Mag-log inเมื่อเธอวางสายแล้วก็ลุกขึ้นมานั่ง ใช้หลังมือปาดน้ำตา สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วตั้งสติ ก่อนนี้เธอเสียใจจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย จึงคิดอะไรไม่ทัน แค่คำนวณเงินเดือนแล้วได้รับรู้ว่าต้องอยู่บำเรอกามให้กับเขาหลายสิบปี สมองของเธอก็ตื้อตันจนลืมเลือนไปทุกเรื่อง
เธอตรงดิ่งไปเปิดตู้เซฟตู้เล็กที่แม่ของเธอติดตั้งให้ในตู้เสื้อผ้า กดรหัสที่มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ แล้วนำกล่องเครื่องประดับขนาดเล็กสองสามกล่องและกล่องไม้ที่อยู่ในนั้นออกมาเปิดบนที่นอน
สร้อยและแหวนเพชรเส้นเล็กๆ แต่น้ำงามที่แม่ของเธอซื้อให้เป็นของขวัญวันสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้สะท้อนแสงล้อไฟระยิบระยับ ไม่รู้ว่าจะขายได้กี่บาท แต่มันเป็นของแทนใจที่แม่ซื้อให้ เธอไม่อยากจะขายมันเลย
จึงมาเปิดกล่องกำมะหยี่สีแดงขนาดกลาง ที่ภายในบรรจุทองคำแท่งน้ำหนักหนึ่งบาท จำนวนเท่าอายุตัวเอง เพราะแม่จะซื้อให้เธอเป็นของขวัญวันเกิดแบบนี้ทุกปี
“ทอง อืม อันนี้ขายได้”
เธอปิดกล่องแล้ววางแยกเอาไว้ พรุ่งนี้หลังสอบเสร็จ เธอจะให้คนของเขาพาแวะร้านทอง เพื่อเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้ให้เป็นเงิน
สมุดบัญชีเงินฝากสองเล่มที่วางอยู่ข้างในกล่องไม้ ถูกเปิดออก เล่มหนึ่งไม่ได้มีการเคลื่อนไหวบัญชีมานานแล้ว เพราะเป็นบัญชีที่พ่อของเธอนำเงินฝากเข้าให้เธอปีละครั้งในวันเกิดของเธอ จนวันเกิดปีที่สิบห้า พ่อของเธอก็เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เพราะโดนคนเมาแล้วขับพุ่งชนจนรถของพ่อเธอพลิกคว่ำหลายตลบ
หลังจากเสร็จงานศพ ก็มีเงินประกันชีวิตจำนวนมากที่พ่อทำเอาไว้ให้และเงินชดเชยเยียวยาจิตใจจากคู่กรณีที่มีฐานะร่ำรวย ในบัญชีนี้เธอมีเงินถึงสองล้านกว่าบาทซึ่งเธอเองก็เกือบลืมไปแล้ว เพราะตั้งแต่ที่พ่อเสียชีวิตไปก็เสียใจจนไม่อยากจะเปิดดูจำนวนเงินที่ต้องแลกมากับชีวิตของพ่อดูอีก
“เงินสองล้านกว่า ทองน่าจะขายได้เกือบๆ หกแสน บ้าน..”
เธอรีบวิ่งเข้าไปในห้องนอนของแม่ เปิดลิ้นชักที่แม่จะเก็บเอกสารสำคัญเอาไว้ก็เจอโฉนดที่ดินที่เป็นชื่อของเธอจริงๆ จึงรีบนำมารวมกันกับของที่เธอจะขาย
เธอเปิดหาข้อมูลการฝากขายบ้าน เจอหลายเพจที่มีการซื้อขายสำเร็จ ลองคำนวณว่าตอนนี้ราคาบ้านของเธอจะประเมินผ่านธนาคารได้ราคากี่บาท และจากการหาข้อมูลก็ไม่น่าจะเกินเจ็ดล้าน เธอจึงตั้งราคาขายที่เจ็ดล้านบาทถ้วน แล้วโพสต์ลงประกาศขายตามเพจต่างๆ ทันที
เอกอนันต์ ฟังเธอคุยโทรศัพท์กับแม่ของเธอจนจบ ได้ยินแต่เสียงของเธอเท่านั้น เพราะคราวนี้เธอไม่ได้พูดคุยแบบเปิดลำโพงอีกแล้ว แต่ก็พอจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้ว่าตอนนี้แม่ของเธอหนีไปแต่ไม่รู้ที่ไหน แถมยังถูกชายคนรักถีบหัวส่งอย่างน่าสมเพชที่สุด
เธอบอกกับแม่เธอว่าเขาไม่แจ้งความ แถมยังให้เธอไปทำงานด้วยเพื่อปลดหนี้ แต่ไม่ยอมบอก ว่าเขาจะเอาเธอเป็นนางบำเรอเพื่อขัดดอก เพราะกลัวว่าแม่ของเธอจะรีบแจ้นกลับมายอมติดคุกสินะ ขนาดโดนแม่กับชายชั่วทำให้ชีวิตพังแบบนี้ ยังจะรักและกตัญญูอยู่ได้
หลังจากนั้นก็ได้ยินแต่เสียงค้นหาข้าวของกุกกัก และบ่นพึมพำเบาๆ ได้ยินแว่วๆ น่าจะเป็นการคำนวณเงินจากการขายของทั้งหมดที่มี แล้วเสียงเหล่านั้นก็เงียบหายไป จึงกดวางสายเพื่อโทรหาลูกน้องคนสนิททันที
“ชัย บอกคนของเรา ไม่ต้องดักฟังนับดาวแล้วนะ ฉันได้ข้อมูลหมดแล้ว”
“ครับ คุณเอกรู้แล้วเหรอครับว่าแม่ของคุณนับดาวกับไอ้โกสินทร์หนีไปกบดานกันที่ไหน”
“ยัง”
“อ้าว แล้วทำไมให้เลิกดักฟังล่ะครับ”
“ฉันไม่จำเป็นจต้องอยากรู้เรื่องนี้แล้ว เพราะนับดาวไม่ยอมบอกแม่ของเธอว่าจะต้องมาเป็นนางบำเรอฉัน แถมยังบอกให้แม่เธอหางานทำที่นั่น ยังไม่ต้องกลับมาอีก ก็มีลูกหนี้รายใหม่แน่นอนอยู่แล้วนี่ รายเก่าก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว”
“คุณเอกจะไม่แจ้งความเอาผิดสองคนนั้นจริงๆ หรือครับ ทำบริษัทเสียหายขนาดนี้ จะปล่อยไปเฉยๆ ได้ยังไง ไม่สมกับเป็นคุณเอกเลย”
“ใครว่าฉันจะปล่อยมันไปเฉยๆ ฉันไม่เสียเงินเปล่าเพราะมีคนใช้หนี้แทนดุจนภา ฉันรับปากเด็กนั่นไปแล้ว ถ้าคืนคำตามล่าแม่เธอ เด็กนั่นคงฆ่าฉันตาย นายไม่เห็นแววตาที่เด็กนั่นมองฉันหรือไง ส่วนไอ้โกสินทร์ สั่งคนของเราตามหามันต่อไป มันทิ้งดุจนภาไว้ที่ปั๊มแล้วหนีเอาตัวรอดไปแล้ว ถ้าเจอมันก็กระทืบมันได้เลย เอาให้หยอดน้ำข้าวต้ม ห้ามตายเด็ดขาด เดี๋ยวจะซวยกันหมด แล้วก็คอยเล่นงานมันเงียบๆ อย่าให้มันได้ใช้ชีวิตสงบสุข เอาให้ชีวิตมันต้องอยู่อย่างหมาข้างถนนเลย”
“ครับ คุณเอก เดี๋ยวผมจัดการให้ครับ”
“เออ พรุ่งนี้เด็กนั่นน่าจะให้นายพาแวะร้านทองนะ ได้ยินเสียงพึมพำหาสมบัติมาขาย เงินฝากกับทองก็น่าจะได้เป็นล้านอยู่”
“ยังดีนะครับ ที่คุณดุจนภาไม่เอาสมบัติของลูกไปปรนเปรอไอ้โกสินทร์หมด”
“อืม ก็ยังนับว่าพอมีความเป็นแม่คนอยู่บ้าง”
“แล้วแบบนี้ถ้าคุณนับดาวหาเงินมาใช้คุณเอกหมดก่อนจะถึงกำหนดเซ็นสัญญา จะทำยังไงครับ ก็ต้องปล่อยไปเฉยๆ ทั้งแม่ทั้งลูกเหรอครับ”
เพราะคืนนี้ที่เจ้านายหนุ่มตามเข้าห้องเด็กสาวไป เขาก็คิดว่าคงเรียกเก็บดอกเบี้ยจนเช้า เพราะนับดาวทั้งสวยทั้งน่ารัก เจ้านายเขาคงละเลียดกินจนไม่พักแน่นอน
แต่ที่ไหนได้ หายไปนานสองนาน กลับออกมาจากห้องด้วยอารมณ์หงุดหงิดฟาดงวงฟาดงาจนลูกน้องที่เฝ้าหน้าบ้านกระเจิงกันหมด
พอขึ้นรถกลับบ้านก็โทรเข้าไปในเครื่องดักฟัง แล้วฟังเสียงของเธอเงียบๆ จนถึงบ้านก็ยังไม่ยอมวางสาย ก่อนที่จะโทรมาสั่งงานมากมายนี่แหละ
สรุปว่า ก็ยังไม่ได้แอ้มเด็กสาวแสนสวยนั่น จึงหงุดหงิดงุ่นง่านแบบนี้สินะ ถ้าให้เด็กนั่นใช้หนี้หมดก่อนที่จะได้แอ้ม คนอย่างเจ้านายของเขาจะทำใจได้เหรอ
ก่อนหน้านี้ฝืนทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ คบกับนางเอกสาวชื่อดังเป็นเดือนสองเดือน แต่กลับปล่อยเจ้าหล่อนลอยนวล เพียงเพราะเจ้าหล่อนบ่ายเบี่ยงไม่ยอมขึ้นเตียงด้วย จนต้องไปหาเศษหาเลยกับเหล่านางแบบสาวสวยที่ซื้อหาได้ด้วยเงินแทน
สุดท้ายก็เลิกกัน ทั้งที่ยังไม่ได้แอ้มสักหน่อย แถมผู้หญิงคนนั้นยังไปคบกับดาราชายที่เป็นเพื่อนสนิทเธอ ที่เคยต่อยเจ้านายเขาจนคว่ำมาแล้วอีกต่างหาก แทนที่จะโกรธเกลียด กลับทำใจยอมเป็นเพื่อนกับสองคนนั้นเสียได้
“ต่อให้ขายทุกอย่างรวมทั้งบ้าน ก็คงไม่เกินสิบล้าน จะเป็นไปได้ยังไงที่จะปลดหนี้หมดก่อนเซ็นสัญญา เหลืออีกตั้งห้าล้าน เงินเดือนแค่นั้น อยู่ชดใช้ให้ฉันอีกเป็นสิบยี่สิบปีนั่นแหละ หึหึ”
“ครับ งั้นถ้าคุณนับดาวให้ผมพาไปขายอะไรที่ไหน คุณเอกอนุญาตใช่ไหมครับ ผมจะได้พาเธอไป”
“อืม นายก็พาไปหน่อย ถือว่าสงเคราะห์เด็กตาโตๆ ที่ชอบทำหน้าตาอวดดีใส่ฉันก็แล้วกัน”
“ครับ รับทราบครับ”
“งั้นแค่นี้แหละ ฉันจะเข้าไปหาเด็กนั่นอีกทีวันสอบเสร็จ จะให้เด็กนั่นบอกเลิกไอ้หน้าอ่อนให้เรียบร้อย แล้วรอรับมาคอนโดเลย”
“คุณเอกจะเข้าไปนั่งฟังด้วยหรือเปล่าครับ”
“ไม่ล่ะ แต่เอาแบบนี้ ไปแอบติดกล้องที่มีเสียงไว้ที่ห้องรับแขกแล้วกัน ฉันจะนั่งดูในรถ จะดูว่าเด็กนั่นบอกเลิกจริงๆ หรือเปล่า หรือจะเล่นแง่อะไรลับหลังฉันไหม”
“ครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้หลังจากคุณนับดาวไปสอบ ผมให้คนของเราถอดเครื่องดักฟังที่ห้องนอนกับห้องรับแขกออก แล้วติดกล้องไปแทนนะครับ”
“อืม งั้นแค่นี้แหละ”
หลังจากวางสาย เสียงเคาะประตูห้องนอนของเขาก็ดังขึ้น จึงเดินไปเปิดด้วยความแปลกใจ เพราะปกติหลังจากเขาขึ้นห้องส่วนตัว จะไม่มีใครกล้ามารบกวนเขาอีก
“อ้าว พ่อ มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“ไปคุยกับพ่อที่ห้องทำงานหน่อย”
เมื่อไปถึงห้องทำงานของคนเป็นพ่อ ยังไม่ทันที่เขาจะหย่อนก้นลงนั่งที่เก้าอี้ พ่อของเขาก็เลื่อนแฟ้มบางอย่างมาตรงหน้า
“นี่หมายความว่ายังไง”
ในอ่างอาบน้ำไม้โอ๊คใบใหญ่ที่ตั้งไว้นอกชานของระเบียงห้องพัก หนุ่มสาวนั่งอิงแอบกันอยู่ภายใต้น้ำอุ่นที่มีฟองสบู่สีขาวฟูฟ่อง ชมบรรยากาศของธรรมชาติยามเช้าวิวหลักล้านคนตัวบางทิ้งแผ่นหลังพิงอกแกร่งในขณะที่มือใหญ่ร้อนผ่าวนวดคลึงไปทั่วเรือนร่างของเธอ“อือ ทำอะไรคะ”“พี่นวดให้ดาวไง เมื่อยไม่ใช่เหรอ”เธอบ่นปวดเมื่อยเพราะเขาใช้แรงงานเธอมากเกินพอดี ท่วงท่าพิสดารต่างๆ ถูกขุดขึ้นมาใช้ทั้งคืนจนคนที่แทบไม่ได้นอนเริ่มร้องประท้วงแถมเช้านี้เขายังปลุกเธอตั้งแต่ไก่โห่ ให้ตื่นมาชมพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าด้วยกันในอางอาบน้ำที่มีเพียงผ้าม่านสีขาวผืนบางปิดบังให้พ้นจากสายตาของผู้เข้าพักในบ้านหลังอื่น“ถ้าวันนี้พี่ให้ดาวนอนพักแบบปกติ ไม่จับดาวทำท่าประหลาดๆ ดาวก็ไม่ปวดเมื่อยแบบนี้หรอกค่ะ”“หึหึ ท่าประหลาดที่ไหนกันครับ ใครๆ เขาก็ทำกัน ออกจะเสียว หรือดาวไม่เสียวครับ”“ไม่บอกค่ะ”ความน่ารักของเธอทำเอาเขาอดใจไม่ไหว หอมแก้มนวลฟอดใหญ่ แล้วซุกไซ้ซอกคอหอมๆ ของเธออีกแล้ว“พี่เอก พอเถอะค่ะ พี่จะไม่ให้ดาวเห็นเดือนเห็นตะวันบ้างเลยหรือไงคะ”“ไม่เห็นที่ไหนกัน ดาวก็พูดเกินไป เมื่อคืนพี่ก็เปิดประตูระเบียงเอาไว้ ดาวก็มองเห็นพระจั
“ดาว ตื่นได้แล้ว ทำไมนอนขี้เซาจังเลยครับ”คนตัวโตที่ตื่นนานแล้ว แต่ไม่ยอมอาบน้ำเพราะจะรออาบพร้อมคนขี้เซา ใช้ปลายจมูกโด่งถูไถแก้มใสวนไปวนมาจนคนที่อยู่ในห้วงความฝันอันแสนสุขใช้มือปัดใบหน้าหล่อเหลาให้ออกไปไกลๆ“อื้อ พี่เอก ดาวจะนอนค่ะ”“นี่กี่โมงแล้ว รู้ไหม ถ้าตกเครื่องทำไงครับ”คนตัวบางลืมตาโพลง ตกเครื่อง หมายความว่าอย่างไร ก็วันนี้คือวันหยุด ไม่ได้ต้องออกไปทำงานหรือเดินทางไปประชุมต่างจังหวัดนี่นา เธอจำได้ว่าไม่มีโปรแกรมนี้ในตารางนัดหมายของเขา“มีงานเหรอคะ ทำไมดาวไม่รู้”“ไม่มี แต่เราจะไปเที่ยวกัน ซ้อมฮันนีมูนน่ะ”“ซ้อมฮันนีมูน”เธอเด้งตัวลุกขึ้นนั่งมองหน้าเขาด้วยความแปลกใจ เพิ่งปรับความเข้าใจและเปิดเปลือยความรู้สึกกันไปไม่นาน วันนี้เขาก็จะพาเธอไปซ้อมฮันนีมูนแล้วเหรอ“ใช่ครับ ซ้อมฮันนีมูน อยากไปไหม”“อยากค่ะ แล้วคราวนี้ไปที่ไหนคะ แต่ดาวยังไม่ได้เตรียมกระเป๋าเลย”“พี่ให้ป้าอัมจัดให้แล้ว จนป้าอัมจัดเสร็จ เด็กขี้เซาก็ยังไม่ยอมตื่น”“ก็พี่ไม่ยอมให้ดาวนอน”“ใครบอกล่ะ พี่ให้ดาวนอนทั้งคืนเลย นอนอยู่เฉยๆ ไม่ได้ใช้แรงงานดาวสักนิด”“ไม่ใช่แบบนั้นสิคะ ดาวไม่คุยด้วยแล้ว จะไปอาบน้ำ เดี๋ยวตกเครื่องขึ
ท่านประธานหนุ่มประคองคนตัวบางกลับเข้ามาถึงรังรักในตอนดึก หลังจากวันนี้พาเธอไปดินเนอร์ที่โรงแรมหกดาวเพื่อกระชับความสัมพันธ์ เขาชวนเธอนอนเปลี่ยนบรรยากาศที่โรงแรมนั้น แต่เธอกลับปฏิเสธ เพราะรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว“ไหวไหม ไปหาหมอดีกว่าไหม ฉันพาไป”“ไหวค่ะ ดาวไม่เป็นอะไร แค่วันนี้ดาวเครียดมาก เลยไม่ค่อยสบาย”“ต่อไปนี้ไม่มีเรื่องเครียดแล้วนะ ดูแลตัวเองให้ดีๆ กินข้าวให้เยอะขึ้น รู้ไหม”“ทราบแล้วค่ะ ท่านประธาน”“ไปอาบน้ำกันดีกว่า ไว้คราวหน้าฉันค่อยหาเวลาพาเธอไปเที่ยวนะ”“ค่ะ”เขาอุ้มเธอเข้าไปอาบน้ำพร้อมกันในอ่างอาบน้ำใบใหญ่ ไม่ได้รังแกเธอเพราะเห็นว่าเธอไม่ค่อยสบาย วันนี้จึงจะจับเธอกินแค่บนเตียงตอนก่อนนอนเพียงครั้งเดียวเท่านั้น“พ่อให้ชัยเอามาให้”เธอเปิดซองเอกสารสีน้ำตาลออกดูก็ต้องเบิกตากว้าง เมื่อบ้านที่เธอโอนไปเป็นชื่อคนอื่นแล้วเมื่อเกือบสามเดือนก่อน ถูกโอนคืนมาเป็นชื่อของเธอตั้งแต่วันรุ่งขึ้นหลังจากมีการซื้อขายเกิดขึ้นแล้ว“บ้านของดาวนี่คะ ทำไม..”“พ่อโอนคืนให้ดาว ก็บอกแล้วไงว่าพ่อกับน้าช่อทำเพราะอยากกดดันให้ฉันรีบหาลูกสะใภ้ให้ท่านเท่านั้น พ่อเพิ่งส่งข้อความยาวเหยียดมาสารภาพ ว่าพ่อให้ป้าอัมมา
นับดาวมองหน้าคนนั้นทีคนนี้ทีอย่างรู้สึกกดดัน ยิ่งเมื่อท่านประธานคนเก่าเดินมาพร้อมกับผู้หญิงวัยกลางคนที่เธอคุ้นตา ภาพตรงหน้าก็เลือนรางก่อนจะดับวูบไปพร้อมกับความโกลาหลเวลาผ่านไปหลายนาที ดวงตากลมโตก็เปิดปรือขึ้นพร้อมสติที่กลับคืนสู่ตัวอีกครั้ง“ดาว ฟื้นแล้วเหรอ เธอโอเคไหม ฉันจะพาเธอกลับบ้านของเรานะ”คนตัวโตกำลังจะช้อนอุ้มคนตัวบางกลับสถานที่ที่เขาเรียกว่าบ้าน แต่ก็ถูกผู้ใหญ่ทั้งสองคนในห้องห้ามปรามเสียก่อน“หยุดเลยเจ้าเอก วันนี้เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง จะพานับดาวไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น“ผมไม่คุยครับพ่อ พ่อก็เห็นว่าเมียผมไม่สบาย จะกดดันผมกับเมียไปถึงไหน ยังไงผมก็ไม่มีวันยอมทำตามอยู่แล้ว ใครอยากแต่งก็แต่งกันเอาเอง ผมไม่แต่ง”“พ่อบอกให้หยุด นอกจากเรื่องของแกกับหนูเดียร์แล้ว ยังมีเรื่องของนับดาวและภูมิอีก วันนี้เขามาทวงของของเขาคืนแล้ว แกจะว่ายังไง”คนตัวโตคว้าคนตัวบางเข้าสู่อ้อมกอด กวาดตามองทุกคนในห้องอย่างไม่เป็นมิตร เพราะทุกคนต้องการให้เขาแยกจากเมีย และมันจะไม่มีวันมีเรื่องบ้าๆ แบบนี้เกิดขึ้นแน่นอน“ผมไม่คืน ผมไม่ให้ ดาวเป็นเมียผม ผมไม่คืนให้ใครทั้งนั้น”“แล้วแกถามคนที่แกเรียกว่าเมียหรือยัง ว
รัฐภูมิได้สติทันใด เขาโหย่งตัวขึ้นมามองจุดเชื่อมต่อระหว่างเขากับผู้หญิงที่เขาเรียกว่าเพื่อน ก็พบว่ามันมีเลือดสดๆ ไหลซึมออกมาเล็กน้อย“หยาด..ฉัน..”กว่าจะรู้ตัว เขาก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ในตอนนี้ เขาทำลายความบริสุทธิ์ของเพื่อนรักด้วยน้ำมือของตัวเองอย่างไร้สติและงี่เง่าที่สุดเขากวาดตามองเพื่อนรักที่นอนน้ำตาอาบแก้ม ใบหน้าเหยเก ส่ายไปมาราวกับทุกข์ทรมาน เรือนร่างบอบบางขาวโพลนสั่นสะท้าน หน้าอกอวบอิ่มใหญ่โตเกินตัวมีปลายยอดเล็กๆ สีชมพูสด เอวบางคอดกิ่วไร้ไขมันส่วนเกิน ดอกไม้สาวสีชมพูอ่อนแลดูบอบบางน่ารักที่กำลังอ้าปากกลืนท่อนเนื้อใหญ่ยาวของเขาอย่างน่าสงสารในเมื่อไม่สามารถถอยหลังกลับมาอยู่จุดเดิมได้ จึงจำต้องเดินหน้าต่อ เขาค่อยๆ บดหมุนวนสะโพกเนิบนาบให้เธอได้ปรับตัว ก่อนจะชักท่อนเนื้อออกมาจนเกือบหลุด ก็เห็นว่าส่วนปลายของเขานั้นมีเสือดสดๆ ของเธอติดอยู่เขาลดตัวลงกอดเธอเอาไว้ แล้วขยับชักสาวสะโพกเชื่องช้า ก่อนจะเร่งจังหวะขึ้นเมื่อเธอไม่มีอาการประท้วงหรือต่อต้านอีกต่อไปแล้วแม้จะเป็นครั้งแรกของเธอ แต่ไม่ใช่ครั้งแรกของเขา จึงรู้ดีว่าจะทำให้เธอมีความสุขขึ้นสู่จุดสูงสุดได้อย่างไร ไม่นาน คนทั้งคู่ก็กอดรัดก
“ดาว แกเป็นยังไงบ้าง หายเงียบไปเลย”กว่าที่หยาดทิพย์จะหาโอกาสเหมาะๆ โทรหาเพื่อนในเวลาทำงานได้ ก็ตอนที่เจ้านายของเธอซึ่งคือรัฐภูมิไปพบลูกค้าและวันนี้จะไม่เข้าออฟฟิศอีกแล้วที่เธอไม่โทรหานับดาวในเวลาอื่นที่ไม่ใช่เวลางานเลยจนเวลาผ่านมาร่วมสามเดือนแล้ว เพราะเธอไม่รู้ว่าเพื่อนของเธอจะกำลังทำอะไรกับเจ้าหนี้หน้าหล่อนั่นอยู่หรือเปล่า แถมเธอเองก็ต้องเริ่มเรียนรู้งานใหม่ๆ จนยุ่งและแทบไม่มีเวลาว่างเลย ทั้งยังไม่กล้าโทรเพราะกลัวเจ้านายหนุ่มจะมาได้ยินเรื่องลับๆ ระหว่างเธอสองคนอีกต่างหาก“ฉันสบายดี แกก็หายเงียบไปเลยนะหยาด”“ก็ยุ่งๆ น่ะสิ ฉันทำงานเป็นเลขาให้ไอ้คุณภูมิ แกก็รู้นี่ งานวุ่นวายมาก ไม่กล้าโทรหาแกตอนอยู่ที่ทำงานด้วย กลัวมีคนได้ยิน”“อ้าว แล้วนี่แกไม่ได้ไปทำงานเหรอ ทำไมถึงโทรหาฉันได้”“ทำสิ แต่เจ้านายฉันมันไปพบลูกค้า วันนี้ไม่เข้าแล้ว ฉันเข้ามาจัดห้องให้คุณเจ้านายเลยแอบคุยกับแกในนี้ซะเลย ฉันถามหน่อย ทำไมแกไม่ให้ภูมิช่วยเรื่องหนี้วะดาว ถ้าแกบอกภูมิตั้งแต่วันนั้น ป่านนี้แกกับมันได้กลับไปคบกันแล้ว”คำพูดของหญิงสาวที่เป็นเพื่อนสนิท ทำให้เจ้านายหนุ่มที่เดินกลับเข้ามาในห้องทำงานเพราะลูกค้าขอเลื่อ