Share

หวงก้าง 2/4

last update Huling Na-update: 2025-03-22 21:11:23

“น้องมิรินใช่ไหมครับ”

ในระหว่างที่ฉันกำลังยืนดูกลุ่มเพื่อนของราเรซ ก็มีผู้ชายผิวขาวใสเดินเข้ามาทัก ฉันหันมามองหน้าเขา ใช้สายตาเพ่งมองเพื่อนึกให้ออกว่าเคยเจอกันหรือเปล่า เพราะเขาเป็นคนเข้ามาทักฉันก่อน แถมยังรู้จักชื่อฉันอีก

“พี่เฟยเองครับ” เขาเฉลยชื่อของตัวเองทันทีที่ฉันขมวดคิ้วเป็นปม ฉันนึกไม่ออกจริงๆ อ่ะ พี่เขาดูเปลี่ยนไปเยอะมาก ดูขาวขึ้น จมูกก็โด่งขึ้นด้วย

“ออ ค่ะ” ฉันยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

“น้องมิรินนี่ สวยขึ้นเยอะเลยนะครับ พี่เกือบจำไม่ได้เนะ ดีนะ ที่คุณแม่เฌอรีนส่งรูปน้องมิรินมาให้พี่ดูก่อน” ระหว่างที่สนทนากัน พี่เฟยนี่ฉีกยิ้มให้ฉันตลอดเวลาเลย เหงือกแห้งแล้วมั้งนั่น

“ค่ะ”

“เราไปกันเลยไหม คุณแม่เฌอรีนบอกว่า น้องมิรินยังไม่มีชุดใส่ไปงานเลี้ยงต้อนรับพี่เลย เดี๋ยวพี่พาไปซื้อนะ” ฉันยังไม่ทันได้พูดอะไร พี่เฟยก็ร่ายยาวเอาเองเสร็จสับ

ฉันเนี้ยนะไม่มีชุด เหอะ! ฉันมีชุดเต็มร้านเลย ขอบอก... เพราะฉันกับพ่อมิโน่เปิดร้านเสื้อผ้าเป็นแบรนด์ของตัวเองอยู่ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง มีทั้งแบบตามสมัย แบบวัยรุ่น แบบออกงานสังคม ร้านฉันมีทุกแบบค่ะ แล้วเสื้อผ้าทุกชิ้นในร้าน ฉันก็เป็นคนออกแบบเองด้วย นี่คงไม่มีข้ออ้างอย่างอื่นแล้วสินะ แม่เฌอรีนของมิริน

“ยัยมิรินนะเหรอคะ ไม่มีชุด” บัวตองพูดพร้อมกับกลั้นขำ

“ก็คุณแม่เฌอรีนบอกมาแบบนั้นนะครับ” พี่เฟยตอบด้วยใบหน้าที่ใสซื่อ เขาพึงกลับมาจากต่างประเทศนี่เนอะ คงไม่รู้หรอกว่าฉันมีร้านเสื้อผ้า

“พี่เขาพึ่งกลับมาจากต่างประเทศอ่ะแก” ฉันกระซิบบอกเพื่อน ซึ่งบัวตองก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ แต่ก็ยังแอบขำอยู่ ไม่รู้ว่าขำพี่เฟย หรือขำกับข้ออ้างที่แม่ฉันบอกพี่เฟยมากันแน่

“พี่เฟยค่ะ ให้บัวตองไปด้วยนะคะ พอดีว่า การเลือกชุดเนี้ย ต้องมีเพื่อนผู้หญิงที่รู้ใจไปช่วยเลือกด้วย ไม่งั้นมิรินเลือกไม่ถูกนะคะ” ฉันยิ้มให้พี่เฟย แอบส่งสายตาอ้อนนิดๆ เพียงแค่นั้นก็ทำให้พี่เฟยหน้าแดงขึ้นมาอย่างง่ายดาย

“ครับ”

พี่เฟยเดินนำฉันกับเพื่อนมายังรถของพี่เขา ซึ่งจอดอยู่ไม่ไกลจากตรงที่ยืนคุยกันเมื่อกี้สักเท่าไร พี่เฟยเปิดประตูรถด้านหน้าที่นั่งคู่กับคนขับให้ฉัน เมื่อเห็นดังนั้นบัวตองจึงเปิดเข้าไปนั่งด้านหลังรอ ฉันกำลังจะก้าวขาเข้าไปนั่งในรถ ก็มีเสียงเรียกทักขึ้นมาก่อน

“จะไปไหนกันเหรอครับ” ราเรซนั่นเอง พร้อมกับเพื่อนอีกสามคน เดินตรงมาที่ฉันกับพี่เฟย

“ไปร้านเสื้อผ้า” ฉันตอบน้องชาย

“ไปดูร้านเหรอ” ราเรซถาม

“เปล่า จะไปซื้ออ่ะ”

ราเรซเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างแปลกใจ เมื่อฉันบอกว่าจะไปซื้อเสื้อผ้า ก็นะ.. ฉันชอบใส่เสื้อผ้าของร้านตัวเองมากกว่า เพราะมันถูกใจฉันที่สุด การที่บอกว่าจะไปซื้อเสื้อผ้านี่มันก็เลยค่อนข้างเป็นที่แปลกใจของคนที่รู้จักฉันดี

“แล้วนี่ใครครับ” ราเรซเหล่ตามองพี่เฟยเล็กน้อย ก่อนจะหันมาถามฉัน

“ออ นี่ พี่เฟยหลายชายเพื่อนคุณตา” ฉันตอบน้องชาย

“ออ... จำได้ล่ะ นึกว่าใคร พี่เฟยหลานชายเพื่อนสนิทของปู่นี่เอง” ราเรซพูดขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ พี่เฟยหันมามองหน้าฉันอย่าง งงๆ ที่ราเรซรู้จักเขา

“พี่เฟยจำราเรซได้ไหมคะ น้องชายมิรินไง” ฉันบอกพี่เฟย

ซึ่งเขาก็ทำหน้าเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้บ้าง

“ออ พี่จำได้ล่ะ แหมโตขึ้นเยอะเลยนะ ตอนเด็กหน้าตากวนยังไง โตขึ้นก็ยิ่งหน้าตากวนเข้าไปอีก” พี่เฟยยิ้มให้แบบหยิ่งนิดๆ

“ครับ พี่ก็เหมือนกัน ไม่เจอกันนาน เหมือนจะมีดั้งขึ้นมานะเนี้ย เรซจำได้ว่า.. เมื่อก่อน...ไม่มีนี่ครับ” ราเรซยกยิ้มมุมปากอย่างกวนๆ ซึ่งทำให้พี่เฟยแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด

“นั่นรถน้องเรซเหรอครับ รุ่นนี้มันก็แรงแค่โปรชัวร์เท่านั้นแหละ สู้รถพี่ก็ไม่ได้ พึงถอยมาเมื่อวานนี้เอง แรงใช่ได้อยู่นะ พี่ไปลองที่สนามแข่ง บีพีเรซซิ่งมาแล้ว รู้จักไหม” จู่ๆ พี่เฟยก็เปลี่ยนหัวข้อในการสนทนา เหมือนจะหาเรื่องมาคุยทับกันให้ได้อ่ะ รู้สึกว่าพี่เฟยนี่ขี้โม้จัง เขาจะรู้ตัวไหมนะ ว่าหนึ่งในสี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้านั่นน่ะ มีหนึ่งคนที่เป็นนักแข่งและก็เป็นเจ้าของสนามแข่งที่พี่เฟยเอ่ยชื่อไปเมื่อกี้

“สนามเขาใหญ่นะนั่น พี่เข้าไปได้ไงครับ” เลโอถาม พร้อมกับรอยยิ้มทะเล้น

“พอดีว่า พี่เป็นเพื่อนกับลูกชายเจ้าของสนามน่ะนะ” พี่เฟยยิ้มให้อย่างโชว์เหนือ

“เพื่อนมึงเหรอ ไอ้ไบค์” โต้งหันไปถามบิ๊กไบค์

“กูก็ งงๆ อยู่เนี้ย” บิ๊กไบค์ตอบอย่างขำๆ

“บอกว่าถอยมาเมื่อวาน แล้วไปลองตอนไหนวะ” โต้งถามพี่เฟยด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง แต่แววตานี่พร้อมเอาเรื่องตลอดเวลาอ่ะ

“ซื้อแล้วก็ไปลองเลยไง” พี่เฟยตอบ

“ขี้โม้ว่ะ” โต้งว่า

“ใครขี้โม้ อยากจะลองไหมล่ะ” พี่เฟยท้า

“มาดิ”

“เออ มิรินว่าเราไปกันดีกว่าเนอะ” ฉันรีบห้ามทัพก่อนที่จะเกิดสงคราม

“ใครไปถึงห้างก่อน คนนั้นชนะ” ราเรซบอก

ฉันกำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตูรถของพี่เฟย ก็โดนมือหนาของใครบางคนคว้าหมับ ก่อนจะออกแรงลากให้ฉันมาขึ้นรถหรูสีแดงของเขา

“น้องมิริน!” เสียงพี่เฟยเรียกอยู่ด้านนอกรถ ในระหว่างที่พี่เฟยตะโกนโวยวายอยู่นั้นรถหรูสี่คนสี่สีก็ได้เลี้ยวรถมาเรียงตัวเป็นแถวหน้ากระดานเตรียมจะออกตัวกันอยู่แล้ว

“พร้อมยัง” โต้งลดกระจกลงแล้วตะโกนถามพี่เฟย ซึ่งกำลังทำหน้าเริกลักไปไม่เป็นอยู่ในตอนนี้

ปี๊ดๆ ๆ ๆ ๆ

“จะแข่งไหม ไม่งั้นจะแข่งกันเองแหละ” ราเรซบีบแตรเสียงดังลั่น เพื่อกระตุ้นพี่เฟย เมื่อโดนราเรซบีบแตรใส่ พี่เฟยก็รีบกลับขึ้นรถของตัวเอง แล้วก็ออกตัวก่อนรถของโต้งและเพื่อนซะอีก

“ออกตัวก่อนกูอีก สัส!” ฉันหันมามองหน้าโต้งอย่างตำหนิ ที่เขาพูดคำหยาบออกมา

“ทำไม ข้องใจไร” โต้งหันมาถามฉันแวบหนึ่งก่อนจะหันกลับไปมองที่ถนนด้านหน้าต่อ

“พูดไม่เพราะ” ฉันนั่งกอดอกบ่นเข้าให้

“พูดเพราะแล้วไง พูดเพราะแล้วได้มิรินป่ะล่ะ ถ้าได้ เดี๋ยวจะพูดให้ฟัง”

ฉันหันขวับมามองหน้าโต้งอีกครั้งด้วยความตกใจกับคำพูดที่แสนจะตรงไปตรงมาของเขา สายตาของโต้งยังจ้องมองที่ท้องถนนอยู่ เขาดูจริงจังมาก ไม่รู้ว่าจริงจังกับการแข่งหรือจริงจังกับคำพูดเมื่อกี้กันแน่

ฉันล่ะสายตาจากใบหน้าคมเข้ม มองไปยังเข็มไมค์ที่กำลังชี้ไปที่เลขร้อยสี่สิบ ฉันหันกลับมานั่งตัวตรง พร้อมกับดึงเข็มขัดนิรภัยมารัดตัวไว้ ฉันนั่งหลับตาไปตลอดทางไม่กล้ามองอะไรอีกเลย หูได้ยินเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มเป็นระยะๆ ฉันจะตายไหมเนี้ย ทำไมต้องมาท้าแข่งอะไรกันแบบนี้ด้วยนะ

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • Bad love...รักร้ายฉบับนายโต้ง   แค่เธอเท่านั้น 5/5

    โต้งเลื่อนมือเข้ามาลูบไล้บริเวณต้นขาอ่อนพร้อมกับพยายามที่จะถอดกางเกงซับตัวนอกของฉัน โต้งย่อตัวลงคุกเข่าตรงหน้าเพื่อรั้งกางเกงซับสีดำให้หลุดพ้นขาเรียวขางาม ฉันกัดฟันแน่นพยายามไม่มองหน้าเขายามที่ใบหน้าคมจ้องมองส่วนนั้นที่มีเพียงแพนตี้ตัวจิ๋วปกปิดอยู่แทบจะไม่ได้ช่วยอะไรเลยด้วยซ้ำ เพราะสายตาอันร้อนแรงนั้นจ้องมองซะจนแทบทะลุปรุโปร่งอยู่ล่ะ โต้งกลับมายืนเต็มความสูงอีกครั้งพร้อมกับรั้งมือบางของฉันไปกุมที่ตะขอกางเกงของเขาที่สวมใส่อยู่ ฉันถึงกับมือสั่นเล็กน้อย ถึงแม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกก็ตาม แต่ฉันก็ประหม่าทุกครั้ง มันยังไม่ชินอยู่ดี และดูเหมือนว่าการกระทำของฉันเริ่มไม่ทันใจเขา โต้งจึงถอดกางเกงเองพร้อมกับชั้นในด้วย “คนบ้า!!” ฉันรีบยกมือขึ้นปิดหน้าแทบไม่ทัน “ทำอย่างกะไม่เคยเห็นไปได้” “มิรินไม่ได้หน้าด้านเหมือนโต้งนะ!!” ฉันแอบแขวะเขาซะเลย “มานี่ดิ” “ว๊าย!!!” ฉันถูกมือหนารั้งเอวให้ไปนอนทับตัวเขาบนเตียงนอน แล้วความรู้สึกร้อนวูบวาบก็แล่นไปทั่วใบหน้าและลำตัวเมื่อส่วนนั้นของเขาจ่ออยู่ที่ท้องน้อยของฉัน

  • Bad love...รักร้ายฉบับนายโต้ง   แค่เธอเท่านั้น 4/5

    หลังจากที่ทานข้าวเสร็จ โต้งก็พาฉันมาที่คอนโดของเขาไม่ยอมไปส่งฉันที่บ้าน ซึ่งที่บ้านของฉันเองก็ไม่มีใครกล้าว่าอะไรแล้วตอนนี้ ยิ่งทำให้เขาได้ใจเข้าไปใหญ่“ทำไมไม่ไปส่งมิรินที่บ้าน” ฉันเอ่ยถามขึ้นเมื่อโต้งเดินมาเปิดประตูให้ฉัน“กินข้าวเสร็จใหม่ๆ ก็ต้องออกกำลังกายให้อาหารมันย่อยก่อนสิ” โต้งส่งยิ้มแพรวพราวมาให้“ไม่อยากออกกำลังอ่ะ อยากนอนมากกว่า มิรินง่วง”“ได้นะ ทุกทีก็ให้นอนอยู่แล้วนิ” โต้งยกยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างมีเลสนัย ทำให้ฉันต้องก้าวขาออกจากตัวรถแล้วฟาดลงที่ต้นแขนเขาอย่างหมั่นเคี้ยว คนอะไรก็ไม่รู้ ทะลึ่งได้ตลอดเวลาจริงๆ โต้งยืนหัวเราะชอบใจที่ยั่วอารมณ์ทำให้ฉันโมโหได้ในจังหวะที่กำลังจะเดินไปที่ลิฟต์ ฉันก็เห็นน้องชายของตัวเองกำลังอุ้มสาวน้อยน่ารักคนหนึ่งเข้าไปในลิฟต์ก่อนโดยที่เขาไม่ทันเห็นฉันกับโต้งเลยสักนิด“ไอ้เรซ!!!” จู่ๆ โต้งก็ตะโกนเรียกราเรซเสียงดังลั่น แต่ว่าราเรซไม่ทันได้ยินเพราะประตูลิฟต์ปิดตัวลงก่อนโต้งรีบเดินไปกดปุ่มหน้าลิฟต์อย่างรวดเร็วจนฉันตกใจว่าเขาเป็นอะไรไปทำไมถึงได้ดูอารมณ์ร้อนขนาดนี้ แล้วสาวน้อยน่ารักที่ร

  • Bad love...รักร้ายฉบับนายโต้ง   แค่เธอเท่านั้น 3/5

    รถยนต์หรูจอดสนิทที่หน้าร้านกาแฟร้านหนึ่ง ซึ่งเป็นตึกคูหาสามชั้น ข้างๆ ตึกนั้นมีสนามฟุตบอลหญ้าเทียมอยู่หลายสนามซึ่งก็ใหญ่โตพอสมควร ฉันลงมายืนอยู่ข้างรถแล้วมองไปรอบๆ ด้วยความตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้มาบ้านของโต้ง รู้สึกประหม่าจังแฮะ พ่อแม่ของเขาจะชอบฉันหรือเปล่านะ ความกังวลเริ่มก่อตัวขึ้นอยู่ในใจ“ป่ะ เข้าบ้านกัน” โต้งเดินมาจับมือฉันแล้วเดินนำเข้าไปยังร้านกาแฟที่อยู่ชั้นล่างสุดของตึกคูหา“ม๊า” โต้งเอ่ยเรียกหญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง ซึ่งกำลังเช็ดตู้กระจกอยู่“อ้าว โต้ง กลับมาตั้งแต่เมื่อไร” โต้งเดินเข้าไปสวมกอดแม่ของเขาพร้อมกับหอมแก้มเสียงดังฟอด เวลาอยู่กับแม่นี่ เป็นหมาน้อยเชียวนะ“สาวสวยคนนี้ คือมิรินใช่ไหม” แม่ของโต้งหันมามองฉัน“สวัสดีค่ะ” ฉันรีบยกมือไหว้ท่านทันที“สวยจังเลย มิน่าล่ะ ตาโต้งถึงได้ตามหวงนักหวงหนา ถึงขนาดโทรไปขู่ต้นหลิวให้ส่งบอดี้การ์ดไปค่อยดูแลให้เนะ!” แม่ของโต้งพูดไปด้วยยิ้มไปด้วย นี่แม่เขารู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ ฉันแอบส่งสายตาดุไปให้โต้ง แต่เขาก็ไม่สะทกสะท้านอะไรหรอกแถมยังยิ้มหวานกลับมาให้อีก โต้งยิ้มหวานเหมือนแ

  • Bad love...รักร้ายฉบับนายโต้ง   แค่เธอเท่านั้น 2/5

    “สวัสดีครับ ผมธนาธร บรรณาลักษณ์ หรือจะเรียกว่า โต้ง ก็ได้ครับ”“คุณธนาธร ยังเด็กอยู่เลยนะครับเนี้ย” มีเสียงหนึ่งจากผู้ร่วมประชุมเอ่ยขึ้น“จะไม่เด็กได้ไง มันยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ” พี่เฟยพูดแทรกขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์“จริงเหรอครับ แล้วแบบนี้ คุณจะทำงานได้เหรอ”“ผมยังเรียนไม่จบก็จริงครับ แต่ผมก็สามารถทำงานร่วมกับทุกคนได้ ซึ่งผมก็พิสูจน์ให้ได้เห็นแล้ว ในช่วงสามปีที่ผ่านมา” โต้งหันไปตอบคำถามจากผู้ร่วมประชุม“ยังไงก็...ช่วยเป็นคุณครูสอนวิชาให้ผมเพิ่มเติมหน่อยนะครับ ผมเชื่อว่าการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ต่อให้ผมเรียนจบ ผมก็ยังต้องเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมอีกเยอะ เพราะในตำรากับชีวิตจริงมันต่างกัน จริงไหมครับ ท่านรองประธาน” โต้งพูดกับผู้ร่วมประชุมด้วยท่าทีสุภาพ และท้ายประโยคนั้นได้หันมาพูดกับแม่เฌอรีน พร้อมรอยยิ้มแม่เฌอรีนถึงกลับพูดไม่ออก ก่อนจะหันมามองหน้าฉันเชิงเป็นคำถามว่า ฉันรู้เรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า ฉันจึงส่ายหน้าตอบกลับแม่ไปตามความจริง“นี่มันอะไรกันค่ะ คุณพ่อ!!”เมื่อการประชุมจบลง แม่เฌอรีนรีบเดินมาหาคุณตาที่ห้

  • Bad love...รักร้ายฉบับนายโต้ง   แค่เธอเท่านั้น 1/5

    “ถ้าคิดว่าทำให้ถอยได้ก็ลองดูสิ”“โต้ง อือออ”ใบหน้าคมโน้มลงมาซุกไซร์ซอกคอฉันทันทีพร้อมกับที่มือบางถูกมือหนาตรึงไว้กับเตียงนอนที่ข้างหัว ทำให้ฉันไม่สามารถขัดขืนเขาได้ ใจอยากจะต่อต้านเขาเหลือเกินแต่เรี่ยวแรงกลับมีไม่พอที่จะผลักไสเขาออกไป ร่างกายของฉันถูกมือหนาถอดเสื้อผ้าออกไปทีล่ะชิ้นจนไม่เหลือสิ่งใดปกปิด ทุกส่วนบนร่างกายถูกริมฝีปากหนาครอบครองและทิ้งร่องรอยความเป็นเจ้าของไว้ทุกที่ที่ริมฝีปากสัมผัส“คิดถึงโต้งหรือเปล่า หื้อ..” ริมฝีปากหนากระซิบถามพร้อมกับงับเข้ากับติ่งหูอย่างหยอกล้อ“คิดถึง..อืออออ” ฉันถึงกลับครางเสียงแผ่ว เมื่อช่วงล่างถูกนิ้วร้ายล่วงล้ำเข้าไปสร้างความปั่นป่วนอย่างวาบหวิว“อยากกลับมาหาโต้งไหม..อ่า..” ลมหายใจอุ่นๆ เป่ารินรดอยู่บริเวณดอกบัวคู่งาม ชวนให้ขนกายรุกชันไปทั่วร่าง“อยากสิ... อ๊ะ!!” ช่วงล่างบิดเร่าตามจังหวะจากมือหนา“ยังรักโต้งอยู่ไหม..” ฉันเลือนสายตาขึ้นมาสบเข้ากับตาคมอย่างแน่วแน่“มิรินรักโต้ง...” โต้งยกยิ้มอย่างพอใจกับคำตอบที่ได้รับ“ขอกินหน่อยนะ” โต้งถอดนิ้วเรียวออกจากส่วนนั้นแล

  • Bad love...รักร้ายฉบับนายโต้ง   คำพูด 4/4

    “จริง ถ้าเธอไม่เชื่อ ถามไลลาดูก็ได้ เพราะตอนที่มิรินบอกกับฉันไลลาก็อยู่ด้วย”ผมหันไปมองหน้าแม่ไลลาที่ผมรักและเคารพท่านเหมือนแม่แท้ๆ ซึ่งเมื่อผมหันหน้าไปหาแม่ไลลา ท่านก็พยักหน้าให้เพื่อเป็นการยืนยันในสิ่งที่แม่เฌอรีนพูด ว่ามันคือเรื่องจริง“ทำไมครับ ทำไมมิรินถึงอยากไป” ผมยังไม่เข้าใจอยู่ดี และยังต้องการคำตอบที่มากกว่านี้ ผมยังไม่ปักใจเชื่อ“ฉันขอโทษนะ ที่ผิดคำพูดกับเธอ แต่มันคือความต้องการของมิริน ซึ่งฉันเองก็ตกใจไม่น้อยเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้ มิรินก็ดื้อดึงไม่ว่าจะทำอย่างไร มิรินก็ไม่ยอมไป แต่ครั้งนี้ มิรินเป็นคนขอไปเอง”“มันเป็นความต้องการของคุณน้าอยู่แล้วนี่ครับ คงจะสมใจแล้วล่ะซิ” ผมจ้องหน้าแม่เฌอรีนตาเขม็งด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธ“ไอ้โต้ง ใจเย็น” ราเรซเดินเข้ามาจับไหล่ผมไว้ เมื่อผมเผลอก้าวเดินเข้าหาแม่เฌอรีนอย่างลืมตัว“งั้นผมก็ไม่จำเป็นต้องรักษาคำพูดอีกต่อไป”“นั้นก็แล้วแต่เธอ” แม่เฌอรีนตอบกลับมาด้วยใบหน้าและท่าทีที่ไม่สะทกสะท้านอะไร ท่านคงคิดว่า การที่ส่งมิรินไปไกลผมแบบนั้น คิดว่าผมจะตามไปไม่ได้ล่ะสิ“ผมขอบอก

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status