หญิงสาวผวาเฮือกเมื่อลิ้นของเขาแตะที่กลีบเนื้อหยอกล้อกลีบดอกไม้ที่เบ่งบาน ลิ้นร้อนโลมเลียทำเอาร่างกายเธอสั่นระริก เขาจับต้นขาของเธอให้แยกออกกว้าง ละเลงลิ้นไปตามกลีบเนื้อกระตุ้นจุดเสียว กระสันที่ซ่อนอยู่ภายใน มือเรียวเล็กเผลอกดศีรษะของเขา หยาดน้ำหวานหลั่งออกมามาก ไรอันกอบกุมแท่งเอ็นของตัวเองขณะรัวลิ้นใส่กลีบสวาท เสียงหอบหายใจสลับกับเสียงครวญครางทำให้เร่งรัวลิ้นเพื่อกระตุ้นให้เธอไปถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง
“อร๊ายยยย” กฤติกาหวีดร้องออกมาอีกครั้ง เธอแทบนับไม่ได้แล้วว่าถูกเขาทำให้เสร็จสมไปกี่รอบ เขาขบเม้มกลีบเนื้อเธอเบาๆ แล้วยันกายขึ้น จ้องมองใบหน้าที่เขินอาย
“ผมชอบอยู่ในตัวคุณ” เขาพูดพลาง “คุณเป็นธรรมชาติแบบนี้ล่ะยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว”
เขาหยิบหมอนมารองใต้สะโพกทำให้เนินเนื้อโชว์เด่นอยู่เบื้องหน้า เขาประคองท่อนเอ็นที่แข็งขึงทั้งที่ปลดน้ำรักไปเมื่อครู่ค่อยๆกดหัวบากในร่องเสียว ริมฝีปากของเธอสั่นระริก ความเป็นชายใหญ่โตของเขาผลุบหายไปในกายสาว โพรงอ่อนนุ่มบีบรัดจนเขาครางอย่างพอใจ
“คุณต้องเลิกคิดว่าทำให้อีกฝ่ายไม่มีความสุข” เขาพูดแล้วเริ่มขยับเอวอีกรอบ เอื้อมมือไปนวดคลึงหน้าอกของเธอเพิ่มความเสียวกระสัน “ยิ่งคุณมีความสุขมากเท่าไหร่ คู่ของคุณจะยิ่งมีความสุขมากเท่านั้น”
“อึก...อึก...คุณ คุณ..ไรอัน ช้า...ช้าลงหน่อยค่ะ อ๊ะ อ๊า”
กฤติกาสะบัดหน้าไปมา เขาโหย่งตัวขึ้นตอกลำเอ็นอย่างไม่ปรานี แต่เธอกลับชอบ ยิ่งกระแทกเข้ามาลึกๆ เธอยิ่งรู้สึกดี ไม่คิดว่าร่างกายเล็กจ้อยของเธอจะรับแก่นกายใหญ่โตนั้นได้หมด ร่องสาวทั้งร้อนทั้งแฉะ เธอยกเอวขึ้นรับจังหวะกดกระแทก แรงขมิบรัดทำเอาชายหนุ่มครางอย่างสะใจ
“อู้วว แบบนั้นแหละคนสวย ขมิบรัดลำผมแบบนี้เสียวดีชะมัด”
ท่อนเอ็นเหมือนจะร้อนขึ้นมันขยายใหญ่ขรูดผนังอ่อนนุ่มที่ฉ่ำแฉะ เขาเขี่ยเม็ดเสียวกระเด้าเอวดุดันจนเตียงลั่น
“โอ้ว แมร่งงง เสียวหัว...” เขาสาวลำเอ็นกระแทกกระทั้น มือเรียวเล็กจิกผ้าปูที่นอนที่ยับย่น เหงื่อชื่นไหลอาบทั่วร่าง ผิวขาวเปลี่ยนเป็นแดงเรื่อ เสียงหายใจเป็นเสียงครางหวิว
“แฮ่กๆ
“อ๊ะ..อ๊ะ... เสียว...ดาวเสียว...”
ไรอันเพิ่งได้ยินเธอเรียกชื่อตัวเอง เขายิ้มร้ายแล้วเร่งซอยเอวดุดัน
ตับ ตับ ตับ ตับ ตับ
ชายหนุ่มกระแทกแก่นกายเน้นๆ ย้ำๆ ฟังเสียงหญิงสาวครวญครางออกมาไม่ขาดสายเหมือนน้ำเมือกวาวใสที่ไหลล้นเปื้อนเปรอะต้นขา เขาไม่รู้ว่าจะใช้คำว่าอะไร มันมากกว่า ‘ยอดเยี่ยม’ เธอเติมเต็มและทำให้เขาหิวโหยไม่รู้จักอิ่ม ความเสียดเสียวแผ่กระจายไปทั่วร่าง กฤติกาทนไม่ไหวถูกเขาปลุกเร้าจนร่างกายเกร็งกระตุกไปอีกรอบ แรงตอดรัดทำให้ชายหนุ่มไม่อาจต้านทานได้ เขาแหงนหน้าคำรามฉีดน้ำรักทะลักในกายเธออีกครั้ง
“กรี๊ดดดด”
“ซี๊ดดดด อา...”
ไรอันปรับลมหายใจครู่หนึ่งแล้วค่อยๆ ถอนแก่นกายออกมาช้าๆ น้ำรักไหลออกจนเปื้อนที่นอน เขาดึงหมอนออกจัดท่าให้หญิงสาวที่อ่อนปวกเปียกไม่มีแรงขยับตัว เขาจูบหน้าผากเธอเบาๆ แล้วลุกขึ้นเดินไปหยิบน้ำดื่มแต่คราวนี้ไม่ลืม เขารินน้ำใส่แก้วแล้วเดินมาให้คนที่อ่อนแรงอยู่
“น้ำครับ”
“ขะ...ขอบคุณค่ะ” กฤติกายันกายขึ้นมารับแก้วน้ำจากเขา รีบดื่มทันทีเพราะคอแห้งและเพราะเขานั้นแหละ ทำให้เธอครางจนคอแห้งแบบนี้
ไรอันยกขวดน้ำขึ้นดื่มมองหญิงสาวที่นั่งเปลือกกายบนเตียง กฤติการู้สึกแปลกๆกับสายตาของเขาจึงเอื้อมมือไปหยิบผ้าห่มที่อยู่หัวเตียงมาปิดร่างเปลือยของตน
“ไม่ได้แล้วนะคะ” เธอรีบพูดขึ้นมาก่อน ไม่กล้ามองลำเอ็นใหญ่ที่มัน เอ่อ...สงบลงแล้ว แต่...เอ่อ..มันก็ยังดูใหญ่อยู่นะ
“ดาวไม่ไหวแล้วจริงๆ พรุ่งนี้ต้องไปทำงานด้วย”
“ไปไม่ไหวก็หยุดสิ” เขายักไหล่แล้วยื่นมือไปรับแก้วน้ำจากมือเธอ เขาเดินเอาแก้วน้ำไปเก็บแล้วเดินกลับมาอีกทีเห็นร่างเล็กพยายามลงจากเตียง แต่ดูท่าแข้งขาไม่มีแรง เขาจึงรีบสาวเท้าเข้าไปประคองเธอไว้ก่อน
“คุณจะทำอะไร”
“ดาวต้องกลับแล้วค่ะ”
“คืนนี้ค้างที่นี่แหละ” เขากดไหล่ให้เธอนั่งลง แต่กฤติกาส่ายหน้าไปมา
“ไม่ได้ค่ะ พรุ่งนี้ต้องไปทำงาน”
“งั้นก็ค้างที่นี่ตอนเช้าออกไปพร้อมผม”
คราวนี้หญิงสาวส่ายหน้าหนักกว่าเดิม “ดาวต้องกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า จะใส่ชุดเดิมไปทำงานได้ยังไงล่ะคะ”
ไรอันถึงกับแหงนหน้ามองเพดานแล้วค่อยถอนหายใจแรงๆ ท่าทางของเขาทำให้หญิงสาวห่อไหล่เหมือนหนูกลัวแมว
“ผมดูเป็นเจ้านายใจร้ายหรือไง”
“ปะ...เปล่าค่ะ”
แต่เธอทำเรื่องลาออกไว้แล้ว ถ้ามาหยุดงานเอาตอนนี้ก็เหมือนเอาเปรียบคนอื่น ถึงแม้ว่า เธอสะสางงานของตัวเองไปเกือบหมดแล้วก็เถอะนะ
ไรอันเห็นท่าทางอับจนหนทางแล้วก็อดสงสารไม่ได้
“คุณกลับบ้านไม่ไหวแน่ๆ คืนนี้นอนค้างที่ห้องผมนี่แหละ ประเดี๋ยวผมไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมาให้แล้วจะหาเสื้อผ้าชุดใหม่ให้คุณใส่ไปทำงาน ตอนเช้า”
“จะดีเหรอคะ”
นี่ท่านประธานต้องไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้เธอเลยเหรอ ฝันแน่ๆเลย ยัยดาวลูกไก่!
“ยังไงผมต้องไปซื้อยาคุมให้คุณอยู่ดี” เขายิ้มขำ ผู้หญิงคนนี้ใสซื่อจริงๆ รู้สึกยังไงก็แสดงออกมาเต็มแววตา “สัญญาว่าจะรอผมที่นี่ดีๆ ไม่แอบย่องหนีหายไปเหมือนครั้งก่อนอีก”
กฤติกาผงกศีรษะรับ แต่อีกฝ่ายดูจะไม่พอใจนัก เธอจะพูดยืนยันอีกที
“ได้ค่ะ ...ดาวจะรอคุณอยู่ที่นี่”
ได้ยินคำสัญญาเป็นมั่นเหมาะแล้วไรอันจึงวางใจ เขาเดินตัวเปล่าไปห้องน้ำ ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วเพื่อไปซื้อของใช้ให้ผู้หญิงคนนั้น นี่ยัยเวอร์จิ้นจะรู้ไหมนะว่าทำให้เขาแหกกฎของตัวเองครบทุกข้อแล้ว!
“บอส...บอสค่ะ....ดาวไม่ไหวแล้ว อะ อ๊ะ...”
ขาเรียวโอบรัดเอวสอบและแอ่นกายเข้าหา แต่เพราะกลัวเสียงร้องของตัวเองจะดังไปนอกห้องเธอจึงกัดริมฝีปากแน่น
“ก็บอกแล้วไง ถ้าอยากกัดก็กัดผมนี่ อื้ม”
ไรอันพูดเสียงพร่าเร่งขยับเอวสอบถี่รัว ร่องรักคับแน่นดูดรัดลำเอ็นจนทำให้เขาอดกลั้นไม่ไหว กระแทกแก่นกายเข้าไปจนสุดปลดปล่อยน้ำรักในกายสาวพร้อมแหงนหน้าคำรามอย่างสุขสม
อยากจะบ้า! ไรอันอดสถบไม่ได้ ยัยพนักงานเวอร์จิ้นทำเขาเสียผู้เสียคนจริงๆ จากที่เคยตั้งกฎให้ตัวเองจะไม่ยุ่งกับพนักงาน ไม่มีเซ็กส์ในที่ทำงาน แต่ตอนนี้เขากำลังถอนลำเอ็นออกจากร่องสาวแล้วจัดการถอดถุงยางอนามัยทิ้งในถังขยะที่อยู่มุมห้องทำงานของเขา มือใหญ่ประคองร่างเล็กที่ถูกเขายกขึ้นนั่งแยกขาลงจากโต๊ะทำงาน
“ขะ...ขอ ขอใช้ห้องน้ำหน่อยนะคะ”
“ยังต้องขออีก”
ไรอันหัวเราะแล้วโน้มหน้าลงจูบหน้าผากเธอเบาๆ ใบหน้าหวานแดงระเรื่อแล้วเดินขาสั่นเข้าห้องน้ำของผู้บริหาร เขาเองก็จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ แล้วนั่งที่เก้าอี้พลางหยิบโทรศัพท์มือถือมาเลื่อนอ่านข้อความ
ตั้งแต่เรื่อง ‘คืนนั้น’ กฤติกามีความสัมพันธ์กับบอสหนุ่มหลายครั้ง วันนั้นเขาซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้เธอเปลี่ยนจริงๆ แค่เห็นป้ายราคาก็ทำเอาเธอพูดไม่ออก ไม่รู้เขาไปหาซื้อจากที่ไหนแต่เธอเพลียจนเผลอหลับไป เช้ามาก็ออกมาที่บริษัทพร้อมกับเขา แต่เธอขอให้เขาจอดก่อนถึงบริษัท ยังดีที่วันนั้นเธอทำเอกสารให้พี่ศศิเรียบร้อยแล้ว แม้จะทั้งง่วงทั้งเพลียแต่ก็ผ่านวันไปได้อย่างดี
กฤติกาคิดว่าเขาคงไม่ได้สนใจเธออีก ซึ่งก็ทำใจไว้แล้ว การใส่ใจของเขาก็คงเพราะเห็นใจมือใหม่เรื่องบนเตียงอย่างเธอ แต่เขากลับหาเบอร์ติดต่อเธอจนได้ ซึ่งก็คงไม่ยากอะไรเพราะเขาเป็นถึงประธานบริษัทนี่นะ แล้ว...ก็มีอะไรกันมาอีกหลายครั้ง เหมือนวันนี้ หญิงสาวเช็ดหว่างขาของตัวเองแล้วจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ มองตัวเองในกระจกแล้วถอนหายใจเบาๆ อีกไม่กี่วันเธอก็ต้องเดินออกจากบริษัทนี้แล้ว ทุกอย่างก็จะเป็นความทรงจำดีๆ แต่อีกเสี้ยวของหัวใจก็กลัวว่า ตัวเองจะตกหลุมรักบอสหนุ่มจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วนะสิ
ร่างเล็กออกมาจากห้องน้ำ ได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์ทำให้เธอแทบกลั้นหายใจ กลัวจะเผลอส่งเสียงออกไปแล้วทำให้บอสของเธอต้องลำบากใจ “ก็ได้ รออยู่ด้านล่างนั้นแหละผมกำลังจะลงไปแล้ว” ไรอันพูดด้วยน้ำเสียงปกติแต่คนทั่วไปอาจฟังดูเย็นชา เขาปรายตามองคนตัวเล็กที่ยืนนิ่งอยู่มุมห้องแล้วพยักหน้าเป็นเชิงเรียกให้เธอเดินเข้ามาใกล้ๆ เขาพูดคุยอีกสองสามคำแล้วก็วางปิดโทรศัพท์ “ช่วยติดกระดุมให้ผมหน่อย” “ค่ะ” กฤติกาเดินเข้าไปใกล้แล้วยื่นมือไปติดกระดุมเสื้อเชิ้ตให้เรียบร้อย ตามด้วยเนคไท และเพราะตัวเธอเตี้ยกว่าเขามากทำให้ต้องเขย่งปลายเท้าขึ้น “ผมมีนัด” เขาพูดแล้วยกมือขึ้นลูบผมยาวนุ่มมือเบาๆ ทำไมเขากลายเป็นคนแบบนี้ไปได้นะ เห็นยัยดาวลูกไก่อะไรนี่ที่ไร อยากจับอยากจูบไปเสียทุกครั้งที่เจอ นับวัน ยิ่งควบคุมความต้องการได้ยากขึ้นทุกที “ค่ะ” เธอได้แต่ยิ้มให้เขา ซึ่งก็คงไม่มีอะไรให้เธอทำได้มากไปกว่ายิ้ม “เก็บกระเป๋าคุณสิ เราลงไปพร้อมกัน” กฤติกาส่ายหน้าไปมาเร็วๆจนผมที่รวบเป็นหางม้าส่ายไปมา ไรอันขมวดคิ้วไม่ค่อยพอใจนัก แต่เธอยังยืนยั
เสียงประตูห้องเปิดออกรบกวนสมาธิของประธานหนุ่ม เขาเงยหน้าขึ้นมองเห็นร่างสุดเซ็กซี่ของไลลาเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม เลขาหน้าห้องวิ่งตามมาติดๆ “ไรอันขา ไลลามารับไปกินมื้อเที่ยงค่ะ” “ขอโทษค่ะ ดิฉันห้ามไม่ทันจริงๆ” “ช่างเถอะ” เขาโบกมือไปมาคล้ายไม่ใส่ใจ เขาไม่ได้โง่และรู้ว่าไลลาต้องการสิ่งใด และเขาก็รำคาญผู้หญิงที่ตามตื้อเขาแบบนี้ด้วย “ไรอันขา ไลลาจองโต๊ะสำหรับมื้อเที่ยงไว้แล้ว เราไปกินข้าวกันค่ะ” ไลลาเดินมาหมายจะนั่งที่ตักของไรอัน แต่ชายหนุ่มลุกพรวดขึ้นก่อนทำเอาดาราสาวหน้าเจือนไปทันที “คุณวิไลช่วยสืบประวัติพนักงานที่ลาออกไปแล้วได้ไหมครับ” “คะ?” เลขาหน้าห้องแปลกใจกับคำสั่งของท่านประธานแต่ก็พยักหน้ารับ “ได้ค่ะ ไม่มีปัญหาค่ะ” “ดีครับ ผมอยากรู้ทุกเรื่องของผู้หญิงที่ชื่อกฤติกา....ได้เรื่องยังไงโทรรายงานผมได้ทันที” เขาบอกชื่อนามสกุลของยัยเวอร์จิ้นไป เลขาคนเก่งฟังครั้งเดียวก็จำได้ ผงกศีรษะรับคำสั่งแล้วหมุนตัวเดินออกไป ดาราสาวอ้าปากค้างที่เห็นประธานหนุ่มไม่สนใจเธอสักนิด ร่างสูงกำลังจะก้าวออกไปแต่ชะงัก
คำหวานสอบเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย แต่บ้านเกิดอยู่ไกลเดินทางไม่สะดวกจึงต้องมาอยู่หอพัก ช่วงเรียนปี1 เธอพักอยู่หอในของมหาวิทยาลัย พอขึ้นปีสองก็มาอยู่บ้านเดียวกับพี่สาวและพี่เขยเพราะพ่อกับแม่อยากประหยัดค่าใช้จ่ายจึงฝากฝังลูกสาวคนเล็กให้มาอยู่กับ ‘คำรัก’ พี่สาวที่แต่งงานได้ปีเศษ จะเรียกว่าแต่งงานได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ เธอรู้ว่าพี่สาวจดทะเบียนสมรสกับนักรบ แต่ไม่มีพิธีแต่งงานอะไร ได้ยินพ่อกับแม่พูดว่าเสียดายเงินค่าจัดงานแต่ง เอาเงินมาตั้งตัวดีกว่าบ้านของ ‘นักรบ’ พี่เขยวัยสามสิบอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรใกล้มหาวิทยาลัยและใกล้ที่ทำงานของพี่ทั้งสอง เธอย้ายเข้ามาอยู่ได้เทอมหนึ่งแล้ว ระหว่างที่อยู่ที่นี่ก็ไม่ได้อยู่ฟรีกินฟรี เธอทำงานบ้านทุกอย่าง ยังดีที่บ้านชั้นเดียวหลังเล็กกะทัดรัดจึงดูแลไม่ยากนัก ดูแลเรื่องเสื้อผ้าของพี่ทั้งสองรวมทั้งทำอาหารง่ายๆ ที่พี่สาวมักจดรายการให้เธอซื้อของสดมายัดใส่ตู้เย็นไว้ จะว่าไปก็ไม่ได้ลำบากอะไร ยกเว้นเรื่องกิจกรรมเข้าจังหวะของพี่สาวกับพี่เขยที่ระยะหลังมานี้ เอ่อ...เหมือนจะเสียงดังและทำกิจกรรมนอกห้องนอนกันบ่อยๆ ทำให้เธอนอนไม่หลับไปด้วย"ขอบตาดำไปแล้วนะ ทาครีมบำ
“อร๊ายยย” คำหวานร้องครางออกมาเมื่อแท่งเนื้อกดกระแทกเข้ามา“ซี๊ด...ร่องหวานแน่นชะมัด” ธามไทครางกระเส่าแล้วเริ่มโยกสะโพก เขาจับเอวคอดไว้มั่นแล้วซอยลำเอ็นใส่ร่องรักของหญิงสาว ร่างเธอไถลไปตามแรงกระแทกจากด้านหลังจนต้องยึดโต๊ะไว้ให้มั่น ปล่อยให้คนด้านหลังขยับโยก“อูยย อ่าส์ มันลำมากเลยหวาน”ธามไธก้มมองท่อนเนื้อที่ผลุบเข้าออกมาร่องรัก มันอาบน้ำรักของหญิงสาวทำให้เคลื่อนเข้าออกได้สะดวกขึ้น“ซี๊ด...อ่าส์” “ธาม...” คำหวานได้แต่เรียกชื่อเขา รับรู้ได้ว่าเขากระแทกลำเอ็นรัวๆ จนร่างของเธอสั่นไหว สองขาแทบไม่มีแรงยืน“อีกนิดนะหวาน เรา...ใกล้..อะ...ใกล้แล้ว ซี๊ด เสียวมากเลย...อะ อ่า...”ร่องรักขมิบรัดลำเอ็นทำให้เขาได้แต่แหงนหน้าคราง ธามไทเกร็งกระตุกด้วยถึงจุดสุดยอด เขาสูดลมหายใจลึกแล้วค่อยๆ ถอนแก่นกายออกตามด้วยถอดถุงยางมัดแล้วโยนทิ้งในถังขยะใกล้ๆ กัน คำหวานรู้สึกโหวงเหวงชอบกล แต่กระนั้นก็ทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรง ชายหนุ่มหัวเราะอารมณ์ดี ประคองหญิงสาวขึ้นยืนแล้วดึงกางเกงของเธอขึ้น โน้มหน้าลงจูบกลีบปากเบาๆ ก่อนพาเธอไปนั่งที่โซฟา“ขอเข้าห้องน้ำแป๊บนะ” เขาพูดแล้วผลุบหายไปในห้องน้ำ คำหวานยกมือขึ้นแตะห
“อะไรกัน พอเสร็จแล้วทำเป็นห่างเหิน” นักรบหัวเราะแล้วปลดเนคไทออกจากปกเสื้อแล้วตามด้วยปลดกระดุมเสื้ออย่างใจเย็น แต่ทำให้คำหวานกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก“หวาน...หวาน...” เธอจะแก้ตัวยังไงดี เขาต้องได้ยินเธอครางเรียกชื่อเขาเต็มสองหูแน่ๆ“ทำหน้าเหมือนกลัว เรื่องพวกนี้ธรรมดาจะตายไป ก็เหมือนกินข้าว กินไม่อิ่มก็หิว เป็นธรรมดา” เขาพูดยิ้มๆ แล้วถอดเสื้อออกพาดไปที่โซฟา อวดมัดกล้ามแน่นๆ แบบคนที่ชอบออกกำลังกายเป็นประจำ โดยเฉพาะ กิจกรรมบนเตียง“แฟนทำให้ไม่อิ่มสินะ ถึงหิวแบบนี้”“พี่รบ!” เธอไม่คิดว่าพี่เขยที่มักจะเงียบๆ พูดน้อยจนเรียกได้ว่าไม่ได้คุยกันเลย แต่เวลานี้สายตาโลมเลียและน้ำเสียงที่เขาใช้ เหมือนเป็นคนละคนที่เธอรู้จัก ทั้งกลัว ทั้งอาย ที่ถูกจับได้แบบนี้ คำหวานรีบลุกขึ้นหมายจะเดินหนีเข้าห้องตัวเอง แต่แขนถูกคว้าไว้ก่อน เพียงกระตุกทีเดียวเธอก็เสียหลักนั่งบนตักของเขาแล้ว“ว้าย!” คำหวานร้องเสียงหลง “ปล่อยเถอะค่ะ เดี๋ยวพี่รักกลับมาเห็นเข้า หวานไม่อยากให้พี่สองคนผิดใจกันเพราะหวาน”แทนที่อีกฝ่ายจะกลัวแต่วงแขนกลับรัดแน่นขึ้น ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดใบหูของน้องเมียคนสวย “นี่ไม่รู้เหรอว่าพี่สาวเธอไปสัมม
“อือ...ผัว...ผัวขา....”“ดี...เมียเสียวไหม ชอบที่ผัวให้เสียวหรือเปล่า”“ชะ...ชอบ...ชอบค่ะ ผัวอึดมาก”“เวลาหิวก็มาให้ผัวทำให้ ไม่ต้องทำเอง” เขาก้มมองก้นกลมกลึงแล้วเปลี่ยนมาดึงแขนสองข้างของเธอมาด้านหลัง ทำให้เธอหนีเขาไม่ได้ต้องรองรับความเสียวกระสันจนแทบขาดใจ“ผัวขา เมียจะเสร็จอีกแล้ว”“รอบนี้พร้อมกัน ผัวจะแตกแล้ว ร่องเมียรัดแน่นมาก เอามันจริงๆ”เขาเร่งขยับสะโพกซอยลำเอ็นรัวแรงไม่สนใจกลีบเนื้อสีอ่อนจะเปลี่ยนสีแดงเพราะถูกเสียดสี เขาถาโถมรุนแรงจนร่างเธอเกร็งกระตุกร่องรักตอดรัวจนชายหนุ่มถึงกับต้องกระแทกเข้าไปจนสุดปล่อยน้ำรักจนหมดสิ้น เขาจำใจถอนแก่นกายออกแล้วจัดการถอดถุงยางที่อัดแน่นด้วยน้ำรัก มัดถุงแล้วทิ้งที่ถังขยะ คำหวานหอบหายใจจนตัวโยน เธอแทบไม่มีแรงทรงตัว ร่างกำลังจะร่วงลงไปกองกับพื้นแต่คนตัวใหญ่ช้อนร่างเธออุ้มแล้วพาเข้าห้องนอนเล็กของหญิงสาว เขาโน้มหน้าลงจูบหน้าผากเธอเบาๆ ปล่อยให้เธอได้พักสักประเดี๋ยว เพราะคืนนี้เขาจัดเต็มแน่นอน! เขาชอบมองสีหน้ายามกระแทกตัวตนเข้าไปจนสุด มันทำให้เขายิ่งอัดสะโพกใส่ไม่เกรงกลีบเนื้อสีอ่อนจะบอบช้ำ เหมือนกับเวลานี้ที่แผ่นหลังของเธอแนบไปกับผนังห้องน
“เธอไม่พูด พี่ไม่พูด ไม่มีใครรู้หรอก”“แต่ว่า...”“หรืออยากเห็นพี่ทะเลาะกับคำรัก” เขาขู่และดูเหมือนจะได้ผลทำให้คำหวานยอมปิดปากเงียบ “เรื่องของพี่ไม่ต้องห่วงหรอก หวงเรื่องของตัวเองเถอะ”"“เรื่องอะไรคะ”“กับไอ้ธามไทนั้นไง” เขาเค้นเสียงพูดอย่างไม่พอใจนัก แสดงความหึงหวงออกมา“ก็ไม่มีอะไรนี่คะ” เธอไม่ได้บอกว่ากดส่งข้อความบอกเลิกไป“ไม่รู้หรือไงว่าตัวเองถูกหลอก”“หลอกอะไรคะ พี่รบพูดเรื่องอะไรกัน” คำหวานเอียงคอมองอย่างแปลกใจ“ไอ้หมอนั้นมันหลอกหวานอยู่นะ” เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าน้องเมียจะใสซื่อได้ขนาดนี้ “ไม่เชื่อพี่เหรอ จะพาไปให้เห็นกับตาเลยดีไหม”คำหวานไม่แน่ใจว่าพี่นักรบหมายถึงเรื่องอะไร เท่าที่คบกันถ้าไม่นับเรื่องที่ธามไทละเลยความรู้สึกเธอ เขาก็ไม่เคยหลอกเอาเงินหรือให้เธอไปทำอะไรไม่ดีเลยนี่ เธอเห็นสีหน้ามั่นใจของนักรบแล้วก็พยักหน้ารับ เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าธามไททำอะไรที่ไม่รู้บ้าง นักรบหยิบชุดกระโปรงสีดำยาวเหนือเข่าให้คำหวานผลัดเปลี่ยน มันเป็นชุดเดรสสีดำแขนกุดที่ดูเรียบร้อยที่สุดเท่าที่คำหวานพอจะนึกออก เพราะชุดเที่ยวกลางคืนของพี่คำรักเซ็กซี่มากกว่านี้ ที่เธอรู้ว่าเธอเป็นค
“แต่ในใบเสร็จซื้อของใช้ เห็นมีซื้อยาคุมด้วยนี่” “อ๊า!” เธอร้องเมื่อถูกเขารัวนิ้วอย่างแรง “หวาน...หวานกินกันไว้ค่ะ กะ...กลัวพลาด...ท้อง”“ดี” เขายิ้มกริ่มแล้วกระแทกนิ้วจนได้ยินเสียง แจ๊ะๆ น้ำรักหลั่งจนเปื้อนนิ้ว ร่างบอบบางเกร็งกระตุกและหวีดร้องออกมา เขาถอนนิ้วแล้วมองคำหวานทำตาเหม่อลอยมอง เขาดันเธอออกเบาๆ แล้วปลดเข็มขัดออก เพียงแค่นั้น คำหวานก็รู้แล้วว่าเขาต้องการอะไร“ขย่มพี่หน่อย”“แต่...” เธอกวาดตามองไปรอบๆ ไม่มั่นใจนัก“ถ้าไม่ขย่มลำให้พี่ ก็ใช้ปาก”คำหวานเม้มริมฝีปาก เธอเหลือบมองไปด้านนอก เห็นธามไทกับผู้หญิงคนนั้นเต้นรำนัวเนียกันอย่างสนุก ธามไทเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้เธอแค่อยากหาความสุขให้ตัวเอง แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นพี่เขยของเธอก็ตามหญิงสาวหมุนตัวกลับมา เธอค่อยนั่งลงที่พื้นมองแท่งเอ็นที่เขาควักมันออกมานอกกางเกง ลำเอ็นยาวใหญ่ตรงปลายมีน้ำใสๆ เธอยื่นลิ้นไปแตะส่วนปลายตวัดลิ้นไล้เลียอย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่พอได้ยินเสียงครางซี๊ด ของเขาแล้ว เธอก็ยิ่งลำพองใจ อ้าปากกว้างแล้วส่งลำเอ็นเข้าไปจนสุด“โอ้ว เด็กดี เก่งมาก มิดลำแล้ว อ่าห์” นักรบก้มมองริมฝีปากสวยที่กลืนดุ้นของเขาไปจนหมดลำแล้วค่อยๆ ขยับช้
เธอบอกเหมือนว่าผมไม่รู้เรื่องพวกนี้ โอเค.ผมยังเวอร์จิ้น แต่ไม่ได้ไม่ประสีประสาเรื่องพวกนี้เสียหน่อย เสียงหวานเอ่ยขึ้นแล้วยื่นมือมาจับท่อนเอ็นของผมรูดมันเบาๆ มือนุ่มรูดสาวลำเอ็นอวบ ทำให้น้องชายของผมแข็งโด่ขึ้นมาอีกครั้งทั้งที่เพิ่งปลดปล่อยไป ไม่อาจถอนสายตาไปจากมือที่กำลังสาวลำเอ็นจนปลายหัวบากมีน้ำใสๆ ผุดออกมา “ซี๊ดดดด” ผมครางและหายใจแรง แล้วเธอก็ผละมือจากลำเอ็นของผม ขยับตัวไปนอนส่งสายตาหวานเยิ้มยั่วยวน “ถุงยาง” “อ่อ” ผมหมุนตัวไปหยิบซองถุงยางที่เตรียมไว้ คาบซองฟรอยในปากแล้วตามขึ้นเตียง เวลานี้เธอไม่อิดออดเหมือนครั้งแรก ผมอยากเอาเธอมาตั้งนาน ชื่อของพี่สาวสุดยั่วคือ ‘ใบเฟิร์น’ ผมรู้จักเธอมานาน จะว่าเธอน่ารักใสๆ ก็ไม่ใช่ ผมแอบเห็นเธอไปไหนมาไหนกับผู้ชายหลายครั้ง โอเค. ผมรู้มันไม่ใช่เรื่องของผม แต่ผมก็หวังว่าสักวันจะเป็นวันที่ผมได้อยู่กับเธอแบบนี้ การเรียนผมไม่ได้ห่วยนัก แต่ถ้าเทียบกับพี่ไนท์ที่อายุมากกว่าผมสามปีแล้ว แน่นอนมันห่วยมาก และมันนำความกลัดกลุ้มมาสู่พ่อกับแม่ เอาจริงๆ การให้ใบเฟิร์นมาติวให้ผมเ
“ก็ผมรู้ไงว่าพี่มีแฟน มีแฟนก็ต้องมีประสบการณ์แล้ว แล้วที่สำคัญ พี่เชื่อใจว่าพี่ใบเฟิร์นจะไม่เอาเรื่องของผมไปพูดกับคนอื่น”“นายเชื่อใจกันขนาดนั้นเลยเหรอ?”“หรือพี่จะพูดกับแฟนพี่ว่ามีอะไรกับผม”“ไอ้เด็กบ้า!” ฉันหยิบหมอนอิงมาตีเขา ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์เบียร์หรือเพราะได้คุยกันเลยสบายใจขึ้น“ก็พี่ไม่ยอมคุยกับผมดีๆเองนี่” เขาหยิบหมอนไปจากมือเรียวเล็ก “ว่าไงล่ะ แค่มีเซ็กส์กัน ไม่ได้ผูกพันกันเสียหน่อย”ก่อนคบกับพี่กันตธีร์ ฉันก็เคยมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นมาบ้าง แต่พอมีแฟนก็มีพี่เขาคนเดียว ก็รู้นะว่ามันไม่ถูกต้อง แต่...เด็กหนุ่มที่ยังเวอร์จิ้นมาน่าลองนี่น่า“แน่ใจนะว่าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับของเรา”“แน่นอนฮะ”แววตาจริงจังของเขาทำให้ฉันใจอ่อนยวบ ขยับตัวหันไปเผชิญหน้ากับเขา ยกกระป๋องขึ้นดื่มจนหมดแล้วส่งกระป๋องเปล่าให้เขา จากนั้นก็ยกมือแตะที่กระดุมเสื้อด้านหน้าแล้วถามเขาว่า“นายอยากแกะกระดุมเองหรือให้พี่แกะให้”“ผม...แกะเองได้ไหม”วันนี้ฉันสวมเดรสกระโปรงยาวเหนือเข่า ด้านหน้าเป็นกระดุมเรียงกันห้าเม็ด ฉันยืดตัวขึ้นให้เขายื่นมือมาแกะกระดุมได้ถนัด รู้สึกถึงลมหายใจติดขัดของเขาแล้วกลับทำให้รู้สึกดี นาย
คราวนี้ทั้งสองไปถึงจุดสุขยอดพร้อมกัน ทั้งสองจูบปากแลกลิ้นแล้วค่อยๆ ยกสะโพกออกจากลำเอ็น น้ำมนต์ถึงกับทิ้งตัวนอนแผ่หลาบนเตียง อัคคีจัดการตัวเองเสร็จแล้วก็เอนตัวลงนอนเคียงข้าง ใช้นิ้ววนไล้ยอดอกของเธอเล่น“พรุ่งนี้วันเกิดมึง กูเลยมาหา” น้ำมนต์พูดหลังจากที่ปรับลมหายใจได้ปกติแล้ว“มึงมาเป็นของขวัญวันเกิดให้กูเลยสิเนี้ย”“ไม่ชอบหรือไง”“ชอบสิ” เขายิ้มแล้วจูบปากสวยก่อนจะพูดบ้าง“กูก็มีเรื่องจะบอกมึง คือกูได้ย้ายไปประจำสาขาที่กรุงเทพแล้ว”“เมื่อไหร่”“เดือนหน้า” อัคคียิ้มกริ่ม “กูก็ตั้งใจจะบอกมึงในวันเกิดกู”สองหนุ่มสามมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมา ไม่รู้ว่าใครเซอร์ไพรสใครก่อน แต่ที่แน่ๆ คืนนี้อัคคีจัดหนักเพราะห่างเมียมานาน น้ำมนต์ครางจนคอแห้งเลยทีเดียว.จบ เล่นกับไฟเรื่อง ไม่ใช่เพื่อนเล่น“ผมทำได้แล้ว พี่เฟิร์นจะไม่ทำตามสัญญาเหรอ” ฉันมองหน้าเด็กหนุ่มที่จ้องมองราวกับฉันเป็นขนมหวาน ชื่อของเขาคือ ‘เดย์’ วันนี้เขาอายุสิบแปดปีแล้ว และกำลังทวงสัญญากับฉัน “พี่ใบเฟิร์น” น้ำเสียงที่เขาเรียกชื่อฉันมันทำให้หัวใจเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ฉันเห็นนายเดย์ตั้งแต่อายุส
“อื้ม! มีต้มแซ่บกระดูกอ่อนเป็นพยานไง” อัคคีทำหน้าจริงจัง “กูชอบมึง ชอบเวลาอยู่กับมึง ชอบที่มึงเป็นตัวเองแบบนี้ด้วย” “มาพูดแบบนี้ก็เขินแย่” น้ำมนต์อายจึงเอาแต่ก้มหน้าก้มตากินอาหารของตัวเอง “กินเยอะๆ” อัคคีใช้ส้อมจิ้มเสื้อร้องไห้วางใส่จานของน้ำมนต์ “จะได้มีแรง” “แรง? แรงอะไร” “มาถึงนี่แล้วก็ขึ้นห้องกูไง” “ไอ้ลามก” “มึงก็เอาของใช้เสื้อผ้าของมึงมาไว้ห้องกูบ้างก็ได้” อัคคีกลับมาพูดเหมือนเดิม “กูก็เอาเสื้อผ้าของกูไว้ห้องมึงไง” “เอางั้นก็ได้”“หรือไม่ก็ย้ายมาอยู่ด้วยกัน” “บ้าสิ พ่อแม่รู้ได้ด่าตาย” “พ่อแม่มึงน่ารักจะตาย ตอนนั้นกูไปบ้านมึงยังทำกับข้าวให้กูกิน เรียกกูลูกทุกคำเลย” “พ่อแม่กูเรียกเพื่อนกูว่าลูกทุกคน” “ก็อีกหน่อยก็เป็นลูกเขยไง” “มึงนี่...” “กูจริงจังแล้วก็จริงใจด้วย” เขายิ้ม “สาบานต่อหน้าตำหอยแครงเลย” “อย่าพูดเล่น” น้ำมนต์ทำตาดุใส่ “กูไม่อยากเล่นกับไฟ” “มึงก็เป็นน้ำ น้ำก็คู่กับไฟ” เขาพูดไ
หน้าตึกคณะ “ไม่ต้องมารับก็ได้” น้ำมนต์บ่นจ้องหน้าคนที่ยืนรออยู่หน้าคณะ เพื่อนคนอื่นๆของน้ำมนต์ต่างพากันหัวเราะคิกคัก พวกเขาเห็นทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกันมานาน พอรู้ว่าตกลงเป็นแฟนกันก็อดหยอกล้อกันไม่ได้ “ก็เป็นแฟนไงถึงต้องมารับ” เพื่อนคนอื่นแซวแล้วแกล้งผลักไหล่น้ำมนต์ให้เข้าไปใกล้อัคคี “ไปเถอะๆ พวกเราจะกลับแล้วเหมือนกัน” “อื้ม” อัคคีส่งยิ้มให้เพื่อนของน้ำมนต์แล้วหันมาสบตากับ...เอ่อ..แฟนหมาดๆ ของตัวเอง “ทำไมไม่อยากให้มารับ หรือกลัวคนอื่นรู้ว่าเราคบกัน หรือว่าแอบมีใครอีก” “ละเทอะน่า” น้ำมนต์ส่ายหน้าไปมา “ก็เรียนคนละคณะอยู่คนละฟากเลย เลิกเรียนก็ไม่ตรงกัน ไหนจะมีกิจกรรมอีก ไม่ต้องมาเทียวรับเทียวส่งก็ได้ คุยกันเหมือนเดิมนั้นแหละ อีกอย่างกูขับรถมา มึงจะขับรถตามกูอีกเหรอ” “งั้นคราวหน้ากูขับรถไปรับมึงมาเรียนดีไหม แล้วตอนกลับกูก็จะได้ไปส่งมึงไง” “ไอ้ไฟ กูไม่ได้เป็นง่อย” บ่นแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ “มึงเองก็งานเยอะนี่ ปีสามแล้ว แล้ว...ตอนดึกมึงก็มาหากูอยู่แล้วนี่” ท้ายประโยคเสียงแผ่วเบาแถมแก้มยังแดงเรื่อ
น้ำมนต์ก็อธิบายไม่ถูก แค่รู้สึกแปลกๆ ปกติอัคคีมาห้องเธอไม่กี่ครั้ง ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันแต่เรียนคนละคณะ ก็เจอกันน้อยลง เพียงแค่ยังคุยเล่นผ่านไลน์หรือทักไปที่เฟซบุ๊คอยู่เสมอ แล้วเธอก็เจ็บทุกครั้งที่เห็นมันลงรูปคู่กับแฟน“เป็นไรไปอยู่ดีๆก็เงียบ”“เปล่า” น้ำมนต์ส่ายหน้า “แล้วมึงล่ะเป็นยังไง คราวนี้ง้อแฟนด้วยอะไร”อัคคีหน้าตึงขึ้นมาทันที “ทำไมกูต้องง้อเขาด้วย”“ทุกทีมึงง้อเขานี่” น้ำมนต์ทำหน้าเบื่อหน่อย “ซื้อกระเป๋าถือให้ รองเท้าใหม่ นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ น้ำหอม เครื่องสำอาง...”“พอๆ มึงไม่ต้องรื้อฟื้นแล้ว” อัคคีกุมขมับ นี่เขาเป็นบ้าไปจริงๆ ทำไมต้องทุมเทให้ผู้หญิงที่ไม่ได้จริงใจกับเขาขนาดนี้“ดูมึงซื้อให้กูดิ แคนตาลูป แตงโม แก้วมังกร มะม่วงดอง ฝรั่งแช่บ๊วย”“แล้วมึงอยากได้อะไร กูซื้อให้ก็ได้”“แล้วมึงจะมาซื้อของให้กูทำไม วันเกิดกูก็เลยมาแล้วด้วย”“อ้าว...ทำไมมึงไม่บอกกู”“แล้วทำไมกูต้องบอกมึง” น้ำมนต์เบ้ปากใส่ “เพื่อนกันลืมวันเกิดกันก็ไม่ตายหรอก”“เป็นเพื่อนกันยิ่งต้องห้ามลืมวันเกิด” อัคคีรู้สึกผิดไม่น้อย “วันเกิดกู มึงยังจำได้”‘เพราะเป็นคนสำคัญไง’แต่น้ำมนต์ไม่ได้พูดอย่างที่คิ
“ไอ้ไฟ” “พอเห็นหน้ากูยิ้มไม่ออกเลยหรือไง” “มึงมาทำอะไรที่นี่” น้ำมนต์กดเสียงให้เบาลงเกรงว่าจะไปรบกวนคนอื่น แต่เธออยู่ในซอกด้านในแทบไม่มีใครเดินผ่านมา “คนมาห้องสมุดให้มาทำอะไรล่ะ” อัคคีถามยิ้มๆ เริ่มอารมณ์ดีขึ้นที่เห็นใบหน้าหวานแดงระเรื่อ ท่าทางเขินอายอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก ยิ่งดูก็ยิ่งน่ารักยังไงไม่รู้ น้ำมนต์ไม่รู้จะทำหน้ายังไง หลังจากเรื่องคืนนั้น ก็ไม่เคยคุยเรื่องความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นอีก หรือจะว่าไปเธอก็ไม่รู้ว่าจะคุยอะไร มันก็คงเป็นแค่เซ็กส์เท่านั้น ซึ่ง...เวลานั้นอาจ...ต่อให้ไม่ใช่เธอ เขาก็คงมีอะไรกับใครก็ได้ “มีอะไรหรือเปล่า” อัคคีถามอย่างเป็นห่วง แล้วก้มหน้ากระซิบที่ข้างหู “ยังเจ็บอยู่ไหม” “ถามอะไรของมึง” น้ำมนต์ขึงตาใส่ แต่ไม่อาจสะกดไม่ให้ตัวเองหน้าแดง ถึงจะพูดออกมาไม่หมดแต่ก็เข้าใจได้ว่าอัคคีหมายถึงเรื่องอะไร “ก็กูเป็นห่วงนี่”เขาพูดไปตามที่คิด ถึงจะผ่านมาหลายวัน แต่พอนึกถึงคืนนั้น ที่เขาจับร่างอวบอิ่มกินหลายรอบ ตอนเช้าตื่นมาเห็นสภาพอ่อนเพลียจนน่าสงสาร จากเดิมที่คิดว่าจะ
อัคคีครางอย่างพอใจที่รู้ว่าเพื่อนสาวเสร็จคาลำเอ็นไปแล้ว เขาเปลี่ยนท่าจับเรียวขาลงจากบ่า เรียวขางามรัดเอวไว้ เขาเร่งจังหวะกระแทกสุดๆ น้ำมนต์เด้งเอวรับ เธอเพิ่งเสร็จไปและถูกเขากระหน่ำจวนจะเสร็จไปอีกรอบ ร่องเสียวขมิบบีบรัดแก่นกายที่ผลุบเข้าออกสร้างความเสียวซ่าน เสียงครางของคนสองคนดังผสานกัน มือใหญ่บีบเคล้นหน้าอกอวบอิ่ม ลีลาการกระแทกลำทำให้น้ำมนต์สะบัดหน้าไปมา ร่องรักปล่อยน้ำเสียวออกมามาก ความรู้สึกคับตึงหายไปหมดสิ้น เหลือแต่ความเสียวที่แล่นพล่านไปทั่วร่าง“ไฟ...จะ...จะเสร็จอีกแล้ว”“เสร็จพร้อมกัน กูจะแตกแล้ว อ๊ะ ...”“อร๊ายยย” น้ำมนต์แอ่นกายขึ้นเกร็งกระตุกปับๆๆๆๆเขาโหมแรงเด้าเนินเนื้อไม่ยั้ง บดขยี้โหนกเนื้อที่เปียกชุ่มคราบน้ำรักที่แยกไม่ออกว่าของใคร ก่อนที่จะน้ำแตก เขาชักลำเอ็นออกจากร่องเสียวแล้วใช้มือชักลำเอ็นต่อจนน้ำรักขาวขุ่นพุ่งออกมาเปื้อนเปรอะหน้าท้องของน้ำมนต์ น้ำรักอุ่นร้อนทำให้เธอปรือตาขึ้นมอง เห็นอัคคีแหงนหน้าคำรามอย่างสุขสมขณะที่เธอหอบหายใจจนตัวโยน เขาปรับลมหายใจครู่หนึ่งแล้วโน้มหน้าลงจูบหน้าผากของเธอก่อนจะดึงร่างเปลือยเปล่าเข้ามาไว้ในอ้อมกอด แต่มือไม้ที่เปะที่หน้าอกและ
อัคคีเรียกเพื่อนเพราะเห็นว่าเงียบไป เขายันตัวขึ้นก้มมองจึงรู้ว่าน้ำมนต์หลับไปแล้ว เอื้อมมือข้ามร่างเล็กไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะเพื่อดูเวลาซึ่งก็เลยเที่ยงคืนมาแล้ว เขาวางโทรศัพท์ลงที่เดิม ก้มมองคนที่นอนเบียดอยู่จึงพบสายตาของเพื่อนสนิทจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว“กูทำมึงตื่นเหรอ” น้ำมนต์สบตากับอัคคี นี่มันคงคิดว่าแฟนเก่าจะส่งข้อความมาหาละมั้งถึงได้วางโทรศัพท์ไว้ห่างมือไม่ได้ เธออ้าปากเหมือนจะพูดแต่เปลี่ยนใจ ขยับตัวนอนหงายแล้วยกมือขึ้นคล้องคออัคคีไว้ เหนี่ยวตัวให้มันก้มลงมาหา แล้วยื่นริมฝีปากไปประกบกับริมฝีปากหยักสวยของชายหนุ่มอัคคีทำตาปริบๆ แต่แรงขบเม้มที่ริมฝีปากทำให้รู้ว่าเขาไม่ได้ฝันไป น้ำมนต์ผละริมฝีปากอุ่นแล้วพูดเบาๆ“...มึง...โสดแล้วนี่...ก็ทำแบบนี้ได้ใช่ไหม...”ในห้องที่มีเพียงแสงสว่างจากหน้าจอโทรทัศน์ แต่ก็ยังทำให้เห็นแก้มนวลแดงปลั่ง ท่าทีเขินอายดูน่ารักและน่าแทะเล็ม สายตารอคอยทำให้เขาตัดสินใจได้ในทันที“อืม กูโสดแล้ว”ลิ้นร้อนแทรกเข้ามาโพรงปากของหญิงสาว หัวใจของน้ำมนต์เต้นแรงเมื่อมือใหญ่เลื่อนเสื้อนอนของเธอขึ้นเพื่อลูบไล้หน้าอกอวบอิ่มที่ไร้บราเซียปกปิด เสียงครางหวานห