เข้าสู่ระบบมหาวิทยาลัย
“เรื่องที่บ้านจัดการเรียบร้อยยัง เงินพอไหม เอาของฉันก่อนได้นะ” ไอยาเพื่อนที่ค่อนข้างจะสนิทกันเอ่ยถามเบา ๆ ให้เราได้ยินกันสองคน
“เรียบร้อยแล้ว ขอบใจนะ ขอบใจมาก ๆ เลย”
“มีอะไรให้ขอบใจ ฉันพาแกเสียคนนะ”
“แต่ถ้าไม่ได้ไอยาฉันคงแย่กว่าตอนนี้”
“ไม่ใช่บุญคุณอะไรเลย”
“ยังไงก็ต้องขอบคุณ ขอบคุณนะ”
“ซื้อน้ำเลี้ยงหนึ่งแก้วก็พอ เคไหม”
“อื้ม ได้อยู่แล้ว”
ไอยาเคยรับงาน ตอนนี้ก็ยังรับอยู่ เรื่องนี้เพื่อนไม่เคยปิด ซ้ำยังเล่าให้ฟังด้วยว่าเจออะไรมาบ้าง และลงท้ายว่าถ้าไม่เดือดร้อนจริงอย่าไปทำ
“กระซิบอะไรกันสองคนคะ” เอลลี่เพื่อนสาวคนสวยที่ขยันหาแฟนเอ่ยถามหลังจากที่เงยหน้าจากการตอบแชต
“กำลังคุยกันว่าแฟนคนต่อไปของแกชื่ออะไร”
“คนนี้เรียนวิดวะจ้า นี่เขาลืมของจะให้ฉันเอาไปให้ พวกแกไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ”
“นึกยังไงไปเคี้ยวเด็กวิศวะ ปกติไม่เห็นกิน”
“เจอกันที่ผับ กลับพร้อมกัน หลังจากฟื้นก็เลยรู้ว่าเรียนวิศวะ ก็ไม่ได้ชอบหรอก แต่เขาแซ่บดี ก็เลยกินต่อ”
“แหม แกกะเก็บทุกคณะทุกสาขาเลยหรือไง”
“ถ้าได้ก็ดี ไปนะ ไปกินข้าวที่โรงอาหารนั้นกัน เขาบอกว่าจะเลี้ยง”
“รวยจ้า”
“สืบแล้ว ได้อยู่”
“จ้า”
“พวกแกไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ”
“ได้ดิ เอาจริงตั้งแต่เรียนมาก็แทบไปนับครั้งได้เลย”
“งั้นเดี๋ยวต่อไปเราไปกันบ่อย ๆ เนอะ เผื่อเจอผู้หล่อ”
“จะบ่อยสักแค่ไหนกัน อีกเดี๋ยวเราก็จบแล้ว”
“แกไปไหมบัว” เอลลี่หันมาถามเมื่อฉันเอาแต่เงียบ
“ฉันขี้เกียจเดิน”
“ไม่เดิน ฉันขับรถไป ไปนะ ไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะแก”
“…”
“บัวจ๋า บัวบูชาคนสวย ช่วยไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ”
“ก็ได้”
“ขอบใจนะเพื่อนรัก เดี๋ยวฉันหาหนุ่มหล่อ ๆ ให้นะ”
“ไม่เอา ฉันไม่อยากมีแฟน”
“อีกแล้ว พูดแบบนี้ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันจนจะจบปี4 เมื่อไหร่แกจะมีแฟน”
“ถ้ามีแล้วต้องเหนื่อยกว่าเดิมขอไม่มีดีกว่า แค่ตอนนี้ชีวิตฉันก็ยุ่งมากแล้ว” มีแล้วช่วยอะไรไม่ได้ ซ้ำยังทำให้ปวดหัว
“ก็เดี๋ยวฉันมองหาคนที่รวยพร้อมดูแลแกไง”
“ความรักในรั้วมหาวิทยาลัย คนที่เป็นนักศึกษาเหมือนกันจะซัพพอร์ตอะไรเราได้ อย่างมากก็แค่สอนให้รู้จักความรักและความเสียใจ” ไอยาเป็นคนพูดและก็ดูเหมือนจะพูดความจริงซะด้วย
รักของวัยรุ่นก็มักจะเป็นการสอนให้รู้จักรัก รู้สึกมีความสุข แล้วจากนั้นเปอร์เซ็นต์ส่วนใหญ่ก็เลิกรากัน จบลงที่ความเสียใจ
“ก็นั่นไง คนเราต้องมีความรัก ต้องรู้จักความรักสิ เกิดมาทั้งทีก็ต้องมีรักดี ๆ สิ ถ้าคนนี้ไม่ดีก็แค่หาคนใหม่มาสานต่อ เดี๋ยวสักวันก็ต้องเจอรักที่ดี สร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต” เอลลี่เอ่ย
“อย่างแกน่ะทำได้อยู่แล้ว แกสวย แกรวย มีแต่คนอยากเข้าหา โอกาสเลือกแกสูง แต่อย่างฉันจะได้เหรอวะ” ไอยาพูดอีกเช่นเคย และฉันก็เห็นด้วยกับไอยา เพราะอย่างฉันก็ใช่ว่าไขว่คว้าแล้วจะได้รักดี ๆ
รักดี ๆ มักมีให้คนที่พร้อมมากกว่า
“แต่แกมีฉันนี่ไง ฉันพร้อมจะหาคนดี ๆ ให้พวกแก”
“จ้า ๆ” ฉันขานรับให้เรื่องมันจบก่อนที่ไอยาจะพูดอะไรออกมาอีก ซึ่งสิ่งที่ไอยาจะพูดก็คงจะประมาณว่า ‘แกหาคนที่ใช่ของแกเถอะเพื่อน’
คนที่เกิดมาเพียบพร้อมนี่ดีจริง ๆ อย่างเอลลี่ที่เกิดมาบนกองเงินทองจะทำอะไรก็ง่ายไปหมด อยากได้อะไรก็ได้ อยากก่อเรื่องแค่ไหนก็มีคนคอยเคลียร์ให้ เงินหมดก็แค่ส่งข้อความไปขอ ไม่นานเงินก็เข้าบัญชี
โชคดีจริง ๆ ที่เธอเกิดมาในครอบครัวที่ดี
โรงอาหารคณะวิศวะ
“สองคนนี้เพื่อนของเอลลี่เอง คนนี้ไอยา คนนี้บัวบูชา” มาถึงโรงอาหารของคณะเอลลี่ก็แนะนำแฟนคนล่าสุดของเธอและกลุ่มเพื่อนให้รู้จักกัน
“บัวบูชาเหรอครับ” เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มของแฟนเอลลี่หันมาพูดกับฉัน
“ค่ะ”
“พี่มีแฟนหรือยังครับ”
“...” เรียกพี่ก็เพราะครั้งนี้เอลลี่กินเด็กรุ่นน้อง อายุน้อยกว่า 2 ปี ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เพื่อนฉันกินเด็ก
“ถ้าพี่ยังไม่มีแฟนสนใจให้ผมเอากลับไปบูชาที่ห้องได้เปล่าครับ”
“...” เด็กอ่อยเก่งด้วยสิ
“รับรองเลยว่าจะบูชาเช้าบูชาเย็นไม่ทำให้พี่ขาดแคลนครับ”
“พี่มีแฟนแล้วค่ะ” การโกหกว่ามีแฟนถือว่าเป็นการตัดจุดเริ่มต้นได้เป็นอย่างดี
“งั้นถ้าไปกับแฟนไม่ไหวทักหาผมได้เลยนะครับ”
“พี่ไม่ชอบคนที่เด็กกว่าค่ะ” ส่งยิ้มหวานให้รุ่นน้องอย่างมีมารยาท
ถ้าการบอกว่ามีแฟนแล้วมันไม่จบงั้นก็บอกว่าไม่ชอบคนที่เด็กกว่าซะก็สิ้นเรื่อง ไม่ว่าจะทำวิธีไหนผู้ชายที่เด็กกว่าก็ไม่มีทางโตกว่า
“ว้า ตัดความสัมพันธ์ที่ผมพยายามสร้างได้ใจร้ายมากครับ”
“แบบนี้มึงต้องตายแล้วรีบเกิดใหม่ จะได้รอคบกับพี่เขาว่ะ” เพื่อนอีกคนพูด
“ไม่ต้องตายแล้วเกิดใหม่หรอก กูเชื่อว่าตื๊อบ่อย ๆ เดี๋ยวพี่เขาก็ใจอ่อน กูก็หน้าตาดีขนาดนี้มีเหรอที่พี่บัวบูชาจะไม่สนใจ ใช่ไหมครับพี่บัวบูชา” เขาพูดอย่างมั่นหน้า
“...” ฉะนั้นกับบางคน คำที่เราปฏิเสธมันก็ไม่ช่วยอะไรเลย ไม่ช่วยให้เขาคิดได้ด้วย
เพราะงั้นฉันนิ่ง ไม่พูดไม่ยิ้ม ไม่ตอบโต้อะไรทั้งนั้นดีกว่า
“นั่นอาจารย์เซรีนกับอาจารย์ธีร์ทัศหรือเปล่าวะ สองคนนี้คบกันเหรอ กูเห็นกินข้าว ไปไหนด้วยกันบ่อยมาก” เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มของแฟนเอลลี่เอ่ย ขณะที่ฉันตอบกลับข้อความพยาบาลพิเศษ
“ว้าว อาจารย์คนนี้หล่อมากเลยอะ เขาเป็นอาจารย์ภาคนี้เหรอ” น้ำเสียงที่ตื่นเต้นของเอลลี่ไม่ได้ทำให้ฉันหันไปใส่ใจคนที่ถูกพูดถึง เพราะว่าเอลลี่ก็ชมทุกคนหล่อเสมอ
“ให้มันน้อย ๆ หน่อยครับที่รัก” ดูจากคำพูดก็น่าจะเป็นแฟนของเอลลี่
“เขาหล่อจริง ๆ นี่นา เป็นอาจารย์ทรงแบดมาก ผมก็สีเทา แกหันมาดูหน่อยบัว มาดูคนหล่อ”
“อืม หล่อ”
“เงยหน้ามาดูก่อนแก ยังไม่มองจะหล่ออะไร คนนี้ไม่ตอบขอไปทีนะคะเพื่อน” เอลลี่จับแขนฉันเขย่า พยายามคะยั้นคะยออย่างหนัก
“อืม ๆ” ฉันก็เลยเงยหน้าจากจอมือถือเพื่อมองคนที่เพื่อนบอกว่าหล่อ “ไหน”
“นั่นไง คนนั้น ผมสีเทาที่นั่งคู่กับอาจารย์ที่สวย ๆ อะ” ล็อคเป้าหมายว่าผมสีเทาก็จะหาง่ายขึ้น และมันก็ง่ายมากเมื่อสายตาปะทะกับคนที่คุ้นเคย
“...” ไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นอาจารย์อยู่ที่นี่ เราไม่เคยเจอกันเลยคงเป็นเพราะเขาสอนอยู่คนละคณะกับที่ฉันเรียน คนเราเมื่อมีคนจ้องก็จะรู้สึกตัว คุณธีร์ก็คงจะเป็นอย่างนั้นเขาถึงได้หันมามอง
แล้วเราก็สบตากัน ฉันรีบหลบสายตาเพราะเขาบอกว่าข้างนอกเราคือคนไม่รู้จักกัน และฉันก็ไม่ควรรู้จักเขา
“เป็นไง หล่อใช่ปะ”
“อืม หล่อดี” ตอบแบบขอไปทีแล้วก็กินข้าวที่แฟนของเอลลี่เลี้ยง
“ไม่น่าถามแกเลย ลืมไปว่าแกไม่ได้สนใจว่าใครจะหล่อไม่หล่อ”
“ทำไมอะครับ พี่บัวเขาไม่สนใจผู้ชายเหรอ”
“บัวมันไม่อยากคบใครน่ะ มันบอกว่าตอนนี้มันยังไม่พร้อม” ไอยาตอบแล้วก็ยิ้ม
“งั้นพี่ไอยาสนใจคบหรือเปล่าครับ”
“พี่มีผัวแล้วค่ะ ผัวพี่ขี้หวงมาก และคงไม่เลิกกันง่าย ๆ” ไอยาตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“เสียดายจังเลยครับ”
“ค่ะ พี่ก็เสียดายน้อง เสียดายที่เรารู้จักกันช้าไปเนอะ”
“ครับ”
แล้วเมื่อกี้ทำไมฉันไม่ตอบให้ชัดเจนแบบนี้นะ ดูจบง่ายอะ ไม่เหมือนของฉันที่พูดกวนไม่จบไม่สิ้น
“เย็นนี้เราไปดื่มกันดีไหมครับ ฉลองที่เราได้มารู้จักกัน” แฟนเอลลี่พูด
“ฉลองที่เป็นแฟนกันมากกว่าไหม” ไอยาแย้ง
“ครับ” ดูท่าแฟนของเอลลี่จะเห่อเพื่อนของฉันมาก
“ได้สิ ไป ๆ พวกแกไปนะ ฉลองที่ฉันมีแฟน” หน้าเอลลี่ระรื่นมาก ทำเหมือนไม่เคยมีแฟนทั้งที่นางมีแฟนมาหลายคนแล้ว จะตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น หรือตื่นเต้นเพราะคนนี้เด็กกว่าเหรอ
“ฉันไปไม่ได้” ฉันรีบบอกก่อนที่เพื่อนจะคะยั้นคะยอมากกว่านี้
“อีกแล้วเหรอแก”
“อืม ขอโทษนะ”
“ทำไมพี่บัวไม่ไปครับ”
“ไม่สะดวกค่ะ” ขณะที่พี่ชายฝาแฝดนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล ฉันจะกล้าไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ยังไง ถ้ามีเวลาไปเที่ยวไม่สู้เอาเวลาไปเคลียร์งานส่งอาจารย์ให้หมดจากนั้นก็เตรียมวางแผนหาทำอะไรที่ได้เงินมาเป็นค่ารักษาของรวินท์ดีกว่า
“บัวไม่สะดวกเดี๋ยวฉันไปเอง” ไอยาหันมายิ้มให้ฉันเพราะเอลลี่เริ่มตัดพ้อที่เพื่อนไม่ไปยินดีกับเธอ
ถ้าหากว่าฉันมีเงินมากพอและไม่มีเรื่องทุกข์ใจฉันก็คงจะเลือกทำตามความต้องการของเพื่อน ก็แค่ไปเที่ยวกับเพื่อนเองนี่
แต่ว่าฉันในตอนนี้จะเลือกเพื่อนได้ยังไง
ไม่เป็นไรหรอก โอกาสหน้ายังมี จากที่เป็นเพื่อนกันมา 4 ปีเอลลี่ไม่คบใครเกิน 3 เดือน เดี๋ยวไม่นานก็คงพาพวกฉันไปแนะนำให้รู้จักกับแฟนใหม่อีก
แต่ถ้าแซ่บพอก็อาจจะมัดใจเอลลี่ได้ ตรงนี้ก็คงต้องดูที่ลีลาของหนุ่มรุ่นน้องคนนี้แล้ว
“แกคิดอะไรอยู่บัว ทำไมมองผัวฉันแล้วยิ้ม” เอลลี่ถามเมื่อฉันมองเธอสลับกับแฟนของเธอ
“ขอให้แกมีความสุข”
“ขอบใจจ้า ฉันมีความสุขแน่ ๆ” เอลลี่น่าจะรู้ว่าฉันคิดอะไร เธอถึงได้แก้มแดงแล้วก็ยิ้มไม่หุบอยู่อย่างนั้น
เพื่อนฉันคิดเรื่องใต้สะดืออีกแล้ว
“ว่าไงครับป๊า”(เมื่อกี้ถามว่าอะไรนะ)“ป๊าคิดว่าไอยาดีไหมครับ”(ดีแบบไหน ดีกับใคร ถ้าในฐานะเพื่อนของเอลลี่ก็ดีมาก ๆ)“แล้วถ้าในฐานะลูกสะใภ้คนโต”(มาถามป๊าแบบนี้หนูไอยายอมแต่งงานกับแกแล้วเหรอ)“อ้าว ทำไมป๊าพูดแบบนี้ครับ”(ก็ที่ผ่านมาแกไม่เคยให้เกียรติเขาเลย เขาจะยอมแต่งงานกับคนที่อายุเยอะกว่าเขาหลายต่อหลายปีเหรอ หาคนที่อายุเท่ากัน คนที่อายุเด็กกว่าจะไม่ดีกว่าแต่งงานกับคนที่ไม่ให้เกียรติอย่างแกเหรอ)“ป๊าครับ ผมไม่ให้เกียรติไอยาตรงไหน”(ถ้าที่ทำอยู่เรียกว่าให้เกียรตินั่นแปลว่าที่ผ่านมาทั้งชีวิตของแกไม่ได้สนใจสิ่งที่ป๊าสอนแกเลย อย่าไปหาทำแบบนี้ที่ไหนกับใครอีกนะ เดี๋ยวเขาจะด่ามาถึงป๊า ป๊าอาย)“ป๊าพูดแบบนี้แปลว่าป๊ายินดีใช่ไหมถ้าไอยาจะเป็นเมียผม”(ให้เขายอมรับแกเป็นผัวก่อน แกค่อยเรียกเขาว่าเมีย)“ป๊า ตอบให้ตรงคำถามก่อน”(ป๊าตอบไม่ตรงตรงไหน ป๊าพูดเรื่องจริงทุกเรื่อง)“ก็ที่ผมถามป๊าไงว่าโอเคไหมถ้าไอยาไปเป็นสะใภ้ของป๊า”(โอเค โอเคมาก ๆ ถ้าหนูไอยายอมแต่งงานกับแกก็ถือว่าเป็นบุญแกแล้ว)“ป๊าโอเค แต่คนอื่นไม่โอเค แบบนี้จะทำไง”(แกเคยสนใจคนที่บ้านด้วยเหรอ)“...”(และก่อนที่แกจะมากังวลเรื่องเหล่านี้
“นี่กำลังจะเลิกกับพี่เหรอไอยา นี่เธอกำลังบอกเลิกพี่เหรอ”“ค่ะ พี่เอสเป็นประธานบริษัทที่มีชื่อเสียง ตอนนี้พี่ควรจะแต่งงานได้แล้ว ระหว่างเราควรจบได้แล้วค่ะ เราสองคนไม่มีวันที่จะแต่งงานกันได้ เราไม่มีอนาคตร่วมกัน อย่ามาเสียเวลากับไอเลย พี่ไปสร้างครอบครัวกับคนที่เหมาะสมกับพี่เถอะนะ”“คนที่บ้านพี่ให้เธอมาเท่าไหร่วันนี้เธอถึงจะมาเลิกกับพี่ เขาให้เธอเท่าไหร่พี่ให้เธออีกเป็นสิบเท่า พี่ไม่มีวันเลิกกับเธอ”“มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเงิน เขาไม่ได้ให้เงินไอ ต่อให้เขาให้ไอก็ไม่รับ”“งั้นมันเกี่ยวกับอะไร”“พี่เอสนี่พี่ไม่รู้จริง ๆ เหรอ”“หรือว่าไอชอบคนอื่น มีคนอื่นมาจีบไอใช่ไหม มันเด็กกว่าพี่ ดีกว่าพี่งั้นเหรอไอถึงจะเลิกกับพี่ พี่บอกกี่รอบแล้วว่าให้เลิกทำงานไลฟ์สดแบบนี้ได้แล้ว เลิกมีหน้ามีตาในโซเชียล เลิกให้คนเห็นรูปร่างไอสักที ไอรู้ไหมว่าเวลาที่มีคอมเมนต์ชมไอ คอมเมนต์จีบไอพี่หึงพี่หวงไอมากแค่ไหน” เขาเริ่มจะหงุดหงิดขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าปล่อยไว้อารมณ์เขาอาจจะรุนแรงกว่านี้“ใจเย็นค่ะพี่เอส ไอไม่ได้ชอบใครทั้งนั้น”“ถ้าไม่ได้ชอบคนอื่นแล้วเหตุผลอะไรที่เราจะต้องเลิกกัน ที่ผ่านมาเราก็อยู่ด้วยกันดีไม่ใช่เหรอ”“ร
“เธอคือไอยาสินะ” หญิงอายุประมาณหกสิบกว่าเอ่ยถามด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง“สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้ตามมารยาท“นั่งสิ”“ขอบคุณค่ะ” แล้วก็นั่งลงตามที่หญิงคนนี้ต้องการ“เธอรู้จักฉันไหม”“ทราบค่ะ”“ในเมื่อรู้จักฉัน ฉันเข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน”“ค่ะ”“ระหว่างเธอกับลูกชายของฉันเป็นอะไรกัน”“เป็นเพียงแค่คนรู้จักกันค่ะ”“แค่นั้นเหรอ”“ค่ะ”“ถ้าเป็นเพียงแค่นั้นจริง ๆ ทำไมลูกชายของฉันถึงไม่ยอมแต่งงานสักที”“ไม่ทราบค่ะ” มาถามฉันได้ไง ฉันจะรู้เหรอ“ถ้าเธอไม่ทราบแล้วใครจะทราบ”“คุณเอสค่ะ” ก็ต้องเจ้าตัวอยู่แล้วที่รู้ ไปถามลูกชายตัวเองซะก็จบ จะมาถามฉันทำไม ฉันไม่ได้มีอิทธิพลต่อเขาขนาดนั้น ไม่ได้สั่งห้ามให้เขาแต่งงานสักหน่อย“นี่ลูกชายของฉันหลงอะไรเธอกันนะ”“...”“หรือเธอทำของใส่เขาเหรอ”“นอกจากใต้หว่างขาหนูก็ไม่มีของอะไรค่ะ”“น่าเกลียด เธอนี่มันน่าเกลียดจริง ๆ”“หนูเพียงแค่พูดความจริงค่ะ และความจริงก็อาจจะไม่น่าฟัง”“พูดมาเลยว่าเธอต้องการเงินเท่าไหร่ถึงจะเลิกยุ่งกับลูกชายของฉัน”“ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นค่ะ”“ขอแค่เธอเลิกยุ่งกับลูกชายฉันก็ไม่มีอะไรลำบาก”“คำว่าไม่ต้องลำบากขนาดนั้นหนูหมายถึงคุณไม่จำเป็นต้องเสียเงิ
หลังจากเผด็จศึกเมื่อคืนผ่านไป ฉันเพิ่งรู้ว่าพี่บีมเป็นคนมีของเล่นที่ใหญ่มาก ก่อนหน้านี้ฉันไปอยู่ไหนมาทำไมไม่รีบเผด็จศึกเขาให้ไวกว่านี้ ถ้าหากฉันรู้ว่าจะมีของเล่นที่ใหญ่โตและลีลาท่าทางที่สุดแสนจะยั่วยวน ฉันไม่มีทางที่จะปล่อยให้เขาลอยไปลอยมาต่อหน้าฉันแบบนี้เด็ดขาดพูดไปแล้วก็รู้สึกเสียดาย รู้สึกหวงยังไงไม่รู้ที่ปล่อยให้ผู้หญิงคนอื่นได้ไปเชยชมโมโหตัวเองจังก่อนหน้านี้คิดว่าจะหย่า ทว่าเขาบอกเองว่าที่ไม่หย่าก็เพราะฉัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรเมื่อคืนนี้เขาบอกแล้วว่าเขาเป็นคนของฉัน ฉะนั้นเขาก็คือของฉัน ไม่ว่าจะรักฉันหรืออยู่ด้วยความจำเป็นอะไรก็ตาม เมื่อฉันได้กินและติดใจแล้วฉันไม่มีทางจะปล่อยเขาไปสามีที่หล่อขนาดนี้ฉันปล่อยผ่านไปได้ยังไงนานแบบนี้“ถ้าจะจ้องพี่ขนาดนี้ ไม่กินพี่เข้าไปเลยล่ะ” พี่บีมลืมตาขึ้นมาสบตากับฉัน“ตื่นนานแล้วเหรอคะ”“ตื่นก่อนหนูครับ”“หนู?”“ก็หนูเอลลี่ไง เรียกแบบนี้น่ารักดีให้พี่เรียกได้ไหม”“มีอะไรที่ไม่ได้กัน ในเมื่อพี่บอกว่าลี่เป็นของพี่ พี่เป็นของลี่”“แน่นอนอยู่แล้วพี่เป็นของลี่ครับ”“เป็นของลี่คนเดียวหรือเปล่า”“อยากถามอะไร” ใบหน้าหล่อยกยิ้มที่มุมปาก สีหน้าเจ้าเล่ห
“เป็นอะไรทำไมวันนี้ถึงกลับบ้าน” ในตอนสี่ทุ่มกว่าสามีในนามเดินเข้ามาในบ้าน พร้อมกับน้ำเสียงเอ่ยทักที่ไม่น่าฟัง “แล้วนี่นึกอะไรนั่งดื่มอยู่คนเดียวแบบนี้ อกหักจากใครมาอีก หรือโดนใครหักอกมาครับ”เหอะ ดูปากเขาสิ พูดออกมาก็เหน็บฉันเลยฉันที่เตรียมตัวเตรียมใจมาว่าคืนนี้จะต้องขยับความสัมพันธ์กับเขาให้ได้ก็เลยได้โอกาสเอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างซะเลย“ถ้าใช่แล้วพี่ช่วยอะไรลี่ได้” สวมบทคนเมาพร้อมกับสีหน้าน่าสงสารมองหน้าสามีในนามและทำหน้าเศร้ามากกว่าเดิม“ถึงขั้นไหนแล้ว”“อะไรขั้นไหนคะ” พูดพลางทำเสียงสะอื้นไปด้วย“ระหว่างลี่กับผู้ชายคนนั้นไง ถึงขั้นไหนแล้ว ลึกซึ้งกับเขาหรือยัง”“...”“ที่ไม่ตอบคืออะไร อายหรือยังไง”“...” คิดไม่ออกต่างหากว่าจะหยิบยกใครขึ้นมาอ้างดี“หรือว่าชอบเขามาก”“ก็ต้องชอบสิ”“ใคร” ทั้งที่เขาเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง ไม่ได้ตะคอกตะโกนไม่ได้ใส่อารมณ์ ทว่าฉันรู้สึก หวั่นใจแปลก ๆแค่คำถามว่าใคร ทำไมฉันถึงต้องรู้สึกกลัวล่ะ ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย อย่าอ่อนสิเอลลี่“พี่ถามว่าไอ้คนนั้นมันเป็นใคร” พี่บีมย้ำอีกครั้งเมื่อฉันยังเงียบ“ช่างเถอะอย่าพูดถึงเลยค่ะ ลี่ผิดเองที่ชอบเขา ลี่ผิดเองที่คิด
ครืด ครืด ครืดนั่งหมดอาลัยตายอยาก มองเพื่อนกินข้าวไปพลาง ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือฉันก็ดังขึ้น เบอร์ที่โชว์หน้าจอคือเบอร์ของป๊า“ค่ะป๊า”(วันนี้หนูเข้าบริษัทเหรอเอลลี่)“ใช่ค่ะมีเรื่องพูดกับพี่บีมก็เลยแวะเข้าไปหาเขาค่ะ”(แล้วไม่เห็นจะแวะเข้ามาหาป๊าบ้างเลย ห้องทำงานของป๊าก็ไม่ได้ไกลกันนะ)“ขอโทษค่ะป๊า”(ป๊าไม่ได้โกรธ ป๊าก็แค่น้อยใจที่ลูกสาวป๊าไม่แวะมาหาป๊าเลย)“ป๊าอ่า ไม่น้อยใจนะคะ ไม่ว่ายังไงป๊าก็คือคนที่เอลลี่รักที่สุดค่ะ”(แล้วหนูมีปัญหาอะไรหรือเปล่า บอกป๊าได้เลยนะหรือว่าอยากได้อะไรไหม)“ขอป๊าได้จริงเหรอคะ”(ขอได้ในเรื่องที่หนูรู้ว่าป๊าต้องให้หนูได้แน่ ๆ)“...” เห็นไหมอะ ป๊ารู้ว่าฉันจะพูดเรื่องอะไร“ป๊าคะ”(ป๊าอยากให้เอลลี่ลองเปิดใจกว้าง ๆ ให้บีมนะลูก บีมเป็นคนดี ป๊าเชื่อว่าป๊ามองคนไม่ผิด)“ค่า ป๊าไม่ต้องห่วงนะ หนูกับพี่บีมเราอยู่ด้วยกันอย่างดีค่ะ”(ถ้าเป็นอย่างที่หนูพูดป๊าก็จะดีใจมาก ๆ)“ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ป๊าสบายใจได้ค่ะ”(ถ้าอย่างนั้นป๊าขออะไรหนูสักอย่างได้ไหมลูกสาวสุดที่รักของป๊า)“พูดมาได้เลยค่ะ ลูกสาวคนนี้ให้ป๊าได้อยู่แล้ว”(ป๊าอยากอุ้มหลานจังเลย เอลลี่ทำให้ป๊าได้ไหมลูก)“ป๊







