- ตอนพิเศษ - เข้าสู่ปีที่ 5 หลังจากแต่งงานกันพวกเราทั้งคู่ มีบุตรกันแล้วห้าคน ฉันเฝ้ารอคนที่หกอยู่ไม่รู้จะมาตอนไหน โคล่าและแคนดี้ชอบมาอวดประจำ ทำให้ต้องขยันผลิตลูกตามเลยทีนี้ แต่กลัวสุดตรงประสิทธิภาพรังไข่มากกว่า อายุยิ่งเลยเลขสามมาไกลโพ้นฉันกังวลจริงๆ มัวเสียเวลาตีกับพี่ไคโรเกือบ 7ปีเต็ม คนที่หกวันนี้ต้องเข้าแล้วแหละ ตอนนี้ฉันสวมชุดแม่บ้านสุดเซ็กซี่เพื่อยั่วยวนพี่เขาโดยเฉพาะ เนื่องจากลูกหลับกันหมดแล้วเวลาสะดวกช่างหาได้ยากยิ่งกว่าอะไรดี สองขาเรียวเล็กย่างก้าว เข้ามาสู่หน้าห้องออกกำลังกายด้วยความเร็ว เป้าหมายชอบมาออกกำลังกาย หลังจากเล่นกับลูกและจัดการเอกสารจนเรียบร้อย ฉันค่อยๆ เอื้อมมือแตะลูกบิดประตูหมุนเปิดเข้าไป พร้อมกดลงกลอนเพื่อไม่ให้ใครมาก่อกวน ส่วนพวกเด็กน้อยมีพี่เลี้ยงคอยนอนเป็นเพื่อน ทุกสิ่งอย่างเป็นใจไปหมดเหลือแค่คนเท่านั้น กวาดสายมองหาคุณพ่อสุดหล่อ เขายังคงนอนบนม้านั่งยกน้ำหนักซึ่งมีคานให้วางบาร์เบลได้ เขาชอบเล่นท่าทางฉบับ Bench Press ท่าทางนี้จะเป็นการออกแรงในส่วนของ กล้ามเนื้อหน้าอกซึ่งจะเป็นมัดหลักและส่วนของมัดรองหรือมัดที่ใช้สนับสนุน จะเป็นส่วนของกล้ามเนื้อหัวไหล่และตร
40.ขอแต่งงานอย่างจริงใจ •40• ศิลาพอยืนทรงตัวได้แล้ว เขาก็เอื้อมฝ่ามือหนามาจับฝ่ามือเล็ก ไปกอบกุมลูบละไล้เบาๆ ราวกับคิดถึงกันมากเสียอย่างนั้น ก่อนจะพูดคล้ายเป็นห่วงใยอีกด้วย ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ สถานการณ์บีบบังคับกันเช่นนี้ ฉันก็ไม่รู้จะเอาตัวรอดอย่างไรดีเหมือนกันนะเนี่ย เฮ้อ~ "คุณเป็นอย่างไรบ้างเหรอครับ ผมด่ากราดไล่ลูกน้องออกตามหาคุณไปทั่วเมืองเลยนะ สุดท้ายมารู้ข่าวทีหลังว่าคุณแม่ผม.. เขาแอบลักพาตัวคุณไปเองผมขอโทษด้วย พวกเรายังคบกันอยู่เหมือนเดิมใช่ไหมครับ" ศิลากล่าวถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมพร้อมฉีกยิ้มกว้าง เนื่องจากเห็นเธอปลอดภัยดีแล้ว อยากไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลไอ้ไคโรก็กันท่าไม่ให้เจอ แต่ก็ไม่ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีแต่ทวงคำตอบคนสวยตรงหน้า เพราะใจรู้สึกชอบเธอมากจนไม่อยากให้เธอไปเป็นของใครทั้งนั้น "ขอโทษด้วยนะคะฉันมีคนรักอยู่แล้ว จริงๆ ตอนนั้นฉันเคยคิดจะเปิดใจให้คุณอยู่ค่ะ แต่ตอนนี้ฉันกำลังจะแต่งงานแล้วค่ะ" ทรายกล่าวด้วยซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหู รีบก้มลงมองพื้นถนนหัวคิ้วผูกชนกันทันที แกล้งโกหกเพื่อรักษาน้ำใจ รู้ว่าไม่สมควรทำอย่างนี้มันไม่ดี แต่หากพูดว่าฉันหลอกใช้เขาคงจะได้มีเรื่องขุ่นเ
39.ฟังแค่เสียงหัวใจ •39• วันที่เธอโดนยาสลบผมได้แอบทำการ ให้เธอลงนามเซ็นสัญญาหย่าขาดกับไอ้สามีเวรนั่น แต่เปลี่ยนมาเซ็นสัญญาใหม่กับผมแทนครับ เพราะรู้ว่าเธอกำลังจากผมไปแล้วจริงๆ มีเพียงแค่ปล่อยมือแยกห่างกันช่วงหนึ่ง แต่รั้งเธอด้วยฐานะตามเอกสารเพียงแค่แผ่นเดียว โดยที่เธอเองยังไม่ทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ำ เหตุผลแค่ไม่อยากให้เธอ.. ต้องมาเจอกับภัยอันตรายอยากปกป้องคุ้มครองให้เธอมีชีวิตรอดได้อย่างอิสระและมีความสุข ทำอะไรมาตั้งมากขนาดนั้น แต่ก็ไม่อยากจะอธิบายหรือพูดให้เธอฟัง แกล้งแสดงเป็นคนใจร้ายเหมือนเย็นชาแต่ก็ยังควบคุมอารมณ์หึงหวงไม่ไหว ช่วงหลังสิ่งที่กังวลจิตใจสุด จนไม่มีสมาธิตั้งใจทำงานได้อย่างสงบ คือเธอกำลังจากผมไปเพราะพ่อเธอขะมักเขม้นทำธุรกิจหามรุ่งหามค่ำทุกวัน แต่ยิ่งเก็บสะสมเงินมากเท่าไหร่ กลับยังไม่พอจะรวบรวมมันให้ครบ จำนวนตั้งหนึ่งหมื่นล้านผมตั้งดอกเบี้ยสูง เพียงแค่อยากยืดเวลาให้อยู่กับเธอได้นาน แต่กลายเป็นทำให้เธอต้องมารู้สึกผิดหวัง หมดความเชื่อใจคนอย่างผมอีก พ่อทรายถึงขั้นกู้ยืมเงินจากแก๊งสิงโตเพื่อซื้ออิสระลูกคืนกลับไปดังเดิม คุณดนัยปรารถนาอยากช่วยทรายจริงๆ ตอนนั้นผมแค่อยากรู้สายสัม
38.สับสนไปชั่วขณะ •38• เขาทำหน้างอคอหักอย่างไม่พอใจ เพราะโดนผู้เป็นแม่กล่าวตักเตือน เนื่องจากความโมโหร้ายจากเขา มันช่างน่ากลัวมากจริงๆ "แม่ครับผมสืบมาแล้วถึงได้กล้าลงมือ แม้จะยั้งมือไม่ค่อยอยู่ก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นก็คำนวณผลได้ผลเสียอยู่แล้ว ยอมรับว่าใจเย็นได้ทุกเรื่อง แต่เรื่องของเธอผมควบคุมไม่ได้" น้ำเสียงดุดันกล่าวแย้งแม่ตัวเองทันควัน "อย่ามาทำพูดดีไปหน่อย ลูกค้าประจำที่แลกเงินบ่อยชื่ออะไรนะ น้องของตาบิลลี่น่ะ" คันศรกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง "ชื่อบูเก้ครับ" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันพร้อมถอนหายใจแรง เพราะรู้ตัวว่าแม่จะต้องบ่นเรื่องนี้แน่นอน "นั่นแหละ! หึงเมียจนต้องไปยิงขาเขาเลยน่ะ แม่จึงไปเจรจากับตาบิลลี่เอง เพราะรู้ว่าลูกคงไม่มีทางขอโทษอยู่แล้ว ซึ่งแม่เองก็แค่เจรจาเพื่อรักษาลูกค้าคนนี้เอาไว้ แต่ไม่ได้ขอโทษว่าเราทำผิดอะไร แค่บอกฐานะของทรายให้คนพวกนั้นรู้อย่างชัดเจน จะได้ไม่ต้องมีเรื่องค้างคาใจกันอีก" คันศรกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบปรายหางตามอง "ครับ! ผมรู้ความผิดนี้แล้วคุณหญิงคันศร ฟังผมเล่าต่อดีกว่านะครับจะออกไปไกลแล้ว" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันให้แม่ฟัง ส
37.เจอของที่หายไป •37• หลังโทรไปหาทางบ้านทุกคน ล้วนเตรียมตัวจะมาเยี่ยมเยียนเธอกัน เพราะยามนี้ทราย ได้คล้ายดั่งคนภายในครอบครัวไปแล้ว เธอหลับเพียงแค่หนึ่งชั่วโมง ก็ลืมตาตื่นเอ่ยปากขึ้นมา "ขอน้ำหน่อยค่ะ" เสียงแหบแห้งกล่าวผมจึงรีบไปเทน้ำเปล่า รินใส่แก้วเพื่อให้เธอดื่มกินประมาณหกแก้วได้ ราวกับตัวเองเป็นต้นไม้อยู่ในพื้นที่แห้งแล้ง กำลังขาดน้ำมากมายเสียอย่างนั้นแหละ "พอหรือยังครับดื่มอีกไหม" น้ำเสียงดุดันกล่าวถาม เธอส่ายศีรษะเงียบอยู่นานเหมือนมีบางสิ่ง ที่ยังอยากจะรู้แต่ไม่กล้าถามออกมาตรงๆ อาจจะเพราะความทรงจำยังไม่กลับมาน่ะสิ สุดท้ายเธอก็อ้าปากได้สักที "สองคนนั้นในนิทานเป็นอย่างไรคะ ตอนจบหนูหลับไปไม่ทันได้ฟังเลย เขาได้กลับมาเจอกันอีกครั้งไหมคะ" ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวถาม "ใช่บทสรุปคือพวกเขาได้เจอกันครับ" น้ำเสียงดุดันกล่าวพร้อมฉีกยิ้มกว้างมาให้ "ใครเป็นคนไปหากันก่อนเหรอคะ" ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวถามอย่างสงสัย "แน่นอนว่าเป็นสาวน้อยคนนั้นเอง เธอได้รักษาสัญญาที่เคยพูดเอาไว้น่ะสิ" น้ำเสียงดุดันกล่าวตอบ "มันเป็นเพราะอะไรกันแน่ เหตุใดพี่ผู้ชายเขาถึงไม่ตามหาเธอก่อนล่ะคะ" ซุ่มเสียงไพ
36.ย้อนวัยเด็ก •36• หลังจากมาเยี่ยมคุณพ่อซึ่งบวชเป็นพระ ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มอายุวัย 19ปี กำลังเดินเล่นไปเรื่อยเปื่อยตามถนนเล็กๆ แต่ทว่าเห็นควันไฟออกมาจากบ้านหลังหนึ่ง ด้วยความอยากรู้อยากเห็นมากเกิน จึงรีบวิ่งไปยังสถานที่เป็นจุดเกิดเหตุ เจอกับไอ้คนลงมือจัดการ ซึ่งมีกันอยู่แค่สองคนเท่านั้น "เฮ้ยทำอะไรกันอยู่วะ" โหวกเหวกโวยวายเสียงดังลั่น จนคนพวกนั้นเตรียมขับรถยนต์หนีหายไป เป็นเพราะคงกลัวความผิดที่ตนเองก่อน่ะสิ ผมวิ่งจ้ำอ้าวมาแต่ไกลจากจุดที่ตะโกน ยืนชะเง้อชะแง้ส่องภายในบ้านหลังนี้ทันที กำลังจะล้วงลงกระเป๋ากางเกง เพื่อเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์หาสถานีตำรวจ เนื่องจากมาประเทศนี้แค่เพียงไม่กี่ครั้ง จึงไม่รู้ว่าสถานีดับเพลิงใช้เบอร์อะไร แต่ก็ได้ยินเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือ ทำให้หยุดชะงักตั้งใจฟัง "กรี๊ด~ ใครก็ได้ช่วยหนูด้วยค่ะ มีใครอยู่ข้างนอกไหมคะ มีคนติดอยู่ข้างในได้ยินไหมคะ" เสียงกรีดร้องลั่นบ้านราวกับตกใจกลัวมาก เพราะเวลาตอนนี้มันมืดค่ำแล้ว บังเอิญบ้านเดี่ยวหลังนี้ มันตั้งตระหง่านอยู่แค่เพียงหลังเดียวเท่านั้น ทำให้ผมต้องรู้สึกร้อนใจหนักจนต้องตัดสินใจ ปีนรั้วเข้าไปภายในบ