Masuk
“อัปสรบอกว่าเธอต้องการใช้เงิน” ผมถามหญิงสาวที่กำลังแต่งตัว
“ใช่ค่ะ หนูมีเรื่องจำเป็น”
“เท่านี้พอหรือเปล่า” ผมลุกมาหยิบเงินสดหนึ่งแสนบาทวางที่เตียง สำหรับเรื่องแบบนี้ผมเลือกจ่ายเป็นเงินสด และที่เสียให้เธอมากก็เพราะว่าผมได้ความสดจากเธอ
“มากค่ะ แต่ยังไม่พอ” เออ ก็ตรงดี ดูหิวเงิน
“แปลว่าต้องทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ”
“...ค่ะ”
“นานเท่าไหร่”
“ไม่ทราบค่ะ” คงคิดจะทำไปเรื่อย ๆ เหมือนผู้หญิงหลาย ๆ คนที่เห็นว่าทำแบบนี้ได้เงินง่ายดี ไม่ต้องเหนื่อย แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ได้เงินก้อน
เธอคนนี้ก็คงไม่ต่างกัน
“ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าเธออายุ 22 ปีใช่ไหม”
“ค่ะ”
“เรียนหรือทำงาน”
“ตอนนี้เรียนปี4 ปีสุดท้ายค่ะ”
“จากนี้กระทั่งเรียนจบเป็นของผมคนเดียวดีไหม”
“...”
“ผมจ่ายเดือนละหกหมื่น มีพิเศษต่างหาก เจอกันเมื่อไหร่ผมจะเป็นฝ่ายนัด ในช่วงที่ไม่ได้นัดกันเธอจะทำอะไรก็ได้ แต่ห้ามมีคนอื่นระหว่างที่เรายังอยู่ในข้อตกลง”
“...”
“ไม่ตกลง?”
“ตก ตกลงค่ะ” เห็นนิ่งเงียบ นึกว่าจะไม่ตอบตกลงซะแล้ว ราคาที่ผมให้ก็ไม่ได้น่าเกลียด เสียงหวานเอ่ยด้วยน้ำเสียงกล้า ๆ กลัว ๆ “แต่ว่าหนูขอล่วงหน้าสามเดือนได้หรือเปล่าคะ หนูต้องการใช้เงินค่ะ”
“...”
“ถ้าหนูขอมากเกินไป...”
“ให้ได้ แต่เธอต้องอยู่ในกฎของผม”
“ได้ค่ะ หนูจะไม่ทำผิดกฎของคุณ”
“ไม่ถามหน่อยเหรอว่ากฎอะไร”
“...อะไรคะ”
“ระหว่างเราต้องเป็นความลับ เจอข้างนอกเราคือคนไม่รู้จักกัน และระหว่างเราไม่ได้เป็นอะไรกัน เธอไม่มีสิทธิ์แสดงความเป็นเจ้าของ เธอรู้สึกดีกับผมได้ หลงรักผมได้เต็มที่ แต่ผมไม่คิดจะรับผิดชอบความรู้สึกของเธอ ฉะนั้นไม่รู้สึกอะไรกับผมจะเรื่องดีที่สุด รับได้ไหม”
“ค่ะ ได้ค่ะ”
“แน่ใจนะ”
“ค่ะ”
“ชื่ออะไร”
“บัว บัวบูชาค่ะ”
“ชื่อดี”
“ให้หนูเรียกคุณว่าอะไรคะ”
“ผมชื่อธีร์”
“คุณธีร์ หนูขอเรียกแบบนี้นะคะ”
“ได้”
“ค่ะ คุณธีร์” ใบหน้าสะสวยของเธอมีรอยยิ้มเล็กน้อย เดาว่าคงจะดีใจที่มีเงินใช้ยาว ๆ ตามประสาคนที่รักสบาย
“คนนี้ของดี ยกให้ไอ้ธีร์ก็แล้วกัน” อัปสรดันหลังหญิงสาวหน้าตาสะสวยมายืนข้างผมเหมือนทุกครั้งที่เคยทำแล้วก็กระซิบด้วยความสนิทสนม “จ่ายให้น้องหนัก ๆ หน่อยนะ น้องต้องการใช้เงิน”
“ก็เห็นพูดแบบนี้ทุกที”
“เออ ช่วย ๆ น้องมันหน่อย”
ถ้าเช็กแล้วว่าของดีจริง ผมก็จ่ายหนักตลอด ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมากเพราะว่าผมมันชอบทำบุญอยู่แล้ว
บุญที่ทำแล้วได้ผลตอบแทนทันตาเห็น ขึ้นสวรรค์ทันใจ
“ได้ข่าวมาว่ามึงผูกปิ่นโตเด็กคนล่าสุดเหรอวะ” มาวินถามเมื่อผมนั่งลงที่โซฟาข้างเด็กสาวที่เพื่อนผมมันเรียกมา
“แสนรู้”
“ก็เด็กมันน่าเอาดี ว่าจะต่อสักหน่อย ไม่คิดว่ามึงจะผูกปิ่นโตซะได้ น่าเสียดาย”
“คนอื่นมีเยอะแยะ”
“ก็คนนี้กูชอบ สเปกกูเลย เสียดายที่อัปสรให้มึง อัปสรแม่งลำเอียงตลอด”
“งั้นก็ทำใจ เพราะคนนี้กูเพิ่งเล่น”
“มึงจะเล่นนานไหม”
“อยากแดกต่อขนาดนั้นเลยหรือไง”
“ไอ้เหี้ยก็ไม่ใช่เมียไหม แค่อาหารว่างก็เท่านั้น”
“อาหารว่างที่เพื่อนแดกแล้วมึงก็ไม่ควรจะอยากเลียจาน”
“ขยันเปรียบ เปรียบซะกูไม่อยากแดกต่อ”
“ถ้าอยากแดกมากก็รอกูเบื่อก่อน”
“แดกพร้อม ๆ กันไม่ได้เหรอวะ”
“ไปไกล ๆ กูเลย”
“ว่าแต่น้องคนนี้เป็นงานขนาดไหนวะ มึงถึงผูกปิ่นโต”
“ไม่เป็น”
“ฮะ!”
“ไม่เป็นอะไรเลย”
“ปกติกูเห็นมึงไม่ชอบคนไม่เป็นงาน”
“เปลี่ยนแนว กินแบบเก่า ๆ แล้วเบื่อ”
“งั้นคนนี้กูขอบาย กูชอบแบบเก่ง ๆ เป็นงาน ขี้เกียจมานั่งสอนคนไร้เดียงสา”
“เหอะ” ก็จริงอย่างที่เพื่อนผมพูด ผมเองก็ไม่ชอบคนไม่เป็นงาน แต่ว่าช่วงนี้ผมอยากลองอะไรใหม่ ๆ บ้าง แก้เบื่อแก้เซ็ง กินแต่อะไรเดิม ๆ ก็เอียน
“ว่าไงครับป๊า”(เมื่อกี้ถามว่าอะไรนะ)“ป๊าคิดว่าไอยาดีไหมครับ”(ดีแบบไหน ดีกับใคร ถ้าในฐานะเพื่อนของเอลลี่ก็ดีมาก ๆ)“แล้วถ้าในฐานะลูกสะใภ้คนโต”(มาถามป๊าแบบนี้หนูไอยายอมแต่งงานกับแกแล้วเหรอ)“อ้าว ทำไมป๊าพูดแบบนี้ครับ”(ก็ที่ผ่านมาแกไม่เคยให้เกียรติเขาเลย เขาจะยอมแต่งงานกับคนที่อายุเยอะกว่าเขาหลายต่อหลายปีเหรอ หาคนที่อายุเท่ากัน คนที่อายุเด็กกว่าจะไม่ดีกว่าแต่งงานกับคนที่ไม่ให้เกียรติอย่างแกเหรอ)“ป๊าครับ ผมไม่ให้เกียรติไอยาตรงไหน”(ถ้าที่ทำอยู่เรียกว่าให้เกียรตินั่นแปลว่าที่ผ่านมาทั้งชีวิตของแกไม่ได้สนใจสิ่งที่ป๊าสอนแกเลย อย่าไปหาทำแบบนี้ที่ไหนกับใครอีกนะ เดี๋ยวเขาจะด่ามาถึงป๊า ป๊าอาย)“ป๊าพูดแบบนี้แปลว่าป๊ายินดีใช่ไหมถ้าไอยาจะเป็นเมียผม”(ให้เขายอมรับแกเป็นผัวก่อน แกค่อยเรียกเขาว่าเมีย)“ป๊า ตอบให้ตรงคำถามก่อน”(ป๊าตอบไม่ตรงตรงไหน ป๊าพูดเรื่องจริงทุกเรื่อง)“ก็ที่ผมถามป๊าไงว่าโอเคไหมถ้าไอยาไปเป็นสะใภ้ของป๊า”(โอเค โอเคมาก ๆ ถ้าหนูไอยายอมแต่งงานกับแกก็ถือว่าเป็นบุญแกแล้ว)“ป๊าโอเค แต่คนอื่นไม่โอเค แบบนี้จะทำไง”(แกเคยสนใจคนที่บ้านด้วยเหรอ)“...”(และก่อนที่แกจะมากังวลเรื่องเหล่านี้
“นี่กำลังจะเลิกกับพี่เหรอไอยา นี่เธอกำลังบอกเลิกพี่เหรอ”“ค่ะ พี่เอสเป็นประธานบริษัทที่มีชื่อเสียง ตอนนี้พี่ควรจะแต่งงานได้แล้ว ระหว่างเราควรจบได้แล้วค่ะ เราสองคนไม่มีวันที่จะแต่งงานกันได้ เราไม่มีอนาคตร่วมกัน อย่ามาเสียเวลากับไอเลย พี่ไปสร้างครอบครัวกับคนที่เหมาะสมกับพี่เถอะนะ”“คนที่บ้านพี่ให้เธอมาเท่าไหร่วันนี้เธอถึงจะมาเลิกกับพี่ เขาให้เธอเท่าไหร่พี่ให้เธออีกเป็นสิบเท่า พี่ไม่มีวันเลิกกับเธอ”“มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเงิน เขาไม่ได้ให้เงินไอ ต่อให้เขาให้ไอก็ไม่รับ”“งั้นมันเกี่ยวกับอะไร”“พี่เอสนี่พี่ไม่รู้จริง ๆ เหรอ”“หรือว่าไอชอบคนอื่น มีคนอื่นมาจีบไอใช่ไหม มันเด็กกว่าพี่ ดีกว่าพี่งั้นเหรอไอถึงจะเลิกกับพี่ พี่บอกกี่รอบแล้วว่าให้เลิกทำงานไลฟ์สดแบบนี้ได้แล้ว เลิกมีหน้ามีตาในโซเชียล เลิกให้คนเห็นรูปร่างไอสักที ไอรู้ไหมว่าเวลาที่มีคอมเมนต์ชมไอ คอมเมนต์จีบไอพี่หึงพี่หวงไอมากแค่ไหน” เขาเริ่มจะหงุดหงิดขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าปล่อยไว้อารมณ์เขาอาจจะรุนแรงกว่านี้“ใจเย็นค่ะพี่เอส ไอไม่ได้ชอบใครทั้งนั้น”“ถ้าไม่ได้ชอบคนอื่นแล้วเหตุผลอะไรที่เราจะต้องเลิกกัน ที่ผ่านมาเราก็อยู่ด้วยกันดีไม่ใช่เหรอ”“ร
“เธอคือไอยาสินะ” หญิงอายุประมาณหกสิบกว่าเอ่ยถามด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง“สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้ตามมารยาท“นั่งสิ”“ขอบคุณค่ะ” แล้วก็นั่งลงตามที่หญิงคนนี้ต้องการ“เธอรู้จักฉันไหม”“ทราบค่ะ”“ในเมื่อรู้จักฉัน ฉันเข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน”“ค่ะ”“ระหว่างเธอกับลูกชายของฉันเป็นอะไรกัน”“เป็นเพียงแค่คนรู้จักกันค่ะ”“แค่นั้นเหรอ”“ค่ะ”“ถ้าเป็นเพียงแค่นั้นจริง ๆ ทำไมลูกชายของฉันถึงไม่ยอมแต่งงานสักที”“ไม่ทราบค่ะ” มาถามฉันได้ไง ฉันจะรู้เหรอ“ถ้าเธอไม่ทราบแล้วใครจะทราบ”“คุณเอสค่ะ” ก็ต้องเจ้าตัวอยู่แล้วที่รู้ ไปถามลูกชายตัวเองซะก็จบ จะมาถามฉันทำไม ฉันไม่ได้มีอิทธิพลต่อเขาขนาดนั้น ไม่ได้สั่งห้ามให้เขาแต่งงานสักหน่อย“นี่ลูกชายของฉันหลงอะไรเธอกันนะ”“...”“หรือเธอทำของใส่เขาเหรอ”“นอกจากใต้หว่างขาหนูก็ไม่มีของอะไรค่ะ”“น่าเกลียด เธอนี่มันน่าเกลียดจริง ๆ”“หนูเพียงแค่พูดความจริงค่ะ และความจริงก็อาจจะไม่น่าฟัง”“พูดมาเลยว่าเธอต้องการเงินเท่าไหร่ถึงจะเลิกยุ่งกับลูกชายของฉัน”“ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นค่ะ”“ขอแค่เธอเลิกยุ่งกับลูกชายฉันก็ไม่มีอะไรลำบาก”“คำว่าไม่ต้องลำบากขนาดนั้นหนูหมายถึงคุณไม่จำเป็นต้องเสียเงิ
หลังจากเผด็จศึกเมื่อคืนผ่านไป ฉันเพิ่งรู้ว่าพี่บีมเป็นคนมีของเล่นที่ใหญ่มาก ก่อนหน้านี้ฉันไปอยู่ไหนมาทำไมไม่รีบเผด็จศึกเขาให้ไวกว่านี้ ถ้าหากฉันรู้ว่าจะมีของเล่นที่ใหญ่โตและลีลาท่าทางที่สุดแสนจะยั่วยวน ฉันไม่มีทางที่จะปล่อยให้เขาลอยไปลอยมาต่อหน้าฉันแบบนี้เด็ดขาดพูดไปแล้วก็รู้สึกเสียดาย รู้สึกหวงยังไงไม่รู้ที่ปล่อยให้ผู้หญิงคนอื่นได้ไปเชยชมโมโหตัวเองจังก่อนหน้านี้คิดว่าจะหย่า ทว่าเขาบอกเองว่าที่ไม่หย่าก็เพราะฉัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรเมื่อคืนนี้เขาบอกแล้วว่าเขาเป็นคนของฉัน ฉะนั้นเขาก็คือของฉัน ไม่ว่าจะรักฉันหรืออยู่ด้วยความจำเป็นอะไรก็ตาม เมื่อฉันได้กินและติดใจแล้วฉันไม่มีทางจะปล่อยเขาไปสามีที่หล่อขนาดนี้ฉันปล่อยผ่านไปได้ยังไงนานแบบนี้“ถ้าจะจ้องพี่ขนาดนี้ ไม่กินพี่เข้าไปเลยล่ะ” พี่บีมลืมตาขึ้นมาสบตากับฉัน“ตื่นนานแล้วเหรอคะ”“ตื่นก่อนหนูครับ”“หนู?”“ก็หนูเอลลี่ไง เรียกแบบนี้น่ารักดีให้พี่เรียกได้ไหม”“มีอะไรที่ไม่ได้กัน ในเมื่อพี่บอกว่าลี่เป็นของพี่ พี่เป็นของลี่”“แน่นอนอยู่แล้วพี่เป็นของลี่ครับ”“เป็นของลี่คนเดียวหรือเปล่า”“อยากถามอะไร” ใบหน้าหล่อยกยิ้มที่มุมปาก สีหน้าเจ้าเล่ห
“เป็นอะไรทำไมวันนี้ถึงกลับบ้าน” ในตอนสี่ทุ่มกว่าสามีในนามเดินเข้ามาในบ้าน พร้อมกับน้ำเสียงเอ่ยทักที่ไม่น่าฟัง “แล้วนี่นึกอะไรนั่งดื่มอยู่คนเดียวแบบนี้ อกหักจากใครมาอีก หรือโดนใครหักอกมาครับ”เหอะ ดูปากเขาสิ พูดออกมาก็เหน็บฉันเลยฉันที่เตรียมตัวเตรียมใจมาว่าคืนนี้จะต้องขยับความสัมพันธ์กับเขาให้ได้ก็เลยได้โอกาสเอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างซะเลย“ถ้าใช่แล้วพี่ช่วยอะไรลี่ได้” สวมบทคนเมาพร้อมกับสีหน้าน่าสงสารมองหน้าสามีในนามและทำหน้าเศร้ามากกว่าเดิม“ถึงขั้นไหนแล้ว”“อะไรขั้นไหนคะ” พูดพลางทำเสียงสะอื้นไปด้วย“ระหว่างลี่กับผู้ชายคนนั้นไง ถึงขั้นไหนแล้ว ลึกซึ้งกับเขาหรือยัง”“...”“ที่ไม่ตอบคืออะไร อายหรือยังไง”“...” คิดไม่ออกต่างหากว่าจะหยิบยกใครขึ้นมาอ้างดี“หรือว่าชอบเขามาก”“ก็ต้องชอบสิ”“ใคร” ทั้งที่เขาเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง ไม่ได้ตะคอกตะโกนไม่ได้ใส่อารมณ์ ทว่าฉันรู้สึก หวั่นใจแปลก ๆแค่คำถามว่าใคร ทำไมฉันถึงต้องรู้สึกกลัวล่ะ ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย อย่าอ่อนสิเอลลี่“พี่ถามว่าไอ้คนนั้นมันเป็นใคร” พี่บีมย้ำอีกครั้งเมื่อฉันยังเงียบ“ช่างเถอะอย่าพูดถึงเลยค่ะ ลี่ผิดเองที่ชอบเขา ลี่ผิดเองที่คิด
ครืด ครืด ครืดนั่งหมดอาลัยตายอยาก มองเพื่อนกินข้าวไปพลาง ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือฉันก็ดังขึ้น เบอร์ที่โชว์หน้าจอคือเบอร์ของป๊า“ค่ะป๊า”(วันนี้หนูเข้าบริษัทเหรอเอลลี่)“ใช่ค่ะมีเรื่องพูดกับพี่บีมก็เลยแวะเข้าไปหาเขาค่ะ”(แล้วไม่เห็นจะแวะเข้ามาหาป๊าบ้างเลย ห้องทำงานของป๊าก็ไม่ได้ไกลกันนะ)“ขอโทษค่ะป๊า”(ป๊าไม่ได้โกรธ ป๊าก็แค่น้อยใจที่ลูกสาวป๊าไม่แวะมาหาป๊าเลย)“ป๊าอ่า ไม่น้อยใจนะคะ ไม่ว่ายังไงป๊าก็คือคนที่เอลลี่รักที่สุดค่ะ”(แล้วหนูมีปัญหาอะไรหรือเปล่า บอกป๊าได้เลยนะหรือว่าอยากได้อะไรไหม)“ขอป๊าได้จริงเหรอคะ”(ขอได้ในเรื่องที่หนูรู้ว่าป๊าต้องให้หนูได้แน่ ๆ)“...” เห็นไหมอะ ป๊ารู้ว่าฉันจะพูดเรื่องอะไร“ป๊าคะ”(ป๊าอยากให้เอลลี่ลองเปิดใจกว้าง ๆ ให้บีมนะลูก บีมเป็นคนดี ป๊าเชื่อว่าป๊ามองคนไม่ผิด)“ค่า ป๊าไม่ต้องห่วงนะ หนูกับพี่บีมเราอยู่ด้วยกันอย่างดีค่ะ”(ถ้าเป็นอย่างที่หนูพูดป๊าก็จะดีใจมาก ๆ)“ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ป๊าสบายใจได้ค่ะ”(ถ้าอย่างนั้นป๊าขออะไรหนูสักอย่างได้ไหมลูกสาวสุดที่รักของป๊า)“พูดมาได้เลยค่ะ ลูกสาวคนนี้ให้ป๊าได้อยู่แล้ว”(ป๊าอยากอุ้มหลานจังเลย เอลลี่ทำให้ป๊าได้ไหมลูก)“ป๊







