ปึก!
"เxี้ยไรว่ะเนี่ย..." ร่างสูงที่พึ่งเดินออกจากห้องได้ไม่นานต้องสบถออกมาเสียงดัง เขาไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรมากแต่ยังคงหงุดหงิดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วทำให้เขายิ่งหัวร้อนกว่าเดิมเมื่อมีคนเผลอเดินชนเข้า เวกัสช้อนสายตาไปมองคนที่เดินมาชนเขาเต็มๆ ทว่าคนที่กระเด็นล้มลงไปกับพื้นกลับไม่ใช่เขา
"ข ขอโทษค่ะ ฉันไม่ทันระวัง" เสียงใสของคนที่กำลังก้มหน้ากุมขาตัวเองไว้เอ่ยเสียงสั่น
"เดินไม่รู้จักระวัง" ร่างหนาเอ่ยขณะที่สายตาเขาจ้องมองคนตัวเล็กที่มีเส้นผมปรกจนมองไม่เห็นใบหน้า
"ขอโทษจริงๆ ค่ะ" ก่อนที่คนที่เดินชนเขาจะเงยหน้าขึ้น แล้วทัดผมสลวยสยายยาวไว้ที่หูจนเห็นใบหน้าเต็มๆ ดวงตากลมโต ผิวขาวๆ แก้มแดงระเรื่อจากอากาศร้อนระอุ ริมฝีปากบางอมชมพูเป็นธรรมชาติทำให้เวกัสชะงักนิ่งไปทันที
"ค คุณเจ็บตรงไหนไหมคะ ฉันขอโทษนะคะ" ร่างเล็กพยายามประคองตัวเองขึ้นเดิน แต่แล้วก็เซเล็กน้อยจนต้องหาที่เกาะ เวกัสจึงก้มมองลงต่ำ ก่อนที่จะเห็นว่าข้อเท้าเธอแดงและเริ่มบวม น่าจะเกิดจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
"ทีหลังก็เดินดีๆ ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เธอจะมาเดินเที่ยวเล่นเหมือนในห้าง" เวกัสพูดทิ้งท้ายแล้วรีบเดินออกไปทันที เขาไม่ได้ใจร้ายพอที่จะปล่อยให้คนที่เจ็บทรมานต่อหน้า ทว่าก่อนที่จะออกไปเขาเห็นว่ามีร่างบางอีกคนที่คงเพื่อนเธอเดินตามมา เขาเลยเลือกที่จะเดินออกไปเพื่อรีบไปรับน้องสาวทันที
.
.
"เฮียเวย์...วาใกล้จะจบมอหกแล้วนะ" เสียงเล็กของคนที่นั่งด้านข้างคนขับพูดขึ้น เวกัสจึงเหลือบไปมองแต่ไม่เอ่ยถามอะไร
"เฮียเวย์ไม่ถามหน่อยเหรอ"
"อยากพูดก็พูด"
"เฮียจำเรื่องที่วาเคยบอกได้ไหม"
"ไม่ต้องอ้อมไกล"
"ที่วาบอกว่าจะไปเรียนต่อต่างประเทศ..."
"ไม่ให้ไป!" ไม่ทันที่วารินจะพูดจบ เสียงของเวกัสก็พูดสวนขึ้น เขาเหลือบมองใบหน้าเล็กด้วยสายตาที่ไม่พอใจ
"เฮียเวย์..."
"หยุดพูดเรื่องนี้วาริน ถ้าไม่อยากให้เฮียหงุดหงิดใส่"
"แต่ปาป๊าอนุญาตแล้ว เหลือแค่เฮียคนเดียวแล้ว" วารินเอ่ยเสียงเบา แม้จะไม่กล้าพูดออกไปแต่เพื่อความชอบของตัวเองเธอจำเป็นต้องพูด
"ไม่ก็คือไม่" เวกัสย้ำคำเดิม เขารีบเหยียบคันเร่งเพื่อให้ไปถึงบ้านเร็วที่สุด
จนกระทั่ง…
"ผมมีเรื่องจะคุยกับป๊า" เวกัสรีบเดินไปหาชายวัยกลางคนที่กำลังอยู่ในห้องรับแขก สายตาของเวกัสทำให้ธาวินผู้เป็นพ่อรู้ได้ในทันทีว่าเขากำลังจะเอ่ยพูดเรื่องอะไร
"อะไรกันลูก มีเรื่องอะไร" เพียงขวัญพูดแทรก เธอมองตามสายตาของลูกชายที่แข็งกร้าวแสดงออกชัดเจนว่ากำลังไม่พอใจอะไรบางอย่าง
"หนูขึ้นไปดูวารินก่อน พี่คุยกับลูกเอง" ธาวินหันไปบอกภรรยาสาวที่ยังดูดีจนกาลเวลาไม่สามารถทำอะไรเธอได้ เพียงขวัญจึงพยักหน้ารับ เชื่อใจในความมีเหตุผลของธาวิน แล้วรีบเดินออกจากห้องรับแขกไป
"ทำไมครับ ทั้งที่ตอนแรกป๊ายังเห็นด้วยกับผม"
"มันคืออนาคตของวาริน"
"แต่น้องยังเด็ก"
"วารินดูแลตัวเองได้ ป๊าเชื่อในลูกป๊าทุกคน เหมือนที่ป๊าเชื่อในตัวของแก"
"ป๊าต้องการบอกให้ผมอนุญาตให้น้องไป?"
"ป๊าไม่ได้บังคับ แต่การไปเรียนต่อเฉพาะทางคืออนาคตที่วารินเลือกแล้ว เธอชอบที่จะทำมันเหมือนที่แกชอบที่จะแข่งรถ และทุกคนก็ไม่มีใครขัดที่จะให้แกทำในสิ่งที่แกรักสักคน โดยเฉพาะวาริน" ธาวินพูดให้ลูกชายได้คิดตาม ก่อนหน้านี้เขาก็มีความคิดไม่ต่างไปจากเวกัส เขาหวงลูกสาวมากไม่ยอมให้ไปจนได้ภรรยาสาวที่เป็นคนเตือนสติ
"..." เวกัสเริ่มนิ่งลง จริงอย่างที่ผู้เป็นพ่อเอ่ยทุกอย่าง วารินไม่เคยห้ามเขาตอนที่เขาตัดสินใจจะเปิดสนาม แถมเธอยังให้กำลังใจทุกวันจนสนามแข่งรถของเขาเป็นที่รู้จักและสนใจกับใครหลายๆ คน
"ครับ ผมยอมให้น้องไป"
"เย้!...อุ๊บ! แหะ!" เสียงร้องหน้าประตูห้องรับแขกดังขึ้นทำให้เวกัสและธาวินหันไปมอง ก่อนที่จะเห็นว่าเป็นวารินและเพียงขวัญที่ยืนยิ้มแห้งๆ เดินเข้ามาด้วยความจำนนต่อหลักฐาน
"หนูไม่ได้ตั้งใจนะ ก็ตัวเล็กดื้อไม่ยอมฟังหนู จะมาแอบฟังท่าเดียวเลย หนูแค่มาตามลูก" เพียงขวัญรีบพูดแก้ตัวกับสามีที่กำลังใช้สายตาเข้มดุมองหน้าเธอ
"แต่หม่ามี๊ก็ยืนฟังกับหนูด้วย"
"วาริน"
"เดี๋ยวนี้ไม่เชื่อฟังพี่เหรอ อยากโดนลงโทษ?" ธาวินเอ่ยทำให้ทุกคนในห้องต่างพากันยิ้มตาม ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่สามารถห้ามความหวานของทั้สองคนได้เลยสักนิด เขาก็ยังแสดงความรักชัดเจนกันมาตลอด
"พี่วิน...ต่อหน้าลูก" มือบางฟาดแขนหนาแก้เขิน
"พักเรื่องทำโทษกันก่อนค่ะ ตกลงเฮียเวย์อนุญาตแล้วใช่ไหมคะ"
"อืม"
"เย้! คราวนี้อนุญาตทุกคนแล้ว หนูก็ไปได้แล้วใช่ไหมคะหม่ามี๊"
"ก็น่าจะแบบนั้นนะคะ"
"แต่อย่าคิดว่าจะเป็นอิสระแล้วจะทำอะไรก็ได้นะวาริน หนูต้องอยู่ภายใต้การควบคุมการ์ดของปาป๊าทุกฝีก้าว ข้อนี้เราตกลงกันแล้วนะ"
"โอเคค่า แต่ปาป๊าต้องให้ตามห่างๆ นะคะ หนูไม่อยากให้เพื่อนอึดอัดเพราะหนู"
"จะไปเมื่อไหร่"
"อีกสองเดือนค่ะ ยังอยู่กับเฮียได้นานๆ เลย" วารินยกยิ้มหวานอย่างเอาใจ ขณะที่ใบหน้าหล่อยังคงเต็มไปด้วยความกังวลอยู่ไม่น้อย เขาไม่เคยปล่อยให้คนตัวเล็กอยู่ห่างตัว เขาไม่ไว้ใจให้ใครเข้าใกล้เธอทั้งนั้น เขาไม่อยากจะคิดว่าถ้าวันนั้นมาถึงเขาคงบินตามร่างเล็กไปแน่
"อืม เปลี่ยนใจไม่ทันแล้วใช่ไหม" เรียวปากหนาเอ่ยถาม เขาเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าจะปล่อยน้องสาวตัวเล็กไปใช้ชีวิตคนเดียวได้หรือเปล่า
"ไม่ทันแล้วค่ะ" วารินส่ายหัวน้อยๆ ยกยิ้มให้พี่ชายย้ำชัดว่าเขาไม่สามารถคืนคำได้
****************
VEGAS (เวกัส)
รุ่นลูกของเรื่อง FORCED LOVE พันธกานต์รัก(เลว) (ธาวิน x เพียงขวัญ)
.
.
- SET EVIL LOVE -
1. EVIL LOVE รักร้ายนายเย็นชา (คีรัน x เอวา)
** ตอนพิเศษ
EVIL LOVE รักร้ายนายมาดกวน (คีริว x อิงดาว)
2. EVIL LOVE รักร้ายนายเดิมพัน (เวกัส x นิชา)
3. EVIL LOVE รักร้ายนายฟีนิกซ์ (ฟีนิกซ์ x ลิลิน)
หนึ่งเดือนผ่านไปหลังจากผ่านงานแต่งงานสุดเลิศหรูอลังการที่พี่เวกัสจัดให้สมฐานะของเขาแล้ว เราก็ได้มาฮันนีมูนกันตามสัญญา แน่นอนว่าสถานที่ที่เราไปก็ยังเป็นประเทศมัลดีฟส์ตามใจคุณสามีสุดที่รักเช่นเคย ฉันและพี่เวกัสนั่งเครื่องบินส่วนตัวลงมาถึงประเทศ ก่อนที่จะนั่งเรือต่อไปที่เกาะที่พี่เวกัสจัดการหาข้อมูลมาแล้ว ใช้เวลาไม่นานพวกเราสองคนก็มาถึงเรียบร้อย"สวยมาก" สายตาฉันเป็นประกายทันทีที่ได้เห็นน้ำทะเลสีฟ้าใสทั่วทุกทิศ เราพักกันเป็นรีสอร์ตกลางน้ำที่มีห้องเป็นกระจกใสทั้งสี่ทิศ มองเห็นทะเลได้ทุกเมื่อที่เราเปิดผ้าม่านสวยเหมือนภาพในความฝันที่ฉันอยากดูกับตา แล้วสุดท้ายฉันก็ได้ดูมันจริงๆ"ชอบไหมคะ?" ฉันพยักหน้าระรัวตอบพี่เวกัส ในขณะที่สายตามองทะเลตาเป็นประกาย ไม่อยากจะละสายตาออกแม้แต่วินาทีเดียวมันสวยมากจริงๆ"พี่เคยเห็นหนูบันทึกรูปทะเล ที่นี่เป็นที่เดียวกันกับรูปที่หนูบันทึกไว้" ฉันหันไปมองคนตัวสูงทันทีที่เขาพูดจบ ความเอาใจใส่เสมอต้นเสมอปลายของเขาแบบนี้มีมาตลอด ฉันไม่เคยพูดว่าอยากได้อยากไปแต่เขาก็เนรมิตทุกอย่างได้ถูกใจฉันตลอดเวลา เขาทำให้ความฝันฉันเป็นจริงทุกอย่างทั้งที่บางอย่างฉันก็ไม่ได้เรียกร้อง
"งานพี่ยังไม่เสร็จ" ฉันใช้มือบางดันแผงอกแกร่วไว้ ปรายตามองแฟ้มเอกสารบนโต๊ะที่เขาต้องรีบจัดการให้เสร็จ"ไว้ค่อยทำ" ร่างสูงไม่คิดจะสนใจมันเลยสักนิด เขาล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์เครื่องหรู ก่อนที่จะกดเบอร์โทรหาใครบางคนในขณะที่สายตาก็มองฉันราวกับอยากจะกลืนกินไปทั้งตัว"บอกเลขากูว่าเลื่อนเอกสารที่จะส่งให้ลูกค้าออกไปก่อน ถ้ารอไม่ได้ก็ยกเลิกสัญญาไป แล้วอย่าให้ใครมารบกวนห้องกู"ติ๊ด.ฉันยังไม่ทันได้ยินคำตอบจากปลายสายพี่เวกัสก็กดตัดสายไปเรียบร้อยแล้ว เขาหันมาสนใจฉันอีกครั้ง มือหนาก็ลูบไล้ขาอ่อนผ่านกระโปรงพลีทนักศึกษาที่ฉันสวมใส่"เซ็นเอกสารก่อนไหมคะ แค่สองแฟ้มเอง" ฉันพยายามห้ามเขาไว้ คิดจะเสียลูกค้าง่ายๆ แบบนี้ไปเลยเหรอ…เพียงเพราะอยากกินฉันเนี่ยนะ"พี่รอไม่ได้แล้วค่ะ" เสียงทุ้มเอ่ยแหบแห้งข้างหูจนขนกายลุกซู่กับความร้อนแรงที่กำลังจะเริ่มเกิดขึ้น ฉันมองเขาด้วยสายตาที่เป็นประกาย ยอมตัวอ่อนระทวยเป็นของเขาอย่างเช่นทุกครั้งไม่มีขัด เพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำที่เป่าหูฉันจนยอมพลีกายเป็นของเขาแต่โดยดี"รอไม่ได้ ก็ไม่ต้องรอแล้วค่ะ" ฉันยิ้มหวานๆ ตอบเขา มือบางก็โอบรอบคออย่างเชื้อเชิญ"เมียพี่น่ารักจริงๆ" ว่าจบคน
"นายประชุมอยู่ครับ อีกไม่เกินสิบนาทีจะเสร็จแล้วครับ" ฉันลงจากรถสปอร์ตหรูด้วยชุดนักศึกษา หลังจากที่เลิกเรียนก็ถูกบอดี้การ์ดของพี่เวกัสขับมาที่บริษัทของเขาตามคำสั่งของพี่เวกัส ฉันยิ้มรับเข้าใจในคำบอกของพี่การ์ด ก่อนที่เราสองคนจะเดินเข้าไปในบริษัทของพี่เวกัสตามปกติเช่นทุกวันฉันยิ้มแห้งๆ เมื่อผ่านไปทางไหนพนักงานก็จะคอยหยุดเดินแล้วก้มหัวให้ฉันด้วยความเคารพ เอาจริงๆ ยังไม่ค่อยชินกับอะไรแบบนี้เลย บางคนอายุเยอะกว่าฉันด้วยซ้ำแต่ฉันก็ต้องทำตัวชินเพราะพี่เวกัสสั่งไว้"พี่พายุวางของบนโต๊ะได้เลยนะคะ" ฉันบอกบอดี้การ์ดที่พี่เวกัสให้ตามติดตัวฉันไปทุกที่ พี่พายุพยักหน้าแล้ววางถุงขนมที่ถือพะรุงพะรังของฉันไว้บนโต๊ะกลางของห้องทำงานใหญ่โต ก่อนที่เขาจะก้มหัวให้ฉันเล็กน้อยแล้วเดินออกไปจากห้องนั่งรอไม่นานเสียงประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออก เจ้าของห้องทำงานเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเหนื่อยล้าจากการประชุม พอเห็นฉันก็รีบเดินเข้ามาล้มมานั่งด้านข้างฉันทันที"เหนื่อยเหรอคะ?" ฉันหันไปถามร่างสูง ช่วงนี้เขาทำงานหนักทั้งวันทั้งคืนแทบไม่ค่อยได้พักผ่อนเลย"นิดหน่อยครับ" เรียวปากหนายกยิ้มบางๆ มองฉัน ก่อนที่จะหลับตาลงพักแล้วโน้มม
"จะแข่งแล้วๆ" เจ๊ๆ รีบตะโกนโหวกเหวกด้วยความตื่นเต้น ก่อนที่ทุกคนจะตั้งหน้าตั้งตารอการแข่งขันแมตช์พิเศษที่กำลังจะเริ่มขึ้น รวมไปถึงฉันที่จดจ้องร่างสูงผ่านรถแข่งคันโฉบเฉี่ยวคนละสไตล์กัน ฉันกุมมือตัวเองแน่นเฝ้ารอการแข่งขันที่ถึงแม้จะเป็นแค่การทำเพื่อโปรโมทสนามแข่ง แต่ทั้งสองคนที่กำลังลงท้าชิงกลับมีอิทธิพลต่อใจทั้งคู่ ในใจได้แต่ภาวนาไม่ให้ทั้งสองคนเป็นอะไรไปจากแข่งในครั้งนี้ ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีและได้ในสิ่งที่พี่เวกัสหวังและต้องการอยากให้สนามแข่งของเขาโด่งดังไปไกลกว่าเดิมปั๊ง!เสียงปืนยิงขึ้นฟ้าส่งสัญญาณการเริ่มออกตัวของนักแข่งซ้ายขวา ธงลายขาวดำโบกสะบัดพลิ้วไหวด้วยพริตตี้สาวสุดสวย ก่อนที่รถยนต์สองคันจะเหยียบคันเร่งพุ่งตัวออกจากจุดสตาร์ทพร้อมกัน แล่นบนถนนสำหรับการแข่งขันด้วยความเร็วที่ทำเอาฉันหวาดเสียวมองตามอย่างไม่ละสายตาเสียงกล้องของสื่อมวลชนกดถ่ายชัตเตอร์รัวๆ เฝ้ารอการแข่งขันสุดดุเดือดระหว่างนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ควบคู่ด้วยตำแหน่งเจ้าของสนามแข่งที่ใหญ่ติดอันดับกับนักแข่งรถมืออาชีพที่โด่งดังไปไกลถึงต่างประเทศนั้นก็คือพี่ชายฉันเอง"โอ้ย…กินกันไม่ลงเลย" พี่อิงดาวจากที่นั่งในตอน
"สวัสดีค่ะ" ฉันเดินเข้าไปในสำนักงานของพี่เวกัสที่มีบรรดาพี่น้องและแฟนพี่น้องของเขาอยู่กันครบคน ซึ่งทุกคนฉันก็สนิทกันหมดแล้วเพราะเจอกันอยู่บ่อยๆ นั้นก็รวมไปถึงแฟนของพี่ๆ เขาที่เป็นมิตรและเข้ากันได้ทุกคนเลย แก็งนี้เขามีสเปคไม่ต่างกันเลย สวย อ่อนโยน และใจดีเหมือนกันหมด แต่ก็จะมีบางคนที่มีความห้าวไปนิดหน่อยเช่นพี่น้ำขิงพี่สาวฉันแฟนพี่ไลก้า และพี่อิงดาวแฟนพี่คีริว พี่ลิลินที่เป็นพี่สาวของพี่ไลก้า สามคนนี้นิสัยคล้ายกันมาก ฉันเลยเข้ากับพวกเขาได้ง่ายสบายเลย"น้องนิชาสวยจังเลยค่ะ" พี่เอวาแฟนพี่คีรันทักฉันขึ้น ทำเอาฉันยิ้มเขินหน้าแดงกับหลายสายตาที่กำลังมองมาที่ฉันอยู่เหมือนกัน"ขอบคุณค่ะ พี่เอวาก็สวยมากเหมือนกันค่ะ" พี่เอวายิ้มตอบ ฉันก็ละสายตามองออกไปรอบๆ เพื่อหานักแข่งทั้งสองคนในวันนี้ จนเห็นผ่านหน้าจอว่ากำลังเดินคุยกับลูกน้องในการเช็คสภาพรถให้พร้อมแข่งขัน"ใกล้แข่งแล้ว รีบออกไปกันเถอะ" หนึ่งในทีมคนเชียร์ที่เป็นพี่น้องเขาพูดขึ้น"วันนี้ออกไปดูกันข้างนอกเหรอคะ?" ทำเอาฉันรีบถามทันที เพราะปกติพวกเขาจะชอบดูผ่านหน้าจอในสำนักงาน แต่วันนี้แปลกกลับไปดูติดขอบสนามเลย"ครับ วันนี้พิเศษหน่อย มันอยากให้พวก
มาถึงวันที่ฉันไม่ค่อยอยากให้มาถึงเท่าไหร่เลย วันที่พี่เวกัสและพี่นาวินต้องลงสนามแข่งจริงจังแมตช์กระชับมิตรที่จะโฆษณาสนามแข่งรถของพี่เวกัสให้ดังไปทั่ว ไม่เว้นแม้แต่ชาวต่างชาติที่เริ่มมีบทบาทในการประชาสัมพันธ์ในครั้งนี้ด้วย"คุณพลอยและคุณน้ำขิงมาถึงแล้วครับ" เสียงทุ้มของบอดี้การ์ดพี่เวกัสที่รอประจำอยู่หน้าห้องพูดขึ้นมา เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของฉันที่ตามฉันไปทุกที่ตั้งแต่ที่พี่เวกัสขึ้นรับตำแหน่งแทนลุงธาวิน ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่ปล่อยให้ฉันไปไหนมาไหนคนเดียวอีกเพื่อความปลอดภัยของฉันที่ไม่รู้จะเกิดตอนไหนฉันไม่ได้ต่อต้านอะไรเพราะคิดว่าทุกอย่างคือความสบายใจของพี่เวกัส ปล่อยให้เขาทำในสิ่งที่เขาอุ่นใจจะดีกว่า"ให้เข้ามาเลยค่ะ" ฉันตอบพี่การ์ดเสร็จเขาก็ก้มหัวแล้วเดินออกไป ตามด้วยเสียงฝีเท้าของคนที่มาถึงรีบเดินเข้ามาหาฉัน"ทำไมถึงมากันเร็ว…น้องวาริน!" ฉันไม่ทันพูดจบก็รีบพูดดังเสียงตกใจเมื่อคนที่เดินเข้ามาดันไม่มีแค่พลอยและพี่น้ำขิง แต่กลับมีน้องสาวของพี่เวกัสที่เดินยิ้มเข้ามาเซอร์ไพรส์หลังจากที่เราไม่ได้เจอกันเกือบหลายเดือน เจอครั้งล่าสุดก็ตอนที่ฉันกับพี่เวกัสไปเยี่ยมน้องถึงที่"กลับมาวันไหนแล้วคะ