กฤติกา คือชื่อของหญิงสาวร่างเล็กสูง156 เซนติเมตร พ่อของเธอชอบดูดาวเลยตั้งชื่อตามกลุ่มดาวลูกไก่ ไรอัน โจนส์ คือ Bossสุดหล่อที่เป็นแรงกระตุ้นให้เธอตื่นเช้ามาทำงาน แม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นเธอในสายตา ทว่าเงื่อนไขที่พ่อให้เธอกลับบ้านเกิด ผสมกับความมึนเมาทำให้เธอ ชวนเขาขึ้นเตียง มันควรเป็นOne night stand แต่เขากลับไม่ยอมให้จบลงแค่นั้น *** ซีรีย์คลั่งรักที่ชวนให้ใจสั่นไหวระดับ7ริกเตอร์***
View More“เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ”
เสียงแหบพร่าเอ่ยถาม ลมหายใจผ่าวร้อนรินรดแก้มที่แดงเรื่อ หญิงสาวกัดริมฝีปากแล้วสบตากับชายหนุ่มตรงหน้าก่อนเอ่ยเสียงแผ่วเบา
“ไม่..ไม่เปลี่ยนใจค่ะ..อะ..อ๊า..”
เพียงได้ยินคำตอบรับ ลำเอ็นร้อนแข็งขันก็ทิ่มพรวดเข้าไปในร่องรักที่เปียกชุ่ม ความคับแน่นที่ได้รับทำเอาชายหนุ่มขมวดคิ้วหลุดครางเสียงต่ำในลำคอ เขาก้มมองคนตัวเล็กที่ถูกเขาตรึงไว้บนที่นอนหนานุ่มของห้องพักสุดหรูในโรงแรมห้าดาว
“ครั้งแรก?” เขาถาม
หญิงสาวพูดไม่ออก ดวงตากลมสวยมีหยาดน้ำใสๆ เอ่อคลอ คนตัวโตโน้มหน้าลงตวัดลิ้นที่หางตาของหญิงสาวพร้อมกับโยกเอวบดคลึงเพิ่มความเสียวซ่าน
“โทษที ผมไม่ใช่ผู้ชายอ่อนโยน”
ดวงตากลมโตสบตากับดวงตาคมปลาบของเขา ขณะที่เขาถอนลำเอ็นออกจนเกือบสุดแล้วกระแทกกลับเข้ามาใหม่จนร่างกายเธอสั่นไหว ท่อนเอ็นอวบใหญ่กระแทกไปถึงผนังอ่อนนุ่มด้านในสุด มือใหญ่เคล้นคลึงหน้าอกคู่สวย ความเสียวซ่านแทนที่ความเจ็บแปลบที่ได้รับ ร่างอวบอิ่มบิดเร่าด้วยความทรมานและสุขสม
“อึก อึก...บอส..บอสค่ะ...”
“เรียกชื่อผม” เสียงเขาสั่นพร่าแล้วอ้าปากดูดดึงยอดอกสีหวาน ขบเม้มจนหญิงสาวใต้ร่างร้องครวญครางด้วยความเสียวกระสัน
“คุณ..คุณ..อ๊า ...”
“เรียกสิ”
เหมือนจะลงโทษที่คนปากหนักไม่ยอมเรียกชื่อ เอวสอบขยับโยกไม่ปรานีกดขย่มจนคนใต้ร่างแทบจมที่นอน
“แน่นชะมัด” เขาเริ่มสบถหยาบคายหลายคำ คนใต้ร่างนุ่มนวลและร้อนแรงทำเอาเขาแทบคลั่ง “คนสวย ผมจะทำให้คุณจำคืนนี้ไปทั้งชีวิตของคุณ”
กฤติกาหลับตาลงซึมซับความสุขที่เขามอบให้ และแน่นอน เธอรู้ว่าเธอไม่มีวันลืมผู้ชายคนแรกของเธอได้แน่นอน แต่ความเผ็ดร้อนที่เขามอบให้ก็ทำเอาเธอแทบขาดใจตายอยู่แล้ว
“คุณ...ไรอัน...อะ... อ๊า!”
หญิงสาวหลุดเสียงหวีดร้องร่างเกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำหวานออกมาจนอาบลำเอ็นแข็งขันที่ไม่ยอมหยุดแม้รู้ว่าอีกฝ่ายไปถึงฝั่ง เขายังเร่งซอยเอวถี่รัวอย่างไม่ผ่อนปรน แรงตอดรัดโอบรัดลำเอ็นทำเอาชายหนุ่มต้องครางออกมา แต่มันยังไม่พอสำหรับผู้ชายที่ชื่อไรอัน โจนส์ เขาช้อนแผ่นหลังเธอขึ้นให้หญิงสาวนั่งหันหน้าเข้าหา จับเอวบางไว้มั่นแล้วยกเอวขึ้นกระแทกตออย่างดุเดือด หน้าอกสั่นไหวขึ้นลงตามกระทุ้ง เขาไม่สนใจว่านี่เป็นครั้งแรกของหญิงสาว ไม่สนใจว่าร่างขาวเนียนจะเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อและบางจุดเป็นรอยช้ำเล็กๆ โดยเฉพาะที่หน้าอก เขาขบกัดอย่างมันเขี้ยวทำเอาหญิงสาวได้แต่ครวญครางลืมอาย เส้นผมยาวสลวยนุ่มมือแผ่สยายเต็มแผ่นหลัง ริมฝีปากอิ่มบวมเจ่อขึ้นเล็กน้อยแต่เผยอปากส่งเสียงครางไม่หยุด
ร่างอรชรเกร็งกระตุกไปอีกครั้ง ความสุขสมที่ชวนให้ตาพร่าทำให้เธอผวากอดเขาแน่น รับรู้เพียงร่างของเขาเองก็กระตุกตามเธอไปเช่นกัน เธอหูอื้อตาลายไปหมดไม่ได้ยินว่าเขาสบถหรือพูดว่าอะไร บางที...เขาอาจไม่ได้ชอบเซ็กส์ครั้งนี้เท่าไหร่นัก
ก็ช่วยไม่ได้นี่น่า เขามันมือเก๋าช่ำชองแต่เธอมันมือใหม่อ่อนหัด ถ้าเขาจะไม่ชอบก็คงทำอะไรไม่ได้แล้ว
ช่วยเป็นของขวัญของฉันได้ไหม
กฤติกา คือชื่อของหญิงสาวร่างเล็กสูง156 เซนติเมตร พ่อของเธอชอบดูดาวเลยตั้งชื่อตามกลุ่มดาวลูกไก่ แต่จะตั้งชื่อเล่นลูกสาวคนเดียวว่าดาวลูกไก่ก็จะยาวไป ไปๆมาๆกลายมาเป็น ‘ดาว’ ได้ไงก็ไม่รู้ แต่ที่รู้แน่ๆ เธอเหลือเวลาทำงานในบริษัทนี้อีกแค่สองอาทิตย์เท่านั้น เธอยื่นใบลาออกแล้ว หัวหน้าเองก็ได้แต่ถอนหายใจ และขอให้เธอทำงานให้ถึงสิ้นเดือน ซึ่งกฤติกาก็ไม่ปฏิเสธ เธอก็ไม่ได้อยากลาออก แต่เพราะคำสั่งของพ่อ เธอเองก็ผลัดมานานถึงสามปีแล้ว ได้เวลาต้องกลับบ้านนอกแล้ว
เธออยากใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ นั้นเป็นความคิดตั้งแต่อยู่มัธยม ทำให้เธอแอบสมัครเรียนและสอบเข้ามหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ทั้งที่พ่อแม่และพี่ชายทั้งสามต่างต้องการให้เธอใช้ชีวิตที่ต่างจังหวัด แต่ในเมื่อเธอสอบได้พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ชีวิตที่อยู่ไกลบ้านก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเธอมากนัก หลังเรียนจบเธอก็รีบสมัครงานซึ่งก็นับว่าโชคดีที่เธอได้ทำงานที่บริษัทแห่งนี้ทันทีที่เรียนจบ คราวแรกพ่อให้เวลาเธอแค่สองปี ถ้ามันไม่ดีอย่างที่คิด พวกเขาก็จะมารับเธอกลับบ้าน แต่เธอก็ยื้อไว้จนปีที่สาม ดูเหมือนเธอก็ยังคงเป็นแค่พนักงานเล็กๆ เท่านั้น
คนที่ทำให้เธอกระตือรือร้นอยากมาทำงานทุกวันก็คือบอสสุดหล่อ ‘ไรอัน โจนส์’ เจ้าของความสูง185 เซนติเมต รเรียกได้ว่าเป็นนายแบบได้สบายๆ รวมทั้งหน้าตาหล่อเหลา หากไม่เพราะได้ยินเขาพูดภาษาไทยชัดถ้อยชัดคำก็คงไม่รู้ว่าเขาเป็นลูกครึ่ง บิดาเป็นชาวอังกฤษส่วนมารดาเป็นคนไทย ส่วนเธอเป็นพนักงานตำแหน่งเล็กๆ ที่ไม่เคยอยู่ในสายตาของเขา แน่นอน เพราะเขามักคบกับคนระดับเดียวกันเสมอ ผู้หญิงที่เขาควงแต่ละคน ถ้าไม่ใช่ดารานางแบบชื่อดังก็เป็นคนในแวดวงไฮโซ เธอเคยเห็นข่าวของเขาบ่อยๆ
อันที่จริง ความรู้สึกของเธอที่มีต่อBossสุดหล่อ อาจเรียกได้ว่าเป็นความชื่นชม หลงใหลคลั่งไคล้ตามประสาสาวโสดก็ว่าได้ และเพราะคืนนั้นความเมาจากเครื่องดื่มสีสวยที่ไม่คิดว่าน้ำหวานๆจะเมาได้ ทำให้เธอกล้าหรือบ้าบิ่นก็ไม่รู้ คืนนั้น เธอดื่มเข้าไปหลายแก้วและหมายมั่นปั้นมือจะต้องมีอะไรกับบอสสุดหล่อก่อนที่เธอจะกลับบ้านเกิด เธอดื่มไปหลายแก้วและรู้สึกมึนขึ้นมานิดๆ แต่กระนั้นสายตาของเธอยังคงอยู่ที่ผู้ชายในชุดสูทสีเข้ม แม้ว่าเวลานี้เนคไทคลายลงจากปกเสื้อเล็กน้อย ในมือของเขาก็ถือแก้วเครื่องดื่มยืนคุยกับหัวหน้าของเธออยู่
คืนนั้นเป็นงานเลี้ยงของบริษัท หลังจากที่ไม่มีงานเลี้ยงให้ลูกน้องได้สังสรรค์มาสองปีเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ของโรงแรมหรูระดับห้าดาวต้อนรับพนักงานทุกแผนกของบริษัท กฤติกาเป็นแค่พนักงานที่แทบไม่มีตัวตน ทำงานมาเกือบสามปีแต่แทบไม่มีใครรู้จักเธอเลย เรื่องนั้นก็ช่างมันเถอะ เพราะแรงบันดาลใจในการตื่นเช้ามาทำงานของเธอก็คือได้เห็นหน้าหล่อเข้มของบอส แม้ว่าจะได้เห็นแค่ไม่กี่นาทีก็ตาม แต่ต่อไปนี้ เธอก็คงจะไม่ได้มองเขาอีกแล้ว
หญิงสาวก้มมองแก้วเครื่องดื่มที่พร่องไปเยอะแล้ว นี่ก็คงเป็น...แก้วสุดท้ายของเธอเหมือนกัน เหมือนกับชีวิตในการทำงานของบริษัทแห่งนี้ เธอรอจนเขายืนคนเดียวแล้วจะเข้าไปทัก
“บอสค่ะ”
“ครับ?”
กฤติกาจำสายตาที่เขาแค่ปรายตามองเธอที่สวมชุดเดรสสีม่วงเปลือกมังคุดกระโปรงยาวเหนือเข่าเล็กน้อย สายตาของเขาทำให้เธอทั้งน้อยใจและโกรธขึ้นมาในเวลาเดียวกัน อาศัยว่าเขายืนอยู่คนเดียวและเสียงเพลงที่ค่อนข้างดัง ทำให้เธอต้องขยับเท้าเข้าไปใกล้ ส่งเสียงพูดออกไป และเขาก็ได้ยินไม่ชัดจึงเป็นฝ่ายโน้มหน้าลงมาใกล้เธอ
“คือ...วันนี้วันเกิดฉันค่ะ”
“อ่อ...”
เขาเพียงรับคำในลำคอ แต่สายตายังจ้องมองเธออยู่ กลิ่นน้ำหอมผู้ชายที่เธอเคยได้กลิ่นตอนที่เขาเดินผ่านในที่ทำงานทำให้เธอปั่นป่วนและหัวใจเต้นรัว แต่ถ้าพลาดคืนนี้ไป จะไม่ได้ใกล้ชิดเขาอีกแล้ว
“ฉันอยากได้ของขวัญวันเกิด”
“คุณอยากได้อะไรล่ะ” เขาทำหน้าเหมือนเข้าใจมากขึ้นอีกนิดหนึ่ง
“บอสช่วยเป็นของขวัญวันเกิดให้ฉันได้ไหมคะ”
คราวนี้ดวงตาของเขาหรี่ลงเหมือนจับผิด ช่างเถอะ ถ้าเขาไม่พอใจขนาดจะไล่เธอออกก็ไม่มีผลกับเธอแล้วล่ะ เพราะอย่างไร เธอก็จะไปจากบริษัทนี้อยู่แล้ว เขาเองก็คงไม่เอาเธอไปพูดกับคนอื่นหรอก ที่มั่นใจเพราะเขาไม่รู้จักเธออยู่แล้ว
รถเก๋งเลี้ยวเข้าไปในโรงแรมสี่ดาว เธอหารค่าห้องกับเขาจริงๆ มือกลองหนุ่มโอบเอวสาวสวยเข้าห้องพัก ทันทีที่ประตูปิดลง เขาก็ดันร่างเธอไปชิดบานประตู ดวงตาสบประสานกันไม่มีหลบสายตา “พี่ถนัดซ้ายใช่ไหมคะ” เธอถามทั้งที่รู้เพราะสังเกตเขามานาน เธอจับมือซ้ายของเขาขึ้นมาจูบที่ละนิ้วแล้วอ้าปากดูดนิ้วกลางของเขา ดวงตายังจ้องมองเขา เห็นแววตาไหวกระเพื่อมและลมหายใจที่เริ่มถี่ขึ้นก็รู้ว่าเขาชอบ คิมหันต์ไม่คิดว่าการถูกดูดนิ้วจะทำให้ปั่นป่วนขนาดนี้ และผู้หญิงคนนี้ก็เซ็กซี่เหลือเกิน เขายกมือขึ้นลูบหน้าอกของเธอ หญิงสาวแอ่นอกให้มือใหญ่จึงขยำเคล้นคลึง เธอดูดนิ้วเขาแรงเท่าไหร่ เขาก็เคล้นหน้าอกแรงขึ้นเท่านั้น “อ๊า อยากแล้วค่ะ” มุตตาสารภาพดึงนิ้วในปากของเธอลงไปด้านล่าง เธอถลกกระโปรงสั้นของตัวเองขึ้นใช้นิ้วที่เปียกน้ำลายของเขาแทรกเข้าไปในร่องรักของตัวเอง ไม่ต้องรอให้บอก คิมหันต์ก็กดนิ้วแทรกเข้าไปทันที ร่างบางสะดุ้งเฮือก ยื่นมือไปลูบเป้ากางเกงกำท่อนเอ็นแข็งขึงขึ้นมา เขางอนิ้วกดจุดเสียว หญิงสาวก็ครางเสียงหวานออกมา เขาเลื่อนมือข้างขวาแหย่นิ้วเข้าไปในปากให้เ
“เสร็จแล้วเหรอคะ รัดพี่แน่นขนาดนี้อยากให้พี่ขาดใจตายเลยหรือไง” พูดเสียงพร่าแล้วจับเรียวขาของเธอออกจากเอว เปลี่ยนเป็นยกขึ้นพาดบ่าแล้วเริ่มขยับซอยอีกครั้ง แต่เพราะน้ำรักหลั่งออกมามากยิ่งทำให้เขาซอยท่อนเอ็นได้ถี่รัวและลึกขึ้นกว่าเดิม“อร๊ายย พี่หมอขา เฟิร์น...” เธอบิดกายเร่าๆ และยิ่งร้องครางเมื่อมือข้างหนึ่งยื่นมือขยี้จุดเสียวกระสันของเธอ“ใกล้แล้ว...เด็กดี ขอพี่หมอซอยหนักๆนะคะ”คำพูดหวานหูแต่ตรงข้ามกับการกระทำ เขาจัดหนักจนใบเฟิร์นครางจนคอแห้ง เด้งเอวรับแทบไม่ทันจนร่างกายเธอไปถึงจุดสุดยอดอีกครั้งแต่ครั้งนี้เขากระแทกเข้าไปจนสุดกดแช่ไว้อย่างนั้นปลดปล่อยในตัวเธอ เสียงครางสุขสมของเขาทำให้เธอรู้ว่าเขาก็ถึงปลายทางเช่นเดียวกันเขาสงบใจครู่หนึ่งค่อยๆ ถอนลำเอ็นออกมา จัดการถอดถุงยางทิ้งเรียบร้อยแล้วจึงโน้มหน้าจูบมุมปากของหญิงสาวเบาๆ“น่ารักจัง”ใบเฟิร์นรู้สึกแปลกๆ อยู่บ้าง ก็...ก็ได้นะ ชมว่าน่ารักหลังมีเซ็กส์มันยังไงไม่รู้ เขาประคองเธอขึ้นนั่ง แวบหนึ่งในใจ เธอคิดว่าเขาจะรีบไล่เธอกลับบ้าน แต่เขากลับโอบไหล่ไว้หลวมๆ ใช้มือสางผมเธอให้เข้าที่“น้องเฟิร์นได้พี่แล้ว ต้องรับผิดชอบพี่...เป็นแฟนพี่นะคะ”ใ
“ก็คะแนนภาคปฏิบัติไง เต็มสิบให้เท่าไหร่” “ครั้งแรกของนายไม่ใช่เหรอ ถ้าให้คะแนนน้อยก็น้อยใจแย่สิ” “โห! อะไรกัน พี่แตกกี่น้ำต้องให้คะแนนผมสูงๆสิ” ผมพูดแล้วลูบหน้าอกของพี่สาวเล่น “น้ำแตกก็ส่วนน้ำแตกแต่ลีลาก็ต้องดีด้วย” “งั้นพี่ก็เป็นคู่ซ้อมให้ผมอีกสิ” “เด็กบ้า! ไปซ้อมกับแฟนตัวเองสิ” “ไม่ให้ซ้อมด้วยก็เป็นที่ปรึกษาก็ยังดี” ผมเห็นเธอนิ่งไปเล็กน้อยก็ตีหน้าเศร้าออดอ้อนขึ้นมาทันที “นะฮะ ถ้าผมไม่ปรึกษาพี่แล้วจะไปปรึกษาใครได้” คงเพราะสงสารหรืออะไรก็ช่างเถอะ พี่ใบเฟิร์นทำหน้านิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนพยักหน้ารับ “ได้ แค่ที่ปรึกษานะ” “ฮ่ะ” ผมต่อรองด้วยรู้นิสัยพี่ใบเฟิร์นดี พี่ไม่ชอบให้คนเซ้าซี้มากเกินไป และผมก็ไม่ยอมมีอะไรกับพี่สาวคนสวยแค่ครั้งเดียวแน่ๆ ณ คอนโดแห่งหนึ่ง “คืนนี้ค้างกับพี่นะคะ” เสียงทุ่มต่ำกระซิบที่ริมหู กลิ่นไวน์จางๆ เพิ่มเสน่ห์เย้ายวนให้หญิงสาวอ่อนระทวยในอ้อมอกของชายหนุ่ม ‘ใบเฟิร์น’ ส่งยิ้มให้พร้อมกับทอดมองด
เธอบอกเหมือนว่าผมไม่รู้เรื่องพวกนี้ โอเค.ผมยังเวอร์จิ้น แต่ไม่ได้ไม่ประสีประสาเรื่องพวกนี้เสียหน่อย เสียงหวานเอ่ยขึ้นแล้วยื่นมือมาจับท่อนเอ็นของผมรูดมันเบาๆ มือนุ่มรูดสาวลำเอ็นอวบ ทำให้น้องชายของผมแข็งโด่ขึ้นมาอีกครั้งทั้งที่เพิ่งปลดปล่อยไป ไม่อาจถอนสายตาไปจากมือที่กำลังสาวลำเอ็นจนปลายหัวบากมีน้ำใสๆ ผุดออกมา “ซี๊ดดดด” ผมครางและหายใจแรง แล้วเธอก็ผละมือจากลำเอ็นของผม ขยับตัวไปนอนส่งสายตาหวานเยิ้มยั่วยวน “ถุงยาง” “อ่อ” ผมหมุนตัวไปหยิบซองถุงยางที่เตรียมไว้ คาบซองฟรอยในปากแล้วตามขึ้นเตียง เวลานี้เธอไม่อิดออดเหมือนครั้งแรก ผมอยากเอาเธอมาตั้งนาน ชื่อของพี่สาวสุดยั่วคือ ‘ใบเฟิร์น’ ผมรู้จักเธอมานาน จะว่าเธอน่ารักใสๆ ก็ไม่ใช่ ผมแอบเห็นเธอไปไหนมาไหนกับผู้ชายหลายครั้ง โอเค. ผมรู้มันไม่ใช่เรื่องของผม แต่ผมก็หวังว่าสักวันจะเป็นวันที่ผมได้อยู่กับเธอแบบนี้ การเรียนผมไม่ได้ห่วยนัก แต่ถ้าเทียบกับพี่ไนท์ที่อายุมากกว่าผมสามปีแล้ว แน่นอนมันห่วยมาก และมันนำความกลัดกลุ้มมาสู่พ่อกับแม่ เอาจริงๆ การให้ใบเฟิร์นมาติวให้ผมเ
“ก็ผมรู้ไงว่าพี่มีแฟน มีแฟนก็ต้องมีประสบการณ์แล้ว แล้วที่สำคัญ พี่เชื่อใจว่าพี่ใบเฟิร์นจะไม่เอาเรื่องของผมไปพูดกับคนอื่น”“นายเชื่อใจกันขนาดนั้นเลยเหรอ?”“หรือพี่จะพูดกับแฟนพี่ว่ามีอะไรกับผม”“ไอ้เด็กบ้า!” ฉันหยิบหมอนอิงมาตีเขา ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์เบียร์หรือเพราะได้คุยกันเลยสบายใจขึ้น“ก็พี่ไม่ยอมคุยกับผมดีๆเองนี่” เขาหยิบหมอนไปจากมือเรียวเล็ก “ว่าไงล่ะ แค่มีเซ็กส์กัน ไม่ได้ผูกพันกันเสียหน่อย”ก่อนคบกับพี่กันตธีร์ ฉันก็เคยมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นมาบ้าง แต่พอมีแฟนก็มีพี่เขาคนเดียว ก็รู้นะว่ามันไม่ถูกต้อง แต่...เด็กหนุ่มที่ยังเวอร์จิ้นมาน่าลองนี่น่า“แน่ใจนะว่าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับของเรา”“แน่นอนฮะ”แววตาจริงจังของเขาทำให้ฉันใจอ่อนยวบ ขยับตัวหันไปเผชิญหน้ากับเขา ยกกระป๋องขึ้นดื่มจนหมดแล้วส่งกระป๋องเปล่าให้เขา จากนั้นก็ยกมือแตะที่กระดุมเสื้อด้านหน้าแล้วถามเขาว่า“นายอยากแกะกระดุมเองหรือให้พี่แกะให้”“ผม...แกะเองได้ไหม”วันนี้ฉันสวมเดรสกระโปรงยาวเหนือเข่า ด้านหน้าเป็นกระดุมเรียงกันห้าเม็ด ฉันยืดตัวขึ้นให้เขายื่นมือมาแกะกระดุมได้ถนัด รู้สึกถึงลมหายใจติดขัดของเขาแล้วกลับทำให้รู้สึกดี นาย
คราวนี้ทั้งสองไปถึงจุดสุขยอดพร้อมกัน ทั้งสองจูบปากแลกลิ้นแล้วค่อยๆ ยกสะโพกออกจากลำเอ็น น้ำมนต์ถึงกับทิ้งตัวนอนแผ่หลาบนเตียง อัคคีจัดการตัวเองเสร็จแล้วก็เอนตัวลงนอนเคียงข้าง ใช้นิ้ววนไล้ยอดอกของเธอเล่น“พรุ่งนี้วันเกิดมึง กูเลยมาหา” น้ำมนต์พูดหลังจากที่ปรับลมหายใจได้ปกติแล้ว“มึงมาเป็นของขวัญวันเกิดให้กูเลยสิเนี้ย”“ไม่ชอบหรือไง”“ชอบสิ” เขายิ้มแล้วจูบปากสวยก่อนจะพูดบ้าง“กูก็มีเรื่องจะบอกมึง คือกูได้ย้ายไปประจำสาขาที่กรุงเทพแล้ว”“เมื่อไหร่”“เดือนหน้า” อัคคียิ้มกริ่ม “กูก็ตั้งใจจะบอกมึงในวันเกิดกู”สองหนุ่มสามมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมา ไม่รู้ว่าใครเซอร์ไพรสใครก่อน แต่ที่แน่ๆ คืนนี้อัคคีจัดหนักเพราะห่างเมียมานาน น้ำมนต์ครางจนคอแห้งเลยทีเดียว.จบ เล่นกับไฟเรื่อง ไม่ใช่เพื่อนเล่น“ผมทำได้แล้ว พี่เฟิร์นจะไม่ทำตามสัญญาเหรอ” ฉันมองหน้าเด็กหนุ่มที่จ้องมองราวกับฉันเป็นขนมหวาน ชื่อของเขาคือ ‘เดย์’ วันนี้เขาอายุสิบแปดปีแล้ว และกำลังทวงสัญญากับฉัน “พี่ใบเฟิร์น” น้ำเสียงที่เขาเรียกชื่อฉันมันทำให้หัวใจเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ฉันเห็นนายเดย์ตั้งแต่อายุส
“อื้ม! มีต้มแซ่บกระดูกอ่อนเป็นพยานไง” อัคคีทำหน้าจริงจัง “กูชอบมึง ชอบเวลาอยู่กับมึง ชอบที่มึงเป็นตัวเองแบบนี้ด้วย” “มาพูดแบบนี้ก็เขินแย่” น้ำมนต์อายจึงเอาแต่ก้มหน้าก้มตากินอาหารของตัวเอง “กินเยอะๆ” อัคคีใช้ส้อมจิ้มเสื้อร้องไห้วางใส่จานของน้ำมนต์ “จะได้มีแรง” “แรง? แรงอะไร” “มาถึงนี่แล้วก็ขึ้นห้องกูไง” “ไอ้ลามก” “มึงก็เอาของใช้เสื้อผ้าของมึงมาไว้ห้องกูบ้างก็ได้” อัคคีกลับมาพูดเหมือนเดิม “กูก็เอาเสื้อผ้าของกูไว้ห้องมึงไง” “เอางั้นก็ได้”“หรือไม่ก็ย้ายมาอยู่ด้วยกัน” “บ้าสิ พ่อแม่รู้ได้ด่าตาย” “พ่อแม่มึงน่ารักจะตาย ตอนนั้นกูไปบ้านมึงยังทำกับข้าวให้กูกิน เรียกกูลูกทุกคำเลย” “พ่อแม่กูเรียกเพื่อนกูว่าลูกทุกคน” “ก็อีกหน่อยก็เป็นลูกเขยไง” “มึงนี่...” “กูจริงจังแล้วก็จริงใจด้วย” เขายิ้ม “สาบานต่อหน้าตำหอยแครงเลย” “อย่าพูดเล่น” น้ำมนต์ทำตาดุใส่ “กูไม่อยากเล่นกับไฟ” “มึงก็เป็นน้ำ น้ำก็คู่กับไฟ” เขาพูดไ
หน้าตึกคณะ “ไม่ต้องมารับก็ได้” น้ำมนต์บ่นจ้องหน้าคนที่ยืนรออยู่หน้าคณะ เพื่อนคนอื่นๆของน้ำมนต์ต่างพากันหัวเราะคิกคัก พวกเขาเห็นทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกันมานาน พอรู้ว่าตกลงเป็นแฟนกันก็อดหยอกล้อกันไม่ได้ “ก็เป็นแฟนไงถึงต้องมารับ” เพื่อนคนอื่นแซวแล้วแกล้งผลักไหล่น้ำมนต์ให้เข้าไปใกล้อัคคี “ไปเถอะๆ พวกเราจะกลับแล้วเหมือนกัน” “อื้ม” อัคคีส่งยิ้มให้เพื่อนของน้ำมนต์แล้วหันมาสบตากับ...เอ่อ..แฟนหมาดๆ ของตัวเอง “ทำไมไม่อยากให้มารับ หรือกลัวคนอื่นรู้ว่าเราคบกัน หรือว่าแอบมีใครอีก” “ละเทอะน่า” น้ำมนต์ส่ายหน้าไปมา “ก็เรียนคนละคณะอยู่คนละฟากเลย เลิกเรียนก็ไม่ตรงกัน ไหนจะมีกิจกรรมอีก ไม่ต้องมาเทียวรับเทียวส่งก็ได้ คุยกันเหมือนเดิมนั้นแหละ อีกอย่างกูขับรถมา มึงจะขับรถตามกูอีกเหรอ” “งั้นคราวหน้ากูขับรถไปรับมึงมาเรียนดีไหม แล้วตอนกลับกูก็จะได้ไปส่งมึงไง” “ไอ้ไฟ กูไม่ได้เป็นง่อย” บ่นแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ “มึงเองก็งานเยอะนี่ ปีสามแล้ว แล้ว...ตอนดึกมึงก็มาหากูอยู่แล้วนี่” ท้ายประโยคเสียงแผ่วเบาแถมแก้มยังแดงเรื่อ
น้ำมนต์ก็อธิบายไม่ถูก แค่รู้สึกแปลกๆ ปกติอัคคีมาห้องเธอไม่กี่ครั้ง ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันแต่เรียนคนละคณะ ก็เจอกันน้อยลง เพียงแค่ยังคุยเล่นผ่านไลน์หรือทักไปที่เฟซบุ๊คอยู่เสมอ แล้วเธอก็เจ็บทุกครั้งที่เห็นมันลงรูปคู่กับแฟน“เป็นไรไปอยู่ดีๆก็เงียบ”“เปล่า” น้ำมนต์ส่ายหน้า “แล้วมึงล่ะเป็นยังไง คราวนี้ง้อแฟนด้วยอะไร”อัคคีหน้าตึงขึ้นมาทันที “ทำไมกูต้องง้อเขาด้วย”“ทุกทีมึงง้อเขานี่” น้ำมนต์ทำหน้าเบื่อหน่อย “ซื้อกระเป๋าถือให้ รองเท้าใหม่ นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ น้ำหอม เครื่องสำอาง...”“พอๆ มึงไม่ต้องรื้อฟื้นแล้ว” อัคคีกุมขมับ นี่เขาเป็นบ้าไปจริงๆ ทำไมต้องทุมเทให้ผู้หญิงที่ไม่ได้จริงใจกับเขาขนาดนี้“ดูมึงซื้อให้กูดิ แคนตาลูป แตงโม แก้วมังกร มะม่วงดอง ฝรั่งแช่บ๊วย”“แล้วมึงอยากได้อะไร กูซื้อให้ก็ได้”“แล้วมึงจะมาซื้อของให้กูทำไม วันเกิดกูก็เลยมาแล้วด้วย”“อ้าว...ทำไมมึงไม่บอกกู”“แล้วทำไมกูต้องบอกมึง” น้ำมนต์เบ้ปากใส่ “เพื่อนกันลืมวันเกิดกันก็ไม่ตายหรอก”“เป็นเพื่อนกันยิ่งต้องห้ามลืมวันเกิด” อัคคีรู้สึกผิดไม่น้อย “วันเกิดกู มึงยังจำได้”‘เพราะเป็นคนสำคัญไง’แต่น้ำมนต์ไม่ได้พูดอย่างที่คิ
Comments