@ อะพาร์ตเมนต์สีเหมียว
แนนลงจากรถแท็กซีก็ขึ้นไปยังชั้นเจ็ดของที่พัก ประตูห้องหมายเลข 757 ก็ได้ถูกเปิดเข้าไป
ภายในห้องที่ไม่ได้ใหญ่มาก มีเพียงห้องนอนหนึ่งห้อง มีโซนสำหรับนั่งพักผ่อน มีโซฟาหนึ่งตัวไว้นั่งดูหนังฟังเพลง มีโต๊ะกินข้าวอยู่ติดกับผนัง ห้องครัวขนาดย่อม และโซนซักล้างอยู่ตรงระเบียงหลังห้อง แล้วอีกอย่างค่าเช่าที่นี่ก็ไม่ได้แพงมาก เหมาะสำหรับหญิงสาวที่อยู่ตัวคนเดียว
แนนหิ้วของกินเข้าไปวางบนโต๊ะกินข้าว แล้วหอบเสื้อสูตของคีย์ไปซักด้วยมือเพราะกลัวว่าเนื้อผ้าจะได้รับความเสียหาย จากนั้นก็มานั่งกินของที่ซื้อมาและได้รับมาจากแม่ค้าทั้งสามราย
เธอขึ้นมานอนเล่นบนเตียงหลังจากอาบน้ำเสร็จ ริมฝีปากก็มีรอยยิ้มขึ้นอย่างแปลกประหลาด พลางคิดถึงใบหน้าของคนใจดีที่ช่วยเหลือเธอถึงสองรอบ ก่อนจะสะบัดหน้าไปมา
คิดอะไรเนี่ย เขาแค่มีน้ำใจ ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันเลยยื่นมือเข้าช่วย รอเสื้อของเขาแห้งแล้วนำไปคืนก็ไม่มีเรื่องให้ต้องเจอกันอีก
@ บริษัทจำกัด เค วี คอนแท็กต์ เซ็นเตอร์
เควินพักสายตาจากการดูเอกสาร ก็เลื่อนดวงตาคู่คมมองไปยังปฏิทิน สลับกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูหน้าจอว่ามีสายที่ไม่ได้รับหรือไม่ เพราะยังไม่ได้รับการติดต่อกลับจากแนน แต่แล้วก็ต้องถอนหายใจ ไม่ว่าจะกดดูกี่ครั้งก็ไม่มีเบอร์ที่ว่าโทรเข้ามา
เขาจึงเปลี่ยนไปดูข้อมูลของพนักงาน เวลาเข้าออกและการเปลี่ยนกะของแผนก Call love (คอล เลิฟ) ปรากฏว่าเธอได้เปลี่ยนไปทำงานอีกกะแล้ว หญิงสาวคงคิดว่าเลิกงานไม่ตรงกันเลยไม่ได้ติดต่อมา
“สองทุ่มแล้วยังไม่กลับเหรอครับ”
คณิตที่นั่งเคลียร์เอกสารที่โต๊ะทำงานหน้าห้องของเควิน เมื่อเห็นว่าเลยเวลาเลิกงานของเขาแล้ว แต่เจ้านายยังไม่กลับ จึงได้เปิดประตูเข้าไปถาม
“นายกลับไปก่อนเลย ฉันกลับไปก็ไม่มีอะไรทำ ว่าจะอยู่ต่ออีกสักพัก”
“ครับ”
พอคณิตกลับไปแล้ว เขาก็นั่งจ้องโทรศัพท์ และแล้วก็ตัดสินใจปลอมตัวเป็นลูกค้าโทรเข้าไปใช้บริการอีกครั้ง เพราะอดที่จะได้ยินเสียงหวานละมุนนั้นอีกไม่ได้
“สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่บริการคอล เลิฟ ดิฉันนางสาวณัฐชา อมรธนาศิริ รหัสพนักงานซี แอล สองหนึ่งหกเก้า ยินดีให้บริการค่ะ”
“สวัสดีครับ ผมชื่อคีย์นะครับ ผมมีเรื่องจะปรึกษา”
แต่แล้วรอยยิ้มของแนนก็เปลี่ยนไปชั่วครู่ เธอเหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์ เมื่อได้ยินชื่อของผู้ใช้บริการก็ทำให้แนนนึกถึงคนที่เคยเจอกันถึงสองครั้ง ซึ่งเขาก็มีชื่อว่าคีย์เหมือนกัน
“เนื่องจากเป็นข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ดังนั้นไม่ต้องบอกชื่อกับทางเราก็ได้ค่ะ”
“อ่าครับ”
“ขออนุญาตเรียกว่าคุณเอแทนนะคะ ไม่ทราบว่าคุณเอมีเรื่องอะไรจะปรึกษาหรือคะ”
“คือว่าผมเริ่มสนใจผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ และมักจะมีเรื่องบังเอิญให้ผมได้เจอกับเธออยู่บ่อยครั้ง แม้บางครั้งจะมีแค่ผมที่มองเห็นเธออยู่ฝ่ายเดียว แต่มันทำให้ผมรู้สึกว่าอยากเข้าหาเธอมากขึ้น คุณว่าอาการแบบนี้มันคือการชอบใครสักคนใช่ไหมครับ”
ชายคนนี้ดูไร้เดียงสาไม่ต่างจากเธอเลย คงยังไม่เคยมีแฟนสินะ แนนเผลอคิดแล้วนิ่งไป
“คุณครับ”
“ค่ะ ฉันว่าคุณกำลังชอบเธอค่ะ”
เมื่อกี้ใจลอยจนทำให้แนนลืมค้นหาข้อมูล แต่อาการข้างต้นมันก็ทำให้คิดได้ง่ายมาก เพราะที่เขาบอกมาทั้งหมดนั้น คนทั่วไปที่ไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษต่อกัน ไม่มีทางเป็นอย่างนั้นแน่นอน เพราะเธอเองก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน
เธอคิดว่าต้องเดาถูกแน่ ๆ
แนนเอ่ยชมตัวเองในใจ คนอะไรทั้งสวยทั้งฉลาด
“เหมือนกับตอนนี้ ที่ผมรู้สึกว่าชอบเสียงของคุณณัฐชามาก”
“ฮึ” แนนเผลอส่งเสียงอุทานดังขึ้นเบา ๆ
ที่พูดมาเขาหมายถึงเธออย่างนั้นหรือ แต่ก่อนที่สติจะเตลิดเปิดเปิงไปมากกว่านี้ จึงได้รีบทำหน้าที่ต่อ
“ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะ เรามาคุยเรื่องที่ปรึกษากันต่อดีไหมคะ” เธอรีบเปลี่ยนเรื่อง พร้อมกับใบหน้าที่ร้อนผ่าว
“ผมคิดว่า ผมได้คำตอบแล้วครับ”
เอ่ยจบคนที่ชื่อคีย์ก็ตัดสายไปทันที ทำเอาแนนถึงกับไปไม่เป็น
นี่เป็นครั้งแรกที่โดนลูกค้าผู้ชายเอ่ยปากชม น้ำเสียงทุ้มต่ำที่ไม่ได้แข็งกระด้างมาก มันทำให้เธอรู้สึกสับสนอย่างบอกไม่ถูก เขาโทรมาปรึกษาเรื่องแอบชอบใครสักคนอยู่ แต่เขาก็บอกว่าชอบน้ำเสียงของเธอ แถมยังบอกชื่อกับเธออีก ซึ่งผู้ใช้บริการรายอื่นไม่มีใครทำแบบนี้เลยสักคน เพราะอยากจะปิดเป็นความลับกันทั้งนั้น
มันแปลกมาก
คงไม่ได้หลงเสียงอันหวานละมุนของเธอหรอกนะ
หลังจากวางสายแนนก็เผลอคิดไปไกล พร้อมกับริมฝีปากอวบอิ่มที่ยกยิ้มราวกับคนเพ้อฝัน เธอเผลอคิดว่าเขาเป็นคนเดียวกันกับคีย์ที่เธอรู้จัก
@ อะพาร์ตเมนต์สีเหมียว
หลายวันต่อมา
ก๊อก ก๊อก
ขณะที่กลับถึงห้องได้ไม่นานและกำลังจะไปอาบน้ำก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น แนนจึงออกไปดูที่ตาแมวก่อนจะเปิดประตู
“เซอร์ไพรส์” หลินส่งยิ้มกว้างทักทายเจ้าของห้อง
“จะมาทำไมไม่บอกก่อน ถ้าฉันเข้ากะดึกมาไม่เจอจะทำไง”
“มาไม่เจอก็กลับสิคะคุณณัฐชา แล้วทำไมฉันต้องบอกล่วงหน้า หรือว่าแกซ่อนผู้ชายเอาไว้ในห้อง ไหนขอดูหน่อย”
หลินจ้องจับผิดเพื่อนพร้อมกับแทรกตัวเข้าไปในห้อง สอดส่ายสายตาไปทั่วแต่ก็ไม่พบใคร
“ฉันไม่ใช่แกนะที่จะบ้าผู้ชาย”
แนนปิดประตูเสร็จก็เข้าไปนั่งที่โซฟา เอ่ยกับเพื่อนที่หย่อนก้นลงนั่งข้างกัน
“ใยแมงมุมเกาะเต็มแล้วมั้ง”
“อะไรของแก”
“ก็หอยแกไง ร้างมายี่สิบสี่ปีแล้วนะ จะรอให้ขึ้นคานก่อนหรือไง เสียของหมด” หลินเอ่ยอย่างเสียดาย ไม่รู้ว่าแนนจะเก็บความซิงเอาไว้ให้ใคร
“ดูแลหอยของแกให้ดีเถอะ ใช้งานหนักเกินไประวังจะเสื่อมสภาพ” แนนตอบกลับยัยเพื่อนบ้าที่มาแช่งให้เธอขึ้นคาน
“ว้าย ยัยแนน ปากเสีย”
“ฮ่าฮ่า กลัวเหมือนกันเหรอ เห็นเปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่น”
“อย่างน้อยก็เอาทีละคนย่ะ ฉันไม่ได้มั่วขนาดนั้นสักหน่อย”
ถึงหลินจะใช้งานช่วงล่างอย่างหนักหน่วง เพราะเธอเป็นคนเสพติดเซ็กส์ แต่อย่างน้อยก็ทำกับแฟนทีละคน แม้จะคบกับใครได้ไม่นาน แต่ก็คงไม่เสื่อมสภาพไวอย่างที่แนนว่าหรอก
“ว่าแต่แกเถอะ เมื่อไหร่จะเปิดซิง”
“บ้า มาบอกให้ฉันไปนอนกับผู้ชายได้ไง ไม่เอาหรอก ฉันชอบอยู่คนเดียว”
“จะอยู่ไปจนแก่ตายเลยเหรอจ๊ะ ทำไมไม่ไปบวชเลยล่ะ” หลินแซวกลับ
แนนก็ใช่ว่าจะขี้ริ้วขี้เหร่ หุ่นก็ดี สูง 160 ซม. ตามมาตรฐานหญิงไทย ใบหน้าโดยรวมก็มีทั้งความสวยและน่ารักผสมกันแบบมองไม่เบื่อ แต่เสียดายที่ใช้ความสวยไม่เป็น ถึงได้โสดมาจนถึงป่านนี้
“ไม่รู้สิ ยังไม่เจอคนถูกใจอะ”
“แกไม่มีความรู้สึกว่าอยู่ใกล้ใครแล้วใจมันหวิว เนื้อตัวมันร้อนวูบวาบ ขนลุกขนพองบ้างเลยเหรอ”
“นั่นมันอาการเห็นผีรึเปล่า แบบเห็นแล้วขนลุกอะ”
“จะบ้าเหรอยัยแนน แกก็เรียนหนังสือออกจะเก่งนะ แต่ทำไมเรื่องพวกนี้ถึงได้โง่จัง อาการที่เห็นใครแล้วปิ๊ง แบบใช่เลย คนนี้แหละคือคนที่รู้สึกดีด้วย แกเข้าใจปะ”
หลินต่อว่าเพื่อนด้วยเสียอารมณ์ อยู่ใกล้ผู้ชายแล้วขนลุกซู่ มันจะเหมือนกับขนลุกเพราะเห็นผีได้อย่างไรกัน
“เข้าใจ แต่มันยังไม่รู้สึกกับใครไง”
ยังไม่เคยมีความรู้สึกแบบนั้นกับใครมาก่อน แล้วจะให้เธอตอบว่ายังไงล่ะ
“นั่นเสื้อใครอะ ที่ตากอยู่หลังห้อง”
หลินตาดีเห็นเสื้อตัวใหญ่ห้อยอยู่ตรงราวตากผ้า เนื่องจากหลังห้องจะมีหน้าต่างกระจกบานเล็กทำให้มองผ่านออกไปได้
“อ๋อ เสื้อคุณคีย์น่ะ”
พอพูดถึงชื่อนี้ก็ลืมไปเสียสนิทว่ายังไม่ได้เอาเสื้อไปคืนคนที่ช่วยเหลือเธอที่ตลาด หัวสมองปลาทองมากเลยเธอเนี่ย
“คุณคีย์ ใครเหรอ ไม่เคยเห็นแกพูดถึงชื่อนี้เลย”
“เขาทำงานที่บริษัทข้าง ๆ ฉันน่ะ”
จากนั้นแนนก็เริ่มเล่าเรื่องที่โดนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้วก็ได้คีย์เป็นคนช่วยไว้ และเรื่องที่เคยเจอกับคีย์ก่อนหน้านั้นให้หลินฟัง รวมทั้งเรื่องที่เธอเผลอสงสัยว่าชื่อของเขาเหมือนกับชื่อของลูกค้าที่โทรเข้ามาปรึกษา
“ฮ่าฮ่าฮ่า ก็แกตอบไปแบบนั้นเป็นฉันก็เข้าใจผิด แต่ว่าคุณคีย์ก็ดูเป็นสุภาพบุรุษเหมือนกันนะ” หลินส่งเสียงหัวเราะชอบใจ แต่แล้วก็แอบเชียร์หนุ่มคนนี้ขึ้นมา
“อืม สุภาพบุรุษ”
จู่ ๆ ใบหน้าของเขาก็ลอยเข้ามา ทำให้แนนต้องรีบสลัดความคิดนั้นออกจากหัว
“ฉันว่าพรหมลิขิตต้องส่งเขามาเปิดซิงแกแน่ ๆ”
เควินหย่อนก้นลงนั่งปลายเตียงให้หญิงสาวนั่งควบบนตัก ริมฝีปากหยักบดจูบกับริมฝีปากอวบอิ่มอย่างดูดดื่ม ปลายลิ้นตวัดกวาดต้อนเอาน้ำหวานที่คละเคล้ากับเครื่องดื่มมึนเข้าปาก“อืม” เสียงหวานดังขึ้นในลำคอของแนน ขณะที่เอียงคอให้ชายหนุ่มผละริมฝีปากออกและเลื่อนใบหน้าหล่อมาซุกไซ้ซอกคอและขบเม้มติ่งหูแม้ว่าอากาศของที่นี่จะหนาวยะเยือก แต่ก็แพ้ให้กับอารมณ์สวาทในกายที่ร้อนรุ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนผลัดกันถอดเสื้อผ้าออกจนหมดทุกชิ้น เควินก็อุ้มหญิงสาวขยับขึ้นไปนอนอยู่กลางเตียงทั้งคู่ผลัดกันมอบบทรักให้กันและกันด้วยปาก โดยการนอนหันหัวสลับกัน แนนนอนคร่อมร่างเขาอยู่ด้านบน ยกสะโพกมนขึ้นเล็กน้อย แล้วอ้าปากครอบครองแก่นกายของเขาพร้อมกับแลบลิ้นเลียปลายหัวขณะที่เควินนอนอยู่ด้านล่างก็ใช้ปลายลิ้นแลบเลียกลีบกุหลาบงาม โดยเน้นย้ำที่ติ่งรัญจวนสองร่างส่งเสียงพึงพอใจในลำคอ เควินถูกแนนแยงปลายลิ้นลงที่รอยแยกปลายหัวบานสีชมพูที่มีน้ำสีใสเยิ้มออกมา สลับกับเลียตั้งแต่บนลงถึงโคนที่มีลูกบอลสองลูกเควินก็แลบปลายลิ้นส่งเข้าไปในร่องรัก แล้วผงกหัวแทงลิ้นเข้าออกในร่องสาว จนแนนรู้สึกเกร็งกระตุกด้วยความเสียวซ่านขับน้ำหวานสีใสออกมาให้ช
เช้าวันต่อมาคนตัวเล็กกำลังถูกเควินปลุกด้วยการแทรกตัวเข้ามาอยู่กลางหว่างขา แนนปรือดวงตาขึ้นอย่างงัวเงีย เพราะเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบจะตีสอง ไหนจะต้องเก็บกวาดเศษซากแจกันที่ตกแตก และเก็บข้าวของที่ล่วงหล่นบนพื้นห้องอีกเธอมองการกระทำของแฟนหนุ่มก็ส่งยิ้มหวานให้ และปล่อยให้เขาระบายความต้องการที่มีออกมา แค่เพียงมือหนาลูบไล้สัมผัสบนเรือนร่าง เธอก็รู้สึกเสียวและเกิดอารมณ์นั้นเช่นเดียวกันบทรักในช่วงเช้ากินเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมงก็พากันหยุด ไม่อย่างนั้นชายหนุ่มคงต้องไปทำงานสาย ส่วนเธอที่ยังทำงานกะบ่ายจึงพอมีเวลาพักอีกครึ่งวัน“ไว้เจอกันที่บริษัทนะครับ”“ค่ะ”เควินเอ่ยกับแฟนสาวหลังจากที่ทั้งคู่กินมื้อเช้าด้วยกันเสร็จ และก่อนจะออกจากห้องก็หอมแก้มและจูบที่ริมฝีปากของเธอ เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงานพอใกล้จะได้เวลาทำงานแนนก็กดเรียกรถแท็กซีผ่านแอปพลิชันออนไลน์ แล้วลงไปรอที่ป้ายรอรถประจำทางที่อยู่หน้าอะพาร์ตเมนต์ และบังเอิญเจอกับหญิงวัยกลางคนที่พักอยู่ชั้นหกกำลังยืนเมาท์มอยกับคนรู้จัก แต่ประโยคที่พูดออกมานั้นก็ทำให้แนนถึงกับนั่งไม่ติด“ไม่รู้ว่าชั้นบนเป็นห่าอะไร แหกปากร้องยิ่งกว่าผีเข้า”“แล้วไม่ล
ก๊อก ก๊อก“ยัยแนน แกมัวทำอะไร รีบเปิดประตูเร็ว” เสียงของหลินดังอยู่นอกประตูพร้อมกับมือที่เคาะเรียก“ใครมาครับ” เควินถามเสียงเบา“เพื่อนค่ะ” แนนเอ่ยออกไปพร้อมกับสอดสายตาหาที่หลบซ่อนให้แฟนหนุ่มเธอยังไม่ได้บอกเพื่อนว่ามีแฟน แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องหลบ คงเป็นเพราะหลินมาหากะทันหันเลยทำให้ตกอยู่ในอาการลนลานแนนรีบพาเควินเข้าไปหลบอยู่ตรงระเบียง แล้วจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่และทำตัวเป็นปกติที่สุด เดินเปิดประตูให้เพื่อนสาว“กว่าจะเปิดได้นะยัยแนน ฉี่ฉันแทบจะราดแล้วเนี่ย” หลินขมวดคิ้วมุ่น รีบจ้ำอ้าวตรงไปที่ห้องน้ำระหว่างที่ยืนรอเพื่อนอยู่หน้าห้องน้ำ แนนก็ปรายตามองไปหลังห้องที่ไม่ได้เปิดไฟเป็นระยะ แต่ก็ยังพอมีแสงสว่างจากข้างนอกและภายในห้องสาดส่องออกไปให้พอมองเห็นแค่เลือนลาง“แกอยู่กับใคร เมื่อกี้ฉันได้ยินเหมือนเสียง…” คราง คำนี้หลินเอ่ยในใจ“ไม่มีใครเลย” แนนเอ่ยเสียงสูง ยิ่งทำให้เพื่อนจ้องหน้าพยายามจับพิรุธ“ไม่มีจริงอะ แกซ่อนผู้ชายไว้ใช่ไหม หรือว่าแอบมีแฟนแล้วแต่ไม่บอกฉัน”หลินสอดสายตาไปทั่วห้อง แต่แล้วก็พบกับเงารูปร่างกำยำผ่านหน้าต่างบานเล็กที่ติดอยู่ตรงผนังห้อง และมองผ่านทะลุไปยังนอกระเบ
เธอกำลังตกอยู่ในความรู้สึกที่บอกไม่ถูก จะบอกว่าดีใจที่เขายอมเปิดเผยความจริงมันก็ดีใจไม่สุด แต่จะให้โกรธที่เขาเลือกโกหกมาตั้งหลายเดือนก็โกรธไม่ลงเควินลุกออกจากเก้าอี้ เข้ามาสวมกอดหญิงสาวจากทางด้านหลัง เกยปลายคางลงที่ไหล่บาง เอียงหน้าเอ่ยกับเธอที่ริมใบหู“ขอโทษนะครับ ผมแค่ไม่อยากให้คุณลำบากใจ”“ทำไมฉันต้องลำบากใจ” เธอยังไม่เข้าใจเหตุผลของเขาอยู่ดี“ตอนนั้นคุณเข้ามาทำงานใหม่ ผมกลัวว่าถ้ามีใครรู้ว่าเรากำลังคบกันแล้วจะโดนมองไม่ดี ผมกลัวทุกคนจะคิดว่าคุณจะใช้เส้นสายเข้ามาทำงานแล้วเกิดการกลั่นแกล้งกันขึ้น ผมแค่เป็นห่วงแล้วก็หวังดีกับคุณนะครับ” เขาเอ่ยพลางจับมือของหญิงสาวเดินไปนั่งที่เก้าอี้ทำงาน แล้วให้เธอนั่งตักได้ยินดังนั้นเธอก็เผลอยิ้มขึ้นเล็กน้อย พอได้ฟังเหตุผลแล้วมันก็พอยอมรับได้ ดังที่สาวรุ่นพี่ได้บอกไว้ว่าต้องดูที่เหตุผลว่าโกหกทำไมเขากำลังโกหกเพื่อปกป้องเธอ และเธอเองก็ไม่อยากถูกกล่าวหาว่าได้ทำงานที่นี่ก็เพราะมีแฟนเป็นเจ้าของบริษัท ไหนจะรางวัลที่เพิ่งได้รับอีก“คุณคิดอย่างนั้นจริง ๆ เหรอคะ”“ครับ ผมขอโทษนะ” เสียงทุ้มเอ่ยข้างหูพร้อมกับกดจมูกหอมที่แก้มของเธอหนึ่งฟอดแนนระบายยิ้มย่นคอหน
วันนี้แนนเข้าทำงานกะบ่าย เช้านี้เธอเลยตั้งใจออกไปซูเปอร์มาเก็ตที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโด เพื่อซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารแล้วนำไปเซอร์ไพร์สแฟนหนุ่มที่ทำงานอยู่บริษัทใกล้กัน ส่วนเธอก็แบ่งใส่กล่องกะจะไปกินที่โรงอาหารของบริษัทเช่นกัน“สวัสดีค่ะ ฉันฝากของให้คุณคีย์หน่อยได้ไหมค่ะ” แนนเอ่ยกับพนักงานประชาสัมพันธ์ที่อยู่ตรงเคาน์เตอร์แนนตั้งใจว่าจะไม่โทรไปหาเขาเพราะกลัวว่าจะยังติดงานอยู่ เธอเลยจะฝากไว้กับพนักงานแทน“คีย์ไหนเหรอคะ”พนักงานคนดังกล่าวถามกลับ ก็ทำให้เธอเริ่มแปลกใจ หรือว่าจะเป็นพนักงานใหม่เลยไม่รู้จัก“คุณคีย์ที่เป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดน่ะค่ะ”“ขอโทษนะคะ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของที่นี่ไม่ได้ชื่อคีย์ค่ะ คุณคงจะจำผิดคน หรือไม่ก็มาผิดที่แล้วค่ะ”@ บริษัทจำกัด เค วี คอนแท็กต์ เซ็นเตอร์แนนเดินเข้าบริษัทพร้อมกับคิ้วเล็กที่ขมวดเป็นปม จะไม่มีคนชื่อคีย์ได้อย่างไร ก็เขาเป็นคนบอกเองว่าทำงานอยู่ที่นั่นในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดหน้าที่การงานก็ไม่ใช่ระดับล่างขนาดนั้น ทำไมแม้แต่พนักงานประชาสัมพันธ์ก็ยังไม่รู้จักเที่ยงนี้แนนกินก็ข้าวไม่ลง เธอรู้สึกสับสนไปหมด นี่เขากำลังโกหกเธออย่างนั้นหรือ แล้วจะทำไปเพื
ทั้งคู่นอนพักกันบนเตียง และพอหายเหนื่อยเควินก็อุ้มหญิงสาวเข้าไปล้างเนื้อล้างตัวแล้วใส่เสื้อผ้าดังเดิม ถ้าจะพากันอาบน้ำด้วยก็คงจะไม่ทันกับอาหารที่ใกล้จะได้เวลาขึ้นมาส่งบนห้องก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูดังขึ้น เควินจึงเดินไปเปิดประตูและรับอาหารที่สั่ง“อาหารมาแล้วครับ”“แนนช่วยจัดใส่จานนะคะ”หลายคนมักจะพูดกันว่าการมีเซ็กซ์ช่วยให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย มันก็คงจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เพราะทั้งสองคนอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ต่างคนต่างมีความสุขในช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่วมกัน ได้กินข้าวด้วยกัน และได้ทำอะไรแบบลึกซึ้งด้วยกันและไม่รู้ว่าใครเสพติดใครกันแน่ พอกินข้าวเสร็จเควินก็ชวนหญิงสาวเข้าไปอาบน้ำด้วยกัน เสร็จแล้วก็มานั่งเล่นที่โซฟาเพื่อดูรายการโทรทัศน์ต่อเควินเลื่อนแขนไปโอบเอวของหญิงสาว ส่วนแนนก็วางศีรษะซบที่ต้นแขนของเขา“วันนี้ทำงานเป็นยังไงบ้างครับ มีเรื่องที่ทำให้ลำบากใจหรือเปล่า”แนนรู้สึกแปลกใจกับคำถามของคีย์ที่เหมือนตาเห็น ทำไมเขาถึงได้เดาแม่นจัง เพราะวันนี้เธอก็มีเรื่องลำบากใจจริง ๆ และเขาก็คงจะถามด้วยความเป็นห่วง“งานก็สนุกดีค่ะ แต่วันนี้มีคนโทรมาป่วนด้วย”ใจจริงก็ไม่ได้อยากเล่าเพราะถือว่าเป็นความลับของ