 LOGIN
LOGIN~Chapter 1~
-เวลาต่อมา-
ความเงียบสงบภายในบ้านโมเดิร์นชั้นเดียว ทำให้หญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มไม่มีใบหน้าสดใสอย่างที่ควรจะเป็น พระพายยืนมองพี่ชายของตัวเองที่กำลังนั่งกอดอกอยู่บนโซฟาตัวยาว ขณะที่ข้างกายของเขามีน้องสาวของน้ำเหนือทำแผลให้ ใบหน้าหล่อเหลาของพอตเตอร์มันมีรอยแผลจากการถูกชกเพียงเล็กน้อยเท่านั้นซึ่งมันต่างจากอีกคน
น้ำเหนือมีรอยแผลบนใบหน้าเยอะกว่าพอตเตอร์เกือบสองเท่า ต้องยอมรับในความรุนแรงของอดีตเด็กนักเรียนช่างกลอย่างพอตเตอร์
ในใจดวงน้อยของพระพายเธออยากจะไปทำแผลให้น้ำเหนือใจจะขาด แต่สายตาดุร้ายจากพี่ชายเธอที่จ้องมองเธอไม่วางตา ทำให้เธอละทิ้งความคิดนี้ไป
“กูขอโทษ” กฎเล็ก ๆ ที่ในบ้านหลังนี้จะต้องทำหลังจากที่เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันคือการกล่าวขอโทษ น้ำเหนือเอ่ยออกมาด้วยความไม่เต็มใจเลยสักนิด
“หึ มึงเลิกกับน้องกูแล้วมึงก็ไม่ควรทำแบบนี้ไอ้ห่าเหนือ” สิ่งที่เห็นทำให้พระพายพ่นลมหายใจออกจากปลายจมูกรั้นด้วยความโล่งอกอย่างน้อยทั้งคู่ก็ไม่ถึงขนาดตัดเพื่อนกัน ก่อนที่พระพายจะหมุนตัวออกไปจากโซนห้องนั่งเล่นไปยังโซนห้องนอน
ก๊อก ก๊อก~
แอ๊ดดด~
“วาโย นายช่วยไปทำแผลให้น้ำเหนือหน่อยสิ”
“กูจะนอนพาย” พระพายถือวิสาสะเข้ามาในห้องนอนของวาโย แต่ก็ได้รับคำตอบกลับที่ชัดเจน
“นะโย”
“มึงไปบอกไอ้ห่าพอตไป ใครบอกแม่งต่อยกัน ชิบหายกวนเวลานอนของกู”
“แต่นี่มันก็ใกล้เวลาไปมอแล้วนะ ทำไมโยไม่ไปอาบน้ำแต่งตัว” เสียงของพระพายทำให้วาโยดึงหมอนขึ้นมาปิดหูทั้งสองข้างไว้
“พายกูจะนอน กูจะนอน”
“ถ้าโยไม่ทำแผลให้เหนือ พายจะยุให้ปลายฝนมีแฟนแล้วนะ”
พรึ่บ!
“ไอ้เหนือมันอยู่ไหน”
“อยู่ห้องนั่งเล่น” วาโยดีดตัวลุกขึ้นอย่างฉับไว ชื่อปลายฝนทำให้เขาตื่นจากการเป็นแมวขี้เซาทันที ขณะที่พระพายก็ได้มีรอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้านวล ปลายฝนคือเพื่อนสนิทของเธอเอง และเจ้าชายปากหมาแห่งคณะแพทยศาสตร์ก็แอบชอบเพื่อนของเธอมานาน แต่ด้วยความที่วาโยไม่สามารถคุยดี ๆ กับใครได้ทำให้เขาเลือกที่จะเงียบ และไม่สานความสัมพันธ์นี้สักที
สกายเฮาส์เป็นบ้านหลังใหญ่มูลค่าหลายสิบล้าน มันเป็นบ้านที่ถูกสร้างขึ้นให้กับลูกของเศรษฐีอย่างพวกเขา ด้วยความที่พ่อแม่ของพวกเขาสนิทกันทำให้เด็กวัยรุ่นกลุ่มนี้เติบโตและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตั้งแต่เด็ก พอตเตอร์ พระพาย น้ำเหนือ น้ำชา วาโย และวิลล์
หากแต่ว่าวิลล์นั้นตอนนี้ไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศทำให้บ้านหลังนี้เหลือแค่เพียงพวกเขา 5 คน
“เรื่องที่พายส่งให้ในไลน์ มีใครอ่านหรือยัง” พระพายเปิดปากพูดเมื่อทุกคนมาอยู่รวมกันที่ห้องนั่งเล่น ดวงตากลมโตเป็นประกายตื่นเต้นเพื่อรอฟังคำตอบ
“กูไม่เล่น” น้ำเหนือตอบกลับทันทีทำให้พระพายรู้สึกเบาหวิวที่หัวใจ เธอมองอดีตคนรักด้วยความรู้สึกผิดหวังกับคำตอบของเขา ทว่า
“เพราะมึงนั่นแหละ” คำตอบกลับของน้ำเหนืออีกครั้งก็ทำให้เธอจุกกว่าเดิมหลายเท่า และน้ำเหนือก็ลุกขึ้นเดินกลับเข้าห้องของเขาไป
พรึ่บ!
“วาโยไปคุยกับเหนือหน่อยสิ”
“เปล่าประโยชน์ มึงก็รู้ถ้าเรากลับไปตั้งวงอีก ไอ้ห่าเหนือมันก็คิดถึงแต่เรื่องเดิม ๆ ของมึง เดี๋ยวได้ทุบกีตาร์ทิ้งอีก กูก็เหนื่อยจะห้าม”
“เล่นแค่เราก็ได้นิ ฉันก็โซโล่กีตาร์ได้”
“แต่ชาก็ต้องร้องอีกนะ”
“ทำไมฉันทำได้ ก็บอกว่าทำได้ไง” สาวห่ามอย่างน้ำชาชักจะหงุดหงิดกับคำตอบของพระพาย ซึ่งเธอเป็นคนอารมณ์ร้อนใคร ๆ ก็รู้
“น้ำชา” เสียงทุ้มลึกของพอตเตอร์ทำให้น้ำชานิ่งสงบดังเดิม ก่อนที่เธอจะเก็บกล่องพยาบาลและเดินกลับเข้าห้องนอนของตัวเองเช่นเดียวกันกับน้ำเหนือที่ได้เดินไปก่อนหน้านี้ และตามไปด้วยวาโยที่เดินกลับเข้าห้องของเขาไปเช่นกัน
“วิลล์อยู่ก็คงดี”
“พูดอะไรออกมา อยากให้มันคลั่งหรือไง”
“พายแค่พูดถึงเฉย ๆ ค่ะ ว่าแต่พี่เจ็บหรือเปล่าคะ”
“ถามตัวเองเหอะพาย ทำไมไม่ขัดขืนมัน มันทำแบบนี้ไม่ต่างจากข่มขืนพายเลยนะ”
“หึ ไม่หรอกค่ะ พายเต็มใจ”
“พาย…”
“อย่าบอกแด๊ดนะ”
“พี่ทนไม่ไหวพี่ก็จะบอก”
“พายไม่อยากให้ท่านรู้”
“เลิกรักมันเถอะ คนเหี้ยแบบนั้น” ไม่ใช่ครั้งแรกที่พอตเตอร์จะพูดแบบนี้ออกมา มันหลายครั้งจนเจ้าตัวยังเหนื่อยที่จะพูด
“พายขอไปแต่งตัวไปมอก่อนนะคะ” หญิงสาวเลี่ยงที่จะตอบ เธอเตรียมจะหมุนตัวออกจากตรงนี้ไป ทว่า
“พาย…”
“คะ?”
“ย้ายไปอยู่คอนโดนะ เดี๋ยวเอาเงินพี่จ่าย”
“ไม่ได้หรอกค่ะ ทำแบบนี้แด๊ดก็ยิ่งสงสัย” ไม่ใช่แค่เธอกับน้ำเหนือจะมีปัญหากัน แต่มันจะพลอยทำให้ความสัมพันธ์ของพ่อแม่เธอ และพ่อแม่น้ำเหนือนั้นสั่นคลอน
“ทีหลังอย่าลืมล็อคห้อง อย่าลืมกินยาคุมด้วย”
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยิ้มกว้างให้กับพี่ชายของเธอ ก่อนที่เธอจะหมุนตัวกลับเข้าห้องไป
ผ่านไปสักพัก…
-พระพาย-
แกร็ก~
ฉันเปิดประตูห้องออกมาก็เป็นจังหวะเดียวกันที่น้ำเหนือเปิดประตูออกมาพอดี
“เหนือ พายไปด้วยสิ”
“_” ไม่มีคำตอบกลับมีเพียงแค่สายตาคม ๆ ที่ตวัดกลับมามองฉัน เป็นอันรู้กันว่าเขาไม่ให้ไปด้วย รถของเขาเบาะข้างคนขับฉันนั่งมาตลอด แต่หลังจากเราเลิกกันมันก็มีคนมานั่งแทนฉันจนฉันนับไม่ถ้วนเลยล่ะ
“เหนือใส่กาวน์ยาวแล้วหล่อจัง” แม้ว่าใบหน้าของเขาจะพกช้ำ แต่พลาสเตอร์สีใสที่ติดอยู่บนโหนกแก้มก็ทำให้เขาดูแบดบอยขึ้นมา และยิงอยู่ในเสื้อกาวน์ยาวสีขาวแบบนี้แล้วมันก็ยิ่งทำให้ใจของฉันสั่น พอดีปีสามอย่างเราเพิ่งเข้าพิธีรับเสื้อกาวน์มา ถ้าเหนือใส่วันนี้ฉันก็เริ่มอยากใส่ด้วยแฮะ
“พายไปเอามาใส่ด้วยดีกว่า” ฉันกำลังหมุนตัวเข้าห้องของตัวเองอีกครั้งเพื่อไปเอาเสื้อกาวน์ แต่ก่อนที่ฉันจะได้เดินเข้าไป
พรึ่บ!
ตุบ!
“อ๊ะ นี่มัน…”
“ฝากไปคืนเพื่อนเธอด้วย ฝากบอกทีหลังอย่าทิ้งอะไรไว้ในห้องฉันอีก” กระเป๋าถือใบเล็กที่ฉันเห็นบอกฉันทีว่าฉันตาฝาดไป ทำไมกระเป๋าของเพื่อนสนิทของฉันถึงมาอยู่ที่ห้องเหนือได้ ฉันมีเพื่อนผู้หญิงที่สนิทกันอยู่สามคน ปลายฝน ฉัน และ…
“เมื่อคืนเหนือนอนกับเฌอรีนเหรอ…”
ทำไมต้องเป็นเพื่อนฉันด้วย
——————————
นิยายเรื่องนี้จะมีคำหยาบคายตามคาแรคเตอร์ของตัวละครนะงับ
อาจจะแสลงหูหน่อย ๆ
ฝากคอมเม้นท์ด้วยน่าา 💕💕
แปะผังตัวละคร


~Chapter 9~แม้ภายในใจจะบอบช้ำเพียงใดกับการปฏิเสธของเขา แต่เธอก็พยายามที่จะยิ้มออกมา เรียวแขนเล็กค่อย ๆ คลายออกจากลำคอแกร่งก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นสบสายตากับดวงตาคมที่มองหน้าเธอไม่ละสายตาเช่นเดียวกัน“เวลาเหนือมีอะไรกับเฌอรีน เหนือป้องกันหรือเปล่า” เสียงเล็ก ๆ ของเธอมันทำให้เขาหงุดหงิด พระพายจับชายเสื้อยืดของตัวเองก่อนจะถอดออกอย่างอ้อยอิ่ง“กลัว? กูต่างหากที่ต้องกลัว”“พายไม่ได้ทำอะไรกับใครมาเหมือนเหนือสักหน่อย” เธอพูดเสียงเบา ๆ พร้อมกับฝ่ามือบางที่ยกขึ้นปลดตะขอบราเซียร์สีหวานออก มีผลให้หน้าอกอวบอิ่มเกินขนาดดีดเด้งออกตามแรงโน้มถ่วงทันทีพรึ่บ!พระพายยกฝ่ามือขึ้นกอบกุมความอวบอิ่มนั้นไว้ในอุ้งมือเมื่อถูกสายตาคมหลุดโฟกัสมองมันอย่างลืมตัวหมับ!“อ๊ะ! ” ฝ่ามือหนาคว้าหมับที่ต้นแขนเล็กก่อนจะพลิกขึ้นมองเข็มยาคุมที่ยังคงฝังอยู่บนต้นแขนของเธออยู่ ขณะที่พระพายเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวดเมื่อถูกฝ่ามือใหญ่บิดต้นแขนอย่างแรง รอยยิ้มมุมปากของเขาบ่งบอกว่าเขาเองพึงพอใจที่เธอยังไม่ได้เอาออกแม้ว่าจะเลิกกันนานแล้ว“ก็เหนือชอบเข้าห้องพายมาทำอะไรพายหนิ” หญิงสาวเอ่ยพูดขึ้นแม้ว่าเขาไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกมา“หึ” น้ำเห
~Chapter 8~หลายนาทีต่อมา…แกร็ก~“ฉันว่าควรตั้งกฎห้ามวาโยดื่มเหล้า…” เสียงของน้ำชาดังขึ้นเมื่อเราทั้งคู่กำลังเดินออกจากห้องของวาโยหลังจากที่ช่วยกันแบกวาโยกลับมาที่บ้าน อยากถ่ายคลิบไปอวดในกลุ่มของวงเพื่อให้สาว ๆ ของวาโยตาสว่างสักที“ฉันเข้าห้องก่อนนะ” แม้ปากจะพูดไปอย่างนั้นแต่ว่าขาของฉันกลับเดินไปยังโซนนั่งเล่นซะงั้น“ห้องอยู่ทางนั้นหรือเปล่า”“อ้อ พอดีรอพี่พอตเตอร์น่ะ”“พี่พอตเตอร์ไม่กลับบ้านวันนี้ ฉันโทรถามแล้ว” ฉันทำหน้าเลิกลั่กทันที แต่ก็รีบพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะหมุนตัวกลับมาเพราะดูแล้วน้ำชาคงดูออกว่าฉันจะเดินไปโซนนั่งเล่นทำไม“ถ้าจะรอพี่เหนือน่ะ อย่ารอเลย” ฉันพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินเลี่ยงน้ำชาเพื่อเดินไปยังห้องของตัวเอง“ฉันโอเคนะ ถ้าพี่จะย้ายออก”กึก!น้อยครั้งนักที่น้ำชาจะเรียกฉันว่าพี่ มันทำให้ฉันค่อย ๆ หันหน้ากลับมามอง เธอก่อนจะยิ้มให้บาง ๆ เพราะแค่นี้น้ำชาคงเข้าใจว่าฉันอยากอยู่ที่นี่“พี่วิลล์จะกลับมา สุดท้ายพ่อแม่ก็ต้องรู้ วิลล์กับพี่เหนืออยู่ด้วยกันไม่ได้ พี่เข้าใจใช่ปะ”“อืม วิลล์กลับมาตอนไหน”“เห็นพ่อบอกว่าเทอมหน้า” ฉันพยักหน้าเข้าใจก่อนจะหันหน้ากลับไปเปิดประตูห้องตัวเองแ
~Chapter 7~-พระพาย-ฉันใช้เวลาในการไปเปลี่ยนชุดแล้วก็เดินทางมาผับแห่งนี้นานพอสมควร ฟรายเดย์เป็นผับที่ใหญ่มาก และก็มีผู้คนเยอะมาก ด้วยความที่มันเป็นศูนย์กลางความเจริญในเมืองนี้ มันตั้งอยู่บนถนนข้าง ๆ มหาลัย และไม่ไกลกับโรงพยาบาลของวาโยสักเท่าไร สถานที่แห่งนี้จึงแออัดไปด้วยผู้คนตอนนี้ฉันกำลังเดินไปโซนวงดนตรีที่อยู่ลึกเข้าไปภายในผับ เสียงเพลงร็อคที่ดังกระหึ่มเข้ามาในโสตประสาทและเสียงหวานใสที่ดังเข้ามาพร้อมกันนั้น ฉันจำได้ดีว่าเป็นเสียงร้องเพลงของใครฉันหลงใหลในเสียงดนตรี เสียงทุ้มของกลองชุดที่ดังเป็นจังหวะพานทำให้ใจของฉันมันกระหน่ำเต้นตามไปด้วย เสียงดนตรีพวกนี้มันทำให้ฉันรู้สึกหวนนึกถึงเรื่องราวในอดีต เรื่องราวการเติบโตของพวกเรากึก!“เหนือ…” ฉันพึมพำออกมาเมื่อเดินเข้ามาในโซนวงวนตรีแล้วก็พบกับน้ำเหนือ และเฌอรีนที่เดินมาจากหลังผับพร้อมกัน ฉันเข้าใจดีว่าตอนไหนที่คนในผับจะเดินไปหลังผับแบบนั้น มีไม่กี่อย่างหรอก ถ้าไม่ไปเข้าห้องน้ำ ก็ไปทำเรื่องอย่างว่ามา แต่ช่วยบอกฉันทีว่าเหนือแค่บังเอิญไปเข้าห้องน้ำพร้อมกันกับเฌอรีนฉันส่ายหน้าเบา ๆ เมื่อในหัวฉันกำลังคิดว่าฉันควรเดินไปถาม แต่ก็เพิ่งนึกได้ว
~Chapter 6~“ฝน แกรู้ปะ ถ้าฉันไม่ได้เลิกกับเหนือ ปีนี้ก็จะคบ 7 ปีแล้วที่ฉันได้ใช้คำว่าแฟนกับเหนือ” ตอนนี้ฉันกำลังนั่งอยู่บนรถเมล์กับปลายฝน เธอไม่ได้ตอบกลับอะไรฉัน เพราะฉันก็พูดแบบนี้มาเกือบ 10 เดือนแล้วตั้งแต่ที่เลิกกับเหนือมา“ในชีวิตหนึ่งเราไม่ได้ถูกกำหนดให้รักได้แค่คนเดียวหรอกนะพาย มีคนเข้ามาแล้วก็มีผ่านไป…เหนือก็เหมือนกัน” ฉันยกฝ่ามือขึ้นปาดน้ำตาที่มันไหลออกมาโดยอัตโนมัติเมื่อได้ยินคำพูดของปลายฝน“แต่ฉัน…รักเหนือมาก” ฉันอิงศีรษะลงที่ไหล่ของปลายฝนพร้อมกับหลับตาพริ้มลง“แต่เราก็ย้อนเวลากลับไปไม่ได้แล้วนะ ฉันก็ไม่อยากพูดถึงมัน เพราะแกก็ไม่รู้ว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง”“ใจที่มันพังไป มันกลับคืนมาไม่ได้หรอก ฉันรู้ ฉันไม่ได้อยากให้เหนือกลับมาคบกับฉัน…ฉันแค่ทำใจไม่ได้กับสิ่งที่เห็น กับสิ่งที่รู้ ฉันทำใจไม่ได้เลยฝน ฮือออ~”ติ๊ง!อยู่ ๆ เสียงแจ้งเตือนไลน์ในโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ทำให้ฉันสูดน้ำมูกพร้อมกับเช็ดน้ำตาออกอย่างลวกๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก็พบว่าเป็นน้ำชาเองที่เป็นคนส่งไลน์มาหา“อยู่ไหน”“กำลังกลับ”ติ๊ง!“มาฟรายเดย์ จะให้ดูอะไร”“คือ…พายไม่อยากไป” ฉันพิมพ์ตอบกลับน้ำชาทันที เพราะฉ
~Chapter 5~นาฬิกาข้อมือเรือนหรูถูกยกขึ้นมองดูเวลาก่อนที่สายตาคมของชายวัยกลางคนจะจ้องมองไปยังชายหนุ่มสองคนที่กำลังนั่งอยู่กลางโรงอาหารคณะแพทยศาสตร์“ชิบหาย พ่อมึงมาเหนือ” วาโยเอ่ยออกมาเบา ๆ เมื่อเขาเหลือบไปเห็นอาจารย์แพทย์ที่กำลังเดินตรงดิ่งมาที่เขาทั้งสอง“ชิบ…” น้ำเหนือสบถออกมาเมื่อเขาเอี่ยวใบหน้าหันหลังกลับไปมองก็พบกับผู้เป็นพ่อที่เดินตรงมาที่เขา มีผลให้ใบหน้าหล่อเหลาส่ายไปมาเบา ๆ“บางทีคุณคงมีคำตอบที่ดีสำหรับการมานั่งอยู่ตรงนี้นะ” น้ำเหนือลุกขึ้นยืนก่อนที่เขาจะค้อมศีรษะให้ผู้เป็นพ่อเล็กน้อย เช่นเดียวกับวาโย“เลทได้สิบห้านาทีครับอาจารย์” วาโยเอ่ยพูดขึ้นแทนเมื่อน้ำเหนือทำหน้าบอกบุญไม่รับ แม้ว่าจะเป็นคนที่คุ้นเคยกันแต่เมื่ออยู่ในสถานศึกษาก็ไม่อาจทำตัวสนิทสนมได้“ฝึกให้เป็นนิสัยหน่อย ชีวิตคนไข้ไม่มีคำว่าเลทได้นะ” น้ำเหนือพ่นลมหายใจออกจากปลายจมูกคมทันทีที่ได้ยินคำพูดของพ่อที่มาในคราบอาจารย์“ครับ เดี๋ยวขึ้น” เขาตอบเพียงแค่นั้นก่อนจะหันหน้าไปหาวาโยเพื่อส่งซิกให้อีกฝ่ายรีบกินข้าว ซึ่งวาโยก็รีบโดยทันที แต่ทว่า“มีไรหรือเปล่า พ่อ” น้ำเหนือมองใบหน้าของผู้เป็นพ่อด้วยความงุนงงเมื่อพ่อของเขาจ้
~Chapter 4 ~“…” ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย ถ้าหากว่าตั้งแต่เกิดมาฉันไม่มีเหนือในหัวใจตั้งแต่แรกฉันก็คงไม่รู้สึกว่างเปล่าได้ขนาดนี้ เพราะว่ามันเหมือนกับว่าฉันได้ใช้ชีวิตครึ่งหนึ่งกับเขา“อึก…” ฉันกลืนก้อนสะอื้นลงคอ พยายามที่จะส่ายหน้าไปมาเพื่อไม่ให้ใบหน้ารู้สึกร้อนเกินไป ไม่งั้นน้ำตาคงไหลแน่ ๆฉันยังคงยืนอยู่ที่เดิมแม้นว่าเฌอรีนจะเดินออกไปไกลแล้ว และตอนนี้ก็มีคนกำลังเดินผ่านฉันไปมาด้วยความเร่งรีบเพื่อเข้าคลาสในภาคบ่าย จริงอย่างที่เฌอรีนพูดฉันไม่มีสิทธิ์ไปห้ามเธอหรือห้ามเหนือ มันต้องเป็นฉันเองในฐานะแฟนเก่าที่ควรจัดการความรู้สึกตัวเองพรึ่บ!“ยัยโง่…”“ฮืออ~” เสียงทุ้มลึกของวาโยทำให้ฉันร้องไห้ออกมา ฉันไม่รู้ว่าวาโยมาตอนไหนแต่พอมาถึงเขาก็รั้งศีรษะฉันเข้าซบที่แผงอกแกร่ง คงเป็นเพราะว่าน้ำตาของฉันที่มันไหลออกมาแน่ ๆ มันก็เลยทำให้วาโยทำแบบนี้“น้ำมูกมึงเปื้อนเสื้อกาวน์กูว่ะพาย” ฉันยังคงสะอื้นไห้ แม้ว่าคำพูดของวาโยจะทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมา“ฮึก…”“จะเข้าไหมแล็บ กูพาไปเที่ยว” นานพอสมควรกว่าที่เสียงวาโยจะดังขึ้น ฉันก็เลยค่อย ๆ ขยับตัวออกห่างจากวาโย พร้อมกับยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออกอย่างลวก ๆ ก่อ








