เมื่อผู้ชายเพลย์บอยถูกเเม่บังคับให้เลือกคู่หมั้นเพียงคนเดียวจากผู้หญิงทั้งหมด 5 คน ที่อยู่ๆ ก็มาให้เขาเลือกถึงที่ เเต่ดูเหมือนจะมีเพียงคนเดียวที่คอยทำท่ารังเกียจเขาอยู่ตลอดเวลา เเต่กับผู้ชายคนอื่น….
ดูเพิ่มเติมวันนี้เป็นอีกวันที่หญิงสาวยังคงเดินยื่นเอกสารสมัครงานตามบริษัทต่างๆ โชคดีที่วันนี้ทางบริษัทเพชรพร บริษัทยักษ์ใหญ่เรื่องการนำเข้าจิวเวลรี่เรียกเธอเข้ามาสัมภาษณ์งานโดยเธอแอบหวังเล็กๆ ว่าเธอจะต้องได้ทำงานที่นี่เพราะเธอรู้สึกเหนื่อยล้าและเต็มไปด้วยความสิ้นหวังมานานเหลือเกิน ขืนยังไม่มีงานทำบ้านที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ก่อนท่านเสียคงถูกยึดแน่เพราะนี่ก็จะถึงกำหนดยึดแล้ว
หญิงสาวยืนสูดหายใจเข้ายาวๆ เป็นการเรียกขวัญกำลังใจก่อนที่มือเรียวจะค่อยๆ เอื้อมไปผลักบานประตูแล้วก้าวเข้าไปด้วยท่าทางมั่นใจแต่เมื่อมองไปยังในห้องกลับไม่พบใครสักคน หญิงสาวจึงเดินไปนั่งรอยังโซฟาตัวยาวอาจเป็นได้ว่าเธอตื่นเต้นจนมาเช้าก่อนเวลาถือว่ามันเป็นการเพิ่มเวลาเตรียมตัว ปึก เสียงผลักประตูเรียกความสนใจจากหญิงสาว ภาพตรงหน้าคือผู้หญิงวัยกลางคนที่มีท่าทางสง่างามจนเธอรู้สึกหายใจไม่สะดวกจากท่าทีน่าเกรงขามของคุณผู้หญิงคนนั้น "สวัสดีค่ะ" "อืม แนะนำตัวสิ" ผู้หญิงภูมิฐานใส่สร้อยเพชรเส้นโตเดินเข้ามานั่งบนโซฟาตรงข้ามเธอในห้องสัมภาษณ์โดยยังคงใช้สายตาไล่สำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับว่ากำลังไล่ตรวจความเรียบร้อยของการแต่งตัวของเธอยิ่งทำให้เธอต้องมองตามสายตาคมนั้น ในใจก็แอบคิดไปว่าเดี๋ยวนี้ฝ่ายบุคคลท่าทางสง่างามบ่งบอกว่าเป็นคนมีฐานะขนาดนี้เลยเชียวเหรอ "ชื่อนางสาวริลลนี สีสุคน อายุ 24 ปี จบทางด้านการตลาดค่ะ" "เดี๋ยวหยุดก่อน...ต่อไปนี้ตอบคำถามฉันอย่างตรงไปตรงมา" "คะ?" หญิงสาวงุนงงเล็กน้อยจากสิ่งที่เกิดตรงหน้าผู้หญิงวัยกลางคนคนนี้กำลังกอดอกมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกครั้งก่อนจะยิ่งคำถามที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับงานที่เธอตั้งใจมาสมัครเสียเท่าไหร่ แต่ตามมารยาทเธอจึงต้องตอบไปตามตรง "พ่อแม่เธอเสียชีวิตแล้วใช่ไหมแล้วเธอมีพี่น้องหรือเปล่า" "ค่ะ จากอุบัติเหตุรถตกเขาเมื่อ 2 ปีที่แล้วค่ะ ดิฉันเป็นลูกคนเดียว" "บ้านกำลังจะถูกยึดสินะ ..." "!!" เธอนิ่งในใจสับสนไปพักใหญ่ ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงรู้เรื่องบ้านของเธอได้เธอไม่เคยบอกใครไม่มีญาติที่ไหนแล้วทำไมถึง... "ไม่ต้องร้อนใจ เอาเป็นว่าเข้าเรื่องเลยดีกว่า ฉันจะจ้างเธอมาเป็นหนึ่งในตัวเลือกว่าที่คู่หมั้นของลูกชายจอมเสเพลของฉัน" "คะ? ทำไม...คือฉันไม่ได้ขายตัว" หญิงสาวเสียงแข็งมือเรียวก็เอื้อมไปหยิบซองเอกสารข้างตัวด้วยความโกรธเกรี้ยวแล้วเตรียมตัวลุกขึ้นออกจากห้อง เพราะสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้พูดออกมาไม่ต่างกับการดูถูกเธอเลยแม้แต่น้อย หญิงสาววัยกลางคนเองก็คิดไว้อยู่แล้วว่าเด็กคนนี้ไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นในใจคุณหญิงแค่อยากจะได้ใครสักคนที่พอจะหยุดความเจ้าชู้ของลูกชายตัวดีได้บ้างแล้วอยู่ๆ เธอก็ดันเห็นเด็กคนนี้เข้ามายื่นใบสมัครความถูกชะตาแบบไม่เคยเป็นมาก่อนทำให้คุณหญิงต้องเข้าตามสืบเรื่องของเด็กคนนี้เพื่อมาเป็นข้อผูกมัด หรือพูดตามตรงคือเธอมีความคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะสามารถสยบลูกชายตัวดีของเธอได้ "แลกกับบ้านของพ่อแม่เธอที่กำลังจะถูกยึดใช้เวลาไม่นานหรอก แค่...สองเดือนเท่านั้นอีกอย่างลูกฉันยังมีตัวเลือกอื่นอีกตั้ง 4 คน ถ้าเธอไม่ชอบเขาก็แค่ปล่อยให้เวลามันหมดไป" "แล้วทำไมต้องเป็นฉันละคะ" "ไม่รู้สิ ฉันเลือกจากความถูกชะตา คิดในแง่ดีสิริลเธออาจจะไม่ใช่คนที่ลูกฉันเลือกแล้วยังได้บ้านกลับมาฟรีๆ และฉันยังมีเงินเดือนให้เธอเดือนละ 5 หมื่น" หญิงสาวมองหน้าหญิงวัยกลางคนอย่างหาคำตอบ ข้อเสนอนี้มันไม่ต่างกับการขายตัวด้วยซ้ำ! แต่บ้านของเธอกำลังจะถูกยึดเดือนนี้ถ้าไม่รับข้อเสนอนี้บ้านที่แสนอบอุ่นของพ่อแม่คงต้องถูกยึดไป มันเป็นสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ในชีวิตที่ไร้จุดหมายของเธอ ตอนนั้นที่พ่อแม่เสียไปมันเกิดขึ้นกะทันหันริลไม่มีเงินพอที่จะส่งตัวเองเรียนเลยต้องจำใจเอาบ้านเข้าธนาคารและสุดท้ายพอเรียนจบมามันหลับไม่เป็นอย่างที่เธอหวังเพราะชีวิตมันไม่ง่ายเหมือนสิ่งที่ฝันเธอยังคงตกอยู่ในสภาพคนตกงานจนถึงวันนี้แต่ถ้าคิดตามความจริงลูกชายคนรวยจะมาสนคนอย่างเธอได้ยังไงละเธอทั้งธรรมดาหน้าตาไม่ได้สาวจนใครๆ ต้องหันมองเพียงแค่เธอทนใช้ชีวิตไปให้พ้นสองเดือนก็ได้บ้านกลับมามันก็ฟังดูคุ้มค่าไม่น้อย "...คุณหญิงค่ะ..." "ว่าไง?" ริลลินีนั่งลงอีกครั้งหลังจากพินิจดูถึงความเป็นไปได้ที่เธอคงไม่ถูกเลือกจึงคิดว่าข้อเสนอนี้ก็คุ้มค่าไม่น้อย "4 คนที่เหลือเขาเป็นใครแบบไหนฉันถามได้ไหมคะ" คุณหญิงหัวเราะแล้วพยักหน้าสองสามที "ได้สิ คนที่ 1 ที่ฉันเลือกเป็นลูกของเพื่อนฉันเองเป็นลูกเจ้าของบริษัทส่งออกผักออร์แกนิค คนที่ 2 นางแบบลูกครึ่งญี่ปุ่นที่ฉันบังเอิญเจอในงานแฟชั่นโชว์ คนที่ 3 คุณหนูสุดเรียบร้อยจากวงศ์ตระกูลที่ขึ้นชื่อว่ารวยอันดับสามของประเทศ คนที่ 4 ลูกเพื่อนสนิทฉันที่หลงรักเจ้าเฟร์สมาตั้งแต่เด็ก" "เฟร์ส..." "นั้นชื่อลูกชายฉันเอง ที่ฉันทำแบบนี้ไม่ได้อยากจะดูถูกลูกผู้หญิงด้วยกันหรอกนะแต่ที่ฉันทำฉันอยากให้ลูกชายฉันหยุดเปลี่ยนคู่นอนไปทั่วแบบนี้ถึงไอ้ตัวดีมันจะบอกว่าป้องกันแต่พวกผู้หญิงที่อยากจับคนรวยก็มีเยอะฉันไม่อยากมีหลานโดยที่ฉันไม่รับรู้" อยู่ๆ คุณหญิงก็อารมณ์เสียขึ้นมาดื้อๆ นั้นทำให้หญิงสาวคิดได้ว่าผู้ชายคนนี้ต้องมีนิสัยเจ้าชู้มากแน่นอนจนทำให้คนเป็นแม่ต้องมานั่งทุกข์ใจได้ถึงเพียงนี้ แต่เท่าที่เธอได้ฟังมาตัวเลือกอื่นๆ น่าเลือกกว่าตัวเธอมากโข......ถ้าจะรับงานนี้เพื่อได้บ้านกลับมามันจะคุ้มอย่างที่คิดใช่ไหมนะ "ค่ะ! คุณหญิงดิฉันรับงานนี้" หลังจากคุยเรื่องงานและเซ็นสัญญาซื้อขายบ้านรวมไปถึงข้อตกลงว่าจ้างเป็นว่าที่คู่หมั้น ตอนนี้ได้บ้านกลับมาในชื่อคุณหญิงเพชรพรถ้าสิ้นสุดงานไปด้วยดีท่านจะโอนเป็นชื่อหญิงสาวทันทีส่วนข้อตกลงในการเป็นหนึ่งในว่าที่คู่หมั้นคือ 1.ต้องเข้าไปอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกับคุณเฟร์สและผู้หญิงอีก 4 คน ตลอด 2เดือน 2.ตัวเธอกับผู้หญิงทั้ง 4 คนต้องเปลี่ยนกันไปเป็นเลขาคุณเฟร์สตลอดทั้ง 2 เดือน 3.หญิงสาวต้องทำตามคำสั่งคุณเฟร์สทุกอย่าง ห้ามขัด 4.ต้องกินข้าวเช้าร่วมโต๊ะกันทั้งคุณเฟร์สและผู้หญิงคนอื่น สิ่งที่หญิงสาวต้องทำก็ไม่ได้เป็นเรื่องลำบากอะไรและแน่นอนเธอตั้งใจจะเลือกห้องที่ไกลจากห้องคุณเฟร์สมากที่สุดเท่าที่จะทำได้และเธอจะแสดงออกอย่างชัดเจนว่ารับงานนี้เพราะเงินเท่านั้น ถึงเขาจะมองเธอเป็นที่แย่ยังไงก็เชิญเพราะเธอไม่ได้มีความคิดที่จะอยากจับผู้ชายรวยอยู่แล้ว ปื๊ดๆ เสียงรถจากบ้านคุณเพชรพรจอดรถเทียบหน้าบ้านหญิงสาวก่อนที่คนขับรถจะช่วยกระเป๋าใบโตสำหรับสองเดือนขึ้นท้ายรถ ตรงไปยังคฤหาสน์สุดหรูตลอดทางริลได้แต่คิดว่าไปว่าเธอทำถูกแล้วใช่ไหมที่เลือกทางที่ไม่ต่างจากการขายตัวเช่นนี้ ชั่วระยะเวลาไม่นานรถคันหรูก็เลี้ยวเข้ามายังคฤหาสน์หลังโตผ่านสวนดอกกล้วยไม้ยาวที่คอยส่งกลิ่นหอมทะลุเข้ามาในรถ เธออดจะมองรอบข้างตามทางที่สวยงามนี่ไม่ได้เลย ทุ่งหญ้ากว้างสีเขียวสดใสที่ได้รับการดูแลและต้นไม้ประดับที่ตัดแต่งให้เป็นระเบียบบ่งบอกถึงการเอาใจใส่ของเจ้าของบ้านเป็นอย่างดี แม้แต่ใบไม้แห้งใบเดียวก็ยังไม่มีให้เห็น เมื่อเข้ามาในตัวบ้านยิ่งทำให้หญิงสาวตื่นตระหนกไปกันใหญ่เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างดูหรูหราจนเธอไม่กล้าแม้คิดจะลองนั่ง โคมไฟระย้าสไตล์ยุโรปอันโตกลางบ้านยิ่งทำให้เธอหวาดเสียวกลัวว่ามันจะตกลงมาทับแต่อดจะยื่นมองความระยิบระยับนั้นไม่ได้เสียนี่ ด้วยความที่ยังตื่นตาตื่นใจทำให้เธอไม่ทันเห็นแม่บ้านวัยกลางคนที่เดินเข้ามายืนอมยิ้มมองเธออยู่นานแล้ว "ว๊าวว..." "เชิญคุณหนูเลือกห้องด้านบนกับป้าด้านนี้เลยค่ะ" "โหะ! สะ สวัสดีค่ะ" "สวัสดีค่ะ คุณคงเป็นผู้หญิงที่นายท่านบอกสินะคะ" "ก็...คงอย่างงั้นค่ะ" "ไม่ต้องกังวลค่ะ อยู่ที่นี่ทำตัวตามสบายได้เลย ตามป้ามาทางนี้นะคะ" คุณป้าท่าทางใจดีเดินมารับหญิงสาวเพื่อพาไปเลือกห้องที่ชั้นสองเธอยังคงมองไปรอบๆ แล้วไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้อาศัยในบ้านหรูขนาดใหญ่แบบนี้ คุณป้าแม่บ้านที่เห็นความตื่นเต้นของหญิงสาวก็นึกเอ็นดูไม่น้อยถึงจะรู้ว่าเด็กคนนี้เข้ามาที่นี่เพราะอะไรแต่เธอก็ไม่คิดจะตัดสินคนเพียงแค่รู้สักไม่กี่นาที "ป้าค่ะ ห้องคุณเฟร์สห้องไหนคะ" "ห้องริมสุดด้านขวาค่ะ" "งั้นหนูเลือกห้องซ้ายสุดเลยค่ะ" หญิงสาวยิ้มแห้ง ให้กับคุณป้าที่มีท่าทีงงๆ ที่เธอทำเหมือนไม่ต้องการอยู่ใกล้คุณเฟร์สอย่างออกหน้าออกตา แต่คุณป้าก็ไม่ได้ขัดอะไรทำให้หญิงสาวได้ห้องตามที่ต้องการ ภายในห้องที่เลือกถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีขาวนวลดูหวานสบายตาอุปกรณ์ในห้องครบครันจนนึกได้ว่าห้องนี้ยังกว้างกว่าห้องโถงบ้านเธอสะอีกถ้าที่นี่เป็นโรงแรมคืนหนึ่งคงแพงมากหน้าดู "เชิญคุณหนูตามสบายนะคะ อีกสักพักคนอื่นๆ ก็คงจะมาแล้วเดี๋ยวช่วงค่ำจะให้คนขึ้นมาตามนะคะ" "เอิ่ม...ป้าคะ? คุณเฟร์สนี่น่ากลัวไหมคะ" "หมายถึงด้านไหนละคะ ถ้าเป็นนิสัยคุณเขาขี้อ้อนป้าประจำแต่เป็นเรื่องผู้หญิงก็ต้องทำใจหน่อยนะคะ"ป้ายิ้มอย่างใจดีตอบหญิงสาว "เยอะมากเลยเหรอคะ" "ก็เรื่อยๆ เลยค่ะ แต่คุณเธอไม่พามาบ้านหรอกค่ะไม่ต้องห่วง" "ขอบคุณค่ะ^_^" "คุณหนูจะให้เรียกว่าอะไรดีคะ" "เรียกริลเฉยๆ ก็ได้ค่ะ^_^" "ไม่ได้หรอกค่ะ เดี๋ยวคุณหญิงว่าเอาคุณหนูริลเป็นถึงว่าที่คู่หมั้น" "เอาจริงๆ ริลจำเป็นนะคะ แอๆ" คุณป้าใจดียิ้มตอบอีกครั้งแล้วเดินออกจากประตูไปทิ้งให้หญิงสาวได้มีเวลาเดินสำรวจของที่เป็นของเธอตลอดสัญญานี่ หญิงสาวเดินใช้มือสัมผัสเตียงขาวที่มีขนาดกว้างจนเธอสามารถนอนกลิ้งไปมาได้หลายตลบแล้วเดินไปดูยังห้องน้ำที่มีอยู่ในห้องเมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ยิ่งตกใจที่ด้านในห้องน้ำนี่ยังกว้างกว่าห้องนอนเธอด้วยซ้ำ เดินออกมาอีกไม่กี่ก้าวเป็นระเบียงเล็กที่พอจะให้มีที่นั่งรับลมพร้อมโซฟาขนาดเล็กสำหรับนั่งพักและมองวิวนี่สินะบ้านคนรวยเหมือนในหนังคงได้เวลาพักผ่อนสักที ...ใจเธอรู้สึกโล่งขึ้นมากที่ไม่ต้องเสียบ้านไปถึงจะต้องแลกด้วยเวลาชีวิตตั้งสองเดือนแต่มันคงคุ้มพอ "เฮ้อ ถือว่าโชคดีได้มาพักร้อนแบบฟรีๆ แล้วกันนะริล"“ไหนว่าจะกลับบ้านไงแล้วนี่คุณพาฉันมาที่ไหน…”“นี่บริษัทลิบิน”“หะ? ละ แล้วมาทำไม หรือว่าอันดาเขา…”“มันบอกหมดแล้ว เธอคิดว่าคนอย่างฉันจะปล่อยให้ไอ้เพื่อนบ้านี่ใช้ชีวิตสบายๆ ทั้งที่หลอกฉันขนาดนี้น่ะเหรอ?”พูดแล้วเฟร์สก็โกรธจนลมออกหู ให้ตายเหอะ! ไม่คิดว่าเพื่อนรักจะทำกับเขาได้ขนาดนี้“กลับเถอะ เราก็ดีกันแล้วนิ นะๆ” ริลทำหน้าอ้อนเพราะไม่อยากให้ลิบินต้องโดนอะไรจากเฟร์ส แต่มันสายไปแล้วเมื่อร่างที่คุ้นเคยเปิดประตูเข้ามา ลิบินที่เห็นเฟร์สอยู่กับริลก็ได้แต่กลืนน้ำลายลงคอทันที“อะ อ้าว ดีกันแล้วเหรอ ดีๆ เพื่อนรักมีความสุขก็ดี”ลิบินเดินเข้ามากอดเฟร์สอย่างพยายามเก็บอาการ ใจหวังว่าเจ้าเพื่อนรักจะไม่รู้ว่าตัวเองมีส่วนกับเรื่องนี้“หึๆ เพื่อนรักแกก็รู้ดีว่าฉันรักแกมาก มีอะไรก็ช่วยตลอดตอนที่ทะเลาะกับคะน้าก็ฉันนี่แหละที่ช่วยให้คืนดีกัน….เพราะฉะนั้น…”“พะ เพราะฉะนั้น? ....”“ฉันเห็นแกเหนื่อยมากที่ต้องฟังคำบ่นของคะน้าบ่อยๆ เลยส่งคะน้า....ไปพักผ่อนเมาดีฟกับนายแบบชั้นนำซักสามสี่วันน่ะนะ”“ห๊า! แก....อย่ามาหลอกฉันวันนี้ตอนเช้าคะน้าเพิ่งมาส่งฉัน”“ใช่ไง ไม่สงสัยเหรอว่าทำไมอยู่ๆ คะน้าถึงอาสามาส่งแกที่ทำงาน
“วันนี้คุณไม่ต้องไปส่งผมนะ เดี๋ยวผมจะแวะไปที่ที่หนึ่งก่อน”“ได้ค่ะ ของที่ท่านประธานสั่งดิฉันไว้ถูกส่งไปตามที่บอกเรียบร้อยแล้วค่ะ”“โอเค พอดีเลยวันนี้ผมจะเข้าไปเช็กดูถ้าขาดเหลืออะไร ขอรบกวนคุณอีกรอบแล้วกันนะ”“ได้ค่ะ”“ขอบใจมาก”อันดาขับรถออกจากบริษัทมุ่งหน้าไปคอนโดลับที่แม่ของเฟร์สซ่อนริลไว้ แต่พอขับมาได้ครึ่งทางเขากลับรู้สึกว่ารถรอบๆ ตัวเขาตอนนี้มีลักษณะการขับที่แปลกๆ เหมือนรถทั้งสามคันที่ประกบทั้ง ซ้าย ขวา หน้า หลัง นี่พยายามขับไปทางเดียวกับเขาตลอด“ใช่แน่ๆ ต้องเป็นเฟร์สแน่”เมื่อสังเกตจนมั่นใจว่าคนในรถต้องมีเจตนาตามเขาก็ไม่แปลกเลยที่เขาจะรู้ได้ทันทีว่าใครเป็นคนบงการ ไหนคุณหญิงบอกว่าเฟร์สยอมถอยห่างจากริลโดนดี ทำไมอยู่ถึงมาส่งคนตามเขาแบบนี้ปึก!ก้อนกระดาษกลมๆ ถูกปาเข้าที่กระจกฝั่งคนขับ เมื่ออันดาหันไปตามเสียงก็เจอว่าเฟร์สกำลังกอดอกยิ้มให้เขาอยู่ ขนเขาลุกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเพราะความกลัว สมองก็รับรู้ได้ทันทีว่าเฟร์สกำลังคิดจะทำอะไม่ดีกับเขาแน่“จอดรถ เดี๋ยว นี้!”กระบอกปืนสีดำถูกเล็งมาทางเขา นาทีนั้นวิญญาณอันดาจะออกจากร่างให้ได้“แย่แล้วอันดา จะเอาถึงตายเลยเหรอ งืออออ”อันดาใจสั่น ค
สามวันที่เฟร์สขังตัวเองไว้ในห้องมืดๆ เขาไม่ยอมกินไม่นอนเอาแต่นั่งร้องไห้ด้วยความช็อกกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา ใจเขาเจ็บปวด มันเจ็บจนไม่รู้จะผ่านเวลาแบบนี้ไปได้ยังไง ด้านนอกประตูมีคุณหญิงที่ในใจก็แอบห่วงลูกชายเฝ้าอยู่ไม่ห่างเธอกลัวว่าคนที่ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้อย่างเฟร์สจะคิดทำร้ายตัวเองขึ้นมา“คุณหญิงคะ? คุณเฟร์ส”“ฉันรู้น่า บางครั้ง….การที่เรานั่งสั่งสอนก็ไม่เท่ากับให้เขาได้เจอประสบการณ์จริง สิ่งที่ฉันทำมันอาจจะทำให้ลูกเจ็บนะ...เธออย่าลืมว่าคนเป็นแม่เจ็บกว่าลูก แต่นี่ เป็นสิ่งที่เขาควรได้รับเขาจะได้รู้ว่าการเห็นแก่ตัวมันส่งผลแย่แค่ไหน”คุณหญิงพูดให้ป้าแม่บ้านฟังเป็นการระบายความทุกข์ใจ เธอรู้สึกสงสารลูกมากแต่...เธอก็ต้องทำการใช้แผนนี้มันเสี่ยงมากที่จะทำให้เฟร์สเสียริลไปตลอดการที่ริลได้อยู่คนเดียวถ้าเธอไม่ได้รักเฟร์สจริง โอกาสที่เธอจะใช้เวลานี้ทำใจก็ลืมเรื่องทั้งหมดก็มีมาก“คุณหญิงจะใช้เวลานานขนาดไหนคะ? ถ้าคุณเฟร์สคิดมากจน….”“ฉันก็ไม่รู้หรอก แต่ยังไงก็ช่วยดูเขาตลอดแล้วกัน”“ได้ค่ะ”ระหว่างที่คุณหญิงกำลังจะเดินออกมาเธอก็พบเข้ากับโชนที่แอบยืนฟังอยู่นานแล้ว โชนที่กำลังสับสนกับสิ่งที่ได้ยิ
…………………“ฉันมีสิ่งที่อยากจะพูดค่ะ….”"ว่ามาสิ”“ฉันช่วยคุณในการดัดนิสัยลูกชายได้ จริงอยู่ที่ฉันเองก็รู้สึกดีกับเขาในบางครั้งแต่ฉันไม่สามารถอยู่กับคนที่เห็นฉันเป็นแค่ที่ระบายความใคร่ได้หรอกค่ะ….ถึงแม้วันหนึ่งเขาจะเปลี่ยนเป็นคนที่ดีขึ้น....แต่สิ่งที่เขาทำกับฉัน....ฉันไม่เคยลืมและไม่สามารถยอมรับได้จริงๆ”คุณหญิงถอนหายใจยาว ตามที่คิดไว้อยู่แล้วว่าตัวหญิงสาวคงไม่ให้อภัยลูกนิสัยไม่ดีของเธอ แต่ถึงคุณหญิงจะถูกใจตัวริลมากเท่าไหร่แต่ถ้าเจ้าตัวมีอคติต่อกันมากกว่าความรัก เธอก็ต้องยอมรับในการตัดสินใจของผู้หญิงคนนี้“...ฉันรู้ว่าเธอเจ็บ”“ค่ะ เพราะฉันเป็นมนุษย์คนหนึ่งมีความคิดความรู้สึก อย่างน้อยถ้าเขาเจ็บปวดเพราะฉันมันจะทำให้เขาได้รับรู้บ้างว่าสิ่งที่เขาทำเวรกรรมมันจะสนองยังไง เขาจะได้รู้จักกับคำว่าทรมานสะบ้าง ฉันไม่ได้แค้นอะไรมากหรอกนะคะ….แต่ฉันเองก็อยากให้บทเรียนเขาเหมือนกัน”“ถ้าเธอไม่คิดที่จะอยู่กับเขา….ฉันก็ทำอะไรไม่ได้”ฉันอยู่ในร้านอาหารเดิมแต่คู่สนทนาเปลี่ยนไป ต่อหน้าฉันตอนนี้ไม่ใช่คุณหญิงแต่เป็นลิบินและอันดาเจ้านายของฉัน ลิบินจะเป็นคนเชื่อมแผนทุกอย่างโดยเข้าไปขอร้องให้อันดามาช่วยเรื่องนี้
ริลถูกพาตัวมายังสถานที่ที่คุ้นเคยบ้านของเฟร์สนั้นเอง เขาลากเธอผ่านหน้าบรรดาแม่บ้านที่มองมายังเธออย่างแปลกใจคงไม่มีใครคิดว่าเธอจะกลับมาที่นี่อีก ริลทั้งดิ้นทั้งพยายามดึงแขนตัวเองออกให้ได้จนมันแดงไปหมดแต่มันก็เสียแรงเปล่า เพราะตอนนี้ริลถูกพามาถึงห้องนอนของเฟร์สเรียบร้อยเขาจัดการปิดประตูขังเธอไว้ด้านในแล้วล็อกประตูปัง! ปัง!“เปิดนะ จะขังฉันไว้แบบนี้ไม่ได้ คนมีงานมีการทำนะ!”“ตะโกนไปก็เท่านั้น อยู่ในนั้นจนกว่าจะคิดได้ว่าไม่ควรมาเก่งกับคนอย่างฉัน”ปัง ปัง“ปล่อยฉันออกไปนะ!”ริลพยายามเคาะประตูเรียกร้องความสนใจจากคนด้านนอกแต่เขากลับเงียบไปเหมือนกับว่าเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว ริลทรุดตัวลงด้วยความเหนื่อย มือที่เคาะประตูอย่างแรงนี้กำลังแดงขึ้นและบวมร้อนจากอาการเจ็บจนทำให้เธอต้องหยุด“อยากร้องไห้จริงๆ …”เธอบ่นกับตัวเองแต่ถึงจะอยากร้องมากแค่ไหนเธอก็ต้องกลืนมันลงไป เธอสัญญาแล้วว่าจะไม่อ่อนแออีก ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอจะไม่ใช้น้ำตาแก้ปัญหาอีกแล้ว ตอนนี้เธอกำลังคิดหาทางออกทางหนึ่งที่เธอคิดได้คือปืนหน้าต่างหนีแต่มันกลับไม่เป็นอย่างหวัง.....เมื่อเธอวิ่งไปมองที่หน้าต่างมองไปเห็นผู้ชายสองสามคนย
“สวัสดีริล” “สวัสดีค่ะคุณอันดา” “มีของมาส่งน่ะ ที่โต๊ะ” “ขอบคุณค่ะ” เช้าวันนี้ริลตื่นมาพบว่าซาตานเมื่อคืนได้หายตัวไปอีกแล้ว แต่มันก็ไม่แปลกสำหรับเธอหรอก เพราะสิ่งที่เขาต้องการจากก็แค่ระบายความใคร่เท่านั้น ไม่น่าเจอกันเลยจริงๆ ถือว่าให้หมามันกินแล้วกัน! “ใครส่งมานะ” ริลสะบัดความคิดแย่ๆ แล้วมาสนใจกล่องพัสดุเล็กๆ ที่ไม่มีชื่อผู้ส่ง เปิดดูข้างในกลับพบว่ามีซองสีชมพูห่อกระดาษอะไรสักอย่างไว้ภายใน O__O!!!! นะ นี่มัน รูป หญิงสาวหน้าชาแล้วรีบถือของสิ่งนั้นเดินเข้าห้องน้ำทันที ก่อนจะหันดูให้แน่ใจว่าไม่มีใครตามเธอมาแล้วจริงๆ ….นี่มันอะไรกัน…. ในซองเต็มไปด้วยรูปเปลือยของเธอและเฟร์สเต็มไปหมดภาพมีทั้งมองเห็นใบหน้าและมีถึงขั้นมองเห็นหน้าอกของเธอชัดเจน นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน เขาทำแบบนี้ทำไม! ตืด… ระหว่างที่กำลังโมโหจนน้ำตาไหล โทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อก็สั่นขึ้นเมื่อเธอหยิบมันขึ้นมาดูก็พบว่าชื่อที่แสดงเป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก ริลกลืนความโมโหทั้งหมดลงคอไปเพื่อทำตัวให้ปกติที่สุดก่อนจะรับสายนั้น “ฮะ ฮัลโหลค่ะ” (ไง ทำไมไม่แบ่งคนอื่นดูบ้างละ หุ่นสวยๆ ของเธอกับหุ่นล่ำๆ ของฉันน่ะ) “คุณเฟร์ส!!” (ยังจ
ความคิดเห็น