เธอถูกเขาปลุกเร้าอารมณ์ขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า มือหนายื่นไปบีบเค้นอกอวบสองเต้า หลับตาเชิดใบหน้าขึ้นอีกครั้งเมื่อลาวาขาวขุ่นกำลังจะถูกปลดปล่อยออกมา
เมื่อไม่สามารถทานทนต่อความเสียวซ่านและคั่งค้างภายในได้อีกต่อไป สะโพกหนาก็กระตุกปลดปล่อยน้ำรักใส่ถุงยางอนามัยอีกครั้งทันที "อึก อ๊าสสส" ร่างเล็กทิ้งตัวลงบนที่นอนหลับตาอย่างเหนื่อยหอบ ส่งผลให้จุดเชื่อมหลุดออกจากกันทันที มีน้ำหวานของเธอไหลย้อนออกมาเปื้อนบนผ้าปูที่นอนเป็นวงกว้าง ในขณะที่เขากำลังดึงถุงยางที่มีน้ำรักโยนทิ้งไปอีกครั้ง "เอาอีกไหม" ใบเฟิร์นลืมตาขึ้น เอี้ยวหน้ามามองชายหนุ่มที่กำลังยืนโชว์แก่นกายใหญ่อยู่ข้างเตียง ใจเธออยากเอาอีก แต่ดูเหมือนร่างกายเธอจะไม่ไหวแล้ว "นอนก่อนได้ไหมคะ" "เธอไม่ไหวแล้ว"เขาพูดไปตามสิ่งที่เห็น เพราะขนาดเขาที่ร่างกายแข็งแรงกำยำ ขึ้นชื่อเรื่องความอึด ก็เล่นเอาเหนื่อยไปเหมือนกัน เลยกำลังจะก้มตัวจะหยิบเสื้อผ้าที่เกลื่อนอยู่บนพื้นมาใส่ แต่ทว่าร่างเล็กลุกขึ้นมาคว้าแขนเขาเอาไว้เสียก่อน "อีกรอบก็ได้ค่ะ" เธอดึงตัวเขาให้ขึ้นมาบนเตียงอีกครั้ง ก่อนจะเป็นฝ่ายหยิบถุงยางอนามัยมาสวมให้เขาเอง และอ้าขาเรียวเชิญชวนคนตัวสูงด้วยท่าทางยั่วยวน "พรุ่งนี้เดินไม่ไหว อย่ามาโทษฉันแล้วกัน" คนเขาอุตส่าห์หวังดี อดทนอดกลั้นไม่อยากทำอะไรเธออีกเพราะเห็นว่าเป็นครั้งแรก กลัวว่าร่างกายจะรับไม่ไหว แต่ดูเหมือนเธอจะอึดกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก หลังจากประโยคนั้นของคนตัวสูง ความปรารถนาที่ไม่คิดเก็บกักของคนสองคนก็ระเบิดออกมาทันที ต่างฝ่ายต่างกระหน่ำเข้าใส่กันอย่างไม่มีลดละ ไม่ใช่แค่รอบเดียวอย่างที่ตกลงกันไว้ เมื่อทั้งสองคนยังไม่หมดความต้องการต่อกันง่าย ๆ ก็พุ่งเข้าใส่กันจนเกือบรุ่งสาง ไทเกอร์รู้สึกตัวตื่นอีกทีตอนสิบโมงกว่า เพราะได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น มือหนาเลยควานหาเสียงนั้นและกดรับเอามาแนบหู "เฮีย! ยังไม่ตื่นเหรอครับ" ดวงตาคมปรือขึ้นมองโทรศัพท์ในมือตัวเอง ก็ชะงักไปทันที ไม่ผิดแน่ว่ามันคือโทรศัพท์ของเขา แสดงว่าคนตัวเล็กโกหกว่าเมื่อคืนไม่ได้เอาโทรศัพท์มาและเป็นคนเปิดเครื่องไว้ให้เขา "เออ มีอะไร?" "รถที่ซ่อมอีกคันเสร็จแล้วครับ ผมเลยอยากให้เฮียเข้าไปดูหน่อย ว่าเฮียพอใจหรือเปล่า" "เออ เดี๋ยวกูไปดูเอง" กำปั้นหนายกขึ้นทุบหัวตัวเองหลายครั้งเพื่อเรียกสติ เมื่อประมวลผลทุกอย่างได้ก็หันไปมองที่นอนข้างกาย ที่ตอนนี้ว่างเปล่า มีเพียงร่องรอยสมรภูมิสวาทเมื่อคืนที่ทิ้งคราบไว้เป็นจุด ๆ มีหยดเลือดจาง ๆ หลายวง ข้างเตียงเต็มไปด้วยถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วเกลื่อนพื้น แต่ไร้วี่แววของคนตัวเล็กเมื่อคืน ร่างสูงลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายเกลื่อนพื้นมาสวมใส่ รู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัวโดยเฉพาะช่วงเอว น่าจะเพราะเขาไม่ได้ใช้ช่วงล่างหลายชั่วโมงมานานมากแล้ว ขนาดเขายังปวดเอวขนาดนี้ แล้วใบเฟิร์นเธอไม่ปวดบ้างหรืออย่างไร ทั้งที่เป็นครั้งแรกของเธอ ถึงได้รีบกลับไปขนาดนี้ เมื่อรู้สึกว่าความคิดตัวเองฟุ้งซ่านเกินไป จึงสลัดความคิดพวกนั้นทิ้งไป เธอจะเป็นยังไงก็เรื่องของเธอ ตอนนี้เขาได้โทรศัพท์คืนมาแล้ว หลังจากนี้เขากับเธอคงไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกันอีก ส่วนใบเฟิร์นที่กลับถึงบ้านตอนเช้ามืด เธอออกมาจากห้องพักโรงแรมม่านรูดตอนตีสี่ เพื่อจะมาให้ทันเวลาที่คนในบ้านยังไม่ตื่นนอน ปกติหากเธอออกไปเที่ยวผับ เธอจะกลับมาถึงบ้านตอนเที่ยงคืนกว่า แต่เมื่อคืนเป็นครั้งแรกที่เธอไปนอนโรงแรมกับผู้ชาย เลยกลับมาช้ากว่าปกติ ตอนเข้าบ้านมาเธอก็ลุ้นใจแทบขาดว่าจะมีใครตื่นบ้างหรือยัง โชคยังดีที่ยังไม่มีใครตื่นแม้กระทั่งแม่บ้าน เธอเลยไขประตูหลังบ้านเข้ามาได้โดยที่ไม่มีใครเห็น ขณะกำลังส่องกระจกมองดูร่างกายตัวเองอยู่ในห้องน้ำ เธอก็เห็นร่องรอยตามเนื้อตัวของเธอขึ้นเขียวช้ำหลายจุด น่าจะเกิดจากฝ่ามือหนาที่บีบขย้ำตามร่างกายของเธอ สัมผัสของเขายังติดตรึงอยู่ตามร่างกาย โดยเฉพาะกลางกายที่เธอรู้สึกเจ็บทุกครั้งที่ขยับ แน่นอนเธอรู้ว่ามันต้องบวมและช้ำมาก เพราะเธอกับเขาเล่นเกมสวาทไปหลายยกติดต่อกัน อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกของเธอ ตอนนี้เธอก็ได้รู้รสชาติของเซ็กซ์ครั้งแรกแล้ว ที่เคยได้ยินมาว่ามันเจ็บมากนั่นคือเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องโกหก แต่ทว่ามันก็มีความเสียวและสุขมากเช่นกัน อีกทั้งช่วงเวลานั้นมันก็ทำให้เธอทิ้งความเครียดทุกอย่างลงไปได้ ภายในหัวของเราจะโฟกัสแค่ความสุขตรงหน้าเท่านั้น ถ้าถามว่าเธออยากลองอีกหรือเปล่า ก็ต้องตอบว่าอยากลองอีก แต่ทว่าเธอก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ทำแบบนี้กับใครอีกครั้ง ในเมื่อเธอตั้งใจแล้วว่าจะไม่ไปเจอไทเกอร์อีก เขาคนนั้นคือคนแรกของเธอ แต่หลังจากนี้เราสองคนคงเป็นแค่คนแปลกหน้ากันเหมือนเดิม นึกย้อนไปตอนที่เกมสวาทจบลงและเขาหลับไป เธอไม่ได้นอนหลับในทันที เอาแต่นอนมองหน้าเขาในความมืดสลัว ในใจได้แต่คิดว่าเธอคงเป็นผู้หญิงที่เขาเกลียดที่สุด ทุกคำพูดที่เขาด่าทอหรือแม้แต่คิดกับเธอ เธอจะจำทุกคำ ทุกประโยคไว้ในใจ ผู้ชายอย่างเขาคือผู้ชายที่น่ารังเกียจที่ชอบตัดสินคนอื่นโดยที่ยังไม่รู้จักตัวตนคนนั้นดีพอ “ทำไมตื่นสายนักล่ะ แม่ว่าจะให้ป้าแนนขึ้นไปตามอยู่พอดี” ใบเฟิร์นลงมาจากห้องเกือบเที่ยง เธอรู้อยู่แล้วว่าหากเที่ยงแล้วเธอไม่ลงมา แม่ต้องให้แม่บ้านไปตามเธอแน่นอน เลยเป็นฝ่ายลงมาก่อน “ปวดหัวนิดหน่อยค่ะ แม่มีอะไรหรือเปล่าคะ” “เมื่อวานแม่ไปทานข้าวกับป้ากัน เพื่อนแม่สมัยมัธยมมา แล้วทีนี้ลูกชายเขาก็ยังโสดนะลูก อยากลองไปทำความรู้จักกับพี่เขาไหม” “แม่คะ ขอได้ไหมคะ”ใบเฟิร์นพูดออกมาด้วยความเหนื่อยใจ เธอรู้อยู่แล้วว่าแม่ยังคงไม่หยุดความพยายามเรื่องที่จะจับคู่เธอกับลูกชายของเพื่อนหรือคนรู้จักให้เธอ พลาดหวังจากใครสักกี่คน แม่ก็ยังไม่คิดหยุดทำแบบนี้ กลับยิ่งเสาะหาลูกชายของเพื่อนที่ยังโสดนัดดูตัวกับเธอ “แม่ก็เห็นว่าไม่มีใครชอบหนูสักคน บางทีที่พวกเขามาทานข้าวกับหนูอาจเพราะโดนบังคับมาเหมือนที่แม่กำลังบังคับหนู แม่ไม่อายแต่หนูอายแล้วค่ะ” “อายอะไร ก็แค่นัดกินข้าวกัน ถ้าไปต่อกันไม่ได้ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ลูก อีกอย่างแม่ก็เอารูปหนูให้พี่เขาดูก่อนแล้วนะ เขาก็เป็นคนบอกป้ากันมาเองว่าอยากลองทำความรู้จักกับลูกดู ป้ากันไม่ได้บังคับอะไรพี่เขาอย่างที่ลูกคิดเลยนะ” “จริงเหรอคะ” “จริงสิ”เฌอเอมพยักหน้าทันที ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ลูกสาวตัวน้อยของเธอก็ยังคงเป็นคนว่านอนสอนง่ายแบบนี้เสมอไป เธอไม่เคยต้องเหนื่อยใจอะไรกับลูกสาวคนนี้เลยสักครั้งเดียว “หนูขออะไรสักอย่างได้ไหมคะ” “อะไรลูก?” “ถ้าคนนี้ไม่เป็นไปตามที่แม่คิดอีกหรือเราสองคนไปต่อกันไม่ได้ หลังจากนี้หนูขอเลือกเองได้ไหมคะ” “ได้สิลูก แม่เองก็ไม่อยากบังคับลูกแล้วเหมือนกัน” “จริงนะคะ”เธอถามแม่เพื่อความแน่ใจอีกครั้ง และภาวนาในใจให้ลูกชายเพื่อนแม่คนนี้ไม่ชอบเธอเหมือนทุกคนก่อนหน้า เธออยากจะมีอิสระหลุดพ้นจากเรื่องพวกนี้เสียที “จริงสิ” “งั้นวันนี้หนูขอออกไปหาช็อปปิ้งเสื้อผ้าที่ห้างได้ไหมคะ จะได้หาชุดสวย ๆ ใส่ไปทานข้าวกับพี่เขาค่ะ” “ได้สิ ให้ลุงชิดไปส่งนะ จะได้ไม่ต้องขับรถไปให้เหนื่อย”ตุ๊บ! ตุ๊บ! "เพราะพี่นั่นแหละไอ้คนหื่น ไหนบอกว่าจะพอรอบเดียว ทำไมพี่ทำจนเกือบเช้า พี่ก็รู้ว่าฉันต้องตื่นมาเลี้ยงลูก" "โทษพี่คนเดียวได้ที่ไหน เธอเองก็เด้งเข้าสู้พี่ไม่หยุดเหมือนกัน ลองเธอไม่ยั่วสิ พี่ก็หยุดไปตั้งนานแล้ว" ดวงตากลมโตเบิกโพลงเมื่อได้ยินคำพูดของเขา เธอใช้นิ้วยิกเอวหนาของเขาอย่างแรง คราวนี้คนตัวสูงร้องโอดโอยทันที เพราะจุดนั้นคือจุดที่เขาอ่อนไหวที่สุด "นี่พี่โทษฉันเหรอ" "เปล่านะ" "ก็ดี ฉันจะงด ไม่ให้พี่แตะต้องฉันอีก หลังจากนี้เหลือแค่อาทิตย์ละครั้งเท่านั้น" ไทเกอร์หน้าซีดเผือดทันที เมื่อเห็นท่าทางเด็ดขาดของเมีย ทว่ายังไม่ทันได้โต้แย้งอะไรออกไป ก็ได้ยินเสียงแผดร้องของลูกแฝดดังออกมาจากห้องนอนอีกฝั่ง ที่ก่อนหน้ามันคือห้องนอนเล็กติดกับห้องนอนของเขา ที่เขาให้คนมารีโนเวทจนกลายเป็นห้องเดียวกัน แค่เดินไปไม่กี่ก้าวก็เข้าถึงตัวลูกได้อย่างไว "โอ๋ ๆ ไลออนของพ่อ ไม่ร้องครับ พ่อมาแล้วครับ" เป็นไลออนลูกชายคนโตที่แผดเสียงร้องทันทีที่ตื่นนอน ส่วนอีกสองคน ลีโอและไลลาก็ตื่นนอนแล้วเหมือนกัน แต่ทว่านั่งเล่นตุ๊กตาอยู่ในเปลนอนด้วยท่าทีสนุกสนาน สักพักเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินตามเข้ามาในห้
"อืม อ๊าสส" ใบเฟิร์นครางเสียงแผ่ว รู้สึกถึงแรงดึงดูดและความร้อนแรงที่แผ่ซ่านไปทั้งตัว มือเล็กยกขึ้นโอบรอบคอแกร่งแน่น พยายามดึงเขาเข้ามาใกล้ร่างเธอมากที่สุด ราวกับไม่อยากให้เขาหยุดปรนเปรอร่างกายของเธอ “คืนนี้ผัวจะทำให้เมียหายเหนื่อยเองนะ”คนตัวสูงกระซิบเสียงทุ้มต่ำ คำพูดของเขาทำให้เธออยากหัวเราะออกมา ไม่รู้ว่าเธอจะหายเหนื่อยหรือเหนื่อยเพิ่มกันแน่ ดูจากใบหน้าแดงก่ำที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของเขาตอนนี้แล้ว เธอว่าน่าจะอย่างหลังมากกว่า ฝ่ามือของเขาเลื่อนลงไปสัมผัสผิวเนื้อเนินอวบอิ่มด้านล้าง เธอครางตอบด้วยความรู้สึกทั้งเหนื่อยและเร่าร้อน ร่างกายแกร่งของไทเกอร์ประกบร่างกายเธอแนบชิด ทุกแรงกอด ทุกจูบ ทุกสัมผัสของเขาส่งตรงไปถึงหัวใจและร่างกายของเธอที่ร้อนผ่าวไปทั้งตัว เสียงลมหายใจปะปนกับเสียงครางตอบสนองแรงปรารถนาของเขาอย่างเต็มที่ "อื้อ~ อ๊าสส" ฝ่ามือหนาของคนตัวสูงลูบไล้ตามซอกคอขาว ไล่ลงมาถึงไหล่บาง ก่อนจะลากมาประกบสองเต้าอวบอิ่ม ที่หลังจากคลอดลูกแฝด อกอวบอิ่มของเธอ กลายเป็นผลแตงโมขนาดใหญ่ ที่บรรจุน้ำนมไว้ให้ลูกแฝดทั้งสามคน "อยากดูดนมเมีย" นิ้วเรียวยาวบีบบี้ตรงจุกยอดจนมีน้ำนมไหลผุดซึมออกมา คน
สองปีต่อมา แสงแดดยามสายสาดส่องเข้ามาในห้องครัวที่แสนวุ่นวาย ได้ยินเสียงร้องและเสียงหัวเราะของเด็กน้อยแฝดสามในวัยหนึ่งขวบดังไม่หยุดหย่อน ไทเกอร์คุณพ่อสุดห่ามถือถ้วยข้าวต้มอยู่ในมือ พยายามป้อนไลออนลูกชายคนโต ที่กำลังเอื้อมมือไปหยิบของเล่นจากพื้น “ไลออนครับ อย่าโยนช้อนพ่อครับ”เขาพูดพร้อมหัวเราะเบา ๆ ไลออนเองก็หัวเราะลั่นดีใจที่ได้แกล้งให้คนเป็นพ่อให้หัวร้อน ก่อนจะแอบดึงผ้ากันเปื้อนที่ใส่อยู่โยนทิ้งไปบนพื้น วุ่นวายคนเป็นพ่อต้องหยิบกลับขึ้นมาใส่ให้ใหม่ ส่วนใบเฟิร์นยืนอยู่ใกล้โต๊ะกินข้าวของลูกน้อยทั้งสามคนอีกฝั่ง กำลังป้อนข้าวไลลาลูกสาวแฝดคนเล็กของเธอ ขณะเดียวกันลีโอลูกชายคนกลางก็ปีนขึ้นบนเก้าอี้พยายามจะเอาช้อนของไลออนมาจากมือคนเป็นพ่อ “พอได้แล้วนะลูก”เธอพูดพลางใช้มือดันลีโอลูกชายคนกลางให้กลับไปนั่งบนเก้าอี้เหมือนเดิม “ถ้าไม่กินข้าวก็ห้ามไปเล่นของเล่นเลยนะ” คนตัวสูงอมยิ้มพลางมองหน้าเมียสุดที่รัก ที่ทำเป็นดุลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ก่อนจะรีบยื่นมือไปรับลีโอที่เกือบตกลงมาจากเก้าอี้ มืออีกข้างก็ถือชามข้าวต้มที่อีกนิดเดียวก็จะหกเกลื่อนพื้น ความวุ่นวายที่เห็น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแทบทุกวัน ทำ
กลีบกุหลาบโปรยปรายอยู่บนผ้าปูสีขาวสะอาด กำลังกระพือขึ้นลง เพราะการขยับตัวของบ่าวสาวในคืนเข้าหอ ไทเกอร์โน้มใบหน้าลงประกบจูบอย่างดุดัน รสจูบหนักแน่นจนแทบทำให้ใบเฟิร์นหายใจไม่ทัน ก่อนจะผ่อนคลายลงเป็นความอ่อนโยนอบอุ่นที่แฝงความโหยหา มือแกร่งค่อย ๆ ไล้ไปตามเรือนร่างสมส่วนที่สั่นสะท้านของเธอ ปลดปล่อยพันธนาการของชุดเจ้าสาวทีละชิ้นช้า ๆ เสียงเนื้อผ้าเสียดสีกับผิวกายขาวผ่องดังแผ่วเบาแต่กลับยิ่งปลุกเร้าอารมณ์คนทั้งคู่ให้รุนแรงขึ้น สายตาชายหนุ่มมีทั้งความหลงใหลและการอยากครอบครองอย่างชัดเจน "วันนี้เฟิร์นสวยมาก สวยจนพี่อยากจะเข้าไปต่อยหน้าคนในงานทุกคนที่จ้องมองเมีย" คนตัวเล็กพยายามหลบสายตาเพราะความเขินอาย แต่กลับถูกเขายกคางขึ้น บังคับให้สบตากัน "อย่าหลบตา คืนนี้พี่ต้องการเห็นหน้าเมียตลอดเวลาที่พี่จะทำให้เมียมีความสุข"น้ำเสียงทุ้มต่ำทำให้เธอรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วทั้งร่าง เมื่อร่างกายไม่มีสิ่งใดกั้นขวางอีกต่อไป ฝ่ามือหนาก็เริ่มการสัมผัสแนบผิวเนื้อนุ่มอย่างชัดเจน ความอุ่นซ่านจากผิวกายของคนตัวสูง โอบล้อมร่างกายเธอไว้อย่างแนบแน่น เสียงหอบหายใจประสานกันไปกับการเคลื่อนไหวของฝ่ามือหนาที่เริ่มเร่าร้อนข
ค่ำคืนที่เปรียบเสมือนดั่งเทพนิยายที่ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นความจริง แสงไฟระยิบระยับสาดส่องไปทั่วห้องจัดเลี้ยงโรงแรมหรูหราที่ถูกเนรมิตให้กลายเป็นปราสาทกลางเมืองในจินตนาการ ผ้าม่านสีขาวนวลประดับด้วยคริสตัลใสและดอกกุหลาบสดนับพันดอกถูกจัดเรียงอย่างประณีต กลิ่นหอมละมุนลอยคลุ้งไปทั่ว สร้างบรรยากาศโรแมนติกเกินบรรยายให้กับงานแต่งงานของไทเกอร์และใบเฟิร์น แขกผู้มีเกียรติทั้งนักธุรกิจ เพื่อนสนิท และคนสำคัญในวงการ ต่างแต่งกายด้วยชุดราตรีและสูทสุดหรู เสียงดนตรีสุดโรแมนติกดังคลอเบา ๆ ทำให้ทุกสายตาหันไปยังคู่บ่าวสาวที่กำลังก้าวเข้าสู่ห้องโถงใหญ่ ไทเกอร์อยู่ในชุดสูทสั่งตัดเข้ารูปสีดำตัดกับเสื้อเชิ้ตขาวสะอาด สายตาคมแฝงไปด้วยความสุขและความภาคภูมิใจ ส่วนใบเฟิร์นเธอดูงดงามราวเจ้าหญิงในชุดแต่งงานสีงาช้างที่ปักด้วยคริสตัลเลื่อมแวววาวทั้งชุด ผ้าคลุมยาวระยิบระยับสะท้อนกับแสงไฟ รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอทำให้บรรยากาศทั้งงานสดใสขึ้นมาทันตา เมื่อทั้งสองคนขึ้นมายืนบนเวที เสียงพิธีกรกล่าวเชิญชวนแขกทุกคนให้เป็นสักขีพยาน เป็นการกล่าวขอบคุณแขกเหรื่อในงานและมีการพูดคุยเกี่ยวกับความรักที่ผ่านมาของเจ้าบ่าวเจ้าสาว ที่มีเสียงโ
ช่วงนี้ที่สนามแข่งกำลังจัดการแข่งขันรถยนต์ระดับประเทศอีกแล้ว ทำให้ไทเกอร์แทบไม่มีเวลาส่วนตัวกับแฟนสาว ตอนนี้เขาคบกับใบเฟิร์นครบหนึ่งปีพอดี เวลาที่ผ่านมาก็มีทั้งสุข ทั้งเศร้า มีรอยยิ้มและมีทะเลาะกันบ้าง ตามประสาคนที่อยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลา จะห่างกันแค่ช่วงที่สนามแข่งมีการแข่งขันเท่านั้น อย่างวันนี้เขาก็โทรหาให้เธอมาหาเขาที่สนาม เพราะวันนี้คือวันสุดท้ายของการแข่งขัน ซึ่งเธอก็ตอบรับทันที โดยเธอบอกเขาว่าจะมาถึงสนามแข่งตอนหนึ่งทุ่ม เพราะมีนัดกับปั้นแป้งไปช็อปปิ้งกันตามประสาผู้หญิง “กูกลับก่อนนะ รันเวย์ไม่ค่อยสบาย” ฟรินท์เองก็ยุ่งจนหัวหมุนในแต่ละวัน เขาต้องวิ่งวุ่นที่บริษัทและสนามแข่ง เพราะไม่อยากให้เพื่อนจัดการคนเดียว แค่เขาเข้ามาช่วยดูหลาย ๆ ส่วน เพื่อให้ไทเกอร์ได้พักผ่อนบ้าง “แล้วมึงช้าอยู่ทำไมว่ะ หลานกูไม่สบาย ทำไมพี่เรนไม่โทรหากูเลยว่ะ” “มึงอ่ะ เมื่อไหร่จะแต่งงาน”ฟรินท์เลิกคิ้วถามเพื่อน เพราะเขามั่นใจแล้วว่าตอนนี้ไทเกอร์พร้อมจะมีครอบครัวแล้วจริง ๆ อีกอย่างแม่ยายของเขาก็ถามไถ่อยู่ตลอดว่าไทเกอร์มีแง้มเรื่องแต่งงานให้ฟังบ้างหรือเปล่า ท่านไม่อยากให้ลูกชายอายุเลยสามสิบไปแล้ว ถึงจะมีลู