Home / วัยรุ่น / Bad Trap กับดักรักวิศวะ / กับดักรัก 8 | ต้องดิ้นรน…

Share

กับดักรัก 8 | ต้องดิ้นรน…

last update Last Updated: 2025-10-04 18:45:39

วันต่อมา

มหาลัยวิทยาลัยวาแซร์

ตึกตัก ตึกตัก

เสียงร้องเท้ากระทบทางเดินของโดมที่เชื่อมไปยังตึกคณะมนุษย์ฯ ร่างบางในชุดนักศึกษาวิ่งหอบเหนื่อยด้วยความเร่งรีบ วันนี้มีการเฉลยพี่รหัส แถมเซลีนยังมาสายเพราะรอรถโดยสารนาน

เมื่อมาถึงทุกคนก็นั่งประจำที่หมดแล้ว ทำให้เซลีนดูโดดเด่นเป็นที่สุด ร่างบางเกิดความประหม่าเมื่อโดนสายตาทุกคนมองมาราวกับตัวเองเป็นตัวประหลาด

“ขอโทษ…”

“มาสายห้านาที” เสียงรุ่นพี่ผู้หญิงเอ่ยกับเซลีนอย่างเอาเรื่อง สายตาเหลือบมองนาฬิกาข้อมือที่ยกขึ้นดู ‘หนามเตย’ รุ่นพี่คณะและหัวหน้าของคณะเชียร์เอ่ย

“ขอโทษค่ะ เซย์รอรถนาน แถมวันนี้รถก็ติดมากๆ ด้วยค่ะ”

“รถก็ติดทุกวันนั่นแหละ น่าจะเผื่อเวลาดีๆ นี่คือวันสำคัญนะน้อง” หนามเตยยังคงยืนเท้าเอวมองเซลีนด้วยแววตาเหยียดๆ น้ำเสียงไม่ได้ดังมากนัก แต่ทุกคำพูดฟังดูแรงชัดเจนจนคนรอบข้างเริ่มเงียบรอฟังสถานการณ์ตรงหน้าอย่างสนอกสนใจ

“ขอโทษจริงๆ ค่ะ เซย์ไม่ได้ตั้งใจ”

“ไม่ตั้งใจ แต่มาสาย?” หนามเตยเลิกคิ้ว มุมปากยกยิ้มเหยียดเล็กน้อย

เซลีนได้แต่ยืนจ๋อย ไม่เข้าใจว่าทำไมบรรยากาศถึงตึงเครียดขนาดนี้ ทั้งที่ก็เป็นแค่การเฉลยพี่รหัส ทำไมต้องทำเหมือนเธอไปเผาบ้านใครมาแบบนั้นด้วย

เสียงซุบซิบเริ่มดังขึ้นรอบห้อง หลายคนเหลือบมองเซลีน ตั้งแต่หัวจรดเท้า

“งั้นเธอก็รอเฉลยพี่รหัสรอบสุดท้ายแล้วกัน ยืนตรงนั้นก่อน อย่าเพิ่งไปนั่ง”

คำพูดนั้นทำเอาเซลีนยืนตัวเกร็ง รู้สึกเหมือนกำลังเป็นนักเรียนที่ถูกครูลงโทษให้อยู่หน้าห้อง ทั้งที่คนอื่นนั่งสบายในห้องแอร์

หนามเตยเหลือบตามองเซลีนอย่างหงุดหงิด ไม่รู้ทำไม พอเห็นหน้าหวานๆ ของน้องปีหนึ่งคนนั้นแล้วมันก็ขัดหูขัดตาไปหมด ยิ่งเห็นพวกรุ่นพี่ผู้ชายเดินผ่านแล้วเหลือบมองเซลีนอยู่เรื่อยๆ ความหงุดหงิดในใจหนามเตยก็ยิ่งพุ่งปรี๊ดขึ้นทุกที

“โอเคทุกคน เดี๋ยวเราจะเริ่มเฉลยพี่รหัสกันอย่างเป็นทางการกันเลยนะ” หนามเตยหันไปจัดแจงบรรยากาศเสียงแจ่มใสในแบบของรุ่นพี่หัวหน้าคณะเชียร์ แต่แววตายังแอบมองเซลีนตลอดเวลา

เวลาผ่านไปสักพัก ชื่อของเพื่อน ๆ หลายคนถูกขานออก บางคู่ก็กรี๊ดกร๊าดกันอย่างดีใจ บ้างก็ยิ้มขำ บางคู่ก็ตัวติดหนึบเหมือนจะเปิดตัวแฟน

“คนสุดท้าย เซลีน พี่รหัสคือ…” เสียงของหนามเตยเว้นวรรคเล็กน้อย แต่ก็แอบเคืองเหมือนกันเพราะพี่รหัสของเซลีน คือ หนุ่มหล่อประจำคณะ “พี่โรม”

เสียงฮือฮาดังขึ้นทันที เซลีนเบิกตากว้าง ไม่ใช่เพราะรู้จัก แต่เพราะ ‘โรม’ คือประธานชมรมกีฬา หน้าตาดี หุ่นดี และเป็นที่หมายปองของสาวๆ แถมยังเป็นคนที่หนามเตยชอบ

โรมลุกขึ้นแล้วยิ้ม เดินเข้าไปหาหาเซลีน ก่อนจะยื่นของขวัญเล็กๆ ให้เธอ

“ยินดีต้อนรับสู่สายรหัสครับ”

“ขอบคุณค่ะ” เธอรับของขวัญจากพี่รหัสมาด้วยรอยยิ้มบางๆ แต่แล้วเสียงของรุ่นพี่หนามเตยพลันดังขึ้น กลับมาทำให้คนฟังอึดอัดอีกครั้ง

“ครั้งหน้าอย่ามาสายอีกนะคะน้องเซย์ ทำเพื่อนรอนี่ไม่ควร” คำพูดของหนามเตยทำให้บรรยากาศเย็นวูบ

เซลีนชะงัก ดวงตาฉายความสับสนเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าเธอไปทำอะไรให้ผิดนักหนา แต่ก็ยังคงก้มศีรษะเล็กน้อยเพื่อแสดงความเคารพ

“น้องมาสายห้านาทีเองเตย หยวนๆ ให้น้องหน่อย ทำเหมือนตัวเองไม่เคยมาสายวันประกาศสายรหัส” โรมพูดขึ้นเสียงเรียบ หนามเตยที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกไม่พอใจแต่เก็บอาการ

หนามเตยไม่ตอบกลับแต่เดินออกไปหากลุ่มเพื่อนตัวเอง การที่โรมพูดเข้าข้างเซลีน มันยิ่งทำให้หนามเตยไม่ชอบเข้าไปใหญ่

“อย่าไปสนใจเลยเซย์ ต่อให้เซย์มาเร็วก็โดนยัยนั่นหาเรื่องเหมือนเดิม ถ้าคนมันอยากหาเรื่อง อีกอย่างก่อนหน้านี้มีคนมาเร็วกว่าเซย์แค่สองนาที เข้าขั้นสายเหมือนกันยังไม่เห็นยัยนั่นว่าอะไร” โรมพูดให้เซลีนสบายใจ ไม่กังวลกับสิ่งที่หนามเตยพูด

เซลีนยิ้มบางๆ พอดูออกว่าหนามเตยไม่ชอบตัวเอง ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันหนามเตยก็พูดจิกกัดทางอ้อม แถมยังมองด้วยสายตาเหยียดๆ

หลังจากเสร็จกิจกรรม เซลีนมายังโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมแม่ ร่างบางถือถุงส้มที่แม่ชอบมาด้วย เดินตามโถงทางเดินด้วยรอยยิ้ม เธอนับนิ้วรอวันที่แม่ออกจากโรงพยาบาลกลับบ้านมาอยู่ด้วยกันทุกวัน อีกแค่สามวันเท่านั้น…

เธอแทบจะเดินถึงหน้าห้องพักผู้ป่วยของแม่อยู่แล้วเชียว หากไม่ติดที่เสียงล้อเตียงเข็นหมุนด้วยความเร็วสูง และเสียงตะโกนของพยาบาลที่พุ่งมาจากปลายโถง

“ขอทางด้วยค่ะ! ขอทางหน่อย! ผู้ป่วยหมดสติ!”

เซลีนชะงัก แล้วหัวใจพลันหล่นวูบลงไปที่ตาตุ่ม เธอเบิกตากว้างในจังหวะที่พยาบาลสองคนเข็นเตียงผ่านตรงหน้า ร่างของคนบนเตียงนั้นคือ…

“แม่!!” เสียงเธอหลุดออกมาด้วยความตกใจสุดขีด เธอวิ่งตามทันทีโดยไม่สนเสียงห้ามปรามของใครทั้งนั้น

เซลีนวิ่งพรวดตามเข้าไปจนเกือบจะถึงหน้าห้องฉุกเฉิน เธอเห็นแม่ที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง หน้าซีดขาวจนเลือดฝาดหายไปหมดแล้ว เธอเอื้อมมือหมายจะคว้าข้อมือแม่ไว้ แต่ถูกพยาบาลกันออก

“ญาติรบกวนรอข้างนอกนะคะ”

“มะ…แม่…” เสียงเธอสั่น เธอเริ่มหายใจไม่ทันเหมือนคนจะเป็นลม ขาถึงกับอ่อนจนต้องพิงกำแพง มือข้างหนึ่งยังกำถุงส้มแน่น ราวกับหวังว่ามันจะช่วยยื้อความรู้สึกให้ไม่หลุดลอยไปกว่านี้

เสียงหัวใจเต้นโครมครามในอกดังราวกับระฆังแตก หูอื้อไปหมด น้ำตาเริ่มไหลออกมาทีละหยด โดยที่เจ้าตัวยังไม่รู้ตัว

มือบางที่สั่นน้อยๆ จากความตกใจพยายามกดเบอร์โทรหาพี่ชาย เสียงรอสายดังขึ้นในหูหลายครั้งจนเธอเริ่มรู้สึกได้ถึงความอ้างว้างในช่วงเวลาที่ต้องการใครสักคนที่สุด

(โปรดฝากข้อความ…)

เสียงระบบตอบรับเย็นชาดังขึ้นราวกับตบหน้าเธอเบาๆ ความหวังเล็กๆ ที่คิดว่าอย่างน้อยเจ้าของเบอร์นี้จะรับสายทันทีหายวับไปกับตา

เซลีนค่อยๆ ดึงโทรศัพท์ออกจากหู นิ้วเรียวลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกดวางสายโดยไม่ทิ้งข้อความอะไรไว้เลย

ร่างบางยังคงพิงกำแพงเย็นเฉียบอยู่ตรงหน้าห้องฉุกเฉิน ถุงส้มในมือตอนนี้แทบจะหลุดร่วง เสียงสัญญาณชีพจากเครื่องข้างในแว่วลอดออกมาเบาๆ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้หัวใจเธอสงบลงเลยแม้แต่น้อย

“อย่าเป็นอะไรนะคะแม่…” เสียงเธอเบาหวิวเหมือนลมหายใจ ริมฝีปากสั่นระริก น้ำตาเริ่มหยดลงที่ปลายคาง

เซลีนกอดตัวเองแน่นขึ้น ในหัวเธอเต็มไปด้วยภาพแม่ที่ยิ้มให้ ภาพที่สองแม่ลูกนั่งกินส้มด้วยกัน เสียงหัวเราะเบาๆ ของกรองแก้วที่เอ่ยชมว่า

‘ส้มนี่หวานจังเลยนะลูก แม่ชอบ’

ยังวนเวียนอยู่ในใจเหมือนมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน และตอนนี้…เสียงหัวเราะนั้นเงียบหายไป

พยาบาลอีกคนเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินด้วยใบหน้าเคร่งเครียด เซลีนรีบผละออกจากกำแพงแล้วเดินเข้าไปหาแทบจะในทันที

“พะ…พี่พยาบาลคะ แม่เป็นยังไงบ้างคะ!”

“คุณแม่ยังไม่ฟื้นค่ะ ตอนนี้คุณหมอกำลังดูอาการอยู่ในห้อง เราขอประเมินความดันในสมองด่วน ถ้ามีภาวะบวมเฉียบพลัน อาจต้องส่งผ่าตัดทันทีนะคะ”

คำว่า ‘ผ่าตัด’ เหมือนระเบิดที่กดทับลงบนอกเซลีน ใบหน้าสวยซีดเผือดจนแทบไม่มีสีเลือด ดวงตาแดงก่ำเต็มไปด้วยความกลัว

“เดี๋ยวสักพักหมอจะออกมาคุยอีกทีนะคะ”

เซลีนพยักหน้ารัวๆ ทั้งที่น้ำตาไหลไม่หยุด เธอทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้างหน้าห้องฉุกเฉิน สองมือกุมกันแน่นและวางไว้ที่หน้าตักพยายามบีบตัวเองให้สงบ ใจเธอกำลังแหลกละเอียด

ห้องตรวจแพทย์ถูกแต่งแต้มด้วยสีขาวสะอาดตา แต่สำหรับเซลีนในตอนนี้ มันกลับรู้สึกหนาวเย็นไปถึงกระดูก

เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงข้ามกับคุณหมอเจ้าของไข้ของคนเป็นแม่ ชายวัยกลางคนในชุดกาวน์สีขาวที่นั่งเปิดแฟ้มเอกสารด้วยสีหน้าครุ่นคิด ริมฝีปากเม้มแน่นเหมือนกำลังพิจารณาถ้อยคำที่จะพูดออกมา

หัวใจเซลีนเต้นแรงจนน่ากลัว เหงื่อเย็นๆ ไหลตามแนวสันหลัง มือของเธอกำถุงผ้าหิ้วส้มจนยับย่น ราวกับหวังให้มันยึดเธอกลับมาอยู่กับความจริง

หมอถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาเธออย่างจริงจัง

“อาการคุณแม่ของคุณตอนนี้ ไม่ค่อยดีนัก”

“…” เซลีนเม้มปากแน่น กลืนน้ำลายฝืดๆ ลงคอ หัวใจเธอหล่นวูบไปอีกครั้ง

“แม่คุณเป็นเนื้องอกที่ก้านสมองอย่างที่เรารู้กันอยู่แล้ว และก่อนหน้านี้ก็ยังอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ด้วยยา แต่จากการสแกนล่าสุด พบว่าเนื้องอกมีการขยายขนาดกะทันหันครับ ทำให้กดทับต่อมสำคัญหลายจุด และมีภาวะเลือดคั่งร่วมด้วย”

“แม่จะเป็นอะไรไหมคะ” เซลีนพึมพำ ดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่อยากเชื่อ

“ถ้าไม่รีบทำอะไรตอนนี้ คุณแม่ของคุณอาจจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย”

ความเงียบเข้ามากัดกินบรรยากาศอย่างโหดเหี้ยม

“การผ่าตัดเป็นทางเดียวในตอนนี้ครับ” หมอพูดต่อ ดวงตาใต้กรอบแว่นของเขาสะท้อนความห่วงใยชัดเจน “แต่เนื่องจากจุดที่เนื้องอกอยู่มันลึกและอยู่ใกล้ระบบสำคัญมาก ความเสี่ยงในการผ่าตัดสูงมากเช่นกัน มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน รวมถึง…เสียชีวิตได้”

เสียงคำว่า ‘เสียชีวิต’ กระแทกเข้าหูเซลีนเต็มแรง หูเธอเริ่มอื้ออีกครั้ง น้ำตาพุ่งขึ้นมาคลอหน่วยราวกับระเบิดอารมณ์ที่อัดแน่นมาตลอดชั่วโมงนี้

“หมอจะให้แม่ผ่าตัดเลยเหรอคะ…” น้ำเสียงเธอสั่นเครือ

“เราต้องทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ ถ้าเรารอ อาการอาจทรุดหนักกว่านี้ และเราจะหมดโอกาสแม้แต่จะเสี่ยง”

“แล้ว…ค่าใช้จ่ายล่ะคะ”

“ค่อนข้างสูงครับ ผ่าตัดในสมองลึกแบบนี้ ต้องใช้ทีมแพทย์เฉพาะทาง เครื่องมือพิเศษ และมีการดูแลต่อเนื่องในไอซียูหลังผ่าตัด ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นจะอยู่ที่ประมาณเจ็ดถึงแปดแสนบาทครับ”

เซลีนแทบลืมหายใจ เธอหลุบตามองพื้น ริมฝีปากสั่นระริก ถึงแม้เธอจะตั้งใจเก็บเงินมาตลอด แต่เธอยังไม่มีถึงครึ่งของจำนวนนั้นด้วยซ้ำ

มือบางยกขึ้นปิดปาก กลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้หลุดลอดออกมา หัวใจเธอบีบรัดแน่นเจ็บไปหมด

“ถ้าคุณตกลง ผมจะให้เจ้าหน้าที่การเงินมาอธิบายขั้นตอนและทางเลือกเพิ่มเติมนะครับ เช่น การขอความช่วยเหลือจากกองทุน หรือผ่อนจ่ายบางส่วนในกรณีพิเศษ”

เธอพยักหน้าช้าๆ

“ขอให้หมอช่วยแม่หนูด้วยนะคะ…” น้ำเสียงเธอแผ่วราวกระซิบ “หนูจะหาทาง จะทำยังไงก็ได้ ขอแค่ช่วยแม่ไว้ก่อน…”

คุณหมอพยักหน้าเบาๆ ด้วยสีหน้าเข้าใจ ก่อนจะยื่นเอกสารเซ็นยินยอมการผ่าตัดให้เธอ

เซลีนรับมันมาด้วยมือที่ยังสั่นน้อยๆ ปากกาสีดำที่อยู่ตรงหน้าเธอเหมือนมีน้ำหนักมากกว่าทั้งโลก แต่เธอก็ยกขึ้นมาเขียนชื่อของตัวเองลงไปบนเอกสารด้วยหัวใจที่กำลังแตกสลาย

ครืด ครืด

ร่างบางที่กำลังเดินไร้เรี่ยวแรงออกมาจากห้องตรวจในสภาพเหม่อลอย เสียงโทรศัพท์พลันดังขึ้น มือเล็กค่อยๆ ยกขึ้นดูก็พบว่าเป็นเบอร์ของพี่ชาย นิ้วเรียวกดรับสาย

(โทษทีเซย์ตอนนั้นพี่…)

“แม่อาการทรุดลง หมอบอกต้องผ่าตัดด่วน”

(วะ…ว่าไงนะ)

“พี่เซนต์รีบมาโรงพยาบาลเถอะ” เธอพูดจบก็กดวางสายจากพี่ชายทันที น้ำตายังคงคลอเคล้ารอบดวงตาที่หมองหม่น

ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะหาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหน แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องดิ้นรนหาให้ได้…

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Bad Trap กับดักรักวิศวะ   กับดักรัก 80 | ของพี่คนเดียว…

    “พรุ่งนี้แกต้องไปงานแทนฉันที่โรงแรมคลิน”“ทำไมต้องเป็นผม พ่อใช้เฮียคิรันบ้างดิ” ครินทร์หัวเสียเล็กน้อย พรุ่งนี้ตั้งใจบินไปส่งเซลีนถึงญี่ปุ่นพร้อมกับอยู่ด้วยเจ็ดวัน แต่พ่อดันบอกให้ไปร่วมงานที่โรงแรมคลินในวันพรุ่งนี้คิระละสายตากจากแก้วชาในมือไปมองลูกชายด้วยแววตายากอ่านออก ก่อนจะขยับริมฝีปากตอบกลับเสียงเรียบ“คิรันมีบินไปดูงานที่ฮ่องกงพรุ่งนี้กับเมียเหมือนกัน ส่วนฉันก็ไม่ว่าง เหลือแค่แกแล้วครินทร์”“แต่ผม…”“งานนี้สำคัญมาก แขกที่มาคือคุณริวกิ ทัตสึโอกะ นักธุรกิจฝั่งญี่ปุ่น และครอบครัวเราได้รับเกียรติให้เป็นฝ่ายต้อนรับเขาในครั้งนี้” คิระสวนลูกชายทั้งที่ยังพูดไม่จบ ตระกูล ‘ทัตสึโอกะ’ มีอิทธิพลมากในญี่ปุ่น เผื่อในอนาคตได้ร่วมทำธุรกิจด้วยกันคงง่าย ถ้าหากครินทร์ไปร่วมงานและสร้างสัมพันธไมตรีกับทางนั้นได้อีกอย่างทางนั้นบอกเองอยากให้ครินทร์เป็นฝ่ายมาต้อนรับ จริงๆ เขาให้คิรันหรือไปเองได้ แต่ทางนั้นกำชับว่าต้องเป็นครินทร์ ซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไม แต่ก็ดีเหมือนกันลูกชายจะได้มีประสบการณ์ เพราะครินทร์ไม่ค่อยชอบออกงานเท่าไรนัก“พ่อรู้ไหมว่าพรุ่งนี้เซย์จะบินไปญี่ปุ่น? ผมสัญญากับเธอแล้วว่าจะไปด้วย”“

  • Bad Trap กับดักรักวิศวะ   กับดักรัก 79 | ง้อจนกว่าจะหายงอน NC++

    ยิ่งใกล้วันเซลีนบินไปญี่ปุ่นครินทร์ก็ยิ่งไม่อยากให้ไป เขานั่งบนโซฟาหนังราคาแพงสีดำ ทิ้งศีรษะไปพิงพนักด้านหลัง เซลีนยังคงใช้ชีวิตตามปกติผิดกับเขาโดยสิ้นเชิงตอนนี้สภาพเขาไม่ต่างจากหมาโบ้ที่ซึมเพราะกำลังจะได้ห่างจากเจ้าของ เขาสามารถบินไปหาเธอได้ก็จริง แต่ด้วยหน้าที่ของเขาที่นี่ก็มีเช่นกันทำให้ทำแบบนั้นไม่ได้ตลอดครินทร์ยังนั่งนิ่งอยู่สักพัก สายตาจ้องมองมือของตัวเองที่พาดอยู่บนตัก ราวกับพยายามหาคำพูดที่จะบอก แต่ใจมันเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ควบคุมไม่ได้เซลีนเดินเข้ามาจากฝั่งหัวโซฟา เธอยิ้มบางๆ ก่อนโน้มตัวลงจูบเบาๆ ที่หน้าผากคนตัวโต ครินทร์ลืมตามอง ดวงตาของเธอสดใสและอบอุ่นเหมือนแสงแดดในตอนบ่าย“คิดอะไรอยู่คะ?” เซลีนถามเสียงนุ่มครินทร์ส่ายหัวเบาๆ จากนั้นดึงตัวขึ้นมานั่งให้เรียบร้อย เซลีนอ้อมตัวมานั่งข้างๆ ก่อนที่เขาจะซบใบหน้าลงบนไหล่ของเธอ“พี่ไม่อยากให้เซย์ไปญี่ปุ่นเลย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง ดวงตาคมสั่นเล็กน้อยราวกับกลั้นความเจ็บปวดจากการต้องห่างกันเซลีนยกมือขึ้นลูบเส้นผมของเขาอย่างเบาๆ หัวใจเต้นแรงเมื่อเห็นแววตาที่เปล่งความอ่อนแอออกมา เธอรู้ทันทีว่าความรู้สึกนี้เป็นเรื่องจริงไม่ใช่แค

  • Bad Trap กับดักรักวิศวะ   กับดักรัก 78 | เด็กพี่ครินทร์

    สามวันต่อมา ชีวิตเซลีนยังคงดำเนินต่อไปเหมือนเดิม แต่สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือ การให้โอกาสครินทร์อีกครั้ง เมื่อก่อนทั้งเพื่อนและพี่ชายต่างไม่ชอบครินทร์ ทว่าตอนนี้เขาทำให้คนรอบข้างเธอต่างยอมรับ แต่พี่ชายของเธอก็ยังคงทำฟอร์มในบางครั้งบ่ายแก่ๆ ภายในมหา’ลัย แสงแดดลอดผ่านต้นไม้ใหญ่ด้านข้างอาคารเรียน เงาตกลงบนพื้นคอนกรีตจนเกิดลวดลายเหมือนภาพวาด เสียงพูดคุยของนักศึกษาดังระงมจากทุกทิศ โรงอาหารกลางยังคงแน่นไปด้วยผู้คนที่ต่อคิวซื้ออาหารและหาโต๊ะนั่งกันเต็มไปหมดเซลีนกับน้ำตาลเดินเคียงกันมาพร้อมถาดอาหารในมือ วันนี้เซลีนเลือกข้าวผัดโป๊ะหน้าด้วยไข่ดาวไข่แดงไม่สุกมาก ส่วนน้ำตาลเลือกสลัดกับไก่ย่างชิ้นโตเพราะกำลังอินกับการนับแคล แต่สุดท้ายก็ไม่วายแอบซื้อนมเย็นแก้วใหญ่ติดมือมาด้วย“วันนี้คนเยอะเนอะ” น้ำตาลบ่นขณะกวาดสายตาหาโต๊ะว่าง“จริง รู้สึกว่าเยอะกว่าทุกวัน” เซลีนถามพลางเดินตามจังหวะฝีเท้าเพื่อน ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปรอบๆ โรงอาหารที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ คุยกันอื้ออึง เสียงช้อนส้อมกระทบจานโชคดีที่มีโต๊ะว่างพอดีตรงมุมติดกระจก มองออกไปเห็นสนามหญ้ากว้างด้านนอกที่นักศึกษากำลังนั่งจั

  • Bad Trap กับดักรักวิศวะ   กับดักรัก 77 | หึงหวง

    “พี่เซนต์ก็เอากับเขาเหรอคะเนี่ย”เซลีนกอดอกยืนมองครินทร์และเซนต์ที่ยืนเรียงหน้ากระดาน เหมือนเด็กที่ความผิดแล้วกำลังถูกผู้ปกครองลงโทษ สายตาเซลีนมองสองหนุ่มอย่างเอาเรื่อง แต่คนที่น่าจะโดนหนักที่สุดน่าจะเป็น…พี่ชาย“โอ๊ย! เจ็บนะเว้ยเซย์” เซนต์สะดุ้ง หลังจากเจอฤทธิ์ก้านมะยมที่ฟาดใส่ขาอย่างแรงจนยกขาขึ้นแล้วลูบปอยๆ“สมควร ตอนแรกอยู่ข้างเซย์ ไหงไปอยู่ข้างคู่อริ”“ใครบอกพี่อยู่ข้างมัน มันลากพี่มาเอง” เซนต์โบ้ยความผิดให้ครินทร์ ทั้งที่ตอนมาที่นี่ถูกบังคับแค่ตอนลากขึ้นรถ เซนต์หลบสายตาน้องสาว น่าอายกว่าโดนก้านมะยมคือเห็นน้ำตาลกลั้นขำ “ขำอะไร”“ขำคนโดนก้านมะยม” น้ำตาลตอบ ตอนแรกรับปากว่าจะช่วยครินทร์ แต่ไม่ทันลงมือทำอะไร ไม่อย่างนั้นคงโดนหารก้านมะยมเหมือนสองคนนี้แน่ๆเซลีนหันก้านมะยมมาฝั่งครินทร์ หลังจากรู้ความจริงว่าแอบตามมาตั้งแต่แรก ครินทร์ยิ้มแห้งแล้วยกสองมือปรามเล็กน้อย“พี่แค่อยากมาง้อ…โอ๊ย!” โดนฟาดไปหนึ่งทีจนขาเป็นรอยแดง เซลีนมือหนักใช้ได้ ฟาดทีแสบไปทั่วขา เขาลูบจุดที่โดนฟาดปอยๆ สายตาช้อนมองเซลีนอย่างเว้าวอนว่าไม่เอาอีกแล้ว “พี่เจ็บแล้วครับ…”“เจ็บก็ดีจะได้จำ”“ขอโทษค้าบ”เซลีนพ่นลมหายใจออก

  • Bad Trap กับดักรักวิศวะ   กับดักรัก 76 | โอกาสมีแค่ครั้งเดียว NC++

    “ปล่อยเซย์นะ ไม่งั้นเซย์จะตะโกนดังๆ ให้คนช่วย!”“เอาเลย คนจะได้รู้ว่าเซย์เป็นเมียพี่” คนตัวโตยิ้มเจ้าเล่ห์ รั้งร่างบางเข้ามาใกล้จนแนบชิดมากขึ้น มือหนาเชยคางมนให้สบสายตา “พี่คิดถึงเซย์มากเลยรู้ไหม”“อื้อ~” เขากดจูบลงมาโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว สัมผัสที่ห่างหายไปนานทำหัวใจเต้นแรงได้ไม่ยากริมฝีปากร้อนรุ่มบดทับลงมาอย่างโหยหา ยิ่งดิ้นเขายิ่งกดจูบหนักแน่นขึ้น รสสัมผัสที่ขาดหายไปหลายเดือนเหมือนระเบิดความคิดถึงที่ครินทร์กดเก็บไว้จนแทบคลั่ง“อึก… อื้อ!” มือเล็กดันแผ่นอกแกร่ง แต่แรงต่างกันเกินไป ร่างสูงโอบเอวบางแน่นจนเธอแทบขยับไม่ได้ ความอุ่นจากอ้อมกอดบวกกับแรงจูบทำให้ขาเรียวสั่นไหวราวกับจะยืนไม่ไหว“พี่คิดถึงเซย์จนแทบบ้า” เสียงพร่าทุ้มหลุดออกมาแผ่วเบา ตอนที่ริมฝีปากยังคงคลอเคลียไม่ยอมถอนห่าง เขาละเลียดดูดดื่มซ้ำรอยเดิมอย่างหวงแหนน้ำตาที่เธอไม่รู้ว่ามาจากไหนเอ่อคลอขอบตา หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกจากอก เสียงคลื่นซัดฝั่งเป็นจังหวะพื้นหลังที่ทำให้ทุกอย่างชัดเจนยิ่งขึ้นเธอทั้งอยากผลักเขาออกไป ทั้งอยากปล่อยให้จูบนั้นกลืนกิน เพราะความคิดถึงที่เก็บไว้ในใจ…มันไม่ต่างจากเขาเลย“อย่าผลักไสพี่อีกเลยได้ไหม”

  • Bad Trap กับดักรักวิศวะ   กับดักรัก 75 | อยากปรับความเข้าใจ

    หลังจากเข้าเช็คอินที่พัก สองสาวก็ออกมาถ่ายรูปเล่นแถวที่พัก เซลีนเลือกสวมชุดเดรสปาดไหล่สีขาวยาวประมาณเข่า ผมเปียเบี่ยงข้าง ปล่อยหน้าม้าเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้เธอดูละมุนตา ส่วนน้ำตาลใส่เสื้อกล้ามสายเดี่ยวสีขาวโชว์แผ่นหลังขาวเนียนและกางเกงขายาวลายทางขาวฟ้า ผมทำเป็นลอนมาม่า“มุมนี้สวยเซย์ มายืนเดี๋ยวฉันถ่ายให้” น้ำตาลชี้นิ้วบอกเซลีน หญิงสาวก็ก้าวมายืนตามที่เพื่อนบอก เซลีนโพสต์ท่าไม่เก่งนักน้ำตาลก็คอยบรีฟให้เสียงหัวเราะคิกคักดังลั่น เรียกรอยยิ้มจากครินทร์ที่แอบอยู่มุมหนึ่งไม่ได้“เซย์สวยว่ะ สวยจนกูอดหวงไม่ได้”เซนต์กอดอกหรี่ตามองครินทร์แล้วส่ายหัวไปมาอย่างเอือมระอา“กูไม่เข้าใจอย่างนึง มึงลากกูมาทำมะเขืออะไร” เซนต์พูดติดรำคาญที่โดนลากมาด้วย ตอนแรกครินทร์ขับรถออกไปแล้วแต่วนกลับมารับเขาให้มาเป็นเพื่อน เพราะเพื่อนสนิทมันไม่ว่างทั้งสองคน อุตส่าห์บอกว่าเซลีนอยู่ที่ไหนแล้วยังต้องพามันมาอีกเวรกรรมกูจริงๆ“อยู่เงียบๆ เดี๋ยวเมียกูก็รู้หรอกว่าตามมา”“ถ้ามึงเรียกน้องกูว่าเมียอีกรอบ กูเตะเสยคาง”“ไม่ใช่ตอนนี้ ในอนาคตเดี๋ยวก็ใช่เองแหละ” เขาพูดโดยไม่หันไปมองเซนต์ ได้ยินแต่เสียงถอนหายใจแรงๆ ตอนแรกโทรหาจอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status