Mag-log inตลอดระยะหลายอาทิตย์ที่ลัลลาเบลเริ่มเปลี่ยนไป หรือจะให้พูดเข้าใจง่ายคือเธอเปลี่ยนไปตั้งแต่กลับจากปาร์ตีนั่น ลัลลาเบลไม่ได้เข้าเรียนตามปกติ เราแทบจะไม่ได้เจอหน้ากันเลยด้วยซ้ำ โทร. หาหรือทักข้อความไปก็น้อยครั้งที่เธอจะตอบกลับ หรือรับสาย ไปหาที่บ้านก็ได้แต่คำตอบว่าลัลลาเบลไปอยู่ที่คอนโด และพอฉันไปหาก็พบแค่เพียงห้องที่ว่างเปล่า
คลิก คลิก คลิก ~
เสียงคลิกเมาส์ดังตามจังหวะนิ้วที่กดลง หน้าจอโน้ตบุ๊กเลื่อนไปตามการเคลื่อนไหวของเมาส์ ฉันนั่งทำงานระหว่างรอเรียนวิชาต่อไปอยู่ที่ห้องสมุด บรรยากาศรอบตัวมีเพียงความเงียบ เพราะทุกคนกำลังสนใจกับสิ่งที่ตัวเองทำ
ปึก!
จู่ ๆ โทรศัพท์เครื่องหนึ่งวางกระแทกลงบนโต๊ะ ภาพหน้าจอทำเอาฉันขมวดคิ้ว ลัลลาเบลกำลังจูบกับผู้ชายคนหนึ่ง แต่เป็นภาพแอบถ่ายจึงทำให้เห็นไม่ชัดนักว่าเป็นใคร ดวงตากลมโตค่อย ๆ หันมองผู้หญิงสามคน ยืนล้อมจุดที่ฉันนั่งอยู่
“เธอใช่คริสที่เป็นเพื่อนกับลัลลาเบลใช่มั้ย” ผู้หญิงใบหน้าสวยถามขึ้นพร้อมกับนั่งลงยังเก้าอี้ฝั่งตรงกันข้าม ‘โซลา’ นักศึกษาชั้นปีที่สาม ทายาทคนเล็กของกลุ่มมาเฟียลำดับที่แปดของอิตาลี ฉันรู้จักเธอ แต่เธอ...ไม่รู้จักฉัน
“ค่ะ” ฉันตอบกลับเพียงสั้น ๆ
“รู้มั้ยว่าตอนนี้ยายนี่อยู่ที่ไหน”
“ไม่รู้ค่ะ” ฉันไม่ได้ปกป้อง แต่ไม่รู้จริง ๆ
“ฉันไม่ได้อยากได้คำตอบจากเธอ เพราะรู้แล้ว ที่ถามแค่ต้องการให้เธอไปพาเพื่อนตัวเองออกห่างจากแฟนฉันสักที” ผู้หญิงตรงหน้าเริ่มพูดเสียงดังขึ้น ทำให้สายตาเริ่มมองมาที่เรา
“...” หมายความว่าไง
“ยายเด็กนี่เป็นคนที่เข้าหาแฟนฉันได้น่ารังเกียจมากที่สุด ทั้งเอาตัวเข้าแลก เจาะถุงยาง เพราะต้องการให้ตัวเองท้อง วุ่นวายโดนไล่เหมือนหมาก็ยังไม่ไป”
“ลัลลาเบลไม่ทำอะไรโง่ ๆ แบบนั้นหรอก เอาความมั่นใจมาจากไหนว่าเพื่อนฉันจะอยากได้แฟนของคุณ”
“ก็เพราะโง่ไงเลยทำ ถ้าไม่เชื่อคืนนี้ไปดูที่คลับ XXX สิจะได้เจอกับเพื่อนของเธอที่ตามตื๊อแฟนฉันอยู่” ตามตื๊อแฟนของยายนี่...สเตฟานเหรอ
“...” ที่หายไปเพราะไปเสียเวลาทำอะไรแบบนี้อยู่สินะ
“ไปเอาเพื่อนของคุณคริสกลับมาด้วยนะคะ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน แล้วทำให้ยายนั่นหายไป”
“...”
“หวังว่าจะรู้จักฉันนะ” ใช่ทุกคนในมหา’ลัยนี้รู้จักเธอ
“รู้ค่ะ”
“ดีใจจังค่ะที่เด็กกำพร้าของบ้านตระกูลควีนมาเรียรู้จักฉัน งั้นก็ไปบอกเพื่อนเธอให้รู้จักฉันด้วยล่ะ” เธอใช้ปลายนิ้วช้อนใต้คางแล้วส่งยิ้มให้
“ลัลลาเบลก็ไม่ใช่คนที่คุณจะเข้าไปทำให้หายไปได้ง่าย ๆ นะคะ” ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มให้กับคนตรงหน้า
“ถ้างั้นก็ลองปล่อยเพื่อนแกทิ้งเอาไว้แบบนั้นอีกสักคืนสิ แล้วฉันจะทำให้ดู” พูดจบเธอก็ลุกขึ้นเดินออกจากไปทันที
ถ้าในฐานะตอนนี้ที่ทุกคนรู้จักฉันมันก็แค่เด็กกำพร้าที่อยู่ในตระกูลของควีนมาเรียเท่านั้น ไม่ได้มีใครอยากเข้ามายุ่ง และเพื่อนคนเดียวที่กำลังมีปัญหากับกลุ่มมาเฟีย ก็ยิ่งยากที่จะหาใครเข้ามาช่วยนอกซะจาก...มาเฟียด้วยกันเอง
ปึก!
โน้ตบุ๊กถูกปิดลง ฉันเก็บของทุกอย่างเข้ากระเป๋าแล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้องสมุด สายตาทุกคนยังจับจ้องมาด้วยความอยากรู้ มือเล็กล้วงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทร. หาผู้ดูแลพิเศษของฉัน
ตู๊ด! ตู๊ด! ติ้ด!
“พี่เฮเลน มีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือค่ะ” แม้เราจะอยู่ในมหา’ลัยเดียวกัน แต่พี่เฮเลน ทายาทของแอซเซอร์ กลุ่มมาเฟียลำดับที่สอง ผู้ดูแลพิเศษของฉันในฐานะเจ้าหญิง ก็ยังต้องทำเป็นไม่รู้จักกัน
(ได้สิคะ เจ้าหญิงไอรีน)
ณ คลับXXX เวลา 00.45 น.
รถ Audi สีขาวหรูจอดเทียบข้างฟุตพาททางเข้าคลับมาตั้งแต่ช่วงเย็นก่อนที่คลับจะเปิดซะอีก ที่สามารถจอดได้นานขนาดนี้ เพราะสัญลักษณ์ของแอซเซอร์ที่ได้มาจากพี่เฮเลน กลุ่มที่อยู่เหนือกฎหมาย แม้แต่ตำรวจยังไม่อยากเข้ามาวุ่นวาย
มือเล็กจับพวงมาลัยโน้มตัวไปข้างหน้าวางปลายคางลงบนหลังมือ สายตาจ้องมองไปยังข้างในคลับ ยังไม่เห็นลัลลาเบลเลยด้วยซ้ำ ฉันขอให้พี่เฮเลนส่งคนตามยายนั่นแล้วด้วยก็ยังไม่ได้รับการแจ้งข่าวว่าเธออยู่ที่ไหน
ติ้ง! มือเล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูข้อความที่ถูกส่งมาจากพี่เฮเลน
(ลัลลาเบลอยู่ในคลับ)
เมื่อเห็นข้อความจากพี่เฮเลน ฉันก็รีบขับรถเข้าไปยังข้างในทันที สายตาของการ์ดประจำคลับต่างจับจ้องมาด้วยความสนใจ คงเพราะเห็นสัญลักษณ์ที่ติดอยู่หน้ารถในขณะที่รถเลี้ยวเข้าจอดยังจุดจอดรถ ร่างบางก้าวเดินตรงไปยังทางเข้าคลับทันที
“ขอตรวจบัตรด้วยครับ” การ์ดสองคนเดินเข้ามาดักหน้าฉันเอาไว้ ตอนนี้ตัวเองพึ่งจะอายุสิบแปด และตามกฎหมายฉันไม่มีสิทธิ์จะเข้าไปข้างในนี่ได้ นอกซะจาก...
“นี่ค่ะ” บัตรปลอมที่ได้รับการช่วยเหลือจากพี่เฮเลนถูกยื่นไปให้ทั้งสองคนได้เห็น
“เชิญครับ” ผ่านด่านแรกได้อย่างเรียบร้อย
ร่างบางหันส่งยิ้มให้การ์ดทั้งสองแล้วเดินเข้าไปข้างใน ทันทีที่ประตูเปิดออก ความมืดที่มีเพียงแสงสปอตไลต์ชวนปวดหัวสาดสลับสีไปทั่วคลับ เสียงเพลงดังกระหึ่มทำให้ฉันเริ่มรู้สึกหงุดหงิด อะไรที่เสียงดังฉันไม่ค่อยชอบมันเท่าไร
เท้าเล็กก้าวเดินในขณะที่สายตาก็มองสอดส่องไปทั่วเพื่อหาเพื่อนของตัวเอง แต่ด้วยความมืด และคนที่เยอะทำให้ยากต่อการตามหา เพราะงั้นก็ต้องขอตัวช่วยอีกครั้ง
‘ไอรีน: ลัลลาเบลอยู่ที่ส่วนไหนเหรอคะ ไอรีนหาไม่เจอเลย’
ฉันพิมพ์ข้อความออกหาพี่เฮเลน อีกฝ่ายเปิดอ่านทันที และกำลังพิมพ์ตอบกลับมา
‘พี่เฮเลน: ห้องวีไอพีชั้นบนของคลับ ห้องที่เก้าค่ะ’
เมื่อรู้ที่ที่ลัลลาเบลอยู่ก็รีบเดินตรงไปยังโซนวีไอพีทันที การจะเข้าไปในนั้นก็ต้องมีบัตรอีกเช่นกัน ฉันหยิบการ์ดสีดำขลับขึ้นมาโชว์แล้วเดินเข้าไปข้างในได้อย่างง่ายดาย คิดไม่ผิดที่ไปขอยืมมาจากพี่เฮนรี่
ห้องที่เก้า ห้องที่เก้า สายตามองไล่ตามประตูสีดำใหญ่แต่ละบานจนกระทั่งเห็นเข้ากับเลขเก้า ชายตัวสูงร่างกายกำยำยืนเฝ้าหน้าประตู ซึ่งต่างจากห้องอื่น แสดงว่าในห้องนั้นมีใครสักคนที่สำคัญมาก ๆ อยู่
“มาพบใครครับ” ชายตัวสูงถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“เพื่อนบอกให้มาที่โซนวีไอพีห้องเก้าค่ะ”
“เพื่อนชื่ออะไรครับ” ทำไมถามมากจังเนี่ย
“...” แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าคนห้องมีใครบ้าง
“เพื่อนชื่ออะไรครับคุณหนู” คำถามเดิมถูกถามย้ำอีกครั้ง
“ลัลลาเบลค่ะ”
“ไม่มีชื่อนี้ครับ” หรือจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ข้อมูลของพี่เฮเลนไม่เคยผิดพลาดนะ ถ้าลัลลาเบลอยู่ที่นี่ คนที่เธอตามก็มีแค่คนเดียว
“สเตฟานค่ะ”
“ฉันไม่รู้จักเธอ”
สิ้นเสียงของฉันก็มีเสียงผู้ชายแทรกมาจากข้างหลัง เมื่อหันกลับไปมองก็พบกับผู้ชายตัวสูงประมาณ 187 เซนติเมตร ผิวขาวตัดกับเส้นผมสีดำ เสื้อเชิ้ตสีกรมพับแขนเสื้อขึ้นเผยให้เห็นรอยสักที่แขน เราทั้งคู่สบตากัน เขาอยู่ตรงหน้าฉัน...สเตฟาน
“...” ร่างบางกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
“เรารู้จักกันเหรอครับ” คนตัวสูงถามพร้อมกับก้าวเดินเข้ามาใกล้
“...” ตอนนี้ในหัวพยายามคิดหาวิธีเอาตัวรอด
“ว่าไงหรือว่า...”
“หรือว่าอะไร”
“หรือตามมาเพราะแอบชอบฉันอีกคน” อีกคนงั้นเหรอ
“ถ้าบอกว่าใช่แล้วจะได้เข้าไปข้างในด้วยมั้ยคะ” กัดฟันพูดจนอยากจะกัดลิ้นให้ตายไปเลยซะก็ดี
“มีอะไรข้างใน ทำไมถึงอยากเข้าไป ถ้าเธอชอบแค่ฉันเราไปที่อื่นกันน่าจะดีกว่า”
“แล้วมีอะไรข้างในเหรอคะถึงไม่อยากให้เข้าไป หรือว่าพี่มีแฟนแล้ว”
“...” เราต่างฝ่ายต่างมองหน้ากัน
“(ยิ้ม)” ถ้าบอกว่าไม่มีนะ...
“ไม่มี”
“ไอ้เวรเอ๊ย” กล้าพูดว่าไม่มี แล้วสิ่งที่ทำกับเพื่อนฉันล่ะ!
หมับ!
“เปิดประตู!” สิ้นเสียงสเตฟานกระชากแขนฉันแล้วพาลากเดินเข้าไปในห้อง
“ไอ้ผู้ชายสกปรก ทำกับเพื่อนฉันแบบนั้นแล้วกล้าบอกว่าไม่มีแฟนเหรอวะ! กรี๊ด!”
ตุบ!
ร่างบางถูกเหวี่ยงลงพื้นกลางห้อง สายตาหลายสิบคู่จ้องมองมายังเราทั้งสองคน เข่ากระแทกอย่างจังเลยไอ้เวรนี่! มือเล็กยันลงกับพื้นดันพาตัวเองลุกขึ้นยืน เป็นจังหวะที่ฉันหันไปมองกลุ่มคนด้านหลัง สายตาเพ่งมองไปยังหญิงสาวคนหนึ่งกำลังกอดจูบอยู่กับผู้ชายอีกคน เพียงแค่มองจากข้างหลังฉันก็รู้ได้ทันทีว่าใคร
“ลัลลาเบล!”
2 เดือนต่อมา ก่อนถึงงานแต่ง 1 อาทิตย์‘แถลงประกาศจากสำนักพระราชวัง เรื่องการลาออกจากราชวงศ์ของ ‘เจ้าหญิง เมอร์ลีอา คาเลนเซีย เจนนิวีพ’ รัชทายาทลำดับที่สามแห่งราชวงศ์อิตาลี พระองค์ประสงค์สละยศ และฐานันดรศักดิ์ของราชวงศ์ แต่พระองค์จะยังคงเป็นที่รู้จักของประชาชนในฐานะ เมอร์ลีอา เจนนิวีพ ทายาทของคิงและควีนแห่งราชวงศ์อิตาลี โดยอดีตเจ้าหญิงจะไม่ขอรับทรัพย์สมบัติในส่วนของรัชทายาททั้งหมด พระองค์ขอบริจาคแก่มูลนิธิทั่วประเทศ’ร่างบางยืนมองประกาศทางสำนักราชวังที่กำลังฉายทางหน้าจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่กลางห้องนั่งเล่น ใบหน้าของหญิงสาวผู้เป็นเจ้าหญิงลำดับที่ 3 ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะชนครั้งแรก‘การลาออกจากราชวงศ์ของเจ้าหญิงเมอร์ลีอา คาเลนเซีย เจนนิวีพจะมีผลนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศต่อไป...พิธีสมรสของอดีตเจ้าหญิงคาเลนเซีย กับนายสเตฟาน คาร์พาเธีย ทายาทตระกูลคาร์พาเธียจะมีขึ้นในวันที่แปดเดือน... โดยพิธีจะจัดขึ้นเป็นการส่วนตัว มีเพียงญาติของทั้งสองและเพื่อนสนิทเพียงเท่านั้น’ “ไอรีนครับ...” เสียงทุ้มดังขึ้นข้างใบหู พร้อมกับแขนแกร่งที่โอบกอดเอวบางจากข้างหลัง แล้ววางปลายคางลงบนไหล่“อะไรเหรอ” ฉันเอียงใบหน
“หยุดเลยนะ...”นิ้วเรียวชี้ใส่ร่างสูงที่คร่อมตัวอยู่ สเตฟานหยุดชะงัก นัยน์ตาคมจ้องมองใบหน้าสวย ฉันเอื้อมมือไปดึงเอาผ้าห่มมาคลุมร่าง แต่ยังไม่ทันที่มันจะได้เข้ามาคลุมตัว ก็ถูกเขาแย่งดึงออกจากมือแล้วโยนไว้ปลายเตียงพึ่บ!“ไอรีนครับ...” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกชื่อด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ขาทั้งสองข้างพยายามหนีบเข้าหากัน แต่ก็ถูกมือของเขาจับมันอ้ากว้างออกตามช่วงลำตัวที่แทรกเข้ามา“ไม่ต้องเรียกเลย ปล่อย...” ฉันพยายามดึงเขาออก แต่ก็ถึงรวบจับข้อมือทั้งสองเอาไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวของสเตฟานเขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ ส่วนกลางลำตัวเบียดชิดแนบเข้าหาจุดหวงแหน ทำให้รับรู้ได้ถึงความแข็งตัวที่คับแน่นอยู่ภายในกางเกง มืออีกข้างรั้งเอวบางไม่ให้ขยับหนี“...” สเตฟานใช้สายตามองไล่ทั่วร่างกายเปลือยตรงหน้า ทำเอาคนถูกมองถึงกับหน้าร้อนผ่าว“มองอะไร ไม่เคยเห็นหรือไง” ยิ่งพยายามดิ้นเท่าไร ก็ดูจะไร้ประโยชน์ เพราะสู้แรงเขาไม่ไหว“ไม่เคย...ไม่เคยเห็นตอนไอรีนหึงแล้วขู่เป็นลูกแมวแบบนี้” สิ้นเสียงสเตฟานก็ปล่อยมือออกจากเอวบาง แล้วสอดมือเข้ากลางหว่างขา“อือ! ม ไม่เอานะ”“เอาครับ เมียหึงต้องโดนตี”“ถ้าหึงต้องทุกครั้งเลยหรือไง”“ใช่ แ
ณ คฤหาสน์ตระกูลคาร์พาเธีย“ให้อาบน้ำให้มั้ย” สเตฟานถามขึ้นในขณะที่ฉันกำลังจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ“ไม่ต้อง”“ให้เข้าไปช่วยมั้ย”“ไม่” ฉันยังคงยืนยันอย่างหนักแน่น“ให้...” ยังไม่ทันจะพูดจบฉันก็แทรกขึ้นมาด้วยคำเดิม“ไม่”“ยังไม่ทันพูดอะไรเลย” คนตัวสูงเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับบ่นพึมพำ“ไม่ต้องพูดก็รู้ว่าคิดอะไรอยู่” ฉันกอดอกมองเขาอย่างรู้ทัน“มันออกทางสีหน้าขนาดเลยเหรอ”“ชัดเจน”“รู้ชัดขนาดนั้นเลย”“ใช่ แค่มองหางตาก็รู้แล้วว่าคิดอะไร”“แล้วรู้มั้ยว่ารักมากแค่ไหน”“...”สิ่งที่เขาพูดไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ยิน แต่มันแปลกไปจากทุกครั้งที่ผ่านมา หัวใจเต้นแรง สายตาจ้องมองร่างสูงที่เอื้อมมือโอบเอวบางดึงเข้ามากอด สเตฟานจรดริมฝีปากจูบลงบนหน้าผาก แล้วกดหัวฉันซบลงบนอกกว้าง“ฉันเหมือนหัวใจจะหยุดเต้นเลยนะตอนไอรีนพูดแบบนั้น”“...” มืออุ่นลูบหัวด้วยความอ่อนโยน เสียงหัวใจของเขาเต้นเป็นจังหวะดังใกล้หู“ไอรีนทำตัวเข้มแข็งต่อหน้าทุกคน ทั้งที่ความจริงแล้วไอรีนก็แค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง มีความอ่อนแอไม่ต่างจากคนอื่น”“...” ฉันหยุดร้องไห้ไปได้แล้ว แต่ดูเหมือนว่ามันจะพร้อมไหลออกมาได้อีกครั้งตลอดเวลา“ขอโทษ...ตลอดเวลาที่ผ่
“...”ทุกอย่างเข้าสู่ความเงียบ ลัลลาเบลที่ดูจะยังคงช็อกกับเรื่องราวที่เดินขึ้น ฉันเดินเข้าไปใกล้แล้วยกมือสัมผัสข้างแก้มเนียนที่เริ่มขึ้นเป็นรอยนิ้วมือ“มันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะที่ลัลลาเบลจะไปเที่ยวพูดให้ใครมองเราไม่ดี ว่าเป็นลูกเมียน้อยคุณพ่อควีนมาเรีย ไปเที่ยวบอกคนทั้งโรงเรียนว่าเราถูกเลี้ยงเอามาไว้ใช้ดูแลความสุขบนเตียงของผู้ชายตระกูลควีน”“...” เธอนิ่งไม่พูดอะไรออกมา ก้มหน้ามองพื้น“เธอบอกคนในโรงเรียนว่าเราเป็นโรคร้ายแรง อย่าเข้าใกล้ คลิปของเธอที่ตัดต่อหน้าเราใส่แทนถูกขายภายในกลุ่มลับของคนนอกโรงเรียน ภาพแอบถ่ายของเราตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าเธอก็เอาไปแจกพวกผู้ชายโรงเรียนอื่น”“...”“และลัลลาเบลก็คือคนเดียวที่เข้ามาเป็นเพื่อนด้วย แต่ก็ยังบอกกับคนอื่นว่าที่มาเป็นเพื่อนเพราะถูกบังคับจากตระกูลของควีน”“...”“ตลอดเวลาที่ผ่านมาลัลลาเบลบอกกับเราว่าพวกเขาไม่คบกับคนไร้ประโยชน์ ซึ่งเราไม่ได้สนใจคำพวกนั้น เพราะเราสนใจแค่ลัลลาเบล”“...”“ถึงพวกเขาจะไม่เคยพูดอะไรแบบนี้ออกมาตั้งแต่แรกก็เถอะ พวกเขาก็แค่ฟังจากเธอแล้วก็ตัดสินโดยที่ไม่เคยสัมผัสเรา...เขาเชื่อทุกอย่างที่เป็นลัลลาเบลบอก”“...หึ” เหมือนเธอจะ
วันต่อมา ณ โรงพยาบาลในเครือของตระกูลคาร์พาเธียห้องทำงานของสเตฟาน เวลา 16.00 น.“ลูกชายท่านกงสุลบาระก็ดูดีมากเลยนะ สมที่เป็นลูกชายท่านกงสุลใหญ่ประเทศญี่ปุ่นแล้วเหมือนว่าจะพึ่งเคยมาประจำที่อิตาลีด้วย อาจจะยังไม่ค่อยคุ้นชินสักเท่าไร” เนยถั่วทาลงบนขนมปังด้วยความบรรจง ปากเล็กเล่าถึงสิ่งที่ตัวเองพึ่งไปพบมาวันนี้ในช่วงเช้าฉันได้มีโอกาสเป็นตัวแทนของราชวงศ์ต้อนรับท่านกงสุลจากประเทศญี่ปุ่น การออกทำหน้าที่เองโดยลำพังเริ่มเข้าที่เข้าทางไปในด้านที่ดี“...อืม” สเตฟานยังคงนั่งฟังอยู่เงียบ ๆแขนแกร่งยกขึ้นโอบไหล่เล็กแล้วใช้มือลูบไล้อย่างเบามือ อาการเริ่มออกทีละนิดแต่ก็ไม่ขัดในสิ่งที่ฉันกำลังเล่ากลับกันยังตั้งใจฟังอีกต่างหาก ซึ่งฉันก็รู้ดีว่าเขากำลังไม่พอใจที่พูดถึงผู้ชายคนอื่น“ลูกชายท่านกงสุลเป็นผู้ชายที่น่ารักมากเลยนะ พูดครับทุกคำเลย”“...อือ” เสียงทุ้มตอบกลับในลำคอ ในขณะที่ก็เริ่มออกแรงดึงตัวฉันให้เข้ามาชิดเขามากขึ้น“เขาชวนฉันไปเที่ยวด้วย อะ อ้าปาก” ขนมปังถูกจ่อเข้าใกล้ริมฝีปาก แต่เขาก็ยังเอาแต่นิ่งแล้วมองหน้าฉัน“...” มีคำถามอยู่ในสายตาคู่นั้น แต่ก็ไม่ถามออกมา ไม่โวยวาย ไม่เสียงดังใส่ฉัน แต่ก็
เหนือพันธะ 35 : พี่ชาย——————✧◦♚◦✧——————“ไอรีนมานั่งนี่สิ” พี่เฮนรี่ตบมือบนเบาะข้างกาย“นั่งตรงนี้ดีกว่าไอรีน ตรงนั้นแอร์มันโดนเดี๋ยวจะไม่สบายนะครับ” สเตฟานดึงมือฉันให้นั่งลงข้างเขาซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพี่เฮนรี่“ห้ามเรียกชื่อไอรีน ต้องเรียกเจ้าหญิง” พี่เฮนรี่พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบจนน่ากลัว“เวลาอยู่ข้างนอกผมก็เรียกว่าเจ้าหญิงครับ แต่ถ้าอยู่ด้วยกันแค่สองคน...ก็จะเรียกไอรีน” สเตฟานตั้งใจเน้นคำว่า แค่สองคน อย่างชัดเจน“...” พี่เฮนรี่จ้องหน้าผู้ชายฝั่งตรงกันข้ามด้วยสายตาที่คาดเดาอะไรไม่ได้“...” อีกฝ่ายเองก็มองกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉยเช่นกัน“เฮ้อ...”เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบภายในห้อง ผู้ชายสองคนถอนสายตามามองที่เธอพร้อมกันแล้วรีบลุกขึ้นเดินเข้ามาหาด้วยความเป็นห่วง“รู้สึกไม่สบายใจเหรอไอรีน ไปพักในห้องนะ” สเตฟานที่อยู่ใกล้ตัวฉันที่สุดจึงเข้ามาประชิดตัวได้ก่อน“เอามือออกจากไอรีน” พี่เฮนรี่เข้ามาดึงตัวฉันออกจากมือเขาแล้วดึงเข้าไปก่อนพึ่บ!“ภรรยาผม ผมดูแลเองครับ” พูดจบก็ดึงตัวฉันกลับเข้ามาไว้ในอ้อมกอดหมับ!“ยังไม่แต่งงาน แล้วงานหมั้นก็คือสิ้นปี ถึงจะประกาศตอนที่ผมไม







