“เฮียทำเกินไปแล้ว..”
ฉันกำลังจะก้าวเดินไปที่ประตูเพื่อไปหาเฮียโต้ง เรียวแขนยาวๆ ก็โอบรอบเอวบางของฉันไว้ซะก่อน ทำให้แผ่นหลังชิดกับอกแกร่งความอุ่นแผ่ออกมาจนรู้สึกได้“พี่เคลียร์แล้ว ไม่ต้องไปหรอก อยู่กับพี่นะ”ฉันหันไปมองหน้าพี่ราเรซ นัยน์ตาของพี่ราเรซในตอนนี้แลดูอบอุ่นและมีความสุข จู่ๆ ก็รู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาที่กลางใจ ไหวหวั่นอีกแล้ว ฉันไม่สามารถปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อพี่ราเรซได้อีกแล้ว“ฮะ แฮ่ม! ไม่ได้อยู่กันสองคนนะครับ มีเด็กอยู่ด้วย” เสียงน้าไดมอนด์พูดขึ้นฉันรีบผละตัวออกจากอ้อมกอดพี่ราเรซทันที แต่มือหนาก็เอื้อมมือมากุมมือของฉันไว้อยู่ดี เหมือนกลับกลัวว่าฉันจะหายไปอย่างนั้นแหละ“ไม่เป็นไรค่ะ พ่อมอนด์ ไดน่าชินแล้ว”แล้วผู้ใหญ่ทั้งสี่คนก็หันไปมองที่ไดน่าก่อนที่น้าของขวัญกับน้าไดมอนด์จะหันกลับมามองที่ฉันกับพี่ราเรซ สีหน้าแสดงเป็นคำถามว่า เราสองคนทำอะไรให้ไดน่าเห็น...“เรซไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”“แล้วน้องเห็นอะไรล่ะ ไอ้เรซ”“พี่เรซชอบกอดพี่ต้าจากด้านหลังค่ะ” แล้วก็เป็นไดน่าที่ตอบพ่อของเธราเรซผมลืมตาตื่นขึ้นมาหันไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างเตียงนอน เช้าแล้วเหรอ... ผมหันกลับมามองความอบอุ่นที่อยู่ในอ้อมกอดของผมทั้งคืน ยังไม่ตื่นเลย... สงสัยจะเพลียมาก เพราะโดนผมจัดหนักไปหลายรอบ ก็ไม่อยากจะหักโหมมากหรอก ผมแค่กลัวว่าตื่นขึ้นมาแล้วจะไม่เจอต้าหนิงอีก กลัวเธอจะหนีไปเหมือนเมื่อวันก่อน ก็เลยต้องจัดหนักให้หมดแรงกันไปข้าง จะได้ไม่มีแรงลุกหนีผมไปไหนได้อีกผมเลื่อนจมูกโด่งชิดแก้มเนียนถูวนไปมา แล้วมือน้อยๆ ของต้าหนิงก็ยกขึ้นมาผลักหน้าผมออก ทำให้ผ้าห่มที่คลุมช่วงบนอยู่เปิดออก เผยให้เห็นดอกบัวคู่งามที่มีรอยแดงเป็นจ้ำเต็มไปหมด ผมรู้ว่าวันนี้ต้าหนิงมีเรียนก็เลยไม่ทำรอยที่ลำคอ เดี๋ยวผมจะโดนไอ้โต้งลากไปกระทืบอีก ผมก็เลยมาทำใต้ร่มผ้าแทนพอยกมือขึ้นมาปัดหน้าผม ต้าหนิงก็หลับต่อ ยังไม่รู้ตัวอีก... เล่นล่อตากันแต่เช้าแบบนี้ พี่ก็อดไม่ไหวนะผมเลือนริมฝีปากลงไปครอบครองยอดอกของต้าหนิง ซึ่งตอนแรกมันก็สงบนิ่งดีอยู่หรอก แต่พอโดนปลายลิ้นเขี่ยเข้าให้ก็ชูชันขึ้นมาทันที พร้อมกันเจ้าของที่ลืมตาขึ้นมาจ้องหน้าผมด้วยความตกใจ“พี่เรซ.. เล่นอะไรเนี้ย หยุดนะ”
“พี่ไผ่มารับกลับบ้านไปแล้วค่ะ”ทันทีที่ได้ยินคำตอบ มันก็ทำให้รอยยิ้มบนหน้าผมหายวับไปในพริบตา ทำไมมันต้องมีมารมาขัดขว้างตลอดเลยว่ะ แก้มใสยืนมองหน้าผมอย่างหวาดหวั่น สงสัยกลัวผมจะอารมณ์เสียใส่ล่ะมั้ง“ขอบคุณครับ ที่มาบอกพี่” ผมยิ้มให้แก้มใสอีกครั้ง“ค่ะ พี่ราเรซอย่างโกรธต้าหนิงเลยนะคะ ที่จริงต้ามันก็มานั่งรอตามที่พี่ราเรซบอก แต่ว่า...”“ไม่เป็นไรครับ แล้วเรากลับยังไงล่ะ”“กลับรถเมล์ค่ะ”“เดี๋ยวพี่ไปส่ง ห้ามปฏิเสธ”ผมแค่อยากตอบแทนที่แก้มใสเดินมาบอก ไม่งั้นผมคงจะโกรธคนตัวเล็กไปแล้ว เพราะคิดว่าเธอไม่มารอตามนัด และการที่แก้มใสเดินมาบอกผมแบบนี้แสดงว่าเธอกำลังเชียร์ผมอยู่“แก้มใสกับต้าหนิงสนิทกันมากเลยเหรอ” ผมถามขึ้นเมื่อขับรถออกมาจากมหาลัยได้สักพัก“ค่ะ ตั้งแต่อนุบาลเลย แก้มไม่ค่อยมีเพื่อนนะคะ ตอนเด็กๆ แก้มมักจะโดนเพื่อนแกล้งและก็โดนล้อว่าไม่มีพ่ออยู่เป็นประจำ ต่างกับต้าหนิงรายนั้นนะเพื่อนเยอะ มีแต่คนรุมรอบ คริๆ เพราะต้าหนิงน่ารักและสดใสอยู่ตลอดเวลา” เธอเล่าไปขำไป“ฮอตตั้งแต่เด็กเลยเหรอ ยัยเด
“เราเป็น..” พี่ซินดี้กำลังจะตอบ“เพื่อนสมัยมัธยมพี่นะ” แต่พี่ไผ่กลับชิ่งตอบซะก่อน แล้วพี่ซินดี้ก็หันมามองหน้าพี่ไผ่แปลกๆ“แล้วสองคนรู้จักกันได้ไง” พี่ซินดี้หันมาถามฉัน“เราเป็นแฟนกัน” พี่ไผ่ตอบแทน“จริงเหรอ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายจะหาแฟนได้น่ารักขนาดนี้” พี่ซินดี้หันไปคุยกับพี่ไผ่“ทำไมล่ะ ฉันจะมีแฟนน่ารักๆ ไม่ได้หรือไง”“งั้นก็ดูแลเขาให้ดีๆล่ะ ผู้หญิงเขาชอบผู้ชายเอาใจใส่”“ต้าหนิงไม่ใช่คนเรื่องมาก และฉันก็เอาใจใส่แฟนฉันอยู่แล้ว”ทำไมฉันรู้สึกเหมือนสองคนนี้กำลังเถียงกันโดยทางอ้อมนะ ใบหน้าที่กำลังปั้นยิ้มใส่กันนั่นอีก“ต้าอิ่มแล้วค่ะ” ฉันพูดโพล่ขึ้น เมื่อพวกเขาไม่ยอมเลิกจิกกัดกันด้วยสายตาสักที“กลับบ้านกัน เพื่อนพี่น่าจะไปรอที่สนามแล้วล่ะ” พี่ไผ่บอก“จะไปไหนกันต่อเหรอ” พี่ซินดี้ถามขึ้น“ออ ที่บ้านต้ามีสนามหญ้าเทียมให้เช่านะคะ พี่ไผ่นัดกับเพื่อนๆ ไว้ว่าจะไปเตะฟุตบอลกัน” ฉันพูดกระจายต่อมความอยากรู้ให้พี่ซินดี้ฟัง“ขอไปด้วยสิ คือซินดี้อยากไปเที่ยวบ้านน้องต้าหนิงอ่ะ ไปได้ไ
“ฉันเด็ดกว่าแฟนนายเยอะ นายก็รู้”แล้วฉันก็ได้ยินเสียงที่ไม่คาดคิด ดังขึ้นอยู่ด้านนอกนั้น พี่ไผ่กับพี่ซินดี้“อ๊ะ..ไผ่”“แรงอีก อ๊ะ..” เสียงเก้าอี้นั่งดัง เอี๊ยด อ๊าด ทำให้ฉันแสบแก้วหู“อ่า..ซินดี้..” เสียงพี่ไผ่ครางต่ำฉันถึงหน้าแดงขึ้นมาอย่างกั้นไม่อยู่ พวกเขาทำอะไรกัน แสลงหูที่สุดเลย แต่ที่หนักกว่าด้านนอกก็คงจะเป็นพี่ราเรซในตอนนี้ สีหน้าเริ่มบิดเบี้ยวเหมือนกำลังเก็บกดอะไรสักอย่าง ฉันรับรู้ถึงบางอย่างที่แข็งขึงกำลังจ่ออยู่ที่หน้าท้องของฉัน“พี่ไม่ไหวแล้วต้า..” เสียงพี่ราเรซกระซิบแหบพร่าชิดริมหู เรียกขนในกายให้รุกชันอย่างซาบซ่านพี่ราเรซจับเสื้อยืดฉันถอดขึ้นออกทางศีรษะ มือหนาปลดตะขอบราออกในทันที แขนแกร่งข้างหนึ่งรั้งเอวบางฉันเข้าไปชิดตัว ริมฝีปากหนาก้มลงมาครอบครองยอดอกดูดเม้มอย่างรุนแรง มืออีกข้างก็เลื่อนต่ำลงเข้าไปในกางเกงชั้นใน ส่งนิ้วเรียวเข้าไปสะกิดกับจุดอ่อนไหวกลางกาย พี่ราเรซง้อข้อมือเข้าออกอย่างรัวเร็ว เรียวขางามเริ่มสั่นนิดๆ ทรงตัวไม่อยู่ เพราะโดนพี่ราเรซเล้าโลมทั้งบนและล่างอย่างจาบจ้วง เมื่อพี่ราเรซถอด
“พวกเพื่อนพี่ชายของต้ามานอนที่บ้านบ่อยเหรอ” พี่ไผ่ถามขึ้นหลังจากที่พวกเฮียโต้งไปกันหมดแล้ว“เมื่อก่อนก็บ่อยล่ะคะ แต่ช่วงหลังๆ มาก็ไม่ค่อยมาเท่าไร”“แล้วในบรรดาพวกเพื่อนของพี่ชายต้า มีใครทำอะไรไม่ดีกับต้าหรือเปล่า..” ฉันขมวดคิ้วมองหน้าพี่ไผ่อย่าง งงๆ นี่เขาอยากจะถามอะไรฉัน“พี่หมายถึง แบบว่า มีใครที่นิสัยไม่ดี ชอบมาวุ่นวายกับต้า อะไรประมาณนี้”ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็ไม่มีหรอก แต่ตอนนี้.. ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน“ไม่นี่ค่ะ พวกเขาไม่ค่อยมาวุ่นวายกับต้าหรอก” ฉันจำต้องตอบพี่ไผ่ไปแบบนั้น“ถ้ามีอะไร ก็บอกพี่ได้นะ” พี่ไผ่ส่งยิ้มมาให้อย่างใจดี“ค่ะ”“น้องต้าครับ พี่ขอน้ำแข็งสักสองถังหน่อยสิ พวกพี่จะตั้งวงกันบนดานฟ้า” พี่บิ๊กไบค์โผล่หน้าจากทางขึ้นบันไดบ้านมาบอกกับฉัน“จะดื่มกันแต่ตั้งหัววันเลยเหรอคะ” ฉันถามพี่บิ๊กไบค์“ครับ พอดีว่าไอ้เรซมันกำลังเฮิร์ทนะ ไม่รู้เป็นอะไร อยู่ดีๆ ก็เป็นหมาหงอยซะงั้น”คำพูดของพี่บิ๊กไบค์ มันทำให้ฉันใจหวิวๆ ยังไงก็ไม่รู้ คงไม่ได้เป็นเพราะฉันหรอกนะ“ป่ะ ไอ้ไบค์ ไ
“มึงเคลียร์นานไปนะ” พอเดินขึ้นมาถึงชั้นดาดฟ้า เฮียโต้งก็ทักขึ้นทันที“มึงก็เลยส่งไอ้เลโอลงไปตามว่างั้น” พี่ราเรซเอียงคอถามอย่างกวนทีน...“เปล่า กูใช้มันไปเอาน้ำแข็งเฉยๆ” เฮียโต้งตอบพร้อมกับรอยยิ้มกวนๆ เหมือนกัน“ไงมึง ไปเจอช็อตเด็ดมาล่ะสิ” พี่บิ๊กไบค์ถามพี่เลโอ เมื่อพี่เลโอเดินขึ้นมา“สรุปยังไง ไอ้เลโอ” พี่ราเรซหันไปเอาเรื่องพี่เลโอต่อ“ไอ้โต้งมันใช้กูไปขวางมึงนั่นแหละ”“ไอ้เลโอ!!” แล้วพี่เลโอก็โดนเฮียโต้งตะคอก แต่ก็ไม่ได้โมโหจริงจัง เหมือนจะหยอกล้อกันมากกว่า“เฮีย ขอคุยด้วยหน่อย”ฉันเดินเข้าไปหาพี่ชาย ซึ่งเฮียก็เดินเข้ามากอดคอฉันให้เดินไปคุยกับที่ขอบระเบียงดาดฟ้า แล้วพี่ราเรซก็เดินตามมาด้วย แถมยังเอื้อมมือมาโอบเอวฉันอีกต่างหากฟุบ!!! แล้วก็โดนเฮียโต้งเหวี่ยงมือหนาไปใส่หัวหนึ่งที แต่พี่ราเรซกลับหลบได้ซะก่อน“อย่าเยอะไอ้เรซ กูไม่เห็นไม่เป็นไร แต่อย่ามาทำให้กูเห็น เดี๋ยวมึงได้แดกตีนกูแทนข้าว” เฮียโต้งหันไปขู่พี่ราเรซ ซึ่งรายนั้นก็ยืนยิ้มหน้าระรื่นไม่สะทกสะท้านอะไรทั้งนั้น“ไงเรา มีอะไรจะ
“ต้าหนิง”เสียงผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยชื่อฉัน พร้อมกับมองหน้าฉันอย่างตะลึงงัน คงจะตกใจมากล่ะสิที่ได้เห็นหน้าฉัน ไหนบอกฉันว่างานยุ่งไง แต่ที่เห็นในตอนนี้นี่มันคืออะไร... ไอ้ยุ่งๆ ที่ว่าก็คงจะเป็นเรื่องนี้สินะ เขามันไม่เคยพอเลยจริงๆผู้หญิงที่นั่งขนาบข้างพี่ราเรซกับพี่เลโอหันมาหลับตาชังใส่ฉันหนึ่งที แล้วก็หันไปเล้าโลมผู้ชายในมือของหล่อนต่อ พวกนั้นคือพริตตี้ที่ถูกจ้างมาในงานวันนี้เพราะเจอกันในห้องแต่งตัว ฉันจำพวกหล่อนได้“อ้าว พวกเฮียๆ มาทำอะไรกันในห้องนี้ครับ ที่เช่จ้องให้มันอีกห้องหนึ่งนิ ห้องนี้เช่จะไว้ดูการแข่งสองคนกับสาวสวยของเช่นะ” ปอร์เช่เดินเข้ามายืนข้างฉันแล้วพูดขึ้น เด็กนี่ตัวสูงเป็นบ้าเลย“มึงว่าไงนะ ไอ้เช่” พี่ราเรซพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงติดโมโห“เราจะดูการแข่งรถในห้องนี้สองคนค่ะ”ฉันสอดมือเข้าไปคล้องแขนหนาของร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างฉันในตอนนี้ ปอร์เช่เลิกคิ้วขึ้นสูงมองหน้าฉันอย่าง งงๆ แต่ก็แค่แป๊บเดียว หนุ่มน้อยก็ดึงแขนออกจากการเกาะกุมของฉันเปลี่ยนมาโอบรอบเอวฉันแทน เด็กนี่ร้ายชะมัด ฉันทำเป็นยิ้มรับอย่างเต็มใจ ทั้งที่ความจริงไม่ได้รู
“ต้าเจ็บ อึก...อือ..” ในที่สุดฉันก็ร้องไห้ออกมาจนได้พี่ราเรซหยุดการกระทำแล้วหันมาจ้องหน้าฉันนิ่ง ฉันใช้หลังมือปาดน้ำตาอย่างลวกๆ พยายามไม่สนใจหยดน้ำใสที่ไหลออกมาตามหางตาราเรซ“ต้าเจ็บ อึก...อือ..”ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ออกมาจากริมฝีปากหวาน มันก็ทำให้ผมได้สติขึ้นมา ผมเผลอทำรุนแรงกับต้าหนิงเพราะความโมโหที่เห็นต้าหนิงอยู่กับผู้ชายคนอื่น และโมโหที่เธอดื้อกับผม“เจ็บมากไหม...” ผมจ้องมองใบหน้าหวานที่เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา พอได้เห็นน้ำตาของต้าหนิงทีไร มันก็ทำให้ผมปวดหัวใจทุกที“คนใจร้าย”“ก็อยากดื้อกับพี่ทำไมล่ะ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง“มายุ่งกับต้าทำไม ทำแบบนี้กับต้าทำไม ผู้หญิงของพี่ก็มีตั้งเยอะ ไปทำกับผู้หญิงของพี่สิ” คำพูดเหมือนน้อยใจเลยแฮะ“พี่อยากทำกับต้านิ” ต้าหนิงมองค้อนให้หนึ่งทีก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปทางอื่น“พี่ขอโทษ ที่รุนแรงกับต้า ก็พี่โมโหอ่ะ” ผมพยายามพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนสุดๆ“โมโหอะไรคะ ต้าต่างหากที่ต้องโมโห” ต้าหนิงหันกลับมามองหน้าผมอย่างโกรธเคือง“แล้วต
“เรียนเสร็จแล้วใช่ไหม” พี่ราเรซเลิกเล่นกับเฮียโต้งแล้วหันมาถามฉัน “ค่ะ” “พี่โต้งครับ ผมขออนุญาตพาต้าหนิงไปบ้านผมนะครับ แล้วจะมาส่งวันพรุ่งนี้เช้า” พี่ราเรซหันไปคุยกับเฮียโต้งอีกครั้ง “โห.. งั้นไม่ต้องมาส่งแล้วล่ะ ไอ้เรซ..” เฮียโต้งตอบแบบประชด “จริงป่ะ กูจะได้พาต้าไปเก็บเสื้อผ้าแล้วย้ายมาอยู่กับกูเลย” พี่ราเรซพูดอย่างดีใจ ดูก็รู้ว่าตั้งใจกวนทีน... “มึงกล้าสาบานป่ะ ว่าไม่รู้จริงๆ ที่เมื่อกี้กูประชด” เฮียโต้งแกล้งทำหน้าตึงนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้โกรธจริงจังอะไร “เผื่อฟลุคไง” พี่ราเรซตอบ “ไอ้ห่านี่ น้องกูยังเรียนไม่จบเลย เพราะแบบนี้ไง กูถึงไม่อยากให้น้องกูมีแฟน โดยฉะเพราะมีแฟนแบบมึงเนี้ย” “แบบคนหล่อๆ อย่างกู ใช่ไหมล่ะ” พี่ราเรซตอบ “หล่อตายแหละมึงอ่ะ สู้กูก็ไม่ได้ พวกมึงด้วย” แล้วเฮียโต้งก็หันไปอวดความหล่อของตัวเองกับเพื่อนๆ “อ้าว.. ไอ้โต้งพูดงี้ก็สวยดิ น้องแก้มใสครับ บอกมาเลยว่าใครหล่อสุด ยกเว้นไอ้เรซไม่ต้องนับมัน” พี่เลโอหันไปถามความคิดเห็นแก้มใส “เออ... ก็แล้วแต่คนมองล่ะค่ะ พวกพี่ก็ดูดีกันคนล่ะแบบ” แก้มใสตอบแบบเลี่ยงๆ “ไม่เอาดิ ตอบมาเลยพี่สามคนนี้ ใครหล่อสุด” พี่เลโอยังไม่ล่ะควา
“น่าพิศวาสตายแหละ”“จริงอ่ะ สักนิดก็ไม่มีเลยเหรอ” พี่ราเรซลุกขึ้นนั่งแล้วเอียงคอถามอย่างทะเล้น“ไม่!!”ฉันลุกขึ้นไปนั่งบนโซฟาข้างร่างหนา เอื้อมมือบางไปจับคางพี่ราเรซให้หันหน้ามาตรงๆ“โอ๊ะ โอ๊ย..” ทันทีที่มือฉันโดนคางพี่ราเรซก็ร้องลั่น“เจ็บเหรอ ต้าขอโทษ...”“พี่ล้อเล่น แฮ่ๆ ๆ”“คนบ้า!!”ตุบ!! ตุบ!! ตุบ!!ฉันรัวกำปั้นใส่อกเขาไปหลายที เจ้าเล่ห์จริงๆ เลย ไอ้เราก็ตกใจ อุตส่าห์เป็นห่วง มาแกล้งกันซะได้พี่ราเรซรวบมือของฉันเพียงมือข้างเดียวของเขา แล้วออกแรงดึงทำให้ตัวฉันเข้าไปชิดกับอกแกร่ง มือหนาอีกข้างก็เลื่อนผ่านมาด้านหลังเพื่อโอบกอดตัวฉัน“ปล่อย!!” ฉันส่งสายตาดุไปให้“ไม่ปล่อย..” พี่ราเรซลอยหน้าลอยตาตอบ“ถ้าไม่ปล่อยต้าจะตะโกนเรียกเฮียโต้งให้ลงมาลากพี่ขึ้นไปเลย” ฉันพูดขู่เขา“ก็เรียกสิ” พี่ราเรซยักไหล่ตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน“เฮะ.. อุ๊บ..”ริมฝีหนาโฉบลงมาปิดปากฉันทันที ลิ้นชื้นแทรกผ่านกรีบปากเข้ามาตวัดดูดดึงลิ้นเล็กอย่างช่ำชอง ลิ้นหนาเกี่ยวกวัดหยอกล้อกับลิ้นเล็กไปมาอยู่ในโพรงปากของฉัน เขาสูบเอาทุกอย่างที่อยู่ในโพรงปากของฉันไม่เหลือแม้แต่อากาศหายใจ ฉันผลักไหล่หนาออกเมื่อเริ่มขาดอากาศหายใจจริง
“พี่ไม่เคยเห็นต้าเป็นแค่สิ่งของนะ พี่จริงจังกับต้า แต่ในขณะเดียวกันพี่ก็กลัวด้วย” พี่ไผ่สบตากับฉัน นัยน์ตาของพี่ไผ่สั่นไหวเหมือนเขาแอบร้องไห้อยู่ภายใน มันทำให้ฉันรู้สึกผิดต่อเขาอย่างมหัน ฉันมันคนนิสัยไม่ดี ฉันทำร้ายเขา..“กลัวอะไรคะ” ฉันถามพี่ไผ่“กลัวจะเสียต้าไป”ฉันถึงกลับจุกจนพูดไม่ออก เพราะเขาดีมาก ฉันจึงไม่มีความกล้าพอที่จะบอกเลิกเขา“พี่ไผ่..” ฉันเอ่ยชื่อเขาเสียงเบาหวิว“ตั้งแต่คบกันมา เราไม่เคยทะเลาะกันเลยสักครั้ง มันเหมือนจะดีนะ แต่สำหรับพี่กลับไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น” พี่ไผ่เงยหน้าขึ้นมองฟ้า เมื่อน้ำตาเขากำลังจะไหลออกมา“ต้าไม่เคยงอน ไม่เคยโกรธ หรือหึงพี่เลย มันทำให้พี่เสียใจนะรู้ไหม”“ทำไมล่ะคะ”“เพราะต้าไม่ได้สนใจพี่ตั้งแต่แรกแล้วไง”ฉันหลุบตาลงต่ำไม่อาจสบตากลับพี่ไผ่ได้อีกต่อไป เพราะสิ่งที่พี่ไผ่พูดมามันคือความจริง“แต่พี่ก็ยังดื้อดึงที่จะคบกับต้าต่อ เพราะคิดว่าสักวันหนึ่ง ต้าต้องหันมาสนใจพี่บ้าง แต่แล้ว สิ่งที่พี่กลัวก็กลับมาอีกครั้ง” พี่ไผ่หันไปจ้องหน้าพี่ราเรซ“ต้าขอโทษ..”
ต้าหนิงทีที คลับ 19:50 PMฉันรอให้ป๊ากับม๊าเข้านอนก่อนถึงค่อยกลับมาบ้าน ถ้าขืนเจอป๊ากับม๊าในสภาพนี้นะ เป็นต้องโดนท่านโกรธแน่นอน ถึงท่านจะใจดี แต่เรื่องแบบนี้ คงไม่มีใครใจดีได้หรอกพี่ราเรซขับรถมาส่งฉันถึงหน้าบ้านที่มีร้อนกาแฟตั้งอยู่ ซึ่งตอนนี้ร้านปิดแล้ว ที่สนามก็ไม่มีใครแล้วในตอนนี้“ต้าเข้าบ้านก่อนนะ” ฉันเปิดประตูลงจากรถทันทีที่บอกเขาเสร็จ“เดี๋ยวต้า” พี่ราเรซลงจากรถแล้วเดินอ้อมรถมาหาฉัน“ค่ะ” ฉันมองหน้าเขาอย่างสงสัยพี่ราเรซโฉบริมฝีปากลงมาบรรจงจูบที่หน้าผากมนของฉันอย่างอ่อนโยน ฉันยืนหลับตาพริ้มเหมือนเด็กน้อยชั่งฝัน“ฝันดีนะครับ”“ไอ้เรซ!!”พลัว!! พลัว!! พลัว!! ตุบ!! พี่ราเรซล้มลงไปกองกับพื้นทันที“พี่ไผ่หยุด!!” ฉันร้องห้ามรั้งแขนพี่ไผ่เอาไว้ เมื่อเขาเตรียมจะชกพี่ราเรซอีกรอบพี่ราเรซยันตัวเองยืนขึ้นเต็มความสูง แล้วก็ถุยน้ำลายปนเลือดออกมา พร้อมกับยกหลังมือขึ้นเช็ดที่มุมปากอย่างไม่แยแส“เล่นทีเผลอนี้ว้า..” พอทรงตัวได้ก็ทำปากดีซะงั้น“มึงกล้าดียังไง มายุ่งกั
“ถอดมือเดียวได้ที่ไหนล่ะ มือพี่ไม่ว่าง” ผมส่งยิ้มกวนๆไปให้พร้อมกับยกมือข้างที่กำบราสีหวานไว้อยู่ ให้ต้าหนิตะลึงงันดูว่ามือผมไม่ว่างจริงๆ แล้วต้าหนิงก็ทำหน้าง้อบูดบึ้งกลับมาต้าหนิงขยับตัวเข้ามาใกล้ เธอยื่นมือข้างหนึ่งมาเพื่อแกะกระดุมเสื้อให้ผม แต่มันก็ทำได้ยากเหลือเกิน เพราะใช้แค่มือเดียว“แกะมือเดียวมันก็แกะไม่ได้นะสิ” ผมแกล้งพูดท้วงไป ทำให้ใบหน้างามชักสีหน้าใส่อย่างหงุดหงิด“หลับตาก่อนสิ” ต้าหนิงต่อรอง“ทำไมต้องหลับตา” ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าหวานจนจมูกโด่งชิดกับจมูกเชิดงอนของต้าหนิง“ต้าไม่ใช่พี่เรซนิ จะได้เปลือยร่างกายต่อหน้าคนอื่นโดยที่ไม่รู้สึกอะไร” นี่แอบด่าว่าผมหน้าด้านอยู่ใช่ไหมเนี้ย ร้ายจริงๆ“คนอื่นที่ไหน นี่ก็ผะ...”“พี่เรซ..”“ครับ” ผมยิ้มหน้าระรื่นอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับสีหน้าดุของต้าหนิง“หลับตาสิคะ” ต้าหนิงสั่งอีกครั้ง ผมค่อยๆหลับตาลงตามที่ต้าหนิงบอก เดี๋ยวจะนอยไปมากกว่านี้ ยอมๆให้หน่อยก็แล้วกันมือบางที่แกะกระดุมเสื้ออยู่มีอาการสั่นหน่อยๆ ตื่นเต้นล่ะสิ เห็นบ่อยแล้วนะยังไม่
“ต้าเจ็บ อึก...อือ..” ในที่สุดฉันก็ร้องไห้ออกมาจนได้พี่ราเรซหยุดการกระทำแล้วหันมาจ้องหน้าฉันนิ่ง ฉันใช้หลังมือปาดน้ำตาอย่างลวกๆ พยายามไม่สนใจหยดน้ำใสที่ไหลออกมาตามหางตาราเรซ“ต้าเจ็บ อึก...อือ..”ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ออกมาจากริมฝีปากหวาน มันก็ทำให้ผมได้สติขึ้นมา ผมเผลอทำรุนแรงกับต้าหนิงเพราะความโมโหที่เห็นต้าหนิงอยู่กับผู้ชายคนอื่น และโมโหที่เธอดื้อกับผม“เจ็บมากไหม...” ผมจ้องมองใบหน้าหวานที่เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา พอได้เห็นน้ำตาของต้าหนิงทีไร มันก็ทำให้ผมปวดหัวใจทุกที“คนใจร้าย”“ก็อยากดื้อกับพี่ทำไมล่ะ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง“มายุ่งกับต้าทำไม ทำแบบนี้กับต้าทำไม ผู้หญิงของพี่ก็มีตั้งเยอะ ไปทำกับผู้หญิงของพี่สิ” คำพูดเหมือนน้อยใจเลยแฮะ“พี่อยากทำกับต้านิ” ต้าหนิงมองค้อนให้หนึ่งทีก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปทางอื่น“พี่ขอโทษ ที่รุนแรงกับต้า ก็พี่โมโหอ่ะ” ผมพยายามพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนสุดๆ“โมโหอะไรคะ ต้าต่างหากที่ต้องโมโห” ต้าหนิงหันกลับมามองหน้าผมอย่างโกรธเคือง“แล้วต
“ต้าหนิง”เสียงผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยชื่อฉัน พร้อมกับมองหน้าฉันอย่างตะลึงงัน คงจะตกใจมากล่ะสิที่ได้เห็นหน้าฉัน ไหนบอกฉันว่างานยุ่งไง แต่ที่เห็นในตอนนี้นี่มันคืออะไร... ไอ้ยุ่งๆ ที่ว่าก็คงจะเป็นเรื่องนี้สินะ เขามันไม่เคยพอเลยจริงๆผู้หญิงที่นั่งขนาบข้างพี่ราเรซกับพี่เลโอหันมาหลับตาชังใส่ฉันหนึ่งที แล้วก็หันไปเล้าโลมผู้ชายในมือของหล่อนต่อ พวกนั้นคือพริตตี้ที่ถูกจ้างมาในงานวันนี้เพราะเจอกันในห้องแต่งตัว ฉันจำพวกหล่อนได้“อ้าว พวกเฮียๆ มาทำอะไรกันในห้องนี้ครับ ที่เช่จ้องให้มันอีกห้องหนึ่งนิ ห้องนี้เช่จะไว้ดูการแข่งสองคนกับสาวสวยของเช่นะ” ปอร์เช่เดินเข้ามายืนข้างฉันแล้วพูดขึ้น เด็กนี่ตัวสูงเป็นบ้าเลย“มึงว่าไงนะ ไอ้เช่” พี่ราเรซพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงติดโมโห“เราจะดูการแข่งรถในห้องนี้สองคนค่ะ”ฉันสอดมือเข้าไปคล้องแขนหนาของร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างฉันในตอนนี้ ปอร์เช่เลิกคิ้วขึ้นสูงมองหน้าฉันอย่าง งงๆ แต่ก็แค่แป๊บเดียว หนุ่มน้อยก็ดึงแขนออกจากการเกาะกุมของฉันเปลี่ยนมาโอบรอบเอวฉันแทน เด็กนี่ร้ายชะมัด ฉันทำเป็นยิ้มรับอย่างเต็มใจ ทั้งที่ความจริงไม่ได้รู
“มึงเคลียร์นานไปนะ” พอเดินขึ้นมาถึงชั้นดาดฟ้า เฮียโต้งก็ทักขึ้นทันที“มึงก็เลยส่งไอ้เลโอลงไปตามว่างั้น” พี่ราเรซเอียงคอถามอย่างกวนทีน...“เปล่า กูใช้มันไปเอาน้ำแข็งเฉยๆ” เฮียโต้งตอบพร้อมกับรอยยิ้มกวนๆ เหมือนกัน“ไงมึง ไปเจอช็อตเด็ดมาล่ะสิ” พี่บิ๊กไบค์ถามพี่เลโอ เมื่อพี่เลโอเดินขึ้นมา“สรุปยังไง ไอ้เลโอ” พี่ราเรซหันไปเอาเรื่องพี่เลโอต่อ“ไอ้โต้งมันใช้กูไปขวางมึงนั่นแหละ”“ไอ้เลโอ!!” แล้วพี่เลโอก็โดนเฮียโต้งตะคอก แต่ก็ไม่ได้โมโหจริงจัง เหมือนจะหยอกล้อกันมากกว่า“เฮีย ขอคุยด้วยหน่อย”ฉันเดินเข้าไปหาพี่ชาย ซึ่งเฮียก็เดินเข้ามากอดคอฉันให้เดินไปคุยกับที่ขอบระเบียงดาดฟ้า แล้วพี่ราเรซก็เดินตามมาด้วย แถมยังเอื้อมมือมาโอบเอวฉันอีกต่างหากฟุบ!!! แล้วก็โดนเฮียโต้งเหวี่ยงมือหนาไปใส่หัวหนึ่งที แต่พี่ราเรซกลับหลบได้ซะก่อน“อย่าเยอะไอ้เรซ กูไม่เห็นไม่เป็นไร แต่อย่ามาทำให้กูเห็น เดี๋ยวมึงได้แดกตีนกูแทนข้าว” เฮียโต้งหันไปขู่พี่ราเรซ ซึ่งรายนั้นก็ยืนยิ้มหน้าระรื่นไม่สะทกสะท้านอะไรทั้งนั้น“ไงเรา มีอะไรจะ
“พวกเพื่อนพี่ชายของต้ามานอนที่บ้านบ่อยเหรอ” พี่ไผ่ถามขึ้นหลังจากที่พวกเฮียโต้งไปกันหมดแล้ว“เมื่อก่อนก็บ่อยล่ะคะ แต่ช่วงหลังๆ มาก็ไม่ค่อยมาเท่าไร”“แล้วในบรรดาพวกเพื่อนของพี่ชายต้า มีใครทำอะไรไม่ดีกับต้าหรือเปล่า..” ฉันขมวดคิ้วมองหน้าพี่ไผ่อย่าง งงๆ นี่เขาอยากจะถามอะไรฉัน“พี่หมายถึง แบบว่า มีใครที่นิสัยไม่ดี ชอบมาวุ่นวายกับต้า อะไรประมาณนี้”ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็ไม่มีหรอก แต่ตอนนี้.. ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน“ไม่นี่ค่ะ พวกเขาไม่ค่อยมาวุ่นวายกับต้าหรอก” ฉันจำต้องตอบพี่ไผ่ไปแบบนั้น“ถ้ามีอะไร ก็บอกพี่ได้นะ” พี่ไผ่ส่งยิ้มมาให้อย่างใจดี“ค่ะ”“น้องต้าครับ พี่ขอน้ำแข็งสักสองถังหน่อยสิ พวกพี่จะตั้งวงกันบนดานฟ้า” พี่บิ๊กไบค์โผล่หน้าจากทางขึ้นบันไดบ้านมาบอกกับฉัน“จะดื่มกันแต่ตั้งหัววันเลยเหรอคะ” ฉันถามพี่บิ๊กไบค์“ครับ พอดีว่าไอ้เรซมันกำลังเฮิร์ทนะ ไม่รู้เป็นอะไร อยู่ดีๆ ก็เป็นหมาหงอยซะงั้น”คำพูดของพี่บิ๊กไบค์ มันทำให้ฉันใจหวิวๆ ยังไงก็ไม่รู้ คงไม่ได้เป็นเพราะฉันหรอกนะ“ป่ะ ไอ้ไบค์ ไ