@คอนโดมิเนียมของเฟียร์
เจ้าของใบหน้าเฉี่ยวในชุดนักศึกษารัดรูปออกมายืนรอรถที่เธอเรียกอยู่ที่หน้าคอนโดมิเนียม มือเรียวหยิบแอร์พอดสวมเข้าที่หูพลางหยิบสมาร์ตโฟนออกมาเลื่อนหาฟังเพลงที่ชอบ
ทว่าอยู่ ๆ เสียงสนทนาจากบุคคลคนด้านหลังที่เพิ่งเดินมาถึง กลับรบกวนเสียงเพลงจากหูฟังของเธออย่างไม่ได้ตั้งใจ เรียวคิ้วสวยขมวดกันเป็นปมอย่างหงุดหงิด
มือเล็กที่จับสมาร์ตโฟนเอาไว้ก่อนหน้าตั้งใจกดเพิ่มเสียงเพลงในมือถือให้ดังขึ้นเพื่อกลบเสียงรบกวน
แต่เธอดันเผลอกดผิดกลายเป็นลดเสียงเพลงลง
“ไม่ให้พี่ไปส่งแน่นะ”
“ค่ะ ก็พี่ไม่อยากให้ใครรู้เรื่องระหว่างเรานี่คะ”
“พี่ไปส่งได้ แค่ไม่ให้ใครเห็นก็พอ”
เสียงทุ้มที่ฟังแล้วคุ้นหู จากตอนแรกที่ไม่คิดจะใส่ใจ ทว่าพอตั้งใจฟังเสียงนั่น…
ใช่ มันคือเสียงของ เพลิง
จากที่เฟียร์ต้องการจะเพิ่มเสียง เธอกลับกดลดเสียงเบาจนสุด
“อย่าลำบากพี่เพลิงเลยค่ะ พายไปเองง่ายกว่า”
แล้ว… เฟียร์ก็เผลอยืนฟังบทสนทนาของคนทั้งคู่ที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากเธอนัก สายตาคู่เฉี่ยวทำทีเป็นเมินเฉยและมองนิ่งไปยังถนนทางเข้าคอนโดมิเนียมด้านหน้าเหมือนไม่ได้สนใจ
แต่… สน
ความจริงเฟียร์ก็พอรู้อยู่บ้างว่าตลอดระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ย้ายมาอยู่คอนโดมิเนียมใหม่นี้ เธอและเพลิงพักอาศัยอยู่ที่คอนโดมิเนียมเดียวกัน หญิงสาวเห็นเขาเดินผ่านตาไปบ้าง แต่ก็ไม่เคยได้ทักทายกันเลยสักครั้ง
อย่าว่าแต่เจอหน้ากันที่มหาวิทยาลัยเลย ถึงจะอยู่กลุ่มเดียวกันก็จริงแต่ใช่ว่าเธอกับเขาจะคุยกัน ด้วยนิสัยที่เป็นคนที่ไม่เข้าหาใครก่อนของทั้งคู่ และไม่ใช่คนเฟรนด์ลี่อย่างพายุ ซึ่งรายนั้นเข้ากับคนง่ายและมักจะชวนเธอคุยก่อนเสมอ
แต่กับเพลิงไม่ใช่ เขาเป็นคนนิ่ง ๆ ที่เธอมักจะบังเอิญสบตากับเขาแบบเงียบ ๆ นอกนั้นก็แทบไม่ได้เคยคุยกันเลยสักคำ
“งอนพี่ ?”
“พายไม่มีสิทธิ์งอนพี่อยู่แล้ว ที่ทำแบบนี้เพราะพี่เป็นห่วงพายนี่ พายฟังมาล้านรอบแล้วค่ะ ฟังจนจำขึ้นใจเลย”
เสียงหวานที่กำลังพูดคุยง้องอนกับคนข้างกายอยู่ทำเอาดวงตาเฉี่ยวหรี่ลงก่อนจะเบนหน้าหนีไปอีกทาง พร้อมกับทำปากคว่ำด้วยความรู้สึกหมั่นไส้อย่างบอกไม่ถูก
ไม่ใช่ว่าอะไร แค่รู้สึกเลี่ยนหูก็เท่านั้น
“งอนจริงสินะ ง้อยังไงดีล่ะ”
เสียงบทสนทนายังดังต่อเนื่องราวกับเขาไม่เห็นเธอที่ยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ และที่น่าหงุดหงิดใจคือน้ำเสียงแปดเสียงเก้าของเขานี่สิ
จำเป็นต้องทำเสียงหวานขนาดนั้น ?
เฟียร์เบะปากคว่ำก่อนจะยกแขนเรียวทั้งสองข้างขึ้นมากอดอก ใบหน้าเฉี่ยวยังคงมองตรงไปทางถนนเพื่อหารถที่จะมารับ หากแต่หูของเธอก็คอยฟังคนข้าง ๆ ต่อไป
“ไม่รู้ค่ะ”
“แล้วคืนนี้อยากมาหาพี่อีกไหม”
ช่างกล้า ? เฟียร์เบะปากให้กับการชวนกันมาค้างคืนแบบโจ่งแจ้งไม่อายใครของเพลิง
ดูเอาเถอะ เรื่องแบบนี้จำเป็นต้องพูดออกมาแบบนี้ ช่างไม่ให้เกียรติผู้หญิงเลยสักนิด ! แต่ดูท่าแล้วอีกฝั่งที่เป็นผู้หญิงก็เหมือนจะไม่คิดอะไร กลับมีสีหน้าดีใจเสียด้วยซ้ำ
“ล่อซื้อเด็กเหรอคะ”
“แล้วพี่ทำสำเร็จไหมคะ”
หวานเวอร์ หวานเกินเบอร์มาก เฟียร์ได้แต่แอบฟังอย่างหงุดหงิด ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าจะฟังไปเพื่ออะไร แต่เธอก็ดันแอบฟังไปแล้วตั้งแต่ต้น
“แต่เราต้องกินยานะครับ”
“ก็ได้ค่ะ ยอม”
ทุเรศจริง ๆ คู่นี้ !!
ทว่าในตอนนั้นเอง
“อ้าวนั่น อุ๊บ พี่เฟียร์นี่คะ” สาวน้อยข้างกายของเพลิงหันมาเห็นเฟียร์ที่ยืนอยู่ไม่ไกล
‘แกก็ควรจะเห็นฉันตั้งนานแล้วไหม มัวแต่หลงผู้ชายอยู่นั่นแหละ’
“เรารู้จัก ?” เพลิงเลิกคิ้วตั้งคำถามพลางมองไปทางเฟียร์ที่ดูเหมือนจะไม่ได้สนใจเขากับสาวน้อยที่ยืนอยู่
“ค่ะ ที่มหา’ลัยพายพี่เฟียร์ดังมากเลยนะคะ ได้ยินว่าย้ายมหา’ลัย ที่แท้ไปเรียนมหา’ลัยเดียวกับพี่เพลิงนี่เอง” ที่เธอรู้เป็นเพราะเข็มกลัดกระดุมที่ติดอยู่บนเสื้อนักศึกษา
พะพายมองไปทางเฟียร์ด้วยสายตาชื่นชม เพราะรุ่นพี่สาวเป็นคนดังมากที่มหาวิทยาลัยของเธอ ชนิดที่ว่าไม่มีใครไม่รู้จักเฟียร์ ดาวคณะนิเทศศาสตร์
เพลิงมองแววตาเป็นประกายของคนข้างกายด้วยความประหลาดใจที่เห็นคนของตัวเองมองเฟียร์ด้วยความชื่นชมเหมือนกับเจอไอดอลประมาณนั้น ก่อนที่สายตาของเขาจะหันไปเห็นรถที่เรียกเอาไว้ขับเข้ามารับพอดี
“รถมาแล้วครับ” เขาละสายตาจากเฟียร์ก่อนหันไปบอกสาวน้อยข้างกายให้ขึ้นรถ
“เคค่ะ ไว้ดึก ๆ เจอกันนะคะ”
เพลิงเปิดประตูรถและส่งหญิงสาวขึ้นรถไป
แต่เมื่อเขาหันกลับมามองเฟียร์อีกครั้ง ก็ไม่เจอเธอแล้ว
“เต้นกัน” พายุสะกิดบ่าฉันให้หันไปหามัน ฉันเลยละสายจากเพลิงแล้วหันไปเต้นคู่กับพายุ ยั่ว ๆ บด ๆ ตามสไตล์ไปสักพักจนจบเพลง“เพลงนี้ไม่มันว่ะ ขอพัก” ฉันบอกกับกลุ่มเพื่อนก่อนจะขอตัวเดินไปที่โต๊ะของพวกนางที่อยู่ใกล้กับฟลอร์ เมื่อมาถึงโต๊ะก็จัดการชงเหล้าเองแบบเข้ม ๆ ก่อนจะกระดกดื่มเป็นน้ำเปล่า“อ่า”รสชาติขมบาดคอใช้ได้เลยแต่ก็นะ… รสชาติเหล้าถึงแม้จะขมบาดคอแต่ก็หวานบาดใจ ยังไงวันนี้ฉันก็สามารถเมาได้เต็มที่ เพราะอย่างน้อยก็มีไฟมาด้วยถ้าเมามากอย่างเก่งก็ให้มันแบกกลับแค่นั้นเมื่อหมดแก้ว ฉันถึงกับก้มหน้ากุมศีรษะตัวเองเพราะเริ่มมึนจากฤทธิ์เหล้าบวกการที่เต้นแบบสุดเหวี่ยงเมื่อกี้ แถมเสียงเพลงรอบข้างที่ยิ่งดังกระหึ่มก็ยิ่งรู้สึกมึนทว่า…“เฟียร์”เสียงคุ้นหูตะโกนเรียกฉันจากด้านหลัง ส่งผลให้ผงกหัวขึ้นมาพร้อมกับหันกลับไปมอง“อ้าว พี่บากิ” ใบหน้าหล่อเหลาของพี่บากิที่ฉันรู้จักเป็นอย่างดียืนอยู่ข้าง ๆ พร้อมส่งยิ้มมาให้“เพื่อน ๆ เราไปไหนกันหมดล่ะ”“เต้นอยู่โน้นค่ะ” ฉันพยักเพยิดหน้าไปทางกลุ่มเพื่อนที่เต้นอยู่ เพื่อบอกให้พี่บากิหันไปยังตำแหน่งเพื่อนสาวที่กำลังเต้นอย่างสนุกสนานกับพายุ“ดูท่าจะสนุกกันอยู่นะ
“ว้า แต่เพื่อนที่คบแกมาตั้งแต่มัธยมดูออกนะคะสาว” นีน่ายิ้มกรุ้มกริ่ม อาศัยความเพื่อนที่คบกับเฟียร์นานที่สุดเอ่ยขึ้น ก็นะ… ทั้งสายตาที่มองเพลิง ทั้งน้ำเสียงเวลาพูดถึงเขา มันปกปิดไม่ได้เลยสักนิด รับรู้ได้ทันทีว่าเพื่อนสาวเริ่มรู้สึกอะไรกับอีกคน“อย่ามามั่ว” เฟียร์ส่ายหน้าปฏิเสธ ทว่าแววตาคู่เฉี่ยวที่เคยดูมั่นใจกลับฉายแววไม่มั่นใจในคำพูดของตัวเองก่อนที่เธอจะโดนเพื่อนสาวทั้งสองคนคาดคั้นมากกว่านี้...“เฟียร์ !”เสียงของพายุจากด้านหลังก็ตะโกนดังขึ้นเหมือนช่วยเอาไว้ได้ทัน ใบหน้าเฉี่ยวรีบหันไปหาเพื่อนชายที่โบกไม้โบกมือเรียกเธอทันที“ไปนะ ทำหน้าที่ก่อน” เฟียร์หันกลับมาบอกเพื่อนสาว เพราะการแข่งขันรอบแรกใกล้จะจบ เธอจะต้องไปโบกธงหมากรุกเมื่อรถคันแรกเข้าสู่เส้นชัยแล้วร่างสวยหุ่นเซ็กซี่ในหน้าที่เรซควีนเดินกลับไปยังจุดโบกธง สายตาเฉี่ยวเหลือบไปเห็นเพลิงที่กำลังยกยิ้มตรงมุมปาก แต่สายตาเขากลับส่งไปทางด้านหลังเธอหึ… เฟียร์เดาได้ไม่ยากว่าเพื่อนสาวทั้งสองกำลังโบกไม้โบกมือทักพวกเขาอยู่ และก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เมื่อเธอหันไปมองยังเพื่อนสาวที่อยู่ด้านหลัง สองสาวกำลังท่าทางตามที่เฟียร์คิดเอาไว้ให้เพลิงและพา
เมื่อสองสาวลงมาถึง ทั้งสามคนรีบโผเข้ากอดกันอย่างคิดถึง แต่ก็นะ ถึงสองสาวที่กอดกับเพื่อนสาวอย่างเฟียร์อยู่ แต่สายตาของนีน่าและเฟมี่กลับชะโงกมองไปยังด้านหลังของเฟียร์ ที่มีเพลิงและพายุกำลังยืนดูจอมอนิเตอร์ที่ซึ่งกำลังฉายรถของไฟกำลังแล่นแข่งอยู่บนสนามด้วยท่าทางจริงจัง“สนใจเพื่อนก่อนค่าสาว ๆ” เฟียร์ผละออกจากกอด สายตาเฉี่ยวมองไปยังจุดที่เพื่อนสาวทั้งสองคนกำลังจ้องมองเป็นตาเดียว“นั่น เพลิงกับพายุใช่ไหม” เฟมี่เป็นฝ่ายเอ่ยถามขึ้นมาเมื่อจ้องมองไปยังสองหนุ่มอยู่นานสองนาน“อือ” เฟียร์ตอบเสียงสั้น แขนเรียวยกขึ้นกอดอกมองเพื่อนสาวทั้งสองที่กำลังแสดงสีหน้าดี๊ด๊าออกมาอย่างเปิดเผย“กรี๊ด แก... ฉันชอบพวกเขามาก ไม่คิดเลยว่าแกจะเป็นลูกพี่ลูกน้องกับไฟ ตอนอยู่ที่มหา’ลัยเก่าทำไมแกไม่เห็นบอกพวกเราเลย” เป็นเฟมี่ที่ปิดปากร้องกรี๊ดออกมา ก่อนจะหันมายังเพื่อนสาวที่กำลังยืนมองคิ้วขมวดกับท่าทางของเธอเมื่อครู่“ก็ฉันไม่อยากนับญาติกับมัน” เฟียร์เสมองไปทางอื่นอย่างติดรำคาญให้กับท่าทางของเพื่อนสาวทั้งสอง“ก็แปลกนะ มีแต่คนอยากเข้าหาพวกเขา ก็มีแต่แกเนี่ยที่ไม่อยากรู้จัก” นีน่าเอ่ย“ก็พอเข้าใจได้ พวกญาติ ๆ กันที่นิสัยเห
@สนามแข่ง Fire Speed RaceTrackเสียงฮือฮาและเสียงโห่ร้องเชียร์ของผู้เข้าชมบนอัฒจันทร์ที่กำลังตื่นเต้นกับรถแข่งสองคันซึ่งขับเคลื่อนมาจอดยังจุดสตาร์ทเมื่อรถแข่งพร้อมแข่ง ไม่นานก็ตามมาด้วย...เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นเป็นจังหวะก้าวเดิน เมื่อปรากฏร่างสวยในชุดหนังสีดำเกาะอกกระโปรงสั้นเพียงคืบกำลังย่างกรายเข้ามายืนที่หน้ารถแข่งทั้งสองคันในสนามร่างสวยหุ่นเอ็กซ์อวดทรวดทรงด้วยชุดที่โชว์สัดส่วนเผยให้เห็นผิวขาวผ่อง ขาเรียวยาวยืนเด่นหราท่ามกลางรถแข่งสองคันที่กำลังเร่งเครื่องเตรียมตัวพร้อมออกสตาร์ทเมื่อได้เวลา แขนเรียวยกธงขึ้นเหนือศีรษะเพื่อหมายสะบัดลง แววตาสวยแน่วแน่จ้องมองยังรถสองคันตรงหน้าเพื่อส่งสัญญาณให้นักแข่งเตรียมพร้อม และทันใดนั้นพรึ่บ ! เสียงผืนธงสะบัดลง รถแข่งสองคันแล่นผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผมยาวดำขลับพลิ้วไหวไปตามแรงลมก่อนที่ร่างบางจะหันกลับไปมองตามท้ายรถสองคันที่กำลังพุ่งทะยานเพื่อวนกลับมาหาเส้นชัยให้เธอได้โบกธงหมากรุกเพื่อจบการแข่งขันเมื่อได้ผู้ชนะรอบแรกเป็นการแข่งของเจ้าแชมป์สนามอย่างไฟกับผู้ท้าแข่งการแข่งเริ่มขึ้น ผู้คนก็กลับไปสนใจยังรถที่กำลังแล่นแข่งบนสนามดังเดิมเฟียร์ที
@สนามแข่ง“มาหรือยังวะ จะเริ่มแข่งแล้วนะเว้ย” พายุเอ่ยถามไฟเมื่อทั้งหมดกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่งตัวการแข่งกันกำลังจะเริ่มในอีกไม่นานแต่คนที่ทำหน้าที่เป็นเรซควีนในสนามวันนี้กลับยังไม่มีวี่แววว่าจะมาถึง“เออ กูโทร. ตามอยู่เนี่ย มึงแต่งตัวไปก่อนเลย” ไฟที่แข่งเป็นคนแรกแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว มือหนารีบกดโทรศัพท์ต่อสายหาหญิงสาวซึ่งพึ่งถูกพูดถึงอย่างร้อนรนไม่ต่างจากพายุและในทันใดนั้นเอง“โทษที อาจารย์ปล่อยช้า” เฟียร์เดินจ้ำเข้ามาด้วยใบหน้าที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ ก่อนจะเดินผ่านไฟและพายุเข้าไปยังตู้ที่เก็บเสื้อของเรซควีนเรียวขาสวยเดินผ่านเพื่อนชายทั้งสองเข้ามาก่อนจะชะงักนิ่งไป เพราะเป็นจังหวะเดียวกับที่สายตาเฉี่ยวมองไปเห็นเพลิงกำลังเปลี่ยนชุดอยู่พอดีเรือนร่างของอีกฝ่ายจัดว่าเป็นผู้ชายตัวขาวแบบขาวมาก ผิวเนียนสว่างออร่าสะดุดตาขนาดที่ผู้หญิงบางคนยังอายเธอเดินเข้ามาในขณะที่เพลิงกำลังถอดเสื้อนักศึกษาออกเพื่อใส่ชุดนักแข่ง ยังดีที่เขายังใส่เสื้อกล้ามไว้อีกตัว แม้จะเป็นอย่างนั้นแต่ด้วยหุ่นที่เต็มไปด้วยมวลกล้ามเนื้อก็ยังล่อตาให้เฟียร์เผลอมองอย่างลืมตัวกล้ามแขนแข็งแรงอัดแน่นเป็นลอน รวมถึงหุ่นแล
@มหาวิทยาลัย KING“มันมาแล้ว” เสียงของพายุพูดขึ้นเมื่อเห็นเพลิงกำลังเดินมายังพวกเขาที่นั่งประจำอยู่ภายในโรงอาหาร ก่อนร่างสูงจะเดินมาถึงกลุ่มเพื่อน โดยมีไฟ พายุ และเฟียร์ นั่งอยู่“ไงวะ ไปส่งสาวคณะไหนมาล่ะวันนี้ ถึงมาช้า” พายุเอ่ยแซวตามประสา แต่ก็มักจะเป็นเรื่องจริงเสมอ“รู้แล้วชีวิตมึงจะดีขึ้น ?” ใบหน้าหล่อเหลาเลิกคิ้วมองพลางตอบกลับเสียงเรียบก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ พายุ“หึ” ไฟแค่นหัวเราะในลำคอและส่ายหัวเบา ๆ ให้กับเพื่อนทั้งสอง อีกคนก็ปากเบาพูดมากไปเรื่อย ส่วนอีกคนก็ปากหนักมากแต่พอพูดออกมาแต่ละคำก็หนักเหมือนปาก ซึ่งสองคนนี้มักจะกวนตีนกันได้ตลอด“ครับพี่เพลิงครับ กับเพื่อนละปากแซ่บนะครับ ทีกับสาวปากหวานอย่างกับน้ำผึ้งเดือนห้า” พายุแซวอีกหนึ่งกรุบ“หรือมึงไม่เป็น ?” เสียงทุ้มเอ่ยถามกลับพลางยกมือตบบ่าเพื่อนชาย “เออลืมไป อย่างมึงถ้าชอบคือฉุดเลย”“สัสกูไม่ใช่คนป่า”ทั้งสองคนยังต่อล้อต่อเถียงกันไม่เลิก ส่งผลให้เฟียร์ที่นั่งก้มหน้าก้มตาไถไอจีเล่นอยู่ในมือถึงกับยกยิ้มที่มุมปาก เมื่อเธอดันนึกไปถึงเหตุการณ์ที่หน้าคอนโดมิเนียมในช่วงเช้าจริงอย่างที่พายุว่าไม่มีผิดเรื่องเวลาเพลิงอยู่กับสาว ๆ เป็นแบบไ