แชร์

ตอนที่ 1 โฉ ...นด ของขวัญชิ้นใหญ่

ผู้เขียน: คุณดอกไม้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-28 12:24:12

โฉ...นด ของขวัญชิ้นใหญ่

15 ปีต่อมา ...

“ฮัลโหล หม่ามี๊ ไหนหม่ามี๊บอกจะมารับวินซ์ที่สนามบินล่ะคะ หม่ามี๊อยู่ตรงไหนแล้วคะ? “หญิงสาวในชุดทะมัดทะแมงสวมเสื้อยืดสีขาวทับไว้ด้านในกางเกงยีนส์เอวสูงขายาวสีขาวเช่นกัน สีขาวทำให้ขับผิวคนที่สวมใส่ให้ดูขาวมีออร่ายิ่งขึ้น รวมกับหน้าตาอันน่ารัก สดใส ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อน ขนตาแพหนาเหมือนใส่ขนตาปลอมแต่คือขนตาธรรมชาติ ผมลอนยาวสยายสีบรอนด์คาราเมล ผิวขาวใสอมชมพู ปากเล็กริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อที่กำลังขยับสนทนากับคนในสาย ทำให้หญิงสาวดูน่ารักราวกับตุ๊กตาเดินได้ก็ไม่ปาน ร่างบางเดินลากกระเป๋าเดินแล้วคุยโทรศัพท์ไปด้วย

‘มี๊ไม่ได้ไปรับวินซ์นะลูก ป๊ากับมี๊มีติดคุยงานกับลูกค้ายังไม่เสร็จเลย’ เสียงหวานจากผู้เป็นแม่ที่อยู่ปลายสาย ที่บอกก่อนหน้าที่เธอจะบินมาประเทศไทยหลังจากที่เธอไปเรียนต่างประเทศ 15 ปี

“อ้าว แล้วใครจะมารับวินซ์ล่ะคะ พวกลุงก็ไม่ว่างเลยเหรอคะ หลานสาวกลับมาอยู่ไทยทั้งที ไม่มีใครสนใจมารับวินซ์เลย” วินเซ่ตัดพ้อเล็กน้อย

‘พวกลุงๆ ของหลานก็คุยงานอยู่กับป๊านี่แหละลูก ยังไม่มีใครว่างไปรับเลยสักคนค่ะ ‘

“แล้วจะให้วินซ์กลับเองเหรอคะหม่ามี๊ วินซ์จะกลับยังไง นั่งรถยังไง สายไหน หรือแท็กซี่ไปลงที่ไหนยังไม่รู้เลย”

’ ไม่ต้องกังวลนะคะคนสวย อยู่ๆ ไปเดี๋ยวก็รู้จักเอง มี๊ให้พายุไปรอรับที่สนามบินแล้วจ๊ะ หาพายุให้เจอก็กลับได้แล้ว ‘เสียงของคนเป็นแม่พูดกับลูกสาวที่เพิ่งจะกลับมาอยู่ที่ไทย

” แล้ววินซ์จะหาน้าพายุที่ไหนเนี่ย สนามบินออกจะกว้าง หม่ามี๊มีเบอร์ติดต่อน้าพายุไหมคะ”

ตรู๊ดดดดดด ยังไม่ทันที่เธอจะได้ถามหรือได้คำตอบอะไรจากแม่ของเธอ เสียงสัญญาณกดวางสายจากปลายสายก็ดังขึ้นเสียก่อน

“อ้าวววววว โอ้ยยยยย จะบ้า จะหายังไงเจอล่ะทีนี้ หม่ามี๊นะหม่ามี๊ เห็นงานดีกว่าลูกสาวเสียอีก พวกลุงก็เหมือนกัน คอยดูนะ จะงอนเสียให้เข็ด!” หญิงสาวบ่นพึมพำให้กับคนที่เห็นงานสำคัญกว่าการรับลูกมารับหลาน ก่อนจะสอดส่ายสายตาไปยังรอบๆ บริเวณภายในสนามบินเพื่อมองหาน้าพายุ ลูกน้องคนสนิทของพ่อเธอ น้าพายุอยู่กับพ่อของเธอมายาวนาน ตอนเด็กๆ เธอจำได้ว่าน้าพายุจะชอบพาฉันเล่นยิงปืนบ่อยๆ จากยิงเล่นกลายมาใช้ปืนจริง ครอบครัวเธอก็ไม่ได้ห้ามแต่อย่างใด ทุกคนไม่ปิดกั้นอิสระทางความคิดของเธอ พ่อและพวกลุงๆ มักจะสอนฉันอยู่เสมอ เอาไว้ป้องกันตัวเมื่อยามโตขึ้นแล้วไม่มีลุงกับพ่อคอยคุ้มครอง

“คุณหนู คุณหนูครับ ทางนี้ๆ” เสียงของน้าพายุที่ตะโกนพร้อมโบกไม้ โบกมือ ให้เธอเห็นว่าต้นเสียงมาจากทางไหน หญิงสาวเห็นเป้าหมายที่เธอตามหาแล้ว ก็ยิ้มกว้างสดใสให้ผู้ที่ทำหน้าที่มารับเธอแทนลุงและพ่อแม่ของเธอ

“ไม่มีใครว่างมารับวินซ์เลย ใช่สิ เดี๋ยวนี้วินซ์ไม่สำคัญแล้วนี่” หญิงสาวบ่นพึมพำตัดพ้อแบบคนน้อยใจพร้อมทำปากยื่นๆ เหมือนเด็กขี้งอนให้กับพายุ พายุเห็นแบบนั้นได้แต่ยิ้มแล้วส่ายหัว กับท่าทางเป็นเด็กของคุณหนูของเขา ทั้งๆ ที่เจ้าตัวอายุย่างเข้า 25 ปีแล้ว และนี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้หญิงสาวที่มีชีวิตอยู่ต่างประเทศต้องกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยตามคำขอของผู้เป็นแม่ ที่มีความเชื่อโบร่ำโบราณ ความเชื่อของเซรินนั้นเชื่อว่า วัยเบญจเพศ เป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อที่ต้องระมัดระวังมากกว่าปีอื่นๆ โบราณเขาว่าไว้ว่า ช่วงอายุ 25 ของทุกคน จะเป็นปีที่ท่านยมบาลจะเช็คกรรมและบุญของคนคนนั้น หากใครดวงตกและทำกรรมไว้เยอะกว่าบุญ ก็จะเกิดอันตราย บางคนถึงขั้นเสียชีวิต เซรินกลัวว่าลูกสาวคนเดียวของเธอจะเกิดอันตรายจึงให้กลับมาอยู่ที่ไทย ตอนแรกวินเซ่จะไม่กลับมาเพราะความเชื่อที่แม่ของเธอกลัว แต่เซรินออกแกมบังคับจนสุดท้ายวินเซ่ก็ไม่อาจต้านทานความรบเร้าของผู้เป็นแม่ได้

“กลับกันเถอะครับคุณหนู ถึงจะไม่มีใครว่างมารับ แต่ผมว่างมารับแทนแล้วนะครับ” พายุบอก พร้อมกับลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สองใบเดินนำเธอไปยังที่รถจอดอยู่ พายุเก็บกระเป๋าไว้หลังรถเรียบร้อยแล้ว ก็เดินมาเปิดประตูรถให้หญิงสาว

“ขอบคุณค่ะ” วินเซ่เอ่ยขอบคุณ แม้เขาจะเป็นเพียงแค่ลูกน้องของพ่อ แต่เขาก็เปรียบเสมือนพี่เลี้ยงของเธอมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะที่บ้านของเธอส่วนมากจะไม่มีพนักงานหรือแม่บ้านที่เป็นผู้หญิงเลย เมื่อหญิงสาวก้าวขึ้นไปนั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว พายุก็เข้าไปในรถ นั่งด้านหน้าข้างคนขับ เขาไม่ได้ขับรถเอง แต่มีคนขับรถให้อีกคน

“จะไปส่งวินซ์ที่ไหนคะ หม่ามี๊กับป๊าน่าจะยังไม่กลับ”

“บ้านใหญ่ครับ นายกับนายหญิงให้ผมมารับไปส่งที่นั่นที่เดียวครับ” พายุกล่าว วินเซ่ได้แต่พยักหน้ารับทราบก่อนจะเบนสายตาออกไปยังบรรยากาศด้านนอกกระจกรถ ที่นี่ประเทศไทย ประเทศบ้านเกิดของเธอ ประเทศที่เธอจะต้องใช้ชีวิตต่อจากนี้ไป

“รถหรูสีดำเงา แล่นเข้ามายังคฤหาสถ์หรูหราใหญ่โตโอ่อ่า สีขาวทั้งหลัง ด้านหน้ามีรูปปั้นผู้หญิงสไตล์ยุโรปถือโถน้ำยืนอยู่กลางสระน้ำตื้นๆ รูปวงกลม ในสระเลี้ยงปลาคราฟหลายสีกำลังแหวกว่ายไปมา ที่นี่คือ คฤหาสถ์อีแวนสัน ซึ่งเป็นคฤหาสถ์ของตระกูลอีแวนสัน คฤหาสถ์หลังนี้ปู่ของเธอให้เป็นของรับขวัญในวันที่ วรริทธิ์ฐา อีแวนสัน ลูกสาวคนเดียวของวินเนอร์ อีแวนสัน และเป็นหลานสาวคนเดียวของ ปู่เวนอล อีแวนสัน ได้ลืมตาดูโลกเป็นครั้งแรก คฤหาสถ์หลังนี้จึงเป็นของเธอไปโดยปริยาย

เมื่อรถจอดสนิทหน้าประตูคฤหาสถ์ พายุลงจากรถก่อนเพื่อลงไปทำหน้าที่เปิดประตูรถให้กับเธอ หญิงสาวก้าวลงจากรถ มองเข้าไปในคฤหาสถ์ ดูเงียบเหงาผิดปกติ หรือว่าเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว

“ปกติเงียบแบบนี้ไหมคะน้าพายุ” หญิงสาวเอ่ยถามขึ้นอย่างอดไม่ได้

“ใช่ครับ เพราะปกติมีแค่นายกับนายหญิงอยู่กันสองคน” พายุบอกคุณหนูของเขา วินเซ่ไม่ได้ถามอะไรต่อ เดืนเข้าไปในตัวคฤหาสถ์

ปุ้ง ปุ้ง ปุ้ง!!! เสียงพลุกระดาษหลายอันดังขึ้น ท่ามกลางความเงียบ และตามด้วยพวกลุงๆ ป้าๆ ของเธอพุ่งตัวออกมาจากที่หลบซ่อน

“เซอร์ไพส์!!!! ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่าลูกสาวววว” เซรินเอ่ยต้อนรับลูกสาวเป็นคนแรก

“ที่บอกว่าคุยงานไม่มีใครว่างไปรับวินซ์ เพราะกำลังเตรียมปาร์ตี้เด็กๆ นี่อยู่กันเหรอคะ”

“ใช่จ๊ะ ก็พวกเราดีใจนี่นาที่ลูกแม่ตัดสินใจกลับมาอยู่ไทยแล้ว พวกเราอุตส่าห์รบเร้ากันมาตลอดกว่าจะสำเร็จ”

“ถึงปาร์ตี้จะเล็ก แต่ของขวัญต้อนรับของลุงกับป้าไม่เล็กนะ” คาร์โก้ผู้เป็นลุงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ก่อนหันไปยิ้มให้กับป้าของเธอที่ยืนอยู่ข้างๆ กัน ลุงๆ ของเธอมีป้ากันหมดทุกคนแล้ว ยกเว้นอยู่หนึ่งคนที่ยังไม่มีป้าให้เธอเสียที’ ลุงเจค ‘ครองตัวเป็นโสดและเลี้ยงเธอมาตลอดมากกว่าลุงคนอื่นๆ

“ของขวัญอะไรคะ เนื่องในโอกาสอะไรคะ”

“ก็ของรับขวัญไง” มังกรเอ่ยสั้นๆ

“รับขวัญอะไร วินซ์ไม่ใช่เพิ่งเกิดสักหน่อย”

“ถึงจะไม่ได้เพิ่งเกิด แต่เราเพิ่งกลับมาอยู่ไทย นั่นก็แปบว่าหนูเกิดใหม่ ใช้ชีวิตใหม่ในไทยไง” เจคอร์ปเสริมทัพ

“อ่ะ รีบไป อายุหนูถึงเวลาที่จะดูแลมันได้แล้ว” คาร์โก้โยนกุญแจรถให้วินเซ่รับแบบที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว กุญแจเกือบร่วง

“รถ...” หญิงสาวมองกุญแจในมือ พร้อมกับหันไปสบตากับลุงคาร์โก้

“ใช่ รถแข่งคันโปรดของลุงเอง มันจอดอยู่ในสนาม ว่างๆ ก็ไปขับเอาฤกษ์เอาชัยให้มันหน่อย มันเปลี่ยนเจ้าของทั้งที” คาร์โก้บอก วินเซ่ยิ้มหวานแล้วเดินเข้าไปกอดผู้เป็นลุง

“เห้ยๆๆ กอดคนเดียวได้ไง ลุงก็มีของรับขวัญเหมือนกันนะ เอ้า เอาไป” มังกรยืนปืนสั้นให้หลานสาว ปืนที่มีเพียงอันเดียวในโลก เพราะเขาสั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษ ออกแบบเอง และสลักชื่อตัวอักษร VINCE ด้วยมือของเขาเอง

“ตอนแรกป้าว่าจะซื้อแหวนให้หนูวินซ์มันเหมาะกับเด็กสาวมากกว่าปืนซะอีก แต่เห็นว่าหนูมีแหวนที่ใส่ตลอดอยู่แล้ว ก็เลยไม่ได้ซื้อมาให้จ๊ะ” ป้านีน่า ภรรยาของลุงมังกรบอก

“แค่นี้ก็ดีใจแล้วค่ะ มีปืนก็ดีค่ะ หลานสาวมาเฟียคงมีศัตรูเยอะน่าดู ทั้งศัตรูพ่อ ศัตรูลุงๆ อีก เอาไว้ป้องกันตัวค่ะ” วินเซ่เอ่ยและยิ้มสดใสอย่างดีใจและยินดีกับของขวัญทุกชิ้น

“แล้วมึงไม่มีให้หลานเหรอวะไอ้เจค เงียบอยู่ได้” มังกรเอ่บแซวเพื่อนของเขาอีกคนที่เอาแต่นิ่งเงียบมาสักพัก

“มี ของกูใหญ่กว่ามึงอีก” เจคอร์ปเริ่มคุยทับ

“อะไรใหญ่วะ? 5555” คาร์โก้เอ่ยสวนทันทีหลังจากเจคอร์ปพูดจบ

“อย่าคิดทะลึ่งต่อหน้าหลาน ไอ้นี่นิ อ่ะ เอาไป” เจคอร์ปยื่นกระดาษม้วนกลมมีริบบิ้นผูกไว้คล้ายการ์ดอะไรสักอย่าง

“อะไรวะนั่น กระดาษใบเดียว ใหญ่ตรงไหนของมัน” มังกรสงสัย วินเซ่ค่อยๆ แกะริบบิ้นออกทีละน้อย แล้วคลี่กระดาษม้วนนั้นออกมาอ่าน แม้จะอ่านภาษไทยไม่ค่อยจะคล่องเท่าไร แต่ก็พอจับใจความได้ว่ามันคืออะไร รอบยิ้มกว้างจึงผุดขึ้นบนใบหน้าสวยทันที

“อ่านแล้วก็บอกลุงด้วยมันคืออะไร” มังกรเร่งเร้าด้วยความอยากรู้

“มันเขียนว่า โฉ~นด ค่ะลุงกร”

“โฉนด!!!” ลุงทั้งสามพูดแก้คำที่ถูกขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เมื่อหลานสาวอ่านภาษาไทย

“โอยยย หัวจะปวด” คาร์โก้เหนื่อยใจกับการอ่านภาษาไทยของหลานตัวเอง

“55555 ก็วินซ์อ่านตามที่เขียนเลยนี่คะ ลุงแต่ละคนให้ของขวัญวินซ์แบบนี้ สงสัยสบายไปทั้งชาติไม่ต้องทำงานแล้วค่ะ ดีเลย” วินเซ่บอกแกมประชดประชันผู้เป็นลุง

“พอเลยๆ พวกลุงก็ให้ท้ายดีจริงๆ แค่ของขวัญรับขวัญ ต้องเล่นใหญ่กันขนาดนี้เลย ไม่เปลี่ยนกันสักคน” เซรินบ่นเหล่าลุงทั้งหลายที่สปอยหลานสาวมาแต่ไหนแต่ไรตั้งแต่เด็กๆ

“แล้วแบบนี้หลานก็จะได้ใจ ไม่ทำงานทำการละ รอกินมรดกที่ลุงๆ ให้กันมาก็ไม่หมด” พวกลุงทำหน้าจ๋อยเมื่อโดนเซรินบ่นที่สปอยหลานมากเกินไป

“ทำสิคะหม่ามี๊ แต่วินซ์ไม่ทำที่บริษัทป๊านะ ไม่อยากถูกมองว่าถือว่าเป็นลูกเจ้าของเดี๋ยวจะไม่ได้ทำงานเพราะพนักงานเกรงใจไม่กล้าว่าไม่กล้าสอนกันหมด” เธอบอก

“ไม่ทำที่ป๊า ก็ไปทำกับลุง” วินเนอร์เอ่ยขึ้นเป็นครั้งแรก หลังจากที่นั่งมองเหตุการณ์อยู่ตลอด

“กับลุงก็ไม่ทำค่ะ ไม่ต่างจากป๊าเลยนะ พอดีวินซ์เข้าไปลุงก็สปอยคราวนี้พนักงานยิ่งกว่าบริษัทป๊าอีก” วินเซ่ปฏิเสธอีกรอบ

วินเนอร์มองหน้าวินเซ่นิ่ง และหันไปสบตากับเซรินผู้เป็นภรรยา คล้ายจะขอความคิดเห็น เซรินสบตานิ่งแล้วพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตเพียงเล็กน้อย

“งั้นไปทำงานกับเพื่อนของป๊าเขา อันนี้ไม่ต้องปฏิเสธ ป๊าเขาฝากให้แล้ว ลูกชายของเขาต้องการเลขาเพิ่มไปช่วยงานคนเก่า” เซรินอธิบายให้ลูกฟังแทนพ่อของเธอที่เป็นคนประหยัดคำพูด

“โห่ ก็ได้ค่ะ แต่วินซ์จะขอไปอยู่คอนโดนะคะ ไม่อยากอยู่บ้านเป็นก้างขวางคอคนแก่สองคนแถวนี้ 555” วินเซ่พูดแบ้วหวัเราะอย่างชอบใจ ทำให้เรียกเสียงหัวเราะและรอบยิ้มให้กับพวกลุงกันเป็นแถว

“เอ๊ะ ลูกคนนี้นี่ แสบจริงๆ ไปอยู่คอนโดก็ได้ ป๊าเขาซื้อคอนโดใหม่ไว้แล้ว ใกล้ที่ทำงานเรานั่นแหบะ จะได้สะดวกสบาย”

“ซื้อใหม่ทำไมกันคะ คอนโดป๊ามีเป็นตึกๆ ตั้งหลายที่” เธอถามขึ้น

“ก็คนรวยอ่ะนะ เงินเหลือใช้มั้ง” เซรินพูดพร้อมมองค้อนไปยังสามีตัวเองที้หันหน้าหนีความผิดที่ไปแอบซื้อคอนโดนั้นโดยไม่ปรึกษา แต่วินเนอร์อธิบายไปแล้วว่าความจริงคืออะไร คอนโดนั้นเป็นของใคร ใครคือเจ้าของ และเขาคนนั้นที่วินเนอร์ยอมมีอะไรเกี่ยวข้องกับลูกสาวคนเดียวของเขากันแน่...

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • BlackVinceจองรักคู่หมั้นร้ายลูกชายมาเฟีย   ตอนที่ 55 พิเศษ 3 รักได้ไหม บอกพี่ที

    พิเศษ 3 รักได้ไหม บอกพี่ที เช้ามืดของอีกวัน นัตตี้งัวเงียตื่นขึ้นมา รู้สึกเหมือนมีอะไรกดทับที่บริเวณหน้าท้อง นัตตี้ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น แผงขนตาหนากระพริบถี่เพื่อปรับแสงภายในห้อง เธอก้มลงมองหน้าท้องว่าสิ่งที่กดทับหนักๆนั้นคืออะไร ท่อนแขนแกล่งพาดทับกอดเอวเธอไว้อย่างหลวมๆ นัตตี้หยิบนาฬิกาจากมือถือขึ้นมามอง เป็นเวลา หกโมงเช้า เธอค่อยๆหันไปเขย่าตัวคนที่หลับพริ้มสนิทไม่รู้เรื่องให้ตื่น เพื่อไปทำหน้าที่ของตัวเอง “พี่โท ตื่นได้แล้ว เดี๋ยวนายตื่นจะถามหา” นัตตี้ปลุกคนร่างโตที่นอนหลับพริ้ม “อื้อ ไม่ตื่นหรอก นายน่าจะเพิ่งได้นอนเหมือนเราเนี่ยแหละ” ไม้โทงัวเงียพูด และจะหลับต่ออีกรอบ แต่โดนมือบางฟาดปลุกไปที่ไหล่แกร่งเสียงดัง จนทำให้ชายหนุ่มต้องสะดุ้งตื่นอย่างเต็มตา “ทำไมตื่นเช้า ไม่ง่วงเหรอ” “ไม่ง่วง ตื่นได้แล้ว” นัตตี้บอกก่อนยันตัวลุกขึ้น มองหาเสื้อผ้าเพื่อเอามาสวมใส่แต่กลับโดนท่อนแขนแกร่งคว้าหมับรอบเอวบางให้ล้มลงนอนเหมือนเดิม “นอนต่ออีกหน่อย เจ้านายไม่ว่าอะไรหรอก เจ้านายรู้” ไม้โทบอกนัตตี้ จนเธอใจอ่อนยอมล้มตัวลงนอนอีกรอบ แต่ไม่ได้

  • BlackVinceจองรักคู่หมั้นร้ายลูกชายมาเฟีย   ตอนที่ 54 พิเศษ 2 กินได้เลย ฉันอนุญาต

    พิเศษ 2 กินได้เลย ฉันอนุญาต “อยากกิน แล้วทำไมไม่กินล่ะ” ไม้โทเอ่ยแค่นั้น ก่อนจะจับใบหน้าหวานเกินผู้ชายทั่วไปของนัตตี้ให้แหงนขึ้นมารับริมฝีปากหยักได้รูปที่ทาบทับลงบนริมฝีปากนุ่มมีลิปสติกสีอ่อนทาไว้ นัตตี้เบิกตากว้างเพียงชั่วครู่ให้กับการกระทำของชายหนุ่มที่เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าเขาจะทำกับเธอ นัตตี้เริ่มหายใจติดขัดไม่ทั่วท้องเมื่อริมฝีปากหยักบดขยี้ริมฝีปากเธออย่างรุนแรง ก่อนจะเริ่มสอดแทรกลิ้นอุ่นที่มีกลิ่นจางๆของบุหรี่เข้ามาผสมผสานกับกลิ่นแอลกอฮอล์ ตวัดควานหาความหวานในโพรงปาก “อื้อออ” “จะกินหรือไม่กิน” ไม้โทถามขึ้นเมื่อถอนริมฝีปาก ปล่อยให้ปากบางได้รับอิสระ “กินได้จริงๆเหรอ” นัตตี้ถามเพื่อความแน่ใจ กลัวทำทำไปแล้วเขาเกิดเปลี่ยนใจไม่ทำ เธอจะค้างคามากกว่านี้ “ไม่กินฉันจะไปนอนข้างนอกแล้ว” ไม้โททำท่าจะเดินออกไป แต่โดนนัตตี้ดึงรั้งขอบกางเกงเอาไว้เสียก่อน “กะ...กิน ค่ะ” นัตตี้พูดค่ะกับเขาเป็นครั้งแรก คำตอบของเธอทำรอยยิ้มผุดขึ้นบนมุมปากหนาทันที ริมฝีปากหยักทาบทับบดขยี้ริมฝีปากบางนั้นอีกครั้ง ก่อนค่อยๆเลื่

  • BlackVinceจองรักคู่หมั้นร้ายลูกชายมาเฟีย   ตอนที่ 53 พิเศษ 1 อยากจับไหม? อยากกินมากกว่า...

    พิเศษ 1 อยากจับไหม? อยากกินมากกว่า... นัตตี้ หรือ นาที ลูกน้องคนสนิทของแบล็คเกอร์ นัตตี้เป็นสาวประเภทสองที่แต่งตัวดูดี ไม่ได้แต่งตัวเป็นสาวจ๋าเหมือนสาวประเภทสองทั่วๆไป ที่สวยเหมือนผู้หญิงจนแยกไม่ออก นัตตี้มีรูปร่างสูงโปร่ง ค่อนข้างไปทางบอบบางกว่าชายปกติทั่วไป ผิวขาวใส ทรงผมรากไทรประบ่าไม่แมนเกินไปและไม่ยาวจนออกสาวมากนัก แต่เรื่องการแต่งหน้านัตตี้จัดเต็ม เพราะเธอชอบดูแลตัวเองให้สวยดูดี ดูแพงอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากเป็นบอดี้การ์ดให้นายหญิง แม้ว่าจะเป็นการดูแลอยู่ห่างๆก็เถอะ แต่เธอก็ต้องพร้อมอยู่ทุกสถานการณ์ จึงต้องแต่งตัวให้ดูทะมัดทะแมง เสื้อเชิ้ตขาวสวมทับด้วยสูทสีชมพูอ่อน กางเกงรัดรูปสีขาวดูดี นัตตี้เป็นสาวประเภทสองที่ทั้งเก่งศิลปะป้องกันตัวและเก่งด้านไอทีพอสมควร เธอมีหน้าที่ติดตามดูแลวินเซ่อยู่ห่างๆตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาจากแบล็คเกอร์ คอยรายงานเรื่องราวของวินเซ่ตอนที่ไม่ได้อยู่กับแบล็ค แต่ดูเหมือนว่าจะดูแลห่างๆได้ไม่นาน บางสถานการณ์ก็ต้องยื่นมือเข้าไปช่วยจนเธอเองรู้สึกอึดอัด อยากจะแสดงและติดตามอย่างเปิดเผยให้รู้แล้วรู้รอดไป จนแล้วจนรอดเธอก็ตัดสินใจแสดงตัวก

  • BlackVinceจองรักคู่หมั้นร้ายลูกชายมาเฟีย   ตอนที่ 52 Special Bom Bay

    Special Bom Bay 3 ปีต่อมา... เตาะแตะ เตาะแตะ เด็กชายฝาแฝดวัย 3 ขวบ สองคน ในชุดไดโนเสาร์สีเขียวมีฮู้ด เดินเล่นเตาะแตะ อยู่บนถนนแข่งรถ ในสนามแข่งรถของมิวนิค โดยมีสายตาอบอุ่น สองคู่มองดูด้วยความเอ็นดู “ปีนี้ บอม กับ เบย์ ก็ 3 ขวบแล้ว เมื่อไรมึงจะมีเป็นของตัวเอง มาแย่งกูเลี้ยงลูกอยู่เนี่ยแหละ” แบล็คเกอร์เอ่ยขึ้นกับเพื่อนท่ามกลางความเงียบ “อย่ามาหวง กูแค่มาเล่นด้วยเป็นครั้งคราว ทำบ่น” มิวนิคตอบกลับ “ครั้งละหลายวัน บางทีก็เอากลับบ้านด้วย และมาทุกวัน แทบจะย้ายมาอยู่บ้านกูแล้ว” แบล็คตอบอย่างกวนๆ “ก็เมียมึงชวนเมียกู กูไม่ได้อยากมาสักหน่อย” “สาบาน!” แบล็คเกอร์ถามห้วนๆ อย่างไม่จริงจัง เขารู้ดีว่าเพื่อนของเขาน่าจะติดหลานชาย เจ้าก้อนทั้งสองของเขาแน่นอน “ไม่! กูจะตายฟรี” มิวนิคตอบ แล้วเดินออกไปยังรถแข่งคันโปรดที่จอดไม่กลางสนามแข่ง เพื่อเช็คสภาพ เตรียมจะเอาไว้ลงแข่งในค่ำคืนนี้ แบล็คเกอร์ยิ้มๆ แล้วส่ายหัวให้กับความฟอร์มเยอะของเพื่อน ที่ไม่ยอมรับความจริงว่าตัวเองเห่อหลานขนาดไหน เขาเดินตามมิวนิคลงมาเช็ครถ ปล่อยให้ลูกชายทั้งสองเดินเล่นไปเรื่อยๆ “ป๊ะๆ นุงๆ” เสียงอ้อแอ้ร้องเรียกป

  • BlackVinceจองรักคู่หมั้นร้ายลูกชายมาเฟีย   ตอนที่ 51 แผนการสุดท้ายสำเร็จ...(จบ)

    แผนการสุดท้ายสำเร็จ... “อื้อออ~” วินเซ่ขยับตัวรู้สึกตื่น เมื่อรับรู้ความหนาวจากเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ วินเซ่พลิกตัวไปเมื่อ แขนเรียวควานหาคนข้างๆ แต่ก็พบแต่ความว่างเปล่า ทันทีที่สติกลับมาเกือบเต็มที่ เปลือกตาบางค่อยๆ ลืมขึ้นปรับแสงจากด้านนอก “ไปไหนของเขานะ หรือไปทำงานแล้ว” วินเซ่ลุกขึ้นจากเตียง เตรียมตัวลงไปด้านล่าง เพื่อหายากินก่อนแล้วค่อยหาอาหารกินจากด้านล่าง วินเซ่เหลือบไปเห็นแก้วน้ำเปล่าและยาคุมฉุกเฉินวางอยู่ หญิงสาวนึกแปลกใจที่เขาเตรียมยาไว้ให้เธอ โดยที่เธอไม่ต้องบอกกล่าว ร่างบางกินยานั้นเรียบร้อยจึงจัดแจงทำธุระส่วนตัวแล้วลงไปด้านล่าง ด้านล่างของคฤหาสถ์ใหญ่ ค่อนข้างเงียบไร้ผู้คน เธอเห็นเพียงแค่แม่บ้านที่กำลังจัดเตรียมอาหารไว้ให้เธอเท่านั้น “เอ่อ...” วินเซ่อยากจะเอ่ยถามแม่บ้าน เมื่อกำลังเดินลงมาจากชั้น “นายหญิง ตื่นแล้วเหรอคะ ป้าเตรียมอาหารให้เสร็จพอดีเลย” ป้าแข ป้าแม่บ้านของตระกูลบูรณิมาเอ่ยหขึ้นกับนายหญิงคนใหม่ของบ้านนี้ “เขาไปไหนกันหมดอ่ะคะป้า” วินเซ่เอ่ยถามป้า เมื่อหย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้ที่ป้าจัดเตรียมไว้ให้ “คุณหนูแบล็คไปข้างนอกค่ะ สั่งป้าไว้ให้ดูแลนายห

  • BlackVinceจองรักคู่หมั้นร้ายลูกชายมาเฟีย   ตอนที่ 50 จุดจบ...(2)

    จุดจบ...(ต่อ) หมอภูทำแผลให้แบล็คเกอร์แบบไวที่สุด เพื่อเขาจะได้เข้าพิธีสุดท้ายของการแต่งงานให้เสร็จครบทุกขั้นตอนนั้นก็คือ การส่งตัวบ่าวสาวเข้าเรือนหอ “ลุงหมอครับ” แบล็คเกอร์เอ่ยเรียกหมอที่ทำแผลให้เขา “ว่าไง เจ็บเหรอ” หมอภูถามเขา ในขณะที่ยังก้มหน้าก้มตาทำแผลให้ชายหนุ่มรุ่นหลาน “ไม่เจ็บครับ ผมมีเรื่องอยากให้ช่วย” หมอภูหยุดทำแผล แล้วเงยหน้าขึ้นถามเขา ถึงเรื่องจะให้ช่วย “จะให้ช่วยอะไร” “ลุงหมอพอจะช่วยทำยาให้ผมสักตัวได้ไหมครับ” แบล็คตัดสินใจบอกความต้องการของตัวเองไป “ฉันเป็นหมอ ไม่ใช่คนผลิตยาบ้า” หมอภูพูดด้วยรอยยิ้มมุมปาก แล้วก้มลังไปพันแผลต่อ “ผมรู้ว่าลุงมีโกดังผลิตยา ถึงจะไม่ใช่ยาบ้าหรือยาเสพติด แต่ลุงก็เป็นคนคิดค้นยาได้หลายตัว ผมอยากให้ลุงทำยาตัวหนึ่งให้ผมเท่านั้น” หมอภูละสายตาจากแผลขึ้นมาสบตากับแบล็คแวบหนึ่ง ก่อนก้มลงไปทำแผลต่อ แล้วเอ่ยปากให้เขาบอกสิ่งที่เขาต้องการมา ภายในห้องนอนกว้างขวาง ที่ตกแต่งสีขาวโทนสีชมพูไว้สำหรับทำพิธีเข้าหอ บนเตียงสีขาวมีกลีบกุหลาบที่จัดเป็นรูปหัวใจอยู่กลางเตียง เมื่อพิธีเสร็จสิ้น ภายในห้องทั้งห้องก็เหลือแค่เพียงเธอและเขาเท่านั้น “พี่แบล

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status