ผมสาวเท้าเข้ามาในโรงพยาบาลของไอ้หมอแบบเร่งรีบ จนแทบจะเรียกว่าวิ่งเลยก็ได้ หลังได้รับสายจากไอ้ยูตะว่าเกิดเรื่องขึ้นที่สนามแข่งรถ ตอนแรกกะว่าจะไปกินอาหารฝีมือยัยเด็กต๊องนั่นซะหน่อย สุดท้ายไม่ได้แม้แต่ไปส่งเธอด้วยซ้ำและตอนนี้ผมต้องลืมเรื่องยัยหนูเฌอนั่นไปก่อน
ครืดดดด...ปึง
ประตูห้องพักฟื้นระดับ VIP ถูกเลื่อนออกอย่างแรงจนกระแทกอีกฝั่งเสียงดังลั่นก่อนผมจะพุ่งตัวเข้าไป ผมเห็นสีหน้าไอ้หกตัวในห้องก็รู้แหละ ว่าแม่งไม่ธรรมดาแน่ๆ ก่อนจะหันไปมองยังเตียงคนไข้
โครมม!!
“แม่งเอ๊ยย!!” ผมออกแรงถีบเก้าอี้ตัวที่ใกล้เท้าที่สุดจนล้มระเนระนาดพลางสบถออกมาเสียงลั่นด้วยความโมโหเมื่อเห็นสภาพลูกน้องตัวเอง ที่นอนอยู่บนเตียงมีผ้าพันแผลแทบจะทั้งตัว มันไม่ได้หมดสตินะ แต่คงจะขยับตัวไม่ได้แน่ๆ เพราะดูจากการที่มันกลอกลูกตามามองผม คงจะขยับปากไม่ได้ด้วยซินะ ไม่งั้นคงไม่เงียบแบบนี้แน่ ปกติแม่งกวนตีนและก็พูดมากฉิบหาย มันคือ ไอ้เรย์ ลูกน้องคนสนิท ที่คอยดูแลทุกอย่างเกี่ยวกับสนามแข่งให้ผมและไว้ใจได้มากที่สุด มันอยู่กับผมมาหลายปี รู้ใจกันจนไม่ต้องพูดอะไร
“ไอ้เหี้ยแบล็ค&rdq
เขาตั้งใจไปทำเรื่องแบบนั้นคนเดียว ทั้งหมดนี่เขาวางแผนไว้อยู่แล้วซินะ ถึงฉันจะยังไม่ค่อยเก็ทแต่มันน่าจะเกี่ยวข้องกับพวกที่เขาเจอที่โรงพยาบาลแล้วก็คนที่ทำร้ายฉันเสี่ยกิมที่เขาพูดถึง คงเป็นใครสักคนที่มีอำนาจและคงไม่อยากให้ใครมาเดือดร้อนกับเรื่องนี้ด้วย“มึงนี่แม่ง…” เฮียฟิวส์สบถออกมา นี่คงเป็นเรื่องใหญ่ของเรื่องใหญ่ของเรื่องใหญ่มากแน่ๆ ปกติฉันแทบไม่ได้ยินเขาพูดเลยนะ เฮียวาโยทำเรื่องอลังการมากขนาดไหนกันนะเนี่ย“แต่มึงก็ควรบอกไง พวกกูจะได้ไปช่วย” เฮียดินพูดด้วยเสียงที่อ่อนลงกว่าก่อนหน้านี้เยอะเลย เขาคงเย็นลงบ้างแล้วหลังจากได้ฟังเหตุผลของเฮียวาโยและอันนี้ฉันเห็นด้วยนะ อย่างน้อยเขาก็ควรบอกใครไว้บ้างสักคนก็ยังดี“แต่กูก็ไม่ได้เป็นไรหนิ เชื่อใจกูหน่อยดิวะ”“เออ…มึงมันดวงดี” เฮียแม็กซ์ว่าพร้อมกับหลุดขำออกมาเบาๆ ดูสถานการณ์ตอนนี้จะดีขึ้นแล้ว เหมือนทุกคนจะหายใจหายคอได้คล่องขึ้นบ้าง“กูเก่ง” เฮียวาโยเถียง“นี่ขนาดปากมันแตกนะ” เฮียแม็กซ์ว่าพลางหันไป
“อ่ะ…ซี้ด”“เจ็บด้วยเหรอคะ” ฉันเลิกคิ้วถามคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ความจริงฉันจงใจกดแรงมือลงไปที่รอยฟกช้ำข้างโหนกแก้มเขาตอนทายานิดหน่อย ก็นึกว่าร่างกายเขาจะทนต่อความเจ็บปวดได้ดีซะอีก เห็นชอบแอบไปตีกับคนอื่นบ่อยๆ น่าโมโหจริงเชียว“ใจร้ายชะมัด” เฮียวาโยบ่นพึมพำแต่ก็ต้องทนให้ฉันทายาต่อด้วยความจำยอม ส่วนคนอื่นๆ ก็พากันลอบหัวเราะเยาะ ก่อนจะแสร้งหันไปทางอื่นเพื่อกลบเกลื่อนเพราะสายตาพิฆาตของคนเอาแต่ใจไล่ตวัดมองทีละคน ทีละคน“สรุป เฮียไปกัดกับใครมา” เป็นเฮียยูตะที่เปิดประเด็นและฉันเชื่อว่าทุกคนก็อยากรู้ ตอนถามเขาเดินมานั่งบนโต๊ะกลางในระยะที่จ้องหน้าเฮียวาโยได้พอดีเป๊ะทั้งห้องถูกปกคลุมด้วยความเงียบ ทุกสายตาจับจ้องไปที่คนก่อเรื่องเพื่อคาดคั้นเอาคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ ส่วนคนถูกถามกลับกลอกตาไปมาซ้ายทีขวาทีก่อนจะเอื้อมมือหยิบแก้วมาหยิบชงเหล้าที่วางอยู่บนโต๊ะโดยไม่สนใจพวกเราเลยสักนิดน้ำสีน้ำตาลเข้มในแก้วถูกกลืนจนหมดในคราวเดียวและเหมือนจะยังไม่พอ เขายังคงชงเหล้าต่อแ
[Chernarin Talk]ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก จากที่ผล็อยหลับไปพักใหญ่ คงเป็นเพราะที่โหมออกกำลังกายอย่างหนักเมื่อช่วงเย็น ฉันหลับสนิทจนไม่รู้ว่าร่างกายถูกเคลื่อนย้ายมาอยู่บนเตียงคิงไซซ์นี่ตอนไหนแขนเล็กค่อยๆ ยันตัวขึ้นนั่งพร้อมกับบิดร่างกายไปมาเพื่อบรรเทาความเมื่อยล้า ก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆ ในห้องถูกปกคลุมไปด้วยความมืด มีเพียงแสงจากด้านนอกที่ลอดผ่านช่องประตูเข้ามาเล็กน้อย พอให้มองเห็นรำไรเท่านั้น ฉันหยิบมือถือมาต่อสายหาเจ้าของห้องทันทีที่ไม่เห็นเขาตื้ดดด ตื้ดดดดแต่ทว่า เขาปล่อยให้ฉันรอจนสายถูกตัด และมันก็ยังเป็นเหมือนเดิมเมื่อกดต่อสายไปใหม่คิ้วบางขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย ฉันรีบลุกจากเตียง ออกมาข้างนอกเพื่อตามหาแต่ก็ไม่เห็น ทุกห้อง ทุกซอก ทุกมุมห้องทำงาน ห้องรับแขก หรือแม้แต่ห้องรวมตัวของบรรดาเพื่อนเขา ก็ไร้วี่แวว แถมข้างบนนี้ไม่มีใครอยู่ให้ฉันถามเลยสักคนไลน์ไปก็ไม่อ่าน โทรก็ไม่รับ เขาหายไปไหนนะหรือบางทีเขาอาจจะยังทำงานอยู่ที่สนามด้านล่างติ้งงงฉันก้าวออกมาหยุดอยู่หน้าลิฟต์ มองซ้ายที ขวาที หาทาง
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...[มีอะไร]“มึงเปลี่ยนมาใช้โกดังของเสี่ยกิมเป็นที่เก็บของแล้วเหรอวะ”[เปล่า… ทำไม?]รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้น คำตอบกลับจากปลายสาย ทำให้ผมรู้สึกเป็นต่อขึ้นมาอีกครั้ง“พอดีกูผ่านมาทางโกดังเก่าของเสี่ยกิมอะ เห็นพวกแม่งกำลังขนอะไรสักอย่างขึ้นตู้คอนเทนเนอร์ ก็เลยโทรถามดู เผื่อมึงจะส่งคนมาดู”ติ๊ดมือถือถูกโยนไปอยู่บนเบาะคนนั่งทันทีที่ไร้ประโยชน์คนเราเวลาถูกต้อนจนมุม มันก็ไม่ต่างจากหมาหรอก มันสู้สุดใจ มันกัดหมดไม่สนหน้าไหนทั้งนั้นนี่คงเป็นทางเลือกเดียวที่ผมมีอยู่ตอนนี้ ได้เวลาจบเรื่องเหี้ยๆ นี่สักทีนะ ไอ้แบล็ค…มังกรเหนือ เป็นชื่อที่รู้จักกันในวงการมาเฟียอย่างแพร่หลาย มีทั้งอำนาจ เงิน ธุรกิจสีเทานับร้อย ทั้งในและต่างประเทศ มีสมาชิกกระจัดกระจายอยู่ทุกพื้นที่ ที่ผมรู้และคุ้นเคยเป็นอย่างดีก็เพราะป๊าไอ้ดินเป็นหัวหน้าใหญ่ของแก๊ง และคนที่เพิ่งวางสายจากผม ก็คือไอ้กร พี่ชายต่างแม่ของมัน ซึ่งได้ตำแหน่งรองหัวหน้าแก๊งไปครองหมาดๆ เพราะไอ้ดินมันไม่อยากเดินสายนี้เ
“เสือก!!” ผมตอบกลับแบบฉะฉาน ชัดถ้อยชัดคำ ไอ้ห่าเนี่ยมันเก่งเรื่องยั่วโมโหระดับเทพเลยล่ะ มันเป็นคนเดียวที่ทำให้ผมอารมณ์ขึ้นได้ทุกครั้งที่เจอมัน โคตรอยากเอาส้นตีนยัดปากเลย แต่ความรุนแรงไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาได้ ผมเรียนรู้มาจากประสบการณ์ล้วนๆ แต่บางทีมันก็ยั้งไม่ไหวไง“โอ้โห... ทำไมเพื่อนวาพูดจาหมาไม่แดกเลยล่ะครับ” ดูคำพูดคำจามันแต่ละคำดิ๊ เล่นเสียงเล่นหน้าเล่นตา จนน่าหมั่นไส้ ใครมันจะไปทนไหว“มีเหี้ยไรก็รีบๆ พูดมา อย่าลีลา”“ใจเย็นดิว้าาาา กูก็แค่เหงา อยากมาลองสนามเล่นๆ”“ที่อื่นก็มี มาทำเหี้ยไรที่นี่” สนามมันก็มีนะความจริง...ถึงจะเล็กกว่าผมก็เถอะ“ก็กูอยากลองกับมึงไง”“แต่กูไม่อยาก” ถามไหม...เคยถามผมสักคำไหม ว่าผมอยากเล่นกับมันรึเปล่า เอาแต่ใจสัส!“เอ้าเหรอ...?” มันทำหน้าเหมือนเพิ่งรู้แต่จริงๆคือมันรู้อยู่แก่ใจแล้วนั่นแหละ ก่อนมันจะมือล้วงกระเป๋ากางเกงยีนของตัวเองทั้งสองข้างแล้วเลิกคิ้วถามผมได้แบบกวนตีนสุดๆ“กูนึกว่าไม่กล้า”
พูดจบเขาก็ดึงศีรษะกลับมาตั้งตรงก่อนจะขมวดคิ้วเอียงคอเล็กน้อยเพื่อให้ได้องศาพอดีกับใบหน้าฉัน นี่น่าจะเป็นการคาดคั้นเอาคำตอบซินะ ฉันที่อึ้งและเอ๋อกับประโยคของเขาตอนแรก บัดนี้ความร้อนเห่อขึ้นหน้าแบบที่ไม่รู้ที่มาที่ไป สายตากลอกกลิ้งไปมาแบบไม่รู้ว่าควรจะโฟกัสไปที่จุดไหนดี แล้วไหนจะมือไม้นี่อีก ทุกอย่างมันดูยุ่งยากเกะกะไปหมดเลยอ่าาาา>/////<“เอ่อออ….” พอจะเริ่มขยับริมฝีปากตอบก็ต้องเม้มเข้าหากันอีกครั้งจากแรงกดดันรอบข้างนั่นแหละ...หนูรู้แล้วว่าเฮียอยากได้คำตอบ แต่ทำไมต้องจ้องขนาดนี้ด้วยเล๊าณ ตอนนี้ฉันยังประมวลผลประโยคก่อนหน้าอยู่เลย ถ้าคิดแบบเจ้าหญิงที่เดินเล่นอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ การกระทำแบบนี้มันดูไม่ดีเลยนะ ไม่เป็นกุลสตรีตามแบบฉบับหญิงไทยเอาซะเลย พ่อแม่รู้โดนตีตายแน่เลย... แต่ในความเป็นจริงคือฉันกับเขา เราเคย…. แต่ก็นั่นแหละ มันจะดูง่ายไปไหมล่ะ โอ้ยยยย...ฉันควรจะตอบว่าไงดี“คิดไรเยอะแยะวะ!”“...” เดี๋ยวนะ เขาหมายถึงฉันไม่ควรคิดยังงั้นเหรอ…?สิ้นเสียงเขา ร่างฉันก็ถูกฉุดให้ลุกขึ้นพร้อมท