบชั่วโมงกว่าจะเข้างาน" วาวายิ้มตอบกลับมาตาหยีตามประสา ทำให้ฉันที่ได้ยินจึงค่อย ๆ พยักหน้ารับรู้
"โอเค งั้นไปกัน" ว่าแล้ว เราสองคนก็พากันเดินตรงไปยังใต้ตึกคณะบริหารตามที่พี่แตมป์บอก ทว่าคนที่ยืนอยู่กลับไม่ได้มีเพียงแค่กลุ่มรุ่นพี่คณะบริหาร แต่กลับมีพี่มาร์คัส พี่ตงตง แล้วก็พี่ธามยืนอยู่ด้วย ทำให้พี่แตมป์ที่เห็นพวกฉันรีบเอ่ยบอก
"เอ่อ...กลุ่มธามจะมาอยู่กลุ่มเดียวกับเรานะคะน้อง ๆ” สิ้นเสียงพี่แตมป์เอ่ย ฉันก็พยักหน้าตอบกลับไปด้วยความไม่ได้อะไร ทว่ากลับรับรู้ได้ถึงสายตาของรุ่นพี่คนนั้นที่เหลือบมองยังวาวาอยู่บ่อยครั้ง กระทั่ง…
"งั้นเอาตามนี้นะคะ จิตอาสาของพวกเราก็คือจะไปช่วยกันดูแลน้อง ๆ ผู้พิการทางด้านการมองเห็นที่มูลนิธิคนตาบอด" เสียงพี่แตมป์สรุปเกี่ยวกับจิตอาสาที่พวกฉันจะต้องไปทำ โดยพี่ลีโอที่ได้ยินก็พยักหน้าตอบกลับ
"อืม ตามนี้แหละ" ก่อนที่ดวงตาคมของเขาจะเหลือบมองยังเพื่อนสนิทของฉันอีกครั้งพร้อมกับเอ่ย
"อะไรติดผมเราอยู่" พูดจบ นิ้วแกร่งก็ค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาหยิบเศษกระดาษที่ติดผมของวาวาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ออก ทำเอาทุกคนที่ยืนอยู่ต่างชะงักไป ซึ่งฉันเองก็เช่นกัน…
แต่แล้วในตอนนั้นเอง
ปึง! เสียงอะไรบางอย่างถูกกระแทกลงบนโต๊ะอย่างแรงทำเอาทุกคนสะดุ้งหันไปมองตามเสียงก่อนจะเห็นว่ามันคือเอกสารการเรียนที่ถูกมือหนาของพี่ธามกระแทกลงอย่างแรง
"..." พี่เขาก็นิ่งไม่พูดอะไรแต่ดวงตาคมของเขานั้นกลับจ้องมองไปยังการกระทำของพี่ลีโออย่างไม่คิดปกปิดอารมณ์ฉุนเฉียวของตัวเอง และความเงียบงันที่เข้ามาปกคลุมยังบริเวณที่พวกเรายืนกันอยู่ บรรยากาศมันชวนอึดอัดบอกไม่ถูก ทว่าฉันเองก็อดไม่ได้ที่จะลอบมองยังท่าทีของพี่ลีโอคนนั้นที่ดูจะใส่ใจวาวาเป็นพิเศษ จนกระทั่ง…
“อีวาวา!” เสียงใครบางคนเดินตะโกนตรงเข้ามายังวาวาที่ยืนอยู่พร้อมกับกระชากเรียวแขนเล็กเข้าหาตัวอย่างแรงโดยที่ทุกคนไม่ทันได้ตั้งตัว รวมถึงฉัน โดยคนที่มาใหม่ก็คือ โบว์วี่ อดีตรูมเมตนิสัยไม่ดีของวาวาที่ลับหลังยัยนี่ แฟนของเธอมักจะคอยคุกคามวาวาอยู่เสมอ จนฉันกับพี่แตมป์ช่วยกันพาวาวาย้ายออกมาจากห้องพักนั้น
"อะ...อะไรกันโบว์วี่" วาวาถามเสียงหลงตกใจ
"มึงให้ผัวมึงมากระทืบผัวกูทำไม!" ปากเล็กสีแดงสดตะคอกถามขึ้นน้ำเสียงโกรธจัดเอาเรื่อง
ผัววาวางั้นเหรอ? นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน
"ฮ...ฮะ" เสียงวาวาถามสีหน้างุนงงไม่ต่างกับฉัน โบว์วี่ที่เห็นจึงยิ่งแสดงท่าทีโกรธจัดออกมา
"ใสซื่ออีกแล้วเหรอ..." พูดจบ โบว์วี่ก็จัดการหยิบแก้วน้ำที่อยู่ไม่ไกลสาดเข้าใส่ใบหน้าวาวาเข้าอย่างจังพร้อมกับยกมือขึ้นหมายจะฟาดลงยังใบหน้าเล็ก ฉันที่ได้สติจึงทำท่าจะสาวเท้าเดินเข้าไปปกป้องเพื่อนสนิทตัวเอง แต่กลับไม่ทัน…
หมับ!
เสียงพี่ธามที่ยืนอยู่เดินตรงเข้าไปกระชากบีบข้อมือของโบว์วี่เอาไว้ด้วยสีหน้าเรียบนิ่งพลางกดเสียงต่ำเอ่ยบอก
"ออกไปซะ" ก่อนจะกระชากพาร่างของโบว์วี่เดินออกไปพูดคุยด้วยท่าทีชวนขนลุกบอกไม่ถูก พี่เขาดูโกรธ…น่ากลัวเอาเรื่องเลยนะ
แต่ว่า…ทำไมถึงได้ดูโกรธขนาดนั้น?
ขณะที่ฉันกำลังยืนงงด้วยความรู้สึกสงสัย
“เปียกหมดแล้ว” เสียงทุ้มของพี่ลีโอดังขึ้นทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะหันมอง ก่อนจะเห็นคนตัวสูงค่อย ๆ ถอดเสื้อคลุมตัวนอกของตัวเองออกเพื่อนำเข้าไปคลุมที่ร่างของวาวาพร้อมกับส่งยิ้มบาง ๆ ยกมือขึ้นไปโยกเข้าที่หัวเล็กของวาวาแววตามีความใจดีอ่อนโยน ซึ่งวาวาที่เสียขวัญในตอนแรกก็ชะงักหันมองยังพี่เขา ก่อนที่รอยยิ้มหวานความกลัวลดลงจะค่อย ๆ ฉายออกมา ฉันเองจึงได้แต่นิ่งมองดูท่าทีของเพื่อนสนิทกับรุ่นพี่คนนั้น…