หลังจากคืนนั้น...ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก
ไลลายังคงอยู่กับเขา — แต่ความเงียบระหว่างพวกเขาเปลี่ยนไป มันไม่ใช่ความเงียบที่เย็นชา แต่กลับเป็นความเงียบที่เต็มไปด้วยคำถามที่ไม่มีใครกล้าตอบ
เธอไม่แน่ใจว่าอคินมองเธอเป็นใครกันแน่ในแต่ละวัน
บางเวลา เขามองเธอด้วยแววตาอบอุ่น...เหมือนเขาเห็นเธอในแบบที่เธอเป็นจริง ๆ
แต่ในบางคืน — เมื่อเขาสะดุ้งตื่นจากฝันร้าย เขากลับเรียกชื่อ “ลลิน” ด้วยเสียงสั่นเครือเหมือนเดิม
นั่นทำให้เธอไม่สามารถแน่ใจได้เลยว่า...เธอเป็นใครสำหรับเขา
เป็นผู้หญิงที่เขา “อยู่ด้วย” หรือเป็นเพียง “เงาของคนที่ไม่ได้อยู่ที่นี่”
อคินเองก็ไม่ได้ตอบคำถามนี้ เขาเงียบ และหลีกเลี่ยงการพูดถึงความรู้สึกเสมอ
ช่วงนั้นเขาเริ่มจัดการเรื่องย้ายนที — น้องชายของไลลา — กลับมาที่โรงพยาบาล Raven
เขานัดประชุมทีมแพทย์ เตรียมเอกสารและทำแผนการผ่าตัดอย่างละเอียด
ก่อนถึงวันผ่าตัดไม่กี่วัน ไลลามาขออนุญาตเขาเพื่อนอนเฝ้านทีที่โรงพยาบาล
เธอคิดว่าเขา
“ฉันขอเวลาสักหน่อยนะ...ขอให้ฉันแน่ใจก่อนว่า...มันคือเรื่องจริง”ไลลาพยักหน้าช้า ๆหลังจากเธอกลับเข้าไปในห้องพักของนทีอคินเดินออกไปเงียบ ๆตรงไปยังที่ที่เขาไม่เคยอยากเหยียบย่างกลับไปอีกบ้านของเขาเองบ้านที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของอำนาจ — และบาดแผลเมื่อเขาก้าวเข้าไปในบ้าน พ่อของเขายังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์บนโซฟาหนังแท้“อคิน?”เสียงของผู้ชายที่ให้กำเนิดเขา...ยังเหมือนเดิมเยือกเย็น เย่อหยิ่ง และเต็มไปด้วยคำสั่งอคินไม่ทักทาย ไม่พูดสิ่งใด เขาเดินเข้าไปยืนตรงหน้า“วันก่อนที่ลลินจะตาย...”เสียงเขาแหบพร่า แต่ชัดเจน“พ่อเจอเธอใช่ไหม”ชายสูงวัยเงยหน้าขึ้น ดวงตาแข็งกร้าว“แล้ว?”“พ่อพูดอะไรกับเธอ”ความเงียบถาโถมเข้ามาราวกับคลื่นถล่มฝั่งก่อนที่พ่อของเขาจะถอนหายใจช้า ๆ แล้วเอ่ยเสียงเรียบ“ฉันเตือนเธอว่า...คนอย่างเธอไม่มีสิทธิ์มาทำลายอนาคตของแก”อคินตัวสั่น &mdas
แสงแดดยามเช้าเล็ดลอดผ่านผ้าม่านสีอ่อนในห้องพักแพทย์ที่เงียบสงบ ร่างหญิงสาวค่อย ๆ ขยับตัวอย่างเชื่องช้า ก่อนลืมตาขึ้นรับกับความสว่างอุ่นละมุนตรงหน้าไลลาพบว่าตัวเองยังอยู่ในอ้อมกอดของเขา — อคินไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอตื่นขึ้นมาบนเตียงเดียวกันกับเขาแต่ความรู้สึกในวันนี้...มันต่างออกไปวงแขนของเขาแนบแน่นแต่ไม่บีบคั้นลมหายใจสม่ำเสมออุ่นรินรดข้างแก้มอย่างแผ่วเบาและหัวใจของเธอ...กลับไม่สั่นเพราะความกลัวอีกต่อไปเธอนอนนิ่ง มองใบหน้าของเขาในยามหลับตา ดวงตาคมคู่นั้นปิดสนิท ไม่มีร่องรอยของฝันร้าย ไม่มีเสียงพึมพำเรียกชื่อใครอีกคนมีเพียงความสงบ...ที่เธอเองก็ไม่กล้าทำลายแต่ในวินาทีที่เธอคิดจะขยับตัวเปลือกตาของเขาก็ขยับขึ้นเล็กน้อย“...มองนานขนาดนั้น คิดอะไรอยู่?”เสียงทุ้มต่ำแต่ยังแหบพร่าเล็กน้อยเอ่ยขึ้นพร้อมดวงตาที่ลืมขึ้นอย่างเชื่องช้าไลลาตกใจเล็กน้อย รีบผละตัวออกจากอ้อมกอดเขา“ฉัน...เปล่า”เธอลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว พูดจบก็รีบเดินเข้าห้องน้ำไปด้วยความเขิน
เช้าวันรุ่งขึ้น...มันเป็นเช้าครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่อคินตื่นขึ้นโดยไม่มีเสียงสะอื้นของความฝันหลอกหลอนหัวใจไม่มีภาพใบหน้าของลลินที่ร้องไห้ในฝันไม่มีความรู้สึกผิดใด ๆ ที่ปลุกเขาให้สะดุ้งตื่นท่ามกลางเหงื่อเย็นเฉียบมีเพียงแสงแดดอ่อนลอดม่านลงบนเตียงและความรู้สึกแปลกประหลาดที่เรียกว่า...ความสงบเขานั่งเงียบ ๆ อยู่ปลายเตียงอยู่พักใหญ่จ้องมองมือตัวเองที่วางอยู่บนผ้าปูที่นอน ก่อนจะลูบหน้าตัวเองเบา ๆหัวใจเต้นในจังหวะปกติจิตใจไม่ตึงเครียดอย่างเคย“วันนี้...ต้องช่วยชีวิตเด็กคนนั้น” เขาพึมพำเบา ๆแต่ในใจกลับคิดถึงหญิงสาวอีกคนที่นั่งเฝ้าเด็กคนนั้นตลอดคืนอคินจัดการตัวเองอย่างรวดเร็ว เขาสวมเสื้อเชิ้ตเรียบ สะพายกระเป๋าใบเก่าที่คุ้นเคย และหยิบกล่องอาหารเช้าที่เพิ่งซื้อระหว่างทางใส่ถุงกระดาษอย่างดีเขาไปถึงโรงพยาบาลก่อนเวลานัดเดินตรงไปยังห้องพักของนทีอย่างคุ้นเคยเมื่อเปิดประตูเข้าไป เขาเห็นนทีนอนบนเตียง เตรียมพร้อมรอเข้าห้องผ่าตัดและไลลา...นั่งหลับอยู่ข้างเตียง มือข
หลังจากคืนนั้น...ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนักไลลายังคงอยู่กับเขา — แต่ความเงียบระหว่างพวกเขาเปลี่ยนไป มันไม่ใช่ความเงียบที่เย็นชา แต่กลับเป็นความเงียบที่เต็มไปด้วยคำถามที่ไม่มีใครกล้าตอบเธอไม่แน่ใจว่าอคินมองเธอเป็นใครกันแน่ในแต่ละวันบางเวลา เขามองเธอด้วยแววตาอบอุ่น...เหมือนเขาเห็นเธอในแบบที่เธอเป็นจริง ๆแต่ในบางคืน — เมื่อเขาสะดุ้งตื่นจากฝันร้าย เขากลับเรียกชื่อ “ลลิน” ด้วยเสียงสั่นเครือเหมือนเดิมนั่นทำให้เธอไม่สามารถแน่ใจได้เลยว่า...เธอเป็นใครสำหรับเขาเป็นผู้หญิงที่เขา “อยู่ด้วย” หรือเป็นเพียง “เงาของคนที่ไม่ได้อยู่ที่นี่”อคินเองก็ไม่ได้ตอบคำถามนี้ เขาเงียบ และหลีกเลี่ยงการพูดถึงความรู้สึกเสมอช่วงนั้นเขาเริ่มจัดการเรื่องย้ายนที — น้องชายของไลลา — กลับมาที่โรงพยาบาล Ravenเขานัดประชุมทีมแพทย์ เตรียมเอกสารและทำแผนการผ่าตัดอย่างละเอียดก่อนถึงวันผ่าตัดไม่กี่วัน ไลลามาขออนุญาตเขาเพื่อนอนเฝ้านทีที่โรงพยาบาลเธอคิดว่าเขา
เสียงประตูห้องกระแทกปิดลงดังก้องไลลาสะดุ้ง ร่างบางถูกดันเข้าผนังอย่างไม่ทันตั้งตัวเธอไม่ได้แค่ตกใจ แต่ยกมือขึ้นยันอกเขาโดยอัตโนมัติ — ไม่ใช่เพราะกลัว...แต่เพราะเธอไม่อยากเป็นเครื่องมืออีกแล้ว“คุณจะทำอะไร...” เธอถาม เสียงสั่นแต่อคินไม่ตอบแววตาของเขาแดงก่ำ เต็มไปด้วยความเจ็บปวด คลุ้มคลั่ง และแค้นมือของเขากระชากแขนเธอไว้แน่นริมฝีปากขบแน่นราวกับอดกลั้นคำพูดบางอย่างที่พร้อมจะพังเธอและตัวเขาเองไปพร้อมกัน“หนีไปแบบนั้น...คิดว่าฉันจะไม่ตามเหรอ?”เสียงเขาแผ่วเบาแต่แรงขึงขังที่รัดข้อมือเธอบ่งบอกชัดว่า...เขาไม่ยอมให้เธอไปอีกแล้วแต่ภายใต้แรงรัดนั้น...มือของเขากลับสั่นเล็กน้อย — ราวกับความกลัวลึกในใจเขากำลังต่อต้านแรงโกรธที่แผดเผา“คุณไม่มีสิทธิ์จะ...!”“ไม่มีสิทธิ์เหรอ?” เขาพูดซ้ำ ก่อนจะเหวี่ยงร่างเธอลงบนเตียงอย่างแรงพอที่ลมหายใจเธอสะดุดอคินขึ้นคร่อมร่างของเธอแสงจากโคมไฟหัวเตียงสะท้อนเงาของเขาในดวงตาเธอ — เหมือนสัตว
สองสัปดาห์สิบสี่วันสามร้อยสามสิบหกชั่วโมง...ที่เขาไม่มีเธออคินไม่ได้หลับสนิทแม้แต่คืนเดียว นับตั้งแต่ไลลาหายไปเขายังทำงานเหมือนเดิม ยังคงถือมีดผ่าตัดนิ่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เพียงแค่หลังมือเปื้อนเลือดของคนไข้ เขากลับหลับตาลงแล้วเห็นภาพน้ำตาของผู้หญิงอีกคนในหัวเขาไม่มีภาพใครเลย...นอกจากเธอ“ยังหาไม่ได้เหรอ?”เสียงของอคินราบเรียบ แต่ผู้ช่วยรู้ว่าอีกนิดเดียว — แววตานั้นจะไม่เหลือความอดทนอีกต่อไป“ตอนนี้รู้แค่ชื่อของหมอเวรที่อนุมัติการย้าย...แล้วก็เส้นทางที่คนไข้ถูกย้ายไปค่ะ แต่คนชื่อไลลา...ยังไม่เจอว่าอยู่ที่ไหนแน่”อคินพยักหน้า ก่อนตัดสายเขายืนอยู่บนดาดฟ้าของตึกสูง ร่างสูงพิงราวระเบียง สูทสีเทาดำยังคงเป๊ะทุกระเบียบนิ้ว...แต่ลมหายใจไม่เป็นจังหวะเสียงในหัวมันดังขึ้นอีกแล้วเสียงของไลลาที่คล้ายกับกระซิบไว้ข้างหู“ฉันไม่ใช่เงาใคร”ในภาพหลอนที่มองเห็นเธอพูดด้วยคำนี้รอยยิ้ม แต่เขากลับได้ยินเหมือนคำสาป...และเขาก็สมควร