"แค่หวงฉัน หนี้อาจไม่ลด แต่ถ้ารัก..ก็ไม่แน่" "อิ่มแล้วค่ะ" ใครจะไปกินอะไรลง ก็เขาเล่นมองเธอราวกับจะกลืนเธอลงท้องไปทั้งตัวขนาดนั้น แถมยังเติมไวน์ให้เธอกับเขาไม่หยุด จนตอนนี้เธอรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งตัวแล้ว "แน่ใจนะว่าอิ่มแล้ว เพราะถ้าเธอลุกจากโต๊ะนี้ไป เธอจะไม่ได้กินอะไรอีกเลยจนถึงเช้า..นอกจากน้ำเท่านั้น" เธอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ไม่รู้ว่าวันนี้ผีเข้าเขาหรือเปล่า ถึงพูดและมองเธอราวกับไม่ใช่เขา หรือเพราะแบบนี้ ถึงทำให้สาวๆ อยากที่จะมานอนทอดกายให้เขาเชยชม ไม่เว้นแม้แต่นางเอกดังระดับแถวหน้าคนนั้น เมื่อเธอไม่ตอบอะไร เอาแต่จ้องมองหน้าเขาอย่างอึ้งๆ เขาจึงกระดกไวน์จนหมดแก้วแล้วลุกเดินไปหาเธออย่างช้าๆ เขาก้มตัวลงมาโอบบ่าบอบบางแล้วกระซิบเสียงแหบพร่าชิดใบหูของคนที่ยังนั่งเบิกตาค้าง "เธออิ่ม แต่ฉันยังหิวอยู่เลย" พูดจบก็จรดริมฝีปากร้อนรุ่มจูบข้างแก้มของเธอย้ำๆ แล้วถลำไถลลากมาจูบที่ใบหูบอบบางโดยไม่พลาดขบเม้มติ่งหูของเธอเบาๆ อย่างเร้าอารมณ์จนคนตัวบางหลับตาพริ้ม
Lihat lebih banyakหนุ่มสาวร้องครางในลำคอพร้อมกัน ต่างกันตรงความรู้สึก เมื่อสาวน้อยผู้ยังไม่เคยถูกชายใดสัมผัสหน้าอกมาก่อน ตื่นเตลิดเสียวซ่านจนหัวใจวูบไหว ส่วนชายหนุ่มผู้สัมผัสส่วนนี้ของผู้หญิงมานับไม่ถ้วน กลับรู้สึกถูกใจที่สุดที่ความนุ่มหยุ่นของเธอเด้งสู้มือจนต้องร้องครางออกมาเพื่อลดความตื่นเต้นเขาถอดถอนริมฝีปากออกมา แล้วไถลความร้อนรุ่มเข้ากดจูบซุกไซ้ซอกคอจนทั่ว สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ จากน้ำหอมราคาแพงและกลิ่นกายของเธอที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวราวกับฟีโรโมนชั้นดีก็ไม่ปานหญิงสาวเอียงหน้าเปิดเปลือยลำคอให้เขาตักตวงความหอมจากเธอไม่หยุด มือเล็กยกขึ้นมาปิดปากเพื่อกลั้นเสียงแปลกประหลาดน่าอับอายที่เธอไม่เคยทำมาก่อนในชีวิตความหอมหวานของเนื้อกายสาว ทำเอาเขาสติแทบหลุด ควบคุมตัวเองไม่ได้ ซุกไซ้จมูกและปากสูดดมขบเม้มซอกคอเธออย่างไม่ลืมหูลืมตา มือทั้งสองข้างบีบขยำดอกบัวตูมแรงขึ้นทุกทีตามความกระสันซ่านที่กำลังตีวนอยู่ในร่างกายของเขามือใหญ่สั่นเทาคลำหาซิปแล้วถอดชุดเดรสตัวสวยของเธอลงไปทิ้งกองที่พื้น ตามมาด้วยเสื้อชั้นในผ้าลูกไม้สีชมพูหวานทันทีที่ปราศจากสิ่งปกปิด หน้าอกใหญ่โตเกินตัวก็ปรากฏต่อสายตา ดวงตาคมกริบเบิกขึ้นแล้วกวาด
“เป็นยังไง ยอมรับสัญญาของฉันได้ไหม ถ้าไม่ได้ ก็เลือกทางเลือกแรกของเธอก็ได้นะ กลับไปง้อขอคืนดีกับแฟนเธอซะ แล้วฉันจะแจ้งความเอาแม่เธอเข้าคุกทันที”“มะ ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้มีปัญหาอะไร”“อืม ไม่มีปัญหา ก็เซ็นซะสิ”เธอมองหน้าเขาแล้วจับปากกาด้วยมืออันสั่นเทา จรดปลายปากกาค้างอยู่ที่ช่องที่มีชื่อของเธอกำกับไว้ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเซ็นชื่อลงไปในสัญญาฉบับนั้นอย่างไม่คิดลังเลอีกเมื่อเธอเซ็นชื่อเสร็จ เขาก็เซ็นชื่อของตัวเองลงไปบ้าง และให้คนสนิทของเขาทั้งสองคนลงชื่อเป็นพยาน“นายสองคนกลับไปพักผ่อนได้แล้ว ขอบใจมาก ค่อยมารับฉันอีกทีเช้าวันจันทร์แล้วกัน”“แล้วเสาร์อาทิตย์นี้คุณเอกไม่ไปไหนหรือครับ”พวกเขาหมายถึงนัดเดตกับดาราสาวแสนสวยที่ลงคิวเอาไว้แล้ว คนนี้กว่าเจ้านายของเขาจะทำให้เธอใจอ่อนยอมรับนัดได้ก็เล่นตัวอยู่นาน เวลาว่างของเธอก็แทบไม่มี ถ้าเจ้านายของเขาพลาดนัดครั้งนี้ ไม่รู้อีกนานแค่ไหนเธอถึงจะมีคิวให้“ไปไหนล่ะ ก็อยู่ห้องสิ”“แต่คุณเอกมีเดตกับคุณพระแพงนี่ครับ ผมจองโรงแรมพร้อมโต๊ะดินเนอร์ไว้ให้แล้ว สั่งโรงแรมจัดห้องนอนแบบที่คุณเอกชอบเอาไว้แล้วด้วย คุณเอกลืมหรือครับ”คนตัวบางเหลือบตามองเขา ก็พ
เสียงทุ้มตวาดก้อง จนคนทั้งสองตกใจผละออกจากกัน ชายหนุ่มในชุดสูทสากลสีดำพอดีตัวแบรนด์ดัง ดึงแขนผู้หญิงตัวบางมากอดแนบอก ดวงตาคมกริบกร้าวดุจ้องไปยังเด็กหนุ่มในชุดนักศึกษาที่เบิกตากว้างมองภาพตรงหน้าด้วยความตกใจ“นี่มันหมายความว่ายังไงดาว ผู้ชายคนนี้เป็นใคร”แม้จะรู้สึกคุ้นตา แต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยเห็นผู้ชายหล่อเหลาคนนี้ที่ไหนมาก่อน“เขา เขาเป็น..”“ฉันเป็นแฟนใหม่ของนับดาว”“ไม่จริง ดาวไม่มีวันทรยศผม คุณเป็นใครกันแน่”“ฉัน เอกอนันต์ ประธานบริษัทที่แม่ของนับดาวทำงานอยู่ ตอนนี้นับดาวเป็นของฉัน นายอย่ามายุ่งกับผู้หญิงของฉันอีก ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน”รัฐภูมิมองคนรักสาวอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา เธออยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายที่หล่อเหลา ร่ำรวย โปรไฟล์ดี และเหนือเขาในทุกอย่างไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้หญิงที่เขารัก ก็ไม่ต่างอะไรจากผู้หญิงหิวเงินทั่วไป ที่ต่อให้รักกันขนาดไหนก็แพ้กลิ่นหอมหวานของเงินอยู่ดี“ดาว..บอกกับภูมิที ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง ดาวไม่ได้ทรยศหักหลังภูมิ”“ดาวขอโทษ ดาวขอโทษนะภูมิ”คนตัวบางปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบแก้ม คนรักที่กำลังจะกลายเป็นอดีตมองมาที่เธอด้วยแววตาผิดหวัง ยิ่งทำให้หัวใจของ
“เย้ ในที่สุด เราก็เรียนจบกันแล้ว”หยาดทิพย์ เพื่อนรักของนับดาวและรัฐภูมิ กระโดดกอดคอเพื่อนรักทั้งสองทันทีที่ออกมาจากห้องสอบวิชาสุดท้ายของชีวิตนักศึกษา“เย็นนี้เราไปฉลองกันไหม”รัฐภูมิถามสองสาว วันนี้เขาโล่งเหมือนยกภูเขาออกจากอก เพราะชีวิตต่อจากนี้จะถือว่าตัวเองและคนรักเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว สามารถตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองได้เสียที“ไม่ได้น่ะสิ ฉันต้องรีบกลับบ้าน คุณหญิงแม่จองคิวเลี้ยงฉลองที่บ้านแล้ว”หยาดทิพย์ที่มักจะชอบเรียกมารดาของตัวเองแบบนั้น เพราะแม่ของเธอเป็นคนเรื่องมากและจุกจิกจู้จี้ ทุกอย่างต้องเป็นระเบียบ แถมยังสอนให้เธอเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ แต่ลูกสาวคนเล็กอย่างเธอที่มีแต่พี่ชายกลับกระโดกกระเดกราวกับม้าดีดกะโหลกจนคนเป็นแม่ปวดหัวทุกวัน“งั้นวันหลังก็ได้หยาด แกกลับบ้านก่อนเถอะ เดี๋ยวรถติด เราค่อยโทรนัดกันนะ”นับดาวกอดกับเพื่อนรักอีกครั้ง พร้อมโบกมือลาจนคนตัวบางวิ่งหายไปกับฝูงชนที่เร่งเดินออกจากอาคารสอบเพื่อรีบกลับบ้านหนีรถติด“วันนี้ดาวยังต้องไปทำธุระอีกไหมครับ”“ไม่แล้วค่ะ แต่ดาวมีอะไรอยากคุยกับภูมิ”“ที่ไหนดีครับ”“ที่บ้านดาวก็ได้ค่ะ”“โอเคครับ งั้นเราไปกันเถอะ รถผมจอดอยู่ข้างตึ
เขาเปิดแฟ้มดูก็เห็นว่าเป็นข้อมูลที่ดุจนภายักยอกเงินบริษัทไป ทั้งที่เขาสั่งพนักงานทุกคนแล้วว่าอย่าให้เรื่องนี้ถึงหูพ่อของเขาเด็ดขาด แต่ก็ยังมีคนกล้าขัดคำสั่ง“พ่อเอาเรื่องนี้มาจากไหนครับ”“จากไหนก็ช่าง ตอบพ่อมา ว่านี่มันอะไร ทำไมแกไม่บอกพ่อ”“เอ่อ ผู้จัดการฝ่ายการเงิน กับพนักงานขายร่วมมือกันยักยอกเงินบริษัทเราไปสิบห้าล้านบาทครับ แต่ตอนนี้ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรแล้วครับพ่อ”“จัดการโดยการโอนเงินส่วนตัวเข้าบริษัทสิบห้าล้าน แล้วปล่อยให้สองคนนั้นลอยนวลโดยที่ไม่ยอมไปแจ้งความงั้นเหรอ”เอกอนันต์กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ไม่มีอะไรหลุดรอดหูตาของพ่อเขาไปได้เลย แม้ท่านจะเกษียณตัวเองออกมาใช้ชีวิตท่องเที่ยวยามบั้นปลายกับแม่เลี้ยงของเขาแล้วก็ตาม“เอ่อ พ่อครับ ผมแค่เอาเงินส่วนตัวจ่ายให้บริษัทไปก่อน แล้วให้ลูกหนี้มาทำสัญญาชดใช้หนี้ที่ผมแทนครับ ไม่อย่างนั้นกว่าจะใช้หนี้กันจบ เงินในบัญชีมันก็ไม่เท่ากันเสียที จะวุ่นวายเปล่าๆ”“หึ ลูกหนี หรือลูกสาวของลูกหนี้”“พ่อ..”“แกอย่าคิดว่าพ่อไม่รู้ทันแกนะ แกกำลังจะทำอะไร บอกพ่อมาเดี๋ยวนี้”“พ่อครับ เรื่องมันก็ไม่ได้มีอะไรเลย ผมแค่ให้ลูกสาวดุจนภามาเป็นเลขาผ
เมื่อเธอวางสายแล้วก็ลุกขึ้นมานั่ง ใช้หลังมือปาดน้ำตา สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วตั้งสติ ก่อนนี้เธอเสียใจจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย จึงคิดอะไรไม่ทัน แค่คำนวณเงินเดือนแล้วได้รับรู้ว่าต้องอยู่บำเรอกามให้กับเขาหลายสิบปี สมองของเธอก็ตื้อตันจนลืมเลือนไปทุกเรื่องเธอตรงดิ่งไปเปิดตู้เซฟตู้เล็กที่แม่ของเธอติดตั้งให้ในตู้เสื้อผ้า กดรหัสที่มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ แล้วนำกล่องเครื่องประดับขนาดเล็กสองสามกล่องและกล่องไม้ที่อยู่ในนั้นออกมาเปิดบนที่นอนสร้อยและแหวนเพชรเส้นเล็กๆ แต่น้ำงามที่แม่ของเธอซื้อให้เป็นของขวัญวันสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้สะท้อนแสงล้อไฟระยิบระยับ ไม่รู้ว่าจะขายได้กี่บาท แต่มันเป็นของแทนใจที่แม่ซื้อให้ เธอไม่อยากจะขายมันเลยจึงมาเปิดกล่องกำมะหยี่สีแดงขนาดกลาง ที่ภายในบรรจุทองคำแท่งน้ำหนักหนึ่งบาท จำนวนเท่าอายุตัวเอง เพราะแม่จะซื้อให้เธอเป็นของขวัญวันเกิดแบบนี้ทุกปี“ทอง อืม อันนี้ขายได้”เธอปิดกล่องแล้ววางแยกเอาไว้ พรุ่งนี้หลังสอบเสร็จ เธอจะให้คนของเขาพาแวะร้านทอง เพื่อเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้ให้เป็นเงินสมุดบัญชีเงินฝากสองเล่มที่วางอยู่ข้างในกล่องไม้ ถูกเปิดออก เล่มหนึ่งไม่ได้มีการเคลื่อน
Komen