หลังจากที่กวินตัดสายไป เสียงแจ้งเตือนข้อความก็ดังขึ้นมาแทน
‘เพื่อนหนูเจอพี่วินหน้าโรงหนัง’
‘พี่วินมาดูหนังกับใครคะ?’
ซึ่งเป็นข้อความจากน้องดรีมกิ๊กคนล่าสุดของกวินที่ส่งมาถาม สงสัยจะรู้เรื่องนี้จากผู้หญิงที่เดินเข้ามาทักเขาอย่างแน่นอน
‘ถ้าพี่วินไม่ตอบหนูจะเข้าไปหาข้างในนะ’
ซวยแล้วไหม! กวินได้แต่คิดในใจ หลังจากที่อ่านข้อความจบเขาก็รีบเก็บโทรศัพท์เอาไว้ที่เดิมทันที
“หนังยังไม่จบเลย พี่วินจะพาหนูไปไหนคะ” พิพลอยถามขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อกวินจับมือเธอให้ลุกขึ้นแล้วเดินตามเขาออกไป
“พี่จะพาหนูไปทำอะไรที่ดีกว่านี้ครับ” กวินพาพิพลอยเดินออกไปยังทางด้านหลังของโรงหนัง เพื่อที่จะไม่ให้ใครเจอ
ถึงในหัวพิพลอยจะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่เธอก็เดินตามชายหนุ่มไปอยู่ดี
กวินขับรถมาจอดยังตึกสูงที่เป็นร้านอาหารชื่อดังและเป็นรูฟท็อประดับห้าดาว ชมบรรยากาศรอบเมืองยามค่ำคืน
เนื่องจากกวินเป็นลูกค้าวีไอพีพาสาวๆ มาทานอาหารไม่ซ้ำหน้า จึงไม่ใช่เรื่องยากในการหาโต๊ะนั่ง กวินดูแลเอาใจใส่พิพลอยเป็นอย่างดี ตลอดทั้งการทานอาหารด้วยกัน
ใช้เวลาทานอาหารด้วยกันอยู่นานหลายชั่วโมงกว่ากวินจะมาส่งพิพลอยที่คอนโด
“ขอบคุณนะคะ” พิพลอยขอบคุณชายหนุ่มจากใจ วันนี้เธอมีความสุขมากที่ได้ใช้เวลาอยู่กับผู้ชายที่เธอรัก
“ด้วยความยินดีครับ พี่กลับก่อนนะ” กวินยิ้มให้หญิงสาวตรงหน้า เมื่อเธอเปิดประตูและเดินเข้าไปภายในห้อง
“ขับรถดีๆ นะคะ” พิพลอย
“ครับ” กวินปิดประตูห้องให้หญิงสาว ก่อนจะเดินลงมาด้านล่างคอนโดอย่างอารมณ์ดี
รถยนต์คันหรูขับออกจากคอนโดของพิพลอยด้วยความเร็ว เนื่องจากเขามีนัดกับโดนัทรุ่นน้องต่างคณะที่พึ่งจะเจอกันตอนเช้า
ถึงแม้จะมีแฟนแล้วแต่เสืออย่างกวินก็ไม่เคยทิ้งลาย ที่เขาคบกับพิพลอยก็เพราะได้ท้าทายกับเพื่อนเอาไว้ และเขาคิดว่าจะเก็บเธอเอาไว้เหมือนขนมที่เขาคิดอยากจะกินตอนไหนก็ได้
พิพลอยเปรียบเสมือนลูกไก่ในกำมือที่ดูใสซื่อและไร้เดียงสากว่าผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยเจอมา ตอนแรกเขาคิดว่าไอริน (เพื่อนในกลุ่ม) ใสซื่อที่สุดแล้ว แต่พอได้มาเจอพิพลอยเธอดูใสซื่อกว่าไอรินเสียอีก แถมเธอยังดูหลงและรักเขามากอีกด้วย แบบนี้ยิ่งง่ายสำหรับเสือร้ายอย่างเขา
ทางด้านพิพลอยที่กลับมาถึงห้องก็รีบส่งไลน์รายงานเพื่อนในกลุ่มทันที
PIPLOY : ฉันถึงห้องแล้วนะ
Lada_ : เป็นยังไงบ้าง
PIPLOY : ก็ปกติดีนะ พี่วินไม่ได้ทำอะไรฉันเลย
Lada_ : จริงเหรอ
PIPLOY : จริงสิ ฉันบอกแล้วว่าพี่วินเป็นสุภาพบุรุษ
Lada_ : ไม่อยากจะเชื่อเลย
PIPLOY : ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ พี่วินเป็นคนดี
Lada_ : จ้า วันนี้ดีแต่วันหน้าใครจะไปรู้ ระวังตัวให้ดีก็แล้วกัน
PIPLOY : แกก็คิดมาก ฉันไปอาบน้ำก่อนนะง่วงแล้ว
Lada_ : ฉันเตือนด้วยความหวังดี ไม่อยากเห็นเพื่อนต้องมานั่งเสียใจเสียน้ำตาทีหลัง
PIPLOY : โอเค
พิพลอยนั่งส่ายหน้ารัวๆ ให้กับลดาที่ดูไม่เชื่อใจกวินเลยสักนิด ก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำและทำธุระส่วนตัว
..
วันต่อมา
พิพลอยนั่งทำงานกลุ่มกับเพื่อนๆ ในห้องสมุดของมหาวิทยาลัย ใบหน้าสวยเอาแต่ยิ้มกริ่มอย่างอารมณ์ดีหลังจากที่คุยไลน์กับแฟนหนุ่มเสร็จ
“คุยกับใครเหรอ?” ควีนเพื่อนสาวสุดแซ่บถามขึ้นเมื่อเห็นพิพลอยเพื่อนรักนั่งยิ้มให้กับโทรศัพท์
“คนมีแฟนก็ต้องคุยกับแฟนสิควีน ถามอะไรแปลกๆ” โซมิตอบออกมาอย่างรู้ใจ
“แล้วคุยอะไรกันเหรอ ทำไมถึงได้ยิ้มมีความสุขขนาดนั้น” ควีนยังคงถามต่อด้วยความอยากรู้
“คือตอนเที่ยงพี่วินจะมารับไปทานข้าวน่ะ” พิพลอยก้มหน้าก้มตาตอบด้วยท่าทางเขิน
“ฉันมีอะไรจะให้แกดู” ลดาที่พึ่งจะมาถึงก็พูดขึ้นมาด้วยท่าทางเคร่งเครียด
“อะไรเหรอ?”
ทุกคนต่างพร้อมใจกันถามด้วยความสงสัย ก่อนที่ลดาจะยื่นโทรศัพท์ให้เพื่อนๆ ดู
“ฉันบอกแล้วว่าอย่าไว้ใจอิพี่วิน” ลดายังคงพูดเพื่อให้พิพลอยได้ตาสว่างสักที
“หูย… ภาพนี้ก็แรงเกิน” ตามด้วยเสียงของโซมิที่เลื่อนดูภาพไปเรื่อยๆ
พิพลอยถึงกับนั่งนิ่งหัวใจดวงน้อยกระตุกสั่นด้วยความตกใจที่เห็นภาพของกวินกำลังโอบกอดผู้หญิงคนอื่นขึ้นคอนโด เพราะแบบนี้สินะเมื่อคืนเขาถึงได้รีบกลับ
“ถ้าเป็นฉัน ฉันจะโทรไปถามให้รู้เรื่องกันไปเลย” ลดาพูดขึ้นเพื่อเรียกสติของพิพลอยที่กำลังหลุดลอยไปไกล
“เดี๋ยวฉันจะถามตอนที่พี่วินมารับ” พิพลอยบอกเสียงสั่นและรู้สึกเจ็บที่ใจ
“ยังไงก็อย่าลืมถามแล้วกัน เรื่องนี้เรื่องใหญ่เลยนะ” โซมิแนะนำอีกเสียง
“แกเป็นแฟน ยังไงก็มีสิทธิ์ถามอยู่แล้ว” ตามด้วยควีนที่เป็นห่วงความรู้สึกของพิพลอย แต่ยังไงเรื่องนี้ก็ต้องเคลียร์ ต้องถามกันให้รู้เรื่อง
“นั่นไงมานู้นแล้ว”
..
ฝากคอมเมนท์เป็นกำลังใจให้พิพลอยด้วยนะคะ
หนึ่งเดือนต่อมากวินเริ่มอาการดีขึ้นทุกวัน แผลที่เคยเจ็บก็เริ่มหายเหลือเพียงรอยแผลเป็นที่ยังคงอยู่วันนี้เป็นวันที่พิพลอยจะเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศตอนแรกกวินตั้งใจที่จะไปพร้อมเธอ แต่เอกสารบางอย่างของเขายังไม่เรียบร้อย การเดินทางของเขาจึงต้องเลื่อนออกไปชายหนุ่มกับครอบครัวมายืนรอพิพลอยที่สนามบินเพื่อรอเวลาที่เธอและครอบครัวจะมาถึง ทุกคนตั้งใจที่จะมาส่งเธอในการเดินทางครั้งนี้“นั่นไง หนูพลอยมานู้นแล้ว” คุณแม่ของกวินทักขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวและครอบครัวกำลังเดินมากวินตั้งใจที่จะใช้โอกาสนี้ขอโทษและขอขมาครอบครัวของพิพลอยที่เขาเคยทำไม่ดีและคำเธอเสียใจมาก่อนทันทีที่ครอบครัวของพิพลอยเดินเข้ามา ร่างสูงก็นั่งคุกเข่าลงกลางสนามบินที่มีผู้คนมากมายต่างจ้องมองมาที่พวกเขามือหนาพนมมือขึ้นไหว้ก่อนจะก้มลงกราบขอโทษคุณพ่อกับคุณแม่ของหญิงสาวที่เขาเคยทำไม่ดีกับเธอจนทำให้ครอบครัวของเธอไม่ชอบเขา“ผมขอโทษสำหรับทุกอย่างนะครับ” กวินพูดเข้าเรื่องทันที“ผมขอโทษที่เคยทำให้พิพลอยต้องเสียใจและตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่าผมรักพิพลอยมาก ผมอยากจะขอโอกาสดูแลพิพลอยครับ” มือหนายังคงไหว้เพื่อขอโอกาสจากครอบครัวของพิพลอย“มั่นใจ
สามวันต่อมาพิพลอยมาอยู่ดูแลกวินทุกวันถึงแม้ว่าจะมีพยาบาลพิเศษที่จ้างมาดูแลอยู่แล้วก็ตาม เธอก็ยังอยากจะดูแลเขาให้ดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ถึงแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมาถึงสองวันแล้ว แต่กวินก็ยังคงนอนนิ่งและไม่มีท่าทีว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาเลยสักนิดพิพลอยทำได้เพียงไหว้พระขอพรและภาวนาขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้กวินฟื้นขึ้นมา โชคดีที่คุณพ่อกับคุณแม่อนุญาตให้เธออยู่ดูแลชายหนุ่มจนกว่าเขาจะฟื้นและอาการดีขึ้น โดยมีข้อแม้ว่าถ้าหากเขาฟื้นขึ้นมาเธอจะต้องไปเรียนต่อต่างประเทศทันทีหญิงสาวจับมือชายหนุ่มมากุมเอาไว้อย่างอ่อนโยน ความรักและความเป็นห่วงที่เธอมีให้เขามันมากมายอย่างที่เธอไม่เคยมอบให้ใครมาก่อนแววตาที่เต็มไปด้วยความเศร้ามองชายหนุ่มที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง แต่เธอก็ยังมีความหวังว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาอาการของกวินตอนนี้ยังคงทรงตัวไม่ได้มีอาการอะไรแทรกซ้อน ร่างกายไม่ได้แย่ลงแต่ก็ยังไม่ดีขึ้นทางคุณหมอก็ยังให้คำตอบไม่ได้เลยว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาตอนไหน บางอย่างอาจจะต้องใช้เวลาและปาฏิหาริย์เข้าช่วย“ขอบใจหนูพลอยมากนะที่มาดูแลตาวินทุกวันเลย” คุณแม่ของกวินรักและเอ็นดูพิพลอยตั้งแค่ครั้งแรกที่เจอเธอ“ไม่เป็นไรค่ะ หนูเต
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนที่พิพลอยนอนอยู่บนเตียงกว้าง เพราะก่อนที่เพชรจะออกไปเขาได้อุ้มน้องสาวไปส่งที่ห้องนอนของเธอก่อนแล้วคุณแม่คอยดูแลพิพลอยอยู่ไม่ห่างด้วยความเป็นห่วงที่อยู่ๆ ลูกสาวก็เป็นลมไปแบบนี้ ทั้งที่เธอก็แข็งแรงและไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนผ่านไปสักพักมือบางก็ค่อยๆ ขยับและลืมตาตื่นขึ้นมามองเห็นคุณแม่นั่งอยู่ไม่ไกลพร้อมรอยยิ้มที่กำลังมองมาที่เธอ“หนูฟื้นแล้วเหรอลูก” คุณแม่ถามด้วยความเป็นห่วงปนดีใจที่ลูกสาวฟื้นขึ้นมาสักทีพิพลอยนั่งนิ่งและตั้งสติอยู่สักพัก ในหัวกำลังประมวลภาพเหตุการณ์และเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าร่างบางไม่ตอบคุณแม่แต่อย่างใด ใบหน้าสวยแสดงออกถึงท่าทางตกใจ เธอรีบลุกขึ้นยืนและตั้งท่าจะเดินออกจากห้องไปทันที โชคดีที่คุณแม่คว้ามือลูกสาวเอาไว้ทัน“หนูจะไปไหน” คุณแม่ถามด้วยความสงสัยทันทีที่เห็นท่าทางของลูกสาว“หนูจะออกไปช่วยพี่วินค่ะ” พิพลอยตอบไปตามตรงและตอนนี้เธอก็เป็นห่วงเขามาก เธอไม่รู้เลยว่าเธอเป็นลมไปนานแค่ไหนและตอนนี้ชายหนุ่มจะเป็นยังไงบ้าง“คุณพ่อกับตาเพชรออกไปจัดการให้แล้ว หนูรอฟังข่าวอยู่ที่บ้านกับแม่นะ” คุณแม่จับมือลูกสาวเอาไว้แน่น“หนูขอออกไปได้ไหม
หลายวันต่อมาถึงกวินสัญญาว่าจะตามพิพลอยไป แต่เธอก็ยังคงเศร้าเพราะคุณพ่อกับคุณแม่ยืนยันว่าจะให้เธอเดินทางในเร็วๆ นี้เรื่องราวทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนเธอไม่ทันตั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเอกสารต่างๆ ก็ดูเตรียมพร้อมไปหมดทุกอย่าง แต่มีอย่างเดียวที่ไม่พร้อมก็คือตัวเธอเองพิพลอยมักจะถือโทรศัพท์ติดตัวตลอดและมักจะค้างสายของกวินเอาไว้ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือพูดคุยกับใครกวินก็ได้ยินและรู้เรื่องไปกับเธอด้วย“ผมจัดการเรื่องที่เรียนให้เรียบร้อยแล้วนะครับ”หลังจากที่ทานอาหารเย็นด้วยกันเสร็จเพชรก็พูดเข้าประเด็นที่กำลังสำคัญที่สุดในตอนนี้กวินที่อยู่ในสายพอได้ยินก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทันที ตอนนี้เขาอยากจะรู้จริงๆ ว่าครอบครัวของพิพลอยกำลังคิดจะทำอะไรอยู่ แต่เขาก็ไม่อาจทนนิ่งเฉยได้อีกต่อไป เวลานี้เขาคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วพิพลอยนั่งนิ่บมองหน้าพี่ชายด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยถูกบังคับหรือกดดันเท่านี้มาก่อนทั้งๆ ที่ทุกคนก็รู้ว่าเธอไม่อยากไป แต่ทำไมทุกคนถึงไม่ฟังความต้องการและความรู้สึกของเธอเลยสักนิด ทำไมทุกคนถึงอยากให้เธอไปอยู่ไกลขนาดนี้“หนูขอตัวก่อนนะคะ”พิพลอยไม่อยากรับรู้
หนึ่งเดือนต่อมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพิพลอยยังคงเรียนอยู่ที่บ้านเหมือนเดิมไม่ได้ออกไปไหน และโทรคุยกับกวินแทบจะตลอดเวลาความสัมพันธ์ของพิพลอยกับกวินก็เริ่มพัฒนาในทางที่ดีขึ้นอีกครั้ง ดีจนพิพลอยอยากจะกลับไปใช้ชีวิตที่คอนโดเหมือนเดิมแต่เธอก็ยังไม่กล้าพอที่จะขอคุณพ่อกับคุณแม่ตั้งแต่ที่เธอสัญญาว่าจะขอไปเป็นกำลังใจที่ศาลวันนั้น เธอก็ไม่กล้าที่จะขออะไรอีกเลย ส่วนทางด้านกวินก็เข้าใจพิพลอยมากขึ้น ไม่บังคับและไม่เอาแต่ใจตัวเองเหมือนเมื่อก่อนกวินเฝ้ารอและอดทนเจอพิพลอยแค่สัปดาห์ละครั้งในตอนที่เธอออกไปร้านนวดกับคุณแม่ และเธอก็แอบออกมาเจอเขาทุกครั้งทว่าอาทิตย์นี้คุณแม่ของพิพลอยติดธุระกับญาติๆ เธอก็เลยไม่ได้ออกจากบ้านและไม่ได้ไปหากวินเหมือนทุกครั้งแค่เจอกันอาทิตย์ละครั้งก็นานพอแล้ว แต่อาทิตย์กลับไม่ได้เจอ ทำเอากวินคิดถึงพิพลอยจนแทบบ้า ชีวิตเขาเปลี่ยนไปเป็นอย่างมากตั้งแต่รู้ใจตัวเองว่ารักพิพลอยจริงๆยิ่งตอนที่เขาสู้คดีก็ยิ่งทำให้เขารู้และมั่นใจว่าพิพลอยนั้นรักเขามากแค่ไหน“วันนี้มึงมีนัดกับพิพลอยไม่ใช่เหรอวะ” ไทเกอร์ถามขึ้นมาเพราะจำได้ว่าวันนี้กวินต้องไปหาพิพลอย“นั่นดิวะ แล้วมึงมานั่งเศร้าทำไม”
ช่วงค่ำของวันพิพลอยนั่งเขี่ยอาหารในจานของตัวเองไปมา ตอนนี้ในหัวของเธอมีคำถามมากมายเต็มไปหมด วันนี้ทั้งกวินก็ไม่โทรมาหาเธอและตอนนี้พี่ชายของเธอก็กำลังทานอาหารและคุยเรื่องงานกับคุณพ่อโดยไม่มีท่าทีว่าการสนทนาในครั้งนี้จะจบลงง่ายๆใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงกว่าพี่ชายของเธอจะเดินขึ้นห้องทำงาน พิพลอยใช้โอกาสนี้เดินตามพี่ชายไปทันที“พี่เพชร”“มีอะไรหรือเปล่า” ชายหนุ่มถามน้ำเสียงนิ่งเรียบ สายตายังคงจ้องมองเอกสารที่อยู่ตรงหน้า“เรื่องคดีเป็นยังไงบ้างคะ” หญิงสาวไม่รีรอรีบถามเข้าเรื่องที่อยากรู้ทันที“พี่เข้าไปดูให้แล้ว”“แล้วพี่วินมีโอกาสรอดกี่เปอร์เซ็นต์คะ” คำถามเดียวที่พิพลอยอยากจะรู้ในตอนนี้“เก้าสิบเปอร์เซ็นต์”คำตอบของเพชรทำเอาหญิงสาวยิ้มกว้างพร้อมกับวิ่งเข้าไปกอดพี่ชายเอาไว้แน่นด้วยความดีใจ“ถ้าพยานไม่กลับคำให้การในชั้นศาลนะ”ทว่าประโยคต่อมาทำให้พิพลอยถึงกับหุบยิ้มทันที“หมายความว่ายังไงคะ” ใบหน้าสวยขมวดคิ้วถามพี่ชายด้วยความสงสัย“ถ้าไม่มีใครไปข่มขู่หรือทำอะไรพยายาน แล้วเล่าตามที่เล่าวันนี้ หมอนั่นรอดแน่นอน” เพชรอธิบายให้น้องสาวฟัง“พี่ช่วยให้คนของเราไปดูแลความปลอดภัยให้พยานได้ไหมคะ” พิพลอ