เสียงหายใจของเขาหนักขึ้นในห้องที่เงียบกริบ ราวกับเครื่องช่วยหายใจที่สูบกลืนเอาออกซิเจนจากร่างทั้งสองไปจนหมดสิ้น
อคินโน้มกายลง แนบริมฝีปากกับลาดไหล่ของไลลาอย่างแนบแน่น เขาไม่ได้จูบ...แต่ ‘กด’ ลงไปด้วยแรงข่มความรู้สึกบางอย่าง
ลมหายใจของเขาร้อนผ่าว — ต่างจากมือที่ยังเย็นจัดราวเหล็กจากห้องผ่าตัด
เขาเลื่อนจูบลงต่ำ ซุกไซ้แนวผิวเนื้อที่เปลือยเปล่า ราวกับต้องการ 'ยืนยัน' ว่านี่คือของจริง ไม่ใช่ภาพหลอน ไม่ใช่ลลิน
...แต่ความเหมือนของใบหน้า กลิ่นผิว และดวงตาคู่นั้น กลับกระแทกจิตใจเขาจนทุกสัมผัสกลายเป็น ‘พิษ’ ที่เขาเองก็กลืนไม่ลง
มือเขาสอดใต้แผ่นหลังของเธอแล้วดึงขึ้นเล็กน้อย สะโพกของเธอเบียดชิดเข้ามาโดยปริยายจากแรงโน้มของเขา
ไลลานอนนิ่ง...ดวงตาไร้โฟกัส มองเพดานว่างเปล่า
ร่างกายเธอเกร็งเล็กน้อยยามมือของเขาไล้ผ่านแนวเอว สะโพก ก่อนจะกดแนบชิดเข้าหาเธอเต็มแรง
เขาไม่พูด...เธอไม่ร้อง
และในความเงียบนั้น เสียงครางต่ำของเขาค่อย ๆ ดังขึ้น — ไม่ใช่ด้วยความสุขสม แต่เหมือนคนที่กำลัง ‘คลั่ง’ อยู่ในความฝันที่บิดเบี้ยว
เขาประกบริมฝีปากกับลำคอเธออีกครั้ง ใช้ลิ้นเลียแนวสั่นที่เต้นระริก ก่อนจะดูดแรงจนเกิดรอยแดงช้ำ
เธอสั่นเล็กน้อยแต่ไม่ขัดขืน ไม่เอื้อม ไม่ผลัก ไม่ยอมรับ...แต่ยอมปล่อย
เขากระชับสะโพกเธอไว้แน่นขึ้น ปลายนิ้วจิกเบา ๆ บนผิวเนื้อ เธอหลับตาแน่น เมื่อรู้ว่าทุกอย่างกำลังจะเริ่ม
แล้วเขาก็สอดกายเข้ามา
ในคราวเดียว — ไม่อ่อนโยน ไม่ถนอม
เสียงลมหายใจของเขาขาดห้วง — ขณะที่ไหล่ของเธอกระตุกเบา ๆ
เจ็บ...แต่เธอไม่ร้อง
ริมฝีปากเธอกัดแน่นจนเลือดแทบซึม หางตาไหลน้ำตาเส้นเดียว...ในขณะที่ร่างกายถูกกระแทกซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยไร้ความรู้สึก
อคินฝังหน้ากับลำคอของเธอ เสียงครางต่ำจากลำคอเขาสะท้อนเข้ากระดูกไหล่ของเธอ ร่างกายเขาสั่นด้วยแรงอารมณ์ที่ไม่สามารถนิยาม
“เธอ...ไม่ใช่...” เขาครางเบา ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนหลอกตัวเอง แต่ยังคงเร่งจังหวะที่รุนแรงขึ้น
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังในห้องที่ไร้แสง ม่านปิดสนิทจนไม่มีแม้แสงดาวลอดเข้ามา
ทุกอย่างดำสนิทเหมือนหลุมที่ลึกที่สุดในใจเขา...และกลายเป็นโลงศพชั่วคราวของความรู้สึกเธอ
เขาขบลงที่ลาดไหล่ ดูดแรงจนเป็นรอย เธอสะดุ้งเบา ๆ แต่ยังไม่หลุดเสียง
ร่างของเขายังเคลื่อนไหวหนักหน่วงในเธอ ขณะที่เธอนอนนิ่งเหมือนร่างไร้จิต
มือเขาสอดประสานเข้ากับมือของเธอที่กำผ้าปูแน่น เขาบีบแน่นจนแทบช้ำ ราวกับต้องการ ‘ฉุด’ เธอให้จมลงไปในห้วงเดือดนั้นด้วยกัน
แต่เธอไม่ลุก ไม่ต้าน และไม่หลอมรวม
...เพราะเธอคือ ‘ภาชนะ’ ที่เขาซื้อ
เธอคือ ‘ข้อตกลง’ ที่ไม่ใช่หัวใจ
และเขา...คือผู้ชายที่พยายามรักร่างหนึ่ง ทั้งที่จิตใจตัวเองไม่เคยพร้อมให้รักใครอีกเลย
เสียงหอบหายใจของเขาค่อย ๆ แผ่วลง — จากแรงและถี่กลายเป็นหนักแน่นแต่สั่นคลอน เหมือนเครื่องจักรที่เริ่มหมดพลังงานหลังวิ่งจนเกินขีดจำกัด
อคินยังคงฝังหน้าลงกับต้นคอของเธอ ลมหายใจร้อนระอุเป่ารดผิวที่ช้ำเป็นจุด ร่างกายของเขาแนบสนิทกับร่างของเธอ ราวกับต้องการจะฝังตัวลงไปในร่างนี้เพื่อหลบหนีจากฝันร้ายในใจ
เขายังคงไม่พูดอะไร — มีเพียงเสียงหัวใจของเขาที่เต้นแรงอยู่ข้างใบหูของไลลา
หญิงสาวยังคงจ้องเพดานด้วยสายตาที่เหมือนหลุดออกจากร่างกายไปแล้ว รอยน้ำตาที่แห้งคาผิวเหมือนลายล่องลึกของแผลเป็น
นิ้วมือของเธอยังจิกผ้าปูเตียงแน่นจนข้อนิ้วขาวซีด แม้ร่างของเขาจะหยุดเคลื่อนไหวแล้วก็ตาม
...เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่คืออะไร
...เธอไม่รู้ว่ามันควรถูกเรียกว่า 'ความสัมพันธ์' หรือ 'การซื้อขาย'
เธอแค่รู้ว่า...เธอไม่ใช่เธออีกต่อไป
อคินผละใบหน้าออกช้า ๆ สบตามองเธอเป็นครั้งแรกหลังจบทุกอย่าง
แววตาเขาเต็มไปด้วยความพร่าเลือน — เหมือนคนที่เพิ่งตื่นจากฝันร้าย แต่มองไปก็พบว่ายังอยู่ในฝันอยู่ดี
เขายกมือแตะข้างแก้มของเธอเบา ๆ เหมือนจะลูบ — แต่กลับหยุดกลางทาง
ราวกับกลัวว่าสัมผัสนั้นจะทำให้ทุกอย่าง 'จริง' เกินไป
ไลลาหลับตาแน่นเมื่อเขาขยับตัวออกไป ร่างเธอเย็นเยียบและเปลือยเปล่า ราวกับถูกปล่อยทิ้งไว้กลางสนามรบ
เธอไม่ได้พูดอะไร — ไม่มีแม้แต่เสียงถอนหายใจ
อคินลุกขึ้นจากเตียง หยิบเสื้อคลุมที่พาดไว้ตรงปลายเตียงแล้วโยนมันให้เธอโดยไม่มองหน้า
“ใส่ซะ” เขาพูดเพียงเท่านั้น เสียงแหบพร่ากว่าทุกครั้ง ไม่ใช่เพราะความเหนื่อย แต่เพราะในอกเขาเต็มไปด้วยเสียงที่เขาไม่อยากฟัง
ไลลาดึงเสื้อคลุมขึ้นมาคลุมตัวอย่างช้า ๆ เธอทำด้วยสองมือที่ยังสั่นเล็กน้อย แต่ยังพยายามไม่ให้คนตรงหน้าเห็น
อคินเดินไปยืนพิงขอบหน้าต่างบานใหญ่ มองออกไปยังวิวเมืองกลางคืนที่ไร้เสียง — เขาไม่ได้มองวิว
เขาแค่ไม่อยากมองเธอ
“พรุ่งนี้ ฉันจะให้คนเอาเสื้อผ้าใหม่มาให้” เขาเอ่ยเสียงเรียบขณะยังหันหลังให้
“ของใช้ทุกอย่างอยู่ในตู้ ห้องนี้คือห้องของเธอไปจนกว่าจะถึงวันผ่าตัดของนที”
ไลลาเงียบ ไม่ตอบ ไม่มีคำถาม ไม่มีแม้แต่คำขอบคุณ
เขาหันกลับมาช้า ๆ แววตาที่จ้องเธอยามนี้เหมือนไม่ใช่เขาเมื่อชั่วโมงก่อน
เหมือนเขาเกลียดตัวเองที่ทำไปแล้ว — แต่ก็พร้อมจะทำมันอีก ถ้ามันช่วยหลบหนีจากอะไรบางอย่างได้
เขาก้าวมาใกล้เธออีกครั้ง เธอชะงักเล็กน้อยโดยสัญชาตญาณ แต่ไม่ได้ถอย
เขาโน้มใบหน้าลงจนเกือบแตะหน้าผากเธอ...แต่สุดท้ายก็หยุด
“ถ้าคืนนี้เธอฝันร้าย...อย่าตื่น”
เขากระซิบเบา ๆ ข้างหู ก่อนจะผละตัวออกไป
ไลลานั่งนิ่งอยู่บนเตียง กอดเสื้อคลุมแน่น สองตาแดงก่ำแต่ไม่มีเสียงสะอื้น
...และในคืนแรกของ 'ข้อตกลง' ไม่มีใครหลับเลยแม้แต่คนเดียว — เพราะมีเพียงเงาและคำว่า 'ไม่มีสิทธิ' ตีกรอบทั้งร่างเธอไว้แน่นหนา
เสียงหายใจของเขาหนักขึ้นในห้องที่เงียบกริบ ราวกับเครื่องช่วยหายใจที่สูบกลืนเอาออกซิเจนจากร่างทั้งสองไปจนหมดสิ้นอคินโน้มกายลง แนบริมฝีปากกับลาดไหล่ของไลลาอย่างแนบแน่น เขาไม่ได้จูบ...แต่ ‘กด’ ลงไปด้วยแรงข่มความรู้สึกบางอย่างลมหายใจของเขาร้อนผ่าว — ต่างจากมือที่ยังเย็นจัดราวเหล็กจากห้องผ่าตัดเขาเลื่อนจูบลงต่ำ ซุกไซ้แนวผิวเนื้อที่เปลือยเปล่า ราวกับต้องการ 'ยืนยัน' ว่านี่คือของจริง ไม่ใช่ภาพหลอน ไม่ใช่ลลิน...แต่ความเหมือนของใบหน้า กลิ่นผิว และดวงตาคู่นั้น กลับกระแทกจิตใจเขาจนทุกสัมผัสกลายเป็น ‘พิษ’ ที่เขาเองก็กลืนไม่ลงมือเขาสอดใต้แผ่นหลังของเธอแล้วดึงขึ้นเล็กน้อย สะโพกของเธอเบียดชิดเข้ามาโดยปริยายจากแรงโน้มของเขาไลลานอนนิ่ง...ดวงตาไร้โฟกัส มองเพดานว่างเปล่าร่างกายเธอเกร็งเล็กน้อยยามมือของเขาไล้ผ่านแนวเอว สะโพก ก่อนจะกดแนบชิดเข้าหาเธอเต็มแรงเขาไม่พูด...เธอไม่ร้องและในความเงียบนั้น เสียงครางต่ำของเขาค่อย ๆ ดังขึ้น — ไม่ใช่ด้วยความสุขสม แต่เหมือนคนที่กำลัง ‘คลั่ง’ อยู่ในความฝันที่บิดเบี้ยวเขาประกบริมฝีปากกับลำคอ
เสียงกระดาษเสียดสีกับโต๊ะไม้เรียบสนิทดังเบา ๆ ในห้องรับรอง VIP ที่เงียบสนิทเกินจะเชื่อว่าตั้งอยู่ใจกลางโรงพยาบาลที่พลุกพล่านหมออคินผลักแฟ้มเอกสารบางส่วนมาทางเธอ ก่อนจะวางปากกาแท่งเรียบหรูสีดำที่ดูแพงเกินกว่าคนธรรมดาจะกล้าใช้ลงตรงหน้าไลลานิ่งอยู่ครู่หนึ่ง มือบางกำชายเสื้อแน่น ดวงตาแดงก่ำจากหยาดน้ำตาที่ยังไม่ทันแห้งดี“ฉันต้องเซ็น...จริง ๆ เหรอคะ?”“ทุกคำที่อยู่ในนั้น จะคุ้มครองคุณและน้องของคุณ...ถ้าคุณทำตามทุกข้อที่ผมกำหนด”น้ำเสียงของเขายังคงเรียบ ไม่สูง ไม่ต่ำ ราบรื่นอย่างน่าขนลุกไลลาหยิบปากกาขึ้นช้า ๆ เธอไม่อ่านแม้แต่บรรทัดแรก — เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางไหนให้เลือกอีกต่อไปเสียงหมึกแตะลงบนกระดาษในวินาทีที่มือของเธอสั่นอย่างห้ามไม่ได้เธอไม่รู้ว่ากำลังเซ็นสัญญาชีวิต...หรือฆ่าความเป็นคนในตัวเองทิ้งไปพร้อมลายเซ็นนั้นเมื่อเธอเซ็นเสร็จ อคินก็หยิบเอกสารกลับมา แยกออกเป็นสองชุด ยื่นให้เธอหนึ่งฉบับ“เก็บไว้ให้ดี” เขากล่าวสั้น ๆ ก่อนจะเก็บชุดของตัวเองลงในแฟ้มและลุกขึ้น
“ขอโทษนะทีน...”เสียงไลลากระซิบแผ่วขณะก้าวลงจากรถสองแถวเก่า ๆ ที่มุ่งหน้าเข้าซอยลึกย่านชุมชนบางบัวทอง ใบหน้าเธอยังคงเปียกจากฝนปรอยๆ ที่โปรยลงมาระหว่างทาง น้ำฝนผสมเหงื่อไหลซึมตามไรผมลงสู่ปลายคางถุงผ้าที่ใส่ของใช้สำหรับน้องชายแน่นไปด้วยเสื้อยืดสีซีด ยา และเอกสารโรงพยาบาล แต่หัวใจของเธอเบากว่าเดิม — เพราะไม่มีงาน ไม่มีเงิน ไม่มีอนาคตให้คาดหวังอีกแล้วเสียงหัวเราะของผู้โดยสารคนหนึ่งในรถยังดังก้องในหัวเธอ แม้มันจะแค่ชั่วครู่ แต่กลับเหมือนมีดเล่มบางกรีดผ่านใจเธอกำลังตกงานในวันที่ไม่มีแม้แต่เงินเหลือติดกระเป๋าเกินสามหลักและพรุ่งนี้...เธอควรจะซื้อยาให้นทีแต่ยาราคาเกือบพัน — ในขณะที่เธอเหลือไม่ถึงห้าร้อยเธอนั่งนิ่งอยู่ริมถนน หัวใจว่างเปล่าราวกับหล่นหายระหว่างทางฝนตก เธอไม่แม้แต่จะปาดน้ำตาที่เริ่มรินช้า ๆ จากหางตา“อย่าเพิ่งร้องไห้...เดี๋ยวทีนจะไม่มีคนดูแล” เธอบอกตัวเองในใจอย่างร้าวลึกทันใดนั้น...เสียงโทรศัพท์มือถือที่จอแตกร้าวและปุ่มกดค้างบางปุ่มก็ดังขึ้น“ฮัลโหล?” เธอรับสายด้วยเสียงเหนื่อยล้า“คุณไลลาหรือเปล่
"ชื่อเต็ม...ไลลา อินทรานนท์"อคินนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานในห้องส่วนตัวของเขา ภายในออฟฟิศแพทย์ระดับบริหารชั้น 17 ที่มีเพียงไม่กี่คนในโรงพยาบาล RAVEN เท่านั้นที่มีสิทธิใช้โต๊ะไม้โอ๊คแท้ทาสีดำวาว เครื่องคอมพิวเตอร์สเปกสูง รายล้อมด้วยชั้นหนังสือและตู้เก็บประวัติคนไข้ที่ล็อกทุกช่องอย่างแน่นหนาชายหนุ่มแตะนิ้วลงบนจอแล็ปท็อป เขากำลังอ่านข้อความจากไฟล์รายงานที่เลขาฯ ส่วนตัวส่งมาให้เมื่อไม่ถึงสิบนาทีก่อนข้อมูลที่ปรากฏตรงหน้าทำให้เขานิ่งงันอยู่พักใหญ่— หญิงสาวอายุ 26 ปี อาศัยอยู่ในแฟลตเช่าเก่า ๆ ชุมชนแออัดย่านบางบัวทอง— อาชีพ: พนักงานเสิร์ฟร้านกาแฟ / รายได้ประมาณ 10,000 – 12,000 บาทต่อเดือน— ผู้ปกครองของ ‘ด.ช. นที อินทรานนท์’ ผู้ป่วยโรคหัวใจแต่กำเนิด— ประวัติเคยเป็นเด็กในสถานสงเคราะห์แห่งหนึ่งและที่สำคัญที่สุด — หมอประจำเคส รพ.รัฐที่เธอเคยไปรักษา ส่งเธอมา ‘ขอคำปรึกษา’ กับเขา เพราะเป็นเคสซับซ้อนหายากระดับประเทศอคินพิงหลังกับพนักเก้าอี้หนัง เสียงลมหายใจของเขาสะท
⚠️ คำเตือนเนื้อหา:❗นิยายเรื่องนี้เป็นแนวโรแมนติกดราม่าที่มีเนื้อหาค่อนข้างรุนแรงทางอารมณ์ และมีฉากความสัมพันธ์ทางกายที่เข้มข้น ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน❗ตัวละครบางตัวมีพฤติกรรมในด้านมืดและผ่านประสบการณ์ทางจิตใจที่ส่งผลต่อพฤติกรรม ความสัมพันธ์ในเรื่องไม่ได้สะท้อนแบบอย่างความรักที่เหมาะสมในชีวิตจริง🖤 นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียนเพื่อความบันเทิงเท่านั้น🖤 เหตุการณ์ ตัวละคร สถานที่ และบุคคลใด ๆ ที่ปรากฏในเรื่อง มิได้อ้างอิงหรือสะท้อนความจริง หรือเจตนาให้พาดพิงบุคคลใดในโลกแห่งความเป็นจริงผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ และรับชมด้วยใจเปิดเสรีในโลกของจินตนาการในโลกใบนี้ มีบางครั้งที่เสียงหัวเราะของเด็กคนหนึ่ง...สามารถปลุกอดีตทั้งชีวิตให้ฟื้นกลับมาได้เสียงหัวเราะแผ่วเบาแต่ชัดเจน ลอยมากับกระแสลมแอร์เย็นเฉียบภายในโถงแผนกศัลยกรรมหัวใจ โรงพยาบาลเอกชนระดับไฮเอนด์อย่าง RAVENโรงพยาบาลที่ขึ้นชื่อว่ามีค่าใช้จ่ายแพงที่สุดในประเทศ มีเครื่องมือการแพทย์ทันสมัยที่สุด และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในทุกสาขาที่คัดสรรอย่างเข้มงวด