“อืม ไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้ ฉันจัดการได้”
“ครับ ผมคงต้องอยู่นี่นานหน่อย ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรก็โทรมาเลยนะผมจะได้ขึ้นไป”
“อืม พ่อของแกน่ะ ยกโทษให้ได้แล้ว แกลงโทษเขามานานมากพอแล้วนะไรอัน”
“มันก็นานพอกับที่ผมลงโทษตัวเอง งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ ผมต้องจัดการอีกหลายอย่าง ไว้เดี๋ยวผมจะโทรหาอีกที”
ไรอันกดวางสายทันทีที่พูดจบเมื่อไม่อยากฟังที่จอห์นบ่น ก่อนจะหันมาหาหาเตชิน ที่พาลูกน้องอีกสี่ห้าคนตามมาคอยปกป้องไรอันตามที่จอห์นสั่งเอาไว้
“ไปหาซื้อคอนโด เอาที่ปลอดภัยและกว้างขวางพอที่จะอยู่ได้หมดนี่ ฉันคงต้องอยู่ที่นี่นานหน่อย”
“ครับนาย เดี๋ยวผมจัดการให้เลย น่าจะไม่เกินพรุ่งนี้”
“ต้องได้วันนี้”
“ครับ...”
เตชินรีบรับคำสั่งก่อนจะเดินออกไปทันที ส่วนไรอันตอนนี้เขาคงต้องคอยรับมือกับอีกหลายเรื่อง เมื่อยังไงก็ตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่ที่นี่
วันต่อมา ไรอันก็เข้ามาทำงานที่สำนักงานใหญ่ของโรงพยาบาล ที่แยกออกมาตั้งอยู่ที่ตึกสูงเสียดฟ้าไม่ไกลจากโรงพยาบาลใหญ่เท่าไหร่นัก
“อะไรนะ! ลูก...ลูกชายของท่านประธานอย่างนั้นเหรอ? ไหนใครว่าตายไปแล้ว ไหนว่า...”
“อย่าพูดออกมานะครับท่าน เห็นว่าเมื่อวานมีคนโดนซ้อมเพราะดันไปโม้ว่ากำลังคบกับคุณไรอาด้วย”
“ซ้อมเลยเหรอ นี่มันพวกอันธพาลรึไงกันถึงป่าเถื่อนแบบนั้น”
คุณมนัส หนึ่งในผู้บริหารของโรงพยาบาลในเครือเอ่ยขึ้นอย่างนึกแปลกใจ เมื่อไม่เคยมีใครพูดถึงบุตรชายของคุณไบรอันมานานแล้ว แล้วอยู่ดีๆก็ดันโผล่มาก่อเรื่องแบบนั้น ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“แล้วท่านประธานก็เรียกประชุมบ่ายนี้ด้วยนะครับ ท่านคงต้องยกเลิกนัดกับคุณพราวบ่ายนี้แล้วล่ะครับ”
“เฮ้อ หาตำแหน่งให้ยัยพราวด้วยล่ะ กลับมาทั้งที เอาแต่เที่ยวเล่นไปเรื่อย”
“ครับท่าน”
“เอาแต่ทำเรื่องไร้สาระ ทำตัวลึกลับ นายรู้ไหม บางครั้งฉันก็สับสนว่านั่นลูกสาวฉันหรือใครปลอมตัวมาก็ไม่รู้”
คุณมนัสบอกขึ้นอย่างเหนื่อยใจ เมื่อมีบุตรสาวแค่คนเดียว ก็แทบไม่ได้เจอหน้าหรืออยู่ด้วยกัน นานๆครั้งเขาถึงจะได้เจอหน้าบุตรสาวที
“ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้วใช่ไหม ต้องแน่ใจว่าไรอันจะได้นั่งแทนตำแหน่งฉัน เข้าใจไหม”
“ค่ะ ดิฉันจะทำให้เต็มที่และรอบคอบที่สุดค่ะ”
ตราดา เลขาของคุณไบรอัน สาวสวยและมากความสามารถอย่างหาคนเทียบยากและเป็นผู้ช่วยที่คุณไบรอันไว้ใจที่สุดตอบรับก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานของเจ้านายไป ส่วนอีกคนที่ยังนั่งอยู่ที่เดิมนั้นเอาแต่มองออกไปนอกกระจกใสของชั้นสูงสุดของตึกแห่งนี้ อีกไม่นานเขาก็จะไม่ได้นั่งอยู่ตรงนี้แล้ว
“นายครับ จะแต่งตัวแบบนี้จริงๆเหรอครับ แต่ต้องไปประชุม...”
“หุบปากแล้วออกไปรอด้านล่าง”
เตชินยังพูดไม่จบก็โดนไล่ออกไปจากห้อง เมื่อไรอันไม่ยอมฟังที่เขาบอกเลยสักนิด ส่วนไรอันพอลูกน้องคนสนิทเดินออกไปยิ้มร้ายก็ปรากฏขึ้นมาทันที
“นั่น...นั่น อย่าบอกนะว่าลูกชายฝาแฝดที่หายตัวไปของท่านประธาน...”
“ไม่น่าใช่นะ เหมือนพวกอันธพาลมากกว่า...แต่หน้าตา...พิมพ์เดียวกันกับคุณหนูไรอาเลยนี่”
“ใช่แน่นอน”
ไรอันที่เดินเข้ามาสำนักงานใหญ่กับพวกลูกน้องสี่ห้าคนกลายเป็นจุดสนใจของแทบทุกคนในบริษัทตอนนี้ เมื่อทั้งการแต่งตัวทั้งท่าทางช่างดูไม่น่าคบหาเสียเหลือเกิน
“เอ่อ ขอโทษนะคะ มาพบใคร...”
“เชิญทางนี้เลยค่ะคุณไรอัน ท่านประธานรออยู่ค่ะ”
“หึ! คงไม่ต้องบอกนะว่าฉันเป็นใคร นำไปสิ”
ไรอันหันไปบอกพนักงานต้อนรับก่อนจะหันมาหาตราดาที่เดินมารับเขา จากนั้นก็เดินตามเลขาสาวเข้าไปเมื่อตอนนี้ทุกคนกำลังรอเขาอยู่ในห้องประชุมเรียบร้อยแล้ว
“เชิญเข้าไปเลยค่ะ ทุกคนกำลังรออยู่”
“ขอบใจ พวกแกรออยู่ข้างนอกนี่แหละ น่าจะไม่เกินสิบนาที”
ไรอันบอกออกมาเมื่อตราดาพามาหยุดอยู่ที่หน้าห้องประชุมใหญ่ก่อนจะเปิดประตูแล้วเดินเข้าไป
“อ่าว ขอโทษที่ขัดจังหวะนะครับ เชิญพูดต่อเลย”
พอมาเฟียหนุ่มเปิดประตูเข้ามา ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่เขาอย่างแปลกใจและตกตะลึง เมื่อหน้าตาของเขาดันหน้าตาพิมพ์เดียวกันกับไรอาแต่แค่อยู่ในคราบผู้ชาย
“ดะ...เดี๋ยวครับ อยะ...อย่าบอกนะว่านี่...คือลูกชายของท่านประธานที่หายตัวไป...”
“อืม งั้นผมแนะนำเลยแล้วกันนะ นี่ไรอัน ลูกชายของผม คนที่จะขึ้นมาแทนตำแหน่งประธานในอีกสองเดือนข้างหน้า”
คุณไบรอันที่สบโอกาสเลยแนะนำออกมาทันทีทำเอาพวกผู้บริหารที่ส่วนมากยังไม่รู้หัวข้อการประชุมที่ชัดเจนของวันนี้พากันตกตะลึง เมื่ออยู่ดีๆทายาทที่ไม่คิดว่าจะกลับมาของเจ้าของที่นี่กลับมายืนอยู่ที่นี่เสียได้
“อ่าว อยู่ดีๆผมก็ได้เป็นเจ้าของเลยเหรอเนี่ย ฮ่าฮ่าฮ่า ยินดีที่ได้รู้จักนะครับทุกท่าน”
ไรอันหันไปมองพวกผู้สูงอายุในห้องพร้อมกับยิ้มทะเล้นออกมาอย่างไม่จริงใจ ทำเอาพวกผู้บริหารต่างพากันมองหน้ากันไปมา เมื่อไม่เห็นความเหมาะสมใดใดในตัวของไรอันเลยสักนิดทั้งการวางตัว การแต่งตัวและอะไรหลายๆอย่างทำให้แทบทุกคนไม่คิดว่าจะเห็นด้วยที่ให้ไรอันขึ้นนั่งตำแหน่งสูงสุดของที่นี่ ส่วนคุณไบรอันได้แต่มองบุตรชายอย่างเหนื่อยใจ เมื่อรู้ดีว่าที่ไรอันทำแบบนี้ก็เพราะกำลังท้าทายตนเองอยู่ เอาจริงๆแล้วนั้นไรอันแทบถอดแบบเขามาทุกระเบียบนิ้วแถมจอห์นยังบอกว่าลูกชายของเขามีความเป็นผู้นำสูงเหมือนกับบิดาของเขาอีก ไม่มีทางที่ไรอันจะเป็นเหมือนที่กำลังแสดงออกมาอย่างนี้แน่นอน
“เอาล่ะ งั้นผมจะเริ่มการประชุมเลยแล้วกัน ส่วนแกมานั่งนี่ ตรงนั้นที่ของเลขา”
คุณไบรอันที่เริ่มเห็นความไม่พอใจจากสีหน้าของพวกผู้บริหารรีบพูดออกมาพร้อมกับชี้ให้ไรอันมานั่งเก้าอี้ว่างข้างตนเอง ส่วนไรอันค่อยๆลุกขึ้นมาอย่างอิดออดพร้อมกับเดินส่ายไปส่ายมาเหมือนกับพวกกุ๊ยข้างถนน
“นั่งตรงนั้นสบายกว่าอีก ตรงนี้วางขาก็ไม่ได้”
ไรอันบ่นออกมาเมื่อกระแทกตัวนั่งลงที่เก้าอี้ข้างบิดาแล้ว
“เอาล่ะ เริ่มรายงานได้เลย”
คุณไบรอันบอกขึ้นก่อนที่ตราดาจะเริ่มรายงานสรุปการทำงานประจำปีของบริษัท เพื่อสรุปทุกอย่างและเตรียมพร้อมสำหรับให้ประธานบริษัทคนใหม่ได้ก้าวขึ้นมาเริ่มนับหนึ่งใหม่
“ดูไม่เห็นสนใจอะไรแบบนั้นจะขึ้นมาเป็นประธานบริษัทใหญ่โตอย่างนี้ได้ยังไง”
“ก็นั่นนะสิ คิดแล้วก็น่าจะไปไม่รอด เฮ้อ...”
เสียงพวกที่อยู่ในห้องประชุมพากันกระซิบกระซาบแต่ก็ได้ยินชัดเจนสำหรับไรอัน เมื่อเขาฝึกทักษะพวกนี้มาเป็นสิบๆปี
“เอาล่ะ ทุกอย่างถูกสรุปเอาไว้หมดแล้วถ้ามีใครสงสัยหรือคิดว่ามันไม่เป็นความจริงก็ถามผมได้เลย”
คุณไบรอันบอกขึ้นเมื่อตราดารายงานออกมาจนเสร็จสิ้น
“ผมไม่อยากถามท่านประธานหรอกครับ แต่อยากถามว่าที่ประธานคนใหม่มากกว่า...คิดยังไงกับเรื่องงบประมาณของปีหน้าครับ ไม่คิดว่ามันดูน้อยไป หรือไม่สมดุลบ้างรึเปล่า”
หนึ่งในผู้บริหารถามขึ้น เพราะรู้ดีว่าไรอันนั้นไม่ได้ตั้งใจฟังรายงานแต่กลับเอาแต่ก้มดูโทรศัพท์ในมือจนกระทั่งจบรายงาน
“อืมมมม จะให้ผมคิดว่ายังไงดีน้า พวกท่านๆทั้งหลายจึงจะพอใจ เอ...หรือว่า...อืม...ไม่ดีกว่า...”
ไรอันทำท่าทางมองขึ้นบนเพดานเหมือนพยายามคิดหาคำตอบจนพวกผู้บริหารพากันส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วยที่จะให้ไรอันนั่งตำแหน่งประธาน
“ฮ่าฮ่าฮ่า เนี่ยนะเหรอที่ท่านประธานจะเอามาบริหารบริษัทใหญ่โตขนาดนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า นี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่นนะครับที่จะเอาคนที่ไม่มีความรู้และไม่สนใจเข้ามาบริหารคนอีกนับพัน”
“อืม ก็ใช่ ผมว่าท่านประธานน่าจะคิดใหม่ หรือรอให้พร้อมกว่านี้ก่อน...”
“ใช่ บริษัทนี้ไม่ใช่เล็กๆ จะมาเล่นขายของไม่ได้นะครับท่านประธาน”
คุณไบรอันถึงกับเหนื่อยใจ ขนาดแค่แนะนำตัววันแรกยังดูวุ่นวายและขัดแย้งขนาดนี้ แล้วเวลาอีกแค่สองเดือนเขาจะทำยังไงให้ไรอันเป็นที่ยอมรับของคนที่นี่ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งดูริบหรี่
“งบประมาณที่คุณเลขารายงานมามันเยอะแยะและเป็นสิ่งที่สิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น นี่อย่าบอกนะว่าปีก่อนๆพวกคุณก็ใช้แผนงบประมานกันแบบนี้ หึหึ”
อยู่ดีๆไรอันก็พูดขึ้น ทำเอาเสียงเจื้อยแจ้วที่กำลังพูดถึงกับเงียบลงไปทันที ก่อนที่มาเฟียหนุ่มจะลุกขึ้นบิดขี้เกียจไปมาแล้วเดินไปหยิบรีโมตควบคุมสไลด์รายงานขึ้นมาก่อนจะกดเลื่อนไปจนถึงหน้าแรกของรายงาน
“นี่คืองบปีก่อนที่ใช้ไป หึ! งบนี่คืออะไร งบสร้างสรรค์ตกแต่งและดูแลทัศนียภาพของโรงพยาบาลอย่างนั้นเหรอ ดูๆไปเยอะกว่างบประมานที่จ่ายให้เป็นค่าสวัสดิการของพวกหมอและพยาบาลเสียอีก ที่ทำงานสวยๆมันสู้ได้กับพนักงานมีชีวิตที่ดีอย่างนั้นเหรอ ทำไมไม่เอางบพวกนั้นไปเป็นแรงจูงใจให้กับพนักงานแทนล่ะ พอพนักงานมีความสุขก็จะเริ่มรักบริษัทแล้วพอรักบริษัทก็จะไม่ลาออกแถมยังช่วยกันดูแลบริษัทอีก หึ! เรื่องง่ายๆเบสิคแค่นี้พวกคุณยังคิดกันไม่ออก มัวแต่เอาเงินไปสร้างหน้าตาให้กับตัวเองโดยไม่รู้ว่าพนักงานลำบากกันขนาดไหนหึ!”
คำพูดของไรอันทำเอาทุกคนที่อยู่ในห้องพากันสะอึก ก่อนจะมองหน้ากันไปมาเมื่อดันพูดตรงจนพากันเถียงไม่ออก
“แล้วงบนี่ล่ะ สิ้นเปลือง นี่ก็อีก มากเกินไปขนาดนั้นแน่ใจได้ยังไงว่าไม่มีการโกงในระบบการทำงาน แถมเงินที่เหลือนึกว่าเศษเงินขนาดนั้น ดูแค่นี้ก็รู้แล้วว่ามันไม่โปร่งใส”
“เอ่อ คุณจะไปรู้อะไร พึ่งมา...”
“แล้วนี่ล่ะ งบสวัสดิการสำหรับผู้บริหารงั้นเหรอ โห บินไปต่างประเทศเยอะจนนึกว่ามีสาขาอยู่ที่โน่น ฮ่าฮ่าฮ่า ถ้าเกิดผมได้เป็นประธานจริงๆนะ ผมจะขอรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเลย เตรียมหลักฐานและรายงานเอาไว้ดีๆล่ะ รับรองผมคิดย้อนหลังไปหลายปีแน่นอน”
ไรอันพูดขึ้นไม่หยุด เมื่อดันมาดูถูกเขาก่อนเอง ทำเอาพวกผู้บริหารถึงกับไปต่อกันไม่เป็น เมื่อทุกคนต่างรู้อยู่แล้วว่าพากันใช้งบสิ้นเปลืองเพราะไม่ได้จ่ายเองแต่บริษัทสนับสนุนทุกอย่าง
“เอาล่ะๆ เอาไว้แค่นี้ก่อน ส่วนเรื่องอื่น เดี๋ยวแกค่อยไปคุยกับฉันเป็นการส่วนตัว เลิกประชุมได้แล้ว”
สุดท้ายต้องเป็นคุณไบรอันที่เป็นคนสงบศึกนี้ เมื่อบุตรชายของเขานั้นพูดตรงจนอาจทำให้เกิดความขัดแย้งรวมไปถึงการต่อต้านการก้าวขึ้นมาแทนที่ในตำแหน่งของเขาได้
“เดี๋ยวพวกแกไปรอฉันที่ห้องทำงาน ตามเลขาคนสวยนี่ไป”
“ครับนาย”
เตชินตอบรับก่อนจะเดินตามหลังตราดาไปโดยมีพวกผู้บริหารที่เดินตามกันออกมามองดูอย่างไม่อยากเชื่อ ส่วนไรอันนั้นไม่ได้สนใจกลับมองหน้าทุกคนอย่างท้าทายแล้วเดินตามคุณไบรอันไป
“นี่มันพวกอันธพาลชัดๆ ผมไม่มีวันยอมรับอันธพาลพวกนี้แน่นอน”
“ใช่ ผมก็ไม่มีวันยอม จะให้คนแบบนั้นขึ้นมาปกครองพวกเราเนี่ยนะ ฮ่าฮ่าฮ่า ผมขอลาออกยังจะดีกว่า”
“ใจเย็นๆกันก่อนน่า ยังมีเวลาอีกนาน ถ้าถึงวันนั้นแล้วยังเป็นแบบนี้ ก็ค่อยมาว่ากันใหม่”
คุณมนัสที่ฟังมานานเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินหนีออกไป เมื่อวันนี้เขาได้รู้จักว่าที่ประธานคนใหม่ของที่นี่แล้ว
หนึ่งเดือนหลังจากนั้น เพชรพราวก็ต้องพาเด็กๆบินกลับประเทศไทย เมื่อไรอันถูกบังคับให้กลับไปทำงานหลังจากสองอาทิตย์แรกที่เด็กๆเกิดมา เพราะมันร่วมเดือนแล้วที่ชายหนุ่มบินไปที่อเมริกา และเมื่อไรอันบินกลับมา คุณปู่ คุณย่าและคุณตาก็อาสาอยู่เลี้ยงเด็กๆอยู่ที่โน่นจนกระทั่งกลับมาประเทศไทยพร้อมกันในวันนี้ เพราะคุณพ่อลูกสามทนคิดถึงลูกๆไม่ไหว ขู่เช้าขู่เย็นว่าจะลาออกจากบริษัทจนสุดท้ายเพชรพราวทนคำรบเร้าไม่ไหวพาเด็กๆบินกลับมาอยู่ที่ประเทศไทย“อ๊าย!!! นี่มันพี่ไรอันตอนเด็กๆนี่คะ มาให้คุณอาอุ้มหน่อยสิหนุ่มๆ โอ๊ย อุ้มใครดีเนี่ย เหมือนกันไปหมดเล้ยยยย”พอมาถึงบ้าน ไรอาที่รอรับอยู่ถึงกับกรี๊ดกร๊าดออกมาด้วยความตื่นเต้น เมื่อเธอโดดงานที่โรงพยาบาลมารออยู่บ้านร่วมชั่วโมงแล้ว ก่อนจะวิ่งไปรับเอาหนึ่งในสามมาอุ้มอย่างแสนตื่นเต้นดีใจที่สุดท้ายก็ได้เจอหลานๆตัวจริงๆสักที“หึหึหึ ไรอันก็เหมือนไรอานั่นแหละน่า ทำเป็นพูดไป ถ้าเอารูปมาเทียบกันแม่นึกว่าแฝดห้าเลยล่ะ&rd
“อ่าว คุณมนัสครับ จะรีบร้อนไปไหนครับนั่น”“อ่าวคุณไบรอัน! มาทำอะไรครับ ขอโทษทีพอดีผมรีบ เมื่อกี้ยัยพราวโทรมาบอกว่าคลอดลูกแล้ว”“อะไรนะ!!! หนูพราวคลอดลูก!! แล้วนี่กำลังจะไปโน่นเหรอครับ ผมไปด้วยๆ เดี๋ยวโทรบอกให้ภรรยาผมออกมาเลย แล้วไปยังไงครับ”“ผมจองตั๋วเอาไว้หนึ่งทุ่ม”“ไม่ต้องๆเอาเครื่องส่วนตัวไปเลยเดี๋ยวผมให้คนจัดการให้ โอ๊ย นี่พึ่งคลอดเหรอครับ”“เดี๋ยวไปคุยกันบนรถดีกว่าครับ”ทั้งคุณปู่และคุณตาแทบทำอะไรกันไม่ถูก เมื่อตื่นเต้นดีใจจนเนื้อเต้นพากันรีบเดินตรงไปที่รถของคุณไบรอันที่คนขับยังจอดรออยู่หน้าตึก ดีที่เขากับภรรยาพึ่งไปเที่ยวมาเมื่อสองเดือนก่อนแต่ทำวีซ่ายาวเป็นปีเลยไม่จำเป็นต้องทำวีซ่าใหม่กัน
“พราว!!! เธอ...ทำไมเธอไม่โทรบอกฉันเลยยัยเพื่อนบ้า ฮึก รู้ไหมว่าฉันเป็นห่วงแทบแย่ ฮือ...”สองวันหลังจากที่เพชรพราวคลอดลูก เจสิก้าที่พึ่งได้รู้เรื่องจากแอนนารีบกลับมาทันทีเมื่อพยายามติดต่อเพชรพราวเท่าไหร่ก็ไม่มีคนรับสาย เลยโทรมาหาแอนนาและก็ได้รู้ว่าเพชรพราวอยู่ที่โรงพยาบาลเธอเลยหนีงานกลับมาทันที“เจสซี่...มาได้ยังไงไหนว่าไปอีกสองอาทิตย์ไง”เพชรพราวที่ยกมือขึ้นโอบกอดร่างของเพื่อนสนิทที่โถมเข้าหาพร้อมกับถามขึ้นอย่างนึกแปลกใจ“ก็ฉันโทรหาเธอแล้วไม่ยอมรับสายเลยโทรหาแอนนาน่ะสิ แล้วเป็นยังไงบ้าง หลานๆของฉันด้วย”“ปลอดภัยดี คุณพยาบาลพึ่งพากลับไปที่ห้อง น่าจะพามาอีกทีหกโมงเย็นน่ะ”“ฮือๆๆ ฉันเป็นห่วงจนแทบบ้ารู้ไหม...เจ็บมากไหม”“อือ แต่ตอนนี้ไม่เจ
“อ๊ะ! อื้อ...ทำไมวันนี้ดิ้นแรงนักล่ะลูก ตื่นเต้นที่ได้เจอคุณปู่กับคุณย่าเหรอครับ อู้ย...”พอวางสายจากบิดาไป เพชรพราวก็ต้องครางออกมาอย่างรู้สึกเจ็บเมื่อลูกๆของพากันพร้อมใจกันดิ้นจนหน้าท้องนูนเด่นขึ้นลงอย่างเห็นได้ชัด หญิงสาวพยายามลูบท้องเพื่อให้เด็กๆสงบลงเหมือนทุกครั้ง แต่ดูท่าจะไม่ฟังกันเลย เมื่อยิ่งดิ้นหนักเข้าไปใหญ่ จนเพชรพราวแทบทนไม่ไหว ตอนนี้เธอเจ็บจนเหงื่อแตกไหลอาบลงตามไรผมเมื่อเริ่มเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ“ระ...ไรอัน อื้อออออ ไรอัน อ๊ะ! อื้อ ไรอัน...ระ...ไรอัน...”เสียงแหบโหยโรยแรงพยายามร้องเรียกไรอันที่ตอนนี้กำลังยุ่งอยู่กับการทำอาหารเย็นให้เธอ เมื่อเธอบอกว่าอยากทานสปาเก็ตตี้ฝีมือเขาอีกไรอัน...ขอร้อง...เข้ามาที เพล้ง!!!!เพชรพราวที่เจ็บจนหมดแรงพยายามภาวนาให้ไรอันเข้ามาเร็วๆก่อนที่เธ
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา“คุณว่าอะไรนะ! สะ...สาม ไรอันมีลูกแฝดสามเนี่ยนะ!!!!”กลับมาทางด้านคุณมิรันหลังจากที่ไรอันบินไปหาเพชรพราว เธอพยายามติดต่อแต่ก็ติดต่อไม่ได้ เลยตัดสินใจบอกผู้เป็นสามีถึงความลับที่เธอเก็บเอาไว้ เพื่อปรึกษาว่าควรทำยังไงต่อดี และพอคุณไบรอันได้ฟังในทีแรกถึงกับลุกขึ้นตะโกนออกมาเสียงดังลั่นจนไรอาที่พึ่งเดินเข้าบ้านเพราะมารดาโทรตามก็รีบวิ่งเข้ามาตามเสียงของบิดา“มีอะไรคะคุณพ่อ! เสียงดังไปถึงหน้าบ้านเลย เป็นอะไรกันคะ!”“กะ...ก็แม่ของลูก...แม่ของลูกบอกว่ามีแฝดสาม...”“ห๊ะ!! คุณแม่ท้องแฝดสามเลยเหรอคะ!!! เป็นไปได้ยังไง...ไหนว่าประจำเดือนหมดไปแล้ว...”คุณมิรันถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับกับความเหมือนของสองพ่อลูกคู่นี้ ก่อนจะยกมือห้ามเสียงที่กำลังจะเปล่งออกมาให้รำคาญหัวใจอีก
“อื้ออออ อึดอัด...”เช้าวันต่อมา เพชรพราวที่รู้สึกรำคาญดิ้นไปมาก่อนจะนิ่งไปอีกครั้งเมื่อไรอันค่อยๆยกแขนที่เขากอดเธอเอาไว้ออก ร่างใหญ่ลุกออกจากเตียงอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องน้ำเพื่อล้างหน้าแปรงฟัน พอเสร็จชายหนุ่มก็เดินออกไปที่ครัวเพื่อดูว่ามีอะไรที่สามารถเป็นอาหารให้เขากับเธอได้ ก่อนจะเจอเส้น ที่ใช้ทำสปาเก็ตตี้และวัตถุดิบทุกอย่างครบครันเขาเลยลงมือทำทันที เพราะแต่ก่อนเขาก็ทำกินเองบ่อยๆเมื่อตอนไปเรียนที่อังกฤษตุ๊บ!!!“คุณเป็นใคร! เข้ามาในนี้ได้ยังไง!”แอนนาที่พึ่งเข้ามาทำงานตกใจถึงกับปล่อยนมบำรุงครรภ์ที่ซื้อติดมือมาหล่นลงพื้นเมื่อเจอเข้ากับไรอันในร่างเกือบเปลือย มีเพียงผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่างเอาไว้ ร่างอวบมองซ้ายมองขวาก่อนจะรีบวิ่งตรงไปที่ห้องนอนของเพชรพราวและพบว่าเธอยังปลอดภัยดีก็ถอนหายใจออกมา“ตกลงคุณเป็นใคร เข้ามาทำอะไรที่นี่ แล้วเข้ามาได้ยังไง”แอนนาถามออกมาชุดใหญ่ เมื่อมองดูรอบๆพบว่ามันไม่ได้มีอะไรหายไปหรือแตกหัก แสดงว่าเขาไม่ใช่คนร้าย ส่วนไรอันก็ตกใจไม่แพ้กันเมื่อเขาลืมไปเสียสนิทว่าแอนนาต้องเข้ามาทำงานที่นี่“เอ่อ คือ...ผม เอ่อ...”“อ่าว สวัสดีค่ะแอนนา มีอะไรกันรึเปล่าคะ”