LOGINร่างอวบอิ่มในชุดเดรสสั้นสายเดี่ยวสีดำหมุนตัวไปมาหน้ากระจกอย่างพอใจ ปกติเกวรินไม่ค่อยใส่ชุดรัดรูป แหวกหลัง โชว์เนินอกแบบนี้เท่าไหร่ แต่เพราะคืนนี้เธอวางแผนบางอย่างกับเพื่อนรักเอาไว้แล้ว เลยต้องเปลี่ยนลุคให้ดูเซ็กซี่มากกว่าปกติ
แชะ แชะ
“ลงรูปนี้แล้วกัน...” เกวรินโพสต์ท่าถ่ายรูปหน้ากระจก จงใจโน้มตัวลงต่ำเล็กน้อย แล้วถ่ายมุมสูงให้เห็นร่องอกขาวชัดๆ แล้วลงสตอรี่ในไอจี พร้อมกับแท็กสถานที่ที่เธอนัดกับของขวัญเอาไว้
Trrrrrrrr
Trrrrrr
จังหวะที่เธอหยิบกระเป๋ากลิตเตอร์สีดำขึ้นมา เสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้นพอดี เกวรินจึงกดรับสายแล้วใส่รองเท้าส้นสูงไปด้วย
[ออกมายัง]
“ใกล้ถึงแล้ว”
[ถึงไหน]
“ถึงหน้าประตูห้องฉันเนี่ยแหละ” เกวรินตอบกลับไปกวนๆ จากนั้นก็ได้ยินเสียงพ่นลมหายใจแรงๆ จากเพื่อนรักอย่างที่คิดเอาไว้
แกล้งยัยขวัญนี่สนุกจริงๆ ~
[ไม่กวนสักวันได้ไหมยัยเกี๊ยว?]
“ชิ...ให้ฉันมีความสุขบ้างเหอะ ฉันร้องไห้มาเยอะแล้ว”
[ความสุขแกคือการแกล้งชาวบ้าน?]
ได้ฟังแบบนั้นเธอก็ฉีกยิ้มกว้างแล้วตอบกลับไปทันควัน
“ถูก!”
[…….]
“ชิ ไม่แกล้งแล้วก็ได้...แล้วนี่แกถึงไหนแล้วอะ”
ตอนนี้ต้องให้เพื่อนตัวดีช่วย เธอเลยยอมหยุดกวนประสาทชั่วคราว
[อยู่หน้าคลับแล้วเนี่ย แกก็รีบมาล่ะ อย่าให้คนสวยแบบฉันต้องเปิดโต๊ะรอนาน]
“ค่าๆ กำลังจะออกไปแล้วค่า~”
สิ้นเสียงเธอก็กดวางสายไป เช็กความเรียบร้อยของเสื้อผ้าและทรงผมอีกหนึ่งรอบ ก่อนจะฉีกยิ้มหน้ากระจกเรียกความมั่นใจให้กลับมาอีกครั้ง
“วันนี้แกแซ่บมาก สู้เขายัยเกี๊ยว!”
อีกด้าน...
ร่างหนาพลิกตัวไปมาอยู่หลายครั้ง ทำยังไงก็ไม่หลับเสียที สุดท้ายจึงหยิบมือถือขึ้นมาส่องดูรูปของเด็กสาวในไอจีอย่างที่ทำทุกคืน ทว่าพอเข้าไปดูสตอรี่ที่เธออัปเดตล่าสุด เห็นเธอลงรูปในชุดแหวกโชว์เนื้อหนัง ซ้ำยังถ่ายคู่กับผู้ชายในคลับที่เขาไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน นั่นยิ่งทำให้เขาไม่มีอารมณ์จะนอนอีกต่อไป
“กล้ามากนะเกี๊ยว...”
ภากรขบฟันกรอดจนสันกรามนูนเด่น รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วขับรถคันหรูออกไปจากคอนโดทันที ระหว่างที่เดินทางไปที่คลับก็กดโทรหาเด็กสาวนับสิบสายอย่างร้อนใจ ทว่าเด็กแสบกลับไม่สนใจจะรับ บางครั้งก็กดตัดสายทิ้ง ทำให้โทสะของเขาพุ่งสูงขึ้นไปอีก
คอยดูเถอะตัวแสบ...
ไปถึงเมื่อไหร่ จะจับฟาดให้หนีเที่ยวไม่ได้อีกเลย!
@คลับxxxx
“เฮียภีมต้องโกรธมากแน่ๆ เลยแก ทำไงดีอะ”
เกวรินหันไปปรึกษากับของขวัญ เจ้าของแผนการ ‘ยั่วให้หึง’ ในครั้งนี้ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลใจ
ตั้งแต่รู้จักกันมา นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอกดตัดสายเขาเป็นสิบสายแบบนี้ แม้มันจะแอบรู้สึกดีที่อีกฝ่ายให้ความสนใจ แต่ก็กลัวเหลือเกินว่าแผนการในครั้งนี้จะทำให้เขาโกรธจนไม่ยอมให้เธอเข้าใกล้อีก...
ถ้าเป็นแบบนั้นเธอจะทำยังไงดี!
“แกอย่าเลิ่กลั่กได้ไหมยัยเกี๊ยว เดี๋ยวเฮียของแกก็มาแล้ว ช่วยทำให้มันเนียนๆ หน่อย” ของขวัญโน้มใบหน้าไปคุยใกล้ๆ สู้กับเสียงเพลงดังกระหึ่มภายในผับ
“แล้วถ้าเฮียไม่มาล่ะ...”
“โอ๊ยย กระหน่ำโทรขนาดนั้น แกเชื่อฉันเหอะ ยังไงก็มา!” ว่าแล้วก็ดันเครื่องดื่มไปตรงหน้า “ลองนี่หน่อยไหมล่ะ เผื่อแกจะหายตื่นเต้น”
เกวรินฟังแล้วก็ลังเลครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ยกแก้ววอดก้าขึ้นมาแล้วกระดกรวดเดียวจนหมด
“อึ๋ย~ ร้อนคอจัง”
“เฮียภีมนี่เป็นอะไรกับน้องเกี๊ยวเหรอครับ”
เสียงทุ้มของหนุ่มหล่อที่นั่งอยู่ข้างๆ เอ่ยถามขึ้นด้วยความสนใจ เขาเป็นโฮสต์ที่ของขวัญเรียกให้มานั่งเป็นเพื่อนที่โต๊ะแลกกับเงินก้อนโตโดยแทบไม่ต้องทำอะไร พอเห็นสองสาวเอาแต่พูดถึงคนที่ชื่อภีมไม่หยุดเลยอดสงสัยไม่ได้
“ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ...คือว่า...”
“ว่าไงครับ?” อคิณโน้มใบหน้าหล่อเหลาเข้าไปใกล้แล้วถามด้วยแววตาแพรวพราว
เกวรินเป็นคนที่ทั้งสวย น่ารัก และเซ็กซี่มากจริงๆ เขาเป็นโฮสต์มานานพอตัว ทำให้ได้ทำความรู้จักกับผู้หญิงมากหน้าหลายตา แต่ว่าก็ไม่เคยรู้สึกถูกใจใครเท่าเธอคนนี้มาก่อน
“เป็นอะไรไปครับ?”
อยู่ๆ ก็เห็นเธอทำหน้าตกใจ เลยเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“เอ่อ...ขยับเข้ามาใกล้ๆ หน่อยค่ะพี่คิณ ตรงนี้มีอะไรติดอยู่” เกวรินกลั้นใจเล่นตามบทที่เตรียมเอาไว้ ร่างเย้ายวนในชุดเดรสรัดรูปขยับเข้าหาโฮสต์หนุ่มอย่างอ้อยอิ่งจนแทบจะแนบชิดกัน เอียงหน้าเข้าไปใกล้จนได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากอีกฝ่าย แล้วใช้นิ้วเรียวเกลี่ยริมฝีปากหยักของเขาเบาๆ
“ทำอะไรน่ะ”
เสียงเย็นยะเยือกจากใครบางคนดังขึ้น ไม่รอให้ใครตอบอะไรกลับมาก็กระชากแขนเรียวดึงเข้าหาตัวอย่างไม่ออมแรง
ฟึ่บ!
“อ๊ะ! มันเจ็บนะเฮีย” เกวรินร้องอย่างตกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะบีบแขนเธอแรงขนาดนี้ พยายามดึงแขนกลับมาทว่าเขากลับบีบแน่นยิ่งกว่าเดิมจนเธอนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด
“เจ็บจะได้จำ ใครใช้ให้ทำตัวแบบนี้?!”
“เอ่อ...จะ ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ” ของขวัญเห็นท่าจะไม่ดีจึงออกตัวช่วยทันที เธอเป็นคนคิดแผนนี้ขึ้นมา คิดว่าถ้าอีกฝ่ายมีใจให้เพื่อนของเธอ เห็นภาพบาดตาบาดใจจะต้องหึงอย่างแน่นอน และคงเข้าใจความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น
แต่ไม่คิดมาก่อนว่าผู้ชายที่ใจดี อ่อนโยน และดูแลเกวรินราวกับไข่ในหิน เวลาหึงหวงจะโกรธได้น่ากลัวมากขนาดนี้
ซวยแล้วไง...
“เฮ้ย! ผู้หญิงเขาก็บอกอยู่ว่าเจ็บ ทำไมยังไม่ปล่อยอีกวะ” อคิณลุกขึ้นจากโซฟา เตรียมจะดึงแขนของภากรออก
“มึงไม่ต้องเสือก”
สิ้นเสียง ภากรก็สวนหมัดหนักๆ เข้าใส่หน้าของอีกฝ่ายเต็มแรงจนแทบล้มไปกองกับพื้น
ผัวะ!!!
“อั่ก!!”
“พี่คิณ!” เกวรินร้องเสียงหลงอย่างตกใจสุดขีด เนื้อตัวแข็งทื่อมองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
เธอไม่เคยเห็นเฮียเป็นแบบนี้มาก่อนเลย
นะ น่ากลัวเกินไปแล้ว...
“กลับ!”
มือหนากึ่งลากกึ่งจูงเด็กสาวเดินผ่านผู้คนที่กำลังแตกตื่นออกไปจากผับ พอเดินมาถึงรถคันหรู ก็เปิดประตูแล้วดันร่างบางเข้าไปข้างใน ก่อนจะขึ้นไปนั่งฝั่งคนขับ เหยียบคันเร่งแทบมิดแล้วบึ่งกลับไปที่คอนโดของเขาทันที
“ฮะ เฮียขับช้าลงหน่อยได้ไหมคะ...หนูกลัว”
เสียงหวานเอ่ยตะกุกตะกัก มือเรียวบีบเข็มขัดนิรภัยเขาไว้แน่นอย่างนึกหวาดกลัว
“หึ...ตอนมาที่นี่ทำไมไม่กลัว?” ภากรแค่นหัวเราะออกมาทีหนึ่ง
“คะ คือหนู...”
“เฮียเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามมาที่แบบนี้” เขากดเสียงต่ำ พยายามระงับอารมณ์โกรธของตัวเองอย่างถึงที่สุดแล้ว แต่พอเห็นเธอใกล้ชิดกับผู้ชายคนอื่นในสถานที่อโคจรแบบนี้ สติก็ขาดผึงลงในทันที
“อึก...” เกวรินเถียงไม่ออกสักคำ เขากำชับเธอเรื่องนี้เอาไว้หลายครั้งว่าถ้าไม่ได้มากับเขา ยังไงก็ห้ามมาสถานที่แบบนี้เด็ดขาด แต่เพราะเธออยากเห็นเขาหึงหวงเธอบ้าง อยากรู้ว่าเขารู้สึกยังไง ถึงได้ยอมทำตามแผนที่คุยกับเพื่อนเอาไว้ แม้จะต้องแหกกฎที่เขาตั้งขึ้นมาก็ตามที...
“ลงมา!”
ไม่นานเขาก็ขับรถมาถึงคอนโดหรู ร่างสูงเปิดประตูแล้วดึงแขนเรียวเดินตามไปที่ลิฟต์ทันที
“ฮะ เฮียจะทำอะไรน่ะ” เธอถามเสียงสั่นอย่างหวาดกลัว เมื่อเขาลากเธอเข้ามาในห้องน้ำแล้วดันร่างเธอเข้ากับผนังเย็นเฉียบ
“ก็จะเรียกสติให้เด็กหนีเที่ยวไงล่ะ”
ซ่า!!!
“เฮีย!” เกวรินร้องเสียงหลง หลับตาปี๋พร้อมปัดป่ายฝักบัวที่เขาฉีดใส่ตัวเธอเป็นพัลวัน ทว่านอกจากเขาจะไม่ฟังแล้วยังฉีดจนเธอตัวเปียกปอนไปหมด
“พอได้แล้ว อึก...เฮียไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับหนูนะ!”
“หึ...ยังจะกล้าเถียงอีกนะ” เขาขบฟันกรอด ปล่อยฝักบัวลงอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะดึงร่างอวบอิ่มเข้าหาตัว แล้วโน้มใบหน้าลงไปบดขยี้กลีบปากอวบอิ่มอย่างหนักจนได้กลิ่นคาวเลือดและรสแอลกอฮอล์จากปากของเด็กสาว
“อึก! อื้อออ”
มือเรียวพยายามดันแผงอกแกร่งออกไปสุดความสามารถ แต่มันก็ไร้ประโยชน์อีกตามเคย เธอไม่คิดเลยว่าจูบแรกของเธอกับเขามันจะรุนแรงและป่าเถื่อนได้ถึงขนาดนี้
“อืมมม” ภากรครางต่ำในลำคอ รวบมือเล็กทั้งสองข้างขึ้นสูงดันไว้กับผนังห้องน้ำ แทรกลิ้นร้ายเข้าไปด้านในโพรงปากหวาน แล้วดูดดึงลิ้นนุ่มอย่างเอาแต่ใจจนเด็กสาวหูอื้อตาลายไปหมดกับรสจูบร้ายกาจของเขา
“อื้อออ!”
เสียงหวานร้องประท้วงในลำคอเมื่อจูบของเขาเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าหวานบิดเบ้อย่างเจ็บปวด พยายามดิ้นหนีจากคนใจร้าย แต่ก็ไปไหนไม่รอดเพราะมือถูกตรึงเอาไว้อย่างแน่นหนา
“อ่าส์...ยังจะดื้อกับเฮียอีกไหม?”
ผ่านไปนานพอสมควร เขาถึงยอมผละออกแล้วปล่อยข้อมือเล็กให้เป็นอิสระ สีหน้าของเขาในตอนนี้ดูร้ายกาจต่างจากปกติอย่างสิ้นเชิง
“อึก คนใจร้าย...” เกวรินทุบกำปั้นน้อยๆ ลงไปบนอกแกร่งของเขาหลายที น้ำตาที่รื้นขึ้นมาก่อนหน้านี้ไหลทะลักอาบแก้มเนียนอย่างห้ามไม่อยู่
เธอรู้ดีว่าตัวเองก็มีส่วนผิดที่ไปยั่วโมโหเขาก่อน แต่เขาเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำรุนแรงกับเธอแบบนี้เหมือนกัน
“เกี๊ยว...”
“อึก ฮือออ...ไหนบอกว่าไม่ให้หนูมาที่นี่ไง! เฮียนั่นแหละที่ดื้อ!” คนตัวเล็กร้องไห้ฟูมฟายพร้อมทุบกำปั้นลงบนอกแกร่งหนักๆ อีกหลายครั้งอย่างคนน้อยใจ “ฮึก...ต่อไปนี้ไม่ต้องมายุ่งกับหนูเลยนะ!”
“เกี๊ยว...เฮียขอโทษ...”
ในตอนนั้นเองที่เขาเพิ่งจะได้สติขึ้นมา หลังจากที่เห็นคนตรงหน้าร้องไห้จนตัวสั่นเทิ้มไปหมด มือหนายกขึ้นจะเกลี่ยน้ำตาออกจากแก้มใสแต่กลับถูกเธอปัดมือออกอย่างไม่ไยดี
“อึก...คนนิสัยไม่ดี ต่อไปนี้หนูจะไม่ชอบเฮียแล้ว!” เกวรินเงยหน้าเอ่ยกับเขาทั้งน้ำตา ดันร่างหนาออกจากตัว แล้วเดินหนีออกไปจากห้องน้ำ แต่เดินไปได้ไม่ถึงสองเก้าก็ถูกเขารวบตัวขึ้นพาดบ่าเสียก่อน
“เฮียไม่อนุญาต”
ร่างอวบอิ่มในชุดเดรสสั้นสายเดี่ยวสีดำหมุนตัวไปมาหน้ากระจกอย่างพอใจ ปกติเกวรินไม่ค่อยใส่ชุดรัดรูป แหวกหลัง โชว์เนินอกแบบนี้เท่าไหร่ แต่เพราะคืนนี้เธอวางแผนบางอย่างกับเพื่อนรักเอาไว้แล้ว เลยต้องเปลี่ยนลุคให้ดูเซ็กซี่มากกว่าปกติแชะ แชะ“ลงรูปนี้แล้วกัน...” เกวรินโพสต์ท่าถ่ายรูปหน้ากระจก จงใจโน้มตัวลงต่ำเล็กน้อย แล้วถ่ายมุมสูงให้เห็นร่องอกขาวชัดๆ แล้วลงสตอรี่ในไอจี พร้อมกับแท็กสถานที่ที่เธอนัดกับของขวัญเอาไว้TrrrrrrrrTrrrrrrจังหวะที่เธอหยิบกระเป๋ากลิตเตอร์สีดำขึ้นมา เสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้นพอดี เกวรินจึงกดรับสายแล้วใส่รองเท้าส้นสูงไปด้วย[ออกมายัง]“ใกล้ถึงแล้ว”[ถึงไหน]“ถึงหน้าประตูห้องฉันเนี่ยแหละ” เกวรินตอบกลับไปกวนๆ จากนั้นก็ได้ยินเสียงพ่นลมหายใจแรงๆ จากเพื่อนรักอย่างที่คิดเอาไว้แกล้งยัยขวัญนี่สนุกจริงๆ ~[ไม่กวนสักวันได้ไหมยัยเกี๊ยว?]“ชิ...ให้ฉันมีความสุขบ้างเหอะ ฉันร้องไห้มาเยอะแล้ว”[ความสุขแกคือการแกล้งชาวบ้าน?]ได้ฟังแบบนั้นเธอก็ฉีกยิ้มกว้างแล้วตอบกลับไปทันควัน“ถูก!”[…….]“ชิ ไม่แกล้งแล้วก็ได้...แล้วนี่แกถึงไหนแล้วอะ”ตอนนี้ต้องให้เพื่อนตัวดีช่วย เธอเลยยอมหยุดกวนประสาทชั่
หลายวันต่อมา@มหาวิทยาลัย“โอเคไหมแก” ของขวัญถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นสภาพหมดอาลัยตายอยากของเพื่อนรักที่แม้จะมาเข้าเรียน แต่เหมือนจะลืมเอาวิญญาณมาด้วย“แกคิดว่าไงล่ะ” เกวรินหันไปคุยด้วยช้าๆ เบะปากเตรียมจะร้องไห้ แต่โดนชี้นิ้วห้ามไว้เสียก่อน“หยุดค่ะ! ไม่ต้องร้องแล้ว!”“อึก...ไม่ได้ร้อง~”“เฮ้อออ...มานี่เลยแก อายชาวบ้านเขา”ว่าแล้วก็ดึงข้อมือเล็กของเกวรินให้เดินตามไปที่ศาลาใต้ร่มไม้ใหญ่แห่งหนึ่งนอกอาคาร ซึ่งบริเวณนี้ค่อนข้างเงียบสงบ คนไม่พลุกพล่านเหมือนตอนอยู่ในโรงอาหารเมื่อครู่“เอาเลย ทีนี้อยากร้องก็ร้องเลย”“อึก...บอกแล้วไงว่าไม่ได้ร้อง” เธอตอบกลับไปเสียงอ้อมแอ้ม ยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาลวกๆ ทีหนึ่ง แล้วสูดน้ำมูกกลับคืนแรงๆ ราวกับเด็กน้อยก็ไม่ปานหลังจากเกิดเรื่องคืนนั้น ตอนเช้าเขาแค่มาส่งที่คอนโดแล้วก็กลับไป เธอรู้ว่าเขาโกรธ แต่เธอก็น้อยใจเขาเหมือนกัน เลยไม่ได้โทรไปง้อหรือคุยกับเขาเลยสักคำจนตอนนี้ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว...“จ้ะ ไม่ร้องเลย”“ฮึก...แกว่าเฮียภีมเขารังเกียจฉันไหม”“ฉันว่าไม่นะ”“แต่เฮียไม่ให้ฉันไปหาที่ห้องแล้วนะ...”“เดี๋ยวก็หายโกรธเองแหละน่า แกอย่ากังวลไปเลย ฉันไม่เคยเห็นเฮี
หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จ เกวรินก็อ้อนให้ว่าที่คู่หมั้นไปร้านคาเฟ่ดัง ตกเย็นก็แวะซื้อขนมเข้าห้องเล็กน้อย และด้วยความเพลียจากการเดินทางเมื่อวาน บวกกับการเที่ยวเล่นในวันนี้ ระหว่างทางที่ขับกลับคอนโด เด็กสาวจึงผล็อยหลับไปอย่างง่ายดาย กว่าจะตื่นอีกทีก็เป็นตอนที่ภากรอุ้มเธอขึ้นมานอนบนเตียงนุ่มแล้ว“อื้อ~…เฮียภีมขา นอนเป็นเพื่อนหนูหน่อย” เธอปรือตามองคนตัวโตที่กำลังห่มผ้าให้ ดึงข้อมือหนาเต็มไปด้วยเส้นเอ็นของเขาเอาไว้อย่างออดอ้อน“เฮียต้องไปเคลียร์งาน” ภากรตอบเสียงเบา ลูบผมนุ่มของเด็กสาวอย่างอ่อนโยน“ไหนบอกวันนี้ไม่ทำงานไงคะ”“อย่าดื้อสิเกี๊ยว”“แต่ว่า...”“ถ้าไม่ให้ทำงานคืนนี้ พรุ่งนี้เช้าได้อยู่ห้องคนเดียวนะ จะเอาแบบนั้นไหม”“ไม่เอาค่ะ” เกวรินตอบกลับไปทันควัน ยู่ปากน้อยๆ อย่างเสียดาย อยากให้เขานอนเฝ้าเหมือนสมัยเรียนประถมต้น แต่ก็เข้าใจว่าเขามีภาระหน้าที่ของตัวเองที่ต้องจัดการเธอไม่ดื้อแล้วเธออยากเป็นเด็กดีของเฮีย...“งั้นฝันดีนะครับ ค่ำๆ เดี๋ยวปลุกไปอาบน้ำกินข้าว”“อื้อ...สู้ๆ นะคะเฮียภีมคนเก่งของหนู” เธอคลี่ยิ้มหวานส่งไปให้ก่อนจะปิดปากหาววอดแล้วปิดเปลือกตาลงช้าๆ ภากรเห็นแบบนั้นหัวใจแกร่ง
@ห้างสรรพสินค้าขณะที่เดินเข้าไปในห้าง เกวรินก็พิมพ์คุยอะไรบางอย่างในมือถือไม่หยุดจนเกือบจะเดินชนเข้ากับคนอื่นอยู่หลายที จนภากรต้องเป็นฝ่ายจูงมือให้เธอเดินตาม เด็กสาวถึงยอมละความสนใจจากมือถือแล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มหวานให้เขา“มือเฮียใหญ่จัง...หนูชอบ”ว่าแล้วก็ประสานนิ้วมือเข้ากับเขาแล้วแกว่งไปมาอย่างอารมณ์ดี ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยมา ไม่บ่อยนักที่เฮียจะเป็นฝ่ายจับมือเธอก่อนแบบนี้ มีแค่เธอที่อ้อนกึ่งบังคับจับมือเขาเองมากกว่า“ไม่เล่นมือถือต่อแล้วหรือไง”“ทำไมคะ น้อยใจเหรอ?”“เปล่า...” เขาปฏิเสธเสียงเรียบ ทว่าใบหน้ากลับแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นักกับเรื่องเมื่อครู่“หนูคุยกับแม่ค่า~ ไม่ได้คุยกับผู้ชาย เฮียไม่ต้องหึงน้า”“ไร้สาระ...”“ชิ ว่าหนูตลอดเลย” เธอยู่ปากน้อยๆ ไม่ได้แซวอะไรเขาอีก“แล้วได้บอกแม่หรือยังว่ามานอนที่ห้องเฮีย”“บอกแล้วค่ะ แม่บอกว่านอนยาวๆ เลย ไม่ต้องห่วง แม่โอเค”“เกี๊ยว...เอาดีๆ”“แหะๆ ไม่กล้าบอกค่ะ เฮียอย่าบอกแม่นะ หนูกลัวโดนดุ”“แต่ไม่กลัวเฮียดุว่างั้น?”“ถึงเฮียดุ แต่ได้ค้างห้องเฮีย หนูก็ยอมค่ะ” เธอยิ้มแป้นอย่างภูมิใจ แม้จะรู้สึกผิดที่โกหกแม่ แต่เรื่องค
“เฮ้อออ...เฮียภีมขา ทำไงดีคะ หนูลืมเอาคีย์การ์ดคอนโดมา ว้า~ แย่จัง...ลืมของสำคัญได้ไงน้า~”เสียงหวานของเกวรินเอ่ยขึ้นเหมือนรู้สึกผิดเต็มประดา ทว่ามุมปากกลับยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์“เกี๊ยว...เฮียไม่เล่น” ภากรกดเสียงต่ำ หันไปมองเด็กสาวที่นั่งทำตาปริบๆ อยู่ข้างๆ อย่างคาดโทษ“โถ่...เฮียอะ ให้หนูไปค้างห้องเฮียแค่ไม่กี่วันเอง แป๊บเดียวก็สิ้นเดือนแล้ว นะๆๆๆ”“ไปติดต่อนิติ ขอคีย์การ์ดอันใหม่”“ไม่เอา~”“งั้นไปนอนโรงแรม”“ง่ะ...เฮียให้หนูไปนอนด้วยน้า~”ว่าแล้วก็กอดแขนล่ำๆ ของอีกฝ่ายไว้แน่น มองเขาตาแป๋วอย่างน่าสงสารเผื่อเขาจะใจอ่อนบ้าง“ไม่ได้”“แต่แม่ฝากหนูไว้ให้เฮียดูแลแล้วนะ ถ้าเฮียผิดคำพูดมันจะไม่ดีเอานา~”“นี่วางแผนมาแล้วใช่ไหม?” เขาหรี่ตาลงมองคนตัวเล็ก รู้ดีว่านี่ต้องเป็นแผนการของเด็กสาวอย่างแน่นอนรอบก่อนที่มาเล่นในห้องเขาก็แกล้งหลับไม่ยอมกลับห้อง จนต้องอุ้มออกไปส่งที่คอนโดด้วยตัวเอง แต่เธอก็ไม่วายงอแงตลอดทาง จะนอนค้างกับเขาให้ได้ให้ตาย...ทำไมนับวันยิ่งดื้อแบบนี้!“ปะ เปล่านะคะ”“โทรไปบอกน้าภาดีไหมว่าเด็กดื้องอแงจะไปค้างห้องเฮีย?”“เฮียอ่า~ อย่าขู่หนูสิคะ ปกติหนูก็ไปเล่นห้องเฮียอยู่แล้ว แค
แอดดดเสียงเปิดประตูเข้ามา ทำให้เจ้าของใบหน้าน่ารักหันไปมองทางต้นเสียง เมื่อเห็นว่าเป็นใครก็ฉีกยิ้มหวานส่งไปให้ทันที“เสร็จหรือยังเกี๊ยว พี่เขามานั่งรอสักพักแล้วนะ”“ใกล้เสร็จแล้วค่า~ เดี๋ยวหนูตามลงไปนะคะ”เสียงของ ‘เกวริน’ ตอบรับเสียงใส ก่อนจะหันมามองกระจกหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ปัดแก้มและเติมลิปกลอสสีชมพูหวานอย่างเร่งรีบ“อย่าให้รอนานนักล่ะ รีบๆ ลงมาได้แล้ว กว่าเดินทางถึงกรุงเทพ เดี๋ยวก็มืดค่ำเสียก่อน”“ค่าๆ เดี๋ยวรีบตามไปค่า~”ว่าแล้วร่างอวบอิ่มในชุดเดรสสีชมพูแขนตุ๊กตาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ หมุนตัวไปมาหน้ากระจกอยู่หลายที จนมั่นใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยจึงรีบไปลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ออกจากห้องไปอย่างทุลักทุเลทางฝั่งของ ‘ภากร’ ซึ่งกำลังนั่งคุยกับผู้เป็นแม่ของเด็กสาวอยู่ด้านล่าง พอเหลือบเห็นเจ้าของร่างอวบอิ่มเดินลงมาจากบันได ก็ลุกขึ้นแล้วไปช่วยเธอถือกระเป๋าเดินทางใบนั้นอย่างที่ทำเป็นประจำ“เอามา เฮียช่วย”“อุ้ย...ขอบคุณค่ะเฮียภีม”เกวรินฉีกยิ้มสดใสส่งไปให้ ‘ว่าที่คู่หมั้น’ สุดหล่อของตัวเองอย่างนึกขอบคุณ ทว่าอีกฝ่ายก็ยังคงตีหน้านิ่งเหมือนเดิม และตอบกลับมาว่า ‘อืม’ เพียงคำเดียวเท่านั้นปกติแล้ว







