“หยุดเลย! เค้ากับคุณหมอ ก็แค่ One Night Stand เราเป็นแบบนั้นมาตั้งแต่แรก คุณหมอเองเขาก็มีคนที่ชอบอยู่แล้ว เค้าก็มีแฟนอยู่แล้ว แต่เผอิญแฟนเค้ามันชั่ว ก็เลยไม่รู้จะดีกับมันไปทำไม” ฌาขัดขึ้นก่อนฉันจะพูดจบ ทำไมนะ...ทำไมเธอถึงไม่เคยฟังฉันเลย
“แล้วทำไมไม่เลิกกับเขาไปเลยล่ะ”
“ไม่! แบบนี้แหละ แฟร์ดี” บ้าไปแล้ว พี่สาวฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ฉันทำได้แค่เรียกเธอเพื่อเตือนสติเท่านั้น เพราะเธอไม่เคยยอมให้ฉันพูดจนจบสักที
“ฌา...”
“เลิกพูดถึงมันได้แหละ กินข้าวไม่อร่อยเลย ว่าแต่เตงเหอะ เมื่อไรจะเก็บรูปในห้องทิ้งไปสักทีวะ เห็นแล้วหงุดหงิดชะมัด รักคนที่เขาไม่ได้รักตัวเองอยู่ได้ ฝันลมๆ แล้งๆ หาแฟนเป็นตัวตนที่จับต้องได้จะดีกว่าไหม”
“.....” ฉันเงียบทันที เมื่อเธอวกวนกลับมาเข้าเรื่องของฉัน ฌา รู้เรื่องของเฮียวาโยมาตลอด เราไม่เคยมีอะไรปิดบังกัน และก็ฌาเนี่ยแหละ ที่พาฉันเข้าไปทำงานพาร์ทไทม์ในโรงพยาบาลของคุณหมอไวน์ เพราะตอนนั้นเธอยังเป็นคนโปรดของคุณหมออยู่ ฌาช่วยให้ฉันได้เจอเฮียวาโยบ่อยขึ้น แต่ก็ไม่มีประโย
หลายวันต่อมา...“เฮียสุดหล่อของมึงมารับไหมวันเนี่ย” ใยไหมลุกขึ้นมาถามในตอนที่ฉันกำลังเก็บอุปกรณ์ลงกระเป๋า“น่าจะไม่นะ” วันนี้ฉันไม่ได้บอกเฮียวาโยว่าจะเลิกเร็ว คิดว่าเวลานี้เขาน่าจะทำงานอยู่ เพราะฉะนั้นวันนี้ฉันกลับหอเองดีกว่า“ว้า…อดเห็นหน้าเลย” ปังปอนด์เดินมาเกาะไหล่ใยไหมและพูดด้วยท่าทางอิดโรยหมดอาลัยตายอยาก บ่งบอกมากว่ามันเสียดายแค่ไหนที่ไม่ได้เห็นหน้าเฮียวาโยของฉัน“เกินไปค่ะ เพื่อน” ฉันพูดเสียงเรียบ ตวัดตามองพร้อมกับหยิบหนังสือไว้ในมือและลุกเดินผ่ากลางพวกมันสองคนออกมาจากคลาสทันทีแน่นอนฉันมีจุดหมายปลายทางในใจอยู่แล้วจะไปแวะซื้อของสด แล้วก็จะรีบกลับไปทำอาหารไว้รอเฮียวาโย รู้สึกช่วงนี้เขาไม่ได้กินอาหารฝีมือฉันเลย ต้องเพิ่มเสน่ห์ปลายจวักมัดใจซะหน่อยแล้ว@อพาร์ตเมนต์JJฉันหอบของพะรุงพะรังเต็มไม้เต็มมือยืนล้วงกุญแจอยู่หน้าห้องตัวเองสักพัก นี่มันกระเป๋าหรือหลุมดำเนี่ย กุญแจห้องไปหลบอยู่ตรงไหนนะ ต่อไปต้องหาตุ๊กตาตัวใหญ่ๆ มาห้อยซะละ ฉันควานหาอยู่นาน
“รอด้วยค่ะ”ผมเอื้อมมือไปกดปุ่มเปิดลิฟต์ทันทีที่ได้ยินเสียงร้องตะโกนมาแต่ไกลตามด้วยเสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นรัวบ่งบอกว่าได้ถึงความรีบร้อน กลัวว่าจะไม่ทันลิฟต์แค่ไหน พอประตูลิฟต์เปิดจนสุด เผยให้เห็นร่างบางของหญิงสาวที่คุ้นตา ยืนพักหายใจสักพักก่อนจะเงยหน้ามองผม“คุณวาโย/ผิงผิง”เราต่างหลุดเรียกชื่อของอีกฝ่ายออกมาพร้อมกัน แต่มันต่างกันที่ความรู้สึก ดูจากประกายระยับในดวงตาหญิงสาวตรงหน้า เธอคงดีใจไม่น้อยที่เจอผม แต่สำหรับผมรู้สึกเหมือนกำลังจะเกิดหายนะยังไงก็ไม่รู้ ทุกครั้งที่มีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นมักจะจบลงแบบไม่แฮปปี้ตลอดผมเคยคิดเรื่องนี้อยู่หลายครั้ง แต่เพราะผมไม่เคยเจอเธอที่นี่สักครั้งตั้งแต่เราแยกกันคืนนั้น มันเลยทำให้ผมชะล่าใจ“มาหาผิงเหรอคะ ไม่เห็นโทรบอกก่อนเลย” เธอโผเข้าหาผม กางแขนออกสองข้างเป็นเชิงว่าจะกอดผมให้หายคิดถึง แต่ผมอาศัยแขนที่ยาวกว่าดันไหล่เล็กทั้งสองข้างไว้ได้ก่อนเธอจะเข้าถึงตัว“เปล่าไม่ได้มาหาเธอ” ผมพูดพร้อมกับถอยห่างและผลักให้เธอไปยืนด้านข้างแทน ประตูลิฟต์ปิดลงพร้อมก
[Warayu Talk]หลังจากที่ผมนั่งคุยกับพ่อแม่หนูเฌอ สักพักท่านทั้งสองก็ขอตัวออกไปตลาดในเมือง เพื่อจะซื้อของมาทำกินกันตอนเย็น ตอนแรกผมอาสาจะพาไป แต่ท่านไม่ยอม บอกให้ผมพักผ่อนอยู่บ้านผมลุกเดินสำรวจไปรอบๆ พลางเหลือบมองคนตัวเล็กที่ยังยืนล้างจานอยู่ในครัว ก่อนจะเลี่ยงเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของบ้าน ผมไม่ได้เสียมารยาทนะ ขอพ่อกับแม่เรียบร้อยแล้ว แถมท่านยังบอกเองด้วยว่าห้องนอนลูกสาวอยู่ฝั่งไหน‘ห้องริมสุด ขวามือ’ผมหมุนลูกบิดประตูเปิดเข้ามาในห้องนอนสีหวาน ก่อนจะนิ่ง…ไปพักใหญ่และค่อยๆ ไล่สำรวจตามจุดต่างๆ ของห้อง นี่มันคือแกลอรี่ของผมชัดๆ รูปเล็ก รูปใหญ่ ทุกท่วงท่า ทุกช่วงอายุ ตลอดเวลาที่ผ่านมาหกปี ถูกติดอยู่รอบห้อง เธอต้องชอบผมถึงขั้นไหนวะ หนังสือเกี่ยวกับรถแข่งก็มาอยู่ในห้องนอนผู้หญิงต๊องๆ แบบหนูเฌอได้ด้วยว่ะ เจ๋งสุดสมุดไดอารี่หกเล่มตั้งเรียงกันบนหัวเตียงเริ่มจากหนึ่งก่อนเลยเธอเริ่มเขียนจากเหตุการณ์เมื่อหกปีก่อนวันแรกที่เจอผม วันที่วิ่งตามหาผมในโรงพยาบาล[หนูรู้ชื่อคุณแล้วนะ วาโย
“แม่คะ หนูมาแล้ว” ฉันเอ่ยทักทายพร้อมกับเปิดประตูเดินเข้าบ้านโดยมีเฮียวาโยตามหลังมาติดๆ“มากันแล้วเหรอลูก” เสียงหวานคุ้นหูจากผู้เป็นแม่ตอบรับดังมาจากในครัวก่อนจะปรากฏร่างหญิงสูงวัยเดินออกมาพร้อมรอยยิ้มและจานกับข้าวในมือฉันรีบเดินตรงเข้าหาท่าน หอมแก้มซ้ายขวาตามที่เคยทำเป็นประจำ พร้อมรับจานอาหารไปวางไว้โต๊ะทานข้าวที่อยู่ถัดไปทางซ้ายมือ บนโต๊ะมีกับข้าววางไว้อยู่ก่อนแล้วสี่อย่าง“สวัสดีครับ”เสียงเอื้อนเอ่ยอย่างนอบน้อมจากเฮียวาโยดังขึ้นโดยที่เขายังยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน ส่วนแม่ของฉัน ท่านนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะยกมือรับไหว้จากเฮียวาโยโดยไม่พูดอะไรสักคำ ใจฉันดิ่งลงไปอยู่ตาตุ่มเมื่อเห็นสีหน้าของแม่ รอยยิ้มในตอนแรกค่อยๆ จางหายไป แถมยังทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้อีกความเงียบเข้าปกคลุมทันที บรรยากาศอึมครึมเหมือนมีเมฆนับร้อยเคลื่อนตัวอยู่บนหลังคาบ้านฉัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ท้องฟ้าสดใสปลอดโปร่งมากฉันควรเดินเข้าไปไหมนะหรือฉันควรพูด…พูดว่าอะไรดีล่ะ“ผมขอโทษครับ” เฮียวาโยเอ่ยขึ้นหลังจากที
Chernarin Talkเช้าวันต่อมาร่างหมดสภาพของฉันถูกลากขึ้นจากที่นอนมาอาบน้ำแต่งตัวแต่เช้าตรู่ เพราะเรามีนัดสำคัญที่ไม่ว่าจะเลื่อนหรือเบี้ยวก็ไม่ได้เด็ดขาด เฮียวาโยปลุกปล้ำฉันอยู่นานหลายสิบนาที กว่าจะได้เป็นสภาพที่ดูดีขึ้นมานั่งสง่าอยู่บนรถสปอร์ตคันหรูคู่ใจของเขาแบบนี้ได้แต่พอล้อรถเริ่มหมุน ฉันก็รู้สึกนั่งไม่ติดเบาะ พยายามปรับพื้นที่ พลิกซ้าย พลิกขวา หาจุดที่สบายที่สุด สำหรับการพักผ่อนตลอดระยะการเดินทางนี้ฉันใช้ความพยายามอย่างมากที่จะข่มตาให้หลับ เพราะถ้าหลับจะไม่รู้สึกอะไรและมันก็จะดีมากๆ ถ้าฉันไปตื่นอีกทีตอนถึงที่หมายแล้ว…แต่มันไม่ง่ายอย่างงั้น มันไม่หลับ แถมยังมีแต่ความกระอักกระอ่วนตีวนอยู่ในท้องตลอดเวลาเพลงโปรดที่ดังก้องอยู่ตอนนี้ก็ไม่ช่วยสุดท้ายฉันเลือกที่นั่งนิ่งๆ เพราะถ้าขยับอีกที มันมาแน่… สักพักความเร็วของรถก็ผ่อนลงจนรู้สึกได้ ก่อนจะเลี้ยวเข้าจอดสนิทในปั๊มน้ำมันข้างทาง ฉันเปิดประตูพุ่งตัวเข้าห้องน้ำทันทีโดยไม่ได้สนใจประตูที่ยังเปิดคาไว้แบบนั้นอ้วกกกกฉันโก่งตัวอ้วกในคอห่านห้องน้ำอย่างเอาเป็
หลายวันต่อมา....“แชร์โลมาไว้เลยนะ เดี๋ยวสักสี่ทุ่มเฮียไปรับ”ผมวางสายพร้อมเก็บมือถือเข้ากระเป๋าตัวเอง เดินตรงไปยังห้อง VIP อย่างอารมณ์ดี ผ่านมาเกือบอาทิตย์ได้แล้วมั้งที่ผมรู้สึกโคตรมีความสุข ได้ใช้ชีวิตสงบสุขกับผู้หญิงที่รัก โดยไม่ต้องระแวงว่าจะมีหมาตัวไหนมาลอบกัดหรือทำร้ายเธอ โคตรดีเลย การมีหนูเฌอเข้ามาในชีวิตนี่มันดีจริงๆ นะ“เชรดดดด ห่างจากเมียเด็กได้แล้วเหรอวะ” เสียงทักทายจากไอ้น้องชายตัวดีดังขึ้นทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าไป“เสือก!” ผมตอบแบบชัดถ้อยชัดคำพลางก้าวเท้าเดินเลยไอ้แม็กซ์เข้าไปแล้วทิ้งตัวนั่งข้างมัน จะว่าไปวันนี้มันดูเงียบๆ แปลกๆ มีอะไรเกิดขึ้นช่วงที่ผมไม่ได้เข้ามารึเปล่าวะ“เป็นห่าไร ทำหน้าเหมือนส้นตีนเลย”“เสือก!” มันสวนผมกลับพร้อมมองตาขวาง ตามมาด้วยเสียงหัวเราะผมดังลั่นห้อง แม้แต่ไอ้ฟิวส์ยังหลุดยิ้ม เหอะ…ไอ้พวกแม่ง“อ้าว ไอ้เวรนี่” ความจริงผมต้องตบหรือถีบมัน แต่วันนี้มันดูเครียดจริงจัง ผมเลยไม่อยากกวนมัน เดี๋ยวมันพร้อมก็คงจะเล่า