เอวาที่กลับมายังห้องพักตอนนี้เธอมีหมอนใบเล็กและที่นอนฟูกเล็กที่ป้ากิมเอามาให้เธอ ก่อนโทรศัพท์เครื่องเล็กที่วางข้างกายจะสั่นแสดงว่ามีสายโทรเข้ามา แม่ครูพักพิงนั่นเอง
“ค่ะแม่” “เป็นไงบ้างลูก” น้ำเสียงอบอุ่นใจดีถูกถ่ายทอดออกมาส่งถึงคนปลายสายจนมีรอยยิ้มผุดขึ้นมาที่ใบหน้าสวย “ดีค่ะ หนูได้งานทำแล้วเริ่มงานพรุ่งนี้ค่ะ” “ถ้าไม่ไหวก็กลับมานะเอวา” “ค่ะ หนูอยู่ได้จะไปเยี่ยมบ่อยๆนะคะ” “งั้นแม่ไม่กวนแล้ว พักผ่อนเถอะลูก” ก่อนแม่ครูจะวางสายไปก็ยังคงสร้างรอยยิ้มให้คนตัวเล็กได้อย่างดี เอวาล้มตัวลงนอนเพื่อพักผ่อนเพราะวันพรุ่งนี้เธอนั้นจะต้องไปหาเจ้ทั้งสองเวลาบ่ายสองเพื่อแต่งตัวทำงาน ขอให้การทำงานของเธอนั้นราบรื่นด้วยเถอะ เดวาเดินเข้ามาภายในร้านก่อนจะเห็นว่าเจ้ทั้งสองรอเธออยู่ก่อนแล้ว “สวัสดีค่ะเจ้” เด็กสาวเอ่ยทักทายและสวัสดีอย่างนอบน้อม “มาพอดี เจ้พาไปเตรียมตัว” ร่างเล็กเดินตามไปอย่างเงียบๆเมื่อเข้ามายังห้องแต่งตัวก็เห็นผู้หญิงคนอื่นๆอยู่5-6คนในนี้ ทุกคนสวยมากแบบที่เอวาแทบไม่เคยเห็นเลย สายตาทุกคู่มองมายังคนที่เข้ามาใหม่ทันที “นี่เดวา น้องใหม่ อายุ 23 คงเป็นน้องพวกเธอ” “ฝากด้วยนะ น้องยังไม่เคยทำงาน” เจ้ลูกนกเอ่ยแนะนำเอวาให้ทุกคนรู้จัก “หน้าตาสวยขนาดนี้ ไม่แปลกใจที่ได้มาอยู่ VVIP” เสียงสาวสวยผมสีน้ำตาลเอ่ยขึ้นและมองใบหน้าสวย “มีอะไรก็ถามได้นะ พวกพี่มันแก่อยู่มานาน” ก่อนที่ทุกคนจะพูดคุยด้วยความเป็นกันเองทำให้เอวานั้นก็รู้สึกสบายใจขึ้น เอวาในตอนนี้ถูกจับแต่งหน้าทำผมหมุนไปมาราวกับตุ๊กตาให้เจ้ทั้งสองทำสวยให้ “เรียบร้อย สวยมากเจ้” เจ้ตองเอ่ยขึ้นทันทีหลังจากช่วยกันแต่งหน้าทำผมให้เธอเสร็จ ด้วยที่ใบหน้าสวยเป็นทุนเดิมแค่แต่งแต้มเล็กน้อยก็ทำให้ยิ่งสวยโดดเด่นขึ้นไปอีก “ไปเปลี่ยนชุดไป เจ้เอามาหลายชุดถ้าไม่เหมาะจะได้เปลี่ยน” เอวาหยิบชุดที่เจ้ลูกนกส่งให้ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อเปลี่ยน เมื่อเรียบร้อยเธอเดินออกมาด้วยความเขินอาย เนื่องจากเป็นชุดเดรสเกาะอกสีดำแหวกข้างโชว์ขาขาวเนียน “เอ่อ คือว่า..” “ตายแล้ว สวยมาก” “ไม่คิดว่าจะซ่อนรูปขนาดนี้” เจ้ทั้งสองต่างชมเด็กสาวที่ตั้งใจช่วยกันแต่งตัวให้เธอ แต่ไม่คิดว่าจะสวยมากขนาดนี้ ผมถูกดัดลอนสวยโชว์ใบหน้าที่โดดเด่น อยู่ในชุดสีดำที่ตัดกับผิวขาวเนียนละเอียด ขาเรียวยาวสวมใส่รองเท้าส้นสูงส้นเข็มส่งให้ยิ่งดูแพงขึ้นอีกระดับ เอวาที่เก็บซ่อนความประหม่าไว้ก็ทำได้แค่ปั้นหน้ายิ้มรับคำชมไว้ “เดี๋ยววันนี้เกรซเอาเดวาไปด้วยนะ สอนงานน้องหน่อย” “ได้ค่ะเจ้ หนูดูแลน้องเอง” “เอวามากับพี่” พูดจบเกรซก็เดินนำเด็กสาวออกมา “พี่เกรซคะ เราต้องทำอะไรบ้างคะพี่” เอวาชวนหญิงสาวพูดคุยเพื่อลดอาการประหม่าที่เกิดขึ้น ในตอนนี้ทั้งไฟแสงสีเสียงต่างต่างตอนที่เธอเดินเข้ามาก่อนร้านเปิดอย่างมาก ผู้คนหนุ่มสาวมากมายต่างหลั่งไหลเข้ามาที่นี่ “เรามีหน้าที่ดูแลแขกที่เข้ามาที่นี่ในห้อง VVIP บางทีก็เป็นพวกนักธุรกิจมาคุยงานกัน” “เราต้องชงเหล้าและคอยอำนวยความสะดวกให้พวกเค้า และที่สำคัญความลับในห้องนั้นเราต้องปิดปากเงียบห้ามเอาไปบอกใครเด็ดขาด” “เข้าใจแล้วค่ะพี่เกรซ” เอวาพยักหน้ารับทราบอย่างเข้าใจง่าย “วันนี้ที่เราต้องดูแลคือเพื่อนของเจ้านายนะ” “ไม่มีอะไรมากทำตามที่พี่บอกก็พอ” ห้อง VVIP 01 สาวสวยทั้งสองคนเดินมาหยุดยืนหน้าห้อง VVIP ชั้นนี้ค่อนข้างสงบ และทุกห้องจะมีบอดี้การ์ดยืนคุมและคอยดูแลความเรียบร้อยในชั้นนี้อย่างดี ซึ่งบ่งบอกถึงความต้องการเป็นส่วนตัวอย่างมากพอสมควร ในขณะระหว่างทางเดินเข้ามาก็มีบอดี้การ์ดหลายคนมองตามหญิงสาวที่มาใหม่พวกเค้าต่างมองที่ความสวยของเธอแบบที่ยากจะเชื่อว่าสาวสวยจะมาทำงานแบบนี้ เพราะถ้าหากมองภายนอกจะบอกว่าเป็นลูกคุณหนูจากตะกูลใหญ่ก็ยังเชื่อ “ขออนุญาตค่ะ” เมื่อเกรซพูดจบก็ได้ทำการผลักประตูเข้าไปด้านในทันที เอวาที่เดินตามเข้ามาและมองเข้าไปด้านในก็พบกับเลโอผู้เป็นนายที่เธอได้พบและพูดคุยด้วยเมื่อวานนี้ และมีปลายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับเค้าอีกสองคนที่ตอนนี้หันมามองที่เธอเป็นตาเดียว แต่ก็มีชายอีกคนที่นั่งหันหลังอยู่ แต่มองจากด้านหลังก็รู้สึกคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก “เด็กใหม่หรอวะ” “เออ มาทำงานวันนี้วันแรก” เลโอตอบกลับเพื่อนอย่างเรียบเฉย “ใช้ได้นี่หว่า ว่าแต่เธอชื่ออะไร” ชายหนุ่มอีกคนก็เริ่มถามเอวาทันที ท่าทางของเค้านั้นดูเป็นมิตรแต่ก็มีแววตาไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่ “เอ่อ ชื่อเอวาค่ะ” เอวาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่พยายามควบคุมอาการประหม่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะในห้องมีรังสีของความอึดอัดและน่าเกรงขามแพร่จะจายไปทั่ว พูดจบเธอก็เดินเข้าไปเพื่อช่วยเกรซชงเหล้าทันที เอวาเอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองเพื่อรอเวลาเลิกงานสักที มือเรียวเล็กถือแก้วเหล้าที่ชงเรียบร้อยและกำลังจะล้มลงไปวางหน้าเพื่อนของเลโอ แต่เมื่อจะวางแก้วลงและดึงมือกลับก็ถูกจับที่ข้อมือเล็ก หมับ... เอวาเงยหน้าขึ้นสบตากับคนที่คว้าข้อมือเธอ ก่อนจะตกใจเมื่อเห็นว่าคือ คุณเคเดนที่ไปบริจาคสิ่งของให้แก่บ้านเด็กกำพร้าของเธอ ทุกคนในนั้นต่างมองเป็นตาเดียว ที่อยู่ๆเคเดนก็คว้ามือเด็กสาวคนนี้ มีเพียงเลโอที่ลอบยิ้มมุมปากหยักสวยได้รูปเพียงคนเดียว “ทำไมเธอ ถึงมาอยู่ที่นี่” “เอ่อ.. คือหนูมาทำงานค่ะ” ร่างเล็กตอบกลับด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก “หมดงานจะทำแล้วหรือไง ถึงเลือกมาทำที่นี่ ”น้ำเสียงเข้มยังคงเอ่ยพูดต่อ นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เค้าและเอวาได้พูดคุยกัน “มึงอย่ามาพูดแบบนี้ไอ้เคเดน ทำงานที่ผับกูแย่ตรงไหนไอ้สัส” เลโอรีบพูดขึ้นทันทีเมื่อได้ยินเพื่อนพูดจาไม่เข้าหู “แล้วมึงไปยุ่งอะไรกับเธอ” เพทายที่เห็นเคเดนยังคงจับข้อมือเล็กไว้ไม่ยอมปล่อยก็เอ่ยถามขึ้นทันที “รู้จักกันมาก่อนหรอวะ?” พายุก็พูดเสริมอีกคน เคเดนที่เห็นว่าตอนนี้เพื่อนและคนอื่นในห้องต่างมองเค้าด้วยความสงสัย ก็ปล่อยมือออกจากคนตัวเล็กทันที เอวาที่เห็นแบบนั้นก็ขยับออกมาและไปยืนข้างเกรซทันที “พวกเธอออกไป” น้ำเสียงนิ่งเรียบของเลโอเอ่ยบอกสองสาวให้ออกไปจากห้องทันที แต่สายตาของเค้านั้นก็ยังคงมองไปที่เคเดนด้วยรอยยิ้มมุมมาก และแววตาบ่งบอกว่าเลโอนั้นตั้งใจ เมื่อสองสาวออกไปจากห้อง เหลือเพียง เคเดน เลโอ พายุ และเพทายเท่านั้น “มึงคิดจะทำอะไร” เคเดนที่พูดขึ้นทันที ด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ แต่แววตากลับมีความแข็งกร้าวอย่างชัดเจน “ก็ไม่ แต่มึงว่าใช่เธอไหม” “คนที่มึงรอ และตามหามาตลอด” เลโอยังจ้องหน้าเคเดนอย่างไม่มีท่าทีจะหลบตาแม้แต่น้อย “เธอ...ไม่ใช่” “งั้นหรอวะ มึงแน่ใจหรอ” ใบหน้าของเลโอตอนนี้เปื้อนยิ้มเล็กน้อยราวกับกำลังเจอเรื่องสนุก พายุและเพทายเพียงแค่นั่งมองสถานการณ์เงียบๆ คิดว่าสองคนนี้ต้องมีเรื่องอะไรแน่นอนเพียงแค่ไม่เลือกที่จะถามรอดูเสียมากกว่า “ให้กูสืบให้ไหม” “ไม่ต้องเสือก!!” พูดจบเคเดนก็ลุกขึ้นเดินออกไปทันที มีเพียงเลโอที่มองเรื่องนี้เป็นเรื่องขบขันและน่าสนุก“ไปอยู่กับฉันไหม...” เอวาในตอนนี้เกิดความงุนงงเป็นอย่างมากกับประโยคเมื่อสักครู่ เธอเงยหน้ามองคลาสอย่างไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้ฟรานและเรียวตะก็งงกับประโยคที่เพื่อนพูดออกไป“ว่ายังไง” คลาสยังใช้สายตากดดันและถามย้ำเอวาต่อ “เอ่อ คือหนู” “ฉันแค่ถูกชะตากับเธอเท่านั้น”“เธอเหมือน.... น้องสาวของฉันที่หายไป” เอวาที่ได้ยินแบบนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองคลาสที่ตอนนี้แววตาของเค้านั้นฉายความเจ็บปวดออกมาอย่างชัดเจน “ฉันไม่บังคับ ถ้าอยากมาอยู่กับฉันในฐานะน้องสาวเมื่อไหร่ก็ติดติดต่อมา” มือหนาส่งนามบัตรยืนให้เด็กสาวตรงหน้าก่อนจะลุกและเดินออกไปทันที เอวาในตอนนี้เธอยืนมองไปที่ท้องถนนเพื่อเรียกแท็กซี่กลับไปยังห้องพัก ในเวลานี้ผู้คนที่มาเที่ยวยังผับแห่งนี้ก็ต่างพากันกลับ เอี๊ยด.. เสียงรถที่ถูกขับมาจอดตรงหน้าเอวาทำให้เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะเห็นรถหรูเลื่อนลดกระจกลงให้เห็นคนที่อยู่ในรถ“คุณเคเดน” เอวาที่ตกใจที่อยู่ๆคุณเคเดนก็ขับรถมาจอที่ตรงหน้าเธอ “ขึ้นรถ” เอวาที่เกินความงุนงงก็ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น ก่อนที่ไวกว่าความคิดรู้ตัวอีกทีมือหนาก็จับเข้าที่แขนเรียวเล็กแล้ว “ฉันจะไปส่ง ขึ้นรถ”เอวาที่ถูกจับยั
ร่างเล็กในตอนนี้ที่เกิดอาการตกใจจากเรื่องในห้อง เกรซได้พากลับมาพักยังห้องแต่งตัวทันที “เอวารู้จักกับคุณเคเดนมาก่อนงั้นหรอ” “คุณเคเดนเคยไปบริจาคเงินและของให้กับบ้านเด็กกำพร้าที่หนูโตมาค่ะ”ร่างเล็กตอบไปตามจริงด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดังมาก เนื่องจากเธอนั้นไม่รู้ว่าหากเกรซรู้ว่าเธอนั้นเป็นเพียงแค่เด็กกำพร้าจะนึกรังเกียจไหม“บังเอิญจังเลยนะ เรานั่งพักอยู่ที่นี่แหล่ะ นายไม่ว่าอะไรหรอก” อีกด้านเคเดนในตอนนี้ยืนสูบบุหรี่ที่ริมระเบียงเพ้นส์เฮ้าส์สุดหรูของตน พรางนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านแล้วเกือบ 20 ปีเห็นจะได้ ในตอนที่เค้ากับเลโอถูกผู้เป็นพ่อส่งไปฝึกเพื่อเอาตัวรอดในป่าที่ต่างจังหวัดนั้น แต่กลับถูกลอบทำร้ายจริงๆจนพวกเค้าทั้งสองคนแทบเอาชีวิตไม่รอด ทั้งสองคนพากันลัดเลาะหลบหนีมาตามแนวป่าเรื่อยๆเพราะคนที่ตามมานั้นต้องการฆ่าทั้งสองคนเท่านั้น เพื่อป้องการการขึ้นรับตำแหน่งทายาทมาเฟียที่จะขยายอำนาจในอนาคตนั่นเอง ทั้งสองคนต่างดิ้นรนจนมาพบกับบ้านหลังหนึ่งซึ่งค่อนข้างใหญ่เรียกว่าคฤหาสน์ก็ยังได้ เด็กหนุ่มทั้งสองคนมองหน้ากันเห็นเพียงแค่นี่คือทางรอดเท่านั้น“ว๊าย ตายจริง” แม่บ้านคนหนึ่งหันมาเห็นว่ามีเด็
เอวาที่กลับมายังห้องพักตอนนี้เธอมีหมอนใบเล็กและที่นอนฟูกเล็กที่ป้ากิมเอามาให้เธอ ก่อนโทรศัพท์เครื่องเล็กที่วางข้างกายจะสั่นแสดงว่ามีสายโทรเข้ามา แม่ครูพักพิงนั่นเอง “ค่ะแม่”“เป็นไงบ้างลูก” น้ำเสียงอบอุ่นใจดีถูกถ่ายทอดออกมาส่งถึงคนปลายสายจนมีรอยยิ้มผุดขึ้นมาที่ใบหน้าสวย “ดีค่ะ หนูได้งานทำแล้วเริ่มงานพรุ่งนี้ค่ะ” “ถ้าไม่ไหวก็กลับมานะเอวา” “ค่ะ หนูอยู่ได้จะไปเยี่ยมบ่อยๆนะคะ”“งั้นแม่ไม่กวนแล้ว พักผ่อนเถอะลูก” ก่อนแม่ครูจะวางสายไปก็ยังคงสร้างรอยยิ้มให้คนตัวเล็กได้อย่างดีเอวาล้มตัวลงนอนเพื่อพักผ่อนเพราะวันพรุ่งนี้เธอนั้นจะต้องไปหาเจ้ทั้งสองเวลาบ่ายสองเพื่อแต่งตัวทำงาน ขอให้การทำงานของเธอนั้นราบรื่นด้วยเถอะ เดวาเดินเข้ามาภายในร้านก่อนจะเห็นว่าเจ้ทั้งสองรอเธออยู่ก่อนแล้ว “สวัสดีค่ะเจ้” เด็กสาวเอ่ยทักทายและสวัสดีอย่างนอบน้อม“มาพอดี เจ้พาไปเตรียมตัว” ร่างเล็กเดินตามไปอย่างเงียบๆเมื่อเข้ามายังห้องแต่งตัวก็เห็นผู้หญิงคนอื่นๆอยู่5-6คนในนี้ ทุกคนสวยมากแบบที่เอวาแทบไม่เคยเห็นเลย สายตาทุกคู่มองมายังคนที่เข้ามาใหม่ทันที “นี่เดวา น้องใหม่ อายุ 23 คงเป็นน้องพวกเธอ”“ฝากด้วยนะ น้องยังไม่เคยทำ
เอวาตื่นลืมตาขึ้นในช่วงเช้าของวัน เมื่อคืนกว่าเธอจะข่มตาหลับได้ก็ใช้เวลาล่วงเลยมาถึงตีสอง ด้วยความที่แปลกที่แปลกทางแต่สุดท้ายก็หลับด้วยความเหนื่อยล้า เมื่อนึกได้ว่าวันนี้เธอจะต้องหางานทำให้ได้ก็รีบลุกขึ้นเพื่อไปอาบน้ำแต่งตัวไปสมัครงานในแถวนี้ทันที เอวาตอนนี้เดินออกมาหน้าตึกที่ใช้หลับนอนเมื่อคืน ก็เจอป้ากิมนั่งอยู่ที่หน้าตึกอย่างเดิม เธอจึงเดินไปทักทายทันที “สวัสดีค่ะป้ากิม” เมื่อได้ยินเสียงเล็กเอ่ยขึ้นจากด้านหลังป้ากิมก็เงยหน้าจากหนังสือพิมทันที “ตื่นเช้าเชียว จะรีบออกไปไหนล่ะ”“สมัครงานค่ะป้า” ใบหน้าสวมพูดตอบกลับพร้อมใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้มอยู่เสมอ “เมื่อคืนนี้นอนเป็นไงล่ะ หลับสบายไหม”“ก็นอนไม่ค่อยหลับค่ะ หนูคงรู้สึกแปลกที่แปลกทาง” เอวาตอบไปด้วยน้ำเสียงปกติ ความจริงเธอแทบไม่ได้นอนด้วยซ้ำ “ข้าลืมถาม เอ็งไม่มีชุดเครื่องนอนมาและนอนยังไง” “นอนพื้นค่ะ” “ข้าว่าแล้ว ทำไมไม่ไปเรียกข้าล่ะ” ป้ากิมพูดเสียงดังขึ้นทันทีเมื่อรู้ว่าเด็กสาวนอนที่พื้นเย็นๆแทนที่จะมาขอความช่วยเหลือจากเธอ “หนูเกรงใจ อีกอย่างก็ดึกแล้วไม่อยากรบกวนป้าค่ะ” ใบหน้ายังคงพูดด้วยรอยยิ้มบางๆส่งให้ป้ากิม “วันนี้ข้าจะเตรี
“เอวาลูก ช่วยดูแลการแต่งกายของน้องๆให้แม่ทีนะ” เสียงแม่ครูพักพิงเอ่ยบอกเด็กสาวที่ตอนนี้กำลังวุ่นวายกับการเตรียมตัวต้อนรับคุณหญิงมลดา ที่จะเข้ามาบริจาคเงินให้กับบ้านพักเด็กกำพร้าแห่งนี้อยู่เสมอ “ได้ค่ะแม่ครู” พูดจบเอวาก็เดินออกไปหาเด็กๆที่ห้องพักทันที เพื่อตรวจดูความเรียบร้อย แต่ก็พบว่าทุกคนอยู่ในความเรียบร้อยหน้าตาสะอาดสะอ้านไม่มอมแมมเลย “พี่เอวา เค้ามากันแล้วหรอคะ” บีมเด็กหญิงที่ดูจะโตกว่าทุกคนเอ่ยถามเอวาในทันทีที่เห็นหญิงสาวเดินเข้ามา “ใกล้แล้ว เดี๋ยวพวกเราไปนั่งรอที่ห้องรวมก่อนนะ” พูดจบเด็กๆทุกคนก็เดินกันไปอย่างว่าง่ายและเป็นระเบียบ ตั้งแต่จำความได้เอวาก็รู้ว่าตัวเองอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้แล้ว และเธอก็เติบโตที่นี่มาจนอายุตอนนี้ 23 ปีแล้ว ซึ่งเธอเองคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องออกเดินทางไปทำงานในกรุงเทพเพื่อหาเงินเข้าบ้านพักแห่งนี้ เพราะที่นี่เก่าและทรุดโทรมไปมากแล้วไหนจะค่าใช้จ่ายต่างๆอีก การจะที่รอให้มีผู้ใหญ่ใจดีมาบริจาคเงินให้ที่นี่นั้นก็เหมือนกับการหวังน้ำบ่อหน้า แต่ใจลึกๆเธอเองก็ยังห่วงทุกคนที่นี่ด้วย “สวัสดีค่ะคุณหญิง” เมื่อคุณหญิงมลดาลงจากรถทั้งแม่ครูพักพิงและเ