Home / มาเฟีย / BadEvil เหนือพันธะร้าย / เหนือพันธะ 4 : กองเพลิงที่ถูกจุด

Share

เหนือพันธะ 4 : กองเพลิงที่ถูกจุด

last update Huling Na-update: 2025-09-27 15:56:32

ร่างบางกวาดสายตามองไปรอบห้อง ไม่ใช่แค่คู่ของลัลลาเบลที่มีพฤติกรรมแบบนี้ อีกหลายคู่ที่นัวเนียเข้าหากันโดยไม่สนใจว่าใครจะมอง แต่สิ่งที่สะดุดตาฉันมากที่สุดก็เห็นจะเป็น อุปกรณ์เสพสิ่งเสพติดที่วางเกลื่อนกลาดอยู่บนโต๊ะ

“เธอเป็นเพื่อนของเด็กนี่เหรอ” เสียงของคนที่ฉันพึ่งด่าเขาไปถามขึ้น เรียกสติให้กลับมา

“ลัลลาเบล เรากลับกันเถอะ” ฉันไม่สนใจคำถามของสเตฟานรีบเดินเข้าไปดึงแขนเพื่อนตัวเองออกจากผู้ชายคนนั้น

หมับ! ยังไม่ทันจะเข้าถึงตัวเพื่อน ข้อมือเล็กก็ถูกกระชากเต็มแรงจากผู้ชายตัวสูง

“อย่าเมินคำถามฉัน” สเตฟานกดเสียงต่ำ สายตาดุจ้องมองหน้า

“ไม่รู้ก็คงไม่ตายใช่มั้ย”

“...” เมื่อได้รับคำตอบทำเอาสายตาของเขาเปลี่ยนไปทันที โมโหสินะ

“หรือจะตายที่ไม่ได้รู้ก็บอก ฉันจะได้เล่าให้ฟังว่าตัวเองเป็นใครแล้วคุณจะได้ไปตายซะ” ข้อมือเล็กพยายามดึงออกจากมือหนา แต่แรงบีบที่ข้อมือแรงขึ้นจนร่างบางแสดงสีหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด

“นี่มันคริส เด็กกำพร้าตระกูลที่ควีนมาเรียรับมาเลี้ยงนี่” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น ฉันก็ดังพอตัวเลยนะเนี่ย

“ก็แค่เด็กกำพร้า...แต่เป็นเด็กกำพร้าที่ปากดีดี” สายตาดูถูกของผู้ชายตรงหน้ายิ่งทำให้ฉันรู้สึกเกลียดเขาขึ้นทีละนิด

“...” เราทั้งคู่ต่างจ้องหน้ากัน

สเตฟานเดินผ่านฉันไปทิ้งตัวนั่งลงยังโซฟา สายตาทุกคู่จับจ้องมาที่ฉัน แต่ลัลลาเบลกลับฟุบหน้าซบลงบนอกผู้ชายไม่สนใจฉันเลยสักนิด สภาพของเธอเหมือนคนเมาอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่เหล้า

“ให้เธอพาเพื่อนกลับไป” สเตฟานพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ฉันเอากลับอยู่แล้ว” ร่างบางเดินตรงเขาไปคว้าแขนเพื่อนตัวเอง แล้วออกแรงดึง แต่อีกฝ่ายกลับขืนแรงเอาไว้ไม่ยอมลุกขึ้นตาม

“ปล่อย!” ลัลลาเบลสะบัดมือฉันออกแล้วซบหน้าลวงบนอกตามเดิม

“ลัลลาเบล กลับบ้านกับเรา” ฉันพยายามพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แม้ว่าภายในใจจะใกล้หมดความอดทนเต็มทีแล้ว

เธอยังคงสะบัดมือออกไม่ยอมให้ฉันโดนตัว ไม่คิดจะหันมามองหน้ากันด้วยซ้ำ ฉันมั่นใจว่าอาการเมานี้เกิดจากสารเสพติด สายตาทุกคนยังคงมองมาและอมยิ้มไม่เว้นแม้แต่หมอนั่น

“ลัลลาเบล มานี่สิครับเด็กดี” สเตฟานยกแขนพาดพนักโซฟาแล้วหันมองไปทางลัลลาเบล เพียงเขาส่งเสียงพูดก็ทำให้คนถูกเรียกรีบลุกเดินโซเซเข้าไปหาทันที

พึ่บ!

ร่างบางทิ้งตัวนั่งลงข้างเขา มือเล็กยกแตะข้างแก้มลูบไล้ลากมือเลื่อนลงมาจนถึงแผงอกแล้วซบหน้าลง เธอคลั่งไคล้ในตัวเขาจนยากที่ถอนตัว

“ไปไหนมาคะ เมื่อกี้เรายังจูบกันอยู่เลย” เสียงอ้อแอ้ของลัลลาเบลดังขึ้น เธอจูบกับใครก็ยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

“ไม่ได้ไปไหนครับ ลัลลาเบลนั่นแหละไปไหนมา”

“ลัลลาเบลจะไม่ไปไหน จะอยู่กับพี่ตลอดไป”

“หึ! น่ารักจังครับ” ถึงปากจะพูดแบบนั้น แต่สายตากลับมองมาอย่างผู้ชนะ

“ลัลลาเบล กลับบ้านกันเถอะ” ฉันเดินเข้าไปดึงแขนเพื่อนขึ้นมาอีกครั้ง

“หื้อ ~ คริสเหรอ ไม่เอาเราไม่กลับ!” เธอยังคงยืนยันคำเดิม

“กลับกันนะ ตอนนี้ดึกแล้ว” จะทำยังไงกับเรื่องนี้ดีวะเนี่ย!

“ไม่เอา!”

“ลัลลาเบลมีสติหน่อยสิ เรากลับกะ!”

“เป็นแม่หรือไงบังคับเพื่อนกลับบ้านอยู่ได้” สเตฟานพูดแทรกขึ้น เขายกมือโอบแผ่นหลังของลัลลาเบลกอดไว้

“...” ฉันเมินคำพูดของเขาแล้วพยายามดึงแขนเพื่อนให้ลุกขึ้น

“อย่าเมินเวลาที่รุ่นพี่เขาคุยด้วยสิ” เสียงผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้น มีตัวแทรกเข้ามาเพิ่มอีกหนึ่งเลย

“...” ฉันเมินทั้งสองคนแล้วพยายามดึงเพื่อนขึ้น สเตฟานไม่ได้จับลัลลาเบลเอาไว้ แต่เป็นเพื่อนฉันเองที่กอดเขาไว้แน่น โว้ย! ถ้าเป็นคนอื่นฉันไม่สนใจหรอก แต่นี่...ฉันมีเพื่อนแค่คนเดียวแล้วยังมาอยู่ในสภาพแบบนี้อีก

หมับ!

“เด็กกำพร้านี่เมินจังเลย ไม่รู้หรือไงว่าพวกฉันเป็นใคร” ผู้หญิงอีกคนเข้ามาคว้าแขนไว้ วุ่นวายกันจังคนพวกนี้

“ปล่อย” ฉันปาดสายตามองไปยังผู้หญิงที่จับแขนอยู่

“ฉันชอบสายตาแกตอนนี้นะ มันดูเหมือนหมาจรจัดที่พยายามจะสู้ดี”

“...” หมาเหรอ...

“กรี๊ด!”

พึ่บ!

มือเล็กปล่อยจากแขนเพื่อนแล้ว ใช้มือข้างที่โดนจับพลิกเปลี่ยนมาจับแขนของอีกฝ่ายพร้อมกับออกแรงกระชากเธอเข้าหาตัว มืออีกข้างที่ว่างเอื้อมไปสอดเข้าใต้หลังหัวก่อนออกแรงดึงผม บังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นสยตา

“พูดอีกที!” ทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยความรวดเร็ว ทำเอาทุกคนไม่ทันได้ตั้งตัว

“กรี๊ด! อีเด็กกำพร้า มึงไม่ตายดีแน่!”

“มึงนั่นแหละไม่ตายดี”

หมับ!

แขนข้างที่ดึงผมคนตรงหน้าถูกมือหนึ่งจับเอาไว้ แล้วออกแรงบีบอีกฝ่ายก็ถูกเพื่อนของตัวเองจับเอาไว้ และช่วยกันดึงมือฉันออกจากแขนเธอเช่นกัน

“เก่งพอตัวเลยนี่ ขนาดมาคนเดียวนะเนี่ย” สเตฟานเป็นคนเข้ามาจับแขนฉันไว้

“ขอบคุณที่ชม แต่ทำตัวเหมือนหมาหมู่เลยนะ รุมผู้หญิงคนเดียว...กลัวไปหมดแล้วค่ะ” ริมฝีปากบางยกยิ้ม

“แน่ใจนะว่าเป็นแค่เด็กกำพร้า” เขาถามมันออกมาซึ่งหน้า และนั่นยิ่งทำให้ทุกคนต่างสนใจมาที่ฉัน

“ถ้าบอกแล้วจะไปตายเลยมั้ยล่ะ จะได้พูดให้ฟัง” คำถามเดิมถูกนำมาใช้อีกครั้ง สงสัยไม่จบไม่สิ้นจริงนะหมอนี่

พึ่บ!

ข้อมือเล็กปล่อยออกจากผมยาว และสะบัดออกจากมือเขา แล้วตรงเข้าไปคว้าแขนเพื่อนมาพาดคอไว้ข้างหนึ่ง มือโอบเข้าเอวบางแล้วออกแรงพยุงเพื่อนขึ้นมา ตัวหนักชะมัดเลยยายลัลลาเบล!

“ให้ช่วยมั้ย” สเตฟานมองสภาพฉันตอนนี้แล้วยิ้มมุมปาก

“ช่วยไปตายไหนก็ไป” นัยน์ตาคมปาดมองคนตัวสูง

“เฮ้ย! จะมากไปแล้วเด็กกำพร้า ไม่รู้หรือไงว่าสเตฟานเป็นใคร!” ผู้ชายอีกคนตะโกนขึ้นอย่างไม่พอใจ

“ถ้าเขาไม่ใช่คนแล้วค่อยมาทำให้ฉันตื่นเต้นโว้ย!” เสียงเล็กตะโกนกลับไปอย่างไม่ยอมเหมือนกัน

“อีเด็กปากดีนี่!”

“แล้วจะทำไม!” กลายเป็นว่าฉันและเพื่อนของสเตฟานตะโกนด่ากันเอง ส่วนตัวต้นเหตุยังคงเอาแต่มองหน้าฉัน สงสัยอะไรนักหนา

“อ้าว! สเตฟาน!” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นขัดจังหวะ ทำให้ทุกสายตาหันมองไปที่เธอ

“เฮเลน เคท” สเตฟานเรียกชื่อบุคคลเข้ามาใหม่

“บังเอิญจังที่เจอกัน” พี่เคท หลานสาวของเลขาธิการประจำราชวงศ์ แน่นอนว่าเธอก็รู้จักฉันดีเป็นคนส่งเสียงขัดจังหวะ เธอมองมาที่ฉันและสลับไปที่ลัลลาเบล

“มาทำอะไรที่นี่เฮเลน” น้ำเสียงของสเตฟานเปลี่ยนไปทันทีตอนพูดกับพี่เฮเลน

“อ๋อ พอดีเรามาดื่มกับเคทน่ะ แล้วบังเอิญเห็นสเตฟานตอนที่พึ่งมาถึงเมื่อกี้ ก็ว่าจะมาเซอร์ไพรส์กว่าจะหาห้องเจอ” พี่เฮเลนกำลังโกหก สายตาของทั้งคู่มองมาที่ฉันขนาดนี้ตามมาสินะ

“ถ้างั้นเราสามคนไปที่อื่นกันเถอะ” สเตฟานทิ้งคนที่นี่เพื่อพี่เฮเลนเลยเหรอเนี่ย

“นั่น...น้องคริส” พี่เคทกะพริบตาปริบ ๆ ตอนเรียกชื่อฉัน

“ค่ะ” ฉันส่งยิ้มให้พี่เคท และพยุงเพื่อนตัวเองตรงไปยังประตู

“เคทรู้จักด้วยเหรอ” ยิ่งพี่เคททัก สเตฟานก็ยิ่งสงสัยเมื่อเรารู้จักกัน

“อื้อ เด็กสาวที่ตระกูลของควีนมาเรียดูแลอยู่ ฉันก็ต้องรู้สิ”

“อือ” ขนาดพี่เคทหลบได้ดี หมอนี่ก็ยังไม่หยุดมองฉันด้วยความสงสัย

“เพื่อนเมาเหรอคะ เดี๋ยวพี่ช่วย” พี่เฮเลนรีบเข้ามาช่วยพยุงลัลลาเบลอีกคน

“เฮเลนก็รู้จักเหรอ” ไอ้บ้านี่ขี้สงสัยจังวะ!

“ไม่รู้จักหรอก แต่ดูเหมือนน้องเขาจะหนักน่ะฉันแค่ช่วย เอางี้เดี๋ยวฉันกับเคทไปรอข้างล่างนะ แล้วก็...จัดการของบนโต๊ะด้วย” พี่เฮเลนชี้ไปที่โต๊ะแล้วไล่สายตามองทุกคนก่อนจะหยุดที่หน้าเพื่อนตัวเอง

“ไม่ต้องมองแบบนี้เลย เฮเลนก็รู้ว่าเราไม่เคยยุ่ง”

“ไม่รู้ละ ไปรอข้างล่างแล้วกัน” พูดจบพี่เฮเลนกับฉันก็พยุงลัลลาเบลออกไปทางประตู โดยมีพี่เคทเดินตามหลังมา

ร่างสูงจ้องมองกลุ่มคนที่เดินออกไปทางประตู ความสงสัยมากมายผุดขึ้นในหัว สายตาของเด็กนั่นไม่มีความกลัวอยู่ภายในนั้นเลย และเรื่องบังเอิญที่เพื่อนทั้งสองเข้ามาได้ทันเวลา ตอนที่ทั้งสองปรากฏตัวขึ้นเหมือนเหนื่อยจากการวิ่งมา แค่จะเซอร์ไพรส์ต้องวิ่งตามหาเขาเลยเหรอ

“กูบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าเอาของแบบนี้มาเล่น” นัยน์ตาคมไล่มองเพื่อนตัวเองทีละคน

“...” ทั้งห้องเข้าสู่ความเงียบ

“แล้วมึงก็เลิกเอาชื่อกูไปใช้ล่อเด็กสักที เพื่อนเด็กนั่นเข้าใจว่าทั้งหมดกูเป็นคนทำแล้ว”

“สนใจอะไรวะ ก็แค่เด็กกำพร้า มันจะทำอะไรมึงได้”

“ทำไม่ได้ แต่กูรำคาญ” พูดจบเขาก็เดินออกจากห้องไปทันที ใบหน้าของเด็กคนนั้นยังวนเวียนอยู่ในหัว สายตาของเธอที่ไม่กลัวอะไรทั้งนั้นไม่เหมาะกับคนที่เป็นแค่กำพร้าเลยสักนิด

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • BadEvil เหนือพันธะร้าย   [THE END] เหนือพันธะ 40: แด่คุณ...คนธรรมดาของฉัน

    2 เดือนต่อมา ก่อนถึงงานแต่ง 1 อาทิตย์‘แถลงประกาศจากสำนักพระราชวัง เรื่องการลาออกจากราชวงศ์ของ ‘เจ้าหญิง เมอร์ลีอา คาเลนเซีย เจนนิวีพ’ รัชทายาทลำดับที่สามแห่งราชวงศ์อิตาลี พระองค์ประสงค์สละยศ และฐานันดรศักดิ์ของราชวงศ์ แต่พระองค์จะยังคงเป็นที่รู้จักของประชาชนในฐานะ เมอร์ลีอา เจนนิวีพ ทายาทของคิงและควีนแห่งราชวงศ์อิตาลี โดยอดีตเจ้าหญิงจะไม่ขอรับทรัพย์สมบัติในส่วนของรัชทายาททั้งหมด พระองค์ขอบริจาคแก่มูลนิธิทั่วประเทศ’ร่างบางยืนมองประกาศทางสำนักราชวังที่กำลังฉายทางหน้าจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่กลางห้องนั่งเล่น ใบหน้าของหญิงสาวผู้เป็นเจ้าหญิงลำดับที่ 3 ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะชนครั้งแรก‘การลาออกจากราชวงศ์ของเจ้าหญิงเมอร์ลีอา คาเลนเซีย เจนนิวีพจะมีผลนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศต่อไป...พิธีสมรสของอดีตเจ้าหญิงคาเลนเซีย กับนายสเตฟาน คาร์พาเธีย ทายาทตระกูลคาร์พาเธียจะมีขึ้นในวันที่แปดเดือน... โดยพิธีจะจัดขึ้นเป็นการส่วนตัว มีเพียงญาติของทั้งสองและเพื่อนสนิทเพียงเท่านั้น’ “ไอรีนครับ...” เสียงทุ้มดังขึ้นข้างใบหู พร้อมกับแขนแกร่งที่โอบกอดเอวบางจากข้างหลัง แล้ววางปลายคางลงบนไหล่“อะไรเหรอ” ฉันเอียงใบหน

  • BadEvil เหนือพันธะร้าย   เหนือพันธะ 39 : แต่งงานกัน NC

    “หยุดเลยนะ...”นิ้วเรียวชี้ใส่ร่างสูงที่คร่อมตัวอยู่ สเตฟานหยุดชะงัก นัยน์ตาคมจ้องมองใบหน้าสวย ฉันเอื้อมมือไปดึงเอาผ้าห่มมาคลุมร่าง แต่ยังไม่ทันที่มันจะได้เข้ามาคลุมตัว ก็ถูกเขาแย่งดึงออกจากมือแล้วโยนไว้ปลายเตียงพึ่บ!“ไอรีนครับ...” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกชื่อด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ขาทั้งสองข้างพยายามหนีบเข้าหากัน แต่ก็ถูกมือของเขาจับมันอ้ากว้างออกตามช่วงลำตัวที่แทรกเข้ามา“ไม่ต้องเรียกเลย ปล่อย...” ฉันพยายามดึงเขาออก แต่ก็ถึงรวบจับข้อมือทั้งสองเอาไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวของสเตฟานเขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ ส่วนกลางลำตัวเบียดชิดแนบเข้าหาจุดหวงแหน ทำให้รับรู้ได้ถึงความแข็งตัวที่คับแน่นอยู่ภายในกางเกง มืออีกข้างรั้งเอวบางไม่ให้ขยับหนี“...” สเตฟานใช้สายตามองไล่ทั่วร่างกายเปลือยตรงหน้า ทำเอาคนถูกมองถึงกับหน้าร้อนผ่าว“มองอะไร ไม่เคยเห็นหรือไง” ยิ่งพยายามดิ้นเท่าไร ก็ดูจะไร้ประโยชน์ เพราะสู้แรงเขาไม่ไหว“ไม่เคย...ไม่เคยเห็นตอนไอรีนหึงแล้วขู่เป็นลูกแมวแบบนี้” สิ้นเสียงสเตฟานก็ปล่อยมือออกจากเอวบาง แล้วสอดมือเข้ากลางหว่างขา“อือ! ม ไม่เอานะ”“เอาครับ เมียหึงต้องโดนตี”“ถ้าหึงต้องทุกครั้งเลยหรือไง”“ใช่ แ

  • BadEvil เหนือพันธะร้าย   เหนือพันธะ 38 : เด็กขี้หึง

    ณ คฤหาสน์ตระกูลคาร์พาเธีย“ให้อาบน้ำให้มั้ย” สเตฟานถามขึ้นในขณะที่ฉันกำลังจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ“ไม่ต้อง”“ให้เข้าไปช่วยมั้ย”“ไม่” ฉันยังคงยืนยันอย่างหนักแน่น“ให้...” ยังไม่ทันจะพูดจบฉันก็แทรกขึ้นมาด้วยคำเดิม“ไม่”“ยังไม่ทันพูดอะไรเลย” คนตัวสูงเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับบ่นพึมพำ“ไม่ต้องพูดก็รู้ว่าคิดอะไรอยู่” ฉันกอดอกมองเขาอย่างรู้ทัน“มันออกทางสีหน้าขนาดเลยเหรอ”“ชัดเจน”“รู้ชัดขนาดนั้นเลย”“ใช่ แค่มองหางตาก็รู้แล้วว่าคิดอะไร”“แล้วรู้มั้ยว่ารักมากแค่ไหน”“...”สิ่งที่เขาพูดไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ยิน แต่มันแปลกไปจากทุกครั้งที่ผ่านมา หัวใจเต้นแรง สายตาจ้องมองร่างสูงที่เอื้อมมือโอบเอวบางดึงเข้ามากอด สเตฟานจรดริมฝีปากจูบลงบนหน้าผาก แล้วกดหัวฉันซบลงบนอกกว้าง“ฉันเหมือนหัวใจจะหยุดเต้นเลยนะตอนไอรีนพูดแบบนั้น”“...” มืออุ่นลูบหัวด้วยความอ่อนโยน เสียงหัวใจของเขาเต้นเป็นจังหวะดังใกล้หู“ไอรีนทำตัวเข้มแข็งต่อหน้าทุกคน ทั้งที่ความจริงแล้วไอรีนก็แค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง มีความอ่อนแอไม่ต่างจากคนอื่น”“...” ฉันหยุดร้องไห้ไปได้แล้ว แต่ดูเหมือนว่ามันจะพร้อมไหลออกมาได้อีกครั้งตลอดเวลา“ขอโทษ...ตลอดเวลาที่ผ่

  • BadEvil เหนือพันธะร้าย   เหนือพันธะ 37 : เพื่อนเพียงคนเดียว

    “...”ทุกอย่างเข้าสู่ความเงียบ ลัลลาเบลที่ดูจะยังคงช็อกกับเรื่องราวที่เดินขึ้น ฉันเดินเข้าไปใกล้แล้วยกมือสัมผัสข้างแก้มเนียนที่เริ่มขึ้นเป็นรอยนิ้วมือ“มันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะที่ลัลลาเบลจะไปเที่ยวพูดให้ใครมองเราไม่ดี ว่าเป็นลูกเมียน้อยคุณพ่อควีนมาเรีย ไปเที่ยวบอกคนทั้งโรงเรียนว่าเราถูกเลี้ยงเอามาไว้ใช้ดูแลความสุขบนเตียงของผู้ชายตระกูลควีน”“...” เธอนิ่งไม่พูดอะไรออกมา ก้มหน้ามองพื้น“เธอบอกคนในโรงเรียนว่าเราเป็นโรคร้ายแรง อย่าเข้าใกล้ คลิปของเธอที่ตัดต่อหน้าเราใส่แทนถูกขายภายในกลุ่มลับของคนนอกโรงเรียน ภาพแอบถ่ายของเราตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าเธอก็เอาไปแจกพวกผู้ชายโรงเรียนอื่น”“...”“และลัลลาเบลก็คือคนเดียวที่เข้ามาเป็นเพื่อนด้วย แต่ก็ยังบอกกับคนอื่นว่าที่มาเป็นเพื่อนเพราะถูกบังคับจากตระกูลของควีน”“...”“ตลอดเวลาที่ผ่านมาลัลลาเบลบอกกับเราว่าพวกเขาไม่คบกับคนไร้ประโยชน์ ซึ่งเราไม่ได้สนใจคำพวกนั้น เพราะเราสนใจแค่ลัลลาเบล”“...”“ถึงพวกเขาจะไม่เคยพูดอะไรแบบนี้ออกมาตั้งแต่แรกก็เถอะ พวกเขาก็แค่ฟังจากเธอแล้วก็ตัดสินโดยที่ไม่เคยสัมผัสเรา...เขาเชื่อทุกอย่างที่เป็นลัลลาเบลบอก”“...หึ” เหมือนเธอจะ

  • BadEvil เหนือพันธะร้าย   เหนือพันธะ 36 : ตัวตนที่แท้จริง

    วันต่อมา ณ โรงพยาบาลในเครือของตระกูลคาร์พาเธียห้องทำงานของสเตฟาน เวลา 16.00 น.“ลูกชายท่านกงสุลบาระก็ดูดีมากเลยนะ สมที่เป็นลูกชายท่านกงสุลใหญ่ประเทศญี่ปุ่นแล้วเหมือนว่าจะพึ่งเคยมาประจำที่อิตาลีด้วย อาจจะยังไม่ค่อยคุ้นชินสักเท่าไร” เนยถั่วทาลงบนขนมปังด้วยความบรรจง ปากเล็กเล่าถึงสิ่งที่ตัวเองพึ่งไปพบมาวันนี้ในช่วงเช้าฉันได้มีโอกาสเป็นตัวแทนของราชวงศ์ต้อนรับท่านกงสุลจากประเทศญี่ปุ่น การออกทำหน้าที่เองโดยลำพังเริ่มเข้าที่เข้าทางไปในด้านที่ดี“...อืม” สเตฟานยังคงนั่งฟังอยู่เงียบ ๆแขนแกร่งยกขึ้นโอบไหล่เล็กแล้วใช้มือลูบไล้อย่างเบามือ อาการเริ่มออกทีละนิดแต่ก็ไม่ขัดในสิ่งที่ฉันกำลังเล่ากลับกันยังตั้งใจฟังอีกต่างหาก ซึ่งฉันก็รู้ดีว่าเขากำลังไม่พอใจที่พูดถึงผู้ชายคนอื่น“ลูกชายท่านกงสุลเป็นผู้ชายที่น่ารักมากเลยนะ พูดครับทุกคำเลย”“...อือ” เสียงทุ้มตอบกลับในลำคอ ในขณะที่ก็เริ่มออกแรงดึงตัวฉันให้เข้ามาชิดเขามากขึ้น“เขาชวนฉันไปเที่ยวด้วย อะ อ้าปาก” ขนมปังถูกจ่อเข้าใกล้ริมฝีปาก แต่เขาก็ยังเอาแต่นิ่งแล้วมองหน้าฉัน“...” มีคำถามอยู่ในสายตาคู่นั้น แต่ก็ไม่ถามออกมา ไม่โวยวาย ไม่เสียงดังใส่ฉัน แต่ก็

  • BadEvil เหนือพันธะร้าย   เหนือพันธะ 35 : พี่ชาย

    เหนือพันธะ 35 : พี่ชาย——————✧◦♚◦✧——————“ไอรีนมานั่งนี่สิ” พี่เฮนรี่ตบมือบนเบาะข้างกาย“นั่งตรงนี้ดีกว่าไอรีน ตรงนั้นแอร์มันโดนเดี๋ยวจะไม่สบายนะครับ” สเตฟานดึงมือฉันให้นั่งลงข้างเขาซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพี่เฮนรี่“ห้ามเรียกชื่อไอรีน ต้องเรียกเจ้าหญิง” พี่เฮนรี่พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบจนน่ากลัว“เวลาอยู่ข้างนอกผมก็เรียกว่าเจ้าหญิงครับ แต่ถ้าอยู่ด้วยกันแค่สองคน...ก็จะเรียกไอรีน” สเตฟานตั้งใจเน้นคำว่า แค่สองคน อย่างชัดเจน“...” พี่เฮนรี่จ้องหน้าผู้ชายฝั่งตรงกันข้ามด้วยสายตาที่คาดเดาอะไรไม่ได้“...” อีกฝ่ายเองก็มองกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉยเช่นกัน“เฮ้อ...”เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบภายในห้อง ผู้ชายสองคนถอนสายตามามองที่เธอพร้อมกันแล้วรีบลุกขึ้นเดินเข้ามาหาด้วยความเป็นห่วง“รู้สึกไม่สบายใจเหรอไอรีน ไปพักในห้องนะ” สเตฟานที่อยู่ใกล้ตัวฉันที่สุดจึงเข้ามาประชิดตัวได้ก่อน“เอามือออกจากไอรีน” พี่เฮนรี่เข้ามาดึงตัวฉันออกจากมือเขาแล้วดึงเข้าไปก่อนพึ่บ!“ภรรยาผม ผมดูแลเองครับ” พูดจบก็ดึงตัวฉันกลับเข้ามาไว้ในอ้อมกอดหมับ!“ยังไม่แต่งงาน แล้วงานหมั้นก็คือสิ้นปี ถึงจะประกาศตอนที่ผมไม

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status