[Chernarin Talk]
ฉันนั่งเช็ดผมตัวเองพลางมองปลายเท้าข้างซ้าย แล้วหยุดยิ้มออกมาซ้ำๆ เหมือนคนบ้าก็ไม่ปาน ใครจะคิดล่ะว่าจะมีโอกาสได้มาใกล้ชิดคนที่แอบชอบมาตั้งหกปี แถมยังได้เรียกเขาว่า เฮีย อีก งุ้ยๆๆๆ เขินจัง แค่คิดก็มีความสุขแล้ว
Line~ Line~
ฉันลุกเดินไปหยิบมือถือมาเปิดดูไลน์กลุ่มที่มีทั้งใยไหมและปังปอนด์อยู่ในนั้นด้วย อิปังไลน์มาทำไม ไหนบอกจะไปเที่ยวกับพวกรุ่นพี่ที่คณะ
Pung_pond : ส่งรูปภาพให้คุณ
Pung_pond : บอกได้คำเดียว เละ!
Pung_pond : ส่งตำแหน่งที่ตั้งให้คุณ
พอเห็นรูปที่ปังปอนด์ส่งมาให้เท่านั้นแหละ ไม่ต้องคิดเลย ฉันรีบแต่งตัวในเวลาอันรวดเร็ว ก่อนจะพาตัวเองไปยังตำแหน่งที่ตั้งที่ปังปอนด์ส่งมาให้ทันที พี่สาวฉันเมาเละเทะขนาดนั้นได้ยังไงกัน ว่าแต่มันไปกับใครนะ ทำไมเขาถึงปล่อยให้พี่สาวฉันมีสภาพแบบนั้นได้
ไม่นานฉันก็มาหยุดยืนอยู่หน้าผับ The one ที่อยู่ไม่ไกลจากอพาร์ตเมนต์ฉันเท่าไหร่นัก ก่อนจะไลน์หาปังปอนด์ แต่มันกลับบอกว่าไม่เห็นพี่สาวฉันซะแล้ว มันเผลอหันไปชนแก้วกับผู้แป๊บเดียวก็หายไปเลย ฉันเลยบอกให้มันออกมาหาฉันข
[Chernarin Talk]พรึบบบว๊ายยยฉันอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆ แขนแกร่งก็ยกขึ้นเกี่ยวรั้งร่างฉันเข้าหาแบบไม่ทันตั้งตัว รู้ตัวอีกทีคือฉันนั่งอยู่บนตักแกร่งพร้อมกับมือเล็กที่โอบรอบต้นคอเขาเพื่อหาที่เกาะกันตกอย่างถือวิสาสะ พอตั้งสติได้ฉันก็พยายามจะยันตัวลุกขึ้น แต่ท่อนแขนนั่นกลับรั้งฉันเอาไว้ ฉันทำอะไรไม่ถูก มือก็ไม่รู้จะเอาไว้ไหน แต่ไม่ควรเอาไว้บนต้นคอเขาแบบนี้ คิดได้แบบนั้นฉันก็รีบชักมือกลับมาไว้ที่ตักตัวเองทันที สายตาก็ล่อกแล่กจนหาจุดโฟกัสไม่ได้ สมองก็ไร้การสั่งการไปแล้ว ณ ตอนนี้ ไม่รู้จะพูดอะไรออกมาเลย“ทำต่อดิ ฉันก็แค่กลัวเธอจะเมื่อย”บ้าจริง...กลัวจะเมื่อยเนี่ยนะ แล้วทำแบบนี้คิดว่าหนูจะหายเมื่อยรึไงกันเล่า หรือบางทีอาจจะเมื่อยยิ่งกว่าเก่า เพราะตอนนี้เกร็งไปทั้งตัว จนจะเป็นตะคริวแล้วเนี่ย อร๊ายยย…>////<“สะ...เสร็จแล้ว...ค่ะ ปล่อยเถอะค่ะ” ฉันบอกเขาเสียงตะกุกตะกักจนแทบจะไม่เป็นประโยค และไม่กล้าหันไปมองหน้าเขาเลยสักนิด ตาย...ฉันต้องตายแน่ๆ เลย“ง่ะ แล้วนี่ล่ะ ไม่ต้องติดเหรอ&r
“ฮะ...เฮีย จอดตรงนี้ให้หนูหน่อยสิคะ”เสียงเล็กเอ่ยขึ้นเมื่อรถเคลื่อนตัวออกมาได้สักพัก ผมเหลือบมองคนตัวเล็กข้างๆ ที่นั่งทำตาปริบๆ ตอนนี้ผมโคตรจะหงุดหงิดแต่สุดท้ายก็เลี้ยวเข้าข้างทางให้เธอจนได้ พอรถจอดสนิท หนูเฌอก็เปิดประตู วิ่งลงจากรถไปทันที แล้วผมก็ไม่ได้สนใจด้วยว่าเธอจะไปไหนตอนนี้ผมมีเรื่องปวดหัวเพิ่มขึ้นมาอีกเรื่อง พวกไอ้แบล็คมันจะทันได้เห็นหน้าหนูเฌอรึเปล่าวะ แล้วถ้ามันเห็นล่ะ ยัยนี่ต้องเป็นอันตรายแน่ โว๊ยย...กูอยากจะบ้าตาย อะไรกันวะเนี่ย เมียก็ไม่ใช่ ใครที่ไหนก็ไม่รู้ แต่เข้ามาวุ่นวายอยู่ในชีวิตผมให้มันได้ทุกเรื่องซิน่าผมเอามือขึ้นยีผมตัวเองอย่างหงุดหงิด เธอไปเอาความใจกล้าบ้าบิ่นแบบนี้มาจากไหนวะ ทีกับผม...แค่ตะคอกนิดเดียวกลัวจนหัวหด แต่เหตุการณ์เสี่ยงตายเมื่อกี้นี้กลับไม่มีอาการหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย นี่เธอต้องคลั่งไคล้ผมเบอร์ไหนวะ ถึงกล้าเอาชีวิตตัวเองมาแลกแบบนี้แกร่กกเสียงเปิดประตูรถปลุกผมให้ตื่นจากภวังค์ ก่อนร่างบางจะขึ้นมานั่งบนเบาะพร้อมกับถุงอะไรสักอย่างในมือ ผมก็ไม่ได้สนใจ รู้แต่ว่าพอเธอดึงประตูปิดเข้ามาผมก็เข้าเกียร์พร้อมจ
[Chernarin Talk]ฉันนั่งเช็ดผมตัวเองพลางมองปลายเท้าข้างซ้าย แล้วหยุดยิ้มออกมาซ้ำๆ เหมือนคนบ้าก็ไม่ปาน ใครจะคิดล่ะว่าจะมีโอกาสได้มาใกล้ชิดคนที่แอบชอบมาตั้งหกปี แถมยังได้เรียกเขาว่า เฮีย อีก งุ้ยๆๆๆ เขินจัง แค่คิดก็มีความสุขแล้วLine~ Line~ฉันลุกเดินไปหยิบมือถือมาเปิดดูไลน์กลุ่มที่มีทั้งใยไหมและปังปอนด์อยู่ในนั้นด้วย อิปังไลน์มาทำไมไหนบอกจะไปเที่ยวกับพวกรุ่นพี่ที่คณะPung_pond : ส่งรูปภาพให้คุณPung_pond : บอกได้คำเดียว เละ!Pung_pond : ส่งตำแหน่งที่ตั้งให้คุณพอเห็นรูปที่ปังปอนด์ส่งมาให้เท่านั้นแหละ ไม่ต้องคิดเลย ฉันรีบแต่งตัวในเวลาอันรวดเร็ว ก่อนจะพาตัวเองไปยังตำแหน่งที่ตั้งที่ปังปอนด์ส่งมาให้ทันที พี่สาวฉันเมาเละเทะขนาดนั้นได้ยังไงกัน ว่าแต่มันไปกับใครนะ ทำไมเขาถึงปล่อยให้พี่สาวฉันมีสภาพแบบนั้นได้ไม่นานฉันก็มาหยุดยืนอยู่หน้าผับ The one ที่อยู่ไม่ไกลจากอพาร์ตเมนต์ฉันเท่าไหร่นัก ก่อนจะไลน์หาปังปอนด์ แต่มันกลับบอกว่าไม่เห็นพี่สาวฉันซะแล้ว มันเผลอหันไปชนแก้วกับผู้แป๊บเดียวก็หายไปเลย ฉันเลยบอกให้มันออกมาหาฉันข
ผมสาวเท้าเข้ามาในโรงพยาบาลของไอ้หมอแบบเร่งรีบ จนแทบจะเรียกว่าวิ่งเลยก็ได้ หลังได้รับสายจากไอ้ยูตะว่าเกิดเรื่องขึ้นที่สนามแข่งรถ ตอนแรกกะว่าจะไปกินอาหารฝีมือยัยเด็กต๊องนั่นซะหน่อย สุดท้ายไม่ได้แม้แต่ไปส่งเธอด้วยซ้ำและตอนนี้ผมต้องลืมเรื่องยัยหนูเฌอนั่นไปก่อนครืดดดด...ปึงประตูห้องพักฟื้นระดับ VIP ถูกเลื่อนออกอย่างแรงจนกระแทกอีกฝั่งเสียงดังลั่นก่อนผมจะพุ่งตัวเข้าไป ผมเห็นสีหน้าไอ้หกตัวในห้องก็รู้แหละ ว่าแม่งไม่ธรรมดาแน่ๆ ก่อนจะหันไปมองยังเตียงคนไข้โครมม!!“แม่งเอ๊ยย!!” ผมออกแรงถีบเก้าอี้ตัวที่ใกล้เท้าที่สุดจนล้มระเนระนาดพลางสบถออกมาเสียงลั่นด้วยความโมโหเมื่อเห็นสภาพลูกน้องตัวเอง ที่นอนอยู่บนเตียงมีผ้าพันแผลแทบจะทั้งตัว มันไม่ได้หมดสตินะ แต่คงจะขยับตัวไม่ได้แน่ๆ เพราะดูจากการที่มันกลอกลูกตามามองผม คงจะขยับปากไม่ได้ด้วยซินะ ไม่งั้นคงไม่เงียบแบบนี้แน่ ปกติแม่งกวนตีนและก็พูดมากฉิบหาย มันคือ ไอ้เรย์ ลูกน้องคนสนิท ที่คอยดูแลทุกอย่างเกี่ยวกับสนามแข่งให้ผมและไว้ใจได้มากที่สุด มันอยู่กับผมมาหลายปี รู้ใจกันจนไม่ต้องพูดอะไร“ไอ้เหี้ยแบล็ค&rdq
“อยู่เฉยๆ” เขาไม่ยอม พร้อมออกคำสั่งเสียงเข้มพร้อมส่งสายตาดุมาให้ฉัน เขาจับข้อเท้าฉันขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาถอดรองเท้าผ้าใบของฉันออกด้วย ฉันพยายามจะขัดขืน แต่เพราะสายตาคมคู่นั้น ฉันก็เลยต้องยอม“อ๊ะ...ซี๊ดดด” ฉันซูดปากพลางนิ่วหน้า เมื่อเขาจับข้อเท้าฉันหมุนไปหมุนมา ความจริงมันก็ไม่ได้เจ็บมาก แค่แปล๊บๆ“หึ! ก็ไม่ได้เป็นไรมากนิ ทำไมไม่ลุกไปตบยัยนั่นสักฉาด ปล่อยให้เขารังแกอยู่ฝ่ายเดียวได้ไง” เขาพูดขึ้นพลางปล่อยมือจากข้อเท้าฉัน และหยิบรองเท้าผ้าใบขึ้นมาจะใส่ให้ แต่ฉันแย่งมาได้ก่อน ใครจะกล้าปล่อยให้เขาทำให้ล่ะ แค่นี้ใจก็เต้นจนไม่เป็นจังหวะแล้ว“ทำไมคุณพูดแบบนั้นละคะ เธอเป็นผู้หญิงของคุณนะ” ฉันพูดขึ้นเสียงแผ่วเบาพลางโน้มตัวลงใส่รองเท้าตัวเอง“ใครบอกเธอ ว่านั่นผู้หญิงของฉัน” เขาเลื่อนหน้ามาสบตาฉันแล้วเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ แต่ฉันไม่ได้สนใจฟังที่เขาพูดสักนิด ตอนนี้ฉันได้ยินแต่เสียงใจตัวเองที่มันดังขึ้นแบบจับจังหวะไม่ได้ สายตานั่นก็เหมือนมีมนตร์สะกดยังไงก็ไม่รู้ ฉันไม่สามารถควบคุมอะไรในตัวเองได้เลยสักอย่าง
หลายวันต่อมา....@ ห้างสรรพสินค้า“ไหนบอกแค่มากินข้าว?”ผมขืนแรงลากของ น้ำฟ้า คู่ขาคนใหม่หมาดๆ ที่เพิ่งพากันออกมาจากโรงแรมได้สักพักนี่เอง ก่อนจะพากันมาหาอะไรกินที่นี่ ความจริงผมไม่ค่อยได้พาใครมากินข้าวแบบนี้สักเท่าไหร่ ถ้าไม่ใช่ตัวเด็ดจริงๆ แต่ตอนนี้ผมเริ่มจะหงุดหงิดแหละ เพราะมันนอกเหนือจากที่เธอขอ พาผมมาหยุดหน้าร้านเสื้อผ้าสุดหรูเฉย เรื่องเงินน่ะผมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ที่เป็นปัญหาคือมันใช่หน้าที่ของผมเหรอ ที่จะต้องมานั่งเฝ้าเธอแบบนี้“นะคะ แป๊บเดียวเองค่ะ” เสียงเล็กเอื้อนเอ่ยขึ้นอย่างออดอ้อนออเซาะ เกาะแขนผมพลางเอาหน้ามาซบ หึ! ผู้หญิงคนนี้ยังไม่รู้จักผมดีพอซินะ มารยาหญิงใช้ไม่ได้กับผมนะ บอกก่อน“ปล่อย!” คำสั่งเสียงเข้มหลุดออกจากปากผมพร้อมๆ กับแขนผมก็หลุดจากการเกาะกุมเช่นเดียวกัน ไม่ใช่ว่าเธอยอมปล่อยตามคำสั่งนะ แต่ผมเองเนี่ยแหละที่สะบัดออกอย่างไม่ไยดี ก่อนจะสาวเท้าเดินแบบไม่ฟังใคร เด็ดแค่ไหนผมก็ไม่ได้ง้อนะ ไม่จำเป็นเลยสำหรับผม“เดี๋ยวสิคะ รอฟ้าด้วย” เธอรีบเดินตามมาเกาะแขนผมเหมือนเดิม ก่อนฝีเท้า