ตลอดระยะหลายอาทิตย์ที่ลัลลาเบลเริ่มเปลี่ยนไป หรือจะให้พูดเข้าใจง่ายคือเธอเปลี่ยนไปตั้งแต่กลับจากปาร์ตีนั่น ลัลลาเบลไม่ได้เข้าเรียนตามปกติ เราแทบจะไม่ได้เจอหน้ากันเลยด้วยซ้ำ โทร. หาหรือทักข้อความไปก็น้อยครั้งที่เธอจะตอบกลับ หรือรับสาย ไปหาที่บ้านก็ได้แต่คำตอบว่าลัลลาเบลไปอยู่ที่คอนโด และพอฉันไปหาก็พบแค่เพียงห้องที่ว่างเปล่า
คลิก คลิก คลิก ~
เสียงคลิกเมาส์ดังตามจังหวะนิ้วที่กดลง หน้าจอโน้ตบุ๊กเลื่อนไปตามการเคลื่อนไหวของเมาส์ ฉันนั่งทำงานระหว่างรอเรียนวิชาต่อไปอยู่ที่ห้องสมุด บรรยากาศรอบตัวมีเพียงความเงียบ เพราะทุกคนกำลังสนใจกับสิ่งที่ตัวเองทำ
ปึก!
จู่ ๆ โทรศัพท์เครื่องหนึ่งวางกระแทกลงบนโต๊ะ ภาพหน้าจอทำเอาฉันขมวดคิ้ว ลัลลาเบลกำลังจูบกับผู้ชายคนหนึ่ง แต่เป็นภาพแอบถ่ายจึงทำให้เห็นไม่ชัดนักว่าเป็นใคร ดวงตากลมโตค่อย ๆ หันมองผู้หญิงสามคน ยืนล้อมจุดที่ฉันนั่งอยู่
“เธอใช่คริสที่เป็นเพื่อนกับลัลลาเบลใช่มั้ย” ผู้หญิงใบหน้าสวยถามขึ้นพร้อมกับนั่งลงยังเก้าอี้ฝั่งตรงกันข้าม ‘โซลา’ นักศึกษาชั้นปีที่สาม ทายาทคนเล็กของกลุ่มมาเฟียลำดับที่แปดของอิตาลี ฉันรู้จักเธอ แต่เธอ...ไม่รู้จักฉัน
“ค่ะ” ฉันตอบกลับเพียงสั้น ๆ
“รู้มั้ยว่าตอนนี้ยายนี่อยู่ที่ไหน”
“ไม่รู้ค่ะ” ฉันไม่ได้ปกป้อง แต่ไม่รู้จริง ๆ
“ฉันไม่ได้อยากได้คำตอบจากเธอ เพราะรู้แล้ว ที่ถามแค่ต้องการให้เธอไปพาเพื่อนตัวเองออกห่างจากแฟนฉันสักที” ผู้หญิงตรงหน้าเริ่มพูดเสียงดังขึ้น ทำให้สายตาเริ่มมองมาที่เรา
“...” หมายความว่าไง
“ยายเด็กนี่เป็นคนที่เข้าหาแฟนฉันได้น่ารังเกียจมากที่สุด ทั้งเอาตัวเข้าแลก เจาะถุงยาง เพราะต้องการให้ตัวเองท้อง วุ่นวายโดนไล่เหมือนหมาก็ยังไม่ไป”
“ลัลลาเบลไม่ทำอะไรโง่ ๆ แบบนั้นหรอก เอาความมั่นใจมาจากไหนว่าเพื่อนฉันจะอยากได้แฟนของคุณ”
“ก็เพราะโง่ไงเลยทำ ถ้าไม่เชื่อคืนนี้ไปดูที่คลับ XXX สิจะได้เจอกับเพื่อนของเธอที่ตามตื๊อแฟนฉันอยู่” ตามตื๊อแฟนของยายนี่...สเตฟานเหรอ
“...” ที่หายไปเพราะไปเสียเวลาทำอะไรแบบนี้อยู่สินะ
“ไปเอาเพื่อนของคุณคริสกลับมาด้วยนะคะ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน แล้วทำให้ยายนั่นหายไป”
“...”
“หวังว่าจะรู้จักฉันนะ” ใช่ทุกคนในมหา’ลัยนี้รู้จักเธอ
“รู้ค่ะ”
“ดีใจจังค่ะที่เด็กกำพร้าของบ้านตระกูลควีนมาเรียรู้จักฉัน งั้นก็ไปบอกเพื่อนเธอให้รู้จักฉันด้วยล่ะ” เธอใช้ปลายนิ้วช้อนใต้คางแล้วส่งยิ้มให้
“ลัลลาเบลก็ไม่ใช่คนที่คุณจะเข้าไปทำให้หายไปได้ง่าย ๆ นะคะ” ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มให้กับคนตรงหน้า
“ถ้างั้นก็ลองปล่อยเพื่อนแกทิ้งเอาไว้แบบนั้นอีกสักคืนสิ แล้วฉันจะทำให้ดู” พูดจบเธอก็ลุกขึ้นเดินออกจากไปทันที
ถ้าในฐานะตอนนี้ที่ทุกคนรู้จักฉันมันก็แค่เด็กกำพร้าที่อยู่ในตระกูลของควีนมาเรียเท่านั้น ไม่ได้มีใครอยากเข้ามายุ่ง และเพื่อนคนเดียวที่กำลังมีปัญหากับกลุ่มมาเฟีย ก็ยิ่งยากที่จะหาใครเข้ามาช่วยนอกซะจาก...มาเฟียด้วยกันเอง
ปึก!
โน้ตบุ๊กถูกปิดลง ฉันเก็บของทุกอย่างเข้ากระเป๋าแล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้องสมุด สายตาทุกคนยังจับจ้องมาด้วยความอยากรู้ มือเล็กล้วงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทร. หาผู้ดูแลพิเศษของฉัน
ตู๊ด! ตู๊ด! ติ้ด!
“พี่เฮเลน มีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือค่ะ” แม้เราจะอยู่ในมหา’ลัยเดียวกัน แต่พี่เฮเลน ทายาทของแอซเซอร์ กลุ่มมาเฟียลำดับที่สอง ผู้ดูแลพิเศษของฉันในฐานะเจ้าหญิง ก็ยังต้องทำเป็นไม่รู้จักกัน
(ได้สิคะ เจ้าหญิงไอรีน)
ณ คลับXXX เวลา 00.45 น.
รถ Audi สีขาวหรูจอดเทียบข้างฟุตพาททางเข้าคลับมาตั้งแต่ช่วงเย็นก่อนที่คลับจะเปิดซะอีก ที่สามารถจอดได้นานขนาดนี้ เพราะสัญลักษณ์ของแอซเซอร์ที่ได้มาจากพี่เฮเลน กลุ่มที่อยู่เหนือกฎหมาย แม้แต่ตำรวจยังไม่อยากเข้ามาวุ่นวาย
มือเล็กจับพวงมาลัยโน้มตัวไปข้างหน้าวางปลายคางลงบนหลังมือ สายตาจ้องมองไปยังข้างในคลับ ยังไม่เห็นลัลลาเบลเลยด้วยซ้ำ ฉันขอให้พี่เฮเลนส่งคนตามยายนั่นแล้วด้วยก็ยังไม่ได้รับการแจ้งข่าวว่าเธออยู่ที่ไหน
ติ้ง! มือเล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูข้อความที่ถูกส่งมาจากพี่เฮเลน
(ลัลลาเบลอยู่ในคลับ)
เมื่อเห็นข้อความจากพี่เฮเลน ฉันก็รีบขับรถเข้าไปยังข้างในทันที สายตาของการ์ดประจำคลับต่างจับจ้องมาด้วยความสนใจ คงเพราะเห็นสัญลักษณ์ที่ติดอยู่หน้ารถในขณะที่รถเลี้ยวเข้าจอดยังจุดจอดรถ ร่างบางก้าวเดินตรงไปยังทางเข้าคลับทันที
“ขอตรวจบัตรด้วยครับ” การ์ดสองคนเดินเข้ามาดักหน้าฉันเอาไว้ ตอนนี้ตัวเองพึ่งจะอายุสิบแปด และตามกฎหมายฉันไม่มีสิทธิ์จะเข้าไปข้างในนี่ได้ นอกซะจาก...
“นี่ค่ะ” บัตรปลอมที่ได้รับการช่วยเหลือจากพี่เฮเลนถูกยื่นไปให้ทั้งสองคนได้เห็น
“เชิญครับ” ผ่านด่านแรกได้อย่างเรียบร้อย
ร่างบางหันส่งยิ้มให้การ์ดทั้งสองแล้วเดินเข้าไปข้างใน ทันทีที่ประตูเปิดออก ความมืดที่มีเพียงแสงสปอตไลต์ชวนปวดหัวสาดสลับสีไปทั่วคลับ เสียงเพลงดังกระหึ่มทำให้ฉันเริ่มรู้สึกหงุดหงิด อะไรที่เสียงดังฉันไม่ค่อยชอบมันเท่าไร
เท้าเล็กก้าวเดินในขณะที่สายตาก็มองสอดส่องไปทั่วเพื่อหาเพื่อนของตัวเอง แต่ด้วยความมืด และคนที่เยอะทำให้ยากต่อการตามหา เพราะงั้นก็ต้องขอตัวช่วยอีกครั้ง
‘ไอรีน: ลัลลาเบลอยู่ที่ส่วนไหนเหรอคะ ไอรีนหาไม่เจอเลย’
ฉันพิมพ์ข้อความออกหาพี่เฮเลน อีกฝ่ายเปิดอ่านทันที และกำลังพิมพ์ตอบกลับมา
‘พี่เฮเลน: ห้องวีไอพีชั้นบนของคลับ ห้องที่เก้าค่ะ’
เมื่อรู้ที่ที่ลัลลาเบลอยู่ก็รีบเดินตรงไปยังโซนวีไอพีทันที การจะเข้าไปในนั้นก็ต้องมีบัตรอีกเช่นกัน ฉันหยิบการ์ดสีดำขลับขึ้นมาโชว์แล้วเดินเข้าไปข้างในได้อย่างง่ายดาย คิดไม่ผิดที่ไปขอยืมมาจากพี่เฮนรี่
ห้องที่เก้า ห้องที่เก้า สายตามองไล่ตามประตูสีดำใหญ่แต่ละบานจนกระทั่งเห็นเข้ากับเลขเก้า ชายตัวสูงร่างกายกำยำยืนเฝ้าหน้าประตู ซึ่งต่างจากห้องอื่น แสดงว่าในห้องนั้นมีใครสักคนที่สำคัญมาก ๆ อยู่
“มาพบใครครับ” ชายตัวสูงถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“เพื่อนบอกให้มาที่โซนวีไอพีห้องเก้าค่ะ”
“เพื่อนชื่ออะไรครับ” ทำไมถามมากจังเนี่ย
“...” แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าคนห้องมีใครบ้าง
“เพื่อนชื่ออะไรครับคุณหนู” คำถามเดิมถูกถามย้ำอีกครั้ง
“ลัลลาเบลค่ะ”
“ไม่มีชื่อนี้ครับ” หรือจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ข้อมูลของพี่เฮเลนไม่เคยผิดพลาดนะ ถ้าลัลลาเบลอยู่ที่นี่ คนที่เธอตามก็มีแค่คนเดียว
“สเตฟานค่ะ”
“ฉันไม่รู้จักเธอ”
สิ้นเสียงของฉันก็มีเสียงผู้ชายแทรกมาจากข้างหลัง เมื่อหันกลับไปมองก็พบกับผู้ชายตัวสูงประมาณ 187 เซนติเมตร ผิวขาวตัดกับเส้นผมสีดำ เสื้อเชิ้ตสีกรมพับแขนเสื้อขึ้นเผยให้เห็นรอยสักที่แขน เราทั้งคู่สบตากัน เขาอยู่ตรงหน้าฉัน...สเตฟาน
“...” ร่างบางกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
“เรารู้จักกันเหรอครับ” คนตัวสูงถามพร้อมกับก้าวเดินเข้ามาใกล้
“...” ตอนนี้ในหัวพยายามคิดหาวิธีเอาตัวรอด
“ว่าไงหรือว่า...”
“หรือว่าอะไร”
“หรือตามมาเพราะแอบชอบฉันอีกคน” อีกคนงั้นเหรอ
“ถ้าบอกว่าใช่แล้วจะได้เข้าไปข้างในด้วยมั้ยคะ” กัดฟันพูดจนอยากจะกัดลิ้นให้ตายไปเลยซะก็ดี
“มีอะไรข้างใน ทำไมถึงอยากเข้าไป ถ้าเธอชอบแค่ฉันเราไปที่อื่นกันน่าจะดีกว่า”
“แล้วมีอะไรข้างในเหรอคะถึงไม่อยากให้เข้าไป หรือว่าพี่มีแฟนแล้ว”
“...” เราต่างฝ่ายต่างมองหน้ากัน
“(ยิ้ม)” ถ้าบอกว่าไม่มีนะ...
“ไม่มี”
“ไอ้เวรเอ๊ย” กล้าพูดว่าไม่มี แล้วสิ่งที่ทำกับเพื่อนฉันล่ะ!
หมับ!
“เปิดประตู!” สิ้นเสียงสเตฟานกระชากแขนฉันแล้วพาลากเดินเข้าไปในห้อง
“ไอ้ผู้ชายสกปรก ทำกับเพื่อนฉันแบบนั้นแล้วกล้าบอกว่าไม่มีแฟนเหรอวะ! กรี๊ด!”
ตุบ!
ร่างบางถูกเหวี่ยงลงพื้นกลางห้อง สายตาหลายสิบคู่จ้องมองมายังเราทั้งสองคน เข่ากระแทกอย่างจังเลยไอ้เวรนี่! มือเล็กยันลงกับพื้นดันพาตัวเองลุกขึ้นยืน เป็นจังหวะที่ฉันหันไปมองกลุ่มคนด้านหลัง สายตาเพ่งมองไปยังหญิงสาวคนหนึ่งกำลังกอดจูบอยู่กับผู้ชายอีกคน เพียงแค่มองจากข้างหลังฉันก็รู้ได้ทันทีว่าใคร
“ลัลลาเบล!”
“อย่าพูดแบบนี้นะคะพี่สเตฟาน รู้สึกเหมือนจะอ้วกอยู่ตลอดเวลาเลยค่ะ” รอยยิ้มของหญิงสาวตรงหน้ายียวนจนน่าหมั่นไส้“ขนาดรู้สึกจะอ้วกยังพาติดตัวตลอดเวลาขนาดนี้ การกระทำกับคำพูดสวนทางกันจังเลยนะครับไอรีน” สเตฟานตั้งใจเรียกชื่อของอีกฝ่าย เพราะรู้ว่าฉันไม่ชอบเสียงของเขาเวลาเอ่ยชื่อตัวเอง“จะแปลกอะไรล่ะ มันก็เหมือนพกหมากระเป๋าติดตัวนั่นแหละ”“ขาดไม่ได้จนต้องให้อยู่ใกล้ตลอดเวลา คลั่งรักอะไรขนาดนี้ครับ หรือมีปมในชีวิตทำให้ขาดผู้ชายไม่ได้” ต่างฝ่ายต่างตั้งใจให้อีกคนถูกมองไปในทางที่แย่ แต่ดันไม่มีใครยอมใคร“ปากเก่งขนาดนี้ทำไมหลุดออกไปจากฉันไม่ได้ล่ะ อ๋อ ลืมไปเลยก็เพราะ...” นิ้วเรียวชี้ไปยังคนตัวสูงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ความหมายที่จะสื่อเตือนสมองนิ่ม ๆ ของเขาคือ ชื่อของฉันที่อยู่บนตัว“หุบปาก” สเตฟานพูดขึ้นก่อนที่ฉันจะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้พึ่บ!ร่างสูงลุกขึ้นยืนสายตายังคงจับจ้องมาที่ฉัน ก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องผ่านสายตาทุกคนออกไปทันที ว่านอนสอนง่ายแบบนี้ตั้งแต่แรกก็จบ ชอบให้ฉันพูดมากทุกครั้งเลยพึ่บ!ตึก ตึก ตึกร่างบางลุกขึ้นจากโซฟาเช่นกัน แต่แทนที่จะเดินออกจากห้องไปทันทีฉันกลับเดินเข้าไปหยุดยืนตร
(ปัจจุบัน)นัยน์ตาเฉี่ยวจ้องมองรูปปั้นเทพพระเจ้ากรีกโบราณผ่านเลนส์กล้อง แม้เธอจะให้ความสนใจไปที่รูปปั้นตรงหน้า แต่ก็รู้ตัวอยู่ตลอดเวลาว่าสายตาคนรอบข้างกลับให้ความสนใจมาที่เธอหญิงสาววัยอายุ 25 ปี ผมยาวสีดำตรงถึงสะโพก ใบหน้าสวยคมเอกลักษณ์เด่นของตัวเองคือไฝใต้ตาขวา บางมุมมันก็ทำให้ใบหน้าของเธอสวยหวานชวนหลงใหล บางมุมสวยดุจนผู้ชายหลายคนอยากเข้ามาท้าทาย แต่สถานะที่เมื่อใครได้รับรู้ก็ต้องถอยห่างทำให้ผู้คนทั่วไปจึงทำได้เพียงมองแชะ แชะ แชะเสียงกดชัตเตอร์บันทึกภาพดังขึ้นเป็นจังหวะ สองเท้าก้าวเดินวนรอบรูปปั้นและกดบันทึกภาพไปด้วย อีรอสหรืออีกชื่อคิวปิดเทพพระเจ้าแห่งความรัก ภาพจำของใครหลายคนก็คือเทวดาตัวน้อยมีปีกสีขาวคอยยิงศรให้คนตกหลุมรักกันแต่สักกี่คนจะรู้ว่าเทพพระเจ้าตัวน้อยมีศรสองแบบ หนึ่งศรทำให้ตกหลุมรัก หนึ่งศรทำให้เกลียดกัน แม้แต่ในตำนานความรักของเทพพระเจ้าเองก็ยังมีอุปสรรค แล้วเราจะคาดหวังให้มีรักที่สมหวังตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกันไปทำไมในเมื่อเทพเจ้าแห่งความรักยังทำมันไม่สำเร็จ“เจ้าชายมาถึงแล้วครับ” เสียงผู้ดูแลเอ่ยขึ้น แต่หญิงสาวก็ยังคงให้ความสนใจไปที่รูปปั้นตรงหน้ามากกว่าบุคคลระดับสูง
“เสียมารยาทจังนะครับ เจ้าของห้องยังไม่อนุญาตให้เข้าเลย” เสียงของชายผู้เป็นเจ้าของห้องดังทักท้วงขึ้น ทำเอาทุกคนหยุดชะงัก แม้แต่ตัวฉันเอง“...” ร่างบางหันกลับไปมอง“แล้วก็เอาคนบุกเข้ามาห้องคนอื่นขนาดนี้ เขาไม่ได้สอนมารยาทให้เด็กกำ อ้อ ไม่ใช่สิ...เจ้าหญิง” ตั้งใจด่ากันเลยนี่หว่า แต่เราก็ตั้งใจด่ากันมาตั้งแต่แรกแล้ว“ทุกคนออกไปรอข้างนอก” เมื่อได้ยินคำสั่งของฉัน สเตฟานยิ้มมุมปาก ส่วนคนอื่นหันกลับมามองด้วยความตกใจ“พวกเราไม่สามารถปล่อยให้เจ้าหญิงอยู่กับผู้ชายในเวลาแบบนี้โดยไร้การดูแลได้ครับ” หัวหน้าผู้ดูแลพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“ไม่เป็นอะไร คุณสเตฟานเขาไม่ทำอะไรเราหรอก” ยิ้มฝีปากบางฉีกยิ้ม สายตายังคงจ้องมองกันและกัน“แต่...” ผู้ดูแลที่ยังเป็นกังวลพยายามจะพูดต่อ แต่เสียงของสเตฟานแทรกขึ้นมาซะก่อน“ผมไม่สิ้นคิดทำอะไรเจ้าหญิงหรอกครับ” ฉันล่ะชอบปากหมอนี่จริง ๆ ไม่ทำให้รู้สึกเบื่อดี“ช่วยสุภาพกับเจ้าหญิงด้วยครับคุณสเตฟาน” ผู้ดูแลกล่าวตักเตือนเขา แต่อีกฝ่ายก็ดูจะไม่ได้สนใจในคำเตือน“ผมพูดผิดตรงไหนล่ะ ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือเจ้าหญิงนะครับ ถ้าทำอะไรเธอผมก็แย่สิ” ปากพูดแบบนั้น แต่เชื่อเถอะในใจเ
ปึง!ประตูรถปิดลงทั้งสองฝั่งพร้อมกัน วันนี้ฉันถูกพากลับพร้อมพี่เฮนรี่ จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้ต้องเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง ทุกเรื่องที่รู้ ทุกเรื่องที่เกิดขึ้น ระหว่างสเตฟานกับลัลลาเบล แต่ยกเว้นเรื่องที่ตัวเองเข้าไปที่คลับเพราะไม่อยากให้พี่เฮนรี่เป็นห่วงไปมากกว่านี้“แน่ใจแล้วใช่มั้ยว่าเป็นเขา” เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมกับหักเลี้ยวพวงมาลัยรถขับวนลงจากตึกจอด“ถ้าไม่ใช่เขาจะเป็นใคร เพื่อนของไอรีนมีผู้ชายที่ชอบอยู่แค่คนเดียว”“พี่ถึงถามนี่ไงว่าแน่ใจใช่มั้ย เพราะภาพนั้นถูกส่งเข้าสู่เมลนักศึกษาทั้งมหา’ลัยนะ แล้วพี่ก็เห็นว่าไม่ได้มีผู้ชายแค่คนเดียว”“เข้าข้างผู้ชายด้วยกันเองหรือเปล่าเนี่ย”“ไม่ใช่สักหน่อย” พี่เฮนรี่หันมาสบตา“มองน้องแบบนี้หมายความว่ายังไง”“ก็ที่รู้มานะ สเตฟานไม่มีทางคบผู้หญิงคนไหน และไม่มีทางพาเรื่องแบบนี้เข้ามาหาตัวเองแน่นอน ระดับคาร์พาเธียไม่ปล่อยอะไรโง่ ๆ แบบนี้หรอก”“ครั้งนี้อาจจะเล่นสนุกจนลืมนึกถึงผลที่ตามมาก็ได้”“ไม่มีทาง สเตฟานชอบเฮเลนผู้ดูแลพิเศษของไอรีนไง เขาไม่มีทางพลาดเรื่องแบบนี้ให้ตัวเองดูไม่ดี”“ชอบพี่เฮเลน?” ถึงว่าสิ น้ำเสียงเวลาคุยกับพี่เฮเลน ทั้งตอนที่รับโทร
ณ ห้องสมุดมหา’ลัยผ่านเหตุการณ์นั้นมาหลายอาทิตย์ลัลลาเบลก็ยังไม่ยอมกลับมาเรียน เราทั้งคู่ทะเลาะกันรุนแรงเพราะฉันเข้าไปวุ่นวายชีวิตเธอเกินหน้าที่ของเพื่อนทำให้เราต่างห่างกันออกไป ฉันพยายามติดต่อเธอทุกทาง แต่ก็ไร้ความหมาย“เพื่อนล่ะคะ” พี่เฮเลนนั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามถามขึ้น“ยังไม่กลับมาเรียนเลยค่ะ”“ไม่ใช่ความผิดของ...” พี่เฮเลนเหมือนจะยังไม่ชินกับการเรียกชื่อแฝงของฉันเฉย ๆ“คริสค่ะ”“ไม่ใช่ความผิดของคริสเลยนะคะ การที่เราเป็นห่วงเพื่อนที่หลุดเข้าไปวงโคจรแบบนั้น” พี่เฮเลนรู้ว่าฉันเป็นกังวลกับเรื่องนี้ จึงคอยเข้ามาปลอบใจอยู่บ่อยครั้ง“ค่ะ เดี๋ยวสักวันมันก็ดีขึ้นแหละ พวกเราเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว ก็มีงอนกันบ้างตามประสาผู้หญิง พี่เฮเลนเคยเป็นมั้ยคะ”“ประจำค่ะ พวกพี่ทะเลาะกันเองเวลาว่าง ๆ ก็มี”“น่ารักจังเลยนะคะ” มีทะเลาะกันเวลาว่างด้วย“พี่ไม่รบกวนเวลาแล้ว ขอตัวไปเรียนก่อนนะคะ” พี่เฮเลนลุกขึ้นยืนแล้วส่งยิ้มหวานมาให้“บ๊ายบายค่ะ” มือเล็กยกขึ้นโบกไปมา มองตามแผ่นหลังของหญิงสาวที่เดินออกจากห้องสมุดไปฉันหันกลับมาสนใจงานในโน้ตบุ๊กของตัวเองต่อ นิ้วเรียวเลื่อนคลิกหน้าจอเว็บของมหา’ลัยขึ้นมา แต่จู่ ๆ
ร่างบางกวาดสายตามองไปรอบห้อง ไม่ใช่แค่คู่ของลัลลาเบลที่มีพฤติกรรมแบบนี้ อีกหลายคู่ที่นัวเนียเข้าหากันโดยไม่สนใจว่าใครจะมอง แต่สิ่งที่สะดุดตาฉันมากที่สุดก็เห็นจะเป็น อุปกรณ์เสพสิ่งเสพติดที่วางเกลื่อนกลาดอยู่บนโต๊ะ“เธอเป็นเพื่อนของเด็กนี่เหรอ” เสียงของคนที่ฉันพึ่งด่าเขาไปถามขึ้น เรียกสติให้กลับมา“ลัลลาเบล เรากลับกันเถอะ” ฉันไม่สนใจคำถามของสเตฟานรีบเดินเข้าไปดึงแขนเพื่อนตัวเองออกจากผู้ชายคนนั้นหมับ! ยังไม่ทันจะเข้าถึงตัวเพื่อน ข้อมือเล็กก็ถูกกระชากเต็มแรงจากผู้ชายตัวสูง“อย่าเมินคำถามฉัน” สเตฟานกดเสียงต่ำ สายตาดุจ้องมองหน้า“ไม่รู้ก็คงไม่ตายใช่มั้ย”“...” เมื่อได้รับคำตอบทำเอาสายตาของเขาเปลี่ยนไปทันที โมโหสินะ“หรือจะตายที่ไม่ได้รู้ก็บอก ฉันจะได้เล่าให้ฟังว่าตัวเองเป็นใครแล้วคุณจะได้ไปตายซะ” ข้อมือเล็กพยายามดึงออกจากมือหนา แต่แรงบีบที่ข้อมือแรงขึ้นจนร่างบางแสดงสีหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด“นี่มันคริส เด็กกำพร้าตระกูลที่ควีนมาเรียรับมาเลี้ยงนี่” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น ฉันก็ดังพอตัวเลยนะเนี่ย“ก็แค่เด็กกำพร้า...แต่เป็นเด็กกำพร้าที่ปากดีดี” สายตาดูถูกของผู้ชายตรงหน้ายิ่งทำให้ฉันรู้สึกเ